ไมค์ “ไม่เป็นไรหรอก พี่ชายหนูหล่อจะตายไป เดี๋ยวอีกหน่อยก็มีสาวมาตามจีบ ถ้าหาแฟนผู้หญิงไม่ได้ ก็หาแฟนหนุ่มไปเลย”รุ่ยลาอึ้ง “...”เสี่ยวหานวางชามข้าวลงด้วยใบหน้าบึ้งตึง “น่าเบื่อ”หลังจากที่เสี่ยวหานลุกจากโต๊ะ ฉินอันอันก็กินอิ่มและลุกจากโต๊ะด้วยเช่นกันเนื่องจากมีอาการเจ็ตแล็ก เธอจึงไม่ค่อยสบายตัวนักเธอเดินกลับห้องนอนแล้วจัดการสิ่งต่าง ๆ ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงเธอหยิบโทรศัพท์ ตั้งใจจะส่งข้อความหาหลีเสี่ยวเถียนเพื่อบอกว่าเธอกลับมาแล้วแต่พอเปิดหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นข้อความหลายสิบข้อความที่ฟู่สือถิงส่งมาเธอตกใจไปชั่วครู่ แล้วก็คลิกเข้าไปดูกล่องข้อความของเขาข้อความที่เขาส่งมาทั้งหมดเป็นรูปถ่ายของรุ่ยลาที่ดรีมซิตี้ในวันนี้ในรูปถ่ายแต่ละรูป รอยยิ้มของรุ่ยลาล้วนสดใสและร่าเริงหลังจากดูรูปถ่ายเสร็จ เธอก็กดบันทึกรูปถ่ายที่ดูดีที่สุด แล้วก็ปิดกล่องข้อความของเขาทิ้งเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับเขา ภาพการแยกจากกันครั้งสุดท้ายที่สนามบิน เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะลืมความเจ็บปวดในตอนนั้นได้อย่างรวดเร็วเธอโทรหาหลีเสี่ยวเถียน “เสี่ยวเถียน ฉันกลับมาแล้วนะ”
เขาบอกว่า ‘อันอัน ให้โอกาสผมเป็นครั้งสุดท้ายนะ!’เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางโทรศัพท์ลง‘โอกาสสุดท้าย!’ คำสี่คำนี้ทำให้หัวใจของเธอตึงเครียดเธอคิดถึงเสียงร้องไห้ของหลีเสี่ยวเถียนตอนที่หลีเสี่ยวเถียนพูดว่าจะหย่า เธอเด็ดขาดมาก! หลังจากหย่าแล้วก็ออกจากประเทศเอไปอย่างเด็ดเดี่ยว แต่การแต่งงานใหม่ของเฮ่อจุ่นจือกลับทำให้เธอต้องแหลกสลายอีกครั้งใครบ้างไม่อยากเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีถ้าจะพูดว่าในโลกนี้มีอะไรที่ทำให้คนคนหนึ่งเสียสติได้ ก็คงหนีไม่พ้นความรัก……ฟู่สือถิงออกจากสตาร์ริเวอร์วิลล่า เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็เปิดวีแชทฉินอันอันไม่ได้ตอบกลับเขาคาดเดาว่าฉินอันอันคงเห็นข้อความของเขาแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตอบกลับ แต่เขาก็ไม่รีบร้อนหลังจากนี้จะไม่มีใครหรืออะไรมาคุกคามเขาได้อีกต่อไปเขาสามารถวางแผนและรอคอยอย่างอดทนได้วันรุ่งขึ้น หลีเสี่ยวเถียนมาที่สตาร์ริเวอร์วิลล่า พร้อมกับของว่างและของขวัญมากมายป้าจางพูดด้วยรอยยิ้ม “แบบนี้ดีจัง รู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในบรรยากาศเดิม ๆ เลย”ฉินอันอันเห็นสีหน้าของหลีเสี่ยวเถียนแข็งค้างไปชั่วครู่ จึงพูดขึ้นทันที “เสี่ยวเถียน เข้ามาดูจื่อชิวสิ!
