ตอนที่[41]วันเปิดกิจการที่น่าแปลกใจสองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้มแหย ๆ กับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้“อย่าหาว่าข้าดูถูกน้ำใจของพวกเจ้าเลย เพียงแต่นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าพอจะหาได้ ดังนั้น ได้โปรดรับมันไปเถิด” องค์หญิงหยางจื่อกล่าวจบก็รีบให้คนไปขนของจากตู้รถม้าทันที อย่าเรียกว่าพอหาได้เลย นี่มันแทบจะทำให้ในบ้านของนางแทบไม่มีพื้นที่ให้ยืนแล้ว!มากมายถึงเพียงนี้ ทั้งเมื่อมองผ่าน ๆ ด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าของทั้งหมดนี่ล้ำค่าเพียงใด “และนี่เป็นของขวัญวันเปิดกิจการของเจ้า” ว่าแล้วองค์หญิงหยางจื่อก็กรีดนิ้วไปที่ภาพวาดที่สวยงามหลายรูป รวมถึงของประดับตกแต่งร้านอีกมากมาย “และนี่เป็นของขวัญจากข้า” จู่ ๆ บุรุษที่ไม่พูดอันใดนอกจากคำทักทายนางตอนมาถึงก็พูดขึ้น ทั้งยังยื่นกล่องของขวัญที่ภายนอกดูหรูหราปักด้วยดิ้นทองมามอบให้ สายตาของเขาดูราบเรียบแต่ท่าทางนั้นมั่นคงยิ่ง มือก็ยื่นของค้างเอาไว้แบบนั้น “เอ่อ นี่คืออันใดหรือเจ้าคะ” “ของเจ้า ให้เจ้า” “จะ...เจ้าค่ะ” แม้จะมึนงงแต่ก็ยื่นมือไปรับ “ลองเปิดดูสิ” เมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนั้นจึงได้ค่อย ๆ เปิดกล่องออกดูด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางสายตาอันจดจ้องของเข
ตอนที่[42]ทุกคนต่างโดนตก ที่จริงแล้วพวกเหล่าเครื่องนอนต่าง ๆ ในมิติของนางนั้นล้วนแต่เป็นแบรนด์หรูราคาแพงจากโลกก่อนและคุณภาพของมันก็สมราคา เมื่อนำออกมาใช้ในยุคนี้จึงไม่แปลกใจที่พวกเขาจะชื่นชอบเพราะอุตสาหกรรมเครื่องทอในยุคอนาคตนั้นก้าวล้ำไปไกลมาก ไหนจะน้ำหอมที่เอาไว้ใช้เพิ่มความผ่อนคลายในห้องนอนอีก ล้วนมาจากแบรนด์ดัง ๆ เช่นกัน และสิ่งที่ทำให้นางสะดวกสบายเป็นอย่างมากคือ นางสามารถเปลี่ยนเครื่องนอนเหล่านี้ได้ทุกวัน เพราะเพียงแค่ส่งพวกมันเข้ามิติไป ก็จะได้เครื่องนอนใหม่ที่สะอาดและหอมฉุยกลับมา ส่วนพนักงานสำหรับดูแลห้องพักนางก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว พวกเขาเพียงมีหน้าที่ในการเปลี่ยนและทำความสะอาดห้องพักให้สะอาดอยู่เสมอก็เท่านั้น สามแม่ลูกหันไปกระซิบบางอย่างแก่กัน ก่อนจะพยักหน้าคล้ายตกลงกันได้ ด้านหลิวหลี่จิ้งนั้นก็เช่นกัน ไว้รอฉินกุ้ยหยวนทำการเปิดร้านอาหารก่อน เขาจะหาโอกาสพูดคุยรายละเอียดด้วย และยามนี้เขาไม่แปลกใจว่าเพราะเหตุใดอีกฝ่ายจึงได้มั่นใจว่าจะเปิดกิจการในยามนี้ เพราะเขาก็เริ่มมองเห็นลู่ทางบางอย่างแล้ว “ดูเรือนรับรองเสร็จแล้ว เราไปดูร้านหมูกระทะดีหรือไม่เจ้าคะ” “ร้านหมูกระทะหรือ”
