“เป็นยังไงกันบ้างเด็กๆ ไปเที่ยวกันสนุกไหม” นางดุจเดือนเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนพร้อมหน้ากัน เพื่อรับประทานอาหารค่ำ ที่โต๊ะอาหารบ้านหลังใหญ่ นางสังเกตว่า หลังจากที่ลูกชายของนางกลับจากไปเที่ยวครั้งนี้ เขามีสีหน้าวิตกกังวลอะไรบางอย่าง คนอื่นอาจไม่ได้สังเกตุ แต่นางเป็นแม่ นางเลี้ยงของนางมา ทำไมจะไม่รู้ นิสัยลูกชายเป็นยังไง“สนุกมากเลยค่ะแม่ ที่ตลาดโรงเกลือปรายได้ผ้ามือสองมาเยอะเลยค่ะ แต่คาดว่าน่าจะยังไม่ทำอะไร เพราะพรุ่งนี้ปรายต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว คงต้องรอให้ปรายฝึกงานเสร็จ ถึงจะได้กลับมาจัดการกับผ้า กานดารา” ตอบคำถามมารดาก่อนใคร“แล้วเตรียมของรึยังลูก พรุ่งนี้จะออกเดินทางกี่โมง หนูจะแวะนอนที่หอก่อนใช่ไหม โทรหาพี่ปราณแล้วหรือยัง หนูจะแวะนอนกับพี่ปราณเขาก่อนใช่ไหม” นายอลงกต ถามบุตรสาว ท่าทางสบายๆ“แม่เตรียมของที่จะฝากไปให้พี่ปราณเขาแล้วนะลูก พรุ่งนี้ก็เอาขึ้นรถได้เลย แล้วเรื่องรถพร้อมแล้วใช่ไหม ดูดีๆ นะลูก ดูน้ำดูน้ำมันให้ดี ค่อยๆ ขับไป ไม่ต้องรีบ” นางกรกนกพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ นางและสามีมั่นใจในตัวลูกสาว ปรายลดาเดินทางบ่อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกสาวคนเล็กของนาง เดินทางด้วยรถยนต์คนเดียว
“ปรายเป็นยังไงบ้าง จะเดินทางวันไหน มากันกี่คน เห็นแม่บอกว่าคุณตะวัน พี่ภาษ น้องกานมาด้วยใช่ไหม พี่จะได้เตรียมห้องไว้รอ อยากนอนที่บ้านพัก หรือที่บ้านในเมืองดี ในเมืองก็จะสะดวกหน่อย ที่บ้านพักก็ตามอัตภาพ”ปราณลดา โทรหาน้องสาว เธอดีใจมากที่น้องสาวมีเพื่อนช่วยขับรถมาส่ง จริงๆ น้องสาวเธอเคยเดินทางด้วยการขับรถมาเองมาหาเธอแล้วหลายครั้ง พ่อแม่และตัวเธอก็เป็นห่วงทุกครั้ง แต่น้องสาวเธอก็เดินทางด้วยความระมัดระวัง และปลอดภัยตลอด น้องปรายขับรถเก่ง และกล้าตัดสินใจ ต่างกับตัวเธอ ไม่ชอบขับรถ และไม่ค่อยชอบเดินทางไกล เธอกับน้องสาวนิสัยไม่เหมือนกันเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องกันและหน้าตาจะคล้ายกันมากก็ตาม“ปรายอยากนอนที่บ้านพักมากกว่าค่ะพี่ปราณ ไปอยู่อีกหลายวันกว่าจะได้ฝึกงาน มีโอกาสค่อยเข้าไปเที่ยวในเมืองก็ได้ค่ะ สองห้องนะคะพี่ปราณ พี่ภาษพี่ตะวัน ปรายกับกาน ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอกค่ะ พวกเราอยู่ง่ายกินง่าย”“ได้จ๊ะ พอดีกว่าปรายจะมาถึง พี่ธานินคงกลับมาแล้ว จะได้พบกัน งั้นแค่นี้นะปราย พี่ไม่กวนแล้ว เดินทางปลอดภัยตลอดเส้นทางนะน้องรัก”“ขอบคุณมากค่ะพี่ปราณ ไว้เจอกันนะคะ ไว้ออกเดินทางแล้วปรายจะโทรหาอีกครั้งค่
