เธอกลับมาที่รถ เปิดจอโทรศัพท์แล้วโทรหาอวิ๋นโม่เสียงตอบรับคือ “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่ออีกครั้งในภายหลัง”เธอมีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าว่าอวิ๋นโม่ไม่ได้ปิดเครื่องเองแน่นอนคิ้วเธอขมวดเข้าหากันทันที เธอกดโทรหาพ่อของอวิ๋นโม่อีกครั้งเสียงตอบรับเหมือนกันไม่มีผิด “ขอโทษ หมายเลขที่ท่านเรียกกำลังติดคู่สายอยู่ในขณะนี้ กรุณาติดต่ออีกครั้งในภายหลัง”ฉินอันอันรู้สึกหนาวเยือกในใจ!เขาต้องการทำอะไรกันแน่? ก่อนผ่าตัดเธอเคยพูดคุยกับเขาครั้งหนึ่ง รู้สึกว่าเขาก็ดูปกติดีแต่ตอนนี้เมื่อรวมกับคำพูดของเพื่อนบ้านแล้ว เธอกลับรู้สึกขนลุกขึ้นมาเขาหนีไปอยู่ที่อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เธอตามหางั้นเหรอ?หรือเขาได้วางแผนไว้แล้วว่าจะย้ายบ้านหลังจากที่อวิ๋นโม่อาการดีขึ้น?แล้วทำไมต้องย้ายบ้านหลังจากอวิ๋นโม่อาการดีขึ้นด้วยล่ะ?พวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน?สมองของเธอว่างเปล่า ก่อนหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม หลังจากที่อารมณ์สงบลงบ้างแล้ว เธอจึงเปิดรายชื่อและหาเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนที่แนะนำให้เธอรู้จักกับพ่อของอวิ๋นโม่เพื่อนคนนี้เป็นญาติของคนไข้คนก่อน ๆ ในความดูแลของเธอเธอโทร
ควรให้ฟู่สือถิงเข้ามา หรือไม่ให้เขาดีล่ะ? ไมค์กับเขาไม่มีเรื่องบาดหมางกัน ถ้าไม่นับเรื่องของฉินอันอัน ไมค์ก็จะให้เขาเข้ามา แต่ขณะที่ไมค์กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ บอดี้การ์ดในบ้านกลับไปเปิดประตูให้ฟู่สือถิงไมค์ “???”ถ้าฉินอันอันอยู่บ้าน เธอคงตะโกนถามบอดี้การ์ดว่า “นายเป็นคนของใครกันแน่” ไมค์ถูกเธอถามแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว“ฉินอันอันไม่อยู่บ้านทั้งที นายก็เอาใหญ่เลยนะ!” ไมค์เดินไปหาบอดี้การ์ดและพูดเยาะเย้ยบอดี้การ์ดหน้าแดงก่ำ “ถ้าผมไม่เปิด คุณก็ต้องเปิดอยู่ดี ค่อยรายงานว่าคุณเป็นคนเปิดก็ได้”ไมค์ “นายไม่ใช่แค่ทำก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง ยังโยนความผิดให้คนอื่นอีก!”บอดี้การ์ดไม่สนใจเขา หันหลังเดินจากไปฟู่สือถิงเดินไปหาไมค์และถามว่า “เด็ก ๆ อยู่บ้านกันไหม?”ไมค์เลิกคิ้วหนาขึ้น “ผมรู้ว่าคุณมาหาลูก ๆ แต่คุณไม่คิดว่าการกระทำแบบนี้มันน่าละอายเหรอ? คุณเป็นประธานเอสทีกรุ๊ปแท้ ๆ ถ้าอยากเจอลูก ๆ ก็สามารถมาได้ทุกเมื่อ ทำไมต้องรอให้แม่ของเด็ก ๆ ไม่อยู่บ้านก่อนแล้วค่อยแอบมาล่ะ? คิดว่าผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกฉินอันอันหรือไง? ต่อให้ผมจะไม่บอกฉินอันอัน เด็ก ๆ ก็ต้องบอกเธออยู่ดี!”ฟู่สือถิงไม่
