เธออดถามเขาไม่ได้ ตอนอยู่ที่คลับเฮราหรืออยู่กับเธอสองต่อสองเขาดูเจ้าชู้กรุ้มกริ่มและมักพูดจาทีเล่นทีจริงเสมอ ทว่าพอมาเจอกันที่นี่ ทั้งท่าทีและน้ำเสียงกลับดูเคร่งเครียดจริงจังราวกับคนละคน
“ผมก็ตามลูกค้าของผมมาน่ะสิ คุณก็รู้ฐานะของผมแล้วไม่ใช่หรือว่าผมเป็นพวกผู้ชายขายน้ำน่ะ” เขาตอบพลางก้าวเข้ามาชิดจนใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ โชคดีที่มีหน้ากากปิดบังเอาไว้ มิเช่นนั้นเขาคงเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเธอเป็นแน่
“การแสดงจบแล้ว อีกสักพักคุณก็ควรกลับได้ละ” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่มือของเขากลับยึดเอวเธอเอาไว้แล้วดันจนร่างเธอชิดผนัง จากนั้นก็บดเบียดร่างของเขาเข้ามาชิดจนเธอรู้สึกได้ถึงสรีระกำยำภายใต้ชุดคลุม
“คุณจะทำอะไร!” เธอถามเขาเบา ๆ พร้อมจับต้นแขนของเขาแน่นด้วยความตกใจ
“อยู่เฉย ๆ ก่อน อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก มีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องอยู่นะ”
เขาพูดอะไรเธอไม่เข้าใจเลยสักนิด ใครเป็นคนจับตาดู แล้วคนที่ดูจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นใครในเมื่อทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมดคือชุดคลุมสีดำยาวกรอมเท้าและสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า แม้กระทั่งเข
ชาคริตกดตัวหญิงสาวให้นั่งคุกเข่าแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า จากนั้นก็เข้าครอบครองความอ่อนนุ่มจากทางด้านหลัง อย่างไม่พูดพล่ามทำเพลงเขาโถมตัวเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรุนแรงตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด เสียงกรีดร้องครวญครางของคนใต้ร่างยิ่งดังเท่าไรชายหนุ่มก็ยิ่งฮึกเหิมมากขึ้นเท่านั้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังแข่งกันยิ่งส่งให้อารมณ์ใคร่พลุ่งพล่านจนไม่ทันได้สังเกตว่าผู้หญิงที่อยู่กับตนนั้นหาใช่คนที่กำลังตามหาไม่ชายหนุ่มพลิกตัวหญิงสาวให้นอนหงายแล้วเข้าครอบครองอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาตวัดเสื้อคลุมเลิกขึ้นจนปิดบังใบหน้าของเธอไว้แล้วเปิดเปลือยร่างกายขาวนวลให้ปรากฏสู่สายตา ความใคร่ที่แทบจะกลายเป็นความคลั่งถาโถมเข้าใส่ร่างบอบบางอย่างไม่กลัวว่าหญิงสาวจะบอบช้ำ ร่างระหงสะท้อนขึ้นลงไปมาอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจนกระทั่งเสียงลมหายใจหอบสะท้านผสานไปกับเสียงครางด้วยความสุขสมชาคริตผลิรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อทุกอย่างได้ดั่งใจ เขาเอื้อมไปดึงผ้าคลุมออกจากศีรษะของคนใต้ร่าง หน้ากากสีขาวหลุดเลื่อนเล็กน้อยจนเปิดเผยให้เห็นใบหน้าครึ่งหนึ่ง รอยยิ้มเมื่อครู่จึงเลือนหายไปทันทีพร้อมกับอารมณ์กราด
