Home / โรแมนติก / ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย / บทที่ 8.1 เส้นทางแห่งความตายย่อมมีอุปสรรค

Share

บทที่ 8.1 เส้นทางแห่งความตายย่อมมีอุปสรรค

last update Last Updated: 2024-11-23 02:14:32

บทที่ 8.1 เส้นทางแห่งความตายย่อมมีอุปสรรค

สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดรุนแรงและหนาวเย็น ทว่าเมืองเหยาก็ยังจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาล หน้าร้านและหน้าบ้านตามถนนเส้นหลักทั้งสายถูกประดับตบแต่งด้วยโคมไฟสีสันสดใส และตามถนนทุกสายก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายของและมีนักท่องเที่ยวเดินขวักไขว่หนาตาตลอดเส้นทาง มันแลดูเสียงดังและวุ่นวายไม่น้อย

เนื่องมาจากว่าเจ้าเมืองของเมืองเหยาชื่นชอบงานเทศกาลและงานสังสรรค์ทุกประเภท เจ้าเมืองเหยาจึงมักจะจัดงานรื่นเริงแทบทุกวันจนในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายและมีสีสันสดใสเช่นนี้แทบตลอดเวลา และเพราะเหตุนี้เองคนต่างเมืองจึงชอบเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่และทยอยกันมามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย มันจึงแลดูวุ่นวายหนักกว่าเดิม ข้อดีเพียงอย่างเดียวของความวุ่นวายนี้ก็คือชาวบ้านในเมืองมีรายได้ทุกวันจนแทบร่ำรวย

พากันร่ำรวยจนแทบกลายเป็นเศรษฐีก็ดีไม่น้อย แต่ก็จะต้องทำงานในเมืองอันแสนวุ่นวายจนแทบไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าเมืองรู้สึกปลื้มใจไม่น้อยที่ชาวเมืองของตนขยันขันแข็งถึงเพียงนี้

“ดี! ดี! เมืองของข้าคึกคักยิ่งนัก แขกผู้เยี่ยมชมเพิ่มขึ้นทุกวันเช่นนี้ไม่มีทางที่เมืองเหยาขอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 8.2 เส้นทางแห่งความตายย่อมมีอุปสรรค

    บทที่ 8.2 เส้นทางแห่งความตายย่อมมีอุปสรรคณ ภูเขาเฮยอั้น ในช่วงฤดูร้อนป่าบนภูเขาล้วนอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเสียงของนก เสียงของลำธาร เสียงของใบไม้ที่กระทบกัน และเสียงของสายลม ทุกเสียงล้วนเป็นเสียงของธรรมชาติ มันบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้อย่างดีแต่ภายใต้เสียงของธรรมชาติที่ขับร้องผสานกันราวกับเสียงเพลงก็ได้มีเสียงฝีเท้าของคนชุดดำกลุ่มหนึ่ง พวกเขาก็คือ นักฆ่า ที่ได้รับการว่าจ้างให้มาลอบสังหารคนคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนภูเขาเฮยอั้น เพราะเงินตอบแทนดีมากพวกเขาจึงไม่มีทางพลาดงานนี้อย่างแน่นอนและเมื่อพวกเขามาถึงบ้านท่ามกลางป่าธรรมชาติเพียงหลังเดียวบนภูเขาพวกเขาก็ส่งสัญญาณมือให้กันและเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบมากขึ้น พวกเขาเฝ้าสังเกตเป้าหมายก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งเป้าหมายก็คือหญิงสาวรูปโฉมงดงาม แม้จะเสียดายความงามนั่นไม่น้อยแต่พวกเขาก็ต้องทำงานให้เสร็จสิ้นทว่ายังไม่ทันที่เหล่านักฆ่าจะได้ลงมือ เด็กหนุ่มที่มีรูปลักษณ์ราวกับเด็กสาวก็ได้ปรากฏตัวและจัดการสังหารนักฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยกระบี่เคลือบพิษ“เจ้า!...” ยังไม่ทันที่นักฆ่าคนนั้นจะได้พูดต่อเขาก็ถูกสังหารด้วยกระบี่เคลือบพิษอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

    Last Updated : 2024-11-24
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 9.1 ลูกศิษย์คนใหม่

