ตอนที่เซิ่งเป่ยเข้ามา เขาจงใจไม่เคาะประตู เขาผลักประตูห้องทำงาน เมื่อฟู่สือถิงได้ยินเสียงเขาก็วางโทรศัพท์ลงทันที “อะแฮ่ม! สือถิง เมื่อกี้ฉันส่งผิด ไปส่งรูปฉินอันอันให้นายโดยไม่ได้ตั้งใจ…” เซิ่งเป่ยตีหน้าซื่อ ฟู่สือถิงเงยหน้าขึ้นมองเขา “ถึงนายบอกว่าตั้งใจ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก” เซิ่งเป่ยหัวเราะแห้ง “จุ่นจือบอกว่าฉินอันอันผอมลงมาก เหมือนคนป่วยหนัก ฉันไม่เชื่อ เขาจึงส่งรูปถ่ายของเธอมาให้ฉันดู” ฟู่สือถิง “เห็นนายยิ้มมีความสุขแบบนี้ ฉันว่าเธอคงไม่ได้ป่วยหนักหรอก” รอยยิ้มบนใบหน้าของเซิ่งเป่ยแข็งค้าง “เอ่อ...ฉันได้ยินมาว่าเธอลดน้ำหนักโหดมาก การลดน้ำหนักมีตั้งหลายวิธี แต่เธอกลับเลือกที่จะอดอาหาร เธอเรียนแพทย์มาไม่ใช่เหรอ? หรือเธอไม่รู้ว่าการอดอาหารส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ? เธอไม่มีเหตุผลเลย... เหมือนกับตอนที่เธอจะฆ่านาย เรื่องนี้มีผลกระทบต่อฉันอย่างมาก” ความสงบบนใบหน้าของฟู่สือถิงหายไป เขาวางเอกสารในมือลง “นายสนใจเธอมากขนาดนั้น ทำไมไม่ย้ายไปอยู่ฉินกรุ๊ปเสียเลยล่ะ?!” เซิ่งเป่ย “ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย! ฉันจะมาคุยกับนายเรื่องธุรกิจ! บ่ายนี้ฉันต้องเลิกงานเร็วหน่อย เพราะคืนนี้พวกเขา
หลังจากหลับมาทั้งบ่ายแล้ว ตอนนี้เธอค่อนข้างอารมณ์ดี อาการคลื่นไส้ก็หายไปแล้ว “บอกไม่ถูกเหมือนกัน สักพักอาจจะดีขึ้น หรืออาจจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ เธอไม่ต้องกลัว บางคนมีอาการน้อยมาก บางทีเธออาจจะไม่อาเจียนเลยก็ได้” เธอเดินไปที่โซฟาตัวเล็กแล้วนั่งลงมองบะหมี่ร้อน ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย “เสี่ยวเถียน ขอบคุณที่ดูแลฉันนะ ฉันไม่ได้กินบะหมี่เผ็ดเปรี้ยวมานานแล้ว “เธอกินให้น้อย ๆ ก่อนนะ ฉันกลัวว่าเธอจะอาเจียน” หลีเสี่ยวเถียนนั่งบนโซฟาตรงข้ามเธอ “เธอรู้ไหมว่าวันนี้เฮ่อจุนจือทำเรื่องโง่ ๆ อะไรไว้? เพราะเธอไม่ได้กินข้าวตอนเที่ยง เขากลัวเธอจะเป็นลมจึงรีบเรียกรถพยาบาลมา ตอนนี้รถพยาบาลยังจอดอยู่นอกวิลล่าอยู่เลย!” คิ้วของฉินอันอันโค้งงอ ดวงตาของเธอยิ้ม แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกสะเทือนใจด้วย “เสี่ยวเถียน ฉันขอให้เธอกับเฮ่อจุ่นจือรักกันและมีความสุขกันไปตลอดนะ” “ฉันรู้แล้ว! หน้าที่ของเธอตอนนี้คือดูแลตัวเองและลูกในท้องให้ดี ฉันแค่ขอให้เขาน่ารักและฉลาดเหมือนรุ่ยลากับเสี่ยวหาน ฉันอดสวดภาวนาให้เด็กน้อยเกิดมามีสุขภาพแข็งแรงไม่ได้” “อืม” หลังจากฉินอันอันทานอาหารเย็นเสร็จ เธอกับห
