“ทำกันนะ…” เชษกระซิบเสียงพร่า หลังถอนจูบที่ร้อนแรง ริมฝีปากของเขายังคงคลอเคลียแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมจ้องใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือของเขา
เจนเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นระส่ำจนแทบไม่เป็นจังหวะ ความร้อนวูบวาบแล่นไปทั่วร่าง เธอหลบสายตาของเขา แต่สัมผัสของริมฝีปากและลมหายใจอุ่นๆ ทำให้เธอไม่อาจขยับหนีไปไหน
“ฉันอยากทำกับเธอ...” เชษพึมพำเสียงเบา ขณะที่ริมฝีปากร้อนของเขาไล้แตะเบาๆ ลงบนริมฝีปากบางของเจน จูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน ราวกับกำลังขอคำยินยอมจากเธอ
เจนหลับตาแน่น รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นระส่ำอยู่ในอก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“...ฉันไม่มีถุง...”
คำตอบนั้นทำให้เชษชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายระยับ
“ฉันมี...”
เขารีบลุกขึ้น เดินไปหยิบของจากกระเป๋าสตางค์ที่พกติดตัวไว้เสมอ ขณะที่เจนได้แต่หลบสายตา แก้มแดงซ่านไม่อาจปิดบัง
เชษกลับขึ้นเตียง พลางวางถุงยางไว้บนหัวเตียง โดยไม่พูดอะไร ก่อนจะโน้มตัวขึ้นคร่อมร่างของเจนอย่างช้าๆ สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
ไม่รอช้า เขากดริมฝีปากร้อนของตัวเองลงบนริมฝีปากบางของเธออย่างดูดดื่ม จูบครั้งนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่ยากจะต้านทาน เรียวลิ้นของเขาแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็กอย่างช่ำชอง เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอในจังหวะที่หนักหน่วงและเร่าร้อน
เจนเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนหลับตาลงอีกครั้ง หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปกับสัมผัสที่เขามอบให้ เสียงหอบหายใจถี่ของเธอดังประสานไปกับจังหวะของจูบที่ลึกซึ้งและต่อเนื่อง
ภาพของคืนนั้นย้อนกลับเข้ามาในความคิดของเจน ทุกสัมผัสยังชัดเจน แต่สิ่งที่แตกต่างในคืนนี้ คือเธอไม่ได้เมาเลยแม้แต่น้อย สติของเธอเต็มร้อย ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้
“อ๊ะ..อ๊า..” เสียงครางหวานหลุดออกจากริมฝีปากของเจนโดยไม่รู้ตัว เมื่อเชษดึงเสื้อยืดของเธอขึ้นและถอดออกอย่างง่ายดาย ก่อนเหวี่ยงมันไปข้างเตียง ร่างกายเธอที่เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าทำให้สายตาคมกริบของเขาเปล่งประกาย
เชษก้มลง กดริมฝีปากลงบนยอดถันสีสวยของเธออย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนลากวนรอบยอดถันที่เริ่มชูชันตามสัมผัสของเขา ก่อนจะเม้มดูดเบาๆ ราวกับหยอกล้อ แต่แรงดูดนั้นกลับทำให้ร่างกายของเจนสะท้าน
“อื้ม…” เสียงครางกระเส่าหลุดออกจากลำคอเธออย่างไม่ตั้งใจ เมื่อเชษเพิ่มแรงดูดและจังหวะลิ้นที่วนเวียน ยิ่งเขาเม้มดูดแรงมากเท่าไหร่ เสียงหอบครางของเธอก็ยิ่งดังชัดขึ้นตามมากเท่านั้น
มือหนาของเขาเลื่อนลงไปลูบไล้ที่เอวคอดของเธอ ก่อนจะถอดกางเกงขาสั้นและโยนทิ้งไป ความเร่าร้อนจากเขา ทำให้เจนได้แต่จิกผ้าปูเตียงแน่น สั่นสะท้านไปกับความรู้สึกที่เธอไม่อาจปฏิเสธ
“อื้ม…เธอหอมหวานมาก…” เชษพึมพำเสียงพร่า กลิ่นหอมจากผิวกายของเจนยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้พุ่งทะยานขึ้น ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามยอดถันที่ชูชัน ปลายลิ้นร้อนตวัดวนซ้ำราวกับลิ้มรสความหวานที่เขาติดใจ
มืออีกข้างของเขาลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างเธอ ขณะที่อีกมือเลื่อนลงไปถอดกางเกงนอนของตัวเองออกอย่างชำนาญ แล้วโยนทิ้งไปข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ
เชษยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางที่วางอยู่ใกล้ๆ ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าที่แดงระเรื่อของเจน ก่อนใช้ปากฉีกซองถุงยางออกอย่างชำนาญ
เขาสวมใส่ด้วยความคล่องแคล่ว สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เจน ซึ่งตอนนี้กำลังนอนหอบหายใจเบาๆ เธอมองเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม ทำให้บรรยากาศยิ่งร้อนแรงขึ้นทุกวินาที
เจนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อสายตาเหลือบมองไปเห็นขนาดที่ใหญ่โตของเขา ความกลัวเริ่มแทรกเข้ามาในจิตใจโดยไม่ทันตั้งตัว
“นาย… ฉันว่า…ไม่น่าไหวมั้ง…” เธอพูดเสียงแผ่ว มือบางดันไปที่หน้าท้องแข็งแกร่งของเขา ราวกับพยายามหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“หืม… คราวก่อนก็เข้าได้ เธอลืมแล้วเหรอ?” เชษกระซิบเสียงพร่า ดวงตาคมกริบฉายแววล้อเลียน
มือหนาของเขาเลื่อนลงจับเอวคอดของเธอแน่น ก่อนโน้มตัวลงไปกดริมฝีปากร้อนเม้มดูดยอดถันของเธออย่างชำนาญ ปลายลิ้นลากไล้วนสร้างสัมผัสที่ทำให้ร่างกายของเจนสะท้าน
“อ๊ะ…” เสียงหวานของเธอหลุดออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว ความเสียวซ่านที่เขาปลุกเร้าทำให้เธอต้องเลื่อนมือบางไปบีบแขนแข็งแกร่งของเขาแน่น ราวกับต้องการบรรเทาความรู้สึกที่ท่วมท้น
เชษยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทีของเธอ ยิ่งทำให้เขาไม่อาจห้ามใจได้ สัมผัสของเขาทวีความร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเสียงหอบหายใจของเธอก็ยิ่งดังขึ้นตามจังหวะที่เขาปลุกเร้าร่างกายของเธอ
เชษฉวยจังหวะที่เจนกำลังเคลิ้ม หอบหายใจแรงและไม่ทันตั้งตัว เขาสอดใส่แก่นกายเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว
ปึก!
