“ฮะ? เป็นเพื่อนโบเนี่ยนะคะ”
‘ใช่จ้ะ พี่ยังคิดอยู่เลยว่าโบอยู่คนเดียวพี่เป็นห่วง’
บราลีมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพื่อนอย่างนายชนนคนปากสุนัขเธอไม่เห็นอยากได้สักนิด
“ที่นี่คอนโดนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
‘ไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยพี่ก็จะได้รู้อะไรบ้าง ไม่ใช่โบปิดเงียบแบบนี้ เผื่อไม่สบาย ป่วยไข้ขึ้นมา’
“อ๋อ หมอนั่นมีหน้าที่มาคอยจับตาดูโบ”
เธอบ่นอุบอิบแล้วได้ยินเสียงวิมาดาหัวเราะกลับมา
‘เอาล่ะ ยังไงพี่จะย้ำกับนนอีกที ว่าฝากดูแลโบให้ด้วย’
“ไม่ล่ะค่ะ โบดูแลตัวเองดีกว่า”
วิมาดาเพียงหัวเราะเบาๆ
‘อย่าเพิ่งดื้อเลย พักผ่อนให้เยอะๆ เดี๋ยวพี่จะโทรคุยกับเปิ้ล ว่าเรื่องคิวจะปรับยังไง แล้วจะโทรไปบอกให้แพรวจัดการเรื่องคิวให้โบ’
อีกฝ่ายพูดเป็นงานเป็นการก่อนจะวางสายไป บราลีไม่อยากให้ผู้จัดการของตนที่เพิ่งรู้ว่าตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่าคิดมาก จึงยอมเงียบราวเชื่อฟัง ทั้งที่ไม่ค่อยชอบนักที่ชนนมาอยู่ร่วมคอนโดกับตน
เธอเป็นผู้หญิง เขาเป็นผู้ชาย แล้วเธอก็เป็นคนที่หลายคนรู้จัก ใครรู้เข้าจะคิดอย่างไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงเคาะปะตูดังขึ้น บราลีนั่งเฉย ไม่คิดจะเปิดประตู ทว่าคนข้างนอกเคาะเรื่อยๆ ไม่หยุด แม้ไม่ถี่รัวหากเป็นจังหวะชวนหลอนเหมือนถูกตามรังควาน สุดท้ายร่างโปร่งอรชรก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูอย่างแรง
“จะเคาะไปถึงไหนไม่ทราบ คนไม่เปิดก็รู้แล้วว่าไม่อยากเห็นหน้า”
“ทำไม กลัวเห็นหน้าเราแล้วมีอารมณ์เหรอ”
เจ้าของร่างสูงกำยำที่ใส่เสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงยีนสีซีดยกศอกเท้าขอบประตูพลางมืออีกข้างล้วงกระเป๋า ใบหน้าคมเข้มมีไรหนวดเคราจางๆ ทั้งยังยักคิ้วมองเธอด้วยแววตากวนๆ
บราลีชักสีหน้าใส่อีกฝ่าย มองเขาด้วยแววตาขุ่น หากความเป็นจริงพยายามปิดบังว่าหน้าตนร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่เพิ่งเห็นเขาเปลือยโชว์สรีระบุรุษเพศอันน่าตื่นตะลึง หญิงสาวกอดอกฉับเชิดหน้าก่อนพูดเสียงแข็ง
“เชอะ หุ่นขี้ก้าง แถมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ของนาย ฉันไม่ทันเห็นด้วยซ้ำ”
“เล็กน้อย?”
เหมือนเธอจะเห็นโหนกแก้มอีกฝ่ายมีเฉดสีแดงจางๆ ทว่าเขาจ้องเธอนิ่งก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาจนบราลีต้องถอยหลัง
“ไม่เห็นแล้วบอกว่าเล็กได้ยังไง พูดผิดพูดใหม่ได้นะ หรือว่าอยากดูใหม่เต็มๆ อีกที”
“ห้ามเข้ามาในห้องฉัน คนหน้าด้าน”
มือบางผลักอีกฝ่ายให้ถอยออกไป และชนนก็ถอยไปยืนกอดอกพิงประตู ยอมเว้นระยะห่าง
“เอ้า คนเรามีดีก็ต้องโชว์สิ เธอดูถูกเราก่อน ของแบบนี้ใครจะยอมเสียศักดิ์ศรี กล้าพูดก็ต้องกล้าพิสูจน์สิ”
“ไม่อายหรือไงคนบ้า เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”
บราลีเปลี่ยนเรื่องให้พ้นเรื่องที่พาให้ตนกระอักกระอ่วน แววตาคมเข้มพราวระยับอย่างนั้น จงใจแกล้งให้เธออายชัดๆ
“จะมาถามว่าอยากกินอะไร พี่วิให้เราจัดการให้เธอ แล้วก็...”
มือหนายื่นขึ้นมากะทันหัน บราลีไม่ทันคิดอะไรจึงหลบไม่ทัน อีกฝ่ายวางมือทาบบนหน้าผากเธอ ทำให้หญิงสาวนิ่งงัน ดวงตาคู่คมเข้มจ้องมองมายังเธอ ทั้งสองสบตากันชั่วอึดใจชายหนุ่มก็พูดขึ้น
“ให้เช็กดูด้วยว่ามีไข้ไหม อืม...ตัวรุมๆ มียาลดไข้หรือเปล่า”
ใบหน้าสวยเอนออกห่างเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ก่อนจะบอก
“หมอบอกว่าอาจจะมีไข้นิดหน่อย กินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบอาการก็ดีขึ้น”
ชนนพยักหน้ารับ ทว่ากลับจับแขนของเธอขึ้นดูอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย...”
“แขนเธอเหมือนจะบวมนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ จับมาได้ เจ็บนะ”
“โทษที แต่ไม่เป็นอะไรมากแน่นะ แผลลึกไหม”
“อือ ไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มยอมปล่อยแขนเรียวโดยง่ายแต่ไม่ลืมถามย้ำ
“ตกลงจะกินอะไร”
“ข้าวต้มกุ้ง”
ใบหน้าคมเข้มพยักรับ ทว่ากลับยังไม่ขยับ สายตาคู่คมเข้มมองหน้าเธอแล้วลดต่ำลง ก่อนจะเลื่อนกลับขึ้นมาและกระแอมเล็กน้อย
“ไม่เจอกันหลายปี อะไรๆ โตขึ้นนะเธอ”
เอ่ยแล้วก็หมุนตัวก้าวยาวๆ เดินไปทันที
บราลีขมวดคิ้วพลางคิดตาม ลดสายตาลงแล้วก็เห็นหน้าอกตนที่โนบรานูนขึ้นดันชุดนอนเนื้อผ้าซาตินเด่นชัด ทั้งที่ใส่ชุดแขนยาวขายาวสีน้ำเงินเข้มก็ยังเห็นชัดเจน ทำเอาหน้าร้อนวาบ แล้วก็ต้องรีบกอดตัวเอง ดวงคู่สวยมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความโมโห
เพราะหงุดหงิดที่ตื่นมาเจอร่างสูงกำยำพร้อมภาพชวนตื่นตะลึง ทั้งยังคุยกับวิมาดาอยู่นาน เมื่อชนนมาเคาะประตูเธอก็รำคาญจนลืมไปเลยว่าตัวเองอยู่ในชุดนอนสบายตัวตามประสาผู้หญิงที่อยู่คนเดียว
“ไอ้...คนลามก!”
หญิงสาวได้แต่โวยวายเพียงลำพัง เพราะอีกฝ่ายปิดประตูออกไปข้างนอกแล้ว
ความอับอายแล่นริ้วขึ้นมาตามใบหน้าทำเอาร้อนซ่านไปหมด หากก็ทำได้เพียงกลับมานั่งบนเตียงของตนเอง ริมฝีปากอิ่มเม้ม อารมณ์กรุ่นโกรธพุ่งสูง
บราลีไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ร่วมห้องกับคู่กัดในวัยเรียนของตนอย่างชนนได้อย่างสงบสุข เพียงไม่ถึงชั่วโมงที่เจอหน้าเขาก็ทำให้เธออาจนอนฝันร้ายและอับอายสุดๆ แล้ว
“ให้ตายสิ อยู่ดีๆ ก็โผล่มา แถมยังปากเหมือนกินหมาไปทั้งฝูงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย”
=====
เจอกันซึ่งหน้า ลับฝีปากกันไปพอหอมปากหอมคอ แต่พระเอกทำเอานางเอกของเราต้องได้อายอีกแล้ว ^^"
ฝากกดติดตาม กดหัวใจ และคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ^^
สองหนุ่มสาวนั่งกอดอกเอนกายพิงพนักเก้าอี้อยู่คนละฝั่งของโต๊ะทานอาหาร มองกันและกันอย่างหยั่งเชิง หลังจากที่ชนนซื้อข้าวต้มกลับมา บราลีก็ล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดเรียบร้อย มานั่งทานอาหารของตัวเอง ส่วนชายหนุ่มเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์แล้วเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่เธอมีเรื่องต้องตกลงกับเขา“สิบห้านาที มีอะไรพูดมาให้ครบเลยคุณดารา”“นายจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”“ยังไม่รู้ แต่สะดวกดีก็คงอยู่ไปเรื่อยๆ”“ไม่ได้”หญิงสาวเสียงแข็ง“นี่คอนโดพี่วิ พี่สาวแท้ๆ ของนายนนคนนี้นะเธอ เรื่องอะไรมาห้ามน้องชายที่คลานตามกันมาไม่ให้อยู่คอนโดพี่สาว”บราลีเม้มริมฝีปาก ขุ่นใจคนกวนโมโห“ฉันก็อยู่กับพี่วิมาห้าปีแล้ว แล้วพี่วิก็รักฉันเหมือนน้องสาวแท้ๆ”“จะบอกว่าเธอก็เหมือนน้องสาวเราเหรอ”อีกฝ่ายทำสีหน้ารับไม่ได้พลางยักไหล่ ทว่าหญิงสาวสวนขึ้น“บ้า ใครอยากเป็นน้องสาวนาย”“ก็ดีนะ คิดเหมือนกันเลย”ชนนตอบกลับสั้นๆ ทว่าแววตาคมเข้มนั้นพราวระยับไม่น่าไว้ใจในความรู้สึกของคนเห็น“นายก็รู้ว่าฉันเป็นใคร นายอยู่ที่นี่นานถ้ามีคนรู้เข้า ได้มีข่าวเสียหายออกไปแน่”“ก็แค่บอกไปตรงๆ ว่าเราเป็นน้องพี่วิ ใครมันจะจับผิดก็ช่างมันสิ”“นายก
