ฉินกรุ๊ป หลังจากที่ฉินอันอันจัดการงานเสร็จแล้ว เธอก็อดเปิดโทรศัพท์ไม่ได้ เธอกดไปที่ประวัติการสนทนาระหว่างตัวเองกับฟู่สือถิง และอ่านอยู่หลายรอบ เมื่อคืนเขาคิดยังไงถึงส่งข้อความหาเธอ? เธอไปหาเขาเมื่อวานซืน เขาก็น่าจะรู้ตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ทำไมเขาไม่ติดต่อเธอตั้งแต่คืนนั้น? เธอกดเปิดเรื่องอื้อฉาวระหว่างตัวเธอกับจิ้นซือเหนียนในโซเชี่ยวอีกครั้ง เธออดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อคืนฟู่สือถิงเห็นข่าวของเธอกับจิ้นซือเหนียนหรือยัง เขาจึงส่งข้อความถึงเธอ? ตอนนี้เขาคิดอย่างไรกับเธอ? ถ้าเขาเกลียดเธอมาก ต่อให้เขาจะเห็นข่าวของเธอ เขาก็คงจะไม่ติดต่อเธอมา เมื่อคืน เขาติดต่อเธอมา และไม่พูดถึงเรื่องเก่าในอดีตด้วย เขาเปลี่ยนใจแล้วเหรอ? เป็นไปไม่ได้! การบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้ สามารถเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างง่ายดายแบบนี้ได้ยังไง? เธอขมวดคิ้วและสับสน ถ้าเมื่อคืนเขาไม่ได้ส่งข้อความถึงเธอ วันนี้เธอคงไม่นึกถึงเขาบ่อยขนาดนี้ โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาและรับสาย “ฉินอันอัน! ฉันอยู่ข้างล่างบริษัทเธอ! เธอรีบลงมาเร็ว ๆ! ไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันเถอะ!” เสียงร่าเริงของหลีเสี่
ฉินอันอันร้อนตัว “จริงเหรอ? เธอคิดไปเองหรือเปล่า?” หลังจากที่เธอกินจนจุใจ เธอก็เปิดโทรศัพท์และส่งข้อความถามจิ้นซือเหนียนว่าวันที่หนึ่ง เดือนพฤษภาคมเขาว่างหรือไม่ เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธออธิบายเรื่องนี้ เขาก็ตอบตกลงทันที “เสี่ยวเถียน ซือเหนียนบอกว่าเขาจะมางานแต่งงานของเธอในวันที่หนึ่งพฤษภาคม” หลังจากที่เธอพูดจบก็มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นทันที! เสี่ยวเถียน ลิซ่า และเสี่ยวอ้ายตื่นเต้นมาก หลังจากนั้นไม่นาน หลีเสี่ยวเถียนก็บอกข่าวนี้กับเฮ่อจุ่นจือ และเฮ่อจุ่นจือหันกลับมาและบอกข่าวเซิ่งเป่ย “ภรรยาของผมบอกว่าฉินอันอันเป็นคนเชิญเขามา” เฮ่อจุ่นจือพูดด้วยความโกรธ “จู่ ๆ ผมก็ไม่อยากแต่งงานแล้ว ภรรยาของผมเป็นแฟนคลับของจิ้นซือเหนียน… แฟนคลับแบบบ้าคลั่ง! และยังมีลูกพี่ลูกน้องของเธออีก… พูดได้เลยว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นแฟนคลับของจิ้นซือเหนียนเกือบทุกคน ถึงตอนนั้นใครล่ะจะสนใจผม? คงจะไปมองจิ้นซือเหนียนกันหมด! เจ้าบ่าวอย่างผมคงถูกแย่งซีน นี่ไม่เหมือนงานแต่งงานที่ผมจินตนาการไว้เลย!” เฮ่อจุ่นจือรู้สึกอึดอัดมาก แต่เขาไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับหลีเสี่ยวเถียน เซิ่งเป่ยเห็นใจเขา แต่ก็รู้ส