    บทที่ 9.1 ลูกศิษย์คนใหม่ณ ห้องพักส่วนตัวของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองเฉิน “ปลดผนึกเสีย” ฟางเซียนออกคำสั่ง “ไม่ขอรับ” ลู่เหลียนปฏิเสธเสียงหนักแน่น “ลู่เหลียน!” ฟางเซียนตะโกนเรียกชื่อของลูกศิษย์ตัวดีด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ขอรับ!” แม้ว่าตอนนี้ฟางเซียนจะดูโกรธมาก แต่ลู่เหลียนก็ตอบรับเสียงหนักแน่นอย่างไร้ท่าทีหวาดกลัว ฟางเซียนโกรธมากจนอยากจับลูกศิษย์คนงามที่ไม่ยอมเชื่อฟังมาตีสักครั้ง เขาแอบปิดผนึกกระบี่ของนางและไม่ยินยอมปลดผนึกแม้ว่านางจะออกคำสั่งก็ตาม ไหนกันลูกศิษย์ที่เชื่อฟังอาจารย์ทุกอย่าง? มีแต่นกยูงจอมดื้อดึงเท่านั้นแหละ! “อย่าให้ข้าใช้กำลังลู่เหลียน!” ฟางเซียนจ้องตาของเขาเพื่อกดดัน ลู่เหลียนส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะถามว่า “ทำไมท่านอาจารย์ไม่ปลดผนึกเองล่ะขอรับ? ผนึกเพียงเท่านั้นไม่น่าจะคณามือของท่านนี่ขอรับ” ทันใดนั้นใบหน้าของฟางเซียนก็หม่นหมอง ให้นางปลดผนึกเองงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้เลยเพราะตอนนี้แม้แต่โคจรพลังปราณนางก็ยังทำไม่ได้เลย บางครั้งกฎห้ามฆ่าตัวตายก็ทำมากเกินไป ปิดกั้นพลังปราณของนางทุกจุดราวกับกลัวว่าหากปราณมารของนางรั่วไหลออกมาเพียงแค่นิดเดียวนางก็จะตาย ซึ่งมันไม่มีท

    Last Updated : 2024-11-26
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 9.2 ลูกศิษย์คนใหม่

    บทที่ 9.2 ลูกศิษย์คนใหม่ฟางเซียนบอกว่านางจะไปรับลูกศิษย์คนใหม่ จากนั้นนางได้หายตัวไปครู่หนึ่งและกลับมาพร้อมกับคนคนหนึ่ง เมื่อลู่เหลียนเห็นศิษย์น้องของเขา เขาก็รู้สึกไม่อยากกินน้ำส้มสายชูในไหของเขาอีกเลย “นั่นน่ะหรือคือศิษย์น้องของข้า?” ลู่เหลียนมองด้วยสายตาสมเพช “แก่ชราจนผิวหนังเหี่ยวย่นแล้วเช่นนั้น เขาก็ควรไปนอนในโลงศพได้แล้ว” จ้าวหลงเทียนไอเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “คำพูดของเจ้า...ฟังดูรุนแรงไม่น้อย” “มันเป็นความจริง” ลู่เหลียนบิดยิ้มด้วยแววตาเกลียดชัง แม้ว่าเขาจะไม่กินน้ำส้มสายชูแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ชอบที่ฟางเซียนมีลูกศิษย์คนอื่นอยู่ดี แต่ก็มีสิ่งที่เขาไม่ชอบมากกว่านั้น... เพื่อที่จะได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวฟางเซียนและซงเลี่ยงจินได้หายเข้าไปในห้องส่วนตัวของโรงน้ำชา ลู่เหลียนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้วย นั่นทำให้เขาอารมณ์เสีย เขาไม่ต้องการให้ฟางเซียนอยู่ในห้องกับคนอื่นสองต่อสอง แต่เขาก็ไม่อยากจะขัดคำสั่งของฟางเซียนจึงทำได้แค่แสดงอาการหงุดหงิดออกมาเท่านั้น ขณะเดียวกันจ้าวหลงเทียนก็เริ่มตั้งคำถาม “แม่นางฟางเซียนต้องการรับลูกศิษย์คนใหม่ใช่หรือไม่? แต่ทำไมนางถึงเลือกผู้บำเพ็ญเพียรสายเ

    Last Updated : 2024-11-27
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 10.1 อยู่เฉยๆ ความตายก็วิ่งเข้าหา

