ขณะที่เธอกำลังจะเรียกบอดี้การ์ด มีดพกอันแหลมคมกลับจ่ออยู่ที่ลำคอขาวเรียวของเธอ!ที่เมืองเอฉินอันอันไปหาจิตแพทย์ที่เธอแนะนำให้หลีเสี่ยวเถียนจิตแพทย์บอกว่าหลีเสี่ยวเถียนไม่เคยติดต่อมาเลยหลังจากนั้น ฉินอันอันขับรถไปห้างสรรพสินค้า ร้านกาแฟ และแม้แต่คาเฟ่แมวที่เธอและหลีเสี่ยวเถียนมักไปด้วยกัน...หลังจากออกตามหาอยู่สองชั่วโมง เธอกลับไม่พบอะไรเลยเธอโทรหาหลีเสี่ยวเถียน อีกฝ่ายยังคงปิดเครื่องอยู่ ส่งข้อความไปหาแต่ก็เงียบหายหลีเสี่ยวเถียนไปไหน? เธอจะไปที่ไหนได้อีกบ้าง?ฉินอันอันนั่งอยู่ในรถ มองไปข้างหน้าด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าควรจะขับรถไปที่ไหนขณะที่เธอกำลังหมดหวัง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน!หัวใจของเธอเต้นแรง!เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นว่าเป็นชื่อของฟู่สือถิงก็รับสายทันที“อันอัน ตอนนี้คุณกลับบ้านเถอะ เราเจอที่อยู่ของหลีเสี่ยวเถียนแล้ว”ความตึงเครียดในใจของเธอคลายลงทันที จากนั้นก็ถามด้วยความกังวลว่า “เสี่ยวเถียนไม่เป็นไรใช่ไหม? พวกคุณเจอเธอที่ไหน?”“เธออยู่ที่เมืองหรงเฉิง ตอนนี้ผมกับจุ่นจือกำลังไปรับเธอ” ฟู่สือถิงพูดด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็นเขาไม่อยากให้ฉิน
ฉินอันอันรีบวิ่งออกไปที่ประตูเกือบจะในทันทีไมค์หูตาไวและมือไว รีบคว้าตัวเธอไว้!“อันอัน! ฟู่สือถิงกับเฮ่อจุ่นจือไปรับเธอแล้ว เธอไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะ!” ไมค์มองดวงตาที่ส่องประกายเย็นชาและเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังของเธอ แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “อย่าหุนหันพลันแล่นเหมือนเธอเลยน่า! เราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ! เธอวิ่งไปเมืองหรงเฉิงตามลำพัง คิดว่าเธอทำถูกไหมล่ะ?”ฉินอันอันเหวี่ยงแขนของเขาออกไป “ไมค์ สิ่งที่เธอทำมันผิดก็จริง แต่สิ่งที่นายเพิ่งพูดก็ผิดเหมือนกัน อย่าเอาแต่สอนคนอื่นให้เป็นคนดีอย่างกับพวกเขาไม่เคยได้รับความทุกข์ทรมานสิ นายไม่เคยมีประสบการณ์เจ็บปวดแบบนั้นมาก่อน ก็ไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์เธอนะ”ไมค์พูดไม่ออกกับคำพูดของเธอ“แต่ฉันก็ยืนยันคำเดิม ฟู่สือถิงเป็นคนขอให้ฉันกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ เขาบอกว่าเขาจะพาหลีเสี่ยวเถียนกลับมาโดยไม่ให้เป็นอันตรายแต่อย่างใด” ไมค์ดึงฉินอันอันให้นั่งลงบนโซฟา “งั้นเราไปที่หรงเฉิงกัน ใช้เวลาขาไปสองชั่วโมง รวมขากลับก็สี่ชั่วโมง เธอไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ?ดวงตาของฉินอันอันแดงก่ำ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยเมื่อเห็นอย
ถังเชี่ยนหัวเราะเยาะอย่างสิ้นหวัง “ฉันรู้ ฉันโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ตอบโต้ไม่ได้ ถ้าฉันตอบโต้ สิ่งเดียวที่ฉันเหลืออยู่ก็จะถูกคุณเอาไปหมด”คำพูดของถังเชี่ยนทำให้หลีเสี่ยวเถียนนึกขึ้นได้ตอนนี้มีฟู่สือถิงและเฮ่อจุ่นจือคอยช่วยเหลือ เธอจะปล่อยถังเชี่ยนไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?เธอวิ่งไปหาถังเชี่ยน แล้วตบหน้าอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว!ฝ่ามือนี้ทำให้หน้ากากของถังเชี่ยนหลุดออกอีกครั้ง“ถังเชี่ยน! นางแมลงสาบในท่อระบายน้ำ! แกไม่อยากให้ใครเห็น แต่ฉันจะทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของแก! สักวันแกจะต้องได้ชดใช้! แล้วตายอย่างน่าอนาถ!” หลีเสี่ยวเถียนยังไม่หายเคียดแค้น เธอเงื้อมือขึ้นอีกครั้งหวังจะระบายความโกรธฟู่สือถิงยืนอยู่ข้าง ๆ มองอย่างเย็นชาโดยไม่เข้าไปยุ่งเฮ่อจุ่นจือเข้ามาประคองหลีเสี่ยวเถียนไว้ แล้วหันไปทางอื่น “เสี่ยวเถียน! ที่นี่สถานีตำรวจนะ อย่าลงไม้ลงมือกันตรงนี้เลย คนอย่างเธอต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้ว! ถ้าจะแก้แค้น เดี๋ยวผมลงมือเองก็ได้! เชื่อฟังกันหน่อยได้ไหม?!”หลีเสี่ยวเถียนเม้มปาก น้ำตาไหลรินสองสายเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ถามเขาว่า “อันอันทำไมไม่มา?”“ผมไม่ให้เธอมาเอง” ฟู่ส