แน่นอนว่าฉินอันอันไม่ตอบคำถามนี้ เธอไม่สามารถแสดงอาการปฏิเสธได้มากนัก เธอจึงพูดอย่างสุภาพ “พวกคุณอย่าหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเขาขึ้นมาเลยค่ะ ฉันเกรงว่านิตยสารของคุณจะไม่สามารถเผยแพร่ได้อย่างราบรื่น” คำตอบของเธอทำให้ทีมงานนิตยสารขี้ซุบซิบรู้สึกตัว “ค่ะคุณฉิน คุณเรียนแพทย์มา ทำไมคุณถึงคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจหลังจากสำเร็จการศึกษาคะ? อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกเข้าสู่ด้านทำธุรกิจคะ?” คำถามนี้ทำให้ฉินอันอันขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าตอบแบบจริงจังเล่าทั้งวันทั้งคืนคงไม่จบ เธอวางแผนที่จะทำให้มันเรียบง่าย ขณะที่เธอกำลังจะพูด ความรู้สึกคลื่นไส้แบบควบคุมไม่ได้ก็เข้ามาครอบงำเธอ เธอใช้มือข้างหนึ่งปิดปากแล้ววิ่งไปห้องน้ำด้านนอกอย่างรวดเร็ว “คุณฉิน! คุณเป็นอะไรไปคะ?” พนักงานสองคนรีบไล่ตามเธอไป มันเกิดขึ้นกะทันหันจนไม่มีเวลาโต้ตอบ หลังจากฉินอันอันวิ่งเข้าไปห้องน้ำ เธอก็อาเจียนออกมาทันที! เธออาเจียนเอาทุกอย่างที่กินไปเมื่อตอนเที่ยงออกมา เนื่องจากเธอรู้สึกอึดอัดมาก ดวงตาของเธอจึงชื้นขึ้น หลังจากที่อาเจียน ความรู้สึกอึดอัดก็หายไปทันที เธอกดปุ่มชักโครกและจับผนังเพื่อทรงตัว
ฉินอันอันถือโทรศัพท์ให้ไกลออกไปเล็กน้อย เพราะเธอแสบแก้วหู “ฉินอันอัน! เธออย่ามาแกล้งตาย! รีบบอกมาเร็ว ๆ! เธอท้องกับใคร?! ห๊ะ! ฉันจะบ้าตายแล้ว! ตอนนี้เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหา! ฉันจะไปคุยต่อหน้าให้รู้เรื่อง!” ปฏิกิริยาของหลีเสี่ยวเถียนทำให้ฉินอันอันอดหัวเราะไม่ได้ “ตอนนี้ฉันอยู่บ้าน เธอไม่ต้องมาหาฉันหรอก คุยโทรศัพท์กับเธอเสร็จ ฉันจะไปพักผ่อนแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ “ฉันจะท้องกับใครได้อีกล่ะ… ฉันบอกเรื่องนี้เธอ เป็นเพราะอาการตั้งครรภ์ระยะแรกของฉันเริ่มหนักขึ้น ไม่ต้องพูดถึงดื่มแอลกอฮอล์เลย แค่กินข้าวก็แย่แล้ว… วันงานแต่งงานของเธอ ถ้ามีใครพยายามชวนให้ฉันดื่ม ฉันต้องรบกวนให้เธอช่วยกันพวกเขาออกไปด้วยนะ” ก่อนหน้านี้พวกเธอนัดกับไว้ดิบดีว่าจะไปปาร์ตี้สละโสดด้วยกันในคืนก่อนงานแต่งหลีเสี่ยวเถียน เมื่อคนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกัน แน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ การพูดคุยกับหลีเสี่ยวถียนก่อน สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้มากมาย “เธอท้องอยู่ เธอดื่มไม่ได้อยู่แล้ว! ฉันไม่ให้เธอดื่มหรอก” หลีเสี่ยวเถียนพูดและคาดเดา “เธอท้องกับฟู่สือถิงอีกแล้วใช่ไหม? โอ้พระเจ้า พวกเธอสองคนกำลังทำอะไร