    บทที่ 10.1 อยู่เฉยๆ ความตายก็วิ่งเข้าหาเมื่อแปดปีก่อนบางสิ่งบางอย่างได้สร้างลัทธิฆ่าตัวตายขึ้นมา สิ่งนั้นได้ทิ้งตะกอนบางอย่างให้ฟางเซียนรู้สึกสงสัยว่ามันอาจจะเป็นระบบเช่นเดียวกับระบบฆ่าตัวตาย แต่ฟางเซียนไม่คิดจะสนใจและปล่อยผ่านจนกระทั่งเทพสายฟ้า ชูฮวา ได้กล่าวประโยคที่คล้ายกับปีศาจงูกินคนได้กล่าวไว้นางสงสัยว่าพวกเขาอาจจะเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อถามระบบที่น่าจะรู้เรื่องมากที่สุดมันกลับหายไปหลายวันจนกระทั่งฟางเซียนลืมที่จะถามมันอีกและหมดความสนใจไป กว่าจะรื้นฟื้นความสงสัยนั้นได้ก็ผ่านมาแปดปีแล้วคนที่น่าจะเป็นเทพสายฟ้ามาทำให้นางรู้สึกสะกิดใจสงสัยเดินหายไปแล้ว นางจึงบีบคั้นให้ระบบเอ่ยเล่าจนมันยอมพูดออกในที่สุด[สิ่งที่อยู่กับปีศาจงูกินคนเมื่อแปดปีก่อนคือระบบห้ามฆ่าตัวตายที่ได้ร่วงหล่นสู่ความมืดครับ] ระบบบอกสิ่งที่ฟางเซียนสงสัยมากที่สุดขึ้นมาก่อน [เมื่อแปดปีก่อนผมสงสัยสิ่งที่เทพสายฟ้าและปีศาจงูกินคนพูดจึงได้ไปสอบถามผู้สร้าง ผมจึงได้รู้ว่าสิ่งนั้นคือระบบเช่นเดียวกับผม แต่มันเป็นระบบห้ามฆ่าตัวตายที่ปฏิเสธที่จะทำงานห้ามคนอื่นไม่ให้ฆ่าตัวตายและเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นระบบนำทางสู่ความตายแทน มั่นใ

    Last Updated : 2024-11-27
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 10.2 อยู่เฉยๆ ความตายก็วิ่งเข้าหา

    บทที่ 10.2 อยู่เฉยๆ ความตายก็วิ่งเข้าหาฟางเซียนต้องการความตาย แต่นางจะไม่ลากคนอื่นมาตายด้วยเด็ดขาด โดยเฉพาะลูกศิษย์ของนาง ถึงแม้ว่านางจะรับดูแลพวกเขาเพราะว่าระบบยัดเยียดให้กับนางก็ตาม แต่ตราบใดที่นางยังไม่ตาย นางจะยอมปล่อยให้พวกเขาตายเด็ดขาด “พวกเจ้าต้องรีบออกไปจากที่นี่และอย่าได้กลับมาอีก” ฟางเซียนออกคำสั่ง “ไม่!” ลู่เหลียนปฏิเสธทันทีเพราะเขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ฟางเซียนมีพฤติกรรมคุยคนเดียวแล้ว ยิ่งเขาได้เห็นสีหน้ายินดีปนตื่นเต้นของฟางเซียนเขาก็รู้ได้ทันทีว่าฟางเซียนกำลังคิดเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์อย่างแน่นอน เขาไม่ยอมให้ฟางเซียนได้ทำตามใจแน่! ไวเท่าความคิด ลู่เหลียนเดินเข้าไปประชิดตัวฟางเซียนและคว้าต้นแขนของนางไว้อย่างไม่เกรงใจเพื่อไม่ให้นางมีโอกาสวิ่งหนีหายไป ฟางเซียนอ้าปากเตรียมบ่นลู่เหลียน ทว่าทันใดนั้นเองบางอย่างก็ได้พุ่งผ่านหมอกหนาเข้ามาหาพวกนางด้วยความเร็ว ฟางเซียนรีบผลักลู่เหลียนออกไปและชักกระบี่เสอโหย่วตู๋ออกมาปัดป้องกระบี่ปริศนาอย่างรวดเร็ว “ท่านอาจารย์!” ลู่เหลียนร้องเรียกฟางเซียนด้วยความกังวล เขาตั้งใจจะวิ่งกลับไปหาฟางเซียนแต่ซงเลี่ยงจินคว้าไหล

    Last Updated : 2024-11-27
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 11.1 ไปเที่ยวปรโลก

    บทที่ 11.1 ไปเที่ยวปรโลกประตูปรโลกจะถูกเปิดออกเพื่อกำจัดมารร้าย เหล่าเทพจึงส่งสัญญาณเตือนเหล่ามนุษย์ไม่ให้เข้าใกล้ประตูปรโลกมากเกินไป ไม่เช่นนั้นร่างกายและวิญญาณจะถูกปรโลกกลืนกิน เมื่อชาวบ้านธรรมดาทราบเช่นนั้น พวกเขาก็พากันหวาดกลัวคำเตือนและพร้อมใจกันอพยพไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นในหมู่ชาวบ้านทำให้ข่าวเกี่ยวกับการเปิดประตูปรโลกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนข่าวลือก็ถูกส่งไปถึงเมืองเหยียน ชาวบ้านต่างก็เล่าลือกันอย่างสนุกปากว่ามารร้ายตนนั้นร้ายกาจมากเพียงใด แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม เพราะร้ายกาจเกินคำบรรยายจึงต้องทำลายให้สิ้นซาก... ทุกคนต่างก็พูดกันเช่นนั้น ไม่มีใครรู้ความจริงเลยว่ามารร้ายตนนั้นเป็นคนเช่นไรกันแน่ มีเพียงลู่เหลียนเท่านั้นที่รู้ดีว่ามารร้ายในข่าวลือเป็นคนเช่นไร แต่ยามเมื่อลู่เหลียนได้ทราบข่าว เขาได้แต่คิดและหวังว่ามารร้ายตนนั้นจะไม่ใช่อาจารย์ของเขา เขาไม่อยากยอมรับความจริงว่าฟางเซียนกำลังจะถูกสังหาร ถูกทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณนางก็แค่คนอยากตายคนหนึ่งเท่านั้น มารร้ายในข่าวลือนั่นจะต้องไม่ใช่นางลู่เหลียนมีอาการ