"อย่าคิดมากน่าเกรียง มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน ปล่อยไปก่อนสักพัก ทำไมแกไม่คิดว่ะ ว่าช่วงที่แกเข้าป่า อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ ตั้งใจทำงานเถอะ บางทีมันอาจมีอะไรๆ ดีขึ้นก็ได้ ตอนนี้ก็ปล่อยกัญญาไปก่อน เขาก็ไปอยู่กับแม่เขาไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ไปอยู่ที่อื่นสักหน่อย แกต้องให้เวลาและหัดปล่อยวางเสียบ้าง ขืนคิดอยู่แบบนี้ตายพอดี ไม่มีกะจิตกะใจทำงานหรอก งานสำคัญน่ะเว้ยเกรียง ถ้าไม่มีงานแกจะอยู่ยังไง เรียนมาก็ตั้งเยอะ ปัญหาแค่นี้เอง"เกรียงไกรกำลังใจดีขึ้นเมื่อได้รับคำปลอบใจจากเพื่อนสนิท แต่ในหัวเขาก็มีแต่เรื่องของกัญญา สองสามเดือนมานี่ กัญญาหงุดหงิดใส่เขาเกือบทุกวัน อารมณ์ฉุนเฉียว เขาทำอะไรก็ผิดไปหมด เธอบอกว่าเขาขี้หึง ควบคุมเธอตลอด ไม่ให้ออกไปเที่ยวไหน แค่งานเธอก็ปวดหัวมากพอแล้ว ยังมาเจอเขาหึงหวงอีก ทะเลาะกันทุกวัน กัญญาบอกว่าช่วงที่เขาเข้าป่าเธอขอไปอยู่บ้านกับแม่ ไว้ให้เขาออกจากป่าแล้วถึงจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกสัปดาห์เดียวเขาต้องเข้าป่าแล้ว เขายอมรับว่าเขาห่วงกัญญามาก งานที่กัญญาทำต้องพบปะเจอผู้คนมากหน้าหลายตา แต่เขาซิต้องอยู่แต่ในป่า กัญญาหน้าตาสวย เขากลัวใจเธอ เขาพยายามไม่คิดมาก แต่มันก็อดคิดไม่
หนุ่มสาวทั้งสี่คน ตะวัน ประภาษ ปรายลดา กานดารา เดินทางถึงที่หมายตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน ธานินทร์มารอรับทุกคนที่บ้านพักของปราณลดาตั้งแต่เช้าแล้ว ธานินทร์และปราณลดา เตรียมอาหารไว้รอต้อนรับน้องๆ มากมาย สองพี่น้องปรายลดา และปราณลดา ไม่ได้พบหน้ากันนานมาก ส่วนมากคุยกันผ่านโทรศัพท์ตลอดบ้านที่ปราณลดาอยู่ เป็นบ้านส่วนตัวที่ธานินทร์และหญิงสาว ร่วมกันสร้างเพื่อที่จะได้มาอยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน เธอชอบที่นี่มาก เหตุผลแรกที่เธอเลือกสอบบรรจุมาสอนที่จังหวัดนี้เพราะธานินทร์ ธานินทร์อายุมากกว่าปราณลดา 4ปี ญาตพี่น้องของธานินทร์เอ็นดูเธอมาก อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ใจดีใจเย็น ทำกับข้าวเก่ง มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน นิสัยดีเรียบร้อยอ่อนหวาน ต่างกันปรายลดามากจริงๆ แล้วธานินทร์และปราณลดามีกำหนดเวลาว่าจะต้องขึ้นไปที่นครนายก เพื่อไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของหญิงสาว และพูดจาสู่ขอ หาฤกษ์แต่งงาน หลังจากที่ปรายลดาฝึกงานเสร็จทุกคนตื่นเช้ามาพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร เจ้าบ้านธานินทร์และปราณลดา จัดเตรียมอาหารใต้ไว้มากมาย"พี่ปราณ ปรายขอโทษนะคะที่มาตรงกับที่พี่ปราณจะขึ้นไปหาพ่อกับแม่พอดี จริงๆ พี่ปราณกับพี่ธานินทร
