วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ เธอตื่นสิบโมงครึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้นอนตื่นสายในคฤหาสถ์ตระกูลฟู่ เมื่อออกมาจากห้อง ผู้ชายสองสามคนในห้องรับแขกต่างมองมาที่เธอ เธอสวมชุดนอนหลวม ๆ ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบพาดที่ไหล่ ใบหน้าใสสะอาดสะอ้าน เธอไม่คิดว่าวันนี้ฟู่ซื่อถิงจะมีแขก เขาและแขกของเขามองเธอด้วยสายตาจริงจัง ราวกับว่าพวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ เธอจะออกมา สมองของฉินอันอันมีเสียงระเบิด! หลังจากรู้ตัว เธอก็รีบหันหลังกลับทันที และกำลังจะกลับไปแอบที่ห้อง ในเวลาเดียวกัน ป้าจางเข้ามาและดึงเธอไปที่ห้องอาหาร “คุณนาย คุณยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย คุณคงหิวใช่ไหมคะ? เมื่อเช้าฉันไปหาคุณที่ห้องแล้ว แต่เห็นว่าคุณกำลังนอนหลับสบาย จึงไม่ได้ปลุกคุณ” ฉินอันอันพูดติดอ่าง “พวกเขา...เป็นใครคะ?” ป้าจาง “เพื่อนนายท่านค่ะ เขามาเยี่ยมนายท่าน ถ้าคุณกลัวก็ไม่ต้องไปทักทายพวกเขาก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร” ฉินอันอัน “ค่ะ” ขนาดฟู่ซื่อถิงเธอยังไม่ทักเลย แล้วนับประสาอะไรกับเพื่อนของเขา? อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้าน วันนี้เธอคงจะตื่นแต่เช้า และออกไปเดินเล่นข้างนอกแน่นอน ในห้องรับแขก เพื่อ
เมื่อฉินอันอันคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังบีบคออยู่ เธอรู้สึกหายใจไม่ออกและเวียนหัว เขาเป็นคุณซีได้อย่างไร?! คุณซีโอนเงินให้เธอหน้าล้าน และต้องการลงทุนกับฉินกรุ๊ป ฟู่ซื่อถิงจะใจดีกับเธอขนาดนั้นได้อย่างไร? แต่ถ้าเขาไม่ใช่คุณซี แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? ขณะที่เธอกำลังสับสน รถเข็นของเขา เสื้อสีเข้มของเขา และผิวขาวซีดของเขา ย้ำเตือนเธอว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่สามารถเป็นคนอื่นได้ นอกจากฟู่ซื่อถิง เธอหายใจไม่ออก และก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว แต่ประตูห้องส่วนตัวปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ “ยังไม่ทันทักทายจะไปแล้วเหรอ?” ฟู่ซื่อถิงมองเธอที่กำลังตื่นตระหนกพลางเปิดริมฝีปาก “คุณมาทำอะไรในที่แบบนี้?” ฉินอันอันยกมือขึ้นทัดผมยาวไว้ข้างหู และพยายามสงบสติอารมณ์ “ฉัน...ฉันมาทานข้าวเย็นกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคน” “ที่นี่คือสถานที่ดื่มเหล้า” “โอ้...” ฉินอันอันมองไปรอบ ๆ ห้องส่วนตัว ห้องส่วนตัวมีขนาดใหญ่มาก และตกแต่งอย่างหรูหรา แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนกำลังตกนรก “ฉัน ฉันน่าจะมาผิดห้อง ฉันไปหาเพื่อนก่อนนะ” “ฉินอันอัน” เสียงของเขาฟังดูเย็นชาทุกคำ “เมื่อเช้าคุณไม่ได้ยินสิ่งที่ผ