“อึ๊!! จุก! เจ็บ! ไอ้บ้านี่!!” เจนสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างบางผวาเข้ากอดเขาแน่น เสียงสบถของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ริมฝีปากบางถูกกัดแน่นเพื่อกลั้นเสียง ร่างกายสั่นสะท้านและเกร็งเล็กน้อยกับความรู้สึกคับตึงด้านล่างที่เธอไม่เคยชิน ดวงตาเธอปรือขึ้นมองหน้าเขาเล็กน้อย
“ฮึ่ม…แน่น…” เชษกัดฟันแน่น สีหน้าของเขาเองก็เต็มไปด้วยความทรมานผสมกับความเสียวซ่าน ช่องทางคับแน่นของเจนบีบรัดแก่นกายของเขาอย่างหนักหน่วง ทำให้เขาต้องหยุดชั่วครู่เพื่อควบคุมตัวเอง
มือหนาของเขายกขึ้นประคองแผ่นหลังของเธอ ดันให้ร่างบางแอ่นขึ้นเล็กน้อย ทำให้เห็นยอดถันที่ชูชันเตรียมรับสัมผัสชัดเจน ริมฝีปากร้อนก้มลงเม้มดูดยอดถันสีสวยของเธออย่างถี่รัว ปลายลิ้นลากไล้อย่างชำนาญจนเจนรู้สึกเสียวซ่านกับสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา
“อึ๊…อ๊ะ…อ๊า…” เสียงครางหวานหลุดออกจากลำคอของเจน ร่างกายของเธอเริ่มปรับตัวกับขนาดของเขา ความเจ็บปวดแรกเริ่มเริ่มจางหาย แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งและแปลกใหม่
เชษขยับสะโพกอย่างช้าๆ จังหวะแรกเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเจนเริ่มผ่อนคลาย เขาก็เพิ่มจังหวะและแรงขึ้นทีละน้อย สร้างความเสียวซ่านที่ทำให้ทั้งคู่จมอยู่ในอารมณ์ที่ท่วมท้น
“อื๊อ…อ๊า…ช้าหน่อย…อื๊อ…” เจนหอบครางเสียงกระเส่า ร่างกายสั่นสะท้านตามแรงขยับที่เร่งเร้าของเขา มือบางโอบรอบคอเขาแน่นราวกับพยายามหาที่พึ่ง ขณะใบหน้าหวานแดงซ่านเต็มไปด้วยความร้อนแรง
แต่เชษยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้ลดจังหวะตามคำขอของเธอ กลับยิ่งเพิ่มความเร็วและแรงขึ้น ราวกับตั้งใจจะแกล้งกัน
“อื้ม...อ่าส์...” เชษครางเสียงต่ำ ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วเนินอกของเจน ปลายลิ้นไล้เลียวนยอดถัน สลับดูดเม้มแรงๆ จนทำให้เกิดรอยแดงไปทั่ว
เสียงครางหวานของเจนดังขึ้นอย่างไม่สามารถห้ามได้ เมื่อเขาไม่เพียงแค่เล้าโลมร่างกายเธอด้านบน แต่ส่วนล่างยังคงกระแทกเข้ามาในจังหวะที่หนักแน่นและรัวถี่ ความแรงและความเร็วของเขาทำให้ร่างบางกระตุกไหว สั่นสะท้านไปทั้งตัว
“อ๊ะ…อ๊า…เชษ…” เจนครางเรียกชื่อเขาด้วยเสียงกระเส่า หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม เชษยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาเงยหน้ามองเธอ ดวงตาคมเปล่งประกายด้วยแรงปรารถนา
เชษประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธออีกครั้งอย่างเร่าร้อน ริมฝีปากของเขาบดเบียดกับเธออย่างลึกซึ้ง ขณะที่จังหวะของเขายังคงรัวถี่และหนักแน่น ปลุกเร้าร่างกายของเจนจนแทบหลอมละลายอยู่ใต้ร่างของเขา
เจนไม่รู้เลยว่าเธอเสร็จไปแล้วกี่ครั้ง และเขาเริ่มต้นใหม่อีกกี่หน ร่างกายของเธอจมอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ทั้งเร่าร้อนและท่วมท้นจนยากจะหลุดพ้น
คำพูดสุดท้ายที่เจนได้ยินจากเชษ ก่อนสติของเธอจะถูกกลืนไปด้วยความเหนื่อยล้าคือเสียงกระซิบแผ่วเบา แต่หนักแน่นที่ข้างหู
“เธอเป็นของฉัน…ทั้งคืนนี้ และตลอดไป”
เสียงนั้นยังคงก้องอยู่ในใจของเธอ แม้กระทั่งเมื่อทุกอย่างจบลงและความเงียบเข้าครอบคลุมทั่วห้อง...