“เท่าที่รู้มาลัทธิตันตระเป็นลัทธิหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากศาสนาพุทธอีกที แต่ความเข้าใจจริง ๆ ในลัทธินี้พี่เองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะแต่ละตำราบอกไม่ค่อยตรงกัน บ้างก็ว่าเป็นลัทธิที่ต้องปฏิบัติกิจกรรมทางเพศเพื่อความรู้แจ้ง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือต้องมีเซ็กซ์จนกว่าจะหลุดพ้นจากเรื่องทางเพศไปน่ะ บ้างก็บอกว่าเป็นลัทธิฝึกจิตเฉย ๆ แต่คนเข้าใจผิดกันไปเองในเรื่องอย่างว่า คงเพราะความคลุมเครือตรงนี้แหละมั้ง ไอ้ผับบ้านี่ก็เลยเอามาเป็นข้ออ้างบังหน้าเฉย ๆ ทั้งที่ความจริงก็แค่ต้องการขายยาและให้คนมามั่วเซ็กซ์กันได้อย่างอิสระ”“อาจจะจริงอย่างที่พี่ว่า เพราะรอบผับก็มีรูปปั้นกามสูตรไว้ยั่วยุคนข้างใน ไหนจะการแสดงบนเวทีที่มีแต่เรื่องเซ็กซ์อีก นี่แค่เบาะ ๆ นะพี่พล ลงถ้าได้มาในคืนขึ้นสิบห้าค่ำหรือแรมสิบห้าค่ำ การแสดงจะยิ่งอุบาทว์กว่านี้อีก”รชตแค่นยิ้มเมื่อนึกถึงการแสดงรอบพิเศษที่เขาเคยเข้าไปดูในคืนขึ้นสิบห้าค่ำที่ผ่านมา“เป็นยังไงวะ”“มันจะมีการสุ่มเลือกผู้หญิงจากด้านล่างขึ้นไปบนเวทีน่ะพี่ พวกข้างในเขาจะเรียกกันว่าพิธีบูชายัญ พอขึ้นไปแล้วก็
รชตรู้สึกไม่คุ้นเคยกับน้ำเสียงแฝงความเศร้าสร้อยกับท่าทางโดดเดี่ยวของหญิงสาว เพราะตั้งแต่เธอยังเป็นแค่เด็กผมเปียจนกระทั่งโตเป็นสาวสะพรั่งขนาดนี้ เขาเห็นเธอแต่ในรูปลักษณ์ของคนที่มีความมั่นใจ เฉลียวฉลาดปราดเปรียวมาโดยตลอด“ตอนนี้ยังรู้สึกใจสั่นอยู่อีกไหม หรือมีอาการอะไรอีกรึเปล่า” เขารีบเบนเข็มออกมาจากเรื่องครอบครัวแล้วโฟกัสไปที่อาการของเธอแทนแพรพิไลสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับกอดหมอนอิงแน่นขึ้นกว่าเดิม“ยังเป็นเหมือนเดิมเลยค่ะ แพรอยากนอนแต่แพรหลับไม่ได้ ใจมันสั่นตลอดเวลา”รชตลุกขึ้นเดิน ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าเบื้องหน้าหญิงสาว เอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบา ๆ แล้วเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน“เดี๋ยวผ่านไปสักพักมันก็ดีขึ้น เพราะร่างกายจะขับออกไปเองโดยธรรมชาติ แต่แพรไม่ได้เผลอกินเข้าไปเยอะใช่ไหม”แพรพิไลส่ายหน้าเร็ว ๆ “แค่เอาลิ้นแตะผงขาว ๆ ตรงปากแก้วแล้วก็อมเครื่องดื่มนั่นไว้ในปากตอนที่คุณไล่ให้กลับบ้านแค่นั้นเอง ไม่ได้กลืนลงไปเลยนะสาบานได้”“บางทีมันอาจจะมีไหลลงคอไปบ้างน่ะ และร่างกายแพรคงจะแพ้สารพวกนี้
‘อย่าดีกว่าน้องแพร รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงนะ’ เสียงห้าวของเด็กหนุ่มกระซิบกระซาบเบา ๆ ข้างหูของเด็กหญิงที่กำลังพยายามแนบหลังทาบกับกำแพงอย่างเต็มที่เพื่อแอบมองคนกลุ่มหนึ่งซึ่งทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ด้านหลังโรงเรียน‘ชู่...