จู่ ๆ ก็มีแสงส่องมาจากระยะไกล ทันทีที่เธอเห็นที่มาของแสง หัวใจที่ตึงเครียดของเธอก็ผ่อนคลายลง “ฉินอันอัน!” เขาตะโกนชื่อของเธอดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเขา น้ำตาแทบจะไหล ดวงตาของเธอร้อนผ่าว “ฉินอันอัน อย่าขยับ! ที่นี่คือเขตวางทุ่นระเบิด!” ฟู่สือถิงเห็นแสงส่องมาจากฝั่งเธอ จึงมั่นใจว่าเป็นเธอจริง ๆ เขาจึงกล่าวเตือนอย่างเข้มงวด ฉินอันอันน้ำตาไหลลงมาทันที ‘ถ้าที่นี่เป็นเขตวางทุ่นระเบิดจริง ๆ หัวหน้าเฉินจะยอมให้เขาเข้ามาเสี่ยงเหรอ?’ ‘วันนี้เขาไม่ได้เอาสมองออกมาด้วยรึไง?’ ‘อีกอย่าง ถ้าสถานที่แห่งนี้เป็นเขตทุ่นระเบิดจริง ๆ เธอคงไม่มีทางเข้ามาได้!’ ในความทรงจำของเธอ เขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่ฉลาดที่สุด แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงกลายเป็นคนโง่ล่ะ? “ที่นี่ไม่ใช่เขตทุ่นระเบิดเสียหน่อย!” เธอสะอื้น “คุณมานี่เร็วเข้า!” หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็รีบวิ่งไปหาเธอทันที ดวงตาของเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำตา รู้สึกได้เพียงกลุ่มแสงในระยะไกลเคลื่อนเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเธอจะรู้สึกถึงลมหายใจอันร้อนแรงของเขา เธอยกมือขึ้นแล้วรีบเช็ดน้ำตา สักพักเขาก็มาหาเธอ “ฉินอันอัน พวกเขาบอกว
เขาเห็นเธอเสียใจ จึงจับมือเธอแน่นด้วยฝ่ามือใหญ่ของเขาแล้ววางลงบนตำแหน่งหัวใจของเขา “ฉินอันอัน ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ” เขามองเข้าไปในดวงตาของเธอและอธิบายทีละคำ “ผมเพียงแต่ตกลงที่จะไปส่งเธอเพราะเธอเคยรักษาอิ๋นอิ๋น” ‘เสิ่นอวี๋เคยรักษาอิ๋นอิ๋น?’ เธอได้ยินเสียงหัวเราะเหน็บแนมอยู่ข้างใน ‘ในสายตาของเขา เสิ่นอวี๋คือคนที่ช่วยชีวิตอิ๋นอิ๋น’ ‘ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมเสียเงินสองพันล้านให้เสิ่นอวี๋หรอก’ เธอปล่อยมือเล็ก ๆ ของเธอออกจากฝ่ามือใหญ่ของเขา “ในเมื่อเสิ่นอวี๋สามารถรักษาอิ๋นอิ๋นได้ แล้วทำไมคุณถึงเลิกกับเธอล่ะ?” เธอล้อเลียนอย่างเย็นชา “เพราะคุณไง” เขาพูดสามคำนี้แทบไม่ต้องคิด หัวใจของฉินอันอันเต้นรัวราวกับว่าโดนอะไรสักอย่างชน เธอสับสนทันที เขาเลิกกับเสิ่นอวี๋เพราะเธองั้นเหรอ? “แม้ว่าอิ๋นอิ๋นจะยังไม่กลับมาเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ แต่ผมก็พอใจกับสภาพปัจจุบันของเธอมาก” เขาแสดงให้เธอเห็นความในใจของตัวเอง “ผมไม่สามารถบังคับตัวเองให้อยู่กับเสิ่นอวี๋ต่อไปได้ และก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้เลิกสนใจคุณได้เหมือนกัน” เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา เธอไม่ได้โล่งใจ กลับรู้สึกเหนื่อยแทน “คืนน
