ในโลกของการแข่งขันที่ดุเดือด ทั้งในเวทีมวยและวงการธุรกิจใต้ดิน ค่ายมวย ‘ศักดิ์ประภาไฟต์คลับ’ ของครอบครัวเจนต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา แต่เป็นภัยคุกคามที่มาจากกลุ่มทุนสีเทาที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดกลุ่มทุนสีเทานี้ไม่เพียงแต่มีเป้าหมายทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมผิดกฎหมาย ตั้งแต่การล้มมวย การจัดการแข่งมวยเถื่อน ไปจนถึงการบังคับใช้แรงงานในธุรกิจสีดำ พวกเขาเล็งเห็นถึงความโดดเด่นของค่ายศักดิ์ประภาไฟต์คลับ ที่ผลิตนักมวยฝีมือดีอย่างต่อเนื่อง และต้องการดึงนักมวยเหล่านี้ไปอยู่ในเงื้อมมือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองในยามบ่ายวันเสาร์ที่เงียบสงบผิดปกติของค่ายมวย เจนยืนอยู่กลางลานซ้อมมวย ดวงตากลมโตมองดูบรรดานักมวยที่กำลังซ้อมอยู่ด้วยสีหน้าขึงขังผิดวิสัย เสียงกระสอบทรายที่ถูกต่อยดังเป็นจังหวะ แต่กลับไม่ได้ช่วยให้ความกังวลในใจเธอเบาบางลง“เจน” เสียงพี่เดย์ดังขึ้นจากด้านหลัง“มีอะไรเหรอพี่?” เจนหันไปถาม“พี่มีเรื่องต้องบอก...” เดย์สูดลมหายใจลึก สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเดย์พยักหน้าเรียกให้เธอเดินตามไปที่ห้องทำงาน ภายในห้องนั้นมีพี่กร กรวิชญ์ พี่คนโต หัวหน้าค่ายมวย และ
ช่วงเย็นวันเดียวกัน เชษพาเจน ฟ้า แจง และเพื่อนๆ ในกลุ่มของเขาไปฉลองชัยชนะที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังย่านทองหล่อ ‘คิซึนะ อิซากายะ’ ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่ตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษสีส้มอบอุ่น บรรยากาศเงียบสงบแต่มีความเป็นกันเอง“ร้านนี้หรูเหมือนกันนะ” แจงพูดพลางมองไปรอบๆ ร้าน“ใช่ แต่อาหารอร่อยมาก จนลืมเรื่องราคาไปเลย” เชษตอบพร้อมรอยยิ้ม“ถ้านายจ่าย ฉันก็ไม่มีปัญหา!” เจนพูดพลางยักคิ้วขำๆเชษหัวเราะในลำคอ“ฉันเลี้ยงเอง”“เย้!!!”เสียงเพื่อนๆ เฮลั่นพร้อมกัน ทุกคนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ขณะนั่งล้อมโต๊ะยาวกลางร้าน พนักงานเสิร์ฟชาเขียวเย็นให้แต่ละคน พร้อมยื่นเมนูหลากหลายที่ชวนให้น้ำลายสอ“สั่งไรดี?” แจงถามขณะพลิกดูเมนูไปมา ฟ้าก็ก้มหน้าก้มตาดูเมนูด้วยท่าทางตั้งใจ“ซาชิมิรวม ชุดเทมปุระ ข้าวหน้าปลาไหล...แล้วก็อย่าลืมราเมน” เชษพูดขึ้น“สั่งเยอะไปปะ?” เจนแซว“ก็เธอหิวไม่ใช่เหรอ?”เชษพูดยิ้มมุมปาก ทำเอาเจนหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะรีบสั่งข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเพิ่มทันที“ขอเหล้าบ๊วยด้วย!!” ฟ้ากับแจงยกมือสั่งพร้อมกัน“สาเกอีกชุด” โจ้กับเฟย์พูดต่อแบบไม่ยอมแพ้“พวกแกจะถล่มเชษรึไง” เจนหันไปดุเพื่อนสองคน“ไม่เ