“โอเคจ้ะ ขอบใจมากแพรว ยังไงฝากแจ้งพี่อีกทีนะจ๊ะ ว่ามีถ่ายอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัว”‘ค่ะ วันถ่ายพี่โบไปพร้อมกับน้องไอมี่ดีไหมคะ แพรวจะได้ให้รถไปรับ ไปด้วยกันพี่โบจะได้มีเพื่อน’“ไม่เป็นไร พี่ไปเองดีกว่า”เธอปฏิเสธสั้นๆ อีกฝ่ายจึงวางสายไปด้วยเสียงอ่อยๆ คงเข้าใจว่าบราลีโกรธเอมิกาที่ทำให้ตนต้องเจ็บตัว แต่สำหรับเธอเพียงอยากหลับไปในรถระหว่างเดินทางเงียบๆ ไม่มีคนอื่นมาชวนพูดคุยใกล้เที่ยงคืน บราลียังไม่หลับเพราะวันนี้นอนทั้งวัน แม้จะทานยาไปแล้ว หญิงสาวนอนอ่านบทไปเรื่อยๆ และรู้สึกหิวน้ำ แต่น้ำที่เอามาไว้ในห้องหมดแล้วจึงออกไปหยิบขวดใหม่ข้างนอกเธอรู้ว่าชนนกลับมาพักหนึ่งแล้วเพราะได้ยินเสียงประตู หากก็ไม่ได้สนใจนัก ร่างโปร่งอรชรตรงไปเปิดตู้เย็น อยากดื่มน้ำเย็น เนื่องจากวันนี้ดื่มเพียงน้ำอุณหภูมิห้องปกติ ได้น้ำที่ต้องการก็ปิดตู้เย็นลง จะหันกลับก็ต้องสะดุ้งเพราะเจอเข้ากับร่างสูงกำยำ ทว่าที่ทำเอาบราลีผงะถอยมายืนติดตู้เย็นก็เพราะบ่าหนากับแผงอกกว้างเปลือยเปล่าชนนใส่เพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว!ริมฝีปากอิ่มเผยอกำลังจะต่อว่าที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็เดินมาชิดตนโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ที่สำคัญยังแต่งตัวล่อแหลมต่อสาย
มีเวลาพักผ่อนสามวันก็ถึงวันที่ต้องออกกองอีกครั้ง แพรวานัดแนะเวลาให้คนขับรถมารับบราลีอย่างเรียบร้อย แม้เจ้าตัวจะถามย้ำว่าเธอจะเดินทางไปกับเอมิกาหรือไม่ แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเช่นเดิมตีสี่ครึ่งบราลีได้ยินเหมือนเสียงอาบน้ำจากห้องน้ำด้านนอก เพราะเธอตื่นอาบน้ำเตรียมตัวตั้งแต่ตีสี่ แม้แปลกใจว่าชนนจะรีบตื่นไปไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเธออยู่แล้วดูเหมือนชายหนุ่มเริ่มทำงานของเขาแล้ว เพราะเห็นนั่งประจำที่โต๊ะทานข้าว เขียนเมาส์ปากกาลงบนบอร์ดและมองจอโน้ตบุ๊กหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือคุยโทรศัพท์บางครั้งบราลีต้องเลี่ยงมาทานข้าวที่โซฟา แม้อีกฝ่ายจะเก็บของให้แต่เธอบอกว่าไม่เป็นไร สุดท้ายทั้งสองก็มักนั่งทานข้าวที่โซฟาใช้โต๊ะเตี้ยแทนใกล้ตีห้าบราลีก็ออกจากห้องของตนเพื่อลงไปรอลุงเกษมคนขับรถ แต่ก็เห็นร่างสูงกำยำลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาหาตนพลางเอ่ย“เอาอะไรไปเยอะแยะ กระเป๋าใหญ่เชียว”กระเป๋าที่บราลีถือเป็นทรงใหญ่ที่จุของได้เยอะ แม้จะไม่ได้พกอะไรมากมาย แต่หญิงสาวก็ใส่ของที่เผื่อตนต้องการไปจนครบ“กระเป๋าฉัน ฉันจะเอาอะไรไปก็ได้”“แขนเธอเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง”“เรื่องของฉัน ฉันถือได้ก็แล้วกัน”หญิงสาวนึกเคืองที่อีกฝ่ายจุ้น
วันนี้โลเคชันในการถ่ายทำอยู่แถวปริมณฑล ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก บราลีรู้ว่านับแต่ตนก้าวลงจากรถทุกสายตาต่างก็มองด้วยความสงสัยใคร่รู้เพราะมีผู้ชายร่างสูงกำยำเดินตามต้อยๆ ทว่าเหมือนปัทมากับแพรวาจะรู้อยู่แล้ว เพราะทั้งสองออกมารับหน้าเธอและเอ่ยทักทายกับชนนอย่างยินดี“สวัสดีค่ะ คุณนนใช่ไหมคะ”“สวัสดีครับ”แววตาของปัทมากับแพรวาลอบกวาดมองเจ้าของร่างสูงกำยำด้วยความสนใจ“นี่รู้กันทุกคนเลยใช่ไหม”บราลีมองออก ความหงุดหงิดทำให้เอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจ“พี่วิบอกเอาไว้น่ะค่ะ”แพรวาเป็นคนตอบและปัทมารีบเสริม“พี่วิบอกกับพี่ด้วย ให้พี่แจ้งคุณทามกับพี่ชายว่ามีผู้ช่วยคนใหม่ตามมาดูแลน้องโบแทนพี่วิ”“อ้อ รู้กันหมด ยกเว้นโบ”หญิงสาวเอ่ยประชดเบาๆ แล้วเดินต่อเข้าไปด้านใน ปัทมากับแพรวาสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มจืดเจื่อนให้ชนน แล้วก็รีบกุลีกุจอนำทางพานางร้ายคนสวยไปยังส่วนที่จัดไว้สำหรับแต่งหน้าทำผม“พี่โบเจ็บก็มีหนุ่มหล่อถือกระเป๋าเดินตาม เปิดตัวคนรู้ใจหรือเปล่าคะ”ช่างทำผม ทำผมพลางถามเธอด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น ความจริงบราลีเห็นมาสักพักนับแต่เธอเข้ามาในห้องนี้ และชนนถือกระเป๋ามาวางไว้ให้ก่อนจะเลี่ยงออกไป คิ