ตอนที่[42]ทุกคนต่างโดนตกฉินกุ้ยหยวนรับคำ ก่อนจะหันไปยืนอยู่บริเวณหน้าร้านที่ยกสูงขึ้นแล้วหันไปมองทุกคนที่อยู่ด้านล่าง “คำนับทุกท่านเจ้าค่ะ ตัวข้า ฉินกุ้ยหยวน เป็นเถ้าแก่เนี้ยของกิจการตระกูลฉินแห่งนี้ วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมในวันเปิดกิจการวันแรกของข้า ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง หากมีสิ่งใดที่ติดขัดหรือการดูแลไม่ทั่วถึง ตัวข้าและครอบครัวต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ แต่อย่างไรแล้วพวกเราก็จะทำให้เต็มที่ หากมีอันใดขาดเหลือสามารถบอกพนักงานที่คอยให้บริการ หรือจะมาบอกข้าก็ได้ เพื่อที่พวกเราจะได้นำข้อผิดพลาดหรือข้อแนะนำเหล่านั้นไปปรับปรุงเจ้าค่ะ” หานจื่อหลันมองสตรีที่กล่าวว่าวาจาฉะฉานราวกับมั่นใจและไม่กลัวเกรงสิ่งใดด้วยสายตาลึกล้ำ นางเป็นราวกับหงส์ที่อยู่กลางป่า เขาช่างโชคดี “เอาล่ะ ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว ข้าขอเปิดกิจการอาณาจักรตระกูลฉินของพวกเรา ณ บัดนี้เจ้าค่ะ” เมื่อกล่าวจบก็ใช้กรรไกรตัดผ้าแดงให้ขาดออกจากกัน จากนั้นเสียงประทัดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณอันบ่งบอกว่าความรุ่งโรจน์กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว ในจังหวะนี้เองที่ครอบครัวตระกูลฉินโผเข้าหากันพร้อมกอดก
ตอนที่[42]ทุกคนต่างโดนตก เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พนักงานจึงนำกระทะไปวางบนเตา ที่เหล่าลูกค้าต่างมองอย่างแปลกใจ รูปทรงกระทะแบบนี้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ระหว่างที่กำลังสงสัย พนักงานก็ทำการเทน้ำซุปสูตรพิเศษลงไป ไม่นานกลิ่นหอมก็ตลบอบอวลไปทั่วทั้งร้าน แม้กระทั่งในห้องพิเศษยามนี้ นี่เป็นอาหารเช้าของพวกเขาที่ชวนกลืนน้ำลายมาก เหล่าว่านเสิ่นรวมถึงองครักษ์และสาวรับใช้อย่างลี่เฉียวต่างก็นั่งอยู่อีกโต๊ะก็มีอาการไม่ต่างกัน ด้านคนของหลิวหลี่จิ้งอย่างจงเข่อก็ไปร่วมโต๊ะด้วย ไม่ปล่อยให้ทุกคนรอนาน พนักงานก็นำไขมันหมูลงไปวางไว้ตรงกลาง ด้วยความร้อนไม่นานมันก็ละลาย จึงได้นำมันไปถูให้ทั่วกระทะทรงโค้งที่นูนขึ้น เวลานี้กลิ่นยิ่งหอมเพิ่มมากขึ้น จนทำให้กระเพาะบางคนส่งเสียงออกมาอย่างปิดบังไม่มิด ได้แต่มองหน้าคนบนโต๊ะด้วยความเขินอาย เมื่อขั้นตอนการเคลือบกระทะเสร็จสิ้น ก็นำหมูสามสั้นลงไปย่าง รวมถึงหมูหมักที่แล่มาชิ้นพอดีคำก็ถูกลงนำไปย่างเช่นเดียวกัน เวลานี้แหละที่เป็นเวลาของความทรมานที่แท้จริง กลิ่นเนื้อหมูเมื่อถูกกับกระทะจึงส่งผลให้น้ำหมักที่เคลือบอยู่มีปฏิกิริยา ความหอมเช่นนี้สามารถฆ่าคนได้โดยแท้ ระหว่าง