คืนนี้ช่างเจ็บปวดและยาวนาน เมื่อทุกอย่างจบลง เธอก็หลับไปพร้อมความเหนื่อยล้า วันต่อมา เอสทีกรุ๊ป ฟู่ซื่อถิงมาถึงบริษัทประมาณสิบโมงเช้าตามปกติ หลังจากที่เขาเข้าไปในห้องทำงาน เซิ่งเป่ยก็เดินเข้ามา “เมื่อคืนผมไปหาคุณ แต่ไม่เจอ คุณกับฉินอันอันไปตั้งนานแล้วใช่ไหม?” ฟู่ซื่อถิงขมวดคิ้ว “ที่คุณมาถึงที่นี่เพื่อจะคุยเรื่องนี้เหรอ?” เซิ่งเป่ยยิ้มเจื่อน ๆ และวางเอกสารที่อยู่ในมือไว้บนโต๊ะ “นี่คือรายงานทางการเงินของฉินกรุ๊ปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ถูกเปิดเผย ผมลองอ่านดูแล้ว และพบว่าปัญหาค่อนข้างใหญ่” หลังจากพูดจบ เขาก็หยุดชะงักก่อนพูดต่อ “ผู้บริหารฝ่ายการเงินของฉินกรุ๊ปเอาไปอย่างต่ำสองพันล้านบาท ได้ยินมาว่าผู้บริหารคนนั้นเป็นน้องชายสายเลือดเดียวกันของภรรยาของฉินเจี๋ย” ดวงตาของฟู่ซื่อถิงขยับเล็กน้อย ถ้าสิ่งที่เซิ่งเป่ยพูดเป็นความจริง การที่ฉินกรุ๊ปจะล้มละลายไม่ได้เกิดจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด “เหตุการณ์นี้บอกพวกเราว่าต้องจับตาดูภรรยาของเขาให้ดี ๆ” เซิ่งเป่ยถอนหายใจ “ถ้าฉินเจี๋ยไม่นอกใจหวังหว่านจือ ครอบครัวตระกูลฉินคงไม่ต้องจบลงแบบนี้” ฟู่ซื่อถิงมองด้วยสายตาเย็
ถังเฉียนเห็นฟู่ซื่อถิงโกรธมาก เธอจึงเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ “ซื่อถิง ก่อนที่ฉินอันอันจะแต่งงานกับคุณ เธอมีความสัมพันธ์กับหลานชายฟู่เย่เฉินของคุณ อันที่จริงมันไม่สำคัญหรอก ใคร ๆ ก็มีอดีตกันทั้งนั้น แต่หลังจากที่เธอแต่งงานกับคุณ จริง ๆ แล้วเธอก็มีความสัมพันธ์กับหลานชายของคุณ เธอสวมเขาให้คุณ ฉันเดาว่าพวกเขาทั้งคู่คิดว่าคุณจะตาย พวกเขาก็เลยแอบแทงข้างหลังคุณ!” ฟู่ซื่อถิงกำหมัดสองข้างแน่น ใบหน้าของเขาซีดเผือด สีหน้าของเขาโกรธมาก และดวงตาที่เย็นชาก็จ้องมองไปที่แฟ้มสุขภาพของมารดา! “ฉันสงสัยว่าพวกเขาทำแบบนี้เพื่อแย่งสมบัติของคุณ ตอนที่หมอบอกแจ้งอาการของคุณ ทุกคนคิดว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ตอนนี้ฉินอันอันแต่งงานกับคุณ และตั้งท้องลูกของคุณ สมบัติของคุณก็ต้องตกไปอยู่ในมือฉินอันอันไปโดยปริยาย พวกเขาสองคนวางแผนไว้ก่นหน้าแล้ว สุดยอดจริง ๆ! แต่วางแผนยังไงก็สู้ชะตาไม่ได้ คุณฟื้นแล้ว แผนการของพวกเขาก็จะล้มเหลวเหมือนกัน” “ออกไป!” ฟู่ซื่อถิงตะโกนใส่ถังเฉียน ไม่ว่าเรื่องที่ถังเฉียนพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เขาก็รู้สึกขยะแขยง เมื่อเรื่องน่าเกลียดแบบนี้ถูกเปิดเผย ถังเฉียนรู้สึกน้อยใจ แต่เธ