“คัต”“ขอซับหน้านักแสดงค่ะ”เสียงผู้กำกับสั่งตามด้วยเสียงของคอนทินิวไม่นานคิตตี้ก็ก้าวเร็วๆ เข้ามาซับหน้าที่มีเหงื่อซึมจนไหลลงข้างแก้มของบราลี เพราะถ่ายกันในบ้านไม้ อากาศช่วงบ่ายค่อนข้างร้อน“ขอน้ำค่ะ”นางร้ายสาวบอกสั้นๆ แม้จะเป็นฉากไม่หนักแต่เธอก็ต้องพูดบทยาวกับนักแสดงอีกคน“ขอน้ำให้พี่โบหน่อยค่า”คิตตี้ร้องบอกครู่หนึ่งร่างสูงกำยำก็ถือแก้วน้ำเก็บความเย็นส่วนตัวของบราลีเข้ามาส่งให้ หญิงสาวรับมาพลางขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่ม เพราะหลายคนต่างจ้องมายังตน แม้แต่นักแสดงชายที่เข้าฉากด้วย เธอจิบน้ำเล็กน้อยก็ส่งคืนโดยไม่เอ่ยคำใด ชนน เองก็กลับออกไปยืนยังมุมของตนเงียบๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน แต่ไม่รู้เพราะอะไรบราลีกลับรู้สึกว่าใจของเธอไม่นิ่งเอาเสียเลย แม้จะพยายามวางสีหน้าปกติทว่าหญิงสาวกลับหงุดหงิดในใจ‘ทำไมเธอต้องใส่ใจสายตาคนอื่น’บราลีบ่นตัวเอง ใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะรวบรวมสมาธิถ่ายฉากนั้นจนผ่านไปได้ระหว่างรอถ่ายอีกฉากหญิงสาวจึงแยกตัวออกมาสงบจิตใจตัวเอง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้จะค่อนข้างระมัดระวังในเรื่องการวางตัวกับนักแสดงชายเพราะไม่อยากให้มีข่าวเสียหายแต่ก็ไม่ได้กลัวจนเกินเหตุ ต่างจากครั้
บราลีไม่อยากคิดเลยว่าถ้ากระถางนั่นหล่นมาโดนเธอเข้าพอดีจะเป็นอย่างไร จำได้ว่าตอนถ่ายฉากตรงระเบียงยังคิดอยู่เลยว่า บ้านสวนหลังนี้จัดตกแต่งได้น่ารักดี มีกระถางต้นไม้เล็กๆ ห้อยและวางที่ระเบียงเป็นมุมน่านั่งอีกมุมของบ้าน“น้องโบไม่เป็นอะไรแน่นะคะ”ปัทมาถามย้ำ เจ้าตัวเองหน้าถอดสีไปเลย เมื่อมาเกิดเรื่องอันตรายขึ้นกับบราลีซ้ำอีก“เฮ้ย คนจัดของข้างบน ระวังหน่อยสิวะ แล้วขยับอะไรจากตรงไหน ก็วางไว้ที่เดิมให้มันเข้าที่เข้าทางดีๆ”ผู้กำกับตะโกนขึ้นไป แล้วผู้ช่วยที่ชะโงกลงมามองตั้งแต่ได้ยินเสียงของตกตอบก็ตอบกลับ“ก่อนหน้านี้ไม่มีใครอยู่ตรงนี้นะพี่ เซตฉากกันอยู่ข้างใน”“ไม่มีใครอยู่ แล้วกระถางมันหล่นลงมาได้ยังไง ผีผลักหรือไง”“เอ้า พี่ชายทำไมปากหมะ...เฮ้อ...”คิตตี้ยั้งปากตัวเองได้ทันแล้วถอนหายใจเสียงดัง ถ้าเป็นคนอื่นพูดเจ้าตัวคงตีปากไปแล้ว“เปิ้ลไปเคลียร์กับเจ้าของบ้านไป ส่วนน้องโบ วันนี้กลับเลยก็ได้ เหลือฉากเดียวไม่ต้องถ่ายแล้ว ว่าแต่พรุ่งนี้ไหวไหม พี่ว่าจะถ่ายฉากที่ค้างครั้งก่อนไว้ มันโลเดียวกันพอดี”“ได้ค่ะ โบไม่เจ็บแขนแล้วค่ะ”“โอเค ไหวก็ไหว พี่จะให้เขาหลบแขนก็แล้วกัน”“ค่ะ สวัสดีค่ะพี่ชาย”ชนนเ
“เรื่องวันนี้อย่าบอกพี่วินะ”บราลีเอ่ยขึ้นขณะรถเคลื่อนไปบนถนน“คิดว่าปิดปากเราได้ แล้วคนอื่นจะไม่พูดเหรอ เชื่อเหอะ ตอนนี้ไม่โปรดิวเซอร์ ก็ผู้ช่วยพี่วิ หรือไม่ ก็เจ๊คิตตี้นั่นแหละกดโทรรายงานเรียบร้อยไปแล้ว เห็นเจ๊แกบอกว่าซี้ปึ้กกับพี่วิไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ แอบสัมภาษณ์กันมาแล้วสินะ”“ทำไมต้องแอบ เขาชวนคุย เราก็ตอบแค่นั้น”“แล้วเจ๊คิตตี้ถามเรื่อง...”