[เจน - พิเศษ]เหล้าบ๊วยทำเรื่องให้ฉันซะละ รู้สึกมึนๆ ร้อนวูบวาบไปทั่วตัว เหมือนคุมตัวเองไม่ได้ โชคดีที่เชษไปด้วย เขาพาฉันกลับห้อง ขณะที่ฉันกำลังมึนได้ที่...เขาวางตัวฉันบนเตียง ฉันปรือตามองเขาเบลอๆ เห็นร่างเขาคร่อมอยู่เหนือฉัน ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มของเขาจะทาบลงมาแตะริมฝีปากฉันอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนของเขาไล้ไปมาบนริมฝีปากฉันจนใจสั่นริมฝีปากเขา...นุ่มสุดๆฉันชอบ...ที่เขาจูบฉันมากกกกตัวเขาก็หอม...มือหนาของเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่วร่างฉันอย่างเชื่องช้า ก่อนปลดเสื้อผ้าของฉันออกทีละชิ้นจนหมดสิ้น“อ๊ะ..อื๊อ...”เสียงครางหวานหลุดออกจากริมฝีปากฉัน เมื่อปลายลิ้นร้อนของเขาตวัดวนที่ยอดถันซึ่งแข็งชันตอบรับสัมผัส ความวาบหวามพุ่งพล่านไปทั่วร่างมัน...กำลังปลุกเร้าให้ฉันต้องการเขามากขึ้นในทุกวินาทีฉันยกมือขึ้นโอบรอบคอของเขา ก่อนปล่อยมืออีกข้างลูบไล้เบาๆ ไปตามแผ่นหลังที่แข็งแกร่ง สัมผัสอุ่นร้อนของกล้ามเนื้อเขายิ่งทำให้ฉันรู้สึกเคลิบเคลิ้ม มืออีกข้างเลื่อนลงไปสัมผัสกล้ามท้องที่เรียงตัวเป็นลอนสวยอย่างหลงใหล“อ่าส์...”เสียงครางต่ำแผ่วเบาของเขาดังขึ้นในลำคอ น้ำเสียงที่แสนเซ็กซี่นั้นกระตุ้นความรู้สึกจนฉันเสี
[เชษ - พิเศษ]เหล้าบ๊วยเมื่อคืนได้ผลดีเกินคาด ผมอุตส่าห์หลอกล่อให้เจนลองชิม ดูเหมือนเพื่อนสองคนของเธอจะรู้ใจผม แอบช่วยมอมเหล้าบ๊วยจนเธอดูมึนๆ และดูเหมือนจะกระตุ้นอารมณ์เธอไม่น้อยผลลัพธ์คือ เมื่อคืนเธอยอมให้ผมทำอะไรต่อมิอะไร โดยแทบไม่มีการขัดขืน แถมยังมีอารมณ์ร่วมอย่างเต็มที่จนผมเองก็หยุดตัวเองไม่ไหว เลยเผลอทำไปซะหลายรอบ จนเหลือร่องรอยแดงจากการดูดของผมเต็มตัวเธอตอนนี้ก็อดกังวลไม่ได้ว่า พอตื่นขึ้นมา เธอจะโวยวายใส่ผมรึเปล่า... แต่ก็นะ เมื่อคืนนี้มันช่างหอมหวานจนผมหยุดไม่ได้จริงๆ!ก่อนหน้านี้ ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แค่มีอะไรกันครั้งเดียว ทำไมถึงหลงเธอจนถอนตัวไม่ขึ้นได้ขนาดนี้?แต่พอลองคิดย้อนกลับไป ผมน่าจะตกหลุมรักเธอตั้งแต่วันที่เธอมาตั๊นหน้าไอ้ไผ่ถึงคณะแล้วล่ะมั้งเมื่อคิดได้แบบนั้น วันที่ผมตัดสินใจชวนเธอมาอยู่ด้วยกัน ผมเลยเลือกสารภาพรักกับเธอ มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงจากใจ ผมอยากให้เธอได้รับรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเธอแต่ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนผู้หญิงในอดีตรวมถึงเฟิร์นก็ไม่คิดจะปล่อยให้ผมมีความสุขกับเธอง่ายๆ แฮะ ผมคงต้องระวังตัวไว้หน่อยไอ้งานบายเนียร์อะไรนั่นอีก ต้องหาทางทำอะ
เชษพาเจนมาที่ร้านอาหารเล็กๆ ชื่อ ‘โชคุโดะ ฮานะ’ ตั้งอยู่ในซอยเงียบสงบของย่านใจกลางเมือง ร้านนี้ตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ มีโคมไฟกระดาษสีส้มอ่อนประดับตามมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย โต๊ะไม้เล็กๆ ถูกจัดวางอย่างเรียบง่าย พร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ในพื้นหลัง“นายชอบร้านนี้เหรอ?” เจนถามพลางกวาดตามองไปรอบๆ ร้าน“อื้อ มันเงียบดี อาหารก็อร่อย เจ้าของร้านก็ใจดี แถมจำฉันได้” เชษตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ“แสดงว่านายมาบ่อยสิ” เจนหรี่ตามอง“อืม...