หลังจากดิ้นรนอยู่หลายครั้ง สุดท้ายเธอก็ลืมตาไม่ได้ แต่เธอจำเสียงของฟู่สือถิงได้ ‘แต่เสียงผู้หญิงนั่นเป็นเสียงใคร?’ ‘เสียงแปลก ๆ...เรียกฟู่สือถิงว่าพี่...’ ‘หรือฟู่สือถิงจะทำอย่างว่าอยู่กับผู้หญิง?’ เหอะ เหอะ! เธอนอนหลับอยู่ดี ๆ แต่เขากำลังนัวเนียกับผู้หญิงอยู่ข้างเตียง ให้เกียรติกันหน่อยได้ไหม! ถ้าตอนนี้เธอตื่นจากโลกแห่งความฝันได้ เธอคงจะไล่พวกเขาทั้งสองออกไปแน่นอน! ฉินอันอันครึ่งหลับครึ่งตื่น เธอเจ็บปวดใจและสะลึมสะลือจึงต้องตาหลับต่อ ฟู่สือถิงจับมืออิ๋นอิ๋นแล้วพาเธอไปนอนพัก หลังจากส่งอิ๋นอิ๋นเข้านอนแล้ว เขาก็กลับมาที่ห้อง ฉินอันนันพลิกตัว และยังคงนอนหลับสนิท ฟู่สือถิงรีบเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ...... เมื่อเสิ่นอวี๋ได้ยินว่าคืนนี้ฟู่สือถิงพาฉินอันอันกลับบ้าน ดวงตาของเธอพลันแดงก่ำด้วยความโกรธ แฟนตัวจริงของเขาคือใครกันแน่? เธอรู้ดีว่าเขายอมให้เธอเป็นแฟน เพื่อที่เธอจะได้รักษาอิ๋นอิ๋น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ควรจะรักษาภาพพจน์บ้าง! พาฉินอันอันกลับบ้านในคืนนี้หมายความว่ายังไง! เขากำลังนอกใจเธออย่างเปิดเผยใช่ไหม? ความอับอายครั้งที่แล้วที่เธอนอนกับฟู่สือถ
เสี่ยวหานสีหน้าจริงจัง “ถ้าเราบอกคุณยาย ยายไม่ให้เราไปหาแม่แน่นอน” รุ่ยลาแก้มป่องและสับสน “ค่ะ...งั้นเราไปหาแม่กันเถอะ! ถ้าพ่อห่วย ๆ รังแกแม่ล่ะ?” เสี่ยวหานเม้มริมฝีปาก หลังจากครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว เขาก็ตัดสินใจ “ฉันจะไปคนเดียว เธออยู่บ้าน ถ้าคุณยายกลับมา เธอก็หาข้อแก้ตัวได้ตามใจเลย” หลังจากพูดจบ เสี่ยวหานก็ออกไปคนเดียว เมื่อดูประตูปิด รุ่ยลากระพริบตาขนตายาวของเธอ น้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม เธอจะปล่อยให้พี่ชายของเธอไปหาพ่อห่วย ๆ เพียงลำพังได้ยังไง? ‘ถ้าพี่โดยพ่อจับตัวไว้จะทำยังไง?’ เธอจะเสียพี่ชายไปไม่ได้! เธอร้องไห้และวิ่งไปเปิดประตูห้องไมค์ เปิดประตูเสร็จก็วิ่งไปที่เตียงใหญ่รก ๆ พลันคว้าแขนไมค์และร้องไห้หนักมาก “ลุงไมค์ ตื่นสิ พี่หนีไปแล้ว! เขาไปคนเดียว...เขาไม่พาหนูไปด้วย ฮือฮือฮือ…” ตระกูลฟู่ สาวใช้คนหนึ่งเดินออกมาจากห้องครัวแล้วถามว่า “ทำไมไฟดับคะ?” “ไม่เห็นได้รับแจ้งเหตุไฟดับ? ฉันไปเปิดเครื่องสำรองไฟก่อน” ป้าจางกล่าว หลังจากเปิดไฟสำรองแล้ว ไฟก็กลับมาติดปกติ หลังจากนั้นประมาณสิบนาที ไฟสำรองก็ดับเหมือนกัน ฟู่สือถิงเดินลงไปชั้นล่าง ป้าจางจึงรายงานสถานการณ์ให
