“ฟู่สือถิง” เธอเรียกชื่อเขา ชัดเจนทุกคำ “พอเถอะน่า!”มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มพึงพอใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำตอบที่ต้องการ เขาจึงหันหลังตามเธอเข้าไปในห้องนั่งเล่นป้าจางยิ้มทักทายเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองเข้ามา “อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ เตรียมตัวทานได้เลยนะคะ ฉันจะไปดูว่ารุ่ยลาทำการบ้านเสร็จหรือยัง”รุ่ยลาเข้าเรียนชั้นประถมแล้ว มีการบ้านทุกวัน และค่อนข้างเยอะด้วยฉินอันอันจ้างครูสอนพิเศษมาดูแลรุ่ยลาขณะทำการบ้านทุกวันรุ่ยลาไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการเรียนมากนัก ถ้าไม่กดดันเธอในเรื่องนี้ ผลการเรียนของเธอก็จะตามคนอื่นไม่ทันโชคดีที่รุ่ยลาค่อนข้างเชื่อฟัง เธอพยายามทำตามข้อกำหนดการเรียนที่ฉินอันอันวางไว้ให้ได้เกือบทุกอย่างฟู่สือถิงเดินไปที่เปลเด็ก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็อุ้มจื่อชิวขึ้นมาฉินอันอันเยาะเย้ยเขา “ไหนก่อนหน้านี้บอกว่าหิวจนไม่มีแรงเดินออกจากบ้านฉันไงล่ะ?”ฟู่สือถิงรับการเยาะเย้ยของเธออย่างเต็มใจ ตราบใดที่เธอไม่ขัดขวางเรื่องที่เขาอุ้มลูก เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ“ลูกชายผมน่ารักออกอย่างนี้ พอเห็นเขา ผมก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันทีเลย”“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกินข้าวหรอก อ
เขากลัวว่าลูกสาวจะถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียน แม้ว่าเขารู้ว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มีน้อยมาก แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้ลูกสาวของเขาน่ารักมาก และนิสัยของเธอก็ไม่ใช่คนยอมคนง่าย ๆ ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องเธอก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องเธอ ต่อให้เธอจะสู้ไม่ได้ แต่เธอจะสู้กลับแน่นอน!ดังนั้นเขาจึงติดต่อกับทางโรงเรียนเป็นการส่วนตัว“คุณนี่เป็นพ่อที่ดีจริง ๆ เลยนะ” ฉินอันอันล้อเขาฟู่สือถิง “ผมรู้ว่าผมยังทำได้ไม่ดีพอ แต่ผมจะพยายาม”ฉินอันอันหันไปมองรุ่ยลา แล้วอธิบาย “พี่ชายของลูกจะกลับมาช้าหน่อยวันนี้ พ่อของลูกเพิ่งไปรับป้าเสี่ยวเถียนกลับมาตอนกลางวัน กว่าจะกลับมาถึงก็เหนื่อยมาก แม่เลยให้เขาอยู่กินข้าวที่นี่”รุ่ยลาได้รับคำอธิบายแล้วก็ตอบรับ “อืม” เสียงเดียวเมื่อได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผล เธอก็ลดท่าทีที่แข็งกร้าวต่อผู้เป็นพ่อลง“แม่คะ หนูชอบไม้กายสิทธิ์ของหนูที่สุดเลย!” รุ่ยลาจับมือฉินอันอัน เดินไปที่ห้องอาหาร “พรุ่งนี้หนูต้องเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดแน่ ๆ”ฉินอันอัน “ในใจแม่ ลูกเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดทุกวันอยู่แล้ว”รุ่ยลาหน้าแดงเมื่อได้รับคำชม อารมณ์ดีมาก “แม่คะ หนูมีความลั
