ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 13 ขี่ออกมายังไม่ทันถึงไหน คนซ้อนก็เปิดกระจกหมวกตะโกนแข่งกับเสียงลม “อยากเข้าห้องน้ำ” “อั้นก่อนได้ไหม?” “แวะปั๊มเลย!” ไม่มีทางเลือกนอกจากจะหักหัวมอเตอร์ไซค์เข้าปั๊มขนาดไม่ใหญ่นักที่บังเอิญอยู่ข้างทางพอดี จอดรถได้กานดาก็รีบถอดหมวกโยนส่งเดชมาให้ แล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำโดยไม่เอ่ยอะไรอีกดูท่าจะปวดหนัก… เพราะคิดว่าคงต้องรอนานเลยดึงบุหรี่ออกมาจุดสูบคั่นเวลา พลางก็เลื่อนมือถือดูกำหนดการไปต่างจังหวัดที่กานดาส่งมาให้เมื่อวันก่อนอีกรอบทางแชตไปด้วย ยัยนี่คงจะว่างมากจริง ๆ คนบ้าอะไรจะอยากทำมันทุกอย่างเหมือนเก็บกดมานานได้ขนาดนี้ ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าแรงบันดาลใจในการปีนเขาของกานดาคืออะไร แต่ถึงพูดไปก็เท่านั้นคงต้องให้เจ้าตัวรู้เองว่าสภาพร่างกายไม่พร้อม ไม่ได้ก็คือไม่ได้แต่ส่วนใหญ่ก็พอไหว… ที่บอกว่ากลัวอีกฝ่ายใช้งานไม่คุ้มค่าจ้างผมหมายความแบบนั้นจริง ๆ เราเจอกันแค่ตอนเย็นแถมยังแค่กินข้าว ไม่ได้มีกิจกรรมเยอะขนาดที่ว่าจะต้องจ่ายเป็นแสน เสนอตัวก็แล้ว อะไรก็แล้ว ยังนิ่
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 14 หลายวันต่อมา ไม่รู้เมื่อไรเหมือนกันที่ฉันสามารถทำใจให้ชินกับการตื่นมาแล้วเจอคนแปลกหน้านอนอยู่ข้าง ๆ บนเตียงเดียวกันแบบนี้ได้… รู้อีกทีก็ผ่านมาได้หลายวันแล้วกับการตื่นมากี่ที ๆ ข้างกายก็มีร่างเหยียดยาวนอนห่อตัวคลุมโปงอยู่เสมอ โดยที่ระหว่างเรายังไม่ผ่านการจ้ำจี้กันแม้แต่รอบเดียว แม้ว่าช่วงแรกเก๋าจะฮาร์ดเซลล์หนักมากแต่ระยะหลังก็ไม่ค่อยพูดถึงนัก แต่หากมีโอกาสก็พยายามจะนำเสนอเสมอ ที่เก๋ามานอนด้วยติดต่อกันหลายวันคงไม่ใช่เพราะหนืดเหนียวอยากจะประหยัดค่าไฟที่บ้านอย่างที่กล่าวอ้างไปเมื่อคราวก่อน แต่คงเป็นเพราะเวลาที่มีอย่างจำกัดคงไม่อยากเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับที่นี่ ประกอบกับมีการสอบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าตัวคงอยากเหลือเวลาให้ได้อ่านหนังสือเมื่อวานนี้เองที่การสอบวันสุดท้ายสิ้นสุดลง และหลายวันผ่านไปฉันก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากการเป็นผู้ปกครองเด็กโข่งเลยแม้แต่นิดเดียว ก๊อก ก๊อก ก๊อก เพิ่งจะตื่นได้ไม่ถึงห้านาทีก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ใช่แค่ฉันค
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 15 ตอนนี้เองที่ฉันขืนตัวลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด และเก๋าก็ไม่ได้รั้งไว้ แต่สายตายังคงมองตาม เพราะโดนจ้องไม่หยุดเลยต้องแก้เขินด้วยการปั้นหน้าบึ้งเท้าสะเอวจ้องกลับ “มองอะไร?” “มองไม่ได้?” “ไม่ได้” “เขินก็บอกว่าเขิน” ทำมารู้ทัน… เพราะไม่อยากจะให้เก๋าจับผิดอะไรได้อีก สุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ทำทีเดินไปคว้าเอากระเป๋าเป้ใบโตมาเริ่มจัดเสื้อผ้ายัดใส่ ชำเลืองเห็นคนบนเตียงยังนิ่งเฉยก็อดไม่ได้ที่จะแสร้งทำเสียงดังกลบเกลื่อนอะไรบางอย่างในใจ “อยากทำงานนักไม่ใช่หรือไง? เตรียมตัวสิ” “จะไปไหน?” “ทำบุญ…” “ทำบุญแล้วทำไมต้องเก็บกระเป๋า?” “ทำบุญเก้าวัด” “วันเดียวก็มีเวลาถมเถ” “อยากไปอีกที่ด้วย” “ที่ไหน?” “เถอะน่า อย่าถามเยอะ” “เอาไงก็เอา ผมสอบเสร็จแล้ว” “ดี ต่อไปนี้จะได้ใช้งานให้คุ้มหน่อย”“ก็รอให้ใช้อยู่เหมือนกัน”“…” “ก่อนหน้านี้ที่พี่ไม่ทำอะไรเลย เป็นเพราะผมสอบ?”