    Last Updated : 2024-11-28
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 11.2 ไปเที่ยวปรโลก

    บทที่ 11.2 ไปเที่ยวปรโลกณ หุบเขาสิ้นสุด หุบเขาอันห่างไกลผู้คนแห่งนี้ได้ชื่อว่าหุบเขาสิ้นสุดเพราะว่าประตูทางเข้าปรโลกอันแสนอันตรายตั้งอยู่ในที่แห่งนี้นั่นเอง ปรโลกเป็นสถานที่อันตรายเพราะว่ามันจะทำลายทุกสิ่งที่มันสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นพืช มนุษย์ ปีศาจ เทพ สัตว์อสูร หรือแม้แต่วิญญาณคนตายก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้ หุบเขาสิ้นสุดจึงกลายเป็นสถานที่ที่แห้งแล้งไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่และหลงเหลือไว้เพียงโขดหินและทะเลทรายกว้างใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามแม้จะมีอันตรายผู้คนก็ยังคงแวะเวียนเข้าไปสำรวจหุบเขาสิ้นสุดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะพรรคมาร ข่งเชวีย ที่มักเข้าไปสำรวจบ่อยๆ พวกเขาถึงกับมีฐานทัพตั้งอยู่ติดกับหุบเขาสิ้นสุดด้วยซ้ำ และเมื่อพรรคมารที่ชั่วร้ายที่สุดแห่งยุคมักมาป้วนเปี้ยนในสถานที่อันตรายเช่นนี้บ่อยผิดปกติเหล่าสำนักเซียนจึงเกิดความสงสัย ผู้บำเพ็ญเพียรสายเซียนจำนวนไม่น้อยจึงมักจะเข้ามาสำรวจหุบเขาสิ้นสุดบ่อยไม่แพ้ผู้บำเพ็ญเพียรสายมารกันเลยทีเดียว ความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนได้ทำให้หุบเขาสิ้นสุดไม่มีความสงบสุขอีกเลยในช่วงสามร้อยปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมีค่ำคืนหนึ่งในหุบเขาสิ้นสุดที่ปราศจากผู้คนมาวุ่นวาย เมื่อไ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 12.1 ลูกศิษย์คนใหม่สมองเติบโตไม่ครบส่วนนัก 

    บทที่ 12.1 ลูกศิษย์คนใหม่สมองเติบโตไม่ครบส่วนนัก สามวันผ่านไปหลังจากที่ฟางเซียนออกมาจากปรโลก [พยายามเข้าครับคุณฟางเซียน! เดินอีก 100 ก้าวคุณก็จะถึงประตูเมืองหลวงของแคว้นฉินแล้ว! และหลังจากนั้นคุณจะได้รับรับแต้มลบ 1000 แต้มเชียวนะ] เสียงให้กำลังใจของระบบไม่ได้ทำให้ฟางเซียนมีกำลังใจเลยสักนิด กลับกันมันทำให้ฟางเซียนเข่นเขี้ยวด้วยความโกรธแค้น มันไม่น่ายินดีเลยสักนิดที่ระบบไม่คิดจะหวงแต้มลบอีกต่อไป ก็ดูแต้มโชคของนางตอนนี้สิ! มันปาขึ้นไปสิบล้านกว่าแต้มแล้ว! มันเกือบจะแตะยี่สิบล้านด้วยซ้ำ นางจะต้องใช้เวลานานอีกเท่าไหร่กันกว่าจะลบแต้มโชคได้ทั้งหมด! คราวก่อนกว่านางจะลบแต้มโชคดีหนึ่งล้านแต้มได้สำเร็จ นางถึงกับต้องใช้เวลาตั้งแปดปี แล้วคราวนี้นางจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่!? แค่คิดก็สิ้นหวังแล้ว! [พยายามเข้านะครับคุณฟางเซียน! อีกไม่กี่ก้าวคุณก็จะถึงประตูเมืองแล้ว!] ระบบพูดเพื่อกระตุ้นให้ฟางเซียนเดินต่อไป เพราะตั้งแต่ฟางเซียนออกมาจากปรโลกนางก็ไม่มีความกระตือรือร้นใดๆ เลยนอกเหนือจากการอาบน้ำล้างตัว ระบบก็เลยต้องเอาแต้มลบมาล่อเพื่อให้ฟางเซียนมีกำลังใจในการเดินทางมาทำภารกิจรับลูกศิษย์คนใหม่ ซึ่