“เรื่องอะไร”ชายหนุ่มถามกลับเพราะหญิงสาวชะงักคำพูดตัวเองไป ทว่าบราลีเพียงส่ายหน้า ชนนกำลังจะซักไซ้ต่อแต่เสียงโทรศัพท์มือถือของนักแสดงสาวดังขึ้นมาก่อน เธอจึงควานหาในกระเป๋าที่ชายหนุ่มวางไว้ข้างตน ไม่นานก็เจอและเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์วิมาดาก็หน้าจ๋อย ยกโทรศัพท์ตนให้ชนนดู“บอกแล้วว่าไม่ต้องรอให้เราพูดหรอก”ชายหนุ่มย้ำนางร้ายสาวได้เพียงถอนหายใจอย่างหนักใจ ก่อนจะรับสายในที่สุด วิมาดาถามไถ่อย่างห่วงใยกระทั่งมั่นใจว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่ก่อนวางสายอีกฝ่ายกลับเอ่ยสิ่งที่ทำเอาบราลียิ่งหนักใจ‘พี่คิดถูกจริงๆ ที่ให้นนตามไปด้วย คงต้องฝากให้นนช่วยดูแลระหว่างที่โบถ่ายเรื่องนี้จนจบ เพราะต้องมีไปต่างจังหวัดด้วย’“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะพี่วิ เนี่ยแขนโบก็จะหายด
“นายนน...อุ๊บ”ริมฝีปากอิ่มถูกปิดด้วยริมฝีปากได้รูป หลังจากมือหนาเลื่อนขึ้นมาล็อกท้ายทอยของเธอ แรงบดเบียดเม้มลงมาหนักหน่วงทำให้คนที่ตั้งตัวไม่ติดลมหายใจสะดุด แต่เมื่อดึงสติกลับมาได้บราลีก็เอียงหน้าหนี“อื้อ นายนน หยุดนะ”หากปากอุ่นยังไล่ตามบดขยี้เม้มกลีบปากเธอ หญิงสาวขยับหนีได้ไม่มากนักเพราะชายหนุ่มกดรั้งท้ายทอยตนไว้“อยู่ๆ มาว่าเราปากเหม็น ก็ให้มันรู้กันไปเลย ว่าเหม็นจริงหรือเปล่า”“ไอ้บ้า อื้อ”ชนนกดริมฝีปากจูบซับปากอิ่มอย่างไม่ลดละ ละเลียดชิมทั้งบนล่าง แม้หญิงสาวจะพยายามเลี่ยงเขาก็ไล่จูบแนบแน่น จนคนที่ขยับไปมาในอ้อมกอดเขาเริ่มหยุดนิ่ง หอบแรง มือกำเสื้อเขาดึงเบาๆ เห็นว่าร่างโปร่งอรชรตัวอ่อนยวบลง ชายหนุ่มจึงผละปากตน แต่ยังไม่ถอยห่างจากกลีบปากนุ่มละมุน“รังเกียจเรามากเหรอ”คนถูกถามมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาปรือปรอย ในหัวว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก“เรารู้ว่าสมัยเรียนเธอไม่ชอบขี้หน้าเรา แต่ไม่คิดว่าจะรังเกียจมากขนาดนี้”“ฉัน...”บราลีกำลังเรียบเรียงคำพูดของตนทว่าอีกฝ่ายพูดต่อโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอ“ตอนนั้นเรามันก็แค่ไอ้เด็กเกเร เด็กหลังห้องไม่สนใจเรียน มีเรื่องชกต่อยให้ถูกทำโทษบ่อยๆ เด็กเรียนดี
“อืม”ชนนครางในลำคอ ทว่าเมื่อเขาอยากลูบไล้ผิวเนื้อแท้เนียนนุ่มบ้างหญิงสาวกลับจับมือตนไว้ พลางถอนจูบแล้วส่ายหน้าบ่งบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขาจะแตะต้องเธอจากนั้นบราลีก็ถอดเสื้อชายหนุ่มออก จุมพิตแผ่วเหนือปากแกร่ง แตะเบาๆ ลงมายังแผงอกหนา ปลายลิ้นเล็กเลียไล้ยอดอกสีเข้ม ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยนวนเขี่ยเหนือยอดอกอีกข้าง รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มหายใจแรงก็เหลือบมองนิดๆ พลางยิ้มหวานแล้วเม้มหยอกเย้าสลับจูบซับไปมาทั้งสองข้างไม่เพียงเท่านั้น สะโพกอวบที่อยู่บนตักแกร่งยังจงใจบดลงหาตัวตนชายหนุ่มเชื่องช้า กระตุ้นให้กายแกร่งแข็งกร้าวขึ้น ชนนถึงกับกัดฟันกรอดถอนหายใจแรงเมื่อร่างกายตื่นตัวรับสัมผัสนุ่มนวลจากภรรยาบราลีไม่เคยเริ่มลงมือกับเขาก่อน ยกเว้นเขาเอ่ยขอหลังจากปลุกอารมณ์เจ้าตัว แต่ครั้งนี้ชนนตื่นเต้นและอดคาดหวังไม่ได้ เพราะหญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มบรรเลงบทรักดวงหน้าสวยเงยขึ้นมาก่อนอีกฝ่ายจะบอกเสียงเบา“นน ขยับไปนั่งบนโซฟาสิ”ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าเหวอไปชั่วอึดใจ ก่อนจะยันกายขึ้น ในขณะที่มือบางช่วยถอดกางเกงให้เขา หัวใจแกร่งถึงกับเต้นแรงแทบทะลุอก เพราะภรรยาสาวไม่เคยถอดกางเกงให้เขามาก่อนบราลีข่มอาการเขินอายเ
