ความกวนของนน ยกให้ที่หนึ่งเลย ไม่โดนโบจัดการสงสัยนอนไม่หลับ ^^" เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ https://twitter.com/rasitawriter
“คิดจะแย่งนายหัวไปจากฉัน ไม่ง่ายหรอก”มือบางบีบคางของคนที่ใบหน้าฟกช้ำจนปลายเล็บยาวจิกลงบนเนื้อแก้ม ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง พร้อมมืออีกข้างค่อยๆ เลื่อนมีดคัตเตอร์ขึ้น แววตาที่จ้องอีกฝ่ายฉายแววดุร้าย“ต่อให้ฉันตาย นายหัวก็ไม่หันไปสนใจผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอ”คนที่ตกเป็นรองกัดฟันพูด ทว่าในดวงตามีแววของความหวาดหวั่น“หึ กลัวแต่ยังทำปากดีอีก ฉันจะไม่ให้แกตายง่ายๆ หรอก”เสียงหวานเค้นจนเข้มน่ากลัว มือเปลี่ยนไปจิกผมอีกฝ่ายดึงให้หน้าเชิดขึ้น“ในเมื่อมั่นใจนักว่ายังไงนายหัวก็รักฝังใจอยู่กับแก แทนที่จะฆ่าแก ฉันจะทำให้แกมีชีวิตอยู่กับใบหน้าที่ไม่ต่างจากผีนรก เพราะทำให้แกตายนายหัวก็ยิ่งลืมแกได้ยาก ฉันจะทำให้เขารังเกียจหน้าตาน่าเกลียดของแก แม้แต่กอดก็กอดไม่ลง”เห็นชัดว่าคนที่ถูกทำร้ายน้ำตาเอ่อคลอขึ้น คนมองยิ่งสะใจ ค่อยๆ เคลื่อนมีดไปชิดใบหน้าเนียนใสที่มีรอยช้ำ ราวช่วงเวลาวัดใจ“ถึงจะน่าเกลียดยังไง ความรักของนายหัวก็ไม่มีวันแบ่งปันไปที่เธอ”คนตกเป็นรองยังท้าทาย“นังนี่”พร้อมกับเข่นเขี้ยว ปลายมีดในมือก็ขยับไปใกล้ใบหน้าอีกฝ่ายเพิ่มขึ้น ในจังหวะนั้นเองเสียงสั่งก็ดังขึ้น“คัต!”มือที่ถือมีดคัตเตอร์
“โอ๊ย...ไหนบอกไม่ให้ใครโพสต์อะไร แล้วเรื่องมันไปถึงหูนักข่าวได้ยังไงยะ”คิตตี้บ่นกระปอดกระแปด หลังเปิดประตูให้เอมิกากับแพรวาผู้จัดการส่วนตัว แพรวายิ้มแหยแล้วปิดประตูทันที ด้วยเพิ่งหาทางหลบนักข่าวที่ชั้นล่างมาได้ และรีบโทรมาหาช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองบอกข่าว“ตอนนี้พี่เปิ้ลกำลังเคลียร์กับนักข่าวอยู่ค่ะ”โปรดิวเซอร์สาวกำลังจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย หลังจากรายงานเรื่องราวกับผู้จัดละครเรียบร้อย ผู้จัดอยากให้นักแสดงสาวพักที่โรงพยาบาลก่อนเพื่อดูอาการ แม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็อนุญาตให้พักที่โรงพยาบาลก่อนได้และปัทมาก็ต้องรับหน้าเสื่อหลังจากแพรวาที่มาถึงพร้อมกับนักข่าวบันเทิงโทรเตือนล่วงหน้า แล้วพาเอมิกาหลบขึ้นลิฟต์มาก่อนคนที่นั่งบนเตียงในห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เหลือบมองคนมาใหม่แล้วเมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเอมิการีบเข้ามาเกาะข้างเตียงถามด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นใย น้ำตาคลอเบ้าตาคู่งาม“พี่โบเป็นยังไงบ้างคะ แผลลึกไหมคะ ไอมีขอโทษ”“ช่างเถอะ”บราลีบอกปัดอย่างตัดรำคาญ ทว่าคนที่พูดกลับเป็นคิตตี้“ไม่เป็นอะไรได้ยังไงค้า เย็บตั้งสามเข็ม”“เจ็บมากเลยสินะคะ”“ลองเอามี