ที่บ้านพักของธานินทร์และปราณลดา รับประทานอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอนพักผ่อน ประภาษกับตะวันพักห้องเดียวกันสองหนุ่มผลัดเปลี่ยนกันขับรถจากนครนายกจนถึงใต้ ทั้งสองขอตัวพักผ่อนเลย เพราะมีความรู้สึกว่าเพลีย นานๆ ทั้งสองคนได้มีโอกาสขับรถไกลๆ แบบนี้ ทำให้มีอาการเหนื่อยล้า"ภาษผมมีเรื่องปรึกษา" ตะวันเอนตัวลงนอนไปแล้ว ลุกขึ้นนั่งหันหน้าไปพูดกับประภาษที่กำลังออกมาจากห้องน้ำ จริงๆ เขานอนแล้ว แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องของปรายลดา"มีอะไรเหรอตะวันว่ามาเลย ถ้าผมเดาไม่ผิด เรื่องน้องปรายรึเปล่า มีอะไรล่ะ""ผมคิดว่าถ้าน้องปรายฝึกงานแค่ 1หรือ 2 สัปดาห์ ผมจะอยู่รอน้องปรายที่นี่ ให้คุณกับน้องกานกลับบ้านไปก่อน ผมจะขอยืมรถไว้ใช้ก่อนได้ไหม เดี๋ยวผมจองตั๋วเครื่องบินให้คุณกับน้องกานกลับบ้านเอง ผมไม่อยากให้ขับรถกลับ เพราะถ้าขับรถกลับคุณต้องขับคนเดียว น้องกานช่วยไม่ได้หรอก เพิ่งขับรถเป็น" ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง"ห่ะ...เอาจริงเหรอตะวัน นี่ผมนึกว่าพูดเล่นๆ นะนี่ นี่จริงจังใช่ไหม ผมเองไม่มีปัญหาหรอก แต่คนอื่นล่ะเขาจะคิดยังไง พี่ธานินทร์ ปราณ ไหนจะทางบ้านเรา
“พี่ๆ คะ ปรายเข้าไปรายงานตัวก่อนนะคะ กานปรายไปก่อนนะ ปรายลดาใส่ชุดนักศึกษา เสื้อนักศึกษาสีขาว กระโปรงยาวมากจีบยาวรอบตัว มัดผมด้วยโบว์สีขาว สดใสมากๆ ปรายลดาเดินเข้าไปพร้อมกับเพื่อนๆ ที่มาฝึกงานด้วยกัน ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ผู้หญิงหลายคน รวมๆ กับผู้ชายด้วย ก็น่าสนุกเลยล่ะ” เจ้าตัวตื่นเต้นไม่น้อยแต่คนที่มาส่งบางคนนี่ซิ ไม่ได้สดใสเลย เหมือนหมาเหงา ประภาษสะกิดตะวัน นี่ตะวัน ทำหน้าดีๆ หน่อย น้องผมไปฝึกงานนะ ไม่ได้ไปเป็นอะไรสักหน่อย รอลุ้นว่าจะกี่วัน ภาวนาซิ“สวัสดีครับพี่ธานินทร์ ขอโทษนะครับยังอยู่ในห้องประชุมอยู่เลย เตรียมรับน้องครับ เดี๋ยวเสร็จแล้วอีกสักพักผมออกไปนะครับพี่”เกรียงไกรวางสายจากธานินทร์ วันนี้เขายุ่งมาก ยุ่งมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว งานยุ่งๆ ทำให้เขาลืมเรื่องที่มีปัญหากับกัญญาไปได้บ้างเขาได้ยินข่าวแว่วๆ มา เรื่องของการพาน้องฝึกงาน ทุกคนเดาๆ กันอยู่ว่าระยะเวลาจะลดลง หรือจะเพื่มขึ้น เขาภาวนาขอให้ลดลงด้วยเถอะ ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิด เขาจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่เลยนักศึกษาฝึกงานปีนี้ค่อนข้างเยอะ ทั้งหญิงและชายเกือบจะเท่าๆ กัน บางทีเขาก็แปลกใจมาก ทำไมเด็กผู้หญิงสมัยนี้ชอบที่จะเรี
“น้องปรายรับนี่ไว้นะครับ พี่อยากให้ใส่ติดตัวไว้ตลอด พระองค์นี้พี่นับถือมาก น้องปรายเข้าไปอยู่ในป่า ท่านจะได้คุ้มครองน้องปราย และก่อนนอนอย่าลืมสวดมนต์ พี่อวยพรขอให้น้องปรายปลอดภัยตลอดเวลาที่ฝึกงานนะครับ” เสียงเขาสั่นนิดหน่อย ทั้งที่พยายามบังคับตัวเองแล้วก็ตาม“ขอบคุณมากค่ะพี่ตะวัน นี่ดีนะคะที่พ่อให้มา ไม่เป็นสร้อยเหมือนของพี่ เป็นแค่องค์พระเฉยๆ ถ้าเป็นสร้อยเหมือนของพี่ตะวัน