“ฟู่สือถิง” เธอเรียกชื่อเขา ชัดเจนทุกคำ “พอเถอะน่า!”มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มพึงพอใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำตอบที่ต้องการ เขาจึงหันหลังตามเธอเข้าไปในห้องนั่งเล่นป้าจางยิ้มทักทายเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองเข้ามา “อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ เตรียมตัวทานได้เลยนะคะ ฉันจะไปดูว่ารุ่ยลาทำการบ้านเสร็จหรือยัง”รุ่ยลาเข้าเรียนชั้นประถมแล้ว มีการบ้านทุกวัน และค่อนข้างเยอะด้วยฉินอันอันจ้างครูสอนพิเศษมาดูแลรุ่ยลาขณะทำการบ้านทุกวันรุ่ยลาไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการเรียนมากนัก ถ้าไม่กดดันเธอในเรื่องนี้ ผลการเรียนของเธอก็จะตามคนอื่นไม่ทันโชคดีที่รุ่ยลาค่อนข้างเชื่อฟัง เธอพยายามทำตามข้อกำหนดการเรียนที่ฉินอันอันวางไว้ให้ได้เกือบทุกอย่างฟู่สือถิงเดินไปที่เปลเด็ก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็อุ้มจื่อชิวขึ้นมาฉินอันอันเยาะเย้ยเขา “ไหนก่อนหน้านี้บอกว่าหิวจนไม่มีแรงเดินออกจากบ้านฉันไงล่ะ?”ฟู่สือถิงรับการเยาะเย้ยของเธออย่างเต็มใจ ตราบใดที่เธอไม่ขัดขวางเรื่องที่เขาอุ้มลูก เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ“ลูกชายผมน่ารักออกอย่างนี้ พอเห็นเขา ผมก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันทีเลย”“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกินข้าวหรอก อ
เขากลัวว่าลูกสาวจะถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียน แม้ว่าเขารู้ว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มีน้อยมาก แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้ลูกสาวของเขาน่ารักมาก และนิสัยของเธอก็ไม่ใช่คนยอมคนง่าย ๆ ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องเธอก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องเธอ ต่อให้เธอจะสู้ไม่ได้ แต่เธอจะสู้กลับแน่นอน!ดังนั้นเขาจึงติดต่อกับทางโรงเรียนเป็นการส่วนตัว“คุณนี่เป็นพ่อที่ดีจริง ๆ เลยนะ” ฉินอันอันล้อเขาฟู่สือถิง “ผมรู้ว่าผมยังทำได้ไม่ดีพอ แต่ผมจะพยายาม”ฉินอันอันหันไปมองรุ่ยลา แล้วอธิบาย “พี่ชายของลูกจะกลับมาช้าหน่อยวันนี้ พ่อของลูกเพิ่งไปรับป้าเสี่ยวเถียนกลับมาตอนกลางวัน กว่าจะกลับมาถึงก็เหนื่อยมาก แม่เลยให้เขาอยู่กินข้าวที่นี่”รุ่ยลาได้รับคำอธิบายแล้วก็ตอบรับ “อืม” เสียงเดียวเมื่อได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผล เธอก็ลดท่าทีที่แข็งกร้าวต่อผู้เป็นพ่อลง“แม่คะ หนูชอบไม้กายสิทธิ์ของหนูที่สุดเลย!” รุ่ยลาจับมือฉินอันอัน เดินไปที่ห้องอาหาร “พรุ่งนี้หนูต้องเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดแน่ ๆ”ฉินอันอัน “ในใจแม่ ลูกเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดทุกวันอยู่แล้ว”รุ่ยลาหน้าแดงเมื่อได้รับคำชม อารมณ์ดีมาก “แม่คะ หนูมีความลั
