อุณหภูมิในร่างกายเธอสูงขึ้นเรื่อย ๆ และผิวภายนอกเองก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย! เหมือนกับเธอกำลังถูกเผาจนตาย!ไม่ว่าเขาจะเรียกชื่อเธออย่างไร เธอก็ไม่ตอบสนอง! หัวใจของเขาบีบรัดแน่น! “หมอ!” เขาก้าวเท้าพุ่งออกจากห้องไปตามหมอ คุณหมอรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว หลังจากเห็นสถานการณ์ภายในห้องแล้วก็รีบกล่าวว่า “ประธานฟู่ ตอนนี้ต้องรีบทำให้ไข้ของเธอลดลงก่อน ให้ผมจะฉีดยาอีกครั้งหรือว่าจะให้ทานยาลดไข้ คุณคิดว่า…” “เธอหมดสติไปแล้ว จะกินยายังไง? ให้ผมใช้ปากป้อนเธอเหรอ?!” ศีรษะคุณหมอมีเหงื่อออก “ถ้าอย่างนั้นฉันจะฉีดยาให้เธอใหม่” เนื่องจากยาเพิ่งถูกเททิ้งไปครึ่งขวด หลังจากที่คุณหมอฉีดยาให้เธอแล้ว ได้เติมยาเข้าไปใหม่ ฟู่สือถิงยืนอยู่ข้างเตียง ก้มหน้ามองร่างที่ไม่ได้สติของเธอ เขาเพียงแค่ต้องการคำตอบจากเธอเท่านั้นเอง! ทำไมเธอถึงยอมตาย แต่ไม่ยอมบอกเขา? เมื่อคิดถึงตรงนี้เขารู้สึกหัวใจสลายจนอยากบีบคอเธอให้ตาย! ผู้หญิงคนนี้นอกจากทำให้เขาเจ็บปวดแล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก? สตาร์ ริเวอร์ วิลล่า ดวงตารุ่ยลาแดงก่ำจากการร้องไห้ และเอาแต่พึมพำว่าฟู่สือถิงเป็นคนเลว อิ๋นอิ๋นเหมือนเด็กที่ทำผิดอะไรบางอย
เพราะการต่อต้านเงียบ ๆ ของเธอ สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนเป็นมืดมนอย่างที่สุด! เขาจะง้างปากเล็ก ๆ ของเธอแล้วป้อนโจ๊กเข้าไปทีละช้อนก็ยังได้ แต่เขาจะไม่ทำแบบนั้น! ในเมื่อเธออยากอดอาหาร ถ้าอย่างนั้นเขาจะปล่อยให้เธออดอาหารจนตาย! เขาถอนสายตาโกรธเกรี้ยวกลับมา แล้วก้าวยาว ๆ ออกจากห้องไป!เมื่อเขาไปแล้ว ร่างเกร็งแน่นของเธอผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทันใดนั้นมีเสียงแตรรถดังมาจากหน้าต่าง เธอเงี่ยหู ตั้งใจฟังเสียงภายนอก รถคันแล้วคันเล่าขับมาจอดที่ลานหน้าบ้าน สักพัก มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คนดังมาจากชั้นล่าง ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมีคนมาเยอะขนาดนี้? ที่ห่างไกลเช่นนี้ คนเหล่านี้มาทำอะไร? ฟู่สือถิงบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งในรีสอร์ทของเขา ดังนั้น คนเหล่านี้ได้รับเชิญจากเขางั้นเหรอ? แม่ของเขาตาย เขาไม่ไว้ทุกข์ แต่มายังป่าลึกในหุบเขา แล้วยังเชิญคนมามากมาย…เพื่อจัดปาร์ตี้! ขณะที่เธอคิดจะลุกจากเตียงและเดินไปดูที่หน้าต่างให้แน่ชัด ประตูก็เปิดออก คุณหมอถือกล่องยาเข้ามา “คุณฉิน ได้ยินว่าคุณไม่ยอมทานอะไรเลย ประธานฟู่บอกให้ผมมาให้สารอาหารทางสายน้ำเกลือกับคุณ” คุณหมอพูดแล้วถอนหายใจ “ทำไมคุณไม่ทานข้
