เซิ่งเป่ย “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ผมเองก็ไม่แน่ใจ ถ้าพวกเขาแต่งงานกัน มันต้องเป็นงานใหญ่แน่ ถึงเวลาพวกคุณก็รู้เอง”“ฉินอันอันเป็นผู้ชนะในชีวิตจริง! คลอดลูกให้เจ้านายเราแถมยังเป็นลูกชายอีก” มีคนพูดอย่างอิจฉา “ต่อจากนี้ถ้าฉินกรุ๊ปพบความยากลำบากใด ๆ เจ้านายของพวกเราจะต้องช่วยเธอแน่นอน” เซิ่งเป่ยเหน็บแนม “ถึงแม้เจ้านายของพวกคุณจะหล่อเหลาและร่ำรวย แต่ฉินอันอันไม่ใช่ผู้หญิงไร้ความสามารถที่จะใช้ลูกชายเป็นบันไดให้ตัวเองอย่างที่พวกคุณคิด พวกคุณคิดว่าเจ้านายของพวกคุณจะตกหลุมรักผู้หญิงทั่ว ๆ ไปจริงเหรอ? ปกติเอาแต่ดูละครไอดอลสินะ” “อ้าว? เจ้านายพวกเราอยู่กับฉินอันอันเพราะเธอท้องไม่ใช่เหรอ?” “พวกคุณคิดอะไรน่ะ?! แค่เด็กคนเดียว จะมัดเขาไว้ได้ยังไง? มีผู้หญิงตั้งมากมายบนโลก ถ้าอยากได้ลูก หาใครคลอดให้ก็ได้” คำพูดของเซิ่งเป่ยทำให้ทุกคนรู้แจ้ง สรุปคือผู้หญิงที่จะอยู่กับเจ้านายต้องไม่ใช่พวกสวยใสไร้สมอง ถึงแม้ว่าถังเชี่ยนจะไม่ถูกไล่ออก แต่เธอก็ไม่สามารถเอาชนะฉินอันอันได้ …… สามวันต่อมา ฉินอันอันสามารถลุกขึ้นเดินได้แล้ว เธอจึงขอออกจากโรงพยาบาล แต่แพทย์ย่อมไม่เห็นด้วยอยู่แล้วห
จู่ ๆ เธอไม่กล้าเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับหลีสี่ยวเถียนยังไง ถึงแม้หลีเสี่ยวเถียนกลัวการคลอดลูก แต่หลังจากต่อสู้ภายในจิตใจมาอย่างยาวนาน เธอก็ตัดสินใจยอมมีลูกแล้ว ผลคือตอนนี้เธอกลับไม่มีทางมีลูกได้ นี่มันเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจเธอมากขนาดไหน! แล้วเฮ่อจุ่นจือก็โดนกระทบอย่างหนักเช่นกัน! “อันอัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณป้าไม่ตำหนิคุณและเสี่ยวเถียนก็จะไม่ตำหนิคุณเช่นกัน” เขาปลอบเสียงแผ่วเบา ใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้เธอ “คุณเข้าไปคุยกับเสี่ยวเถียนเถอะ” “ฉันไม่รู้จะพูดอะไร… สือถิง ฉันไม่รู้ว่าควรพูดยังไง…” เธอพูดพร้อมสะอื้น “เป็นแบบนี้แล้ว ฉันสู้หน้าเธอไม่ได้” ตอนนี้เอง จู่ ๆ ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก คุณแม่หลีเห็นทั้งสองคนอยู่ที่ประตูก็พูดด้วยความตกใจว่า “พวกเธอมาได้ยังไง? อันอัน ออกโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” ฉินอันอันปรับอารมณ์ของเธออย่างรวดเร็ว “ค่ะ ฉันออกโรงพยาบาลแล้ว เลยมาเยี่ยมเสี่ยวเถียน ถ้าเสี่ยวเถียนพักผ่อนอยู่ ฉันจะไม่รบกวนเธอ” “ตอนนี้เธอไม่ได้พักผ่อน เธอให้ป้าออกมาดูว่าจุ่นจือยังอยู่หรือเปล่า” คุณแม่หลีพูดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ “เขาเพิ่งก