ฉินอันอันเห็นว่าสายรัดข้อมือวัดอัตราการเต้นของหัวใจบนข้อมือของเธอลดลงจากหนึ่งร้อยเป็นแปดสิบ ‘เขามาได้ยังไง?’ ‘เสี่ยวเถียนบอกว่าเขากับเพื่อน ๆ ไม่ได้รับเชิญนี่’ ‘แสดงว่าเขามาโดยไม่ได้รับเชิญเหรอ?’ หลีเสี่ยวเถียนเองก็ตกใจเช่นกัน! เธอเอื้อมมือไปบีบแขนของเฮ่อจุ่นจือ “เกิดอะไรขึ้น? เขามาที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อฟู่สือถิงมาถึง บรรยากาศในวิลล่าก็ตึงเครียดทันที! หลีเสี่ยวเถียนไม่ต้อนรับเขา แต่ในเมื่อเขามาแล้ว เธอก็ไม่กล้าไล่เขาออกไป เฮ่อจุ่นจือโน้มตัวไปข้างหูของเสี่ยวเถียน “ในเมื่อพี่สือถิงอยู่ที่นี่ ยังไงเราก็ต้องต้อนรับเขา! คุณอย่าเพิ่งโกรธ! ไว้หน้าผมหน่อยสิ!” เฮ่อจุ่นจือพูดจบอย่างรวดเร็วและเดินไปหาฟู่สือถิงทันที เขาทักทายด้วยรอยยิ้ม “พี่สือถิง พี่เป่ย มาแล้วเหรอ! พวกพี่กินข้าวเย็นหรือยัง? ถ้ายัง… ในครัวยังมี...” เซิ่งเป่ยกล่าว “เรายังไม่หิว เมื่อกี้พวกนายกำลังเล่นอะไรกันอยู่เหรอ?! กรีดร้องเสียงดังเชียว!” หลังจากที่เซิ่งเป่ยพูดจบ ดูเหมือนว่าทุกคนจะถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกหดหู่และกังวลน้อยลง “เรากำลังเล่นเกมอย่าท้าทายหัวใจค่ะ! พวกคุณอยากเล่นด้วยกันไ
“ฮ่าฮ่าฮ่า จัดการให้เรียบ! ยังต้องเตรียมอย่างอื่นอีก แล้วถ้าเขาไม่ชอบผู้หญิงงั้นเหรอ? หาหนุ่มหล่อเพิ่มสิ!” “เอาล่ะ ก็ได้! มีหนุ่มหล่อกล้ามโตอีกคนที่ฉันต้องดูในรายการโปรดของฉัน!” “หนุ่มหล่อมีกล้ามอะไรที่ต้องดู? ไหนเอามาให้ฉันดูสิ!” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ขำจนปวดท้องหมดแล้ว! ดีมากจริง ๆ!” ...... ผู้หญิงสองสามคนกำลังหาคลิปด้วยกัน พวกเธอสนุกสนานกันมาก พวกเธอยังเด็กเกินไป! ถึงได้ไม่รู้ว่าฟู่สือถิงเป็นผู้ชายแบบไหน หลังจากได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูด เซิ่งเป่ยหน้านิ่งและแทบจะหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ ต่อให้พวกเธอจะหาวิดีโอที่ติดเรทมา ฟู่สือถิงก็ไม่มีทางแพ้ เฮ่อจุ่นจือเดินไปหาหลีเสี่ยวเถียนกับฉินอันอันและอธิบายเบา ๆ “พี่เป่ยขอที่นั่งจากผม ผมต้องยกให้เขาใช่ไหม? พี่เป่ยเป็นรุ่นพี่ของผม… พี่เป่ยไม่ได้บอกผมว่าพี่สือถิงจะมาด้วย แต่ถึงเขาจะบอก ผมก็ยินดีต้อนรับพวกเขาอยู่แล้ว!” หลีเสี่ยวเถียนจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา “ไหน ๆ เขาก็มากันแล้ว คุณจะมาพูดเพื่ออะไรอีก?” เฮ่อจุ่นจือพูดด้วยรอยยิ้มประจบประแจง “คิดว่าผมไม่กลัวพวกคุณสองคนจะโกรธเหรอ? โดยเฉพาะอันอัน...” ฉินอันอัน “พวกเขาเป็นเพื่อนของคุณ ก็ไม่แปลกที