คอนโดหรูย่านใจกลางกรุงเทพฯ ที่บราลีอาศัยอยู่เป็นคอนโดของวิมาดา หญิงสาวพักที่นี่ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ แม้เวลานี้จะซื้อบ้านเป็นของตัวเองแล้วแต่ก็ยังอยู่ที่นี่เพื่อการเดินทางสะดวก บ้านของเธออยู่เขตชานเมือง หมู่บ้านเดียวกันกับผู้จัดการสาว อีกฝ่ายเองมักพักกับเธอที่คอนโดมากกว่าอยู่ที่บ้านกับสามีเช่นกัน“โอ๊ย! อุจาดตาที่สุด นายปากปีจอนี่ อยู่ๆ โผล่มาที่นี่ได้ยังไง แถมยังถือโอกาสใช้ห้องน้ำ อาบน้ำ แล้วยังมาโชว์ของให้ดูเป็นเสนียดลูกตาอีก”คนที่กำลังขนลุกชัน ทั้งยังตัวสั่นกับภาพร่างกายเปลือยเปล่าของบุรุษเพศที่เห็นเต็มสองลูกตา ก้าวยาวๆ ไปคว้าโทรศัพท์มือถือของตนบนเตียง และเห็นว่าแบตเตอรี่หมดก็รีบหาสายชาร์จมาเสียบมือไม้สั่นเมื่อวานหลังกลับมาถึง โดยคิตตี้มาส่งถึงห้องก่อนเจ้าตัวจะกลับไป แม้อีกฝ่ายจะอาสาอยู่เป็นเพื่อน ทว่าบราลียืนยันว่าอยู่ได้ เพราะอยากนอนพักจริงๆ เธอก็อาบน้ำ ทานยาแล้วหลับไปเลย ไม่ทันสังเกตว่าแบตโทรศัพท์ใกล้หมดรอไม่นานก็เปิดหน้าจอขึ้นมา เห็นว่ามีเบอร์ของวิมาดาโทรมาหลายสาย หญิงสาวจึงโทรกลับทันที“หมอนั่นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะพี่วิ”‘โบ เฮ้อ กว่าพี่จะติดต่อได้’บราลีพูดขึ้นก่อน ทว่าอี
“ฮะ? เป็นเพื่อนโบเนี่ยนะคะ”‘ใช่จ้ะ พี่ยังคิดอยู่เลยว่าโบอยู่คนเดียวพี่เป็นห่วง’บราลีมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพื่อนอย่างนายชนนคนปากสุนัขเธอไม่เห็นอยากได้สักนิด“ที่นี่คอนโดนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”‘ไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยพี่ก็จะได้รู้อะไรบ้าง ไม่ใช่โบปิดเงียบแบบนี้ เผื่อไม่สบาย ป่วยไข้ขึ้นมา’“อ๋อ หมอนั่นมีหน้าที่มาคอยจับตาดูโบ”เธอบ่นอุบอิบแล้วได้ยินเสียงวิมาดาหัวเราะกลับมา‘เอาล่ะ ยังไงพี่จะย้ำกับนนอีกที ว่าฝากดูแลโบให้ด้วย’“ไม่ล่ะค่ะ โบดูแลตัวเองดีกว่า”วิมาดาเพียงหัวเราะเบาๆ‘อย่าเพิ่งดื้อเลย พักผ่อนให้เยอะๆ เดี๋ยวพี่จะโทรคุยกับเปิ้ล ว่าเรื่องคิวจะปรับยังไง แล้วจะโทรไปบอกให้แพรวจัดการเรื่องคิวให้โบ’อีกฝ่ายพูดเป็นงานเป็นการก่อนจะวางสายไป บราลีไม่อยากให้ผู้จัดการของตนที่เพิ่งรู้ว่าตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่าคิดมาก จึงยอมเงียบราวเชื่อฟัง ทั้งที่ไม่ค่อยชอบนักที่ชนนมาอยู่ร่วมคอนโดกับตนเธอเป็นผู้หญิง เขาเป็นผู้ชาย แล้วเธอก็เป็นคนที่หลายคนรู้จัก ใครรู้เข้าจะคิดอย่างไรผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงเคาะปะตูดังขึ้น บราลีนั่งเฉย ไม่คิดจะเปิดประตู ทว่าคนข้างนอกเคาะเรื่อยๆ ไม่หยุด แม้ไม่ถี่รัวหากเป