ทุกครั้งที่เห็นหน้าตาของเด็กคนนี้มันทำให้เขารู้สึกคุ้นมาก! เหมือนทะลุผ่านมิติเวลาไปเห็นตัวเองตอนเป็นเด็ก! เสี่ยวหานมองเขาแล้วมองไปทางอื่น ป้าจางสีหน้าตื่นตระหนกขณะถามเสี่ยวหาน “เสี่ยวหาน สาเหตุที่บ้านเราไฟดับเป็นเพราะเป็นเธอจริง ๆ เหรอ? เธอทำได้ยังไง? โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เป็นของเธอหรือเปล่า? เธอเล่นคอมพิวเตอร์เป็นตั้งแต่อายุยังน้อยเลยเหรอ?” เสี่ยวหานเม้มริมฝีปากบางแล้วใส่โน๊ตบุ๊คกลับเข้าไปในกระเป๋านักเรียนเงียบ ๆ เขาสะพายกระเป๋านักเรียนก่อนเดินไปที่หน้าบันไดแล้วนั่งรอให้ฉินอันอันออกมา ป้าจางเหลือบมองฟู่สือถิง เขาหน้าถอดสี ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าเสี่ยวหานไม่ใช่เด็ก ตอนนี้เขาคงไม่ได้นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้น ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง บอดี้การ์ดที่อยู่นอกประตูก็มารายงานว่า “ประธานครับ มีชาวต่างชาติมาด้อมด้อมมองมองอยู่หน้าคฤหาสน์ครับ คุณต้องการจับเขามาสืบสวนไหมครับ?” ใบหน้าของไมค์แว๊บเข้ามาในหัวของเขาทันที เขาเดินไปที่ทางเข้าลานบ้าน ยังไม่ทันถึงทางเข้า เขาก็เห็นผมสีทองของไมค์ “ฉินอันอัน! เธอถูกกักบริเวณหรือเปล่า? ถ้าใช่ เธอกรีดร้องเลย! แค่เธอ
ตอนแรกเธอจะลงไปหาแม่ แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากในครัว! รุ่ยลาตกใจมากแต่ไม่กล้าเปล่งเสียงพลันรีบวิ่งตรงไปที่บันได หลังจากกลับขึ้นไปชั้นสอง เธอเกาะผนังและหายใจแรง เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ! คน ๆ นั้นขึ้นไปชั้นบน! รุ่ยลาตื่นตระหนกและวิ่งไปหาที่ซ่อน หลังจากนั้นไม่นาน ป้าจางก็ปรากฏตัวบนชั้นสองและเดินไปที่ห้องนอนใหญ่ ป้าจางมาหาฉินอันอัน ป้าจางกังวลเรื่องการแข่งขันระหว่างฟู่สือถิงและไมค์ ฟู่สือถิงเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน แม้ว่าเขาจะหายดีแล้ว แต่หมอห้ามเขาออกกำลังกายหนัก ๆ ป้าจางไม่อยากเห็นฟู่สือถิงแพ้และโดนไมค์ต่อย เธอจึงทำได้เพียงไปหาฉินอันอัน เมื่อเปิดประตู ป้าจางก็เดินไปที่เตียง เมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังหลับใหลของฉินอันอัน แต่เธอทนไม่ไหวอยากปลุกฉินอันอัน นอนเมื่อไหร่ก็นอนก็ได้ แต่ถ้าแข่งแพ้ไม่สามารถย้อนเวลากลับคืนมาได้แล้ว “อันอัน” ป้าสะใภ้จางพูดขณะเอื้อมมือไปตบไหล่ฉินอันอัน “อันอัน!” ฉินอันอันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเรียก “อันอัน ตื่นได้แล้ว” ป้าจางเพิ่มเสียง ฉินอันอันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และเมื่อเห็นป้าจางผ่านดวงตาที่ง่วงนอน มุมปากของเธอ