บอดี้การ์ดเห็นเธอเดินลงมาจึงไปรายงานกับฟู่สือถิงทันที ฟู่สือถิงลุกจากโซฟาแล้วมองไปทางบันไดฉินอันอันสวมชุดนอนของเขา ขากางเกงแตะพื้นพอดีและแขนเสื้อยาวนิดหน่อย ชุดนอนตัวใหญ่โคร่งของเขาห่อร่างผอมเพรียวของเธอไว้ ทำให้เธอดูเหมือนเด็กน้อยที่แอบขโมยชุดผู้ใหญ่มาสวม คิ้วเข้มของเขาขมวด ‘ตอนนี้เธอควรจะรับอาหารทางสายน้ำเกลืออยู่ไม่ใช่เหรอ?’ ‘เธอลงมาทำไม?’ “สือถิง นายซ่อนผู้หญิงไว้ที่นี่นี่เอง!” มีคนเห็นฉินอันอันจึงพูดแซว พร้อมกับหัวเราะ “เขาเป็นผู้ชาย ถ้าไม่มีผู้หญิงมาหาสิถึงจะแปลก! ฮ่า ๆ!” “ผู้หญิงคนนี้คือคุณหนูบ้านไหนล่ะเนี่ย? หรือว่าแค่มาเที่ยวเล่นเท่านั้น?” ฟู่สือถิงหูดับต่อคำถามของทุกคนไปแล้วเพราะว่าฉินอันอันเดินเข้ามาหาพวกเขา ‘เธออยากตายรึไง?’ ‘ทำไมถึงอยากลงเจอเพื่อนของเขา?’ ‘เธอคิดจะทำอะไร?!’ เขาเดินไปขวางตรงหน้าเธอ ดวงตามืดครึ้มของเขามองลงมาที่เธอ “ดึงเข็มน้ำเกลือออกอีกแล้วเหรอ?!” เธอยื่นมือออกมาผลักหน้าอกเขา “คุณจัดงานเลี้ยงเชิญเพื่อนมาที่นี่ แล้วฉันมาชมความสนุกด้วยไม่ได้หรือไง?” ‘ชมความสนุก?!’ ‘เหอะ ๆ!’ ‘ในเมื่อเธออยากร่วมชมความสนุก ถ้าอย่างนั้นก็ให้เ
เขาคิดมาโดยตลอดว่าเธอไปเข้าห้องน้ำและกลับมาพักที่ห้องแล้ว ดังนั้นเขาจึงดื่มเหล้าจนถึงตอนนี้แล้วถึงขึ้นมาชั้นบน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจเขา! ‘เธอหนี…ไปแล้วงั้นเหรอ?!’‘ที่นี่เป็นป่าทึบรัศมีกว่าร้อยกิโลเมตร! ‘‘เธอจะลากร่างกายที่อ่อนแอนี้ออกจากป่าทึบแบบนี้ไปได้ยังไง?!’เขากำหมัดแน่น ก้าวเท้าหันหลังกลับและเตรียมลงไปชั้นล่าง “ประธานฟู่! ผมจะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าเธอหนีไปตอนไหนเดี๋ยวนี้ครับ!!” หลังจากที่บอดี้การ์ดรู้ตัวแล้วว่าฉินอันอันหายตัวไป เขาก็พูดขึ้นทันที “ตอนกลางคืนมืดมาก ข้างนอกไม่มีไฟถนน เธอหนีไปได้ไม่ไกลแน่นอนครับ!” “ไอ้พวกไร้ประโยชน์! แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เฝ้าไว้ไม่ได้!” ฟู่สือถิงกัดฟันกรอดและตำหนิอย่างรุนแรง! “ขอโทษครับ! ผมจะรีบส่งคนไปค้นหาเดี๋ยวนี้! รับรองว่าจะพาตัวเธอกลับมาตอนรุ่งสาง!” บอดี้การ์ดรับประกันด้วยสีหน้าหวาดกลัว ฟู่สือถิงหายเมาเป็นปลิดทิ้ง! ตอนนี้เขามีสติเต็มที่ ถึงขั้นมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างแรงอีกด้วย! “เธอน่าจะออกไปก่อนเที่ยงคืน! เพราะก่อนเที่ยงคืนฉันไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาเธอก็ไม่อยู่แล้ว เธอจะต้องหนีไปตอนนั้นแน่!” เขาเอ่ยอย่
