เช้าวันต่อมา หลังอาหารเช้าไม่นาน ผู้ใหญ่บ้านหลี่ก็เดินทางมาที่บ้านของหลินฉางหยู พร้อมกับโฉนดบ้านและที่ดินในมือ เขาได้นำโฉนดมามอบให้กับหลินเจี้ยนด้วยตนเอง
“นี่คือโฉนดบ้านและที่ดินในชื่อของท่านหลินเจี้ยน” ผู้ใหญ่บ้านหลี่กล่าวพร้อมกับยื่นโฉนดให้หลินเจี้ยน
หลินเจี้ยนรับโฉนดมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เขามองดูโฉนดด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ หลังจากนั้น ทุกคนก็ช่วยกันขนย้ายสิ่งของต่างๆ ไปยังบ้านใหม่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก บ่าวทั้งสี่ โจวซาน เฉียนซื่อ ซุนฮวา และเจิ้งหง ช่วยกันทำความสะอาดบ้านใหม่ก่อนที่จะช่วยขนของเข้าไปเก็บให้เรียบร้อย
หลินฉางหยูและหลินเจี้ยนเดินสำรวจรอบๆ บ้านใหม่ด้วยกัน พวกเขาดูความเรียบร้อยของบ้านและตรวจสอบสภาพของแปลงผักหลังบ้าน หลินเจี้ยนหันไปขอบคุณหลินฉางหยูจากใจจริง
“ขอบคุณน้องเขยมาก ข้าไม่รู้จะกล่าวขอบคุณเจ้ากับอ้ายเออร์อย่างไรดี” หลินเจี้ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง
หลินฉางหยูตบไหล่หลินเจี้ยนเ
เมื่อมาถึงสวนผลไม้บนเขา หลินฉางหยูและหลินฉิงอันได้เริ่มชี้แนะวิธีการเก็บผลไม้ที่ถูกต้องให้กับชาวบ้าน พวกเขาอธิบายถึงลักษณะของผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับการนำไปแช่อิ่ม“ลูกพลับที่ใช้ได้ต้องมีสีเหลืองอมส้ม เปลือกไม่แตก และไม่ช้ำ”หลินฉางหยูอธิบายพร้อมกับชี้ให้ดูผลพลับบนต้น“ส่วนมะขาม ต้องเลือกฝักที่แก่จัด เปลือกสีน้ำตาลเข้ม และแห้งสนิท” หลินฉิงอันเสริม“สำหรับพุทรา ต้องเลือกลูกที่ผิวเรียบ สีเขียวอมเหลือง และแน่น ส่วนมะดัน ต้องเลือกลูกที่ยังดิบอยู่ มีสีเขียวสด และเนื้อแน่น”พวกเขายังได้สอนวิธีการเก็บผลไม้โดยไม่ให้ต้นไม้และผลไม้ได้รับความเสียหาย เช่น การใช้มีดตัดขั้วผลไม้แทนการเด็ด หรือการใช้ตะกร้าที่บุผ้าเพื่อป้องกันผลไม้ช้ำ ถึงแม้วันนี้ชาวบ้านจะไม่ได้มีตะกร้าบุผ้ามา แต่คราวหน้าพวกเขาคงจัดทำกันขึ้นมาเองอย่างแน่นอนเมื่อชาวบ้านได้ฟังคำอธิบายของหลินฉางหยูและหลินฉิงอันแล้ว พ
เช้าวันต่อมา หลังอาหารเช้า หลินฉางหยูเดินทางไปพบช่างไม้ที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน เพื่อปรึกษาเรื่องการทำชั้นวางผลไม้ตามที่หลินฉิงอันต้องการ เขาต้องการสั่งทำชั้นวางจำนวนสิบอัน เนื่องจากปริมาณผลไม้ที่เก็บมานั้นมีจำนวนมาก เขาเกรงว่าพื้นที่ในห้องเก็บของจะไม่เพียงพอเมื่อไปถึงบ้านช่างไม้ หลินฉางหยูได้อธิบายรายละเอียดของชั้นวางที่ต้องการให้ช่างไม้ฟังอย่างละเอียด รวมถึงขนาดและจำนวนชั้นของแต่ละอัน ช่างไม้ได้ฟังรายละเอียดทั้งหมดแล้วก็แจ้งราคาให้หลินฉางหยูทราบ ราคาสำหรับชั้นวางพร้อมถาดวางทั้งสามสิบอัน (ชั้นวาง 10 อัน แต่ละอันมี 3 ชั้น) คือชุดละ 500 อีแปะ เนื่องจากช่างไม้ต้องไปจ้างคนสานถาดเพิ่มเติมหลินฉางหยูได้วางเงินมัดจำจำนวน 1 ตำลึงให้กับช่างไม้ และตกลงกันว่าจะให้ช่างไม้นำชั้นวางมาส่งที่บ้านเมื่อทำเสร็จ ซึ่งช่างไม้แจ้งว่าจะใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 3 วัน และอย่างช้าที่สุด 4 วันต่อหนึ่งชุดหลินฉางหยูพยักหน้าตกลงและขอบคุณช่างไม้ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านเพื่อแจ้งข่าวให้หลินฉิงอันทราบ