เขาคิดว่าการลดกระจกลง อย่างน้อยก็คงทำให้คนคนนั้นตกใจเขาคิดว่าคนคนนั้นอาจจะก้มหน้าหรือหันหลังเพื่อเลี่ยงสายตา แต่หลังจากที่เขาลดกระจกลง คนคนนั้นกลับเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเขาตรง ๆ!ฟู่สือถิงขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว มองอีกฝ่ายด้วยความโมโห!ตรงกันข้ามกับความโกรธของเขา อีกฝ่ายกลับแสยะยิ้มให้!หลังของฟู่สือถิงชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น! ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะมันน่าประหลาดเกินไปไม่เคยมีใครกล้ามาด้อม ๆ มอง ๆ แถววิลล่าของเขามาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่กล้าจ้องมองเขาอย่างท้าทายแบบนี้!เนื่องจากมองไม่ค่อยชัดในเวลากลางคืน เขาจึงเห็นเพียงรูปร่างคร่าว ๆ ของอีกฝ่ายน่าจะเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ท้วมเล็กน้อย เขาแน่ใจว่าไม่เคยเห็นคนคนนี้มาก่อน!ทำไมคนคนนี้ถึงมาอยู่หน้าบ้านเขาในยามวิกาล?รถขับเข้ามาในลานบ้านอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฟู่สือถิงลงจากรถแล้ว เขาก็สั่งการกับบอดี้การ์ดสองสามคำ แล้วเดินเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็วไม่นาน บอดี้การ์ดก็วิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วรายงาน “เจ้านายครับ เราไม่เจอตัวชายวัยกลางคนตามที่คุณบอก แต่เห็นรถสีดำคันหนึ่งขับออกไป คาดว่าอาจจะเป็นรถของคนคนนั้นครับ”“ไปตรว
ปฏิกิริยาของเฮ่อจุ่นจือทำให้พ่อแม่ของเขาตกใจหลีเสี่ยวเถียนที่เป็นคนกลางกระอักกระอ่วนไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าจะช่วยคลี่คลายความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วยวิธีไหนขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แม่ของเฮ่อจุ่นจือก็พูดประชดขึ้นมา “ลูกชายสุดที่รัก? แกอายุสามสิบแล้วนะ ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้!”“ถึงผมจะอายุหกสิบ ผมก็ยังเป็นลูกของพ่อกับแม่อยู่ดี!” เฮ่อจุ่นจือเถียงหน้าดำหน้าแดงแม่ของเฮ่อจุ่นจือยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อนพ่อของเฮ่อจุ่นจือหัวเราะเยาะ “พ่อกับแม่เห็นด้วยที่แกกับเสี่ยวเถียนจะคบกัน เอาแต่พูดเรื่องแต่งเข้าบ้านเธอเพื่ออะไร?”เฮ่อจุ่นจือ “...”“เสี่ยวเถียน มานี่ซิ” แม่ของเฮ่อจุ่นจือหันไปมองหลีเสี่ยวเถียนหัวใจของหลีเสี่ยวเถียนเต้นรัวเร็วขึ้น เดินไปหาแม่สามี“ฉันกับพ่อของเขาได้ไตร่ตรองดี ๆ แล้ว ตอนที่เธอเกิดเรื่อง ปฏิกิริยาของพวกเราออกจะไม่เหมาะสมจริง ๆ แต่ความมุ่งมั่นของจุ่นจือทำให้พวกเรามองเห็นความรับผิดชอบของเขา แค่นั้นพวกเราก็รู้สึกโล่งใจ และทำให้พวกเราตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาพวกเราเห็นแก่ตัวขนาดไหน ชีวิตของพวกเธอเป็นของพวกเธอ ไม่ควรถูกผูกมัดโดยพวกเรา ดังนั้นต่อไปนี้ พวกเธ
นี่เป็นพัสดุจากต่างประเทศฉินอันอันเคยได้รับพัสดุจากต่างประเทศ ครั้งนั้นข้างในเป็นนิ้วมือของเว่ยเจินแน่นอนว่ามันคือฝันร้ายที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกป้าจางว่า “ช่วยเปิดให้หน่อยค่ะ!”“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปเปิดข้างนอก” ป้าจางรับพัสดุไปแกะข้างนอกรุ่ยลาชอบเปิดพัสดุมาก จึงเดินตามป้าจางไปด้วย อยากดูว่าข้างในมีอะไร“รุ่ยลา มานี่สิ เดี๋ยวแม่จะหวีผมให้” ฉินอันอันเรียกลูกสาวไว้ “เดี๋ยวป้าจางก็เอาของข้างในมาให้เราดูเอง”“ค่ะ” รุ่ยลากลับมาหาฉินอันอัน แล้วพูดอย่างมีความหวังว่า “แม่คะ คิดว่าข้างในเป็นของขวัญวันเกิดของหนูกับพี่ชายหรือเปล่า?”ฉินอันอันหัวเราะเบา ๆ “งั้นลองเดาดูสิว่าใครเป็นคนส่งมา”“ไม่รู้สิคะ” รุ่ยลาคิดหนัก แต่ก็มั่นใจ “หนูว่ามันต้องเป็นของขวัญวันเกิดของหนูกับพี่ชายแน่ ๆ เลยค่ะ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของหนูกับพี่ชายนี่นา ทำไมพัสดุถึงไม่มาส่งวันอื่น ดันมาส่งวันนี้...”แม้ความคิดของรุ่ยลาจะดูไร้เดียงสา แต่ก็น่ารักดีขณะนั้น ป้าจางก็ถือของที่อยู่ในกล่องพัสดุเข้ามา “อันอัน ดูเหมือนจะเป็นของขวัญวันเกิดของรุ่ยลากับเสี่ยวหานนะคะ”ป้าจางยื่นการ์ด