เบา ๆ สิพี่อาร์ตเดี๋ยวพวกนั้นก็รู้ตัวหรอก แพรว่าเขาต้องมาแอบเสพยากันแน่ ๆ เลยเพราะตรงนี้เป็นมุมลับตาคน’ เด็กหญิงจุปากพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังจนอีกฝ่ายได้แต่อ่อนอกอ่อนใจ‘น้องแพร พี่ว่าไปบอกครูให้มาจัดการดีกว่า เรื่องแบบนี้มันเกินกำลังของเราแล้วนะ’เขาพูดเสียงอ่อนเหมือนจนใจกับความดื้อดึงของเธอ แต่กระนั้นก็ยังจับข้อมือของแพรพิไลไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะกลัวว่าเจ้าตัวแสบจะพุ่งพรวดออกไปทำอะไรที่เป็นการไม่สมควรเข้า‘ขอแพรดูให้แน่ใจอีกสักหน่อยสิพี่อาร์ตว่าใช่รึเปล่า แล้วเราค่อยไปบอกครูด้วยกัน’ ทันทีที่แพรพิไลพูดจบ กลุ่มคนที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้นก็คงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าถูกแอบมอง เพราะพวกนั้นรีบเก็บอุปกรณ์การเสพต่าง ๆ เหน็บเข้ากับขอ
เมื่อคืนเขาต้องอดกลั้นแค่ไหนเธอไม่มีทางรู้เพราะเจ้าตัวดีของเขาหลับไปก่อน แถมยังเดี๋ยวเบียดเดี๋ยวกระแซะจนร่างกายเขาร้อนรุ่มไปหมด เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มในวันวานอีกแล้วที่จะไม่รู้สึกรู้สาเวลาที่เธอมาโอบมากอด ในที่สุดเขาจึงตัดปัญหาด้วยการลงมานั่งเล่นที่ห้องรับแขกแล้วปล่อยให้เธอนอนคนเดียวต่อไป ส่วนเขาซึ่งตาสว่างแล้วจึงถือวิสาสะเดินดูหนังสือในตู้ จนกระทั่งไปเจอนามบัตรของเธอเข้าแพรพิไล ก้องกาจสกุล...สำนักงานนักสืบไพศาลเขารู้แล้วว่าทำไมถึงได้รู้สึกตงิดแปลก ๆ ตอนเห็นชื่อของเธอที่ใช้กรอกในใบสมัครเป็นสมาชิกที่คลับเฮรา ตอนนั้นเธอใช้ชื่อว่าเพชรแพรวา ซึ่งครั้งแรกที่เขาเห็นยังรู้สึกว่าชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อของเธอ แต่เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าชื่อจริง ๆ ของเธอคืออะไรแพรพิไลรู้สึกเหมือนเท้าไม่ติดพื้นยามที่เรียวลิ้นอุ่นร้อนของเขาแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างเอาแต่ใจ จูบครั้งนี้ดูดดื่มเร่าร้อนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เขารุกไล่หยอกเย้าพัวพันและหลอกล่อให้เธอคล้อยตามครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังถูกเขาใช้เสน่ห์ล่อลวง หญิงสาวก็ขึ้นมานั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวโดยที่มีตัวเขาแทรกอยู่ตรงกลางระห
“สรุปว่าหล่อขึ้น” รชตยิ้มกรุ้มกริ่มจนแพรพิไลแอบเบ้ปาก ซึ่งผลของการเบ้ปากก็คือถูกจูบหนัก ๆ อีกครั้งหนึ่ง“แต่เชื่อไหมว่าพี่จำแพรได้ทันทีที่เห็นหน้าตอนมาที่คลับเฮรา”“อะไรกัน นึกว่าจะบอกว่าแพรสวยขึ้นสาวขึ้นเซ็กซี่ขึ้นซะอีก” หญิงสาวแสร้งตัดพ้ออย่างไม่จริงจังนัก เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มได้อีกครา“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว พี่ถึงได้ตามประกบแพรไว้ไม่ให้ใครเข้าใกล้ไงล่ะ” เขาจูบหน้าผากมนก่อนพูด“กินข้าวกันเถอะ กับข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง กินเสร็จเราจะได้คุยเรื่องสำคัญกัน” รชตอุ้มเธอลงจากโต๊ะกินข้าว แล้วกดไหล่หญิงสาวให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะหันไปจัดการอุ่นกับข้าวอีกถุงแพรพิไลเห็นดังนั้นจึงลุกพรวดขึ้นทันที “แพรทำเองดีกว่าค่ะ พี่อาร์ตไปนั่งเถอะ นะคะแพรขอร้อง”นี่เป็นบ้านของเธอและครัวของเธอ ตามหลักแล้วเขาควรจะนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วรอให้เธอจัดเตรียมกับข้าวให้ถึงจะถูก ไม่ใช่มาสลับหน้าที่กันอย่างนี้“ตามใจละกัน” ชายหนุ่มวางมือจากถุงกับข้าวแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มหญิงสาวอ