ตอนที่[43]พนักงานคนใหม่ ยามนี้เป็นเวลาที่การเคลื่อนไหวของทุกคนเริ่มช้าลงแล้ว เพราะกระเพาะได้รับการเติมเต็มอย่างเต็มที่ จึงเป็นช่วงที่หลายคนต่างก็ใช้สายตามองคนข้าง ๆ ลามไปโต๊ะข้าง ๆ บ้างก็หันมาพูดคุยกัน ระหว่างนางจึงให้คนนำน้ำชาหยางเหมยรสหวานอมเปรี้ยวมาให้พวกเขากินล้างปาก ซึ่งชาหยางเหมยก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ต่างเรียกดื่มกันอย่างต่อเนื่องต่อมาคนที่อยู่ในห้องรับรองพิเศษนั้นได้เรียกให้ครอบครัวฉินเข้าไปพูดคุยเรื่องสำคัญด้วย “ที่ข้าเรียกพวกท่านเข้ามานั่นก็เพราะมีบางบางอย่างอยากจะพูดคุยด้วย” องค์หญิงหยางจื่อ “เรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนเอ่ยถามขึ้น “ข้าตัดสินใจแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนที่หยวนเออร์ และคุณชายฉินช่วยเหลือหลันเออร์ของข้าไว้ พวกข้า หลันเออร์ อี้เออร์ รวมถึงผู้ติดตามจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลืองานกิจการตระกูลฉินของพวกเจ้าตลอดในช่วงเหมันต์นี้” “หา!” ครอบครัวตระกูลฉิน “เอ่อ องค์...ฮูหยินไม่ต้องทำถึงเพียงนั้นก็ได้ขอรับ ของที่มอบให้มาก่อนหน้านั้นก็มากพอแล้ว” ผู้เฒ่าฉิน “นั่นจะได้อย่างไร ชีวิตคนทั้งคนเลยนะ ผู้เฒ่าฉินอย่าเกรงใจเลย ข้าตัดสินใจแล้ว” “แต่ว่า....” เมื่อเห
ตอนที่[43]พนักงานคนใหม่“นายช่างฉือ ข้าต้องขอบคุณมาก ๆ นะเจ้าคะ ที่มาทำงานให้ข้า ด้วยเวลากระชั้นชิดเช่นนี้”“ข้าต้องขอบคุณท่านมากกว่า ที่ตัดสินใจจ้างงานข้า ทำให้มีโอกาสได้ช่วยเหลือคนต่ออีกมาก พวกคนงานพวกนั้นล้วนแต่ไม่ค่อยมีเงินกันเท่าใดนัก เดิมทีก็คิดหนักว่าจะหาเงินจากที่ใดมาซื้อเสบียงจัดเก็บไว้ เพราะในอำเภอนั้นหยุดว่าจ้างงานแล้ว แต่ยามนี้พอมีเงินแล้ว ล้วนไม่ลำบากเป็นแน่” “ข้าก็ดีใจเจ้าค่ะที่ได้ยินเช่นนั้น ต่อไปข้ายังมีโครงการอีกมาก คงได้ทำงานกับนายช่างฉือนาน ๆ แน่”“จริงหรือ ดี ๆ” ฉือโจวรู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น นายจ้างเช่นฉินกุ้ยหยวนหาได้ไม่ง่ายนัก“ว่าแต่นะ ที่จริงคนงานหลายคนต่างมาคุยกับข้าเรื่องหนึ่ง”“อันใดหรือเจ้าคะ”“คือว่า...เรือนรับรองที่พวกเราได้นอนพักเมื่อคืนนี้ มันดีมากจริง ๆ แม้จะนอนด้วยกันหลายคน แต่ก็มีระยะห่างและสะดวกสบาย หากว่า...เหมันต์นี้หนักมากเช่นทุกครั้ง พวกเขา...รวมถึงข้าด้วย อาจจะรวมตัวกันกลับมาพักที่นี่ตลอดเหมันต์ก็เป็นได้” เมื่ออีกฝ่ายกล่าวจบ ใบหน้าของฉินกุ้ยหยวนก็ยกยิ้มขึ้น นี่แหละสิ่งที่นางต้องการ “หากพวกท่านกลับมาพักจริง ข้าจะคิดราคาพิเศษให้เลยเจ