ขณะที่ขับผ่านร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง สายตาของหลีเสี่ยวเถียนก็ถูกดึงดูดด้วยรถหรูที่จอดเรียงรายอยู่หน้าร้านหลีเสี่ยวเถียนมีไหวพริบ “อันอัน เราไปกินอาหารมื้อใหญ่กันดีกว่า!”ฉินอันอันกำลังดูโทรศัพท์ ตอบรับไปตามน้ำ “ได้สิ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”หลีเสี่ยวเถียนขับรถไปจอดที่หน้าร้านอาหารหรูแห่งนั้น หลังลงจากรถแล้ว เธอก็ส่งกุญแจให้พนักงานรับรถฉินอันอันเพิ่งจะเก็บโทรศัพท์แล้วมองไปที่ร้านอาหารเต็ม ๆ ตา “ร้านนี้ฉันเคยมาแล้ว รสชาติใช้ได้เลย”“เธอเคยมาตอนไหน? ฉันยังไม่เคยมาเลย! ร้านนี้นอกจากราคาจะเอาเรื่องแล้ว ยังต้องจองล่วงหน้าด้วย ไม่งั้นจะไม่ได้กินเมนูขึ้นชื่อของพวกเขา”ฉินอันอันนึกย้อนกลับไป สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เคยมากับฟู่สือถิงก่อนหน้านี้”“โอ้ ไม่น่าแปลกใจ! คนอย่างเขาไปที่ไหนไม่มีเลยที่จะไม่หรูหรา ฉันเดาว่าตอนที่พวกเธอคบกัน คงจะตระเวนกินร้านอาหารหรูในเมืองนี้จนครบแล้วสินะ”“ไม่ขนาดนั้นหรอก ร้านที่เขาชอบมีอยู่แค่ไม่กี่ร้านเอง”หลีเสี่ยวเถียนถึงบางอ้อในทันทีไม่แปลกใจที่ฟู่สือถิงจะมาทานอาหารที่นี่ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เขาชอบนี่เองเมื่อกี้เธอเห็นรถของเขาจอดอยู่ด้า
ขมับของฉินอันอันเต้นตุบ ๆ “ในเมื่อร้านคุณไม่มีจริง ๆ แค่บอกฉันตรง ๆ ว่าไม่มีก็ได้ ทำไมต้องไปหาเขาด้วย?”ผู้จัดการ “ขอโทษด้วยครับ ผมนึกว่าคุณกับคุณฟู่เคยมาที่นี่ด้วยกัน ความสัมพันธ์คงจะไม่ธรรมดา แล้วเพื่อนของคุณก็กำลังโมโหอยู่ด้วย ก็เลย...”ฉินอันอันขัดจังหวะเขาทันที “ปลาจานนี้ราคาเท่าไหร่?”“ทางเรารวมอยู่ในบิลคุณฟู่แล้วครับ” ผู้จัดการพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณรู้สึกเกรงใจจริง ๆ สามารถโอนค่าอาหารจานนี้ให้คุณฟู่โดยตรงได้ จานนี้ราคาสองแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทครับ”ฉินอันอันตกตะลึงกับราคา “???”เธอรู้ว่าจานปลากระบอกของร้านนี้ขึ้นชื่อ ทั้งยังรสชาติอร่อยและราคาแพงกว่าที่อื่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ผู้จัดการเห็นเธออึ้งไปก็รีบอธิบาย “ปลากระบอกตัวนี้ไม่เหมือนปลากระบอกทั่วไปครับ เป็นของคุณภาพดีที่สุดในบรรดาวัตถุดิบชั้นดีทั้งหมด ร้านเราไม่ได้ปลากระบอกที่สวยขนาดนี้มาหลายปีแล้ว”ฉินอันอันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก็โบกมือให้เขา “เข้าใจแล้วค่ะ”หลังจากที่ผู้จัดการออกไป หลีเสี่ยวเถียนก็พูดด้วยความรู้สึกผิด “มื้อนี้ฉันจ่ายเองก็ได้นะ ไม่คิดว่าเมนูปลาจะแพงขนาดนี้ ที่จริงฉันก็เคยมากิ