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาช้า ๆ และเบี่ยงเบนความสนใจ เซิ่งเป่ยเหลือบมองหน้าจอขนาดใหญ่ จากนั้นก็ลดสายตาลงเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจบนข้อมือของฟู่สือถิง ‘สุดยอด!’ อัตราการเต้นหัวใจของเขาไม่เคลื่อนไหวเลย มันมั่นคงราวกับภูเขา! สิ่งนี้ทำให้เซิ่งเป่ยสงสัยว่าสายรัดข้อมือมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หรือว่าเขาได้ชำระล้างสัมผัสทั้งหกของเขาไปแล้ว จึงไม่มีความปรารถนาใด ๆ เฮ่อจุ่นจือจ้องไปที่สายรัดข้อมือบนข้อมือของฟู่สือถิงด้วย “สร้อยรัดข้อมือยังดีอยู่ เมื่อกี้ตอนที่อันอันสวมตัวเลขยังเดินอยู่เลย” เซิ่งเป่ยซุบซิบ “ฉินอันอันเป็นยังไงบ้าง?” เฮ่อจุ่นจือเหลือบมองฉินอันอัน สีหน้าของฉินอันอันไม่มีการแสดงออก แต่หลีเสี่ยวเถียนกลับจ้องเขาด้วยสายตาดุเดือด เฮ่อจุ่นจือมองไปทางอื่นแล้วตอบ “เธอชนะ ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป สายรัดข้อมือนี้จะแจ้งเตือน แต่ตอนที่เธอเล่นเกม ผมไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนจากสายรัดข้อมือเลย” เซิ่งเป่ยตอบสนอง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางฉินอันอันที่อยู่ข้างหลังเขา ฉินอันอันก้มศีรษะเล่นกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังหลบหน้า หลังจากคลิปแรกจบลง คลิ
ฟู่สือถิงมองไปที่ผู้หญิงข้าง ๆ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ตอนที่เขาเพิ่งเข้าไปในวิลล่าเมื่อสักครู่ เขามองเห็นเธอจากระยะไกล ตอนนั้นเธอกำลังยิ้ม แต่ทันทีที่เธอเห็นเขา รอยยิ้มก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเขามาถึงโซฟา เธอก็แอบถอยกลับไปอยู่มุมหนึ่งที่เขามองไม่เห็น ตอนนี้เธอนั่งข้าง ๆ เขา เขามองเห็นใบหน้าเล็ก ๆ และดวงตาที่สับสนของเธอได้อย่างชัดเจน... เธอผอมลงมาก! แม้แต่พลังงานในร่างกายของเธอก็สูญเสียไปด้วย บุคลิกของเธอกลายเป็นเปราะบางและอ่อนแอ ราวกับว่าเขาสามารถบดขยี้เธอได้ด้วยมือข้างเดียว หลังจากที่เธอกับเขามองหน้ากันชั่วครู่ เธอก็เตรียมตัวที่จะลุกขึ้นและเดินจากไป ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับข้อมือเธอไว้แน่นไม่ปล่อยเธอไป ทุกคนในเหตุการณ์ต่างตั้งหน้าตั้งตาดูฉากตรงหน้าด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น จริง ๆ แล้ว เรื่องที่พวกเขาทั้งสองเคยรักกัน เฮ่อจุ่นจือและเพื่อนของหลีเสี่ยวเถียนก็เคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้เห็นพวกเขาทั้งสองทะเลาะกันแบบนี้กับตา... ไฟแห่งการนินทาในใจก็ลุกโชน! อาจเป็นเพราะกระแสจิตของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป ทิศทางที่จะไปต่อตามที่พวกเขาต้องการ จึงไปในทิศทิงที่ควบคุมไม่ได้ เสียง ‘ติ