“อันอัน ถึงต่อไปพวกเราจะไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ แล้ว แต่ฉันจะมาหาเธอเมื่อฉันว่างนะ” หลีเสี่ยวเถียนกล่าว “อื้ม ฉันรอเธอมาหาฉันทุกเมื่อ” “เธอกลับไปพักเถอะ! สีหน้าเธอแย่กว่าฉันเสียอีก” หลีเสี่ยวเถียนพูดพร้อมกับลุกจากเตียงจะไปส่งเธอ “เธอนอนพักเถอะ ฉันจะไปแล้ว” ฉินอันอันกดเธอลงนอน “ไว้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วบอกฉันนะ” “ตกลง” หลังจากออกจากโรงพยาบาล ฉินอันอันรู้สึกว้าวุ่น เธอรู้สึกเวียนหัวและสงบสติอารมณ์ไม่ได้ ดูเหมือนเรื่องทั้งหมดจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น แต่ในใจของเธอกลับหนักอึ้งมาก อาจเป็นเพราะอดีตไม่สามารถหวนคืน และอนาคตยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “อันอัน คุณกลับบ้านแล้วพักผ่อนเยอะ ๆ เถอะนะ คุณดูแย่มาก” ฟู่สือถิงมองแก้มเย็นเยียบของเธอแล้วกังวลถึงสภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของเธอ “ตอนที่คุณกับเสี่ยวเถียนคุยกันในห้องผู้ป่วย คุณป้าบอกผมว่าถึงประสบการณ์ที่เสี่ยวเถียนเจอจะน่าเศร้า แต่มันทำให้เธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน” “เพราะว่าเธอไม่คิดจะพึ่งพาผู้ชายคนไหนอีกต่อไป เธอทำได้เพียงแค่บังคับตัวเองให้เข้มแข็งเท่านั้น” “สิ่งนี้มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ดีมากไม่ใช่เหรอ? ผมไม่ได้จะบอกว่าจุ่นจือพึ่งพ
“ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นดาร์กเว็บได้ยังไงล่ะ? เพราะว่าข้างในมีแต่พฤติกรมที่ผิดกฎหมาย…คุณนี่จิตอ่อนนะเนี่ย!” ไมค์แซะเขา ความเข้มแข็งทางจิตใจของโจวจื่ออี้ไม่ได้แย่แบบที่ไมค์พูดแน่นอนดีร้ายยังไงเขาคือมือขวาของฟู่สือถิง เขาเคยเห็นลมและคลื่นแรงกับฟู่สือถิงมาทุกชนิด เขาจะหวาดกลัวง่าย ๆ ได้ยังไง?“คุณดูแล้วจะรู้เอง” เมื่อทั้งสองคนเข้าไปในห้อง โจวจื่ออี้ดันไมค์ไปที่คอมพิวเตอร์แล้วนั่งลง ไมค์เหลือบมองข้อมูลบนจอ… พูดให้ถูกก็คือหลังจากที่เขาเห็นภาพหน้าจอแล้ว แผ่นหลังของเขามีเหงื่อเย็นไหลออกมา!บนหน้าจอมีรูปถ่ายของจางหยุน จางหยุนคือแม่แท้ ๆ ของฉินอันอัน เธอตายไปสองปีแล้ว ทำไมถึงมีรูปถ่ายของเธอในดาร์กเว็บ? หรือว่า…นิ้วของไมค์กำเมาส์แน่น ดวงตาสีฟ้าอ่อนส่องแสงเย็น เขาอ่านข้อมูลหน้าจอจบแล้วกัดฟันแน่น “น่ากลัวมากเลยใช่ไหม? ชื่อผู้ใช้งานชื่อลิโล่ต้องการซื้อผู้หญิงวัยกลางคนอย่างจางหยุน ซื้อมาแล้วเธอจะทำอะไร? ผู้หญิงคนนี้จะต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการฉินอันอันแน่!” โจวจื่ออี้สูดลมหายใจเย็นเยียบแล้วพูดว่า “ไมค์ คุณต้องรีบตรวจสอบผู้ใช้งานชื่อลิโล่ ดูว่าเธอเป็นใครกันแน่?!” ไมค์เงยหน้าขึ้