เดี๋ยวๆ ไหนบอกไม่มีอารมณ์ไง ไอ้คุณเชษ!!
เช้าวันรุ่งขึ้น เชษที่ตื่นก่อนกำลังก้มเก็บถุงยางใช้แล้วที่กระจัดกระจายอยู่รอบเตียงของเจน ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มผุดขึ้น ขณะนับจำนวนถุงยางในมือ“ห้า..หก...หืม? เมื่อคืนแค่หกรอบเองเหรอเนี่ย” เขาพึมพำเบาๆ พลางหัวเราะในลำคออย่างพอใจสายตาคมกริบเลื่อนไปมองร่างบางที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ผ้าห่มเลื่อนลงไปเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนที่เปลือยเปล่าเต็มไปด้วยร่องรอยที่เขาดูดจนเป็นรอยแดงเต็มไปหมดเชษทิ้งถุงยางลงในถังขยะ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง มือหนาเอื้อมไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าของเธอออกเบาๆ ดวงตาคมมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจและอ่อนโยน“น่ารักดีเวลาหลับ...” เขากระซิบเบาๆเชษเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเจนที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้เตียง เขามองร่างบางที่ยังหลับสนิทอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะใช้โทรศัพท์สแกนใบหน้าของเธอเพื่อปลดล็อกหน้าจอเมื่อหน้าจอปลดล็อกสำเร็จ เชษยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนกดโทรออกไปยังเบอร์ของตัวเอง เขารอจนโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น จากนั้นจึงวางสายและจัดการบันทึกเบอร์ของเขาลงในรายชื่อโทรศัพท์ของเธอชื่อที่เขาเมมไว้เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความจงใจ‘เชษ (คนสำคัญ) ’หลังจากจัดการทุกอย
กว่าที่เชษจะยอมให้เจนออกจากคอนโดได้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง เพราะไม่ว่าเธอจะแต่งตัวยังไง เขาก็หาข้อตำหนิได้ตลอดเสื้อกล้ามแบบสปอร์ตเกิร์ลที่เธอใส่ตอนแรก ถูกเขาส่ายหน้าปฏิเสธทันที“เปิดไปทั้งตัวแบบนี้ เธอจะออกไปเดินหรือแจกเบอร์ให้คนทั้งถนน?”เมื่อเธอเปลี่ยนมาใส่เสื้อที่ปิดมิดชิดด้านหน้า แต่ด้านหลังกลับผ่าลึกตั้งแต่ต้นคอถึงเอว เชษก็ทำหน้าไม่พอใจอีก“ใครคิดล่ะ เสื้อแบบนี้...เธออยากโชว์รอยที่ฉันดูดให้คนอื่นดูรึไง?”“ไอ้บ้านี่! ใครให้นายทำจนเป็นรอยแดงกันล่ะ” เจนค้อนควับใส่เขา พลางเถียงอย่างไม่ยอมแพ้สุดท้าย หลังจากเถียงกันอยู่นาน เขาก็หยิบเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์จากตู้เสื้อผ้าให้เธอใส่ พร้อมกับบังคับให้เธอใส่คู่กับกางเกงขาสั้น“โอเค แบบนี้ไม่โป๊ละ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ขณะมองเธอที่ยืนทำหน้ามุ่ยแต่ถึงจะเป็นเสื้อโอเวอร์ไซส์ ตอนนี้มันกลับดูเหมือนเสื้อพอดีตัว เพราะหน้าอกของเธอที่ใหญ่จนทำให้เนื้อผ้าตึง“แค่นี้ก็ยังจะเด่น...” เขาพึมพำเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจคว้าเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมให้เธอทับอีกชั้นเจนมองเขาอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“นี่นาย ไหนบอกหิวไง?”เชษยิ้มมุ
หลังจากที่เชษและเจนทานเครปกันเสร็จ เชษก็หันมามองเจนที่กำลังหยิบทิชชูเช็ดมือ“ไหนๆ ก็มาที่นี่แล้ว เดินเล่นกันหน่อยสิ” เขาพูดพลางพยักเพยิดไปทางสวนสาธารณะข้างร้านเจนเลิกคิ้วเล็กน้อย“เดินเล่น? ฉันไม่ค่อยเดินเล่นในสวนหรอกนะ”“เธอไม่เคยลองต่างหาก” เชษตอบยิ้มๆ ก่อนลุกขึ้นยืน“ไปดิ เดี๋ยวฉันเดินเป็นเพื่อน”เจนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นเดินตามเขาไปสวนสาธารณะเงียบสงบในยามเย็น ทางเดินปูด้วยอิฐสีแดงทอดยาวไปท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา แสงไฟสีอบอุ่นจากเสาไฟข้างทางส่องแสงเรืองรอง ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายรอบๆ มีผู้คนเดินเล่นบ้างประปราย เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่เล่นกันอยู่ในสนามใกล้ๆ และเสียงนกร้องจากกิ่งไม้เสริมให้สถานที่นี้ดูมีชีวิตชีวา“ฉันไม่คิดว่านายจะเป็นคนชอบเดินเล่นในสวนแบบนี้” เจนพูดขณะกอดอก เดินเคียงข้างเขา“ฉันก็ไม่ได้เดินเล่นบ่อยหรอก แต่บางทีการได้อยู่ในที่เงียบๆ ก็ช่วยให้สมองโล่งขึ้น” เชษตอบพลางเหลือบมองเธอ“แล้วเธอล่ะ ทำไมไม่เคยมาเดินเล่น?”“ไม่รู้สิ ฉันไม่ชอบเดินแบบนี้ล่ะมั้ง”“แต่ตอนนี้เธอก็กำลังทำอยู่นะ” เชษพูดพลางยิ้มมุมปากเจนหันมาถลึงตาใส่ “ก็เพราะน
เจนทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ความอ่อนเพลียจากเมื่อคืน แถมวันนี้ยังออกไปข้างนอกกับเชษอีก ทำให้เธอรู้สึกเหมือนร่างกายพักผ่อนไม่พอ ขณะที่เธอกำลังเคลิ้มหลับ โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้น“ฮัลโหล...” เจนควานหาโทรศัพท์มารับสายด้วยน้ำเสียงอู้อี้“เจน! แกหายไปไหนมาทั้งวันยะ! ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ!” เสียงฟ้าดังลั่นจากปลายสาย ทำให้เจนต้องยกโทรศัพท์ออกห่างหู“โอย... วันนี้ไม่มีเรียน ฉันก็ออกไปเที่ยวมั่งไรมั่งดิ” เจนตอบพลางขยี้ตา“อย่ามาขี้โม้ แกไปกับเชษมาใช่มั้ย?” ฟ้าถามเสียงคาดคั้น“ห๊ะ...กะ...แกเอาไรมาพูดเนี่ย” เจนลืมตาโตขึ้นทันที“หึ แกไปกับเชษมาจริงด้วย” ฟ้าทำเสียงขึ้นจมูกเหมือนจับผิดได้“อะ..อะไรของแก” เจนรีบปฏิเสธแต่เสียงติดขัดจนฟ้ายิ่งมั่นใจ“อยากรู้แกก็เข้าไปดูโพสในกลุ่มวิศวะดิ เขาเห็นกันหมดแล้ว” ฟ้าหัวเราะลั่นก่อนวางสายไปเจนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย รีบเปิดโทรศัพท์เข้าไปดูโพสของกลุ่มนักศึกษาคณะวิศวะโพสต์หนึ่งถูกปักหมุดด้วยจำนวนไลค์และคอมเมนต์ที่พุ่งสูงขึ้น“เชษ...กับเนื้อคู่ สาวบัญชี?”ใต้โพสต์มีภาพที่แอบถ่ายเชษและเจนขณะนั่งคุยกันที่ร้านเครปเย็น เชษกำลังยื่นหน้าเข้าใกล้เจนพร้อม
ที่โต๊ะประจำของกลุ่มเจน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เจนนั่งอยู่หน้าแล็ปท็อป กำลังพิมพ์ข้อมูลลงในรายงานการตลาดที่ต้องพรีเซนต์ในสัปดาห์นี้ ฟ้ากับแจงช่วยกันยื่นเอกสารต่างๆ ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมให้เธอบันทึกอย่างขะมักเขม้นไม่นานนัก สมาชิกอีกส่วนของกลุ่มอย่างเจษ โต๊ด เจิน และมิ้ม ก็เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะพร้อมเอกสารในมือ“ฉันเอาข้อมูลมาเพิ่มให้” เจินพูดพลางวางเอกสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ในการนำเสนอ“ชาเย็นไข่มุกของเธอ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ พลางวางแก้วเครื่องดื่มลงตรงหน้าเจน ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ เธอโดยไม่สนใจสายตาแซวๆ ของเพื่อนร่วมโต๊ะที่มองมาด้วยความรู้ทัน“ขอบใจนะ” เจนยิ้มบาง พลางหยิบแก้วชาขึ้นมาดูดอึกใหญ่ แล้ววางลง ก่อนจะหันกลับไปพิมพ์งานต่อ“อะไรเนี่ย! มีแค่ของเจนคนเดียวเนี่ยนะ?” ฟ้ากับแจงโวยวายขึ้นพร้อมกัน สีหน้าผสมทั้งความไม่พอใจและแอบแซว“ใจเย็น ของพวกเธอก็มี อะนี่” โต๊ดหัวเราะขำ พลางวางแก้วชาเย็นลงตรงหน้าสองสาวขี้โวยวาย“นี่สิถึงจะถูก!” ฟ้าพูดพร้อมหยิบแก้วของตัวเองมาดูดอย่างพอใจ ส่วนแจงก็ยิ้มรับพลางแอบเหล่เจนกับเจษที่ดูจะนั่งใกล้กันเกินไปหน่อย“ว่าแต่ เห็นประกาศกิจกร
ในร้านพิซซ่า พวกเจนกำลังฉลองวันเกิดให้เจินกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของเพื่อนในคณะเกือบสิบคนเจษที่นั่งข้างเจนดูแลเธออย่างเอาใจใส่ เขาคอยบริการตักพิซซ่าและอาหารอื่นๆ ให้เธอตลอด“เจน ลองสปายหน่อยมั้ย?” เจษพูดพร้อมยื่นแก้วสปายไวน์คูลเลอร์สีสวยให้เจน“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์น่ะ” เจนส่ายหน้าพลางปฏิเสธ“นี่สปายไหมไทย เป็นค็อกเทลผลไม้ ไม่แรงหรอก ฉันว่าเธอน่าจะดื่มได้ ลองดิ” เจษบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ พร้อมยิ้มกริ่มเจนลังเลเล็กน้อย ก่อนจะรับแก้วมาจากเจษ“อะ...อืม ก็ได้”เมื่อจิบเข้าไป เจนย่นคิ้วเล็กน้อย“อืม...กลิ่นแรงจัง แต่ก็อร่อยดีนะ” เธอพูดหลังจากรับรู้รสชาติฝาดๆ แต่มีความหวานเปรี้ยวแบบผลไม้“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้ว” เจษยิ้มกว้างอย่างพอใจในขณะที่เจษกำลังเอาใจใส่เจน เจินที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน เธอจิบสปายที่อยู่ในแก้วของตัวเองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นเจษสนใจแต่เจน เจินเริ่มซดสปายขวดแล้วขวดเล่าโดยไม่หยุด จนไม่นานนัก เธอก็เริ่มมีอาการมึนเล็กน้อย ใบหน้าแดงเรื่อ และดูเหมือนเธอจะเริ่มหมดความอดทนกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าขณะเดียวกัน ฟ้าแ