เขาคิดว่าการลดกระจกลง อย่างน้อยก็คงทำให้คนคนนั้นตกใจเขาคิดว่าคนคนนั้นอาจจะก้มหน้าหรือหันหลังเพื่อเลี่ยงสายตา แต่หลังจากที่เขาลดกระจกลง คนคนนั้นกลับเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเขาตรง ๆ!ฟู่สือถิงขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว มองอีกฝ่ายด้วยความโมโห!ตรงกันข้ามกับความโกรธของเขา อีกฝ่ายกลับแสยะยิ้มให้!หลังของฟู่สือถิงชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น! ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะมันน่าประหลาดเกินไปไม่เคยมีใครกล้ามาด้อม ๆ มอง ๆ แถววิลล่าของเขามาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่กล้าจ้องมองเขาอย่างท้าทายแบบนี้!เนื่องจากมองไม่ค่อยชัดในเวลากลางคืน เขาจึงเห็นเพียงรูปร่างคร่าว ๆ ของอีกฝ่ายน่าจะเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ท้วมเล็กน้อย เขาแน่ใจว่าไม่เคยเห็นคนคนนี้มาก่อน!ทำไมคนคนนี้ถึงมาอยู่หน้าบ้านเขาในยามวิกาล?รถขับเข้ามาในลานบ้านอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฟู่สือถิงลงจากรถแล้ว เขาก็สั่งการกับบอดี้การ์ดสองสามคำ แล้วเดินเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็วไม่นาน บอดี้การ์ดก็วิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วรายงาน “เจ้านายครับ เราไม่เจอตัวชายวัยกลางคนตามที่คุณบอก แต่เห็นรถสีดำคันหนึ่งขับออกไป คาดว่าอาจจะเป็นรถของคนคนนั้นครับ”“ไปตรว
ปฏิกิริยาของเฮ่อจุ่นจือทำให้พ่อแม่ของเขาตกใจหลีเสี่ยวเถียนที่เป็นคนกลางกระอักกระอ่วนไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าจะช่วยคลี่คลายความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วยวิธีไหนขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แม่ของเฮ่อจุ่นจือก็พูดประชดขึ้นมา “ลูกชายสุดที่รัก? แกอายุสามสิบแล้วนะ ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้!”“ถึงผมจะอายุหกสิบ ผมก็ยังเป็นลูกของพ่อกับแม่อยู่ดี!” เฮ่อจุ่นจือเถียงหน้าดำหน้าแดงแม่ของเฮ่อจุ่นจือยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อนพ่อของเฮ่อจุ่นจือหัวเราะเยาะ “พ่อกับแม่เห็นด้วยที่แกกับเสี่ยวเถียนจะคบกัน เอาแต่พูดเรื่องแต่งเข้าบ้านเธอเพื่ออะไร?”เฮ่อจุ่นจือ “...”“เสี่ยวเถียน มานี่ซิ” แม่ของเฮ่อจุ่นจือหันไปมองหลีเสี่ยวเถียนหัวใจของหลีเสี่ยวเถียนเต้นรัวเร็วขึ้น เดินไปหาแม่สามี“ฉันกับพ่อของเขาได้ไตร่ตรองดี ๆ แล้ว ตอนที่เธอเกิดเรื่อง ปฏิกิริยาของพวกเราออกจะไม่เหมาะสมจริง ๆ แต่ความมุ่งมั่นของจุ่นจือทำให้พวกเรามองเห็นความรับผิดชอบของเขา แค่นั้นพวกเราก็รู้สึกโล่งใจ และทำให้พวกเราตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาพวกเราเห็นแก่ตัวขนาดไหน ชีวิตของพวกเธอเป็นของพวกเธอ ไม่ควรถูกผูกมัดโดยพวกเรา ดังนั้นต่อไปนี้ พวกเธ