กว่าที่การทดลองทำผลไม้แช่อิ่มครั้งแรกจะเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงผ่านไปเกือบจะเที่ยงวันแล้ว หลินอ้ายที่เข้าไปเตรียมอาหารกลางวันเอาไว้ให้ทุกคนให้บ่าวไปเรียกพวกเขามากินข้าวเสียก่อน วันนี้บ้านแม่เฒ่าซูมาเป็นแขกช่วยทำงานไม่น้อยหลินเจี้ยนกับลูกชายหลังกลับจากส่งปลาและถั่วงอกแล้วก็ยังมาช่วยหลินฉางหยูขึ้นเขาไปนำต้นพันธุ์ผลไม้ลงมาพร้อมกับโจวซานและเฉียนซื่อ บ่ายนี้พวกเขายังต้องลงต้นพันธุ์ช่วยกันต่ออีกเป็นเพราะวันนี้มีคนจำนวนมากมาช่วยงาน หลินอ้ายจึงให้บ่าวเตรียมอาหารเอาไว้ที่ลานหน้าบ้านแล้วนั่งกินร่วมกัน ส่วนผลไม้แช่อิ่มนั้นพวกเขาจะรอชิมหลังกินมื้อเที่ยงเสร็จ ระหว่างกินอาหารร่วมกัน แม่เฒ่าซูก็ถามถึงเรื่องการค้าขายผลไม้แช่อิ่มว่าหลานสาวนางจะนำไปขายอย่างไร“ท่านยายเจ้าคะ ข้าอยากซื้อร้านในอำเภอเพื่อขายผลไม้แช่อิ่มจำนวนมากเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่คิดอย่างไร ก่อนหน้านี้เราก็ใช้เงินไปไม่น้อยแล้ว”“อืม… พ่อเห็นด้วยกับเจ้านะลูก ถึงแม้จะต้องเส
หลินฉิงอันมานั่งคุยกับทหารส่งข่าวเพื่อสอบถามสถานการณ์ที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้เหิงจิ้งกั๋วจะเขียนมาในจดหมายให้นางทราบแล้วก็จริง แต่นางก็อยากฟังจากปากของคนอื่นบ้างว่าที่นั่นเป็นอย่างที่เขาบอกเอาไว้หรือไม่“เรียนคุณหนู ตอนนี้ชายแดนสงบสุขดีขอรับ เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา ท่านแม่ทัพกับทหารคนสนิทหายตัวไปตอนที่ศัตรูบุกทำร้ายชาวบ้าน ทำให้ที่ค่ายระส่ำระสายไม่น้อย โชคดีที่รองแม่ทัพคนอื่น ๆ ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ขอรับ ยิ่งหลังหน้าหนาวแล้วพวกเราเห็นท่านแม่ทัพกับทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย ทุกคนในค่ายต่างก็ดีใจไปตาม ๆ กันขอรับ”“อ้อ เป็นเช่นนั้นเอง พวกเจ้าอยู่ที่นั่นคงลำบากมากสินะ”“ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ขอรับ ชาวบ้านที่นั่นมักจะแบ่งปันอาหารป่าให้พวกเราบ่อย ๆ ขอรับ พวกเราจึงต้องปกป้องชาวบ้านจากการรุกรานของศัตรูนอกด่านให้ดี”“แล้วไม่ทราบพี่ชายรับจดหมายจากข้าที่ตอบกลับแล้ว ท่านจะเดินทางกลับเลยหรือเจ้าคะ หากพี่ชายเหนื่อยล้าก็สามารถพั