คำตอบของเขาทำให้เซิ่งเป่ยประหลาดใจ “นายทำใจได้แล้วเหรอ?” เซิ่งเป่ยแซว “นายควรทำใจได้ตั้งนานแล้ว นายรู้ไหมว่าเธอพูดอะไรกับจื่ออี้? เธอบอกว่าเสื้อกันหนาวสีขาวตัวนั้นที่นายคืนให้เธอ เธออยากใส่ตอนไหนก็ได้ เธอพูดไม่มีผิด แต่เธอบอกว่ามาที่นี่เธออาจจะใส่เสื้อกันหนาวตัวนั้นไปออกเดทในอนาคต” นิ้วของฟู่สือถิงที่จับตะเกียบเปลี่ยนเป็นสีขาว “นายคิดว่าฉันจะสนใจเหรอ?” เซิ่งเป่ย “ฉันอยากให้นายลืมเธอเสีย” “แล้วนายพูดเรื่องเธอให้ฉันฟังทำไม?” สายตาเย็นชาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าของเซิ่งเป่ย “ไม่ต้องพูดเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเธออีก ฉันไม่สนใจ” “งั้นก็ดีแล้ว! ตอนแรกฉันก็กังวลว่าแผลเป็นของนายจะยังเจ็บอยู่” เซิ่งเป่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เสียดายที่นายดื่มไม่ได้ งั้นฉันดื่มคนเดียวก็แล้วกัน” เขาเดินไปที่บาร์เล็ก ๆ และหยิบไวน์แดงมาหนึ่งขวด ฟู่สือถิงทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็ว พลันวางชามและตะเกียบลงแล้วออกจากห้องรับประทานอาหารทันที เซิงเป่ยถือแก้วไวน์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ “อ้าว! ทำไมไม่อยู่คุยกับฉันซักพักก่อนล่ะ?! กินคนเดียว น่าเบื่อจะตาย!” ฟู่สือถิงเดินไปที่ห้องของอิ๋นอิ๋น เมื่อคืนเขาไม่ได้นอน วันนี
หลังจากเชื่อมต่อสายแล้ว เขาก็อธิบายสถานการณ์ของอิ๋นอิ๋นสั้น ๆ แล้วถามว่า “เธอไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแล้วใช่ไหม เธอสามารถฟื้นตัวได้ด้วยตัวเองใช่ไหม?” ปลายสาย หมอประจำตระกูลไม่กล้าสรุป “นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ยากที่จะบอกว่าในอนาคตจะสามารถฟื้นตัวได้หรือไม่ แต่ที่แน่นอนก็คือ หากยังดำเนินการผ่าตัดต่อไปจะทำให้ร่างกายของเธอได้รับความเสียหาย” ฟู่สือถิงก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน นอกจากการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะอิ๋นอิ๋นทั้งสองครั้งที่เสิ่นอวี๋เป็นคนผ่าแล้ว เขายังพาอิ๋นอิ๋นไปพบแพทย์ชื่อดังคนอื่น ๆ ก่อนหน้านั้นด้วย และยังได้รับการผ่าตัดหลายครั้งอย่างละเอียด ตอนนี้เขาสับสนมาก “คุณฟู่ คุณได้ถามความเห็นจากหมอเสิ่นแล้วหรือยัง?” หมอประจำตระกูลถาม “ยังครับ” “งั้นเหรอ... หากคุณไม่อยากให้หมอเสิ่นมารักษาคุณอิ๋นอิ๋นต่อ คุณก็ลองให้ฉินอันอันรักษาดู ผมเห็นอาการของจิ้นซือเหนียนหลังจากที่เขากลับมานับว่าดีมาก ๆ… นอกจากที่ตอนนี้เขาไม่สามารถเต้นได้เหมือนเมื่อก่อน เขาสามารถร้องเพลงได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ หมายความว่าร่างกายของเขาเกือบจะฟื้นตัวขึ้นเต็มที่แล้ว มหัศจรรย์มาก” หมอประจำตระกูลถอนหายใจ หมอประจำตระกู