มีเพียงป่ารกชัฎสุดลูกหูลูกตา ในป่าแห่งนี้มีสัตว์ร้ายจำนวนมาก ถึงแม้จะอยู่ในป่านี้ตอนกลางวันก็อาจถูกโจมตีได้ ไม่ต้องพูดถึงยามค่ำคืนเลยภายใต้การคุ้มครองของบอดี้การ์ด ฟู่สือถิงก้าวเข้าไปในป่าแห่งนี้ ซ่อนความกลัวที่ก่อตัวขึ้นเอาไว้ เขาถือไฟฉายแล้วส่องแสงไฟเข้าไปในป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์และกิ่งก้านของต้นไม้ ความสิ้นหวังในใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ! ‘เธอกล้าได้ยังไง?!’ ‘เธอกล้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?’ ‘เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าจะออกจากที่นี่แบบมีชีวิตได้?’ ‘ถ้ารู้แล้วว่านี่คือทางตัน ทำไมถึงไม่ยอมหันหลังกลับ?’ ถึงแม้เมื่อเธอหนีไปครึ่งทางแล้วหันหลังกลับเพราะความกลัว เขาก็จะไม่โกรธขนาดนี้ “ฉินอันอัน!” ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงอย่างสั่นเทา ขณะที่ตะโกนชื่อเธอ! หลังจากที่เขาร้องตะโกนออกมาสุดเสียง บอดี้การ์ดก็ตะโกนขึ้นมาว่า “คุณฉิน! พวกเรามาตามหาคุณ! ถ้าคุณได้ยินเสียงพวกเรา ช่วยตอบกลับด้วย!” คำตอบเดียวที่พวกเขาได้รับ มีเพียงเสียงลมพัดหวีดหวิวและเสียงดังกรอบแกรบจากสัตว์ป่าเพียงเท่านั้นหลังจากเดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบากประมาณยี่สิบนาที ลำแสงของไฟฉายจับไปที่ชุดนอนที่อยู่บนพื้น!
ตอนที่กลับมาถึงวิลล่า ร่างกายพวกเขาปียกโชกไปหมด ตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่า เหลือคนไม่กี่คนที่ดื่มอยู่ในห้องโถง พูดว่าดื่ม ที่จริงแล้วคือกำลังรอให้ฟู่สือถิงกลับมา หลังจากมองเห็นเขากลับมาพร้อมกับอุ้มฉินอันอันเอาไว้ ทุกคนต่างพากันลุกขึ้นจากโซฟา เดิมควรมีใครพูดอะไรเพื่อลดความอึดอัดใจ แต่กลับไม่มีคนพูดอะไรเลย ฟู่สือถิงสวมเพียงเสื้อยืดบาง ๆ เท่านั้น เมื่อเปียกฝนจนชุ่ม เสื้อยืดจึงแนบติดผิวหนังของเขา น้ำฝนตกลงมาตามปลายผมดวงตาสีอำพันลึกล้ำของเขาส่องประกายด้วยแสงอันน่าสะพรึงกลัวและสิ้นหวัง หญิงสาวในอ้อมแขนบนตัวถูกห่อด้วยชุดนอนของเขา เห็นเพียงใบหน้าที่อยู่เผยออกมายังภายนอกเท่านั้น ใบหน้าของเธอไร้สีเลือด ดวงตาปิดสนิท ราวกับจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกตลอดกาล ฉากนี้ช่างน่าเศร้าและอ้างว้างเกินกว่าจะบรรยาย!เขากอดฉินอันอันไว้ แล้วก้าวเท้าขึ้นชั้นบน หายไปจากสายตาทุกคน ......หลังจากผลการชันสูตรศพแม่เฒ่าฟู่ออกมา ฟู่ฮั่นก็ถ่ายรูปผลการรายงานและส่งให้ฟู่สือถิงทันที แม่เฒ่าฟู่ไม่ได้ถูกวางยาพิษ บนตัวไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ นอกจากอาการหกล้ม จาการประเมินทางการแพทย์ แม่เฒ่าฟู่เสียชีวิตจากการล้ม