ตอนที่[43]พนักงานคนใหม่“ทุกอย่างเรียบร้อยเช่นนี้ เช่นนั้นท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว พวกท่านไปรอข้าที่บ้านนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะนำเจ้ารถเหล็กตามไป” ไป ๆ มา ๆ นางก็เรียกว่ารถเหล็กตามพวกเขา ที่จริงแล้ว นางให้นายช่างฉือ สร้างโรงเก็บรถและเกวียนลากที่ติดกับบ้านของนางด้วย ขนาดมันใหญ่พอ ๆ กับโรงงาน เพราะในอนาคตอันใกล้นี้มันต้องมีจำนวนที่มากกว่าเดิม เมื่อเข้ามาในโรงรถและปิดประตูจนสนิทแล้ว นางก็เข้าไปในมิติซึ่งก็ได้พบกับเสี่ยวหลงที่ใส่ชุดราวกับนายช่างเครื่องยนต์เหมือนโลกก่อนชวนตลกไม่น้อย “นายหญิง ห้ามหัวเราะขอรับ นี่นายช่างเสี่ยวหลงเลยนะขอรับ” “ข้าหัวเราะที่ใด ข้ากำลังจะหาวต่างหาก” “โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ขอรับ” “เช่นนั้นหรือ ฮ่า ๆ” เมื่อหัวเราะจนพอใจแล้วก็พบกับใบหน้าบูดบึ้งของอีกคนจึงรีบปรับสีหน้าให้ดูเป็นการเป็นงานมากขึ้น “ข้ามารับรถรุ่นใหม่สิบคัน” “เสี่ยวหลงเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วขอรับ ครานี้ตัวรถบรรทุกผู้โดยสารได้ทั้งหมดหกคน ส่วนเกวียนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็เป็นเกวียนเหล็ก สามารถรักษาอุณหภูมิของของที่อยู่ภายในได้ และหากเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างทาง เช่นว่าโดนปล้น คนอื่นก็ไม่สามารถที่
ตอนที่[44]ข่าวขจรขจาย ในกลุ่มคนมีผู้ที่นางคุ้นตาก็มาด้วย นั่นก็คือท่านลุงหลิวและท่านลุงจงเข่อนั่นเอง เขาคงเป็นผู้ที่แนะนำและกระจายข่าวให้คนอื่นสินะ และนั่นเขามาด้วยรถแบตเตอรี่ที่นางให้ไปเมื่อวาน ช่างดูโดดเด่นจากผู้อื่นเสียจริง “หยวนเออร์ พบกันอีกแล้ว ดูซิ ว่าวันนี้ลุงพาผู้ใดมาบ้าง” “เถ้าแก่หลิวมิใช่ว่าท่านติดธุระอีกหลายชั่วยามจึงจะเสร็จมิใช่หรือ” หนึ่งในคนผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้น “ใช่ แต่ที่ข้าตามมาได้ทันเพราะเจ้าสิ่งนี้ต่างหาก” ว่าแล้วก็ลูบไปที่ยานพาหนะของตนอย่างภูมิใจ ซึ่งก็ทำให้ทุกคนมองไปที่มันอย่างไม่วางตา เขาไม่อธิบายอันใดเพิ่มเติมนอกจากหันมาแนะนำเหล่าคนต่าง ๆ ในนางได้รู้จักที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่ามีฐานะ ทั้งขุนนางในอำเภอเสิ่งซี ทั้งยังจากเมืองอันหนิง ไหนจะพ่อค้าที่มีชื่ออีก ล้วนแต่ไม่ธรรมดา “เป็นเถ้าแก่เนี้ยอายุน้อยหรือนี่ ช่างมากความสามารถเสียจริง” อีกทั้งยังงดงามอีก หรือจะเป็นคุณหนูจากบ้านใดแอบมาทำกิจการ พวกเขาต่างคิดในใจ “กล่าวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เช่นนั้น เชิญทุกท่านเข้าไปในร้านอาหารของข้าได้เลยเจ้าค่ะ พนักงานรอต้อนรับอยู่แล้ว” วันนี้พนักงานมีความเตรียมพร้อมเป็นอย่างมากด้
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