หลีเสี่ยวเถียนช่วยพยุงฉินอันอันเข้าไปในรถ ไมค์ตามหลังและถามหลีเสี่ยวเถียน “เสี่ยวเถียน คุณช่วยโน้มน้าวเธอหน่อยนะ! ช่วงนี้เธอลดน้ำหนัก ไม่ค่อยกินอะไรเลย! เธอทำไม่ถูกต้อง! เธอไม่ได้คิดถึงปัญหาร้ายแรงที่จะตามมา! คุณเห็นไหมว่าเธอผอมขนาดไหน? เมื่อก่อนเธอเคยออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านบ่อย ๆ แต่ตอนนี้เธอไม่ค่อยเคลื่อนไหวแล้ว...” หลีเสี่ยวเถียนตบไหล่ไมค์ “ฉันจะช่วยพูดกับเธอให้นะ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ช่วงนี้เธอต้องการลดน้ำหนัก แต่ผ่านไประยะหนึ่งเธออาจจะไม่อยากลดแล้วก็ได้” “อ้าว...วันนี้พวกคุณจะไปเที่ยว แล้วทำไมไม่ชวนผมด้วยล่ะ?” ไมค์รู้สึกหงุดหงิด หลีเสี่ยวเถียน “คุณต้องดูแลเด็ก ๆ!” ไมค์พูดไม่ออก หลังจากที่หลีเสี่ยวเถียนขึ้นรถ เธอก็โบกมือให้ไมค์ ทันทีที่ประตูรถปิด รถก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ฉินอันอันนอนอยู่ที่เบาะหลังแล้วถามหลีเสี่ยวเถียน “เธอได้ชวนโจวจื่ออี้ไปด้วยไหม?” หลีเสี่ยวเถียน “ทำไมต้องชวนเขาด้วยล่ะ? เขาเป็นผู้ช่วยของฟู่สือถิง… คนที่เกี่ยวข้องกับฟู่สือถิงไม่ได้รับเชิญเลยสักคน รวมทั้งเซิ่งเป่ย รุ่นพี่ของสามีฉันด้วย...” ฉินอันอันกลั้นขำไว้ไม่อยู่ “ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอหรอกนะ…
จู่ ๆ ก็เริ่มสนใจฉินอันอันในปัจจุบันเล็กน้อย หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ส่งข้อความถึงเฮ่อจุ่นจือ : แอบถ่ายรูปด้านหน้าของเธอมาให้ฉันหน่อย เฮ่อจุ่นจือ : พี่คงไม่ได้จะส่งให้พี่สือถิงใช่ไหม? เซิ่งเป่ย : เร็ว ๆ สิ! เครื่องทำความร้อนเปิดอยู่ในวิลล่า อุณหภูมิอยู่ในระดับสูง หลีเสี่ยวเถียนกับฉินอันอันถอดเสื้อคลุมแล้วนั่งบนโซฟา หลีเสี่ยวเถียนเตรียมผลไม้ไว้มากมาย เธอวางผลไม้ทั้งหมดไว้ตรงหน้าฉินอันอัน ฉินอันอันหยิบลูกพีชขึ้นมาแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “ยังไม่ถึงฤดูกาลลูกพีชไม่ใช่เหรอ?” หลีเสี่ยวเถียน “แค่มีเงิน ก็ซื้อกินได้ทั้งปีนั่นแหละ เธอลองชิมดูสิ!” ฉินอันอันยิ้มและพยักหน้า เฮ่อจุ่นจือถือโอกาสแอบถ่ายรูปตอนที่เธอกำลังกินลูกพีช กล้องจับภาพได้พอดี! ไม่ว่าจะองค์ประกอบภาพ แสง หรือภาพรวมก็ล้วนสมบูรณ์แบบ ถ่ายออกมาฉินอันอันทั้งน่ารัก เซ็กซี่และขี้เล่น เฮ่อจุ่นจือส่งรูปถ่ายไปให้เซิ่งเป่ย หลังจากเห็นภาพนี้เซิ่งเป่ยก็ประหลาดใจทันที : นี่แขนจริงเหรอ? ฉินอันอันถอดเสื้อคลุมออก กระโปรงลายดอกไม้ด้านในเป็นสไตล์เอี๊ยม จึงเผยให้เห็นแขนเรียวขาวทั้งสองข้าง เฮ่อจุ่นจือตอบกลับ