    Last Updated : 2024-11-30

Latest chapter

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 19.2 ระบบนำทางสู่ความตาย

    บทที่ 19.2 ระบบนำทางสู่ความตายย้อนกลับไปเมื่อสามร้อยปีก่อน ถ้านอนหลับแล้วฝันร้าย แค่ตื่นขึ้นมาฝันร้ายก็จะหายไป แต่สำหรับฮุ่ยหวงไม่ว่าจะหลับหรือตื่นเขาก็ยังฝันร้ายและมันยังเป็นฝันร้ายที่สุดแสนจะยาวนาน... “พี่ใหญ่ พี่รอง ข้าขอโทษเพราะข้าชักช้าเราจึงมาช่วยแม่นางฟางเซียนไว้ไม่ทันการ” ฮุ่ยหลิงร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นเวลานานและเขาก็ยังโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าป้ายหลุมศพที่มีชื่อสลักไว้ว่า ‘ฟางเซียน’ “หาใช่ความผิดของเจ้าไม่ น้องเล็ก” ฮุ่ยเหอเอ่ยปลอบใจน้องชาย แต่ฮุ่ยหลิงก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ดูเหมือนว่าการจากไปของ ‘แม่นางฟางเซียน’ จะสร้างความรู้สึกสะเทือนใจให้กับน้องชายของเขามากเกินไป ฮุ่ยเหอที่ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรต่อจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนโต “ชาตินี้เป็นเคราะห์ร้ายของนาง...ข้าจึงเชื่อว่าชาติหน้านางจะต้องได้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขยาวนาน” ฮุ่ยหวงยิ้มอ่อนพลางลูบหัวปลอบฮุ่ยหลิงอย่างอ่อนโยน “ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ฮุ่ยหลิงเช็ดน้ำตาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เจ้าของหลุมศพนามว่าฟางเซียนเป็นหญิงสาวที่น่าเห็นใจ นางสูญเสียทุกอย่างรวมถึงเหตุผลที่จะมีชีวิต นางจึงอยากฆ่าตัวตา

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 19.1 ระบบนำทางสู่ความตาย

    บทที่ 19.1 ระบบนำทางสู่ความตายเมื่อตื่นขึ้นมาฟางเซียนก็รู้สึกถึงอาการเมื่อยล้าตามร่างกายซึ่งเป็นผลมาจากการนอนหลับกึ่งตายมาหลายวัน ฟางเซียนก็เลยนอนต่ออีกสักพักเพื่อรวบรวมเรี่ยวแรงที่หายไปกลับมา แต่เพราะนอนหงายมานานก็เลยเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว นางจึงเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงข้างและเมื่อพลิกตัวนางก็ได้พบกับใบหน้ายามหลับใหลของปีศาจ แถมยังเป็นปีศาจรูปงามราวกับเทวดาจากสรวงสวรรค์อีกด้วยรูปหน้าสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากเรียวสวยและหยักเป็นธรรมชาติ สีสันก็สดใสไม่หมองคล้ำ จมูกก็โด่งเป็นสัน คิ้วก็คมเข้ม ขนตาก็ยาวราวกับขนตาม้า รวมแล้วมันช่างเป็นใบหน้าที่งดงามและหล่อเหล่าไปในเวลาเดียวกันจนหลายคนลุ่มหลงฟางเซียนนอนมองลู่เหลียนจนกระทั่งคิดขึ้นมาได้ว่ามันถึงเวลาที่ควรจะลุกออกจากเตียงได้แล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลูกขึ้นนั่ง คนที่น่าจะกำลังหลับก็ดึงแขนของนางจนนางล้มลงไปนอนอีกครั้ง“ไม่คิดว่ามันเช้าเกินไปที่จะตื่นหรือขอรับ?” ลู่เหลียนพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อยยามกะพริบตา “หรือคิดจะไปไหนแต่เช้า?คิดจะทิ้งข้าไว้บนเตียงแล้วหนีไปที่อื่นหรือขอรับ?” เขาเอ่ยพลางขยับตัวอย่างเกียจคร้าน ดวงตาสีแดงที่เปิด

