ตอนที่[37]ยอมรับ “นี่เรียกว่าหยางเหมยเจ้าค่ะ รสชาติหวานอมเปรี้ยว กินสด ๆ ก็ได้ หรือจะเอาไปแปรรูปก็ได้” “เช่นนั้นหรือ” ดวงตาของผู้ฟังเป็นประกาย หากน้องสาวว่าเช่นนี้มันต้องอร่อยแน่ “นายหญิงแล้วต้นมันอยู่ที่ใด เราไปเก็บกัน” เสี่ยวหลงก็ดีใจไม่แพ้กัน “ข้าควรถามเจ้าไม่ใช่หรือเสี่ยวหลง” “แหะ ๆ เสี่ยวหลงลืมไป” เขาตื่นเต้นจนลืมว่าใช้พลังตรวจจับครู่เดียวก็หาเจอแล้ว จากนั้นจึงรีบหลับตาเพื่อหาต้นหยางเหมยที่ว่า “อยู่ตรงนั้นนายหญิง เข้าไปจากทางแยกนี้ไม่ไกล” “เช่นนั้นเราก็ไปกันเลย” “นายหญิง อย่างไรเราก็รีบเก็บแล้วรีบไปเถิด เสี่ยวหลงรับรู้ถึงพลังงานไม่ดีบางอย่างที่อยู่ไม่ไกลออกไป” เมื่อฉินกุ้ยหยวนได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่งเพราะว่านึกถึงคุณชายผู้หล่อเหลาผู้นั้น หรือเขาหนีตายมาจากแถว ๆ นี้กันนะ “เอาอย่างไรดีหยวนเออร์จะไปเก็บหรือไม่” ฉินกุ้ยหยางก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน “ไปเก็บไม่นานได้ใช่หรือไม่เสี่ยวหลง” “ได้ขอรับ” “เช่นนั้นรีบเก็บแล้วก็รีบกลับกันเถิด” “จากนั้นทั้งสามจึงกลับไปยังพาหนะแล้วรีบมุ่งตรงเข้าไปในทางแยกนั้น และไม่นานก็พบกับต้นหยางเหมยสามต้นที่เต็มไปด้วยผลสีแดงน่
ตอนที่[38]มีความคืบหน้า หลังจากที่ตั้งใจกับการเดินทางไม่นานยานพาหนะอันล้ำสมัยก็เคลื่อนที่เข้าอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านพร้อมด้วยเกวียนลากที่เพิ่งนำออกมาจากในมิติก่อนที่จะเข้าสู่เขตหมู่บ้าน ในยามนี้พื้นที่ตั้งแต่ตัวบ้านลากยาวมาจนถึงติดถนนในพื้นที่ของบ้านตระกูลฉินนั้นเต็มไปด้วยคนงานมากมาย ราวกับมีงานเทศกาลประจำปี เมื่อสองพี่ถึงหน้าบ้านตระกูลฉินนายช่างฉือก็รีบวิ่งมาหาทันที เมื่อมาถึงก็หอบแฮกไม่น้อย ไม่รู้ว่าเขามีเรื่องด่วนอะไร “คะ...คุณหนูฉิน มาแล้วหรือ” “มาแล้วเจ้าค่ะ นายช่างฉือมีอันใดหรือเจ้าคะ” “คะ...คือข้าอยากจะบอกว่า งานมีความคืบหน้าไปค่อนข้างเร็ว คนงานที่มารับงานรอบนี้ล้วนแต่ขยันขันแข็ง” กล่าวแล้วก็พยายามหายใจให้สม่ำเสมอ นางจึงมองไปที่เหล่าคนงาน คงเพราะพวกเขาต้องการเงินไว้ซื้อเสบียงในยามหน้าหนาวนี้ จึงได้ตั้งใจยิ่งขึ้น “หากขยันก็เป็นเรื่องที่ดีเจ้าค่ะ ฝากท่านลุงไปบอกพวกเขาด้วยนะเจ้าคะ หากตั้งใจทำงานและทำออกมาดี ข้าจะให้ผักดองตระกูลฉินให้กับพวกเขาเอาไว้เป็นการกักตุนเสบียงคนละสองจินด้วย” “จะ…จริงหรือ” ฉือโจวตาลุกวาว มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่ายามนี้ผักดองตระกูลฉินนั้นโด่งดังและราคา