สองหนุ่มสาวนั่งกอดอกเอนกายพิงพนักเก้าอี้อยู่คนละฝั่งของโต๊ะทานอาหาร มองกันและกันอย่างหยั่งเชิง หลังจากที่ชนนซื้อข้าวต้มกลับมา บราลีก็ล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดเรียบร้อย มานั่งทานอาหารของตัวเอง ส่วนชายหนุ่มเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์แล้วเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่เธอมีเรื่องต้องตกลงกับเขา“สิบห้านาที มีอะไรพูดมาให้ครบเลยคุณดารา”“นายจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”“ยังไม่รู้ แต่สะดวกดีก็คงอยู่ไปเรื่อยๆ”“ไม่ได้”หญิงสาวเสียงแข็ง“นี่คอนโดพี่วิ พี่สาวแท้ๆ ของนายนนคนนี้นะเธอ เรื่องอะไรมาห้ามน้องชายที่คลานตามกันมาไม่ให้อยู่คอนโดพี่สาว”บราลีเม้มริมฝีปาก ขุ่นใจคนกวนโมโห“ฉันก็อยู่กับพี่วิมาห้าปีแล้ว แล้วพี่วิก็รักฉันเหมือนน้องสาวแท้ๆ”“จะบอกว่าเธอก็เหมือนน้องสาวเราเหรอ”อีกฝ่ายทำสีหน้ารับไม่ได้พลางยักไหล่ ทว่าหญิงสาวสวนขึ้น“บ้า ใครอยากเป็นน้องสาวนาย”“ก็ดีนะ คิดเหมือนกันเลย”ชนนตอบกลับสั้นๆ ทว่าแววตาคมเข้มนั้นพราวระยับไม่น่าไว้ใจในความรู้สึกของคนเห็น“นายก็รู้ว่าฉันเป็นใคร นายอยู่ที่นี่นานถ้ามีคนรู้เข้า ได้มีข่าวเสียหายออกไปแน่”“ก็แค่บอกไปตรงๆ ว่าเราเป็นน้องพี่วิ ใครมันจะจับผิดก็ช่างมันสิ”“นายก
“โอเคจ้ะ ขอบใจมากแพรว ยังไงฝากแจ้งพี่อีกทีนะจ๊ะ ว่ามีถ่ายอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัว”‘ค่ะ วันถ่ายพี่โบไปพร้อมกับน้องไอมี่ดีไหมคะ แพรวจะได้ให้รถไปรับ ไปด้วยกันพี่โบจะได้มีเพื่อน’“ไม่เป็นไร พี่ไปเองดีกว่า”เธอปฏิเสธสั้นๆ อีกฝ่ายจึงวางสายไปด้วยเสียงอ่อยๆ คงเข้าใจว่าบราลีโกรธเอมิกาที่ทำให้ตนต้องเจ็บตัว แต่สำหรับเธอเพียงอยากหลับไปในรถระหว่างเดินทางเงียบๆ ไม่มีคนอื่นมาชวนพูดคุยใกล้เที่ยงคืน บราลียังไม่หลับเพราะวันนี้นอนทั้งวัน แม้จะทานยาไปแล้ว หญิงสาวนอนอ่านบทไปเรื่อยๆ และรู้สึกหิวน้ำ แต่น้ำที่เอามาไว้ในห้องหมดแล้วจึงออกไปหยิบขวดใหม่ข้างนอกเธอรู้ว่าชนนกลับมาพักหนึ่งแล้วเพราะได้ยินเสียงประตู หากก็ไม่ได้สนใจนัก ร่างโปร่งอรชรตรงไปเปิดตู้เย็น อยากดื่มน้ำเย็น เนื่องจากวันนี้ดื่มเพียงน้ำอุณหภูมิห้องปกติ ได้น้ำที่ต้องการก็ปิดตู้เย็นลง จะหันกลับก็ต้องสะดุ้งเพราะเจอเข้ากับร่างสูงกำยำ ทว่าที่ทำเอาบราลีผงะถอยมายืนติดตู้เย็นก็เพราะบ่าหนากับแผงอกกว้างเปลือยเปล่าชนนใส่เพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว!ริมฝีปากอิ่มเผยอกำลังจะต่อว่าที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็เดินมาชิดตนโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ที่สำคัญยังแต่งตัวล่อแหลมต่อสาย
มีเวลาพักผ่อนสามวันก็ถึงวันที่ต้องออกกองอีกครั้ง แพรวานัดแนะเวลาให้คนขับรถมารับบราลีอย่างเรียบร้อย แม้เจ้าตัวจะถามย้ำว่าเธอจะเดินทางไปกับเอมิกาหรือไม่ แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเช่นเดิมตีสี่ครึ่งบราลีได้ยินเหมือนเสียงอาบน้ำจากห้องน้ำด้านนอก เพราะเธอตื่นอาบน้ำเตรียมตัวตั้งแต่ตีสี่ แม้แปลกใจว่าชนนจะรีบตื่นไปไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเธออยู่แล้วดูเหมือนชายหนุ่มเริ่มทำงานของเขาแล้ว