แสงแดดยามสายส่องเข้ามาภายในห้อง ทะลุผ่านม่านสีอ่อนที่ปลิวไหวไปตามสายลมอ่อนๆ แสงนั้นตกกระทบใบหน้าของเจนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่เธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยความง่วงงุน ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงที่แยงเข้ามาแต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของใครบางคนอยู่ใกล้จนแทบจะชนกัน“เชษ!” เธอร้องเสียงหลง รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีคนที่ถูกเรียกชื่อขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคมปรือขึ้นมามองเธอด้วยแววตากึ่งง่วงกึ่งขำ“เสียงดังแต่เช้าเลยนะ...”“ทำไม?...นาย??” เจนยกมือกุมหัวเมื่อรู้สึกยังมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืนเธอก้มลงมองตัวเอง ก่อนจะร้องเสียงหลงอีกครั้ง“เฮ้ย! แล้วทำไม!!”สายตาของเธอหยุดที่เนินอกของตัวเองซึ่งเต็มไปด้วยรอยแดงจ้ำๆ ชัดเจนที่สำคัญเธอ โป๊!!!“ฮื้อ...เธอไม่ง่วงรึไง” เชษพึมพำเสียงต่ำ ก่อนจะใช้มือหนาดึงร่างของเธอให้ล้มลงนอนอีกครั้ง แล้วรวบร่างเธอเข้ามากอดแนบอก“นี่นาย! ตอบฉันก่อนดิ!” เจนดิ้นขลุกขลัก พยายามผละตัวออกจากอ้อมแขนเขา“เธอนั่นล่ะ ทำไมดื่มแอลกอฮอล์?” เชษพูดเสียงเข้ม ดวงตาคมมองเธออย่างคาดคั้น“ฉัน... ก็...แค่สปาย...” เจนพูดตะกุกตะกัก พ
เช้าวันรุ่งขึ้น เชษขับรถมาส่งเจนที่หน้าตึกไม่ไกลจากคณะบัญชี ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ มือหนาของเขาก็คว้าข้อมือเธอเอาไว้“ระวังไอ้เจษด้วย” เขาเตือนเสียงจริงจัง“รู้แล้วน่า” เจนตอบพร้อมย่นจมูกใส่เขาเล็กน้อย ท่าทีขี้เล่นของเธอทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้“เลิกเรียนแล้ว เดี๋ยวฉันมารับ” เชษพูดต่อด้วยน้ำเสียงนุ่ม“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันกลับเอง” เจนส่ายหน้า แต่สายตาของเขาที่มองมา ทำให้เธอกลอกตาไปมาใช้ความคิดดวงตาคมจับจ้องเธอเขม็งจนเจนรู้สึกถึงแรงกดดัน เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนตัดสินใจยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาอย่างรวดเร็วเชษเบิกตากว้าง ราวกับไม่คาดคิดมาก่อน มือที่จับข้อมือเธอไว้เผลอคลายออกทันทีเจนยิ้มเล็กๆ รีบลงจากรถก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร“ไปก่อนนะ!” เธอหันมายิ้มหวาน พร้อมโบกมือให้เขา ก่อนจะรีบเดินเข้าตึกไปทันทีเชษนั่งนิ่งอยู่ในรถ ใบหน้ายังคงติดรอยยิ้ม มือหนายกขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะในลำคอ“แสบไม่เบาเลยนะ เจน...”ขณะที่เจนกำลังเร่งเท้าจะเดินเข้าห้องเรียน แขนสองข้างของเธอก็ถูกสอดเข้ามาจับไว้โดยฟ้าและแจง“หยุดเลย! วันนี้ไม่ต้องเรียน!” ฟ้าพูดเสียงเข้ม“ใช่ๆ วันนี้แกต้องโดนสอบสวน
ขณะเดียวกัน เฟิร์นที่นั่งอยู่ในกลุ่มอีกฝั่ง เธอมองการแสดงทั้งหมดของเชษและเจนด้วยสายตาแข็งกร้าว มือบางกำแก้วน้ำกระดาษจนมันยับยู่ยี่ เสียงหัวเราะและเสียงแซวที่ดังรอบกองไฟยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววขุ่นมัว ริมฝีปากเม้มแน่น เฟิร์นพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ด้วยการก้มหน้ามองพื้น แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความคิดอาฆาต เธอไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้ เชษที่เคยเป็นของเธอ อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น“เธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับเขาเลย” เฟิร์นพึมพำเบาๆ เสียงขมขื่นแต่แฝงด้วยความมุ่งมั่นในหัวของเธอเริ่มวางแผนบางอย่างขึ้นมาทันที‘ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปง่าย’ เฟิร์นพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะจ้องมองไปที่เชษด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและแผนการหลังจบกิจกรรมรอบกองไฟ เจนกลับมาถึงบ้านพัก แต่ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมทั้งวันกลับไม่ช่วยให้เธอหลับลงได้เลย เพื่อนสาวสองคนกลับหลับสนิท เสียงกรนดังสนั่นของทั้งคู่ ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาสูดอากาศที่สนามหญ้าหน้ารีสอร์ทบรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ ลมเย็นพัดโชยอ่อนๆ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ เจนหยุดยืนมองด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ดวงตาคู่สวยจับจ้อ