ดูเหมือนบราลียังต้องใช้เวลาคิด ชนนมองออก เขาจึงไม่เซ้าซี้ ร่างสูงกำยำขยับห่างก่อนจะคลุมร่างอรชรด้วยเสื้อของเจ้าตัวแล้วช้อนอุ้มพาไปที่ห้องน้ำ“เดี๋ยวนนไปล้างตัวข้างนอกนะ”เอ่ยจบร่างเปลือยเปล่าก็ผละไปแล้วคว้าเสื้อผ้าของเขาถือติดมือไปด้วยบราลีรู้สึกใจหายแปลกๆ เพราะชนนมักขอล้างเนื้อล้างตัวกับเธอ หรือไม่ก็นัวเนียจนเธอต้องใจอ่อนยอมให้เขารุกเร้าต่อในห้องน้ำ แต่วันนี้ชายหนุ่มกลับแยกตัวออกไป หรือว่าเขาไม่พอใจที่เธอไม่ตอบเรื่องแต่งงานกับเรื่องลูกหญิงสาวยืนใต้ฝักบัวปล่อยให้น้ำไหลผ่านผิวกาย ความเย็นซึมซับเข้าสู่ผิว รู้สึกหนาวขึ้นมาเมื่อไม่มีเรือนกายหนากำยำด้วยมัดกล้ามคลอเคลียอาบน้ำด้วยกันเธอรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าใหม่ ออกมาด้านนอกไม่เห็นชนนก็เม้มริมฝีปาก ภายในอกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูกเขาจะไม่กลับมาแล้วหรือ?บราลีอยากออกไปขอโทษชายหนุ่ม แต่เธอยังไม่คิดถึงเรื่องแต่งงานจึงยั้งเท้าตนแล้วกลับไปนอนบนเตียงห่มผ้าหนาให้ความอบอุ่นกับร่างกายตน แม้อดนึกถึงอ้อมกอดอุ่นไม่ได้ ทว่าชนนก็ไม่ได้นอนกับเธอทุกคืนหากเขาต้องเร่งทำงานให้เสร็จหญิงสาวถอนหายใจอย่างหนักใจ ตอนนี้เธอมีความสุขทั้งเรื่อ
“อยู่กับนนนะ”“จะบอกที่บ้านว่ายังไง”บราลีถอนหายใจ หากคำพูดก็บอกเป็นกลายๆ ว่าเจ้าตัวเริ่มใจอ่อน“แค่บอกว่า อาทิตย์นี้ไม่ได้กลับ ไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่เราสองคนเข้าใจอยู่แล้ว”ดวงหน้าสวยร้อนผ่าว รู้ว่าครอบครัวคงพอเดาได้ว่าสองหนุ่มสาวอยากใช้เวลาด้วยกัน นั่นทำให้เธออดนึกอายไม่ได้ ทว่ายังไม่ทันได้คิดมากไปกว่านั้น ริมฝีปากอุ่นก็แนบลงบดเบียดกลีบปากตนหนักหน่วง ส่งปลายลิ้นมาเกลี่ยไล้ให้เธอเปิดดรับเขา บอกให้รู้ว่าต้องการเริ่มต้นบทรักอย่างจริงจัง“ดะ...เดี๋ยว อื้อ...”หญิงสาวพยายามขยับปากห้าม จะบอกว่าคุยกันก่อน แต่กลายเป็นชายหนุ่มฉวยโอกาสเคลื่อนไล้มาเกี่ยวพันรัดรึงคลอเคลียกับลิ้นเธอ จนสุดท้ายบราลีก็ได้เพียงทอดถอนใจอย่างอ่อนใจกับจูบเย้ายวนอารมณ์ของชายหนุ่มมืออุ่นเริ่มลูบไล้ไปตามเนื้อตัวหญิงสาว เกาะกุมบีบเคล้นอกอวบใหญ่ พาให้คนที่ถูกรุกเร้าร่างกายอ่อนยวบ อกใจสั่นระรัวกับสัมผัสของคนรักที่ไม่ว่าจะถูกแตะต้องกี่ครั้งเธอก็ตื่นเต้นระคนหวาบหวามเร้าใจเสมอร่างอรชรที่เริ่มอ่อนปวกเปียกถูกประคองให้นอนลงพร้อมกับใบหน้าคมเข้มซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสบู่เหลวอันแสนเซ็กซี่ที่บราลีเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมมือหนาก็เริ่มปล
‘แอบซุ่มดูใจกันมานาน สุดท้ายนักแสดงสาว โบ บราลี ก็ยอมว่าหนุ่มใกล้ตัวเป็นคนรู้ใจตัวจริง แฟนคลับเป็นปลื้ม...บอกแอบเชียร์คู่นี้อยู่จ้า’‘ล่าสุดนางร้ายสุดฮอต โบ บราลี ยอมรับออกสื่อแล้วว่าหนุ่มหล่อน้องชายของผู้จัดการส่วนตัว ที่เห็นไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดเวลา คือหวานใจตัวจริง’ข่าวบันเทิงหลายสำนักทั้งโซเชียลมีเดียและรายการต่างมีข่าวของบราลี หลังจากที่เจ้าตัวตอบคำถามนักข่าวในงานเปิดตัวละครเรื่องที่ทุกคนต่างรอคอย เพราะใช้เวลาในการถ่ายทำค่อนข้างนาน เนื่องจากมีปัญหาภายในกองจนต้องหยุดพักไปแม้นักแสดงสาวจะรับบทนางร้ายเป็นเรื่องที่สอง ทว่าเป็นบทนำ ทำให้ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากว่าเมื่อออกอากาศแล้วเรตติ้งจะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องแรกที่บราลีรับบทร้ายเป็นการประกบนางเอกอันดับหนึ่งของประเทศ นับได้ว่าละครเรื่องใหม่นี้คือบทพิสูจน์ฝีมืออย่างแท้จริงของนักแสดงสาว ในการเป็นนักแสดงมากฝีมือแถวหน้าของวงการ“เฮ้อ คนสนใจข่าวของโบ มากกว่าข่าวเปิดตัวละครซะอีก”วิมาดานั่งเช็กข่าวในโซเชียลพลางส่ายหน้า“โบไม่ได้ตั้งใจ ไม่ทันคิดว่าจะเป็นแบบนี้ พอดีพี่นักข่าวเห็นนนมารับโบตอนกลับ เขาถามโบก็ตอบ ไม่ใช่ตอนให้สัมภาษณ์ในง