ตอนที่[38]มีความคืบหน้า ฉินกุ้ยหยวนกวาดสายตามองอาณาจักรของนาง แม้ผ่านไปเพียงห้าหกวัน ก็ดูเหมือนจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว ทั้งรั้วแนวยาว กระโจมไม้น้อยใหญ่ที่นางวางรูปแบบไว้ร้อยกว่าหลัง ร้านหมูกระทะ โรงงานผักดอง ไหนจะบ้านหลังใหญ่นั่นและนอกจากนั้นยังมีสิ่งก่อสร้างอีกหลายอย่าง ซึ่งมันใกล้จะสำเร็จแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น…… ในช่วงเวลาเดียวกันแต่อยู่ห่างออกไปจากบ้านของตระกูลฉินไปอีกสองร้อยลี้ (100 กิโลเมตร) ก็เกิดบางอย่างที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อจู่ ๆ ก็มีม้าเร็วที่ถูกควบคุมด้วยองครักษ์คนสนิทของบุตรชายคนสำคัญของจวนตระกูลหานมาจอดอยู่หน้าจวนด้วยท่าทางตื่นตระหนก หากสังเกตดี ๆ เขามีอาการดีใจร่วมด้วย และสิ่งที่ทำให้เหล่าเจ้านายในจวนต่างก็มารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่คือการก้าวย่างอย่างมั่นคงจากคนที่มากับองครักษ์ผู้นั้น “หลันเออร์ นี่เจ้า...”ไม่นานนักหลังจากนั้นก็มีคนสำคัญตามมาอีกคนหนึ่ง “ว่านเสิ่นเจ้ารีบเกินไปแล้ว” เสียงหวานแหวขึ้นทันทีเมื่อมาถึงห้องโถง “ท่านหญิง กระหม่อมตื่นเต้นไปเสียหน่อยขอรับ ทั้งอยากให้องค์หญิงได้รับรู้ข่าวเร็ว ๆ เลยรีบมา” “ชิ รอข้าสักประเดี๋ยวจะเป็นอันใดกั
ตอนที่[38]มีความคืบหน้า“หากพวกเขาเป็นเพียงผู้ที่จิตใจดี มีความสามารถแม้ว่าจะไม่อยากได้สิ่งใดตอบแทน ข้าก็อยากจะพบเจอและขอบคุณพวกเขาด้วยความจริงใจสักครั้ง” องค์หญิงหยางจื่อเอ่ยกล่าวขึ้น นัยน์ตาคู่งามยังคงมีน้ำตาคลอเอ่อ“แต่ไม่รู้ว่าจะตามหาพวกเขาเจอได้อย่างไรนี่สิ” หานจื่อตงเอ่ยขึ้นอย่างคิดหนัก“เอ๊ะ พี่ใหญ่ในมือท่านนั้น....” ระหว่างที่ทุกคนกำลังใช้ความคิด เสียงของหานจื่ออี้ก็ดังขึ้น พร้อมทั้งพเยิดหน้าไปที่ของในมือพี่ชาย หานจื่อหลันที่มีสีหน้าเรียบนิ่งจู่ ๆ ก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้น แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ผู้คนแปลกใจ “นี่เป็นของที่ผู้มีพระคุณทิ้งเอาไว้ให้ขอรับ ก่อนที่พวกเขาจะจากไป เด็กสาวผู้นั้นได้มอบอาหารที่มีหมูย่างรสเด็ด ผักดองที่รสชาติไม่เหมือนที่ใด แล้วก็ข้าวขาวหุงร้อน ๆ นุ่ม ๆ ไว้ให้ขอรับ” เป็นว่านเสิ่นตอบอีกครั้ง เดิมทีเขาจะอยากกล่าวบางอย่างอีกด้วยซ้ำ คราแรกผู้เป็นนายเรียกให้เขาไปกินด้วยกันยามที่เดินทางกลับมาเมืองหลวง แต่เมื่อได้กินเพียงแค่คำแรกเท่านั้น ผู้เป็นนายก็รวบทุกอย่างเข้าหาตัวราวกับหวงแหน แล้วไม่แบ่งเขาอีกเลย น่าน้อยใจนัก อาหารเลิศรสเช่นนั้น เขาได้กินเพียงแค่คำเดียว!