ถ้าหากไม่มีเขาคอยดูแล เธอนึกไม่ออกเลยว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเขา อุณหภูมิของผิวที่เย็นทำให้เธอหวาดกลัว ภายในบ้านมีระบบควบคุมอุณหภูมิ แต่เนื่องจากอุณหภูมิภายนอกค่อนข้างต่ำ ดังนั้นตอนกลางคืนจึงยังต้องห่มผ้าบาง ๆ เธอเอาผ้าห่มบนตัวคลุมให้เขาแล้วขยับตัวไปอยู่ข้างเขาทีละนิด เขาดื่มไวน์ผลไม้เข้าไป กลิ่นบนตัวเขาจึงเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมหวานที่ทำให้เคลิบเคลิ้ม ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น ทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงแหบห้าวของเขาดังขึ้น “อันอัน…ผมจะเป็นพ่อที่ดี…ผมจะทำให้ได้…” เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับละเมออยู่ในความฝัน เธอลืมตาทรงกลมโตขึ้น แล้วจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างแน่วแน่ เพราะว่าแสงไฟสลัวมาก เธอจึงมองเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัด แต่เธอเห็นว่าเขาหลับตาอยู่ เขาฝันและกำลังละเมอ ในฝันเขาสัญญากับเธอว่าจะเป็นพ่อที่ดี ถึงแม้จะละเมอ แต่มันก็ยังทำให้เธอซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอเบ้า เขาจะต้องเก็บคำพูดของเธอไว้ในใจแล้ว ครุ่นคิดตอนกลางวันและฝันถึงตอนกลางคืน ถึงได้มีความฝันแบบนี้ เธอเชื่อ ว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีได้ทุกวันคุณหมอส่งรูปมาให้เขา เขาจะโชว์ให้เธอดูท
ฟู่สือถิงประคองตัวเธอแล้วอุ้มเธอไปนั่งที่โซฟา “อันอัน คุณอยู่บ้านเถอะ ผมจะไปหาถังเชี่ยนเดี๋ยวนี้” ฟู่สือถิงมองตาเธอแล้วสัญญาว่า “ผมจะให้เธอชดใช้อย่างสาสม” ฉินอันอันพยักหน้า จากนั้นไม่นานฟู่สือถิงและโจวจื่ออี้ก็ออกไปด้วยกัน ในรถ ฟู่สือถิงกดหมายเลขของถังเชี่ยนอยู่หลายครั้งถึงจะโทรติด เมื่อก่อนเขาโทรหาเธอ เธอรับสายเกือบจะในทันที หลังจากรับสายแล้ว เธอไม่พูดอะไร เพราะเธอรู้ว่าที่เขาโทรมาย่อมไม่ใช่เรื่องดีเด็ดขาด “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?” ฟู่สือถิงถามเสียงทุ้มลึก ถังเชี่ยนขนลุกไปทั้งตัว “คุณมีธุระกับฉันเหรอ?” “อืม” “เรื่องอะไร? คุณพูดทางโทรศัพท์เลย! ฉันไม่กล้าไปเจอคุณหรอก” น้ำเสียงของถังเชี่ยนเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ฟู่สือถิงสัมผัสได้ถึงความระมัดระวังตัวของเธอ เขาจึงพูดว่า “คราวก่อนที่ฉันลงมือกับเธอ ฉันรู้สึกว่าทำเกินไป จึงอยากขอโทษต่อหน้า” ถังเชี่ยนหัวเราะออกมา “ถึงคุณคิดว่าตัวเองทำเกินไป คุณก็ไม่มีทางมาขอโทษฉันหรอก สือถิง ฉันรู้จักคุณดีเกินไป” “เธอเข้าใจฉันผิดไปมาก เพราะฉันขอโทษฉินอันอันทุกครั้งที่ฉันทำผิดต่อเธอ” “ฉันไม่ได้เข้าใจคุณผิด ฉันพูดว่าคุณไม่มีทางขอโทษ