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 16 ตอนเย็น แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก ก้านไม้ของเซียมซีก้านหนึ่งหลุดออกจากกระบอกไม้ไผ่สีแดงก่อนจะร่วงลงบนพื้น ฉันได้เซียมซีหมายเลขที่ 13ช่างเป็นเลขที่เป็นมงคลเสียจริง… ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาฉันกับคู่หูดูโออย่างเก๋าพากันไปทำบุญเรียบร้อยตามที่ใจคิดทั้งหมดเก้าวัดเก้าวา และนี่ก็เป็นวัดสุดท้ายที่เรามาถึง หลังจากถวายสังฆทานที่เตรียมมาเรียบร้อยก็มาไหว้พระที่อุโบสถ ปิดท้ายด้วยการเสี่ยงทายเซียมซี คำทำนายเก่า ๆ ที่ระบุบอกหมายเลข 13 ทำเอาลังเลที่จะดึงออกมาแต่กลับมีคนช่วยดึงให้ แผ่นกระดาษสีน้ำตาลถูกยื่นส่งต่อมาให้ เก๋าลอบอ่านเล็กน้อยแล้วจู่ ๆ ก็ตั้งท่าจะดึงกลับคืน เพราะอาการที่ได้เห็นทำให้ฉันอยากจะรู้ว่าคำทำนายนั้นมันเขียนว่าอะไร รู้อีกทีก็ดึงเอากลับมาคำทำนายเซียมซีใบที่ 13ใบที่สิบสามว่าไว้ในอักษร เหมือนเรือเล็กไคลคลากลางสาครพายุต้องทวนลมระบมใจ จะข้ามฟากแสนยากลำบากยิ่งสิ้นทุกสิ่งจงแจ้งแถลงไข แม้นถามการไปมาจะคลาไคลท่านบอกไว้ตามคำที่ทำนาย ทิศทักษิณทิศประจิมริมวิถีหนทา
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 17 วันต่อมา เราเช็กเอาท์กันในช่วงสายของวัน แม้เมื่อคืนจะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนแต่เพราะมีแพลนจะเดินทางต่อไปที่จังหวัดชลบุรีถึงง่วงแค่ไหนก็ต้องถ่างตาตื่น พอรถแล่นผ่านเข้าตัวเมืองฉันก็บอกให้คนขับเลี้ยวเข้าร้านค้าขายส่งที่เสิร์ชหาข้อมูลมาเรียบร้อยแล้วว่ามีของที่ต้องการครบครันทุกอย่าง ทั้งยังจัดการสั่งของที่ว่ารวมถึงจ่ายเงินไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวาน เหลือแค่แวะมารับก็เท่านั้น คนที่มาด้วยกันเป็นคนจัดการเอาของพวกนั้นขึ้นท้ายรถ และทันทีที่เราขับต่อมาถึงที่หมายซึ่งก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่อยู่ลึกเข้ามาในซอยหนึ่งย่านชานเมืองชลบุรี เก๋าก็เลื่อนคิ้วเข้าหากันชำเลืองมองมาที่ฉัน ทว่ายังไม่ได้สอบซักอะไร ฉันเดินลงจากรถพร้อมทั้งต่อสายหาใครคนหนึ่งที่มีเบอร์กันอยู่ตั้งแต่หลายปีก่อน ไม่นานนักครูอ้อมผู้ซึ่งเป็นคนดูแลเด็ก ๆ ที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ก็เดินออกมาจากตัวอาคารขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิดตรงด้านหน้า เสียงจอแจเจี๊ยวจ๊าวดังแว่วออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ เด็ก ๆ คงกำลังเริ่มกิ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 18หลายวันต่อมา ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมาฉันยังคงใช้ชีวิตต่อไปตามคอนเซ็ปต์ ‘จะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด’ ทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้นจริง อย่างเดียวที่เห็นจะขาดไป ก็คือเรื่องอาหารการกินที่ลดน้อยลงกว่าแต่ก่อนหลายเท่าจากช่วงแรกที่รู้สึกทรมานหนัก หิวโหยกระวนกระวาย อยากจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า