แต่หลังจากเห็นข้อความของไมค์ เขาก็ระงับเอาไว้ ‘ช่างเถอะ ไม่สนแล้ว!’ ‘แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรไปซะ’ ครั้งนี้เจ้านายทำมากเกินไปจริง ๆ จะเอาตัวฉินอันอันไปโดยไม่ยอมให้คนในครอบครัวติดต่อได้ยังไง? เปลี่ยนจากไมค์เป็นเขา เขาก็คงโกรธจัดเช่นกัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาสิบเอ็ดโมง เสี่ยวหานไม่ได้ป่วนพิธีศพ เขาไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี่ยวหานด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเสี่ยวหานวางแผนในใจไว้ว่ายังไง ไม่ว่าแผนของเขาจะเป็นเช่นไร เขาคงจะรู้ว่าทำได้ยากจึงยอมแพ้ไปแล้ว หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้นลง เหล่าแขกที่มาร่วมงานต่างทยอยมุ่งหน้าไปทานอาหารกลางวันที่โรงแรม โจวจื่ออี้เดินไปหาฟู่สือถิง “เจ้านายครับ” ฟู่สือถิงหยุดชะงัก แล้วหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นเยือก โจวจื่ออี้กล่าวอย่างลำบากใจ “ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ” ฟู่สือถิงได้ยินแล้วก็ก้าวเท้าไปที่ลานจอดรถ โจวจื่ออี้รีบเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็ว รวบรวมความกล้าแล้วถามว่า “เจ้านายรับ คุณฉินอยู่กับคุณใช่ไหมครับ? ลูกทั้งสองคนของเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอมาก…” ลูกกระเดือกฟู่สือถิงขยับขึ้นลง เขาพูดเสียงแห้บพร่า “เธอยังไม่ตาย” โจวจื่ออี้ถึงกับง
“คุณฉิน ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว!” เสียงผู้ชายดังก้องขึ้นในหูของเธอ ฉินอันอันหันไปทางที่มาของเสียง เป็นบอดี้การ์ดของฟู่สือถิง “คุณฉิน คุณยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหมครับ?” บอดี้การ์ดยืนอยู่ข้างเตียงแล้วพูดน้ำไหลไฟดับ “ตอนที่เจ้านายของเราอุ้มคุณออกจากป่าเมื่อคืนนี้ ฝนตกหนักยิ่งกว่าตอนที่อี้ผิงขอเงินพ่อของเธอ*เสียอีก! รองเท้าของเจ้านายหายไปหมด! เขาอุ้มคุณกลับมาด้วยเท้าเปล่า!” ฉินอันอันสำลักจพูดไม่ออก “ถึงแม้ว่าขาของคุณจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เจ้านายของพวกเราก็มีรอยบาดลึกหลายแผลเช่นกัน…” บอดี้การ์จ้องมองลงมาที่เธอ “เมื่อคืนคุณเปียกฝนมีไข้สูง เจ้านายของพวกเราก็มีไข้เช่นกัน หลังจากพาคุณกลับมาเมื่อคืนนี้ เขาจัดการบาดแผลที่เท้าเสร็จแล้ว ก็กินยาลดไข้ และรีบไปร่วมพิธีศพของคุณนายฟู่ ไม่มีแม้แต่เวลาหลับตาเลยด้วยซ้ำ” บอดี้การ์ดเห็นว่าเธอไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ คิดว่าสมองที่โดนพิษไข้คงไม่สดใสมากนัก “คุณฉินครับ คุณช่างเป็นผู้หญิงที่เจ่งที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักเลย” ใบหน้าของบอดี้การ์ดแสดงความชื่นชม “วันนี้ตอนตีห้า ผมและเพื่อนร่วมงานเจอหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บในป่า…น่าจะเป็นหมาป่าท