เพราะเห็นนั่งประจำที่โต๊ะทานข้าว เขียนเมาส์ปากกาลงบนบอร์ดและมองจอโน้ตบุ๊กหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือคุยโทรศัพท์บางครั้งบราลีต้องเลี่ยงมาทานข้าวที่โซฟา แม้อีกฝ่ายจะเก็บของให้แต่เธอบอกว่าไม่เป็นไร สุดท้ายทั้งสองก็มักนั่งทานข้าวที่โซฟาใช้โต๊ะเตี้ยแทนใกล้ตีห้าบราลีก็ออกจากห้องของตนเพื่อลงไปรอลุงเกษมคนขับรถ แต่ก็เห็นร่างสูงกำยำลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาหาตนพลางเอ่ย“เอาอะไรไปเยอะแยะ กระเป๋าใหญ่เชียว”กระเป๋าที่บราลีถือเป็นทรงใหญ่ที่จุของได้เยอะ แม้จะไม่ได้พกอะไรมากมาย แต่หญิงสาวก็ใส่ของที่เผื่อตนต้องการไปจนครบ“กระเป๋าฉัน ฉันจะเอาอะไรไปก็ได้”“แขนเธอเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง”“เรื่องของฉัน ฉันถือได้ก็แล้วกัน”หญิงสาวนึกเคืองที่อีกฝ่ายจุ้น
วันนี้โลเคชันในการถ่ายทำอยู่แถวปริมณฑล ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก บราลีรู้ว่านับแต่ตนก้าวลงจากรถทุกสายตาต่างก็มองด้วยความสงสัยใคร่รู้เพราะมีผู้ชายร่างสูงกำยำเดินตามต้อยๆ ทว่าเหมือนปัทมากับแพรวาจะรู้อยู่แล้ว เพราะทั้งสองออกมารับหน้าเธอและเอ่ยทักทายกับชนนอย่างยินดี“สวัสดีค่ะ คุณนนใช่ไหมคะ”“สวัสดีครับ”แววตาของปัทมากับแพรวาลอบกวาดมองเจ้าของร่างสูงกำยำด้วยความสนใจ“นี่รู้กันทุกคนเลยใช่ไหม”บราลีมองออก ความหงุดหงิดทำให้เอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจ“พี่วิบอกเอาไว้น่ะค่ะ”แพรวาเป็นคนตอบและปัทมารีบเสริม“พี่วิบอกกับพี่ด้วย ให้พี่แจ้งคุณทามกับพี่ชายว่ามีผู้ช่วยคนใหม่ตามมาดูแลน้องโบแทนพี่วิ”“อ้อ รู้กันหมด ยกเว้นโบ”หญิงสาวเอ่ยประชดเบาๆ แล้วเดินต่อเข้าไปด้านใน ปัทมากับแพรวาสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มจืดเจื่อนให้ชนน แล้วก็รีบกุลีกุจอนำทางพานางร้ายคนสวยไปยังส่วนที่จัดไว้สำหรับแต่งหน้าทำผม“พี่โบเจ็บก็มีหนุ่มหล่อถือกระเป๋าเดินตาม เปิดตัวคนรู้ใจหรือเปล่าคะ”ช่างทำผม ทำผมพลางถามเธอด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น ความจริงบราลีเห็นมาสักพักนับแต่เธอเข้ามาในห้องนี้ และชนนถือกระเป๋ามาวางไว้ให้ก่อนจะเลี่ยงออกไป คิ
กลับมาถึงคอนโดก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว ด้วยถนนเส้นนั้นติดหนักหฤโหดทีเดียว ระหว่างอยู่บนรถแม้จะหงุดหงิดหากชนนไม่ได้บ่นออกมา เพราะจะเป็นโอกาสให้บราลีตอกย้ำกับเขาว่าไม่ต้องมารับเธอ และหญิงสาวเองก็คุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ทั้งโทรหาแพรวาเรื่องออกงานอีเวนต์ คุยกับเพื่อนดาราในวงการไปจนถึงคุยกับหลานชายวัยสามขวบ ลูกของพี่ชายบราลีหญิงสาวมีพี่ชายหนึ่งคนกับน้องชายหนึ่งคน เธอเป็นลูกคนกลางที่แม้บิดามารดาจะรักไม่ต่างกัน ทว่าการเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวของบ้าน