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครบังคับให้เขาดื่ม หลังจากที่เขาดื่มไวน์หมดไปหนึ่งขวด เซิ่งเป่ยก็มองเขา “แผลของนายหายดีแล้วเหรอ? หมอบอกให้นายงดดื่มแอลกอฮอล์สามเดือนไม่ใช่รึไง? นี่ยังไม่ถึงสามเดือนเลยนี่?” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฮ่อจุ่นจือก็เดินเข้ามาพร้อมเหยือกน้ำผลไม้ทันที “พี่สือถิง ดื่มน้ำผลไม้หน่อยสิ!” เฮ่อจุ่นจือย้ายขวดไวน์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเขา “ในครัว มีอาหารเย็น พวกพี่ไปกินไหม?” เซิ่งเป่ยดื่มไวน์จนหมดขวด จากนั้นก็จูงฟู่สือถิงไปที่ห้องครัว หลังจากที่ทั้งสองไปที่ห้องครัว บรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง เซิ่งเป่ยรินน้ำผลไม้ให้ฟู่สือถิงหนึ่งแก้ว “ถ้าฉันรู้ว่ามันจะน่าอายขนาดนี้ ฉันคงไม่ชวนนายมาที่นี่หรอก” เซิ่งเป่ยพูดพลางยิ้มเจื่อน ๆ “หรือจะให้ฉันส่งนายกลับดี!” เฮ่อจุ่นจือยืนอยู่ข้างพวกเขาแล้วพูดว่า “พี่สองคนเมาแล้วขับรถไม่ได้ วันนี้ผมจ้างรถพยาบาลมาด้วย หรือจะให้รถพยาบาลไปส่งพวกพี่ดี?” เซิ่งเป่ยเงียบ ฟู่สือถิงตกตะลึง“เอ่อ... ถ้าไม่อยากกลับนอนที่นี่ก็ได้ครับ ผมจองวิลล่าไว้แปดหลัง ห้องพักก็น่าจะพอ” เฮ่อจุ่นจือเปลี่ยนใจทันทีเมื่อเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของพวกเ
“ฉันจะไปหาฉินอันอัน”เฮ่อจุ่นจือตะลึงไป “!!!”น่ากลัว!น่ากลัวจริง ๆ!แม้เฮ่อจุ่นจือจะไม่ได้เห็นด้วยตาในตอนที่พวกเขาสองคนทำร้ายกัน แต่เฮ่อจุ่นจือก็ยังคงตัวสั่นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลังจากที่เขาอยู่ในแผนฉุกเฉินเป็นเวลานาน‘ตอนนี้เขาดันอยากไปหาฉินอันอันอีก… คงเป็นเพราะความขัดแย้งครั้งก่อนยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยอยากมีภาคต่องั้นเหรอ?’เฮ่อจุ่นจือกลัวมาก!เขาไม่สามารถปรามฟู่สือถิงได้ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปหาเซิ่งเป่ยและหลีเสี่ยวเถียนเซิ่งเป่ยวิเคราะห์อย่างใจเย็น “เขาดื่มเบียร์ไปแค่ขวดเดียว ไม่น่าจะเมาจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้เลย”หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างวิตกกังวล “แต่อันอันไม่อยากเจอเขา! อันอันเป็นคนบอกฉันเอง! ไม่ได้ ฉันต้องไปห้ามเขา!”หลังจากที่หลีเสี่ยวเถียนพูดจบ เธอก็คิดจะขึ้นไปหยุดฟู่สือถิงที่ชั้นบนเซิ่งเป่ยและเฮ่อจุ่นจือคว้าแขนของเธอไว้คนละข้าง“เสี่ยวเถียน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ฉันจะขึ้นไปดูเอง” เซิ่งเป่ยกลัวว่าถ้าหลีเสี่ยวเถียนขึ้นไป ทุกคนในวิลล่าจะรู้ถึงเหตุการณ์นี้กันหมดฟู่สือถิงเสียหน้าไปแล้วครั้งหนึ่ง เซิ่งเป่ยจึงอยากจะช่วยกู้หน้าเขาเอาไว้“ให้พี่เป่ยไปเถอะ!” เ