ค่ำคืนแรก: บรรยากาศรอบกองไฟลานกว้างของค่ายถูกแต่งแต้มด้วยแสงจากกองไฟใหญ่ที่ลุกโชน นักศึกษานั่งล้อมวงกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงหัวเราะและพูดคุยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนาน ขณะที่รุ่นพี่กำลังจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีในค่ำคืนนี้เจนเดินมาพร้อมฟ้าและแจงในลุคที่ดูสบายตาแต่แอบแฝงด้วยความเท่ปนหวาน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนเล็กน้อย คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูทะมัดทะแมง รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ เพิ่มความคล่องตัว แต่สิ่งที่ขับให้เธอดูโดดเด่นคือ ผ้าผูกผมลายตารางสีพาสเทลที่เธอใช้มัดผมเป็นหางม้า ทำให้ดูน่ารักแบบไม่ตั้งใจเชษที่นั่งอยู่ในวงนักศึกษาหนุ่มหันมองเจนทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมของเขาเบิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับโดนดึงดูดด้วยลุคที่แตกต่างจากปกติของเธอ เขาไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวในสไตล์นี้มาก่อน“โคตรน่ารักเลย...” เชษพึมพำกับตัวเองเบาๆ จนโจ้ที่นั่งข้างๆ ได้ยินและแอบยิ้มขำ ก่อนกระแอมเบาๆ เรียกสติ“ไอ้เชษ มึงจะแดกเขาแล้วมั้ย?” โจ้แซวขำๆ“เสือกน่ะ!” เชษตวาดเบาๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องเจนไม่วางตาเจนนั่งลงข้างฟ้าและแจง เธอไขว่ห้างเอนตัวพิงเบาะอย่างสบายๆ มือเรียวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
ช่วงบ่ายในลานกิจกรรมของค่ายบรรยากาศเริ่มคึกคักอีกครั้งเมื่อรุ่นพี่ประกาศโจทย์กิจกรรมช่วงบ่าย “สร้างโมเดลนวัตกรรมเพื่อชุมชน” โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับอุปกรณ์ที่จำกัดและต้องใช้ไอเดียสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลุ่มของเชษและเจนได้รับอุปกรณ์มาในกล่องกระดาษใบใหญ่ ภายในประกอบด้วยไม้ไอติม เชือก ปืนกาว เทปกาว กระดาษแข็ง และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ“เราจะทำอะไรกันดี?” พลอย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะบริหารเอ่ยถาม พลางมองอุปกรณ์ในกล่อง“น่าจะเน้นอะไรที่ช่วยชุมชนได้นะ แบบใช้ง่ายและประหยัด” เมฆเสนอความคิดเห็นพลางเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาหาข้อมูลเชษที่นั่งเท้าแขนข้างเจน เหลือบมองเธอที่กำลังจดไอเดียลงสมุดเล็กๆ อย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เธอล่ะ คิดอะไรอยู่?”เจนเงยหน้ามองเขา“ฉันคิดว่า เราน่าจะสร้างระบบกรองน้ำฝนง่ายๆ จากวัสดุรีไซเคิล เอาไว้แก้ปัญหาน้ำขังในบ้านเล็กๆ”เชษยิ้มบางๆ “ไม่เลวเลย แต่ต้องทำให้มันใช้งานง่ายจริงๆ”“งั้นเริ่มเลยมั้ย?” เมฆพูดอย่างกระตือรือร้นเริ่มต้นลงมือทำงานเจนและพลอยช่วยกันออกแบบโครงร่างของระบบกรองน้ำด้วยกระดาษแข็ง เชือก และถังน้ำเล็กๆ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ขณะที่เชษและเมฆจัดการตัดและต่อไ
บรรยากาศเช้าวันเสาร์คึกคักเป็นพิเศษ นักศึกษาปี 3 จากคณะวิศวะ บัญชี และบริหารต่างทยอยมารวมตัวกันที่ลานกว้าง เสียงพูดคุยดังอื้ออึงไปทั่ว รถบัสสามคันที่จัดเตรียมไว้จอดเรียงราย รอรับนักศึกษาไปยังสถานที่จัดกิจกรรม“แกจะนั่งรถคันไหน?” แจงถามเจน ขณะลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก“ไม่รู้สิ เอาคันกลางละกัน” เจนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตากวาดมองไปรอบๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านฟ้าหันไปมองทางกลุ่มนักศึกษาคณะวิศวะที่กำลังเดินมาถึง เสียงเธออุทานเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น“นั่น!