‘หรือว่าที่บ้านยังมีเด็กอีกคน’? ฟู่สือถิงอ้าปากค้าง! เขาเดินออกจากห้องและเห็นร่างเล็ก ๆ ของรุ่ยลาอยู่อีกฟากหนึ่งของบันไดกำลังร้องไห้! ‘ลูกสาวของฉินอันอัน!’ ‘ไร้สาระน่า!’ ‘ลูกสาวของเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่?’ ทำไมเขาถึงไม่รู้เลย! ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดของบ้านหลังนี้ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยเหรอ? อ้าว! จู่ ๆ เขาก็จำได้ว่าระบบเครือข่ายที่บ้านเพิ่งซ่อมไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว รุ่ยลาสะพายกระเป๋ารูปทรงกระต่าย ในมือถือตุ๊กตากระต่าย และอีกมือข้างกำลังจับราวบันได ร้องไห้พลางเดินลงไปชั้นล่างช้า ๆ ฟู่สือถิงเดินตามเธอไป แต่เธอไม่ได้สังเกตเห็น สาวใช้ของตระกูลยืนอยู่หน้าบันไดชั้นหนึ่งต่างมองเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวออกด้วยสีหน้าตกตะลึง! “ฮือ ฮือ ฮือ...แม่กลับไปแล้วแน่เลย...หนูร้องไห้ดังขนาดนี้...แม่ยังไม่มาหาอีก...ฮือ!” เสียงร้องของรุ่ยลาเหมือนเสียงรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่ เสียงดังเป็นจังหวะพักหนึ่ง “หนูน้อย เธอเป็นลูกสาวของฉินอันอันใช่ไหมจ้ะ?” ป้าจางเดินไปหารุ่ยลาแล้วอุ้มเธอลงไปชั้นล่าง ดวงตาของรุ่ยลาแดงก่ำ เธอเม้มปากเล็ก “แม่กับพี่ของหนูไปแล้วใช่ไห
“ทำไมใจร้ายขนาดนี้?! แม่สอนหนูอยู่แล้วว่าให้เคาะประตูเวลาเข้าบ้านคนอื่น! แต่แม่ไม่ได้บอกให้เคาะประตูเวลาเข้าบ้านคนชั่ว!” รุ่ยลาจ้องเธอด้วยดวงตาที่โตใสพลางตะโกนดังกว่าเขา เหมือนว่าเขากำลังแข่งว่าเสียงของใครดังและมีพลังมากกว่า ฟู่สือถิงกัดฟัน ‘คนชั่ว?’ ‘ใครสอนให้พูดคำนี้?’ “หนูไม่อยากมาบ้านคุณหรอก! หนูจะไปแล้ว!” รุ่ยล่าโมโห พลันลุกจากโซฟา ถือตุ๊กตากระต่ายไว้ในมือแล้วเดินไปที่ประตู!……ที่โรงพยาบาล หลังจากที่ฉินอันอันตรวจร่างกายเสร็จ เธอก็บอกให้ไมค์ช่วยโทรหาจางหยุน โทรศัพท์มือถือของเธอแบตเตอร์รี่หมด เธอต้องโทรบอกแม่ว่าเธอปลอดภัยแล้ว ไมค์หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมายื่นให้เธอ เมื่อโทรออก ก็มีคนรับสายอย่างรวดเร็ว ฉินอันอันยิ้มและพูดว่า “แม่ อันอันนะ หนูไม่เป็นไรค่ะ เมื่อวานหนูง่วงก็เลยหลับไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ตอนนี้หนูอยู่กับไมค์และเสี่ยวหาน เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วค่ะ” จางหยุน “ดีเลย งั้นแม่จะไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้แหละ” ฉินอันอัน “โอ้ แม่ รุ่ยลาล่ะคะ? ฉันคิดถึงเธอจัง อยากได้ยินเสียงเธอ” จางหยุนตกใจมาก “ไมค์พารุ่ยลาไปหาลูกนี่นา! รุ่ยลาไม่ได้อยู่กับลูกเหรอ?!” สีหน้าของฉิ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉินอันอันไปถึงบ้านตระกูลฟู่ เธอตรงเข้าไปห้องรับแขกทันทีโดยที่ไม่มีใครเข้ามาขวาง แต่ในห้องรับแขกกลับไม่มีใครเลย ฉินอันอันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “รุ่ยลา!” เธอตะโกน ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงหวานของรุ่ยลาก็ดังขึ้น “แม่! หนูอยู่นี่ค่ะ! แม่มาช่วยหนูเร็วเข้า! ไอ้ห่วยนี่มันจะตีหนู! ฮือฮือ!” ฉินอันอันเดินไปตามทางของเสียง ห้องรับประทานอาหาร รุ่ยล่าซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะอาหารด้วยท่าทางหวาดกลัวและวิตกกังวล หลังจากเห็นฉินอันอัน เธอก็ผ่อนคลายลง “รุ่ยลา! ทำไมลูกถึงไปซ่อนอยู่ใต้โต๊ะล่ะ? รีบออกมาเร็ว!” ฉินอันอันเดินไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งยอง ๆ ดึงลูกสาวของเธอออกมา รุ่ยลาโผตัวเข้าไปในอ้อมแขนของฉินอันอันด้วยดวงตาสีแดงพลางฟ้องเธอ “เขาจะตีหนูค่ะ ฮือฮือฮือ! หนูกลัว...หนูก็เลยไปแอบ! โชคดีที่หนูวิ่งเร็ว เขาถึงจับไม่ได้...ถ้าเขาจับได้ เขาจะต้องตีหนูจนตายแน่ ๆ เลยค่ะ!” แน่นอนว่าฉินอันอันไม่เชื่อสิ่งที่ลูกสาวของเธอพูด ‘ฟู่สือถิงจะตีเด็กได้ยังไง?’ ‘เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารุ่ยลาป็นลูกสาวของเขา’ “รุ่ยลา คุณลุงไม่ตีหนูหรอก” ฉินอันอันโน้มน้าว ฟู่สือถิง “เมื่อกี้ผมจะตีเธอจริง ๆ”
“ช่วงนี้คุณยุ่งอะไรนัก?” เขามองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน หลังจากที่ฉินอันอันทำแผลให้เขาเสร็จแล้ว เธอก็หันหลังกลับไปเก็บกล่องยา เธอตอบสั้น ๆ “ยุ่งเรื่องงานค่ะ” “คุณโกหก ถ้าคุณยุ่งเรื่องงาน ทำไมไม่ไปบริษัทล่ะ?” ฟู่สือถิงนั่งตัวตรง ฝ่ามือใหญ่จับแขนเธอไว้ “ตอนนี้คุณทำตัวแปลก ๆ ผมตามไม่ทัน” ฉินอันอัน “แล้วทำไมคุณถึงต้องถามฉันให้ทันด้วยล่ะ? ฟู่สือถิง ฉันขอบคุณคุณมากเลยนะ ที่ช่วยฉันไว้เมื่อคืนนี้ ฉันสามารถเลี้ยงข้าวคุณได้...หรือจะให้ธงอีกอันคุณก็ได้” ฟู่สือถิงปล่อยแขนของเธอแล้วพูดด้วยความตกใจ “ผมไม่ได้ช่วยคุณเพราะผมอยากได้คำว่าขอบคุณ พาลูกสาวของคุณกลับไปเถอะ! และลูกชายตัวแสบของคุณ วันนี้เขาแฮกระบบไฟฟ้ากับอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ประตูหน้าบ้านผม ถ้าคุณไม่อบรมสั่งสอนเขาอีก ผมจะสั่งสอนให้เอง!” ฉินอันอันขอโทษ “ขอโทษค่ะ กลับไปฉันจะสั่งสอนเขาอย่างดีเลย ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก” ฉินอันอันวางกล่องยากลับที่เดิม และอุ้มรุ่ยลา เตรียมออกเดินทาง “ฉินอันอัน!” ฟู่สือถิงก้าวเข้ามาหาเธอแล้วยื่นกล่องกล่องหนึ่งให้เธอ “สุขสันต์วันเกิดนะ” ฉินอันอันลดเปลือกตาลงมองกล่องที่เขายื่นให้ ถึงจะไม่รู้