บ่อยจนเจ้าของร้านบอกว่าฉันเป็นลูกค้าประจำ” เชษหัวเราะน้อยๆ“ฉันเรียกมันว่าที่ลับของฉัน”“ที่ลับ? แล้วทำไมนายถึงพาฉันมา?”เชษหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนตอบเรียบๆ แต่แฝงความหมายลึกซึ้ง“แปลว่าเธอพิเศษไง”เจนหน้าแดงวูบ เธอรีบก้มหน้าลงเปิดเมนู ทำทีเป็นเลือกอาหารเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขิน แต่เชษกลับยิ้มกริ่มกับท่าทางของเธอทันใดนั้น เสียงทุ้มใจดีของคุณลุงเจ้าของร้านก็ดังขึ้น“อ้าว ไงหนุ่ม ไม่มาซะนาน”เชษหันไปยิ้มกว้าง“ลุงชิโระ! ผมขอเหมือนเดิมนะครับ”คุณลุงหัวเราะเบาๆ“ซาชิมิรวม ข้าวหน้าปลาไหล กุ้งเทมปุระ ไข่ม้วนญี่ปุ่น แล้วก็ราเมนใช่มั้ย?”“แม่นแล้วครับ” เชษต
สัปดาห์ถัดมาสำหรับเจนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เริ่มต้นด้วยการเรียนในตอนเช้า ต่อด้วยงานกลุ่มในช่วงบ่าย และปิดท้ายด้วยการซ้อมเดินแบบสำหรับงานบายเนียร์ที่คณะบัญชีและบริหารจัดขึ้นร่วมกันในช่วงเย็น“โอย...ฉันจะตายแล้ว” เจนบ่นพลางนวดขมับตัวเอง ขณะกำลังเปลี่ยนชุดในห้องซ้อมเดินแบบแจงที่ยืนอยู่ข้างๆ หมุนตัวสำรวจชุดที่ตัวเองสวม ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม“โชคดีจะตายที่ได้เดินแบบงานใหญ่ขนาดนี้ ดูสิ แกเหมาะมาก สูงกำลังดี หุ่นดี หน้าเป๊ะ”เจนกลอกตาอย่างหมดแรง“พูดเหมือนแกไม่โดน”ฟ้าที่กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าหัวเราะเบาๆ“เอาน่ะ อย่างน้อยพวกเราก็อยู่ด้วยกัน แกจะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาไง”เจนถอนหายใจ “แต่ฉันอยากนอนมากกว่า”ก่อนที่ใครจะพูดอะไรต่อ เสียงตบมือของทีมงานดังขึ้นจากกลางห้อง ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปทางนั้น“โอเคค่ะ ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม?เดี๋ยวเราจะเริ่มซ้อมจากจุดเริ่มต้นของเวทีกันนะ” ทีมงานประกาศด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นเจนยืดตัวขึ้น สูดหายใจลึก ก่อนจะหันไปมองเพื่อนทั้งสองคน“เอาวะ...ก็แค่ซ้อมอีกวันน่า”“ประโยคปลอบใจตัวเองสุดๆ” แจงแซวพร้อมหัวเราะเบาๆ ขณะที่ทุกคนเดินไปยังจุดเริ่มต้นของเวทีเสี
เมื่อถึงเวลาซ้อม เจนเดินออกไปยังจุดเริ่มต้นของเวที สวมชุดราตรีที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานนี้ เนื้อผ้าพลิ้วไหวและความยาวของชุดทำให้เธอต้องเดินอย่างระมัดระวังทุกก้าว“เชิดหน้านิดนึง เจน!” ทีมงานคนหนึ่งตะโกนแนะนำด้วยน้ำเสียงจริงจังเจนสูดลมหายใจลึก พยายามปรับท่าทางให้สง่างาม ขณะเดินตรงตามทางที่ซ้อมไว้“นี่มันยากกว่าที่คิดนะ...” เธอพึมพำเบาๆ“ไม่ใช่แค่แกหรอก ฉันก็ลุ้นเหมือนกันว่าจะสะดุดมั้ย” ฟ้าที่เดินตามอยู่ด้านหลังกระซิบพร้อมหัวเราะเบาๆ“แกอย่าทำให้ฉันประหม่าดิ” เจนตอบกลับพร้อมถอนหายใจ“โอเค! เจน ฟ้า แจง หยุดตรงจุดที่มาร์คไว้ แล้ว ม่อน ใหม่ แต