มีหวังปรายหนักคอแน่เลยค่ะ” หญิงสาวสวมสร้อยทันทีที่รับมาจากมือชายหนุ่ม“ไว้ปรายกลับออกมาแล้ว ปรายจะคืนให้นะคะจะรักษาไว้อย่างดีเลย” เธอยกมือไหว้ ขอบคุณเขาอีกครั้ง“รักษาไว้ดีๆ นะ น้องปราย เห็นไหม มีแต่คนห่วงเรา ดูแลรักษาตัวเองให้ดี ทุกคนรอน้องปรายกลับออกมา อย่างปลอดภัยนะ แต่พี่ว่าเราแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่น่าห่วงหรอก ใช่ไหม” ประภาษตบบ่าหญิงสาวเบาๆ“รับทราบค่ะพี่ภาษ ปรายจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ "ไม่ใช่แค่คำพูด สายตาเธอก็แน่วแน่มากหญิงสาวเข้าไปกอดปราณลดา “ปรายจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดนะคะพี่ปราณ ไม่ต้องห่วงนะคะ”“พี่ปราณคนนี้เชื่อมั่นในตัวน้องสาวของพี่เสมอ คนเก่งของพี่” เธอลูบหัวน้องสาวเบาๆ“ปรายอย่าเพิ่งไป ขอกอดหน่อย" กาน
“เป็นยังไงครับน้องปราย กางเต้นท์ได้ไหม มาครับพี่ช่วย” เกรียงไกรที่เพิ่งว่างจากการประชุม รีบเดินตรงลิ่วมาหาปรายลดา เขาจับตามองเธอตลอดเวลา คอยหาโอกาสเข้ามาพูดคุย เธอไม่ได้อยู่กลุ่มของเกรียงไกร“ขอบคุณค่ะพี่เกรียงไกร ไม่เป็นไรค่ะ ปรายจัดการกับเพื่อนเองได้ค่ะ พี่ครรชิตก็ดูแลอยู่ ขอบคุณมากนะคะ เชิญพี่เกรียงไกรตามสบายเลยค่ะ มีหลายคนที่ยังกางเต้นท์ไม่คล่อง ทางด้านโน้นค่ะพี่ ปรายขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” หญิงสาวพูดแล้วผละจากเขาไปหาเพื่อน จัดการใช้มีดถางหญ้า รอบบริเวณที่จะกางเต้นท์ โดยไม่ได้สนใจเขาอีกเลยนั่นทำให้เกรียงไกรรู้สึกว่าเสียหน้ามาก ไม่ใช่แค่ปรายลดาที่อยู่ตรงนั้น น้องฝึกงานอีก ทั้งกลุ่มก็รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นด้วย เขาสู้อุตสาห์แวะมาเพื่อจะช่วยเหลือหญิงสาว กลับได้รับการปฏิเสษ วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเธอเลย และเธอก็เหมือนจะรู้ตัว คอยหลบหลีกเขาได้ตลอดเวลา และเพื่อนเขาก็เหมือนจะเข้าข้างเด็กกลุ่มนี้ เขาสงสัยว่าทำไมแทนที่ปรายลดา จะต้องอยู่กลุ่มที่เขาต้องดูแล แต่กลับกลายเป็นครรชิต ที่ต้องมาดูแลกลุ่มนี้แทน ช่างเถอะ เขาไม่สนใจหรอก ต้องมีโอกาสสักวันเขาเริ่มที่จะส
“น้องกาน น้องกาน” เสียงตะวันตะโกนเรียกกานดาราอยู่หน้าห้องของเธอ หญิงสาวสะดุ้งตกใจกับเสียงเคาะประตูนั้น เธอเงยหน้ามองหน้าฬิกาโบราณเรือนใหญ่ที่ผนังห้อง เกือบตีสามแล้ว อะไรกันนี่พี่ตะวันเป็นอะไร ก็เธอบอกว่าจะลงไปเอาโทรศัพท์เอง จะมาเคาะประตูทำไม ไม่อยากเห็นหน้าเลย คนใจร้าย ทำไมพี่ชายเธอถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้ อะไรดลใจให้เขาทำแบบนั้น เสียงเคาะนั่นดังถี่ขึ้น จนเกือบจะกลายเป็นทุบ“อะไรคะพี่ตะวัน” เธอเปิดประตูห้องนอน“กานบอกแล้วไงคะว่าจะไปเอาโทรศัพท์เอง ไม่ต้องเอาขึ้นมาให้หรอกค่ะ”เธอเห็นหน้าพี่ชายเธอ ตาแดง ผมเผ้ารุงรัง เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวพันแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ทั้งสองข้าง ท่าทางอิดโรย เหมือนยังไม่ได้นอน สมน้ำหน้าใครจะไปนอนลง ถ้านอนได้ก็แสดงว่า ไม่ใช่คนแล้วล่ะ"น้องกานออกมาคุยกับพี่หน่อย" พี่ทนรอถึงพรุ่งนี้ไม่ได้ มาเถอะมาคุยกับพี่หน่อย"ท่าทางและหน้าตาของพี่ชายเธอตอนนี้ หมดอาลัยตายหยากมาก เดินเหมือนไม่ใรสติ เขาไม่ได้เมา เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ทำตัวเองทั้งนั้น เธอเกลียดมากผู้ชายนิสัยแบบนี้ เห็นแก่ตัว ไม่น่าเชื่อว่าพี่ชายเธอจะเป็นแบบนี้ไปได้เธอเคยเคารพ และนับถือเขามาก เขาเป็นไอดอลของเธอ เป็นพี่
พ่อขา แม่ขา ปรายขอลาไปพักผ่อนสักพักนะคะ อาจสองปีสามปี หรือมากกกว่านั้น ปรายกลับมาแน่นอนค่ะ ปรายขอรถพ่อไปใช้คันหนึ่งนะคะ คันที่ไม่มีใครรู้ว่าบ้านเรามี ปรายขอโทษพ่อกับแม่นะคะ ที่ไม่เข้มแข็งพอ ยังไม่ได้ตอบแทบบุญคุณของพ่อกับแม่เลย ปรายอาจยังเด็ก เลยรับมือกับปัญหายังไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินนะคะ ปรายพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง และเบอร์โทรนี้ ปรายจะยกเลิกนะคะ เดี๋ยวปรายจะติดต่อมาเองค่ะ ขณะที่แม่กับพ่ออ่านแชทนี้ ปรายก็งไปไกลมากแล้ว สุดท้ายนี้ปราย ขอให้พ่อกับแม่มีสุขภาพแข็งแรง รักพ่อกับแม่มากนะคะ อ่อ...พวกเครื่องประดับ ปรายไม่ได้เอามาด้วยนะคะ ยังอยู่ในเซฟครบทุกอย่าง รักพ่อกับแม่มากค่ะ ปรายลดา................นายอลงกต มองหน้าภรรยา หน้านิ่ง “จนได้นะหนูปราย แม่เห็นว่ายังไงล่ะ” เขาถามภรรยา“จะยังไงล่ะ ก็ต้องตามนั้น ก็รู้กันอยู่ นิสัยน้องปราย ถ้าไม่ที่สุดแล้ว ไม่เป็นแบบนี้หรอก แม่ไม่เป็นไรหรอกพ่อ ดีเสียอีก ลูกจะได้อยู่กับตัวเอง คิดทบทวน ปล่อยเขาไปสักพัก สบายใจดีแล้วคงติดต่อกลับมา ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเราอยู่แล้ว เราก็ให้อิสระลูกเต็มที่ แล้วแต่เขาแม่ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวเขาก็กลับมา เราสอง
ปรายลดาตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ตะวันกับกานดาราเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เธอจะอาศัยช่วงเวลานี้ เอาตัวเองออกไปจากที่ตรงนี้สักพัก ไว้หัวใจเธอแข็งแรงดีแล้วเธอจะกลับมา พ่อกับแม่เธอไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าเธอหายไปท่านทั้งสองก็จะรู้ว่าเธอเป็นอะไร ครั้งนี้เธอเจ็บเหลือเกิน โธ่เอ้ยปรายลดา ริจะรักก็อกหักซ่ะแล้วหญิงสาวไม่เข้าใจเลย ทำไมกับการที่เธอขอเวลา เพื่ออยู่กับตัวเองสักพัก มันจะทำให้ความรักที่ตะวันรักเธอมันหมดไปเลยเหรอ ปากเขาก็บอกว่ารักเธอ รอเธอได้ จะไม่บังคับเธอ จะตามใจเธอทุกอย่าง จะรอวันที่เธอพร้อม ชีวิตนี้จะมีแต่เธอคนเดียว คำพูดเหล่านี้ เธอจำมาตลอด จำจนขึ้นใจ นึกโมโหตัวเองที่หลงเชื่อเขาง่ายๆ สุดท้ายก็เจ็บอยู่คนเดียวแต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับรอเธอไม่ได้ ในกรณีที่รอไม่ได้แล้วทำแต่งาน บ้างาน เธอจะไม่คิดอะไรเลย แต่นี่เขากลับกลายเป็นคนละคน เขาแอบมีคนอื่น ถามว่าทำไมเธอรู้ คนเราคบกันเป็นแฟน พออีกคนเปลี่ยนไป ใครบ้างจะไม่รู้ ที่เธอขอเวลา ใช่ว่าเธอจะมีคนอื่น เธอแค่อยากทำงาน อยากดูแลพ่อแม่ อยากสานต่อธุรกิจที่บ้าน เอาตรงๆ เธออยากตอบแทนบุญคุณพ่อและแม่บ้าง อยู่ๆ เรียนจบมาแล้วจะให้แต่งงานเลย เธอคิดมันไม่ใช่หญิงสาวใ
ตั้งแต่ปรายลดากลับจากใต้ ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบหกเดือนแล้ว บ้านของตะวันสร้างเสร็จเรียบร้อยและย้ายเข้ามาอยู่แล้ว ตกลงว่าเขาสร้างบ้านสองหลัง หลังเล็กสร้างให้กานดารา เขาให้เหตุผลว่า เผื่อน้องสาวแต่งงานแล้วอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เลยสร้างให้อีกหลัง ซึ่งประภาษก็เป็นคนออกแบบให้เหมือนเดิม นางดุจเดือนมีความสุขมาก ได้ทำอาหาร ได้ทำสวนครัว ได้ปลูกดอกไม้ ตอนนี้นางลุ้นอยู่อย่างเดียวคือ รอให้ตะวันแต่งงาน นางอยากเลี้ยงหลาน อยากอุ้มหลานนางไปทาบทามฝั่งของปรายลดาแล้ว แต่เห็นว่าปรายลดาขอเวลาอีกสักหน่อย นางเข้าใจในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ปรายลดาเพิ่งจะเรียนจบ และรับปริญญาไป หญิงสาวอาจอยากอยู่กับตัวเอง อยากเป็นอิสระ ยังอยากอยู่คนเดียว ผู้หญิงเรื่องมีครอบครัวต้องคิดเยอะหน่อย แต่ลูกชายนางนี่ซิ ใจร้อน อยากแต่งเสียเร็วๆ บางทีผู้ชายก็ไม่เข้าใจผู้หญิง นางก็คอยบอกให้เขาใจเย็นๆ ต้องให้เวลาปรายลดาบ้าง“พ่อว่ายังไงล่ะ พี่ดุจเดือนเขาทาบทามน้องปรายให้พ่อตะวันแล้วนะคะ แม่ว่าพ่อตะวันเขาก็ดูดีทุกอย่างเลยนะ ทั้งฐานะ หน้าที่การ อายุ พร้อมทุกอย่าง สามารถจะดูแลลูกสาวเราได้ ไม่ลำบากหรอก” นางพูดไปเรื่อยๆ แต่หน้าตาก็มีความก
"แม่ครับ รถคันนี้นั่งสบายไหมครับ" ตะวันสังเกตว่า แม่ของเขานั่งเอนหลังท่าทางสบายมาก"สบายมากเลยลูก นิ่ง เสียงเงียบ เก้าอี้ใหญ่นั่งสบาย แม่ชอบ" นางดุจเดือนพูดตามที่ตัวเองรู้สึก"น้องกาน ชอบไหม" ตะวันมองผ่านกระจกถามน้องสาว ที่นั่งแถวหลังคนขับ สายตาเขาเลยไปหาคนที่นั่งข้างกานดาราด้วย ได้เห็นสักนิดก็ยังดี แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว ได้อยู่ใกล้ๆ ได้เห็นหน้า"ชอบค่ะพี่ตะวัน กานชอบตั้งแต่นั่งไปใต้แล้วนะคะ คันใหญ่ นิ่งและนิ่มสบายดี กานยังคุยกับปรายเลยค่ะ ตอนที่เราไปใต้ว่าชอบรถคันนี้นอนสบาย""ถ้าทุกคนชอบ พี่ว่าจะซื้อไว้ใช้สักคัน พี่ก็ชอบใช้แล้วติดใจเลย ใหญ่ไปนิดแต่ ขับสบาย แถมประหยัดน้ำมันด้วย เวลาพาแม่เดินทาง จะได้นั่งสบายๆ ไม่เหนื่อยมาก""ถ้าคุณจะซื้อบอกผมนะ ผมจะพาไปดู เซลล์ที่ขายให้ผม บริการดีมาก" ประภาษบอกกับตะวัน"โอเคงั้น ไว้สักประมาณอาทิตย์หน้า เรามาดูด้วยกันนะ แม่กับน้องกานเลือกสีไว้ได้เลยนะครับ ผมคิดว่าไปนครนายกก่อน ไม่เกินอาทิตย์หน้า ผมจะขึ้นมาดูรถ ถ้ามีสีตามที่ต้องการ ก็จะตกลงซื้อเลย ""กานพี่เขาตอบมาแล้วนะ ปรายส่งผ้าลอตเก่าไปให้เขาดู ห้าสิบชุด รับไปสามสิบ ที่เหลือถ้าขายไม่ได้ เราก็เก็บไว้ใส