“เจอแล้ว” เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “เสี่ยวหานกับรุ่ยลาล่ะ?” ไมค์สีหน้าเศร้าพลันถอนหายใจ “เกรงว่าคืนนี้พวกเขาจะวิดีโอแชทกับเธอไม่ได้ วันนี้เสี่ยวหานร้องไห้หนักมาก” ฟู่สือถิงที่อยู่ในห้องน้ำได้ยินคำพูดของไมค์ชัดเจน ‘เสี่ยวหานร้องไห้ทำไม?’ ฟู่สือถิงเดินออกจากห้องน้ำและมองฉินอันอันด้วยดวงตาสีเข้ม ตอนนี้ฉินอันอันไม่มีเวลามาสนใจเขาแล้ว เธอแปลกใจมากกว่าเขา เสี่ยวหานเป็นเด็กที่ชอบแสดงอารมณ์โกรธตลอด และไม่เหมือนเด็ก “เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขาโดนรังแกที่โรงเรียนหรือเปล่า? นายไปเจอครูของเขาหรือยัง?” เธอพูดอย่างรวดเร็ว เธออยากกลับบ้านไปปลอบลูกชายตอนนี้เลย “วันนี้ชั้นเรียนของพวกเขามีสอบ และมีคนได้คะแนนสูงกว่าเขา เขาโดนเยาะเย้ย” ไมค์ยักไหล่ “เขาคงไม่สามารถยอมรับได้ว่ามีคนฉลาดกว่าเขาไปสักระยะ” ฉินอันอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เสี่ยวหานอาศัยอยู่ในโลกของตัวเองมาโดยตลอด และในโลกของเขา เขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุด “เขาอายุน้อยที่สุดในชั้นเรียน เป็นที่เข้าใจได้ว่าเขาไม่มีความสามารถเท่ากับคนอื่น ๆ แต่เขาไม่ฟัง ยิ่งโน้มน้าว เขา
ฟู่สือถิงล้างเท้าให้เธออย่างไม่รีบร้อนและเช็ดด้วยกระดาษชำระ แก้มของเธอแดง เธอพยายามดึงเท้ากลับหลายครั้ง แต่เขารั้งไว้ อาการจั๊กจี้ที่เกิดจากการรถูกนิ้วของเขาสัมผัสผิวหนังเท้าของเธอลุกลามไปถึงหัวใจ “คุณคิดว่าเที่ยวบินพรุ่งนี้จะถูกยกเลิกหรือเปล่า?” ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอ “คุณอย่าพูดเป็นลางสิ!” ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านแล้วเขาหยิบกะละมังเข้าไปเติมน้ำในห้องน้ำ พอกลับมาเขาก็เห็นว่าใบหน้าของเธอหม่นหมอง“เที่ยวบินถูกยกเลิกเหรอ?” เขาเดา “อืม” เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “มีผลไม้กับขนมอยู่ในถุง คุณไปกินเถอะ!” แม้ว่าเขาจะหิวแต่เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาก็กินไม่ลง เธอถือกาต้มน้ำออกมาและวางแผนจะต้มน้ำ เขาหยิบกาต้มน้ำจากมือของเธอแล้วพูดว่า “คุณไปนอนพักผ่อนเถอะ” เธอเดินไปที่เตียงและนั่งลงด้วยความสิ้นหวัง ตอนนี้สมองของเธอเต็มไปด้วยเรื่องของเสี่ยวหาน ตั้งแต่เสี่ยวหานเกิดจนถึงปัจจุบัน เว้นแต่การร้องไห้เป็นครั้งคราวเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ก่อนที่เขาจะอายุได้หนึ่งขวบ หลังจากที่เขาอายุได้หนึ่งขวบ เขาก็ไม่ค่อยร้องไห้อีกเลย เธอนึกไม่ถึงว่าเสี่ยวหานจะร้องไห้ เสี่ยวหานยิน