พอเวลาผ่านไปสักพักก็เริ่มทำใจให้ชินได้ และไม่ได้ต้องการอาหารวันละห้ามื้อต่อวันเหมือนอย่างเคย จากที่เคยกินแบบไม่ลืมหูลืมตา แคลอรีคืออะไรไม่เคยนับ จับอะไรได้ยัดใส่ปากมันทุกอย่าง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นการกินแบบชาญฉลาดมากขึ้นฉันยังกินอาหารครบห้าหมู่ทว่าพยายามกินให้พอดีตามที่ร่างกายต้องการ และนั่นรวมไปถึงผักผลไม้ที่เมื่อก่อนไม่คิดจะแตะก็ด้วย และข้อดีของการกินอาหารที่มีกากใยสูงก็ทำให้ระบบขับถ่ายเริ่มจะกลับมาเป็นปกติ เอาง่าย ๆ คือช่วงนี้ฉันไม่ต้องใช้เวลาถ่ายหนักนานกว่าที่ควรจะเป็นส่วนของหวานสุดโปรดอย่างชานมไข่มุกนั้นลืมไปได้เลย กินได้ก็แค่อเมริกาโนรสชาติห่วยแตกขมปี๋ที่ซื้อมากี่ทีก็ต้องเททิ้งมันทุกครั้งไปขนมขบเคี้ยว หรือกระทั่งร้านขายเค้กเจ้าประจำก็ต้องบ๊า
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 19 หนึ่งชั่วโมงต่อมา มันก็ผ่านมาหลายปีที่ฉันไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในย่านที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษาแบบนี้ มอเตอร์ไซค์จอดลงที่หน้าหอพักรวมหอหนึ่งเป็นอาคารสูงห้าชั้น เงยหน้าขึ้นมองพบว่าตรงระเบียงห้องของแต่ละชั้นล้วนเต็มไปด้วยราวตากผ้าที่มีเสื้อนิสิตแขวนอยู่ บ่งชัดว่าคนพักอาศัยส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา เก๋าดับเครื่องรถเสร็จเรียบร้อย เราก็พากันเดินเข้าสู่ตัวอาคาร สวนทางกับสาว ๆ กลุ่มหนึ่งที่กำลังหอบหิ้วตะกร้าผ้าใบโตคนละใบคงเพื่อไปซักที่ร้านสะดวกซักฝั่งตรงข้ามกับหอพักที่ได้เห็นเมื่อครู่ ก็หลงลืมโมเมนต์การแอบปลื้มรุ่นพี่หล่อ ๆ ไปหมดสิ้นได้หลายปีแล้วเพราะเลยวัยที่ว่ามานานพอสมควร แต่สายตาของเด็กสาวพวกนั้นที่พากันลอบมองร่างสูงที่เดินนำหน้ากันอยู่ ทำเอาอดที่จะคิดถึงความทรงจำสมัยเรียนมหา’ลัยขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ และแค่เราเดินผ่านเด็กกลุ่มนั้นมาแค่อึดใจเดียว ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดกันเบา ๆ ก็อดไม่ได้อีกที่จะแสร้งทำเป็นเหล่ตามองคนข้าง ๆ ด้วยสายตาหยอกล้อ เก๋าเห็นเข้าก็ไหวไหล่เต๊ะหน้าหล่อ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 20เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ รู้แค่ว่ามันคงจะดึกมาก เพราะล่าสุดมีคนมาเคาะห้องเตือนว่าเสียงจากห้องเราชักจะดังเกินไปแล้ว และจากการคุยกันอย่างเฮฮา ก็ต้องเปลี่ยนเป็นการคุยกันในระดับเสียงที่เบากว่าปกติ จังหวะหนึ่งหลังจากเวลาผ่านไปนาน คนอื่นพากันลุกเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง เหลือแค่ฉันกับช้างรวมถึงเก๋าที่รับหน้าที่นั่งเฝ้าวง เก๋าเป็นคนเดียวที่ไม่ค่อยจะออกความเห็นมากนัก ฉันเลยไม่คิดจะหันไปสนใจหาความอะไรด้วย สุดท้ายเลยหันมานั่งจับเข่าคุยกับช้างแทน และดูเหมือนเจ้าตัวเองก็อยากจะคุยกับฉันอยู่แล้วเหมือนกัน สถานการณ์ตอนนี้ก็คือคลับฟรายเดย์ดี ๆ นี่เอง และฉันก็รับบทเป็นพี่อ้อยพี่ฉอดที่ต้องทำหน้าที่ให้คำปรึกษาคนตัวโตตรงหน้า ถึงคนตรงหน้าจะชื่อว่า ‘ช้าง’ แต่ก็ไม่ใช่คนอ้วนฉุแต่อย่างใด และแม้จะเมาหนักจนใบหน้าข้างหูขึ้นสีแดง หากยังคงดูดี เอาเข้าจริงก็หล่อเหลาพอกันกับเก๋าเลยทีเดียว เพียงแค่ช้างเป็นคนช่างพูดมากกว่าก็เท่านั้น หรืออีกมุมหนึ่งอาจเป็นเพราะกำลังตกอยู่ในสภาวะที่ต้องการระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจอยู่ที่ข้างในอกก็
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 3 หลายปีต่อมา เพราะมีบ้านแล้วและเพราะฉันว่างมากจากอาชีพเดิมคือการเป็นเทรดเดอร์ นอกจากวัน ๆ จะต้องนั่งเฝ้าจอดูราคาหุ้น ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา ฉันก็ว่างแหละ ไม่ก็พยายามจะว่าง…ช่วงนี้ฉันตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน จัดการทำข้าวกล่องส่งขายตามตลาดเช้าเพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้เดิมที่มันก็ไม่ได้แย่อะไร และกว่าข้าวกล่องพวกนี้จะเสร็จก็กินเวลาเกือบเจ็ดโมงหากเป็นวันธรรมดาในเวลาเดียวกันนี้ จะได้เห็นร่างสูงของเก๋าในเชิ้ตกับสแล็กส์เรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงาน แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ได้เห็นคนที่ว่าอยู่ในสภาพดังกล่าวฉันอาจจะลืมเล่าไปถึงเรื่องที่ว่า คนเป็นสามีเรียนจบวิศวะเครื่องกลมา และตอนนี้กำลังทำงานควบคุมออกแบบ ติดตั้งเครื่องจักรกลที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถึงหน้าตาเก๋าเหมือนไม่ได้เรื่องสักเท่าไร แต่อย่างที่เห็นว่าพอจะได้เรื่องอยู่บ้าง วันนี้เป็นวันหยุดของเก๋า แต่กลับได้ยินเสียงคนที่ว่าดังมาจากทางห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้านตั้งแต่เวลาย่ำรุ่ง และไม่ใช่เสียงเก๋าคนเดียว… แต่ม
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 2 “คุณเป็นยังไงบ้าง?” น้ำเสียงติดขัดเอ่ยถามขึ้นก่อน สายตาจะเลื่อนขึ้นสบในวินาทีต่อมา “ชีวิตฉันตอนนี้ดีมาก ดียิ่งกว่าปีไหน ๆ”ฉันเอ่ยตอบในทันทีด้วยรอยยิ้ม แม้จะแฝงไปด้วยอารมณ์เกลียดขี้หน้าเหลือประมาณก็ตามที “ผมคิดถึงคุณนะ” คงเพราะสายตาสื่อความนัยแบบที่แค่มองก็รู้ว่าคิดอะไร ส่งผลให้รอยยิ้มของฉันคลายลงโดยอัตโนมัติ พึมพำตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะเค้นขู่ลอดไรฟัน “เกิดจะคิดถึงขึ้นมาได้เชียว” “เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไว้ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันไหม? ผมเป็นเจ้ามือเอง ยังไงก็คนคุ้นเคย…” คำว่า ‘คนคุ้นเคย’ กับการแสดงออกผ่านสายตาน่ารังเกียจ ทำเอาฉันรู้สึกอยากจะขย้อนอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ธนาก้าวเข้ามาอีกก้าวแล้วควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชันสำหรับใช้ติดต่อ “พลอยคงจะเสียใจถ้ารู้ว่าคุณทำตัวแบบนี้” คนฟังระบายรอยยิ้มน่ารังเกียจอีกครั้ง แล้วกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งฟังยิ่งทุเรศหู “พลอยไม่รู้หรอก” แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มา