เธอผลักประตูวิลล่าเปิดออก ภาพที่อบอุ่นและสวยงามปรากฏขึ้นตรงหน้าฟู่สือถิงอุ้มจื่อชิวยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นรุ่ยลายืนถือของเล่นชิ้นใหม่คุยกับจื่อชิวป้าจางยืนมองพวกเขาอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มฉินอันอันยืนอยู่ที่ประตู ขาหนักอึ้งราวกับมีถุงตะกั่วถ่วงอยู่ฟู่สือถิงที่อุ้มจื่อชิวอยู่ดูอ่อนโยนและใจดี ถ้าบอกคนอื่นว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยเย็นชาและโหดร้าย คนอื่นคงไม่เชื่อแน่ฟู่สือถิงหันไปเห็นเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งค้างทันทีเขาไม่คิดว่าเธอจะกลับประเทศมาเร็วขนาดนี้ ไม่มีใครบอกเขาว่าเธอจะกลับมาวันนี้ถ้าไมค์รู้ว่าเธอกลับมาวันนี้ เขาคงไม่ทิ้งเด็ก ๆ ไปดูละครเวทีแน่ป้าจางเห็นเธอเข้าก็อึ้งไปเช่นกันรีบอุ้มจื่อชิวออกจากอ้อมแขนของฟู่สือถิงทันที ราวกับเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยธรรมชาติ“แม่!” เสียงดังฟังชัดดังมาจากด้านหลังฉินอันอันเป็นเสียงของเสี่ยวหานบอดี้การ์ดจอดรถเสร็จ เสี่ยวหานก็รีบเปิดประตูลงจากรถและวิ่งไปหาฉินอันอันฉินอันอันปรับอารมณ์ของตัวเอง แล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้เสี่ยวหาน “ลูกรัก วันนี้ทำไมกลับบ้านดึกจัง?”เสี่ยวหานจับมือฉินอันอัน ตอบว่า “มีโจทย์บางข้อที่ผมไม่เข้าใจ เลยขอให้ค
ฟู่สือถิงขมวดคิ้วแน่น เสียงของฉินอันอันทำให้สติของเขากลับคืนมามือเขาคลายออก เสี่ยวหานรีบวิ่งขึ้นบันไดไป!แต่ฉินอันอันไม่กล้าปล่อยแขนฟู่สือถิง “ฟู่สือถิง ทำอะไรของคุณ! คุณบอกว่าจะไม่บังคับลูก! แต่สิ่งที่คุณทำเมื่อกี้มันต่างอะไรกับการบังคับกัน?!”ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงกลอกขึ้นลง เสียงแหบพร่า พูดทีละคำ “ผมแค่... แค่อยากจะขอโทษเขา”“แต่วิธีที่คุณใช้มันผิด เขาเป็นเด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ พฤติกรรมเมื่อกี้ของคุณมันหยาบคายเกินไป” ฉินอันอันลากเขาออกมา บังคับให้นั่งลงบนโซฟา “ฟู่สือถิง ตัวคุณเองก็ถูกครอบครัวทำร้ายจิตใจจนมีปมมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วทำไมคุณคิดว่าเสี่ยวหานจะสามารถคืนดีกับคุณได้เร็วขนาดนั้น?”ฟู่สือถิงเงยหน้าขึ้น มองหน้าเธอนิ่ง ๆ“ฉันไม่ได้ตำหนิคุณนะ” ฉินอันอันถอนหายใจอย่างหมดแรง “ต่อไปอย่าใจร้อนแบบนี้อีก คุณทำให้จื่อชิวตกใจ รุ่ยลาก็คงตกใจเหมือนกัน”“ผมขอโทษ” เขาตำหนิตัวเอง ก่อนมองไปทางเด็ก ๆป้าจางอุ้มจื่อชิว จื่อชิวไม่ร้องไห้แล้ว รุ่ยลายืนอยู่ข้างหลังป้าจาง มือเล็ก ๆ กอดสมุดการบ้านไว้ ดวงตากลมโตสีดำสนิทมองมาทางห้องนั่งเล่น ไม่กล้าเดินเข้ามาหา“อันอัน ผมซื้อของขวัญมาให้เด็ก ๆ เดี๋