เขาสลัดมือของเธอออกด้วยสีหน้ารังเกียจและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉินอันอัน การไว้ชีวิตคุณถือเป็นการแสดงความเมตตาครั้งยิ่งใหญ่ หุบปากแล้วอย่าทำให้ผมโมโหอีก!” ฉินอันอันมองใบหน้าที่ไร้หัวใจของเขาและกล้ำกลืนความเจ็บปวด ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ เธอซุกตัวอยู่ที่เบาะนั่ง และมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยดวงตาเศร้าหมอง โรงพยาบาล หลังจากที่รถจอด ฉินอันอันก็ถูกบอดี้การ์ดลากตัวออกจากรถ และพาไปที่คลินิกสูตินรีเวช ฟู่ซื่อถิงไม่ได้ลงจากรถ เขานั่งสูบบุหรี่อยู่ในรถ ตอนที่ฉินอันอันถูกนำตัวออกไป เบ้าตาที่มีน้ำตาคลอและสายตาที่โกรธเกรี้ยวที่เธอมองเขา ยังคงติดอยู่ในใจของเขา เขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใจกับเธออีกต่อไป! คนที่ทรยศเขาจบไม่สวยแน่นอน หลังจากที่ฉินอันอันถูกพาตัวเข้าไปในห้องผ่าตัดอันเยือกเย็น ประตูห้องผ่าตัดก็ปิดลงอย่างช้า ๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูห้องผ่าตัดก็ถูกผลักให้เปิดออก หมอออกมาพูดกับบอดี้การ์ดว่า “ผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่ต้องเฝ้าดูอาการผู้ป่วยอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงค่ะ” ภารกิจของบอดี้การ์ดคือพาฉินอันอันไปทำแท้ง เมื่อทารกในครรภ์ทำแท้งแล้ว ภารกิจของ
ฟู่ซื่อถิงขมวดคิ้ว หากเขาไม่เห็นแบบฟอร์มที่ฉินอันอันกรอกด้วยตาของเขาเอง เขาคงจะเชื่อคำพูดของฟู่เย่เฉินไปแล้ว “ฉินอันอันบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของแก มันก็เป็นลูกของแก!” บอดี้การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ต่อให้แกมีเก้าชีวิตก็คงไม่พอให้อยู่รอด!” ฟู่เย่เฉินร้องไห้เสียงดัง “ฉินอันอันโกหก! คุณอาครับ เหตุผลที่ผมเลิกกับเธอก็คือ เธอไม่ยอมให้ผมแตะต้องตัวเธอสักที ผมเองที่ทิ้งเธอไป เธอก็เลยเกลียดผม! เธอจงใจบอกว่าเด็กในท้องคือลูกของผม! เพราะเธอต้องการแก้แค้นผมแน่ ๆ! คุณอา! คุณอาต้องเชื่อผมนะ! ไม่ว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกของใครก็ตาม แต่ไม่ใช่ลูกของผมแน่นอน!” ฟู่ซื่อถิงมองชายคนนั้นที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว จู่ ๆ ในใจก็รู้สึกเมินเฉย ไม่น่าสนใจ นี่คือผู้ชายที่ฉินอันอันชอบ ผู้ชายขี้ขลาดคนนี้สามารถหักหลังเธอได้ทันทีที่มีปัญหา! “ลากมันลงไป!” เสียงของฟู่ซื่อถิงไร้อารมณ์ “ไม่ต้องฆ่ามัน” เขาจะปล่อยให้ฟู่เย่เฉินตายง่าย ๆ ได้อย่างไร? เขาต้องการทำลายฟู่เย่เฉินทีละนิดต่อหน้าฉินอันอัน ... จางหยุนพาฉินอันอันกลับไปที่บ้านเช่าของตัวเอง หลังจากเข้าไปในบ้านแล้ว จาง