ร่างสองสองร่างตอบโต้ขยับเขยื้อนสอดรับไปพร้อมกัน จากเชื่องช้าด้วยบราลีเป็นคนกำหนด เริ่มเร็วขึ้นเมื่อสะโพกแกร่งกระทั้นขึ้นมาเร่งเร้า แล้วไม่นานคนที่สะท้านแรงก็กลับกายเป็นหญิงสาวทว่าขณะที่กำลังหอบหายใจหนักอยู่นั้น ชายหนุ่มก็โอบเอวรั้งให้เธอคุกเข่าบนเตียงยกพื้น หันสะโพกให้เขาแล้วเบียดแทรกเข้ามาใหม่จนเต็มรัก“อ๊ะ”แรงกระแทกมาในครั้งเดียวทำเอาบราลีหลุดอุทาน มือที่วางยันที่นอนกำแน่นด้วยความสยิวซ่าน แรงส่งจากด้านหลังไม่มีแผ่ว เต้าอวบกลมกลึงสองข้างถูกขยำหนักมือ หญิงสาวหอบจนตัวโยน ทั้งยังเหมือนอ่อนแรงจนต้องทิ้งกายแอ่นสะโพกสูงรับสะโพกแกร่งที่เบียดอัดเข้าใส่สะโพกตนเสียงดัง ราวจะก้องไปทั่วแพและผืนน้ำเวิ้งว้างเพียงอึดใจต่อมาพิษรักร้อนเร่าก็พร่าพรายทั่วกายทำเอาร่างอรชรกระตุกไม่หยุดหากมีเพียงหญิงสาวที่พานพบสายรุ้งงามหลงฝนกระหน่ำ ชนนยังไม่เห็นแสงสีใดๆ เขายังจมดิ่งลึกลงในมหาสมุทรแห่งตัณหา หาทางออกไม่เจอชายหนุ่มขบกรามแน่นขณะปล่อยให้คนตัวเล็กไขว่คว้าความสุขพร้อมกับบีบเค้นเขาอย่างหนัก ครู่หนึ่งจึงพลิกร่างสวยให้กลับไปนอนหงายบนเตียง อุ้มจัดท่าทางให้เจ้าตัวนอนอย่างสะดวกสบาย ทว่าความเป็นจริงแล้วบราลีกำลัง
ชนนไม่ให้เวลาบราลีได้คิด ชายหนุ่มกอดรัดร่างนุ่มนิ่มที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เลื่อนไล้มือไปตามสัดส่วนโค้งเว้าสวยงามของหญิงสาว พร้อมใบหน้าคมเข้มโน้มลงมามอบจูบดูดดื่มเร่าร้อนให้คนรักร่างโปร่งอรชรสั่นนิดๆ นอกจากหนาวแล้วยังสั่นด้วยแรงอารมณ์ เพราะสะโพกถูกบีบเคล้นด้วยมือหนากดให้เธอบดเบียดกับกายแกร่งที่กำลังลุกโพลง พร้อมจูบลึกซึ้ง ลิ้นอุ่นเกี่ยวรัดเรียกร้องให้เธอตอบรับ หญิงสาวได้เพียงถอนหายใจขณะพัวพันลิ้นตนกับชายหนุ่มอย่างยอมจำนนชนนช่วยถอดชุดให้หญิงสาวเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายขนลุกเกรียวทั้งกาย พาให้ร่างสวยนั่งลงบนพื้นยกสูงซึ่งปูที่นอนบางไว้ยามเขาปลดกางเกงอีกฝ่ายลงบราลีกอดตัวเองที่ยังมีเสื้อชั้นในกับกางเกงซับในตัวบาง มองชายหนุ่มถอดเสื้อของเขาอย่างรอคอยกระทั่งร่างสูงกำยำโน้มมาหา ประคองดวงหน้างามให้เงยขึ้นรับจูบอีกครั้ง ก่อนฝ่ามือหนาทั้งสองข้างจะไล้ไปตามผิวเนื้อบาง ความกระด้างพาให้ผิวบอบบางวิบวับร้อนรุมตามรอยสัมผัสที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ตะขอเสื้อชั้นในถูกปลดชายหนุ่มไล่ริมฝีปากจูบซับลำคอบาง จุมพิตแผ่วที่บ่าเล็ก ไล้ลิ้นเขี่ยสายเสื้อชั้นในลง ขณะที่มือเข้าตระกองกุมอกอวบ โดยที่มืออีกข้างเกี่ยวเสื้อลูกไม้ชิ