หลังจากฟู่สือถิงไม่สามารถติดต่อถังเชี่ยนได้ เขาก็โทรหาถังเฉียวเซิน ถังเฉียวเซินรับสายเขา หลังจากที่ฟังเขาพูดเรื่องอาชญากรรมของถังเชี่ยนแล้ว ถังเฉียวเซินเงียบไปหลายวินาที “ฟู่สือถิง ที่น้องสาวของฉันเปลี่ยนไปแบบนี้ นายเองก็มีส่วนครึ่งหนึ่ง ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะไม่ยอมให้เธออยู่ที่เอสทีกรุ๊ปแต่แรก นายไม่รักเธอก็อย่าให้ความหวังเธอสิ!” ฟู่สือถิง “ฉันให้เธออยู่ที่บริษัทเพราะความสามารถการทำงานของเธอ!” “ฉันรู้ แต่ในเมื่อเธอเจอนายทุกวัน จะไม่ให้เธอมีความหวังได้ยังไง? เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พูดไปก็ไม่มีประโยชน์” ถังเฉียวเซินพ่นลมหายใจ “ถังเชี่ยนกำลังพักผ่อนที่เมืองนอก นายว่ามาเลย นายอยากให้เธอทำอะไร?” “ฉันอยากให้เธอตาย” “ฟู่สือถิง! เธออยู่กับนายมานานหลายปี นายต้องใจร้ายกับเธอขนาดนี้เลยเหรอ?” ถังเฉียวเซินสูดลมหายใจและไม่อาจยอมรับผลลัพธ์นี้ได้ “นายกับฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาด้วยกัน นายให้ทางออกเธอไม่ได้เลยเหรอ?” “ฉันควรปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่และปล่อยให้เธอข่มเหงฉินอันอันต่อไปรึยังไง?” “ฉันสัญญาว่าต่อจากนี้เธอจะไม่ไปหาเรื่องพวกนายอีก! ฉันจะควบคุมเธอเอง!” ถังเฉียวเซินพูดอย่างตื่นเต้
ความเคียดแค้นชิงชังในดวงตาของเธอล้นทะลักออกมา และเสียงของเธอก็ดังขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ไมค์และเด็กทั้งสองคนหันมามองพวกเขาในทางเดียว ฟู่สือถิงรีบพาเธอเดินไปที่ห้องนอนทันที “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาถึงทะเลาะกันอีกล่ะเนี่ย?” ไมค์บ่นแล้วควักโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความถึงโจวจื่ออี้ โจวจื่ออี้ : คุณดูแลเด็ก ๆ ให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่งหรอก ไมค์ : มิน่าล่ะ คืนนี้คุณถึงไม่ยอมมา เจ้านายของคุณตัดสินใจปล่อยถังเชี่ยนไปเหรอ? โจวจื่ออี้ : คุณอย่าพูดเหลวไหล ไม่ว่าเจ้านายของผมจะตัดสินใจยังไง เขาก็มีเหตุผลของเขา ไมค์ : น่ารังเกียจ! ผมไม่ควรเอาหลักฐานให้พวกคุณดูเลย! โจวจื่ออี้ : ตอนนี้ถังเชี่ยนไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว คุณจะให้พวกเราตามหาเธอยังไง? ถ้าคุณเก่งขนาดนั้น คุณก็ไปหาสิ ไมค์ : โอ้ ถ้าเป็นแบบนั้น อันอันไม่มีทางโกรธหรอก ห้องนอนใหญ่ชั้นหนึ่ง ฟู่สือถิงปิดประตูลงแล้วมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำ “อันอัน คุณเคยเห็นผู้ป่วยทางจิตหรือเปล่า?” คำพูดของเขาทำให้เธอขมวดคิ้วแน่น “คุณกำลังพยายามบอกว่าถังเชี่ยนป่วยทางจิตงั้นเหรอ?” “เปล่าเลย ผมอยากถามคุณว่าเคยเห็นคนที่เป็นแบบนี้ไหม” เมื่อเห็นว่าอารมณ์ขอ