เสียงดนตรีป็อบร็อกที่ดังกระหึ่มมาจากชั้นล่างทำให้เหล่าผีเสื้อราตรีต่างลุกขึ้นเริงร่าท่ามกลางแสงไฟวูบวาบสลับไปมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของหญิงสาว เมื่อเห็นนักร้องหนุ่มหน้าตาดีเดินถือไมค์ออกมาจากหลังเวทีแล้วขยับโยกไปตามจังหวะเพลง ขณะที่กลุ่มคนด้านล่างเวทีก็ขยับโยกตามไปในจังหวะเดียวกันสารวัตรจุมพลยืนดูภาพนั้นอยู่หน้ากระจกนิรภัยบานใหญ่แล้วถอนหายใจแผ่ว ภาพเบื้องล่างดูอย่างไรก็รู้สึกน่าเวียนหัวมากกว่าจะสนุกสนาน หากเป็นเมื่อสมัยที่เขายังเป็นนักศึกษาคงร่วมผสมโรงความสนุกตรงหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พอโตขึ้น ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับจากการเป็นตำรวจและประสบการณ์ชีวิตจากโลกภายนอก ทำให้เขาอยากหามุมสงบเพื่อพักผ่อนและปล่อยวางชีวิตแสนเคร่งเครียดที่กำลังเป็นอยู่นี้มากกว่า“พี่พลครับ เจ้าอาร์ตมาแล้วละ”พชรยืนเรียกชายหนุ่มผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของภีมพล เมื่อเห็นน้องชายมาตามนัดหมายเพื่อประชุมเรื่องสำคัญสารวัตรหนุ่มละสายตาจากภาพความสนุกสนานเบื้องล่างแล้วเดินตามพชรเข้าไปด้านในเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ภายในห้องทำงานบนชั้นสองของผับซุส สี่หนุ่มนั่งเ
แพรพิไลครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับเรื่องของครองขวัญ ประเด็นที่ว่าหิ้วเด็กหนุ่มไปต่างประเทศนั้นตัดไปได้เลย เพราะจากที่สืบทราบมาเจ้าตัวไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศ ฉะนั้นมีทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้ก็คือครองขวัญติดยาอย่างหนักจนถึงขั้นคลุ้มคลั่งเมื่อไม่ได้เสพสุกำพลก็คงถือเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการหย่า“แล้วแกคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องไหน” แพรพิไลลองถามความเห็นจากเพื่อนสนิทผู้คลุกคลีตีโมงอยู่กับคนทุกระดับโดยเฉพาะในแวดวงสังคมไฮโซ“ไอ้เรื่องหนีตามผู้ชายไปน่ะฉันไม่ชัวร์ เพราะคนอย่างคุณขวัญเธอไม่หยุดอยู่แค่ผู้ชายคนเดียวหรอก ยิ่งเป็นพวกเด็กหนุ่ม ๆ หล่อนกินทิ้งกินขว้างจะตายไป ไม่มีทางมาหัวปักหัวปำกับคนคนเดียวแน่ย่ะ”แพรพิไลพยักหน้าเห็นด้วย เพราะลินดาวิเคราะห์ได้ตรงกับที่เธอคิดไว้พอดี ครองขวัญเป็นผู้หญิงประเภทรักสนุกแต่ไม่ผูกพัน และเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงเพราะคิดว่าตนมีดีพอ ฉะนั้นไม่มีทางที่ครองขวัญจะทำเรื่องไร้สาระอย่างเช่นการหนีตามผู้ชายไปแน่นอน“ฉันก็คิดเหมือนแก แล้วแกคิดว่าเธอหายไปไหน” หญิงสาวถามลินดาอีกครั้
“พี่ขอดูคลิปนั่นหน่อย แพรบอกว่าคนบงการเบื้องหลังก็อยู่ในคลิปนั่นด้วยใช่ไหม”เขาคิดว่าบิดาของแพรพิไลคงตามเรื่องสมาคมหน้ากากเช่นกัน และน่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหลายอย่างด้วย และที่สำคัญคงรู้แล้วว่าใครคือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังแพรพิไลเปิดคลิปวิดีโอที่ว่า “พี่อาร์ตลองช่วยแพรดูหน่อยค่ะ เพราะเท่าที่แพรดู แพรไม่เห็นว่าคุณพ่อจะถ่ายใครมาเป็นพิเศษเลย” หญิงสาวลุกขึ้นไปหยิบเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้าง ๆในห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรย่านใจกลางเมือง ชายสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังลุกลี้ลุกลนยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ บนพื้นห้องมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัววางระเกะระกะ แต่ผู้เป็นเจ้าของกลับไม่ได้สนใจเท่าไรนัก ที่เขาสนใจมีเพียงเอกสารสำคัญและของมีค่าที่สู้อุตส่าห์แลกมาด้วยแรงกายและความเสี่ยง เพราะอย่างน้อยสร้อยแหวนนาฬิการาคาแพงเหล่านี้ก็สามารถนำไปจำนำหรือขายต่อได้ในวันที่เขาสิ้นไร้ไม้ตอกชาคริตดูนาฬิกาข้อมือแล้วเม้มปากแน่น อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด ซึ่งจะมีคนพาเขาหนีไปกบดานที่ประเทศเพื่อนบ้านสักระยะหนึ่ง เพื่อรอจนกว่าเ
รชตจอดรถไว้ริมกำแพงบ้านของแพรพิไล ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรถยนต์ของหญิงสาวยังคงจอดไว้หน้าบ้านเหมือนเมื่อตอนที่เขาออกไปตอนกลางดึก ก็แสดงว่าเธอยังไม่ได้ออกไปไหน แพรพิไลบอกเขาว่าวันนี้จะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ป่านนี้เจ้าตัวคงกำลังหัวฟูอยู่กับการปัดกวาดเช็ดถูบ้านเป็นแน่ เพราะเขาโทร. หาหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่รับสายชายหนุ่มสาวเท้าไปยืนที่หน้าประตูรั้ว คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่าภายในบ้านเงียบผิดปกติ ตามหลักแล้วเขาควรจะได้ยินเสียงโทรทัศน์หรือเสียงเพลงดังออกมาจากบ้านบ้างแต่นี่กลับไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลย“ตกลงอยู่หรือไม่อยู่เนี่ย” พูดพลางเพ่งมองเข้าไปในบ้านอีกครั้งก่อนก้มลงมองกุญแจที่คล้องไว้จากด้านใน จะกดออดก็ไม่ได้เพราะออดเสียยังไม่ได้ซ่อม สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาหญิงสาวเจ้าของบ้านอีกครั้ง ทว่าก็ยังไม่มีคนรับสายเหมือนเดิมเอาไงดี...รชตเริ่มร้อนใจ ยิ่งนึกถึงเรื่องที่คุยกับสารวัตรจุมพลก็ยิ่งเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นกับเธอหรือเปล่า คิดได้ดังนั้นเขาก็มองซ้ายมองขวา จากนั้นก็เริ่มลงมือปีนรั้ว!&nbs