พวกวิศวะมาแล้ว เชษก็มาด้วย”เจนชะงักเล็กน้อย เธอรีบหลบตาทันทีเพื่อกลบเกลื่อน แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว“อย่าพูดถึงเขาตอนนี้ได้มั้ย” เจนบ่นเสียงต่ำ“แกพูดแบบนี้ แต่นายเชษนั่น กำลังเดินมาทางเราละ...” แจงกระซิบพร้อมรอยยิ้มขำๆ“พร้อมเพื่อนๆ เขาด้วย” ฟ้าเสริม พลางทำหน้ากรุ้มกริ่มเจนหันขวับไปมอง และแน่นอน เชษกำลังเดินตรงมาจริงๆ โดยมีโจ้และเฟย์ตามมาด้านหลังกลุ่มของเชษสะดุดตาทุกคนด้วยความหน้าตาดี โดยเฉพาะเชษที่แค่เดินมาก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากนักศึกษาสาวได้ตลอดทาง หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกที่มีความมั่นใจของเขาทำให้ยิ่งดูโด
“เธอนอนห้องนี้” เชษพูดพลางพยักหน้าไปทางห้องนอนของแขกที่จัดเตรียมไว้ให้“อืม...ขอบคุณนะ” เจนตอบอย่างเกร็งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่เขาจัดไว้ให้เมื่อประตูห้องปิดลง เชษมองตามอย่างพอใจ ก่อนหมุนตัวกลับไปอาบน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ เชษยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ ขยี้ผมเปียกเบาๆ พลางคิดแผนการเล็กๆ ที่เขาเตรียมไว้ในใจเขาเดินเข้าห้องครัว หยิบน้ำเย็นหนึ่งขวดและขนมเล็กๆ น้อยๆ ออกมา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเคาะประตูห้องนอนแขก“เอ่อ...นายมีอะไร?” เสียงของเจนดังขึ้นจากหลังประตู ก่อนที่มันจะเปิดออก เธอยืนอยู่ในชุดนอนหลวมๆ ที่หยิบติดตัวมาด้วย ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ท่าทางเขินอายเล็กๆ ของเธอทำให้เชษยิ้มมุมปาก“แค่เอาน้ำกับขนมมาให้ เผื่อเธอหิวยามดึก” เขาส่งน้ำและขนมให้“ขอบใจ” เจนยื่นมือไปรับ แต่จังหวะที่เธอจะปิดประตู เชษกลับเอามือดันประตูไว้“ฉันว่า...” เชษลากเสียงนิดๆ ดวงตาคมจ้องมองเธอ“หืม?”“เธอไม่น่านอนได้หรอก ห้องนี้มันเงียบเกินไป” เชษพูดน้ำเสียงราบเรียบ แต่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์“ห้องเงียบก็เหมาะกับการนอนนี่” เจนแย้ง แต่เสียงของเธอเริ่มไม่มั่นคง“ห้องฉันดีกว่า ลองมานอนสิ” เชษพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
หลังจากจบงานพรีเซนต์ เชษก็จำใจต้องกลับไปคอนโดของตัวเอง เพราะครบกำหนดเวลาตามที่เขาอ้างไว้แล้ว เขามีท่าทีอิดออดอย่างเห็นได้ชัด ขณะเก็บของออกจากห้องของเจน“เธอแน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันอยู่ต่อ?” เชษถามเป็นครั้งที่สาม พร้อมหันมาส่งสายตาอ้อน“แน่สิ! นายอยู่จนฉันจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวแล้ว” เจนพูดเสียงแข็ง แต่กลับรู้สึกใจหวิวแปลกๆ“งั้นไปละนะ...” เชษพูดพลางลากเสียงยาว ก่อนเดินออกจากห้องไปเมื่อประตูปิดลง เจนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดแรง มือบางคว้ามือถือขึ้นมาไถดูข่าวสารในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย“อื้ม...อาทิตย์หน้าต้องไปออกค่ายแล้วนี่นา หวังว่าคงไม่ซวยเกินไปนะ” เธอพึมพำเบาๆแต่หลังจากนอนนิ่งไปได้สักพัก ความเงียบในห้องก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ เจนเปิดโทรศัพท์ดูซีรีส์ที่ค้างไว้ แต่กลับไม่มีสมาธิดูเหมือนปกติ“พอหมอนั่นไม่อยู่...ห้องดูเงียบพิลึกแฮะ” เธอพูดเบาๆ พลางถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเบือนหน้าไปมองเตียงที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ข้างๆ“...ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วยเนี่ย” เจนเอ่ยกับตัวเอง ขณะที่มือยังถือรีโมตเลื่อนไปมาบนหน้าจอทีวีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตัดความเงียบในห้อง เจนหยิบขึ้นมาดูชื่อ