เนื่องจากหัวข้อนี้ค่อนข้างหนักอึ้ง เธอแยกแยะอย่างยากลำบากไปชั่วขณะ ดังนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง “คุณช่วยล้างแอปเปิลให้ฉันทีค่ะ ขอบคุณค่ะ” เขารีบไปล้างแอปเปิลให้เธอทันทีแล้วส่งให้เธอ“คุณเองก็หาอะไรทานสักหน่อย” เธอหยิบแอปเปิลพร้อมกับลุกขึ้นนั่งแล้วพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “อืม” ภายนอกลมแรงและมีพายุฝน ภายในห้องกลับเงียบสงบ หลังจากฉินอันอันกินแอปเปิลเสร็จแล้ว เธอก็นอนลงบนเตียง ลังเลว่าจะให้เขานอนบนเตียงดีหรือเปล่า ตอนนี้ฝนตก อุณหภูมิลดลงมากและที่นี่ก็ไม่มีเครื่องความร้อน ถ้าปล่อยให้เขานอนบนโต๊ะ เขาต้องเป็นหวัดแน่นอน แต่ให้เธอเรียกเขามานอนบนเตียง เธอก็พูดไม่ออก สักพักเขาอาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ถามเธอว่าจะปิดไฟหรือเปล่า เธอหลับตาแล้วส่งเสียงตอบรับ เขาจึงยกมือขึ้นปิดไฟ ทันใดนั้น ห้องก็ตกอยู่ในความมืด เธอรอให้เขาเดินเข้ามา ทว่า…เขากลับนั่งลงอยู่ข้างโต๊ะ ดูท่า ค่ำคืนนี้เขาตั้งใจนอนบนโต๊ะจริง ๆ “ก่อนหน้านี้คุณก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกฉันเลยไม่ใช่เหรอไง? เสแสร้งเป็นสุภาพบุรุษอะไรตอนนี้!” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความโกรธที่สามารถควบคุมได้ “คุณอยากจะแข็งตายหรือไง?!” เขาคิด
“ใช่! ยังไงเธอต้องพิจารณาเขาต่อไปจนกว่าเด็กจะเกิด” ทันใดนั้นไมค์ก็เบิกบาน “ฉันล่ะสงสัยว่าความเป็นผู้ชายแสนดีของเขาจะอยู่ได้นานขนาดนั้นเชียว” ฉินอันอันมองเขาที่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่นแล้วเอ่ยว่า “พรุ่งนี้เขาจะมาทำอาหารที่บ้านของพวกเรา” “เอ๋?” ไมค์สงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป “เขาทำอาหารได้งั้นเหรอ? เธอแน่ใจเหรอว่าเขามาทำอาหารไม่ไช่วางยาพิษ?” ฉินอันอันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะว่านี่คือเรื่องที่ฟู่สือถิงร้องขออย่างจริงจังเขาทำให้มื้อเย็นในวันที่หนึ่งมิถุนายนต้องพังลง เขาอยากชดเชย เขาคิดว่าการทำอาหารเย็นด้วยตนเองถึงจะสามารถแสดงถึงคำขอโทษของเขาได้ หลังจากที่รถมาถึงบ้าน รุ่ยลากอดเธออย่างมีความสุข เพื่อเป็นการฉลองการกลับมาของเธอในวันนี้ รุ่ยลาจึงหยุดเรียนเป็นการเฉพาะ“ลูกรัก แม่คิดถึงหนูมากเลย!” ฉินอันอันอุ้มรุ่ยลาขึ้นโดยไม่สนใจว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ “ฉินอันอันระวังหน่อย!” ไมค์เตือนเธอ “เธอลืมว่าเป็นช่วงที่ต้องป้องกันการแท้งบุตรไปแล้วเหรอ?” ฉินอันอันวางลูกสาวลงทันที “รุ่ยลา หนูคิดถึงแม่หรือเปล่า?” “คิดถึงค่ะ! หนูคิดถึงแม่มากทุกวันเลย” รุ่ยลาพูดพร้อมกับเม้มปากเล็ก ๆ ของเ