และที่น่าแปลกใจก็คือสมาชิกที่เข้าร่วมในลัทธินี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนในแวดวงสังคมชั้นสูงทั้งสิ้น กว่าฌอนจะไขคดีนี้จนติดตามมาถึงสถานที่บูชายัญได้นั้นต้องใช้เวลาเกือบปีเพราะอุปสรรคนานัปการที่คอยขัดขวางไม่ให้เขาสืบคดีได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปสรรคเรื่องบุคคลผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายแหล่ที่เป็นสมาชิกของลัทธินี้นั่นเองช่างคล้ายคลึงกับเรื่องสมาคมหน้ากากเหลือเกิน!หญิงสาวหยิบกระดาษขึ้นมาดูตัวเลขอีกครั้ง เมื่อเห็นตัวเลขที่เรียงกันสมองก็พลันคิดไปถึงเกมที่บิดาเคยสอนให้เล่นบ่อย ๆ เมื่อตอนเป็นเด็กเวลาที่เธอกลับจากโรงเรียนแล้วนั่งรอบิดาอยู่ที่สำนักงาน หลังจากทำการบ้านเสร็จแล้วไม่มีอะไรทำท่านจึงคิดเกมนี้ขึ้นมาให้เล่นฆ่าเวลาระหว่างรอเกมที่ว่านั่นก็คือเกมถอดรหัสตัวหนังสือจากตัวเลขในกระดาษตัวเลขแถวแรกคือเลขหน้าของหนังสือ ตัวเลขแถวที่สองคือลำดับของคำที่อยู่ในแต่ละบรรทัด เช่นแถวแรกคือเลขหนึ่งก็หมายถึงให้เปิดหน้าที่หนึ่ง ตัวเลขแถวที่สองคือสิบสามก็หมายถึงให้นับคำไปจนถึงคำที่สิบสาม ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะได้ประโยคหรือเนื้อหาที่ต้องการแพรพิไลเปิดหนังสือเล่มที่สอง ซึ่งเล
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วบิดขี้เกียจไปมาอยู่สองสามครั้งก่อนจะพับผ้าห่มเก็บไว้ปลายเตียง หยิบรีโมตคอนโทรลขึ้นมาปิดเครื่องปรับอากาศแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าเสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น แพรพิไลคลี่ยิ้มออกมาทันทีเพราะไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นผู้ส่งมา ร่างโปร่งระหงเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอ่าน รอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วก็ยิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิมอรุณสวัสดิ์ครับตัวแสบ อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะ พี่ไม่อยู่ไม่ใช่ว่านอนอุตุจนตะวันแยงก้นล่ะ“อะไรกัน ได้นอนบ้างรึยังละนั่น” เมื่อคืนรชตออกจากบ้านไปตอนเที่ยงคืนกว่า เธอเดาว่าป่านนี้เขาคงยังไม่ได้นอนเลยสักนิดกระมังหญิงสาววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมก่อนเดินเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ วันนี้มีอะไรมากมายหลายอย่างที่ต้องทำ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการปัดฝุ่นทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ เพราะตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกเธอก็ไม่เคยทำเลยสักครั้ง ป่านนี้บิดาที่อยู่บนสวรรค์คงกำลังนั่งบ่นลูกสาวจอมขี้เกียจอย่างเธอเป็นแน่แพรพิไลจัดการอาหารเช้าให้ตัวเองอย่างง่าย ๆ เพราะรชตสั่งนักสั่งหนาว่ามื้อเช้าสำคัญท