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 1 เขาว่ากันว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรมักจะได้อย่างนั้น ผลของการกระทำมักจะเข้าเล่นงานแบบไม่ทันให้ตั้งตัว… ห้างสรรพสินค้า S ฉันกับเก๋าเราออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมตัวย้ายเข้าสู่เรือนหอของเราทั้งคู่ หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ร่วมสองเดือน และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ชายที่เมื่อแรกเจอเราทั้งคู่กัดกันยิ่งกว่าอะไร… “ที่รัก” “…” “ที่รัก” “…” “กานดา” “ฮะ?” เพราะฉันกำลังให้ความสนใจกับของตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่งที่ดูแล้วเหมาะน่าจะเอาไปตั้งในห้องนอนของเรา เลยไม่ทันได้ยินเสียงของคนด้านหลัง หันไปมองก็พบว่าคนเรียกกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกง สีหน้าเบื่อหน่ายฉายชัด “ทำไมจะต้องสรรหาสรรพนามอื่นมาเรียกกันด้วย? ผมเรียก พี่ก็ไม่หันอยู่ดี” “เมื่อกี้ไม่ได้ยิน เรียกอีกที ๆ” “…” ฉันที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำผิดข้อตกลงเรื่องล่าสุดระหว่างเราจำต้องรีบหมุนตัวกลับอีกครั้ง แสร้งทำเป็นดูของตกแต่งชิ้
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 52 สามปีต่อมา ฉันหมดแรงทิ้งเข่าทรุดกายลงตรงจุดซึ่งมีธงปักอยู่บ่งบอกว่าเราได้มาถึงจุดสูงสุดของยอดเขาซึ่งอยู่ทางแถบภาคตะวันตกของประเทศเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนนี้ลมพัดแรงจนผมเผ้าที่รวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังสะบัดปลิวพลิ้วไหว ขายาวของคนที่มาด้วยกัน หยุดยืนลงที่ด้านข้าง เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเก๋านั้นไม่ได้ดูหมดสิ้นเรี่ยวแรง กระทั่งแสดงออกว่าเหนื่อยสักนิดก็ยังไม่มี คนเป็นแฟนยืนทิ้งเข่า ยกขวดน้ำขึ้นจิบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ สายตาทอดมองไปยังเบื้องหน้าซึ่งเป็นภาพของเหล่าภูเขาสลับซับซ้อนเรียงรายมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนนัยน์ตาซึ่งหรี่เล็กน้อยเพราะแรงลมจะเลื่อนต่ำลงมองสภาพของฉันด้วยสายตาที่บ่งชัดว่ากำลังสมน้ำหน้ากัน โอเค…ฉันมันบ้าเองที่อยากจะเดินป่าขึ้นเขาขึ้นดอยให้ได้ และตอนแรกเก๋าก็ไม่เห็นด้วยกับการทำอะไรประเภทนี้ถึงแม้ฉันจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำก็จริง แต่เพราะยังไม่เคยทำกิจกรรมอย่างนี้มาก่อนเลยทำให้คนเป็นแฟนมีทีท่าไม่เห็นด้วยอย่างที่บอกเก๋าค้านว่า อย่างน้อยเราก็ต้องมีประสบการณ์เดินทางไกล หรือไม่ก็ต้อ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 51 หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายร้อนผ่าวของฉันนอนทาบทับคร่อมเรียวขาอยู่เหนือเรือนร่างเปลือยเปล่าของเก๋า ก้นสองข้างกำลังถูกฝ่ามือหนาจับสับโยกเข้าหาความแข็งขืนของตัวตนที่ผงาดกร้าวตั้งเป็นลำตอนนี้เป็นเวลาตีห้าเกือบจะหกโมงเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น แต่แค่เรานอนกอดนอนเกยกันนิดเดียวก็เกิดจะปลุกเปลวเพลิงให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาได้ เสียงร่องเนื้อรูดขึ้นลงตามจังหวะการทิ้งสะโพกเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในขณะนี้ คนที่นอนอยู่ด้านล่างคลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอ หอมเข้าที่ข้างแก้มไม่หยุดมาตั้งแต่เราเริ่มบรรเลงบทรักเมื่อชั่วโมงก่อน “เสียวไหม?”