เดินไปหยุดข้างสามสาวนั่น” เสียงทีมงานบรีฟดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนเริ่มเดินไปยังจุดที่กำหนดเจนมองตามที่มาร์คไว้ตรงปลายเวที เธอก้าวเดินอย่างระมัดระวังจนไปถึงจุดหมาย ก่อนจะเหลือบเห็นม่อนเดินตรงเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉายรอยยิ้มอย่างจงใจมาทางเธอ“สวยนะ” ม่อนพูดเมื่อเดินมาหยุดข้างเธอ“ขอบคุณ แต่ช่วยตั้งใจซ้อมดีกว่านะ”ม่อนหัวเราะเบาๆ“อย่าห่วงเลย ผมเก่งเรื่องนี้อยู่แล้ว”“โอเคครับ! หนุ่มๆ ยกมือขึ้น ส่วนสาวๆ วางมือลงบนมือของหนุ่ม
ยามค่ำคืนที่ผับไนท์อาวน์ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเพลงจังหวะสนุกสนานและแสงไฟสีสันสดใส ม่อนนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนหกถึงเจ็ดคนที่กำลังสังสรรค์กันอย่างเฮฮา แต่เขากลับนั่งเงียบ สีหน้าไม่สนุกเหมือนคนอื่น เอเจ เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ หันมามองด้วยความสงสัย“เป็นเชี่ยไรวะ?” เอเจถามพลางกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม“มันแห้วแดก” ใหม่ เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดจะเยาะ พลางหัวเราะร่วนม่อนหันไปมองใหม่ตาขวาง“วอนโดนตีนซะละ มึง!”“กูพูดเรื่องจริง ดูหน้ามึงดิ เขียนไว้ชัดเลยว่า ‘โดนเท’ ” ใหม่พูดพลางทำท่ากวนประสาท“สาวไหนกล้าเทเพื่อนกูวะเนี่ย” เอเจหัวเราะ กอดคอเพื่อนม่อนกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนตอบเสียงขุ่น เมื่อถูกเพื่อนๆ ซักไซ้“เจนจิรา”ชื่อที่ออกจากปากเขาทำให้เอเจขมวดคิ้ว มองม่อนด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เจนจิรา? เด็กบัญชี? ยัยสาวห้าวอะนะ?” เอเจพูดเสียงสูงม่อนพยักหน้าช้าๆ สีหน้าฉายแววไม่พอใจ“เออ จะห้าวยังไงก็เหอะ กูไม่เชื่อว่า คนอย่างกูจะจีบไม่ติด”“ถามจริง ทำไมสนใจยัยนั่นวะ สาวๆ ที่ชอบมึงก็เยอะแยะ”ม่อนนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาฉายแววแน่วแน่ พลางนึกถึงใบหน้าสวยหวานของเจนที่ไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เชษ – [จะบ้าตาย]ให้ตายเหอะ!!ยิ่งผมจูบเจนมากเท่าไหร่ ความต้องการในตัวผมก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนแทบควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะตัวเธอที่แสนเย้ายวนกันแน่กลิ่นกายหอมละมุนจากเธอเหมือนกับกำลังท้าทายความอดทนของผมจนหมดสิ้น ผมอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก เดินตรงไปยังเตียงนอนอย่างรวดเร็วเมื่อวางเธอลงบนเตียงได้ ผมก็กดตัวเธอลงให้นอนราบ ขณะที่สายตาผมจับจ้องไปที่ชุดที่เธอสวมอยู่ไอ้ชุดที่ใส่มานี่ก็...เซ็กซี่เกินจนอยากจะฉีกทิ้งแควก!“เฮ้ย นาย!”เธอร้องอย่างตกใจ เมื่อผมไม่ได้แค่คิด แต่กระชากเสื้อจนขาดเหลือเพียงซิลิโคนที่ปิดจุกไว้เท่านั้นและมันไม่ได้หยุดแค่นั้น เสื้อผ้าของผมเอง รวมถึงกระโปรงสั้นของเธอ ก็ถูกผมปลดออกอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที ทิ้งทุกชิ้นลงข้างเตียงอย่างไม่สนใจอะไรนอกจากเธอที่อยู่ตรงหน้าผมยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะโน้มตัวลงประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง อารมณ์ของผมตอนนี้พลุ่งพล่านจนแทบระเบิด ไม่ว่าจะสัมผัสเธอกี่ครั้ง กี่รอบ ก็ไม่มีวันพอ...