ปรายยังไงเนี้ย ตกลงเขาจะมาซื้อของหรือทักมาหาปรายเฉยๆ เอาดีๆ กานงงแล้วนะ วิเคราะห์จากคำพูดที่เขาพิมพ์มา กานว่าเขาไม่ได้มาซื้อของหรอก กานเข้าไปส่องไอจีเขาแล้ว เอฟซีเขาเพียบ สวยๆทั้งนั้น กานไม่เชื่อว่าเขาไม่มีคนคุย เขาไปกดถูกใจสาวๆเพียบเลย มีแต่คนสวยๆ แล้วปรายไปรู้จักเขาได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเป็นรุ่นพี่ของปราย เพิ่งจบไปปีที่ผ่านมา เรียนคณะเดียวกัน ตอนที่พี่เขาเรียนเขาก็เข้าวงการแล้ว เราทำกิจกรรมด้วยกัน พี่เขามีแฟนแล้ว ไม่นานก็เลิกกันไป เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มาก จีบดะ ยกเว้นปราย ปรายจะคุยแค่งาน จบเรื่องงานก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตอนที่ปรายขายของในเพท พี่เขาเข้ามาทัก กดถูกใจในไอจีเวลาเราลงรูป นี่ห่างไปนานนะ เพิ่งจะมากดถูกใจ ที่ปรายตื่นเต้นเพราะ เพื่อนพี่เขามาสั่งชุดฮาวายกับปราย นี่ไงดูซิ เขาออเดอร์มาหลายชุดมาก ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ทักมาบอกว่าเพื่อนเขาอยากดูรูปชุดฮาวาย เรายังไม่ได้ซักไง แต่ปรายได้เบอร์เพื่อนเขาแล้วนะ ต่อไปนี่ก็จะติดต่อกับเพื่อนเขา ไม่ต้องผ่านพี่ผู้ชายแล้ว สบายใจได้เลย ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ปรายบอกพี่ตะวันเอง ปรายเห็นหน้าพี่ตะวันแล้วเมื่อกี้ รู้ว่าจะต้องทำยังไง นี่ถ้า
"กินน้ำเต้าหู้แล้วคิดถึงที่บ้านปรายเนาะ ที่เราออกไปช่วยลุงกับป้าขายน้ำเต้าหู้ กานว่าที่บ้านปรายอร่อยกว่าเยอะเลยนะ หรือเราชินทางโน้น กานว่าจะซื้อของไปฝากป้ากับลุงสักหน่อย แต่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี"" ปรายซื้อผ้าถุงมาฝากป้า กางเกงเลมาฝากลุง จริงๆ กานไม่ต้องซื้อหรอก หรือแล้วแต่กานล่ะกัน เผื่ออยากให้ ไว้เราค่อยหาดูพรุ่งนี้ก็ได้ หลังจากกลับจากโรงงาน""ทุกคนครับ เดี๋ยวภาษจะเข้ามานะครับ เขาเข้ามาธุระเรื่องกาแฟที่กรุงเทพฯ ผมเลยชวนเขามาพักบ้านเรา พอดีเลยจะได้กลับพร้อมกันวันมะรืน เราก็จะได้คืนรถภาษด้วย ดีเหมือนกันนะครับ แม่ ผมจะได้ดูแบบบ้านกับเขาเลย เดี๋ยวให้ภาษนอนห้องเดียวผมเลยล่ะกันนะครับ""แล้วพี่ภาษมารถอะไรคะพี่ตะวัน" ปรายลดาถามชายหนุ่ม"มากับเพื่อนครับ เขาเห็นว่าเราจะกลับบ้านกันวันมะรืนก็เลยจะกลับด้วย ผมรบกวนแม่เตรียมที่นอนให้ภาษด้วยนะครับ พวกชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว" "เดี๋ยวกานไปเตรียมให้ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ลำบากแม่ขึ้นลง ปรายไปช่วยกานหน่อยนะ "สองสาวขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เพื่อเตรียมที่นอนให้ประภาษ "เดี๋ยวเราไปเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หมอน ผ้าเช็ดตัวก่อนนะ ตู้เก็บผ้าอยู่ที่ห้องอีกห้