เสียงห้าวแหบเอ่ยถาม ทั้งมือยังคงควบคุมจังหวะความเร็วอยู่อย่างนั้น ฉันเลื่อนริมฝีปากกระซิบเข้าที่ข้างหูของคนเป็นแฟนก่อนจะเอ่ยบอกเสียงพร่า“เสียวจนจะแตกอีกแล้ว”“ชอบของผมไหม?”เก๋าหยักยิ้มเอ่ยขอคำชมที่ก็มักจะขอเสมอ และฉันก็ให้คำตอบด้วยการออกแรงขย่มสับรัวเร็วอย่างเอาใจ พลางกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงที่พร่าสั่นหนักกว่าเดิม“ขึ้นให้ทุกเช้าแบบนี้ เธอคิดว่าชอบไหม?”“ชอบตรงไหน?”“ชอบทุกตรง”“ผมก็ชอ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 50 หลายวันต่อมา หลายวันที่ผ่านไปคนที่บอกว่าจะจีบก็มาจีบทุกวัน เช้ารอบ เย็นอีกรอบ แต่ถ้าวันไหนติดงานแล้วมาไม่ได้ก็จะส่งกลอนหวานเลี่ยนมาทางแชตแทน แม้เป็นการจีบที่ไม่ได้เรื่อง แต่เก๋าก็ทำให้ฉันยิ้มได้ไม่หยุดและตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาค่ำแล้ว การได้เห็นเจ้าตัวปรากฏตัวจึงไม่ได้น่าแปลกใจเพราะก็มาอยู่ทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปจากวันอื่นตรงที่เก๋าแบกเอากีตาร์มาด้วยร่างสูงอยู่ในชุดนิสิตเหมือนหลายวันที่ผ่านมาเพราะมหา’ลัยเปิดเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ว่าก็ยังมีความพยายามที่จะขับมอเตอร์ไซค์มาหา“มาจีบ”ไม่ต้องรอให้ถามเจ้าตัวก็รีบชิงพูดขึ้นทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็เหมือนจะแกล้งกันเล่น เก๋าปลดกระเป๋ากีตาร์ออกจากหลัง ก่อนจะเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด สายตาร้อนแรงจับจ้องมองกันแบบไม่วางตา“ถอดเสื้อถอดผ้าทำไม?”“ร้อน”“โกหก”“ใช่”“ถอดกางเกงทำไม?”“ร้อน”“เก๋า”“ใช่ ผมโกหก”ฉันหลุบตาลงมองนิยายในมือที่กำลังอ่านอยู่ขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียงด้วย กระทั่งพื้นที่ว่างบนเตียงยุบลงก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกทีเก๋าในสภาพกึ่งเปลือยมีกีตาร์วางพาดอยู่
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 49 ความเงียบ สายลม รวมถึงสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินได้ฟัง มันควรจะเป็นโมเมนต์สุดแสนโรแมนติก ทว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อรู้ว่าเราสองคนใจตรงกัน ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แล้วหมวยจะไม่เป็นไรเหรอ?” “ไม่ต้องห่วง มีคนที่ดูแลหมวยได้ดีพอกับที่ผมทำช่วยรับหน้าที่ต่อแล้ว ถึงผมจะยังคงรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้น้องมัน แต่เรื่องอื่น ๆ น้องชายผมจะเป็นคนจัดการแทน” “เธอเคลียร์กับหมวยแล้วเหรอ?” “ผมบอกไปตรง ๆ ว่าผมชอบพี่ และเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ อันที่จริงก็ไม่ได้พูดครั้งแรกแต่พูดมาหลายครั้งแล้ว” “…” “และการตัดสินใจให้น้องผมเป็นคนดูแลหมวยต่อก็มีข้อดี หมวยจะได้ตัดใจจากผมได้สักที” “…” “และเพราะพี่เป็นแบบนี้ไง… ผมถึงได้ชอบ” เก๋าระบายรอยยิ้มอีกครั้งพลางก็ถอนหายใจเบา ๆ “ใครจะเห็นอกเห็นใจคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักกัน ใครจะปากแว้ด ๆ ๆ แต่จริงแล้วเป็นคนใจดี” “นี่ชมหรือด่า?” “
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 48 หลายวันต่อมา วันนี้ วันที่ยี่สิบพฤศจิกายน… ฉันในชุดเดรสสีชมพูอ่อน รวบผมเป็นหางม้า ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ที่เพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ กำลังหมุนตัวซ้ายขวาตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องในช่วงเวลาเช้าตรู่ของวัน เพื่อไปงานแต่งงานของคนสองคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทมากมายในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฉันตั้งแต่สมัยมัธยม มหา’ลัย กระทั่งเริ่มต้นทำงานอย่างจริงจัง งานแต่งของสองคนที่ว่าจัดขึ้นที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นบ้านเกิดของธนาอดีตแฟนของฉันเอง พลอยส่งโลเคชันที่จัดงานมาให้ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนแล้ว และถึงฉันจะไม่ได้ตอบรับว่าจะไป แต่ก็มีเก๋าเสนอหน้าช่วยตอบให้ ทั้งยังแนบรูปที่เป็นของเราสองคนส่งไปด้วย เก๋าบอกว่าเราเป็นแฟนกันทั้งที่ตอนนั้นเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่กี่วันเท่านั้น และถึงตอนนี้ไอ้คำว่าแฟนที่ว่าก็ยังไม่ได้เป็น ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงระยองกินเวลากว่าสามชั่วโมง มาถึงสถานที่จัดงานก็เป็นเวลาที่พิธีการเริ่มต้นขึ้นพอดิบพอดี งานแต่งงาน
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 47 ยี่สิบนาทีต่อมา แน่นอนว่าผมรถล้ม… และเกือบจะได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล แต่โชคยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บมากเท่าไรนัก ถึงแขนจะถลอก หน้าจะเกือบแหก แต่ก็ยังพอไหว… ความเร่งรีบทำให้ผมลืมแม้กระทั่งสิ่งสำคัญอย่างหมวกนิรภัยที่ปกติแล้วจะต้องใส่เสมอเพื่อความปลอดภัยของชีวิต แต่เพราะวันนี้จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรื่องที่ว่าไม่ควรจะลืมก็ดันมาลืมซะได้ แม้จะบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ผิวเนื้อตรงจุดที่เลือดผุดซึมจะแสบ ๆ คัน ๆ แต่ก็ไม่มีเวลาให้สนใจ มาถึงคอนโดของกานดาได้ผมก็รีบวิ่งเข้าไปกระหน่ำกดลิฟต์ทันที มีลุงแช่ม รปภ. ประจำคอนโดรีบวิ่งตามเข้ามาด้วยอาการร้อนใจแทน ผมพยายามจะใจเย็นตอนที่บอกว่าไม่เป็นไรผมจะขึ้นไปดูเอง แต่ใจผมในตอนนี้มันเย็นแทบไม่ไหวแล้ว และทันทีที่กระหืดกระหอบวิ่งมาถึงหน้าห้องที่แสนจะคุ้นเคยก็รีบใช้กุญแจที่ตัวผมเองยังไม่ได้คืนให้เจ้าของห้องไขเข้าที่ลูกบิดทันทีพร้อมทั้งส่งเสียงเรียกไปด้วย “กานดา!” “…” “กานดา!” “…”