“อื๊อ...”เสียงครางแผ่วเบาจากเธอทำให้ผมยิ่งคลั่ง รวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นไว้เหนือศีรษะ พลางก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นขอ
เจนที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เชษไม่เคยหายไปนานขนาดนี้มาก่อน เธอวางแก้วเครื่องดื่มลง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปตามหาเขา ร่างบางเดินเลียบไปตามโถงทางเดินของโซนวีไอพีที่เงียบสงบจนกระทั่งเจนหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เฟิร์นกำลังจูบกับเชษอย่างนัวเนียอยู่ในมุมที่คิดว่าไม่มีใครเห็น ร่างสูงดูเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ ดวงตาคมของเจนเบิกกว้าง แต่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะวาวโรจน์ด้วยความโกรธเธอกวาดสายตามองรอบตัวจนเจอสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ที่พาดอยู่ไม่ไกล เจนคว้าสายยาง เปิดน้ำเต็มที่ แล้วฉีดเข้าใส่ทั้งคู่ทันที“กรี๊ดดดดด!!!”เสียงเฟิร์นกรีดร้องลั่น เมื่อกระแสน้ำเย็นเฉียบกระทบตัว ร่างของเธอเปียกโชกทันทีเจนไม่รอช้า เธอตรงเข้าไปกระชากผมเฟิร์นอย่างแรง ก่อนจะผลักร่างของเฟิร์นจนล้มลงไปกองกับพื้นเธอหันกลับไปหาเชษ ตั้งใจจะเล่นงานเขาที่ทำแบบนี้ แต่ร่างสูงกลับทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพง ใบหน้าคมซีดเซียว“เชษ! นาย!” เจนเรียกเขาเสียงเขียว แต่ทันทีที่เห็นอาการเขา ร่างบางชะงักไป“ฉัน...โดนยา...” เสียงของเขาแผ่วเบา ร่างสูงกัดฟันแน่นพยายามข่มอาการคำพูดนั้นทำให้เจนชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาของเธอเบิกกว้า
เสียงเพลงในผับดังสนั่น แขกเหรื่อบนฟลอร์เต้นรำกำลังสนุกสนาน แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปชั่วขณะเมื่อกลุ่มของเจนเดินเข้ามาในผับทุกสายตาหันมาจับจ้อง พนักงานเสิร์ฟบางคนถึงกับหยุดชะงัก หยุดเดินตามธรรมชาติ เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบทิศ คนในผับเริ่มซุบซิบกันเบาๆเจนในลุคที่ไม่เหมือนปกติ เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสดเปิดหลัง เนื้อผ้ามันวาวสะท้อนแสงไฟในผับ เผยเนินอกอวบอิ่มและแผ่นหลังขาวเนียน กระโปรงหนังสีดำแหวกข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขา ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ทุกก้าวย่างของเธอดูเย้ายวน รองเท้าส้นสูงคู่เก่งช่วยเสริมให้เธอดูสง่างามและเซ็กซี่จนเกินห้ามใจฟ้าและแจงที่แต่งตัวเซ็กซี่ไม่แพ้กันเดินขนาบข้าง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในผับได้ไม่แพ้เจน เสียงเพลงเหมือนจะเบาลงชั่วขณะ ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียวเชษที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพีกับโจ้และเฟย์ ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นเจนเดินเข้ามา ดวงตาคมเข้มเบิกกว้าง รอยยิ้มมุมปากที่มักติดตัวหายไปทันที เหลือเพียงสีหน้าตะลึงงันกับลุคของเธอในคืนนี้โจ้กับเฟย์ที่ยืนอยู่ห่างไปเล็กน้อยถึงกับยกแก้วขึ้นปิดปาก หันมามองหน้ากันก่อนรีบเดินตรงกลับมาที่โต๊ะทันที“เชี่ย! นั่นเจนจริงเหรอวะ?
ในห้องแต่งตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีและเครื่องสำอางกระจายเต็มโต๊ะ ฟ้าและแจงยืนจ้องเจนที่ใส่สายเดี่ยวสีขาวธรรมดา คลุมด้วยซีทรูสีดำ และกางเกงสกินนี่เอวสูงอย่างเอือมระอา“แกแต่งแบบนี้ไม่ได้!” ฟ้าพูดขึ้น พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนเห็นอะไรที่รับไม่ได้“ใช่! แกต้องแต่งให้เลิศหน่อยเว้ย!” แจงเสริมทันที“ทำไมอะ? ฉันว่าแค่นี้ก็พอแล้วปะ?”“ไม่พอ!!!” ฟ้าและแจงประสานเสียงกัน ก่อนที่ฟ้าจะเดินมาคว้าแขนเจน“มานี่! เดี๋ยวพวกฉันจัดให้เอง”สิบห้านาทีต่อมา...เจนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในลุคที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เชื่อสายตาฟ้าเลือกเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสด ดีไซน์เก๋ด้วยสายห่วงโซ่ไขว้กันด้านหลัง เปิดโชว์แผ่นหลังขาวเนียนอย่างน่ามอง เนื้อผ้ามันวาว ด้านหน้าถูกออกแบบให้เว้าลึกเล็กน้อย เผยให้เห็นเนินอกอิ่มอย่างพอเหมาะ ดูหรูหราและเย้ายวนในคราวเดียวกันส่วนแจงจัดการเลือกกระโปรงหนังสีดำสั้นเหนือเข่า มีดีไซน์แหวกข้างเล็กน้อย โชว์เรียวขาขาวเนียนที่ดูโดดเด่นและสะดุดตา“แกต้องโชว์ขานิดๆ แต่ไม่โป๊ นี่แหละ...กำลังดี” แจงพูดด้วยรอยยิ้มพอใจฟ้าไม่หยุดแค่นั้น เธอหยิบรองเท้าส้นสูงสีดำ
สองวันต่อมา...ภายในห้องคอนโดของเชษ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านสีเทาอ่อน ส่องกระทบโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและหน้าจอแล็ปท็อปที่เปิดอีเมลหลายฉบับ เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด คิ้วขมวดจนแทบจะเป็นปม ขณะที่ดวงตาคมกริบไล่สายตาอ่านข้อมูลบนหน้าจอเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนในชุดลำลองสบายๆ เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมแล็ปท็อปในมือ เธอหยุดยืนอยู่ข้างหลังเชษ สายตาสอดส่องมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหน้าจอ“นายทำไรอะ?”เชษเงยหน้าขึ้นจากเอกสารดิจิทัลในหน้าจอแล็ปท็อป ก่อนจะยิ้มมุมปาก ดึงร่างบางของเจนมานั่งบนตักโดยไม่พูดอะไร แล็ปท็อปในมือของเธอถูกดึงไปวางไว้บนโต๊ะ แขนแกร่งโอบรอบเอวของเธอไว้หลวมๆ“กำลังดูข้อมูลของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่ชนะประมูลนั่นแหละ”เจนมองจอแล็ปท็อปที่แสดงข้อมูลอยู่ เธอเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ“ฮั้วประมูลเหรอ?”“อืม...”เชษพยักหน้า ดวงตาคมจ้องข้อมูลตรงหน้า ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“ฉันมีเรื่องอยากถาม...”“หืม?” เจนเลิกคิ้ว หันมามองเขา“เฮียเคนเป็นใคร?”เจนกระพริบตาปริบๆ คำถามนั้นทำให้เธอชะงักไป เธอร