นี่เป็นพัสดุจากต่างประเทศฉินอันอันเคยได้รับพัสดุจากต่างประเทศ ครั้งนั้นข้างในเป็นนิ้วมือของเว่ยเจินแน่นอนว่ามันคือฝันร้ายที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกป้าจางว่า “ช่วยเปิดให้หน่อยค่ะ!”“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปเปิดข้างนอก” ป้าจางรับพัสดุไปแกะข้างนอกรุ่ยลาชอบเปิดพัสดุมาก จึงเดินตามป้าจางไปด้วย อยากดูว่าข้างในมีอะไร“รุ่ยลา มานี่สิ เดี๋ยวแม่จะหวีผมให้” ฉินอันอันเรียกลูกสาวไว้ “เดี๋ยวป้าจางก็เอาของข้างในมาให้เราดูเอง”“ค่ะ” รุ่ยลากลับมาหาฉินอันอัน แล้วพูดอย่างมีความหวังว่า “แม่คะ คิดว่าข้างในเป็นของขวัญวันเกิดของหนูกับพี่ชายหรือเปล่า?”ฉินอันอันหัวเราะเบา ๆ “งั้นลองเดาดูสิว่าใครเป็นคนส่งมา”“ไม่รู้สิคะ” รุ่ยลาคิดหนัก แต่ก็มั่นใจ “หนูว่ามันต้องเป็นของขวัญวันเกิดของหนูกับพี่ชายแน่ ๆ เลยค่ะ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของหนูกับพี่ชายนี่นา ทำไมพัสดุถึงไม่มาส่งวันอื่น ดันมาส่งวันนี้...”แม้ความคิดของรุ่ยลาจะดูไร้เดียงสา แต่ก็น่ารักดีขณะนั้น ป้าจางก็ถือของที่อยู่ในกล่องพัสดุเข้ามา “อันอัน ดูเหมือนจะเป็นของขวัญวันเกิดของรุ่ยลากับเสี่ยวหานนะคะ”ป้าจางยื่นการ์ด
เมื่อคืนบอดี้การ์ดตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตรวจสอบพบเวลาที่คนคนนั้นมาคนคนนั้นมาตอนที่ฟ้ามืดแล้ว เขาเฝ้าดูอยู่ประมาณยี่สิบนาที หลังจากนั้นฟู่สือถิงก็กลับมาพอเห็นฟู่สือถิง เขาก็จากไปรถของเขาจอดอยู่ในจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้ จึงไม่รู้หมายเลขทะเบียนรถ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเขาได้ก่อนที่เขาจะเจอฟู่สือถิง เขาก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตลอด กล้องวงจรปิดจึงถ่ายภาพใบหน้าของเขาได้ไม่ชัดเช่นเดียวกันมีเพียงตอนที่เขาสบตาฟู่สือถิง กล้องถึงจับภาพใบหน้าของเขาได้แต่เนื่องจากแสงสว่างไม่เอื้ออำนวย ทำให้ภาพพร่าเบลอบอดี้การ์ดพิมพ์ภาพจากคลิปวิดีโอออกมาให้ฟู่สือถิงฟู่สือถิงดูภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า จำไม่ได้ว่าเคยเจอคนคนนี้มาก่อนไหม แต่ก็รู้สึกว่าคนคนนี้ดูคุ้นตาคนคนนี้มาเฝ้าดูเขาเมื่อคืน แค่ยิ้มให้เขาแล้วก็จากไป น่าแปลกมาก!ถ้าเจอคนคนนี้อีก เขาจะจับตัวอีกฝ่ายไว้แน่นอนกระทั่งถึงเวลาแปดโมง เขาก็ออกมาจากห้องป้าหงบอกเขาว่า “คุณผู้ชายคะ กาแฟและอาหารเช้าที่คุณผู้ชายสั่งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” แล้วก็พูดต่อว่า “ป้าจางส่งข้อความมาบอกว่า ฉินอันอันกับลูก ๆ เตรียมตัวจะออกไปโรงแรมกันแล้ว คุณผู