แม่ขา พี่ตะวันโทรมาแล้วค่ะ น่าจะถึงแล้ว เดี๋ยวกานออกไปเปิดประตูเองนะคะแม่ กานดารารีบวิ่งออกไปหน้าบ้้าน เพื่อเปิดประตูให้พี่ชายและปรายลดา เธอคิดถึงทั้งสองคนเลยสวัสดีค่ะพี่ตะวัน ไม่ได้เจอพี่ตะวัน หนึ่งเดือนเต็ม ๆ ดูมีความสุขมากเลยนะคะ หน้าตาอิ่มเอิบมาก อ้วนขึ้นไหมคะเนี้ย กานดาราทักทายพี่ชายของเธอ ทำไม ดูพี่อ้วนขึ้นเหรอน้องกาน ช่างสังเกตุนะเรานี่จริงอย่างที่น้องสาวเขาทัก เขาน้ำหนักขึ้นสามกิโล นั่งๆนอนๆ เฝ้าสาว คงเป็นเพราะสบายใจด้วยล่ะ ธรรมดาของคนมีความสุขไปๆช่วยพี่ขนของก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันปรายเป็นไงบ้าง นี่คล้ำลงนะเนี้ย ใช่ไหม พี่ตะวันอ้วนขึ้น ปรายผอมลง สลับกัน คิดถึงเพื่อนจังเลย ไหนของฝาก กานดาราแหย่เพื่อนเล่นๆ กานเฝ้ารอของฝากจากทางใต้ นี่รอตั้งแต่เช้าแล้วรู้ไหม พี่ตะวันขับรถช้าหรือเปล่านะสบายดี กานก็เหมือนเดิมเลยนะ ของฝากอยู่ในกระเป๋า มีเพียบเลย ปรายไปเจอร้านผ้าฮาวายด้วย ได้มาฝากกานหลายชุดเลย พี่ตะวันไม่ได้ขับรถช้าหรอก เราแวะซื้อของกินบ่อย รถไม่เยอะด้วยแหละ เลยมาแบบสบายๆสองสาวรีบขนของเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตะวันบอกสองสาว เมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มที่จะคุยกันยาวสว
ใครมากดออดหน้าบ้าน น้องกานไปดูหน่อยลูก" "ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวกานไปดูเอง ไม่น่าจะเป็นคนที่รู้จักนะคะ กดกริ่งรัวๆ แบบนี้""นี่ตะวันอยู่ไหม ทำไมพี่โทรหาแล้วเขาไม่รับสายเลย เขาอยู่ที่นี่ไหม น้องกาน เปิดประตูให้พี่หน่อย" "สวัสดีค่ะพิ่กิ่งกาญณ์ มีธุระอะไรเหรอคะ พี่ตะวันไม่อยู่หรอกค่ะ ไปทำงานที่ใต้ หลายวันแล้วมีอะไรไหมคะ ฝากกานไว้ก็ได้นะคะ อีกหลายวันค่ะ กว่าพี่ตะวันจะกลับ" "ตะวันไปทำงานที่ไหนคะ มีที่อยู่ไหม จังหวัดอะไร แล้วนอกจากเบอร์เดิม ตะวันมีเบอร์อื่นอีกไหมคะ น้องกาน นี่น้องกานจะใจดำ ไม่ให้พี่เข้าไปสวัสดีคุณแม่เลยเหรอคะ พี่เหนื่อยแล้วก็ร้อนมาก ""ขอพี่เข้าไปไหว้คุณแม่หน่อยนะคะ แป๊ปเดียว ทำยังกับว่าบ้านนี้พี่ไม่เคยมางั้นแหละ""ไม่ต้องลำบากหรอกนะหนูกิ่งกาญณ์ พอดีพวกเราจะออกไปธุระข้างนอกกัน ไม่สะดวกเลยจ๊ะ""สวัสดีค่ะคุณแม่ แหม.....กิ่งมาผิดวันใช่ไหมคะ คุณแม่สบายดีนะคะ กิ่งคิดถึงทุกคนเลยนะคะ โดยเฉพาะตะวัน เขาคงงอนกิ่งนะคะ กิ่งโทรไปเข้าไม่รับสายกิ่งเลย ไม่เป็นไร วันหลังเดี๋ยวมาใหม่นะคะคุณแม่ น้องกาน" กิ่งกาญณ์จำต้องถอยกลับไปก่อน เอาเถอะไว้เธอติดต่อตะวันได้ เธอก็ต้องมาที่นี่อยู่วันยังค่ำ ทำไมเ