บราลีจึงไม่สนิทสนมกับพี่น้องนัก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากัน ไม่แปลกนักที่เมื่อได้รู้จักกับวิมาดาที่ถูกชะกันบราลีจึงสนิทสนมกับอีกฝ่าย ปรึกษาเรื่องเรียนและรับฟังพี่สาวของชนนมาตลอดหลายปีร่างสูงกำยำก้าวตามเจ้าของร่างโปร่งอรชรอย่างเอื่อยเฉื่อย ขณะที่บราลีก้าวฉับๆ รวดเร็วเกรงจะมีคนเห็นนับแต่ลงจากรถมาขึ้นลิฟต์ กระทั่งเข้าห้องมาเจ้าตัวก็ถอนหายใจ“ยังไม่เลิกคิดมากเรื่องคนเห็นเราอีกเหรอ”“ยังไงนายก็เป็นผู้ชายนี่นา”“อีกเดี๋ยวคนก็เห็นอยู่ดี ในเมื่อเราต้องตามติดเธอเหมือนเงาอยู่แล้ว”หญิงสาวหันกลับมามองเขาแล้วยักไหล่“ไม่จำเป็น งานอีเวนต์พรุ่งนี้นายไม่ต้องไปก็ได้ ฉันน
เพราะต้องออกกองไปถ่ายต่างจังหวัดกับบราลี ชนนจึงพยายามเคลียร์งานในส่วนของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง หลังจากได้คุยกับลูกค้าพร้อมกับเพื่อนมาแล้ว แม้บริษัทของเพื่อนชายหนุ่มจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ และทำงานที่บ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทรัพยากร ทว่าค่าตอบแทนก็คุ้มค่า มีงานเข้ามาตลอดเวลาไม่เคยขาด ทีมงานเพียงไม่กี่คนแต่เป็นคนที่มีความสามารถทั้งยังคุ้นเคยกันดีหลังจากปรับความเข้าใจกับบราลีแล้ว ชายหนุ่มก็คร่ำเคร่งกับงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แทบทั้งคืน กว่าจะเข้านอนก็ตีสาม เช้าวันถัดมาชนนจึงตื่นสาย แต่อาบน้ำแล้วก็ดื่มกาแฟมานั่งทำงานต่อ ทว่าสิบเอ็ดโมงแล้วไม่เห็นหญิงสาวออกจากห้องของตัวเองก็นึกแปลกใจแม้ทุกวันหญิงสาวตื่นสายกว่าตน ทว่าสิบโมงเจ้าตัวจะออกมาทานกาแฟกับขนมปัง คิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกขึ้นมาได้ว่า บราลีบอกว่าเปลี่ยนนัดกับธนากรเป็นวันนี้หรือเธอจะออกไปแล้ว?คิดได้ชนนก็รีบโทรหาหญิงสาวทันที ฟังเสียงรอสายอยู่หลายครั้งกว่าอีกฝ่ายจะรับ ทำเอาเขาร้อนใจทีเดียว“โบอยู่ไหน”‘อะไรของนาย’“ถามว่าอยู่ไหน นัดเจอหมอนั่นที่ไหน เขาพาไปที่แปลกๆ ลับหูลับตาคน ไม่น่าไว้ใจหรือเปล่า”ชายหนุ่มถามรัวเร็วด้วยความเป็นห่วง แต
“ถ้าไม่พอใจ ไม่อยากตอบ ก็ไม่เป็นไร ถึงพี่วิจะให้นายช่วยเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันชั่วคราว แต่เรื่องส่วนตัว คนเป็นผู้จัดการไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”บราลีเชิดใส่อีกฝ่าย ตั้งใจออกไปหาซื้ออาหารใกล้ๆ คอนโดหากชนนยังไม่มีสำนึก ไม่คิดปรับปรุงตัวเอง ไม่ยอมรับออกมาว่าเขาคิดกับเธออย่างไร หรือแท้จริงเขาเพียงแกล้งหยอกเธอ ทำให้เธออับอาย เธอก็จะไม่แคร์ ตัดเขาออกไปจากความคิดเช่นกันทว่าร่างสูงกำยำกลับก้าวตามมากอดเธอจากด้านหลัง หญิงสาวชะงักเพราะไม่ทันคิดแต่ก็พยายามสะบัดตัวไม่ยอมให้ชายหนุ่มล่วงเกินตนได้ดังใจ“นายนน ปล่อยฉัน”“เราไม่อยากให้เธอนัดเจอเขา เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาจีบเธอ”“แล้วยังไง ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว มีคนหล่อรวยมาจีบก็ควรเปิดรับไม่ใช่หรือไง”“เราหวง”เสียงทุ้มอ่อนโยนบอกชิดใบหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย ทว่าริมฝีปากอิ่มยังเม้มขัดอกขัดใจ“นายมีสิทธิ์อะไรมาหวงฉันไม่ทราบ”“ยังไม่มี หรือจะปล้ำซะดีไหม”“นายนี่มันน่านัก”พร้อมกัดฟันเข่นเขี้ยว หญิงสาวก็กระแทกศอกเล็กเข้าใส่หน้าท้องแกร่งเต็มแรง“โอ๊ย!”แรงกระทุ้งจากศอกแหลมเล่นเอาเจ็บไม่น้อย หากแขนกำยำกลับยิ่งรัดเอวเล็ก ทั้งยังจับข้อมือทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้
“ฮะ? ง่ายๆ อย่างนี้เนี่ยนะ”บราลีถามกลับพร้อมหน้าเหวอ เธอถึงกับมึนไปเลย ไม่แน่ใจว่าชนนจะมาไม้ไหน“ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แล้วอยู่ๆ มาชวนคบกัน นายสติดีอยู่หรือเปล่า”ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาพลางมองเธอด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจ“ถามจริงเถอะ จูบของเราไม่มีความหมายกับเธอจริงเหรอ”คราวนี้แววตาของชายหนุ่มไม่มีล้อเล่น ทำให้บราลีนิ่งไปเช่นกัน อดย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกยามที่ริมฝีปากอุ่นแนบชิดเคล้าคลอกลีบปากตนไม่ได้ แล้วก็ถึงกับต้องขบกลีบปากตัวเองเพราะใจเต้นรัวขึ้นมาขณะสบตาคมเข้มดำขลับเธอรู้สึกอย่างไรกับจูบของชนนอย่างนั้นหรือ?บราลีสับสนในความรู้สึกของตัวเอง เธอโกรธที่ชายหนุ่มกลั่นแกล้งตนด้วยการบังคับกอดจูบ แต่ในทุกครั้งเนื้อตัวกลับอ่อนปวกเปียก ต่างจากจูบในละครเวลาเข้าฉากกับนักแสดงที่ร่วมงานด้วยหญิงสาวเข้าใจว่าการทำงานทำให้เธอไม่รู้สึกใดๆ แต่กับชนนคิดว่าอีกฝ่ายดูถูกและไม่ให้เกียรติ จึงทั้งโมโหระคนน้อยใจ“มีสิ ฉันโกรธนาย โกรธมากด้วย”“แค่กๆ”ชนนถึงกับสำลักน้ำที่ยกขึ้นดื่มพอดี“โธ่ โบ...”หลังไอหน้าดำหน้าแดงชายหนุ่มก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนใจ“เราไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับเราเลย”“นายจะมาจับผิดฉันทำไ
“ยังไม่หิวก็มากินเถอะ ตอนเช้าเธอกินไปนิดเดียวเอง กินข้าวให้ตรงเวลา โรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา”คนเล่นตัวเริ่มลังเล และคนข้างนอกก็ยังคะยั้นคะยอต่อ“นี่สูตรแม่เราเลยนะ เธอเคยชอบมากไม่ใช่เหรอ”มารดาของวิมาดากับชนนเปิดร้านอาหารตามสั่งใกล้โรงเรียน บราลีมักสั่งอาหารที่นั่นทานรอบิดามารับหลังเลิกเรียน เพราะบ้านของเธออยู่ไกลจากตัวเมืองนั่นทำให้รู้จักสนิทสนมกับวิมาดาซึ่งอยู่เรียนชั้นมัธยมปีที่หก ก่อนอีกฝ่ายจะมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แม้เธอจะเพิ่งเข้าเรียนมัธยมต้น อาจเพราะความถูกชะตา วิมาดาจึงเป็นรุ่นพี่ที่เลือกเธอทำกิจกรรมเป็นเชียร์ลีดเดอร์ หรือแม้แต่ดรัมเมเยอร์เนื่องจากบราลีค่อนข้างสูงตั้งแต่อายุยังน้อยรวมทั้งแนะนำให้เธอสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ในมหาวิทยาลัยที่เจ้าตัวเคยเรียนด้วยเห็นอีกฝ่ายอวดว่าเป็นสูตรของมารดา บราลีจึงคิดว่าน่าลองดู ลึกๆ ก็คิดถึงตอนสมัยยังเด็กที่เพียงแค่ไปกลับบ้านกับโรงเรียน ไม่ต้องปวดหัวและเหนื่อยกับการทำงานเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปชั่วอึดใจ อาจไม่ทันคิดว่าเธอจะเปิดประตูกะทันหัน แต่แล้วริมฝีปากได้รูปก็ยิ้มมุมปาก“สนใจแล้วใช่ไหมล่ะ”“แค่อยากรู้ว่า ที่อวดว่าเป็นสู
“หมอนั่นคิดจะอยู่ที่นี่ยาว โบจะหาคอนใหม่”หญิงสาวโทรไปฟ้องวิมาดา แต่เรื่องที่พูดถึงมีเพียงเรื่องที่ชนนคิดจะตั้งรกรากที่คอนโดนี้‘ใจเย็นสิจ๊ะโบ พี่เข้าใจนะ นนเป็นผู้ชายมันก็น่าลำบากใจอยู่ แต่จะให้พี่ไล่น้องชายไปอยู่ที่อื่น พ่อแม่คงไม่สบายใจ’“โบถึงได้บอกว่าโบจะไปเองไงคะ”‘อยู่คอนโดนี้พี่ยังฝากให้นนช่วยดูแลโบแทนได้ อีกอย่าง พี่ยังไม่แน่ใจเลยว่าหลังคลอดจะทำงานได้เมื่อไหร่ เราคุยกันเรื่องนี้แล้วนี่จ๊ะ’บราลีเม้มริมฝีปาก ใบหน้าสวยงอง้ำ เธอเป็นคนบอกเองว่าอยากให้วิมาดาเลี้ยงดูลูก ให้เวลากับลูกให้มากที่สุด ลูกสำคัญกับผู้จัดการสาวมากกว่าเธอ‘พี่ไม่อยากทิ้งโบ แต่แพรวก็ต้องดูแลไอมี่’แพรวาเป็นผู้ช่วยของวิมาดา ช่วยดูแลเอมิกาเพราะมารดาของอีกฝ่ายขอให้ช่วย หลังจากได้รู้จักกันตอนที่เอมิกาแสดงเป็นน้องสาวของบราลีเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวเป็นน้องใหม่ของช่อง วิมาดาจึงช่วยให้คำแนะนำมารดาของอีกฝ่ายจนสนิทสนมกัน มารดาของเอมิกาฝากฝังบุตรสาวกับผู้จัดการคนเก่ง สุดท้ายวิมาดาก็รับปากแล้วให้แพรวาเป็นคนดูแลนักแสดงหน้าใหม่โดยตนเองคอยให้คำปรึกษา‘จริงๆ จะให้แพรวดูทั้งสองคนก็ได้ แต่คุณแม่ของไอมี่ค่อนข้างห่วงน้อง แค่นี
“ไอ้บ้านน!”บราลีแทบจะกรีดเสียงตวาดอีกฝ่าย เธอผลักและทุบตีคนตัวโตกว่าไม่หยุด ความคิดเดียวของหญิงสาวคือชนนหาเรื่องกวนโมโหเธอ เหล้าเข้าปากแล้วยิ่งห่ามมากขึ้น“ปากเหรอที่พูดเนี่ย คิดว่าฉันสู้นายไม่ได้ใช่ไหม ดูถูกกันมากไปแล้ว”“ไม่ใช่ เดี๋ยว...ฟังก่อน”เพราะมือบางทุบตีเขาอย่างแรง ชนนจึงพยายามจะจับมืออีกฝ่ายไว้ ทำให้ต้องปล่อยเอวคอด แล้วบราลีก็เห็นเป็นจังหวะพอที่จะหนีหลุดจากชายหนุ่ม หญิงสาวยกเข่ากระแทกขึ้นสูงทันที“อึก”ชนนตัวงอ แทบจุก แม้ว่าเข่าแหลมเล็กจะไม่ถูกจุดอันตรายแต่ก็ใกล้เคียง“โอย มือเท้าหนักจังเลยนะเธอ เฉียดฉิวเลยนะเนี่ย”“ปากสุนัขไม่รับประทานอย่างนาย น้อยไปด้วยซ้ำ”ร่างโปร่งอรชรถอยหลังอย่างรวดเร็วไม่ให้มือหนาคว้ามาถึงเธอ“บอกไว้เลย ฉันเคยฝึกมวยในละครมาย่ะ ถ้าทำรุ่มร่ามน่าเกลียดกับฉันหรือพูดบ้าๆ อีก ฉันชกปากแตกจริงๆ ด้วย”เธอขู่เขาแล้วรีบเข้าห้องตัวเอง แต่ก่อนจะปิดประตูยังไม่ลืมแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มที่กุมท้องตัวงอ ทั้งยังต้องจับปมผ้าขนหนูไม่ให้หลุดอย่างทุลักทุเลชนนมองประตูห้องที่เพิ่งปิดลงแล้วถอนหายใจ สีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมาจากห้องของตัวเองในเช้าวันใหม่ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ก่