ด้านเจน ด้วยความช่วยเหลือจากเคน ทำให้เธอปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม ภายใต้ยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและกระโปรงสีดำเข้ารูป พร้อมผ้ากันเปื้อนสีครีมที่ทำให้เธอดูไม่สะดุดตาเกินไป แต่แฝงไปด้วยความคล่องตัว ใบหน้าหวานของเธอถูกแต่งแต้มบางเบาเพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำง่ายเกินไปเจนได้รับมอบหมายให้ดูแลห้องประชุมส่วนตัวที่ชั้นสองของโรงแรม ห้องประชุมนี้ถูกจองโดยบริษัท ‘โครนอส อินดัสทรีส์’ ซึ่งจากข้อมูลที่เธอได้รับมา เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวลือว่าพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ห้องประชุมส่วนตัวบนชั้นสองของโรงแรมถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา โทนสีขาวทอง ผ้าม่านหนาปิดบังหน้าต่างเพื่อความเป็นส่วนตัว โต๊ะยาวกลางห้องถูกจัดด้วยอุปกรณ์สำหรับประชุม และมีพื้นที่สำหรับบุฟเฟต์อาหารที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจนพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบเฉย ขณะเดินเข้าไปเช็กความเรียบร้อยของอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ เธอรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่แอบมองมาทางเธอ แต่ก็พยายามไม่แสดงท่าทีพิรุธเจนเดินเข้าไปหยิบถาดเครื่องดื่ม ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างแนบเนียน บรรยากาศ
เชษนั่งอยู่บนโซฟาของคอนโด ใบหน้าคมเคร่งเครียดขณะเลื่อนอ่านข้อมูลที่บอสส่งมาให้บนแล็ปท็อป เสียงพึมพำเบาๆ ของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะขณะขบคิดแผนการ“ถ้าอยากได้หลักฐานเพิ่ม…ฉันอาจต้องเข้าไปในงานประมูลเอง” เจนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น เธอเช็ดผมที่ยังชื้นเล็กน้อย พลางเดินตรงไปหาเชษ“นายดูเครียดมากเลยนะ มีอะไรเหรอ?”เชษเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันกำลังคิดแผนหาหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาน่ะ” เจนขมวดคิ้วนิดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา“แผนอะไร?”เชษวางแล็ปท็อปลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง“ตอนนี้ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่พอจะเชื่อมโยงพวกมันได้ แต่ยังไม่พอสำหรับเอาไปใช้เล่นงานพวกนั้น ถ้าฉันสามารถเข้าไปร่วมงานประมูลเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ได้ ฉันอาจหาโอกาสเจาะลึกข้อมูลของพวกมันเพิ่มได้” “งานประมูล? นายจะเข้าไปยังไง?”“บริษัทของพ่อฉัน…SK Construction เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูล ฉันสามารถเข้าไปในฐานะตัวแทนได้ แต่…” เชษพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล“แต่อะไร?” เจนถาม พร้อมมองหน้าเขานิ่ง“มันเสี่ยง ถ้าพวกนั้นรู้ตัวว่าเรากำลังตามสืบข้