ไม่นานนัก ไนท์ผู้จัดการผับไนท์อาวน์ก็เดินมาเชิญทั้งสองคนให้ขึ้นไปที่ห้องด้านบนของผับเมื่อถึงเวลา เจินและเจษเดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน ดวงตาของทั้งคู่สบกันด้วยความประหลาดใจ“เธอมาที่นี่ทำไม?” เจษถามเจินด้วยความงุนงง“ฉันควรถามนายมากกว่า ว่ามาทำไม” เจินแปลกใจเช่นกันยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้โต้เถียงกันต่อ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเชษที่ก้าวเข้ามา“โอ้...มาครบดีนี่” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาคมจ้องมองทั้งสองคน“เชษ?” เจษขมวดคิ้ว“นายต้องการอะไร?”เชษไม่ตอบ แต่โยนแฟ้มเอกสารสองแฟ้มลงบนโต๊ะ“นี่คือสิ่งที่พวกนายควรดู”เจษหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน ภายในเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเขากับเจิน การช่วยเหลือเจินในบางเรื่อง รวมถึงข้อความบางส่วนที่บ่งบอกว่าเขาเคยพยายามเข้าใกล้เจนด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์“นี่นายตามสืบฉันเหรอ?” เจษถามเสียงแข็ง ดวงตาเบิกกว้างด้านเจิน เมื่อเปิดแฟ้มของตัวเอง ภายในเอกสารมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการว่าจ้างพี่ตั้มให้ฉุดเจน ทั้งรายละเอียดการโอนเงิน และข้อความสนทนาที่เปิดเผยว่าเธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดเจินหน้าซีดเผือด มือที่ถือแฟ้มสั่นเทา“นี่มัน...” เจินพึ
หลังจากเชษส่งทุกคนลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อย เขาก็ขับรถพาเจนกลับมาที่คอนโดของเธอ บรรยากาศภายในรถเงียบงันตลอดทาง เชษไม่พูดอะไร ส่วนเจนก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิด กำลังวางแผนว่าควรจะจัดการกับเจินอย่างไรดี ความอึมครึมระหว่างทั้งสองคนทำให้ทุกอย่างดูอึดอัดเมื่อมาถึงห้องพัก เชษไม่พูดอะไรสักคำ แต่เดินตรงเข้ามาช้อนตัวเจนขึ้นทันทีโดยไม่ทันให้ตั้งตัว“เฮ้ย!” เจนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบยกแขนโอบรอบคอเขาไว้ตามสัญชาตญาณเชษวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล“อยู่นิ่งๆ” เขาสั่งเสียงเรียบ“เอ่อ...” เจนอ้าปากจะพูด แต่เชษยกมือขึ้นปราม“นั่งเฉยๆ เถอะน่ะ” น้ำเสียงของเขาไม่เปิดโอกาสให้เธอเถียงไม่นาน เขาก็เดินกลับมาจากห้องน้ำพร้อมอ่างน้ำและผ้าขนหนูในมือ เขาวางอุปกรณ์ทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ“นาย...”“เงียบเถอะ” เขาตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น พลางหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอย่างใจเย็น แล้วเริ่มเช็ดมือของเจนที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยเปื้อนจากการต่อสู้ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองไปยังรอยแผลเล็กๆ ที่มือบาง เขาขบกรามแน่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันอย่างเห็นได้ชัด“ใคร? มันเป็นใคร?” เชษถามเสียงต่ำ ดวงตาวาว
เชษที่ยืนอึ้งอยู่กับภาพตรงหน้า เผลอหัวเราะออกมาเบาๆ เขาลืมไปเสียสนิทว่า เจนเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวย ไอ้พวกนี้จะทำอะไรเธอได้ ดีแค่ไหนที่ไอ้พวกนี้ไม่ตายคาตีนเธอเขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาเธอ ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ากำปั้นเล็กๆ ของเธอเปื้อนเลือดจนแดงฉานเจนที่เพิ่งได้คำตอบว่าใครเป็นคนจ้างชายพวกนี้มา โยนร่างของชายที่คอเสื้อยังอยู่ในมือเธอลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี ก่อนจะหันมาเจอเชษยืนมองอยู่ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ“นะ...นะ...นายมาได้ไง” เธอพูดตะกุกตะกัก มองซ้ายขวาเลิกลั่กเชษอมยิ้มออกมาน้อยๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอ แม้จะเพิ่งจัดการพวกชายฉกรรจ์จนปางตาย แต่สำหรับเขากลับดูน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ“เธอนี่นะ...” เชษพึมพำเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงร่างเล็กของเธอเข้ามากอดแน่น“หืม?” เจนเลิกคิ้วงุนงง แต่ไม่ได้ขัดขืน“ฉันเป็นห่วงแทบแย่” เชษพูดเสียงทุ้มเบาๆ ใกล้หูเธอเจนกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะพึมพำตอบเสียงอ่อน“อะ...โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง”เชษไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่ก้มมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนเจนถึงกับเบลอไปชั่วขณะรู้ตัวอีกที ริมฝีปากร้อ