“การดูแลที่ผมพูดถึง ไม่ใช่การตามใจเขาไปทุกอย่าง แต่เป็นการเพิ่มความท้าทายให้กับการเรียนของเขา เพื่อให้เขาได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น... เขาเป็นลูกชายของผม ดังนั้นก็ควรจะเป็นเหมือนผม เจอเรื่องยาก ๆ แล้วจะก้าวหน้าได้เร็วขึ้น”“ครับ ต่อไปนี้เรื่องการเรียนของเสี่ยวหาน เราจะรายงานให้คุณทราบเป็นระยะ ๆ”“อืม ติวเตอร์ที่ผมจ้างจะมาถึงคืนนี้ ไว้ผมจะส่งข้อมูลการติดต่อของเขาให้คุณในภายหลัง เขาคนนี้เคยพาเด็กนักเรียนในชั้นเรียนอัจฉริยะเข้าร่วมการแข่งขันเขียนโปรแกรมระดับนานาชาติอย่างแฮ็กเกอร์คัพด้วย” ฟู่สือถิงอธิบายนี่คือหนทางที่เขาตั้งใจปูไว้ให้เสี่ยวหานเขาหวังให้เสี่ยวหานประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ ไม่ใช่เพราะเขาคาดหวังให้เสี่ยวหานหาเงินได้มากมาย แต่เพราะเขาคิดว่านี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของเสี่ยวหานในฐานะพ่อ เขาจะพยายามช่วยให้เสี่ยวหานบรรลุเป้าหมาย“คุณฟู่ คุณเป็นพ่อที่ดีจริง ๆ น่าเสียดายที่เสี่ยวหานยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจความตั้งใจของคุณ” หัวหน้าฝ่ายกล่าวด้วยความรู้สึกชื่นชม “เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะเข้าใจคุณอย่างแน่นอน”“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” ตอนนี้ฟู่สือถิงไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวหานเข้าใจ
เมื่อกี้หลีเสี่ยวเถียนล้อเลียนฟู่สือถิงที่หยิบบัตรออกมาจ่าย ที่ไหนได้ เขาไม่ได้จ่ายค่าอาหารของตัวเอง แต่กลับจ่ายค่าอาหารให้พวกเธอแม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้ามาทักทาย แต่ก็ยังมีน้ำใจจ่ายบิลแทนพวกเธอฉินอันอันเดินไปหาหลีเสี่ยวเถียนอย่างรวดเร็ว “ฉันขอออกไปแป๊บหนึ่ง รอเดี๋ยวนะ”หลีเสี่ยวเถียนยังไม่ทันได้ตั้งตัว ฉินอันอันก็เดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็วไม่ต้องสงสัยเลย ฟู่สือถิงยืนอยู่หน้าร้านอาหารเขาดูมั่นใจว่าเธอต้องออกมาหาเขาแน่ ความรู้สึกที่ถูกเขารู้ทันแบบนี้ทำให้เธอขมวดคิ้วหลังจากที่ทั้งสองสบตากัน เขาก็หันหน้ามาทางเธอทันทีอารมณ์ของเธอเหมือนน้ำที่กำลังเดือดพล่านเขาคิดว่าการส่งรูปลูกสาวให้ จ่ายค่าอาหารให้ แล้วจะสามารถลบล้างเรื่องราวในอดีตได้เหรอ?เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแชทของเขา แล้วกดโอนเงินหลังจากโอนค่าอาหารทั้งหมดไปแล้ว เธอก็ไม่หันกลับมามอง เดินกลับเข้าไปในร้านอาหารฟู่สือถิงตกใจคิดว่าเมื่อเธอออกมาแล้วจะพูดอะไรกับเขาอย่างน้อยสองสามคำซะอีกต่อให้เป็นประโยคไล่ให้เขากลับ แต่ก็ยังดีกว่าการไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ฉินอันอันกลับมานั่งที่โต๊ะ หลีเสี่ยวเถียนถาม “เธอออกไปไหนมา? ฟู่สือ