ตอนที่[39]กิจการเติบโต ที่จริงแล้วก่อนที่นางจะเดินทางไปหมู่บ้านเฮยจูโหยว นางได้เอาเต็นท์หลังขนาดกลางจากในมิติออกมาสามหลัง หลังแรกให้ท่านตาท่านยาย หลังที่สองให้ท่านแม่นอนกับท่านน้าเจียงซื่อและเสี่ยวจวน คราแรกจะให้ท่านแม่นอนเป็นส่วนตัวแต่อีกฝ่ายกลับบอกว่ากลัวว่าตนเองจะเหงาเลยขอนอนกับสองแม่ลูกบ้านเจียงดีกว่า และหลังสุดท้ายนั้นทำเป็นห้องน้ำฉุกเฉิน ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพื่อที่จะได้ไม่ไปรบกวนบ้านเจียว เพราะลำพังแค่สามคนนั้นอยู่ด้วยกันก็น่าจะอึดอัดมากแล้ว เมื่อมาถึงนางจึงเอาเต็นท์ออกมาอีกสองอีกหลัง หลังหนึ่งให้ตนเอง อีกหลังหนึ่งให้พี่ใหญ่ แม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็จะเข้าไปนอนในมิติอยู่ดี เพราะบอกแล้วว่ามันสะดวกสบายและมีทุกอย่างครบครัน นายช่างฉือคราแรกที่เขาเห็นเขาก็รีบเข้ามาสอบถาม เพราะมันดูใช้งานง่ายและไม่ต้องใช้เวลาเช่นกระโจมทั่วไป และด้วยความเป็นช่างของเขา คงกำลังมองเห็นโอกาสบางอย่าง แต่ทว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะสร้างรายได้ให้นางอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ นางจึงได้บอกเหตุผลต่าง ๆ กับเขาไป ซึ่งเขาก็เข้าใจแม้ว่าจะเสียดายมากก็ตาม เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินกุ้ยหยวนทำทีเป็นบิดขี้เกียจออกจากกระโจม
ตอนที่[39]กิจการเติบโต “ท่านลุงหลิวว่ามาได้เลยเจ้าค่ะ” “ข้ารู้ว่าเจ้าชื่นชอบการทำการค้าและเจ้าก็มีความสามารถ แต่การค้าของเจ้า จะมาเริ่มทำในช่วงที่เวลาที่อากาศและสภาพเศรษฐกิจเลวร้ายเช่นนี้ นั่น...จะไม่ทำให้เจ้าเหนื่อยเปล่าหรือ” อย่าว่าแต่หลิวหลี่จิ้งที่เป็นห่วง เสี่ยวจวนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รู้สึกเป็นห่วงสหายเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าสหายของตนนั้นเก่ง แต่ว่าเรื่องนี้มันเสี่ยงที่จะขาดทุนมากจริง ๆ แม้ผู้อื่นจะคิดหนัก แต่ฉินกุ้ยหยวนกลับยกยิ้มขึ้น “ท่านลุงหลิว ท่านคิดว่าเพราะเหตุใดข้าจึงกล้าจะเปิดร้านอาหารและที่พักในยามนี้ และเพราะเหตุใดจึงได้ตั้งราคาสูงถึงเพียงนั้น” หลิวหลี่จิ้งส่ายหน้า แม้เขาจะทำการค้ามาอย่าคร่ำหวอด แต่เรื่องนี้เดาทางไม่ได้จริง ๆ “นั่นก็เพราะอาหารที่ข้าจะขายและที่พักที่ข้าจะเปิดนั้นมีความพิเศษอย่างไรเล่าเจ้าคะ” “ว่ากันด้วยเรื่องอาหาร ก็ทำจากวัตถุดิบชั้นยอด ไม่เคยมีที่ใดมาก่อน ที่สำคัญเหมาะสำหรับกินในช่วงที่อากาศหนาวยิ่งนัก ส่วนที่พักนั้น หาใช่ที่พักแบบทั่วไป เพราะที่พักของข้าสามารถป้องกันอากาศที่หนาวเหน็บได้ รับรองว่าหากอยู่ในห้องพักของตนเองจะไม่ต้องพบกับความทรมานของอา