บ้านตระกูลฟู่ฟู่สือถิงกลับถึงบ้าน กำลังจะเดินขึ้นบันได ป้าหงก็เรียกเขาไว้“คุณผู้ชายคะ มีเรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าคุณได้ยินหรือยัง”ฟู่สือถิงหันกลับมามองป้าหง “เรื่องอะไรครับ?”“เรื่องบ้านเดิมค่ะ” ป้าหงทำหน้าเครียด “พี่ชายคุณกำลังจะขายบ้านหลังนั้น”ดวงตาของฟู่สือถิงเบิกกว้างขึ้นทันที “ป้าได้ยินมาจากใคร?”“หลานชายคนหนึ่งของฉันเป็นนายหน้าขายบ้าน เขาโทรมาบอกฉันค่ะ” ป้าหงพูดจบก็น้ำตาคลอเบ้า “คุณผู้ชายคะ พี่ชายคุณคงไม่มีเงินเหลือแล้วถึงได้ขายบ้าน โอ๊ย! ทำไมเขาถึงตัดใจขายได้ลงคอกันนะ!”“ป้าหมายความว่าจะให้ผมให้เงินเขางั้นเหรอ?” ฟู่สือถิงล้วงมือลงในกระเป๋า จ้องมองป้าหงป้าหงรีบส่ายหน้า “ต้องไม่ใช่แบบนั้นสิคะ! พวกเขาน่ะเป็นงูพิษ คุณนายใจดีกับพวกเขาแค่ไหน แต่พวกเขากลับลงมือทำร้ายคุณนายเสียได้! ฉันแค่อยากให้คุณซื้อบ้านหลังเดิมนั้นคืนมาค่ะ ถึงแม้คุณจะไม่ได้ไปอยู่ ก็ยังดีกว่าให้คนอื่นมาอยู่แทน ถ้าบ้านเก่าเปลี่ยนมือไปเป็นของเจ้าของใหม่แล้ว คนอื่นคงนินทาตระกูลฟู่กันสนุกปากแน่”ป้าหงเสนอแนะแบบนี้เพื่อรักษาหน้าตาและเกียรติยศของตระกูลฟู่ฟู่สือถิงร่ำรวย การซื้อบ้านหลังเดิมไม่ใช่เรื่องยาก“พรุ่งน
“ไม่ใช่ว่าลูกเคยบอกว่าพี่ชายเป็นคนที่ลูกชอบที่สุดหรอกเหรอ?” ฉินอันอันถามด้วยความสับสน“ก็จริงค่ะ! พี่ชายเป็นคนที่หนูชอบที่สุด แต่หนูอยากเล่นเปียโนให้น้องชายฟังแค่คนเดียว เพราะน้องชายคงฟังไม่รู้เรื่องว่าหนูเล่นผิดตรงไหน” รุ่ยลาอธิบายเหตุผลฉินอันอันอดหัวเราะไม่ได้ “พี่ชายลูกเองก็ฟังไม่ออกหรอกว่าเล่นผิดตรงไหน! เขาเล่นเปียโนไม่เป็นสักหน่อย”รุ่ยลาทำหน้างงเล็กน้อย “จริงด้วย! หนูก็นึกว่าพี่ชายเป็นซูเปอร์แมน ทำอะไรก็เก่งไปหมด! ฮ่าฮ่า!”พูดจบเธอก็คว้ามือเสี่ยวหานขึ้นไปชั้นบนอย่างมีความสุข ฉินอันอันยิ้มอย่างนึกเอ็นดู“อันอัน คุณบอกว่าต้องปรับเวลานี่นา? ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเุถอะค่ะ” ป้าจางพูด“ค่ะ”ฉินอันอันกลับไปที่ห้องนอน เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดนอนจู่ ๆ ท้องก็ปวดอย่างรุนแรงเธอยันตัวไว้ที่ประตูตู้เสื้อผ้า ค่อย ๆ ทรุดตัวลงเธอหายใจหอบหนัก ใบหน้าซีดเผือด!ถึงจะเจ็บปวดมาก แต่เธอก็ไม่ตกใจกลัวนัก เพราะความเจ็บปวดแบบนี้เป็นอะไรที่คุ้นเคยดีหลังจากคลอดลูก เธอก็ไม่ได้มีประจำเดือนอยู่นานความเจ็บปวดที่ท้องน้อยตอนนี้คืออาการปวดประจำเดือนตอนอยู่บนเครื่องบิน เธอรู้สึกแน่นหน้าอก ท้อ
คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ฉินอันอันนอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย เธอกินยาแก้ปวดเพราะปวดท้องมากในตอนเช้าถ้าเป็นก่อนหน้านี้การกินยาแก้ปวดจะบรรเทาอาการปวดได้เร็วแต่วันนี้อาการปวดท้องกำเริบหนัก กินยาแล้วก็ช่วยให้โล่งได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเธอจึงไม่เข้าบริษัทสภาพเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องพูดถึงการไปทำงาน เธอรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวแม้จะนอนอยู่บนเตียงหลังจากรับสายจากแผนกต้อนรับ เธอก็ยกผ้าห่มแล้วลุกจากเตียงเพราะอยากดื่มน้ำร้อนเมื่อเธอมาถึงห้องนั่งเล่น เห็นป้าจางกำลังวางสายโทรศัพท์อย่างเร่งรีบ“อันอัน ออกมาทำไมคะ” ป้าจางถามอย่างเป็นกังวล “คุณไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวก็นอนพักผ่อนอยู่บนเตียงเถอะค่ะ”“ฉันหิวน้ำนิดหน่อยค่ะ” เธอตอบ “ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นกว่าตอนเช้ามาก”“งั้นฉันจะต้มน้ำร้อนให้แล้วยกไปที่ห้องคุณนะคะ” ป้าจางไปหาแก้วเก็บความร้อน “เอ่อ คุณผู้ชายโทรมาค่ะ บอกว่าเขาจะเข้ามา”ฉินอันอันร่างกายอ่อนแอ สมองไม่ค่อยสั่งการเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อได้ยินข่าว เธอจึงไม่ได้รู้สึกต่อต้านมากเท่าไหร่นัก“เขาซื้อของขวัญให้เสี่ยวหานกับรุ่ยลาค่ะ แล้วยังบอกด้วยว่าเขาจะเอาของพวกนี้มาให้คุณ ฝากคุณมอบของพ
“เขาไม่รู้เรื่องหรอก เราแค่กระซิบกันเบา ๆ เขาคงฟังไม่ออก” ฉินอันอันพูดรัวเร็ว แต่เสียงเบาลงมากแน่นอนว่าสีหน้าของจื่อชิวก็ยังคงน่ารักน่าเอ็นดู ไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องอะไรฉินอันอันหยิบของเล่นสำหรับกัดให้จื่อชิว จื่อชิวก็คว้าของเล่นนั้นใส่ปากแล้วเคี้ยวตุบตับ“คุณอยากอุ้มลูกไหม?” ฟู่สือถิงอยากให้เธอยิ้มแย้มฉินอันอัน “ฉันไม่มีแรง”ฟู่สือถิง “งั้นดื่มน้ำไหม?”ฉินอันอัน “ยังไม่กระหายเหมือนกัน”“ผมเอาของขวัญมาแล้ว มาดูด้วยกันนะ” ฟู่สือถิงพูดพลางจะเอื้อมไปหยิบของขวัญฉินอันอันเห็นเขาเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้า อุ้มลูกไปด้วย จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “คุณอุ้มลูกอยู่ ทำไมไม่นั่งนิ่ง ๆ ล่ะ? ถ้าฉันอยากดูของขวัญ เดี๋ยวฉันค่อยแกะเองก็ได้”พอได้ยินแบบนั้นเขาก็นั่งลงข้าง ๆ เธอ“บอกว่าของขวัญพวกนี้เป็นของคุณที่ซื้อมานะ ไม่ต้องพูดถึงผม” เขาเตือน“ฉันจะช่วยคุณส่งต่อของขวัญให้ลูกเอง เรื่องอื่น ๆ คุณไม่ต้องห่วง” เธอมองกล่องของขวัญสองกล่องบนโต๊ะ แค่ดูกล่องก็รู้แล้วว่าราคาไม่ใช่ถูก ๆ แน่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบลงเขาอุ้มลูกอยู่ ไม่สะดวกจะรับโทรศัพท์เขาตั้งใจจะส