ครอบครัวของบราลีกับชนนรับรู้ว่าสองหนุ่มสาวคบหากันนับแต่หญิงสาวกลับมาพักที่บ้าน ชนนไปมาหาสู่บ่อยๆ แล้วก็แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ดาราสาวเองก็ไปที่บ้านของชายหนุ่มเช่นกัน ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหา ในเมื่ออายุทั้งคู่ก็ถึงวัยมีครอบครัวแล้วยิ่งมารดาของชนนยิ่งพอใจที่ชายหนุ่มคบหากับบราลี ไม่ใช่เพราะเป็นดาราดังแต่จำได้ว่าสาวน้อยหน้าสวยคนนี้มาทานข้าวร้านตนทุกวัน ค่อนข้างสนิทสนมกับวิมาดาจึงเอ็นดูมากชนนขับรถไปตามเส้นทางที่มีป่าเขียวครึ้มทั้งสองข้าง บราลีมองความสวยของธรรมชาติสองข้างทางแล้วก็ยิ้มออกมา“ต้นไม้เยอะดีดัง ชอบบรรยากาศบ้านที่กาญฯ ที่สุดเลย”“งั้นสร้างเรือนหอที่นี่นะ”ชายหนุ่มพูดถึงเรือนหอขึ้นมาทำเอาบราลีหันมองเขา“ทำไม จะไม่สร้างเหรอ”ชนนหันมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะมองเส้นทางต่อ“นายคิดเรื่องแต่งงานแล้วเหรอ”“คิดตั้งแต่โบเปิดห้องน้ำเข้าไปเห็นเราโป๊แล้ว”ใบหน้าสวยร้อนจัด จนอดตีไหล่คนที่พูดไปขำไปไม่ได้“ถึงพี่วิจะฝากให้เรามาดูโบ แต่เราก็ไม่ได้มโนเก่งอะไร คิดแค่ว่ามาเจอเพื่อนเก่า โบอาจจะมีใครที่คบอยู่ ส่วนเราเองก็เคยมีคนรักมาแล้ว แต่กลับมาเจอกันสภาพนี้ มันกระตุ้นความคิดอยากจีบโบขึ้นมา แล
‘พี่โบช่วยไอมี่ค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ’‘พี่โบเองก็เจ็บตัวเหมือนกันค่ะ การผิดคิวในกองเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้วค่ะ’‘ไอมี่รู้จักพี่โบมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ เราสนิทกันมาก มีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน พี่โบคอยให้คำปรึกษาเรื่องการแสดงกับไอมี่ตลอด เราไม่เคยมีปัญหากันเลยค่ะ’‘ที่ไอมี่เงียบไปเลย เพราะตกใจมากจนขวัญเสียค่ะ แล้วก็ทำใจไม่ได้ ตอนนั้นสภาพจิตใจแย่มาก คุณแม่ต้องขอให้จิตแพทย์มาคุยกับไอมี่ถึงที่บ้านเลยค่ะ ใช้เวลาพักหนึ่งเลยกว่าจะดีขึ้น’‘พี่โบเองก็ตกใจมากเลยค่ะ เจอเรื่องเข้าใจผิดไปด้วย คงเสียใจมาก ไอมี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จิตใจแย่จนไม่หยิบมือถือเลย ไม่กล้าส่องกระจก ไม่อยากออกจากห้อง เพิ่งมารู้ไม่นานว่าคนเข้าใจผิดพี่โบก็เลยปรึกษาพี่วิ อยากบอกความจริงให้ทุกคนเข้าใจพี่โบน่ะค่ะ’‘พี่โบน่ารัก ใจดีมากค่ะ ถ่ายละครทุกฉากพี่โบทุ่มเทมากจริงๆ ค่ะ’การให้สัมภาษณ์ของเอมิกาในรายการหนึ่งผ่านทางโทรศัพท์ มีคลิปวิดีโอตัดแชร์ไปมากมายในโซเชียล แน่นอนว่าคอมเมนต์ถล่มทลายเช่นกัน‘หน้าแหกจ้า พวกที่เมนต์ด่าน้องโบไว้ หายหัวไปไหนหมด ออกมาขอโทษก็ยังดีนะ’‘พวกจิตป่วย เมนต์แย่ๆ ไปไหนกันหมด’
เพราะบราลีบาดเจ็บที่มือ ทำนั่นนี่ไม่สะดวกนัก วิมาดาจึงอยู่ที่คอนโดหนึ่งสัปดาห์ แม้น้องชายจะอาสาดูแลคนรักแต่พี่สาวกลับไม่เชื่อใจ สุดท้ายทั้งสี่คนจึงอยู่ด้วยกันหลังจากทิ้งระยะเวลาพอสมควร วิมาดาไปพบเอมิกากับมารดาด้วยตัวเอง โดยมีวสันต์กับแพรวาไปด้วย มารดาของนางเอกสาวยิ้มหวานต้อนรับขับสู้อย่างดี หากกลับจิกกัดนิดๆ“น้องไอมี่บาดเจ็บมาตั้งอาทิตย์นึงแล้ว คุณวิกำลังท้องกำลังไส้ เดินทางลำบากแย่ ถึงไม่มาคุณแม่ก็เข้าใจค่ะ”“ยังไงวิก็ดูแลน้องไอมี่ ไม่มาไม่ได้ค่ะ”วิมาดาพูดอย่างสุภาพวสันต์นั้นรออยู่ด้านนอกในส่วนรับแขกของบ้านหลังใหญ่ ส่วนวิมาดา อมรรัตน์ แพรวา ขึ้นมาบนห้องของเอมิกา เพราะเจ้าตัวอายสภาพจิตใจของนางเอกสาวดูไม่ดีนัก ใส่หมวกไหมพรมคลุมศีรษะและใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ผู้จัดการส่วนตัวเห็นแล้วก็อดสงสารและเป็นห่วงไม่ได้ แม้ไม่ได้สนิทเท่ากับบราลี“ตอนนี้ก็พักผ่อนเยอะๆ ทำใจให้สบายนะจ๊ะ เรื่องละครไม่มีปัญหา ในเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น คุณทามแจ้งแล้วว่าจะรับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยให้ทีมงานที่ต้องถ่ายงานล่าช้า”ปกติแล้วงานถ่ายละครมักมีกำหนดระยะเวลา เพราะทีมงานส่วนใหญ่เป็นการว่าจ้างตามสัญญา หากก