ภายในร้านกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ร้านเล็กๆ ใจกลางเมือง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง มือหนาเขี่ยแก้วกาแฟที่เหลือเพียงก้นแก้วไปมา ขณะสายตาคมทอดมองผ่านกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นความวุ่นวายของเมืองด้านนอกเสียงกระดิ่งดังเบาๆ เมื่อประตูร้านเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลคลาสสิกและกางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มมั่นใจ ขณะที่สายตากวาดมองหาเป้าหมาย“ว่าไงเรา” ชายหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนเดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเชษ“มาช้าจัง พี่บอส” เชษพูดพลางยกยิ้มมุมปาก“เอาน่า รีบสุดๆ แล้ว” บอสหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือโบกเรียกพนักงานมารับออเดอร์กาแฟเชษพิงหลังกับพนักเก้าอี้ สายตามองบอสด้วยความคุ้นเคยย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เชษซึ่งในตอนนั้นเป็นนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีสอง เข้าร่วมงานด้วยความตั้งใจอยากเรียนรู้เทคนิคการออกแบบโครงสร้างอาคารด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูงขณะเดียวกัน บอสซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ กำลังพูดถึงการนำเทคโนโลยี AI และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต
“อ๊า...อ๊า...เชษ...งื้อ...”เจนครางเสียงกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนของเชษสอดเข้าไปในตัวเธอ ลิ้นของเขากระดกรัวอย่างชำนาญ สร้างสัมผัสที่ลึกล้ำและเร่าร้อน เกลียวลิ้นดันขึ้นลงหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกเร้าให้เธอถึงจุดสุดยอดมือเรียวบางของเจนเลื่อนขึ้นมาจิกบ่าของเขาแน่น ร่างบางสะท้านไปทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา ท้องน้อยของเธอเกร็งแน่นจนไม่อาจควบคุมได้ขณะที่ปลายลิ้นร้อนของเขาบดขยี้จุดไวสัมผัสอย่างเร่าร้อน มือหนาของเชษก็ไม่หยุดนิ่ง เลื่อนขึ้นมาบดบี้และขยี้ยอดถันสีสวยของเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความชำนาญ การกระทำของเขายิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับเจนจนแทบทนไม่ไหวร่างบางกัดริมฝีปากแน่น พยายามระบายความวาบหวามที่พุ่งพล่าน มือเรียวของเธอเผลอยกขึ้นขยุ้มผมของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับยิ่งพาเธอเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นไปอีก“อืม...” เชษพึมพำเสียงต่ำในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับตั้งใจปลุกเร้าทุกความรู้สึกของเจน ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากของเธอ เขาก็ยิ่งเพิ่มความพริ้วไหวขอ