“อะ ให้มองเต็มๆ ตาอีกที แล้วคิดใหม่”“ไม่ดูแล้วย่ะ ฉันเห็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรน่ามองสักนิด เลิกตอแยฉันแล้วก็ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว ไป ชิ่ว”บราลีเบะปากพลางไล่อีกฝ่าย ทว่าชนนกลับกระตุกยิ้ม“นั่นไง วันนั้นเธอเห็นน้องชายเราจริงๆ ด้วย”คนถูกจับได้อึ้งไปทันใด ใบหน้าร้อนซ่าน ไม่แน่ใจว่าหน้าตัวเองแดงตามไปด้วยหรือเปล่า“เราไม่ยอมนะ เธอต้องรับผิดชอบ”“รับผิดชอบบ้าบออะไร ฉันไม่พูดกับนายแล้ว”หญิงสาวบอกปัดอย่างคนร้อนตัว ทั้งยังพยายามจะดึงมือตัวเองจากมือหนา แต่ชนนกระตุกพาร่างโปร่งอรชรกลับไปชิดกายแกร่ง รวบกอดเอวเล็กอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มขยับมาใกล้แม้บราลีจะพยายามเอนตัวหนีก็ยังห่างเพียงแค่คืบ“แค่ยอมรับว่าเธอก็สนใจเรา มันยากนักหรือไง”“ฉันน่ะเหรอสนใจนาย”เสียงหวานแข็งขึ้น เข้าใจว่าอีกฝ่ายหาเรื่องตนอีกแล้ว“เราจูบโบไปกี่ครั้งแล้ว”อยู่ๆ ชนนก็ถามขึ้นมา คิ้วเรียวสวยขมวดอย่างไม่เข้าใจ ทว่าประโยคต่อมาของเขาทำเอาเถียงไม่ออก“ถ้ารังเกียจกันจริง เราคงโดนตบคว่ำตั้งแต่แรกแล้ว จริงไหมล่ะ แถมเมื่อตอนบ่าย เธอยังเคลิ้มด้วย ถ้าแพรวไม่มาตามก่อนล่ะก็...”“ใครเคลิ้มไม่ทราบ”เธอแว้ดใส่อีกฝ่ายทันที แต่ชนนยังไม่หมด
มาถึงคอนโดปุ๊บชนนก็ออกไปข้างนอกต่อแม้ว่าจะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มบอกว่าเพื่อนนัดคุยกับลูกค้าและอยากให้เขาไปเจอด้วยพร้อมกันบราลีไม่ได้ซักไซ้อะไร ใช้พลังในการแสดงกับสมองในการจำบทมาทั้งวันเธอเพลียและอยากพัก หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งในตอนดึก ดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ร่างโปร่งอรชรออกไปนอกห้องเพราะหิวขึ้นมานิดๆ เธอมีนมกล่องติดบ้านไว้ดื่มหลังกลับจากถ่ายละครอยู่แล้วเพราะไม่ทานอาหารดึกเสียงในห้องน้ำบอกให้รู้ว่าชนนอยู่ในนั้น หญิงสาวตั้งใจจะกลับเข้าห้องก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมา ทว่าไม่ทันแล้ว ร่างสูงกำยำก้าวออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูผูกพันเอวไว้ชนนมองมายังเธอ บราลีเองก็มองหน้าคมเข้มกับเรือนกายกำยำที่มีน้ำเกาะพราว ขณะดูดนมที่เสียบหลอดจากกล่องแล้วกลืนเสียงดัง นั่นเองทำให้รู้สึกตัวว่าตนเผลอมองอีกฝ่ายเต็มตาหญิงสาวหันหน้าหนีทันทีแล้วเร่งรีบก้าวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าห้องของตน แต่กลับต้องตัวแข็งทื่อ เพราะรับรู้ถึงความเย็นจัดจากหยดน้ำที่ซึมผ่านเนื้อผ้าชุดนอนพร้อมการโอบรัดจากด้านหลัง ร่างหนาด้วยมัดกล้ามแนบชิดทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบ“ทะ...ทำอะไร”เสียงหวานถามแ