เสียงภาพยนตร์ต่างประเทศดังกระหึ่มอยู่ในห้องรับแขกโดยมีสองร่างกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน ทว่าคนที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอสี่เหลี่ยมดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มเท่านั้น เพราะหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกันคอยแต่มองนาฬิกาอยู่ตลอด“คืนนี้มีมีตติงใช่ไหมคะพี่อาร์ต” แพรพิไลมองนาฬิกาติดผนัง สีหน้าแววตาคาดหวังเต็มเปี่ยมว่าจะได้ออกภาคสนามที่สมาคมหน้ากากอีกครั้ง“ใช่ และคืนนี้เขาจะบุกค้นที่นั่นแล้วด้วย อยู่บ้านเฉย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว อย่าซ่าให้มากนักเลย” พูดจบรชตก็ล้มตัวลงหนอนหนุนตักนิ่ม ๆ ของหญิงสาวพร้อมกับคว้าแขนของเธอมากอดเอาไว้แน่น“แพรยังไม่ได้พูดสักหน่อยว่าอยากจะไป ก็แค่ถามเท่านั้นเอง”แพรพิไลโอดเสียงอ่อยก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ ๆ รชตก็กัดต้นขาเธอเบา ๆ “พี่อาร์ต! ทำอะไรน่ะ”“ลงโทษคนปากไม่ตรงกับใจ แล้วการที่นั่งมองนาฬิกาตลอดเวลาจนหนังแทบไม่ได้ดูนั่นยังจะเรียกว่าไม่คิดอยากไปรึไงยายตัวแสบ” เขาดีดหน้าผากเธอเบา ๆ ก่อนพูดขึ้นว่า“คืนนี้พี่จะนอนเฝ้าแพรทั้งคืนเลย”แ
“อย่ามาเหมายกเข่งกันแบบนี้สิ” ชายหนุ่มดูนาฬิกาข้อมือพลางพูด“พี่จะเข้าไปออฟฟิศสักหน่อย แล้วก็คงเลยไปที่คลับด้วยเลยทีเดียว จะพยายามไม่กลับดึกมากนะ”รชตมองหน้าเธอครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจจะให้เธอติดตามเขาไปด้วย เพราะอย่างไรเสียเขาก็ไม่กล้าทิ้งเธอไว้ที่นี่ตามลำพัง แม้ว่าทางตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลให้ก็ตาม แต่กระนั้นเขาก็ไม่อยากวางใจ“พี่ว่าแพรไปกับพี่ดีกว่า พี่จะแนะนำพี่ชายกับพี่สะใภ้ให้รู้จักด้วย”แพรพิไลส่ายหน้าหวือ เพราะเธอมีแผนอยู่ในใจแล้ว“อย่าเพิ่งดีกว่าค่ะ วันนี้แพรกะว่าจะเข้าไปที่สำนักงานเหมือนกัน เอาเป็นว่าแพรจะอยู่รอพี่สำนักงานดีกว่า”“ตามใจ”หญิงสาววิ่งขึ้นไปหยิบกระเป๋าสะพายซึ่งในนั้นมีฮาร์ดดิสก์ที่รชตคืนมาให้ เพื่อพกติดตัวไปด้วยตลอดเวลา เพราะกลัวว่ามันจะถูกขโมยไป อีกทั้งกะว่าจะนำข้อมูลในนี้ก๊อปปี้สำรองไว้อีกชุดหนึ่งแล้วฝากให้รชตเก็บเอาไว้รชตเดินเข้ามาในคลับเฮราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มดังเช่นทุกครั้ง ลูกค้าวีไอพีส่วนใหญ่ซึ่งพอเห็นเ
“อ้าว คุณรุสไปแล้วหรือ ตื่นเช้าจังแฮะ”หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เมื่อเปิดประตูบ้านแล้วไม่เห็นรองเท้าของปารุสถอดไว้ที่หน้าประตู อีกทั้งรั้วบ้านไม่มีกุญแจคล้องไว้ เพราะปารุสนำมาวางไว้ให้บนโต๊ะในห้องรับแขกแล้ว เขาล็อกแค่ประตูบ้านให้ก่อนออกไปจากที่นี่แพรพิไลเดินย้อนกลับเข้าไปในครัวเพื่อหุงข้าวและทำอาหารง่าย ๆ ไว้อย่างไข่เจียวหมูสับกับแกงจืดเต้าหู้ เพราะเป็นอาหารที่ทำง่ายและเสร็จเร็วที่สุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็เสร็จสิ้นและถูกวางเตรียมไว้บนโต๊ะกินข้าว แพรพิไลมองอาหารง่าย ๆ พื้น ๆ ที่นานทีปีหนจะทำกินเองสักครั้งหนึ่งด้วยสายตาภาคภูมิใจ เพราะตั้งแต่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวเธอก็ใช้บริการร้านข้าวราดแกงหรือร้านอาหารตามสั่งทั่วไปมาตลอดทว่าพอมีรชตมาอยู่ร่วมบ้าน แม้จะแค่ชั่วคราวแต่เธอก็ไม่อยากให้เขามองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หาความเป็นแม่บ้านแม่เรือนไม่ได้ พอเห็นผลงานที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก็ให้รู้สึกปลื้มใจที่ถึงแม้จะเป็นอาหารพื้น ๆ ทั่วไป แต่รสชาติก็จัดว่าอร่อยไม่แพ้ร้านอาหารที่เธอไปกินเป็นประจำเลยทีเดียว“น่ากินจังที่รัก” เสียงทุ้มคุ
หญิงสาวเสียบเครื่องอ่านเม็มโมรีการ์ดเข้ากับโน้ตบุ๊กก่อนเป็นอันดับแรก เพราะอยากเห็นหน้าคนที่ลอบเข้ามาขโมยของในบ้าน จากนั้นก็เปิดโปรแกรมสำหรับดูภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกได้จากโทรศัพท์มือถือไม่นานนัก สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็คือผู้ชายสามคนที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน ทั้งสามคนนั้นสวมเสื้อกับกางเกงสีดำเหมือนกันหมด รวมทั้งหมวกไหมพรมที่สวมปิดหน้าและถุงมือสีดำด้วยเช่นกัน“ดูนี่สิแพร” รชตชี้ให้ดูชายคนหนึ่งซึ่งทันทีที่เข้ามาในห้องก็ตรงดิ่งมายังโต๊ะทำงานทันทีโดยไม่แวะตรงจุดอื่น ขณะที่อีกสองคนเข้าไปรื้อค้นเอกสารแบบลวก ๆ แล้วเอามาโยนลงบนพื้นเหมือนต้องการเก็บงำร่องรอยอย่างที่คาดไว้ตั้งแต่แรกหัวคิ้วของแพรพิไลขมวดเป็นปมเมื่อดูภาพที่บันทึกไว้ได้ แสดงให้เห็นแล้วว่าคนกลุ่มนี้รู้จักบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าบิดาของเธอเก็บของสำคัญไว้ที่ไหน“คนพวกนี้รู้จักกับคุณพ่อของแพร และที่สำคัญก็คือต้องเคยมาบ้านหลังนี้แน่นอน แพรมั่นใจ” หญิงสาวหยุดพูดไปเมื่อภาพที่บันทึกไว้มาถึงตอนที่คนร้ายงัดลิ้นชักและเอาโน้ตบุ๊กออกมาได้สำเร็จจากนั้นหนึ่งในสามคนร้าย
ผ่านไปครู่ใหญ่ทีมเก็บหลักฐานก็ทำงานเสร็จสิ้นลง นายตำรวจหัวหน้าทีมเดินเข้ามาหารชตกับแพรพิไลในห้องรับแขก แม้สีหน้าของเขาจะดูเรียบเฉยเป็นปกติ แต่หญิงสาวก็จับความกังวลในแววตานั้นได้“ท่าทางคนร้ายรายนี้จะเป็นมืออาชีพมาก ๆ เลยครับ เพราะจากที่ตรวจสอบดูแล้วปรากฏว่ามีแต่รอยนิ้วมือใหม่เอี่ยมซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นของคุณและคุณผู้ชายทั้งสองคน” เขาพูดพลางชี้ไปที่รชตกับปารุสที่ยืนอยู่แถวนั้น“ส่วนรอยนิ้วมือเก่านั้นแทบตรวจไม่เจอ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าคุณคงทำความสะอาดห้องหลังจากที่พ่อของคุณเสียชีวิตแล้วก็ได้ ตอนนี้ผมเองก็ยังบอกอะไรไม่ได้มากนักคงต้องรอให้ทีมพิสูจน์กันให้ละเอียดอีกที เรื่องเครื่องดักฟังนั่นก็เจอแค่อันเดียวที่อื่นไม่พบ เอาเป็นว่าถ้ามีความคืบหน้าอะไรผมจะรีบแจ้งให้ทราบทันทีครับ”“ขอบคุณมากครับคุณตำรวจ ทางผมก็เหมือนกัน ถ้าหากเจออะไรที่พอจะเป็นประโยชน์กับเรื่องนี้ได้ พวกเราจะรีบแจ้งไปทันที” รชตพูดพร้อมกับเดินไปส่งตำรวจที่มาตรวจสอบสถานที่ถึงหน้าประตูรั้วโดยมีแพรพิไลกับปารุสเดินตามออกมาด้วยเขายืนมองจนกระทั่งรถตำรวจเค