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย    บทที่ 18.2 ข้ารักท่าน…ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 18.2 ข้ารักท่าน…ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปลู่เหลียนกุมมือฟางเซียนแน่น เขาหวังว่าความร้อนจากมือของเขาจะทำให้มืออันเย็นเฉียบของฟางเซียนอบอุ่น แต่ไม่ว่าเขาจะกุมมือของฟางเซียนนานเพียงไร มันก็ยังคงเย็นเฉียบราวกับว่ามันแช่อยู่ในน้ำเย็นตลอดเวลา ลู่เหลียนไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคลาดสายตาเพียงครู่เดียว ฟางเซียนก็สลบไสลไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของซงเลี่ยงจินเสียแล้ว ทั้งที่สงครามระหว่างมารและเซียนจบไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน แต่ฟางเซียนก็ยังคงหลับไม่ยอมตื่นราวกับว่าไม่ต้องการที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “ลู่เหลียน...เจ้าอยู่เช่นนี้มาหลายวันแล้วนะ” ซงเลี่ยงจินเดินเข้ามาในห้องและเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะลู่เหลียนมัวแต่นั่งเฝ้าฟางเซียนไม่ยอมขยับไปไหนเลยมาหลายวันแล้ว หากปล่อยไว้เช่นนี้ร่างกายของลู่เหลียนคงทรุดโทรมอีกแน่ แต่ไม่ว่าซงเลี่ยงจินจะเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงมากเท่าไหร่ ลู่เหลียนก็ไม่ยอมตอบสนองแม้แต่นิดเดียว ซงเลี่ยงจินถอนหายใจก่อนจะหยิบคัมภีร์ออกมา “ข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการเช่นนี้ของท่านปรมาจารย์ฟางเซียนมาหมดแล้ว ข้าคาดว่าท่านปรมาจารย์ฟางเซียนน่าจะโดนโจมตีทางวิญญาณเ

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 18.1 ข้ารักท่าน...ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 18.1 ข้ารักท่าน...ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปเบื้องบนคือท้องฟ้ายามค่ำคืนทว่าไร้ซึ่งแสงดาว เบื้องล่างคือทะเลสีดำทมิฬอันกว้างใหญ่ทว่าไร้ซึ่งคลื่นลม และสิ่งที่คอยเป็นแสงสว่างให้กับสถานที่แห่งนี้ก็คือดอกบัวเรืองแสงสีส้มซึ่งลอยอยู่เต็มทะเลสีดำ“ถูกส่งมาอีกพิภพอีกแล้วงั้นเหรอ?” ฟางเซียนมาปรากฏตัวในสถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้หลังจากถูกระบบนำทางสู่ความตายแตะหน้าผาก ฟางเซียนจึงคิดว่านางถูกส่งมาในอีกพิภพอีกแล้ว และดูเหมือนว่าคราวนี้นางจะมาคนเดียวเพราะนางไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของระบบห้ามฆ่าตัวตายตั้งแต่มาถึงที่นี่ถ้าไม่มีระบบก็จะไม่มีคนคอยนำทาง ถ้าเช่นนั้นนางจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร?เพราะไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนฟางเซียนก็เลยเดินไปข้างหน้าบนดอกบัวอย่างไร้จุดหมาย แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนางก็ยิ่งง่วงนอนมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่านางจะพยายามไม่หลับตา แต่สุดท้ายเปลือกตาของนางก็ปิดสนิทอย่างไม่อาจฝืนและหลังจากหลับตาลงฟางเซียนก็รู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังกอดนางจากด้านหลัง มันเป็นอ้อมกอดที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอึดอัดไปในเวลาเดียวกัน“ผมเกลียดคุณ...” ....[คุณฟางเซียน!] ฟางเซียนกำลังจะเคลิ้มหลับ ทันใดนั้นนางก็ได้ย

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 17.2 คุกนิรันดร์

    บทที่ 17.2 คุกนิรันดร์คุกนิรันดร์ก็คืออีกหนึ่งพิภพขนาดเล็กที่แยกตัวออกมาจากสามพิภพใหญ่ เผ่าเทพค้นพบพิภพแห่งนี้เมื่อนานมาแล้ว พวกเขาจึงใช้สถานที่แห่งนี้เป็นคุกกักขังสัตว์อสูร ปีศาจ มาร และเทพที่ทำผิดกฎเพราะพวกเขาเห็นว่าพิภพแห่งนี้มีสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก เลวร้ายจนเกือบจะเทียบเท่ากับปรโลกเลยทีเดียว ซึ่งวงแหวนอัญเชิญของซือชูลี่ก็ได้ส่งฟางเซียนและลู่เหลียนเข้ามายังพิภพที่เหล่าเทพเรียกว่าคุกนิรันดร์แห่งนี้ แต่ฟางเซียนก็ไม่ได้สนใจนักว่าตัวเองจะมาปรากฏตัวในสถานที่อันตราย นางสนใจเพียงลู่เหลียนเท่านั้นเพราะดูเหมือนว่าสายฟ้าจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสจนสลบและไม่น่าจะฟื้นขึ้นมาในเร็วๆ นี้ เมื่อลองตรวจอาการของลู่เหลียน ฟางเซียนก็พบว่าแกนพลังปราณหรือก็คือแหล่งเก็บพลังปราณของลู่เหลียนมันได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หากไม่ได้รับการรักษาอาการอาจแย่ลง แต่ก่อนเริ่มการรักษานางควรหาสถานที่พักที่ดีเสียก่อนเพราะตอนนี้รอบตัวของนางก็คือทะเลทรายและถึงแม้ว่าบนท้องฟ้าจะไร้วี่แววของดวงอาทิตย์แต่ที่นี่ก็ร้อนมาก นางควรหาสถานที่หลบความร้อนก่อนถูกความร้อนเผา ซึ่งก็เป็นโชคดีที่กลางทะเลทรายแห่งนี้มีถ้ำหินขนาดเล็กพอที่จะให้เข้