เธอก็มองสบตาเขาอย่างกล้าหาญเช่นกันในวันนี้เขาแต่งตัวอย่างหรูหรา เธอเองก็ไม่น้อยหน้าเธอสวมชุดเดรสที่แพงที่สุดในตู้เสื้อผ้า แต่งหน้าอ่อน ๆ อย่างประณีต เกล้าผมอย่างเรียบง่าย ดูอ่อนหวานและสง่างาม“เข้าไปข้างในกันเถอะ!” เขาเอ่ย“คุณเข้าไปก่อนเถอะ ฉันขอรออีกหน่อย” ฉินอันอันกำลังรอหลีเสี่ยวเถียนฟู่สือถิงขมวดคิ้ว “คุณไม่ได้รอผมอยู่หรอกเหรอ?”ฉินอันอันพูดด้วยสีหน้าเหลือจะเชื่อ “นอกจากคุณจะคิดทึกทักเอาเองแล้ว ยังไม่รู้จักอายด้วยเหรอนี่? ฉันอยู่ที่นี่เพื่อต้อนรับแขก ฉันก็รอแขกทุกคนนั่นแหละ แต่ในรายชื่อแขก ไม่มีคุณ”ฟู่สือถิงมองเข้าไปที่บรรดาแขกในห้องจัดเลี้ยง แล้วพูดกับเธอ “คุณเข้าไปพักก่อนเถอะ ผมจะอยู่ต้อนรับแขกที่นี่เอง”“เหลือแค่เสี่ยวเถียนกับเฮ่อจุ่นจือที่ยังไม่มา” เธอบอก “คุณช่วยโทรไปถามเฮ่อจุ่นจือให้หน่อยสิ”ฟู่สือถิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาเฮ่อจุ่นจือ แต่โทรศัพท์กลับติดต่อไม่ได้เขาเปลี่ยนไปโทรหาหลีเสี่ยวเถียน กว่าจะโทรติดก็ผ่านไปหลายวินาทีเสียงที่ได้ยินจากปลายสายกลับเป็นเสียงของเฮ่อจุ่นจือ“จุ่นจือ นายกับเสี่ยวเถียนถึงไหนกันแล้ว? เหลือแค่พวกนายสองคนแล้วนะ”“โอ้! เมื่อคืนน
รุ่ยลาเกือบเผลอหลุดปากเรียก “พ่อ” ออกมาทันใดนั้นแขนของเธอถูกดึง แล้วร่างกายทั้งตัวก็ถูกลากหนีไปเสี่ยวหานลากรุ่ยลาไปอีกทาง ด้วยไม่ต้องการเจอฟู่สือถิงฟู่สือถิงเห็นลูกชายลากลูกสาวไป ความผิดหวังก็แวบเข้ามาในดวงตาของเขา“ลุงครับ คุณหน้าตาเหมือนคนดังคนหนึ่งเลย” เสี่ยวตงเห็นฟู่สือถิงก็เข้ามาพูดคุยด้วยทันทีฟู่สือถิงเข้าใจแล้ว เด็กอ้วนคนนี้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการเข้าสังคมสูงมาก“คนดังที่เธอพูดถึงอยู่ทางนั้น” ฟู่สือถิงชี้ไปทางที่จิ้นซือเหนียนยืนอยู่ แล้วหันไปหาฉินอันอัน“ลุงครับ! ผมไม่ได้หมายถึงจิ้นซือเหนียน! ผมไม่ใช่แฟนคลับเขาซะหน่อย!” เสี่ยวตงตามฟู่สือถิงมาติด ๆ “คุณคือฟู่สือถิงใช่ไหมครับ? นักธุรกิจชื่อดัง! ภาษีที่คุณจ่ายต่อปีสูงกว่า จีดีพีรวมของบางประเทศต่อปีเสียอีก! ผมชื่นชมคุณมาก ๆ!”ฟู่สือถิง “…”เสี่ยวตง “ลุงครับ คุณช่วยเซ็นชื่อให้ผมหน่อยได้ไหมครับ? ผมอยากยกคุณเป็นไอดอลของผม ในอนาคตผมจะเรียนรู้จากคุณ พยายามจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เหมือนคุณให้ได้!”ฟู่สือถิงมองไปที่ดวงตาที่จริงใจและศรัทธาของเสี่ยวตง ใจของเขารู้สึกเศร้าหมองเสี่ยวตงมองเขาเป็นไอดอล แต่ลูกชายของเขากลับหลีกเลี่ยงเขา