“พี่ที่แม่เคยรู้จักอยากได้พี่เลี้ยงเด็กมาดูแลหลาน...และเงินเดือนที่เธอเสนอก็สูงมาก แม่คิดว่าแม่ทำได้ทุกอย่าง ก็เลยลองดู วันนี้วันที่สามของแล้ว แม่ว่าก็ดีนะ แม่สามารถหาเงินได้ห้าหมื่นบาทต่อเดือนแน่ะ!” “พ่อของลูกไม่อยู่แล้ว และไม่ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้ลูกเลย แม่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก” จางหยุนกล่าวเสริม น้ำตาของฉินอันอันร่วงลงมาราวกับเส้นด้ายที่ขาด “พี่ที่แม่เคยรู้จักค่อนข้างมีฐานะดีใช่ไหมคะ?” เดิมทีเสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย แต่เมื่อเธอร้องไห้กลับทำให้เสียงแหบแห้งมากขึ้น “การเป็นพี่เลี้ยงหลานให้พี่ที่รู้จัก...คงจะรับมือยากมากใช่ไหมคะ!” “ไม่ยากหรอก! ตอนนี้แค่หาเงินได้ก็พอใจแล้ว ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก! ยิ่งกว่านั้น คนรวยไม่ได้แปลว่าจะรวยตลอดไป คนจนก็อาจจะไม่ได้จนตลอดไปเหมือนกัน ตอนนี้แม่อาจจะไม่ได้รวยเหมือนพี่เขา แต่ใครจะไปรู้ ลูกสาวของแม่อาจจะหาเงินได้มากกว่าอีกจริงไหม?” จางหยุนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดน้ำตาให้เธอ “แม่...แม่ไม่ต้องไปทำงานหรอก หนูทำงานพาร์ทไทม์ได้...ปีหน้าหนูก็ทำงานแล้ว...” ฉินอันอันน้ำตาไหลพราก “ตอนนี้ลูกกำลังท้อง ลูกจะออกไปทำงานได้ยังไง? อันอัน ถ้าลูกต้องก
ฆ่าเขา? ฉินอันอันขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอจะเกลียดฟู่ซื่อถิง แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่าเขา แม้ว่าลูกในท้องจะไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่มีความคิดแบบนี้เลย และเธอจะฆ่าเขาได้จริงเหรอ? เมื่อเห็นฉินอันอันลังเล ฟู่เย่เฉินจึงกล่าวว่า “ตอนนี้อาของผมกำลังเดินทางไปทำธุรกิจ คุณลองกลับไปคิดดี ๆ อันอัน ถ้าคุณสามารถฆ่าฟู่ซื่อถิงได้ ผมก็แต่งงานกับคุณได้ทันที ผมจะให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ ผมบอกพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องของเราแล้ว และพวกเขาก็ให้การสนับสนุนผม” ฟู่เย่เฉินสีหน้าและสายตาจริงจังมาก เมื่อก่อนตอนที่เธอยังรักเขา เธออยากให้พ่อแม่ของเขายอมรับมาโดยตลอด แต่เขามักจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนอื่นรู้ ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมายอมรับแล้ว “แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ?” ฉินอันอันถามเขา “ถ้าเขารู้ว่าฉันต้องการฆ่าเขา คุณคิดว่าเขาจะไว้ชีวิตฉันฉันเหรอ? ฟู่เย่เฉิน คุณไม่เหมือนผู้ชายที่ฉันเคยรู้จักเลย ถ้าคุณอยากฆ่าเขา คุณก็ไปฆ่าเองสิ ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับผลที่ตามมาจากความล้มเหลวของคุณได้ ก็อย่าไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายแบบนั้น!” ฟู่เย่เฉินชะงัก เขาไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธ “มันจะล้มเหลวได้ยังไง เราก็วางย