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 17.1 คุกนิรันดร์

    บทที่ 17.1 คุกนิรันดร์กระบี่ชื่อเซียวของลู่เหลียนปลิดชีวิตคนแล้วคนเล่าจนกระทั่งร่างไร้ชีวิตของมนุษย์นอนเกลื่อนเต็มพื้นและพื้นดินก็ถูกย้อมเป็นสีแดงของเลือด แต่ลู่เหลียนก็ยังคงเพิ่มจำนวนซากศพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาก็จะไม่หยุดจนกว่าจะไม่มีคนให้สังหารอีก ในขณะที่ลู่เหลียนกำลังสังหารหมู่ฟางเซียนก็ยืนรออยู่ห่างๆ ด้วยท่าทีนิ่งสงบเพราะนางเป็นคนสั่งให้ลู่เหลียนสังหารหมู่คนพวกนั้นด้วยตัวเอง เพื่อช่วยสนับสนุนเว่ยหลงเทียน นางจำเป็นต้องกำจัดปรปักษ์ของเขาโดยการฆ่าให้สิ้นซาก แต่เพราะนางไม่สามารถฆ่าคนอื่นได้หน้าตาเฉยนางจึงให้ลู่เหลียนรับหน้าที่สังหารพวกนั้นแทน จนตอนนี้กบฏแห่งแคว้นมี่โจได้ตายไปหมดแล้ว มันกลายเป็นว่าตัวร้ายหันมาให้ความช่วยเหลือพระเอกกันหมด... “ที่นี่สกปรกยิ่งนัก เรารีบกลับกันเถอะขอรับ” ลู่เหลียนสะบัดเลือดออกจากกระบี่ด้วยท่วงท่าสวยงามและน่าดึงดูดตามฉบับนกยูง แต่เพราะเลือดสีแดงสดที่เด่นชัดอยู่บนเสื้อผ้าสีขาวของเขา มันทำให้เขาดูเหมือนฆาตกรโรคจิตมากกว่า ฟางเซียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถอยห่างจากลู่เหลียนเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นเลือดจากตัวของเขา ลู่เหลียนเห็นดังนั้นจึงไม่เดินเข้าไปใกล้ฟางเ

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 16.2 ความรู้สึกที่ไม่ยอมรับ 

    บทที่ 16.2 ความรู้สึกที่ไม่ยอมรับ วันเวลาอันแสนสงบสุขมักหมดเร็วเสมอ [ถึงเวลาทำภารกิจช่วยเหลือเว่ยหลงเทียนต่อแล้วครับ] นอนเล่นได้แค่ไม่กี่เดือนภารกิจน่ารำคาญก็มาอีกแล้ว ฟางเซียนเหม่อมองก้นบ่ออาบน้ำด้วยจิตใจอันล่องลอย นางพยายามตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ [คุณฟางเซียน ผมมีเรื่องสำคัญมากจะบอกกับคุณ] ระบบเกริ่นนำมาอย่างนั้น ฟางเซียนรู้สึกลางสังหรณ์ใจไม่ดี [ผมจะต้องหายตัวไปสักพักเพราะตลอดหลายร้อยปีมานี้ผมได้พลาดข้อมูลสำคัญไปหลายอย่าง ผมควรได้รับการอัปเดตข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน เพราะงั้นภารกิจในครั้งนี้คุณจะไม่มีผมคอยช่วยเหลือ] ฟางเซียนยินดีมากเมื่อได้ยินว่าระบบน่ารำคาญจะหายไปสักพัก หลังจากที่มันไปแล้วนางก็จะไม่มีระบบคอยบังคับให้ทำภารกิจอีกต่อไปและนางก็จะสามารถนอนเล่นต่อไปได้ตามใจชอบ! แต่ทว่าระบบกลับรู้ทันความคิดของฟางเซียน... [ผมขอย้ำ คุณต้องทำภารกิจนี้นะครับ ถ้าผมกลับมาแล้วและพบว่าคุณไม่ทำภารกิจผมจะมอบบทลงโทษให้กับคุณ] “ระบบ แก...!” [ผมทิ้งข้อมูลเกี่ยวกับเว่ยหลงเทียนและภารกิจไว้ให้แล้ว] รูปจดหมายเล็กๆ เด้งขึ้นมาทางด้านซ้ายมือของฟางเซียน [ขอให้โชคดีและไว้เจอกันใหม่

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 16.1 ความรู้สึกที่ไม่ยอมรับ 

    บทที่ 16.1 ความรู้สึกที่ไม่ยอมรับ “อะไรกัน? พวกเจ้ามาต้อนรับข้ารึ?” หวังหลิงฟู่กล่าวทักทายผู้บำเพ็ญเพียรหลายสิบคนที่กำลังชี้อาวุธมาทางเขา ดูอย่างไรมันก็ไม่ใช่การต้อนรับที่ดี “เกิดอะไรขึ้น!?” เว่ยหลงเทียนอุทานอย่างตกใจ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าทันทีที่ก้าวออกมาจากสุสานผู้บำเพ็ญเพียรสายเซียนจำนวนมากจะวิ่งเข้ามาล้อมพวกเขาพร้อมอาวุธครบมือเช่นนี้ “ปีศาจออกมาแล้ว! ล้อมมันไว้อย่าให้มันหนีได้ไปแม้แต่คนเดียว!” ชายคนหนึ่งตะโกน “มะ มีอะไรเข้าใจผิด...” เว่ยหลงเทียนกำลังจะแก้ตัว แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าคนข้างตัวของเขาก็เป็นปีศาจจริงๆ เว่ยหลงเทียนสอดสายตามองไปรอบตัวอย่างกังวลจนกระทั่งสายตาของเขาไปสะดุดเข้ากับผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงอาจารย์ของเขา “ท่านอาจารย์ เรื่องนี้...” เว่ยหลงเทียนหวังว่าฮุ่ยหวงจะสังเกตเห็นเขาและช่วยหยุดไม่ให้เหล่าเซียนแสดงท่าทีคุกคามเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นสตรีชุดแดงและสิงโตยักษ์ของนางจะเปิดศึกทันที แต่เขากลับไม่ได้รับความสนใจจากฮุ่ยหวง ฮุ่ยหวงเพียงชายตามองเว่ยหลงเทียนด้วยสายตาราบเรียบก่อนที่จะออกคำสั่งที่ไม่น่าเชื่อสำหรับเว่ยหลงเทียน “จัดการพวกมันให้สิ้นซาก” เว่ยหลงเทียนนิ่งค้

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 15.2 งานของอาจารย์ตัวร้ายคือช่วยเหลือพระเอก

    บทที่ 15.2 งานของอาจารย์ตัวร้ายคือช่วยเหลือพระเอกในหลุมมีประตูทางเข้าดินแดนลับหลายประตูและบริเวณโดยรอบก็มีพืชลวงตาเติบโตเป็นจำนวนมาก หากผู้ใดได้กลิ่นของมันก็จะเห็นภาพลวงตา เมื่อมาถึงพื้นข้างล่างฟางเซียนและฮุ่ยหวงจึงไม่พบใครอยู่แถวนั้นเลยสักคน เหล่าลูกศิษย์สำนักเฉินคงจะโดนกับดักและหลงไปคนละทิศละทางกันหมด สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนลับ แค่ทางเข้าก็ชวนสับสนแล้ว อีกทั้งเมื่อเข้ามาถึงดินแดนลับแห่งนี้พลังปราณในตัวก็ถูกปั่นป่วนจากพลังภายนอกจนชวนให้รู้สึกมึนหัวไม่น้อย “ภารกิจเฮงซวย” ฟางเซียนพึมพำ นางอยากกลับไปหาลู่เหลียนเสียแล้ว แต่ก็คงกลับตอนนี้ไม่ได้ ฟางเซียนมองไปรอบตัวที่มีแต่ความมืด “บางทีลูกศิษย์ของข้าอาจจะไปทางนั้น” ฮุ่ยหวงยังคงพูดกับนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและก้าวเดินนำทางไป ฟางเซียนสังเกตท่าทางของฮุ่ยหวงเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาเดินตามเขาไป นางไม่รู้หรอกว่าฮุ่ยหวงแปลกไปอย่างไรกันแน่ แต่นางรู้สึกว่าจิตใจของเขาดูสับสนไม่น้อย เดินตามทางไปได้สักพักฟางเซียนและฮุ่ยหวงก็เห็นแสงสว่างที่ปลายทางข้างหน้าซึ่งน่าจะเป็นปากถ้ำ แต่แสงสว่างข้างหน้านั่นไม่น่าใช่แสงของดวงอาทิตย์เพราะพวกนางตกลงมาในหลุมลึก

DMCA.com Protection Status