เมื่อได้ยินคำตอบของเธอ เขาก็โล่งใจขึ้นทันทีเขาไม่ได้ทำอะไร แค่ต้องการให้เธอสนใจเท่านั้น“ผมส่งแชทไป แต่คุณไม่ตอบ” เขากล่าวอย่างอึดอัดต่อหน้าเธอ“งั้นก็อย่าส่งแชทหาฉันอีก” เธอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา แล้วก็ก้าวขึ้นรถไปรถบีเอ็มดับเบิลยูสีแดงสตาร์ทเครื่องยนต์ หักหัวเลี้ยว แล้วเคลื่อนจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่รถขับขึ้นทางหลัก หลีเสี่ยวเถียนก็ถาม “อันอัน เธอใจอ่อนให้เขาหรือยัง? ตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรจากฉันเลย กินไม่อิ่มนอนไม่หลับทุกคืน”ฉินอันอันก้มหน้าเล็กน้อย ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไร“เมื่อกี้ฉันเพ่งมองฟู่สือถิงอยู่นาน ฉันว่าเขาบำรุงผิวดีจัง อายุตั้งเท่านี้แล้วแต่ยังหล่อขนาดนี้ ไม่ต่างจากตอนที่ฉันเจอเขาครั้งแรกเลย...”ฉินอันอันอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะเธอ “เสี่ยวเถียน เธอว่าเขาอายุเท่าไหร่?”“สี่สิบ?”“ไม่น่าจะแก่ขนาดนั้น” ฉินอันอันขมวดคิ้ว “ไม่น่าจะถึงสี่สิบ ถ้าเขาสี่สิบฉันก็น่าจะรู้แล้วสิ”“เพราะอะไรล่ะ? หรือว่าถ้าเขาอายุสี่สิบ เขาจะจัดงานฉลองวันเกิดแบบยิ่งใหญ่?”“ไม่ใช่ ฉันแค่รู้สึกว่าเขาไม่น่าจะอายุเยอะขนาดนั้น”“ฉันถึงได้ชมไงว่าเขาดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่หน้านะที่ดูดี ห
เปลือกตากะพริบปริบ ไม่คิดว่าเขาจะว่าง่ายขนาดนี้เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาทั้งสองรักกันหวานชื่น เขาไม่ได้เชื่อฟังเธอทุกเรื่องเขาเป็นผู้ชายที่มีหลักการมาก เช่น เมื่ออยู่ข้างนอก เขาจะไม่ให้เธอจ่ายเงินเลย และไม่ยอมรับเงินจากเธอสักครั้งดังนั้น เธอจึงไม่คิดว่าเขาจะยอมละทิ้งหลักการ แล้วรับเงินจากเธอโดยดีแต่สุดท้าย เขาก็รับไว้แสดงว่าในตอนนี้เขาสามารถละทิ้งนิสัยเดิม ๆ เพื่อเธอได้ในเมื่อเขายอมเชื่อฟังขนาดนี้ สักวันเธออาจจะยอมใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ…… “สือถิง อย่าเอาแต่ดูโทรศัพท์ตลอดเวลาสิ อันอันคงไม่ตอบนายเร็ว ๆ นี้หรอก”ในห้องส่วนตัว เซิ่งเป่ยตบไหล่ฟู่สือถิง แล้วส่งแก้วเหล้าให้เขา“ตอบแล้ว” ฟู่สือถิงวางโทรศัพท์ลง“ตอบแล้วเหรอ งั้นก็โทรตามเธอออกมาดื่มด้วยสิ ถ้านายโทรชวนเธอมาได้ ฉันถึงจะเชื่อว่าเธอตอบแล้ว” สายตาของเซิ่งเป่ยจ้องไปที่โทรศัพท์ของฟู่สือถิงฟู่สือถิงเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า แล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ“พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงาน”“พรุ่งนี้พวกเราเองก็ต้องไปทำงานเหมือนกันนี่?” เซิ่งเป่ยเปิดโปงคำโกหกของเขาอย่างกล้าหาญ “ถ้าเธอตอบนายจริง นายจะยังนั่งกินเหล้ากับพวกเราที่นี่ได้อีกเหรอ?