ตอนที่[39]กิจการเติบโตในระหว่างที่ทุกอย่างดำเนินการไป ในมิตินั้นนางก็ได้เรียนทั้งการต่อสู้เพิ่มเติมที่เสี่ยวหลงตั้งใจถ่ายทอดให้นางกับพี่ใหญ่เป็นอย่างดี ส่วนนางนั้นก็สอนตำราให้พี่ใหญ่อย่างเข้มข้นเช่นกัน จนยามนี้เขามีความสุขุมและมีความรู้อย่างเต็มเปี่ยมคล้ายคุณชายบัณฑิตก็ไม่ปาน อีกทั้งคล้ายพี่ใหญ่จะมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก หากเขาชื่นชอบตำราเช่นนี้ เขาคิดที่อยากจะไปเรียนที่สำนักศึกษาหรือไม่นะ “พี่ใหญ่ ท่านอยากไปเรียนที่สำนักศึกษาหรือไม่” “เหตุใดจึงถามเช่นนั้น เจ้าไม่อยากสอนพี่แล้วหรือ” “มิใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ ข้าเห็นว่าท่านดูเหมาะกับการเรียน ในอนาคตภายภาคหน้าไม่แน่ว่าท่านอาจจะได้เป็นขุนนางที่มีอนาคตสดใสผู้หนึ่งก็ได้” “แต่ข้า...อยากช่วยเจ้ากับครอบครัว...” “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง มีข้าอยู่ครอบครัวเราไม่มีวันลำบากแน่นอน” “เรื่องนั้นพี่รู้ แต่ว่าก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี” “เอาเช่นนี้ ในยามนี้ท่านก็ตั้งใจเล่าเรียนควบคู่กับการช่วยงานข้า แต่หลังผ่านเหมันต์ไปแล้ว สำนักศึกษาจะเปิดรับสมัครหากท่านเปลี่ยนใจก็ลองไปสมัครได้” “เอาเช่นนั้นก็ได้” ที่จริงแล้วฉินกุ้ยหยางนั้นชื่นชอบตำรา
ตอนที่[40]ซอฟต์โอเพนนิ่ง เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันกิจการต่าง ๆ ของนางก็จะได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วเวลานี้หลังจากจัดการเรื่องส่งผักดองรอบล่าสุดแล้วจึงเป็นเวลาของการรับสมัครพนักงานประจำร้านหมูกระทะตระกูลฉินและประจำ‘เรือนรับรองตระกูลฉิน’ ซึ่งในส่วนร้านหมูกระทะนั้นนางจะใช้เด็กสาวและเด็กหนุ่มในหมู่บ้านมาช่วยทำงานทั้งการบริการลูกค้าและการจัดเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ เพราะบ้านของพวกเขาอยู่ที่นี่จึงสะดวกในการทำงาน แต่ทว่าหมู่บ้านหวงหลิงนั้นคนน้อยเหลือเกิน เพียงแค่ทำงานในโรงงานผักดองก็ใช้คนไปมากโขแล้ว นั่นเพราะนางยังต้องการฝ่ายครัว ฝ่ายทำความสะอาด ฝ่ายซักล้าง และอีกหลายฝ่าย จึงได้ปรึกษากับท่านลุงกัง ว่าหากชาวบ้านที่นี่มีญาติหรือคนที่บ้านเดิมที่ไว้ใจได้ อยากจะชวนมาทำงานก็สามารถทำได้ ขอเพียงเป็นคนซื่อสัตย์ ขยันขันแข็งตั้งใจทำงานก็เป็นพอ ที่สำคัญนางยังมีที่พักและอาหารให้กินคนละมื้อด้วย และสิ่งที่ผู้นำหมู่บ้านอย่างกังฉางดีใจนั่นก็คือ เรือนรับรองอันแสนอบอุ่นของบ้านตระกูลฉินที่จะเปิดทำการเร็ว ๆ นี้ มีอีกหนึ่งกระโจมใหญ่ ที่จะเปิดให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมาพักได้ในยามที่เหมันต์อันโหดร้ายจะมาถึง รวมถึงญาติ
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