“ถ้าพวกลูกไม่ต้อนรับเขามาที่บ้านก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่จะโทรหาเขา ไม่ให้เขามาแล้วก็ได้จ้ะ” ฉินอันอันแก้คำพูดอย่างรวดเร็วเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของพวกเด็ก ๆ แล้วดูเหมือนจะไม่ต้อนรับให้เขามา “เขาอยากมาทำงานบ้านที่บ้านของเราเหรอคะ?” ทันใดนั้นรุ่ยลาก็รู้สึกตัวแล้วร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า”งั้นให้เขามาเลยค่ะ! ให้เขาทำงานบ้านเยอะ ๆ จนเหนื่อยตายไปเลย!” ฉินอันอันรู้ว่าลูกสาวปากไม่ตรงกับใจ ครั้งก่อนที่ฟู่สือถิงเป็นลมล้มลงตรงหน้าบ้าน รุ่ยลาร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “พวกลูกอยากกินอะไรหรือเปล่า? คิดแล้วมาบอกแม่นะ แม่จะให้เขาทำให้พรุ่งนี้” ฉินอันอันพูดอย่างอ่อนโยน รุ่ยลาเป็นเด็กกินเก่ง เธอเริ่มคิดทันทีว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรดีเสี่ยวหานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “แม่ครับ แม่จะกลับไปคบกับเขาอีกเหรอครับ?” “ไม่จ้ะ” ฉินอันอันอธิบายอย่างอดทน “เขาอยากชดเชยความผิดพลาดในอดีต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับแม่ว่าเขารู้สึกผิด” ก่อนหน้านี้พวกเขาทะเลาะกันนับครั้งไม่ถ้วน เธอเคยหวาดกลัว แต่ไม่เคยยอมถอย เพราะว่าผิดก็คือผิด ไม่ว่าเธอจะรักเขามากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบความผิดที่เขาทำไปได้! หลังจากได้ยินคำพูดของ
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอความเป็นพ่อลูกกับเสี่ยวหาน แต่รูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเสี่ยวหานนั้นคล้ายคลึงกับเขามาก ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ว่าเสี่ยวหานเป็นลูกชายของเขาอย่างแน่นอน และฉินอันอันเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ารุ่ยลาคือลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ ผู้หญิงคนหนึ่งจะให้กำเนิดเด็กที่โตพอ ๆ กันพร้อมกันสองคนได้ยังไง? มีความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเด็กสองคนนี้เกิดจากครรภ์เดียวกันเมื่อคืนเขาคิดมาถึงตรงนี้ก็ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ เพราะว่า… เขาชอบรุ่ยลามาก ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้พบหน้าลูกทั้งสองคนของฉินอันอัน เขาก็ยิ่งชอบรุ่ยลามากขึ้น ไม่ว่ารุ่ยลาจะเกิดจากฉินอันอันกับใครก็ตาม เขาก็ไม่เคยเกลียดรุ่ยลาเลย อาจเป็นเพราะรุ่ยลาหน้าตาคล้ายกับฉินอันอันมาก อีกทั้งรุ่ยลายังมีบุคลิกที่น่าสนใจมาก ถึงแม้ว่าเธอจะดูน่ารัก แต่จากนิสัยของเธอนับว่าไม่ใช่คนหัวอ่อนเลย เธอเป็นคนแปลกและซุกซนเล็กน้อย เขาขาดรสชาติแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชอบมาก “แฝดคืออะไรเหรอคะ?” รุ่ยลากระพริบดวงตาโตที่ไร้เดียงสาและอยากรู้อยากเห็นของเธอ ขนตากระพรือ “แม่ของหนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหนูเลย! หมายความว่ายังไงเ