เจ้าหน้าที่ทางการพอเห็นครอบครัวหลินอีกครั้งเขาก็รีบยิ้มแป้นเข้ามารับหน้าทันที คราวก่อนที่ขายบ้านเขาก็ได้รับกำไรไม่น้อยเลยทีเดียว“สวัสดีขอรับนายท่าน วันนี้มีเรื่องใดให้ข้ารับใช้หรือขอรับ”“มิบังอาจ ๆ ท่านเจ้าหน้าที่พอจะมีร้านค้าขนาดกลางในอำเภอทำเลดี ๆ ขายบ้างหรือไม่ขอรับ”“โอ้ ครั้งนี้พวกท่านอยากได้ร้านค้าหรือขอรับ เช่นนั้นโปรดนั่งรอก่อน ข้าจะไปนำเอกสารมาให้พวกท่านเลือกดูขอรับ”ทั้งสามรีบคำนับขอบคุณเจ้าหน้าที่ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ในห้องโถงของที่ว่าการอำเภอ ระหว่างรอพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้ราคาร้านจะสูงมากเพียงใด ตอนนี้เงินในมือของหลินอ้ายมีเหลืออยู่หนึ่งพันกว่าตำลึงเท่านั้น“ท่านพี่เจ้าคะ ร้านค้าราคาจะแพงมากเท่าราคาจวนที่พวกเราเคยซื้อหรือไม่เจ้าคะ ข้ากลัวเงินจะไม่พอ”“เฮ้อ ทำอย่างไรได้เล่าฮูหยิน ถึงอย่างไรเราก็ต้องซื้ออยู่ดีล่ะนะ เงินในมือเจ้าตอนนี้เหลืออยู่เท่าใดแล้ว”“ที่ข้าเก็บสะสมมารวมกับเงินที่ลู
หลังอาหารเช้าวันต่อมา หลินฉางหยูไปพบผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอให้เขาช่วยจ้างชาวบ้านมาสร้างเรือนพักสองชั้นโดยนำแบบที่หลินฉิงอันวาดไปด้วย“ผู้ใหญ่บ้านขอรับ ข้าหลินฉางหยูมีเรื่องจะปรึกษาขอรับ”“โอ้ เจ้ามีอะไรรึฉางหยู เหตุใดจึงได้มาแต่เช้านักเล่า เข้ามาก่อน ๆ”ผู้ใหญ่บ้านที่เพิ่งออกมานั่งพักหลังกินข้าวเช้าเห็นหลินฉางหยูอยู่ที่ประตูรั้วพอดี เขาจึงเดินไปเปิดประตูให้เข้ามานั่งคุยกัน“ข้าอยากรบกวนท่านช่วยจ้างชาวบ้านให้ข้าสักหลายคนเพื่อสร้างเรือนพักสองชั้นตามแบบที่ลูกสาวข้าเขียนให้น่ะขอรับ ค่าจ้างข้าให้วันละ 30 อีแปะขอรับ”หลินฉางหยูยื่นกระดาษแบบให้กับผู้ใหญ่บ้านหลี่ตรวจสอบแบบดูก่อนว่าสามารถหาคนมาสร้างได้หรือไม่ ผู้ใหญ่บ้านดูแบบไม่นานก็พยักหน้าอย่างพอใจ“แบบใบนี้เขียนได้ดีนัก ข้าคิดว่าช่างในหมู่บ้านเราที่ช่วยเจ้าสร้างบ้านน่าจะทำออกมาได้กระมัง เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้า
โจวซานไม่แปลกใจที่นายท่านปล่อยให้คุณหนูเป็นผู้จัดสรรหน้าที่ให้กับบ่าวใหม่ทั้งหมด หลังจากที่เขาอยู่ที่นี่มาสักพักแล้วก็รู้ว่าคนที่สร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวเจ้านายก็คือคุณหนูของเขานี่เองบ่าวใหม่ทั้งสิบแปลกใจไม่น้อยที่นายท่านปล่อยเรื่องเช่นนี้ให้กับคุณหนูแทนที่จะเป็นนายหญิง แต่พวกเขาเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่เป็นวันแรกจึงไม่อยากคิดสิ่งใดมากมายนัก“สวัสดี ข้าชื่อหลินฉิงอัน เป็นคุณหนูคนเดียวของบ้านนี้ ส่วนคุณชายทั้งสองจะกลับมาที่นี่ในช่วงปิดเรียนเท่านั้น รอให้พวกเขามาแล้วข้าจะแนะนำพวกเขาให้พวกเจ้ารู้จักก็แล้วกันนะ สำหรับหน้าที่ของพวกเจ้าแต่ละคน ข้าจะจัดการให้ตามความสามารถของพวกเจ้า จ้าวหลงรับหน้าที่ผู้คุ้มกันเวลาที่พวกข้าขึ้นเขาหรือเข้าอำเภอ หวังไห่เตรียมตัวไปดูแลร้านค้าในอำเภอแทนข้า หลี่หมิงก็เช่นกัน เฉินกังให้อยู่ที่นี่คอยดูแลสวนหรือปรับปรุงพัฒนาบ้านเรือน หากเจ้าอยากประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใดเพื่อช่วยเบาแรงในการทำงานก็สามารถพูดคุยกับเฉียนซื่อได้ เขาเองก็เก่งกาจทางด้านนี้ไม่น้อยเช่นกัน ชุนจินให้คอยดูแลเกวียนลา
สามวันต่อมา หลินฉิงอันให้ชุนจินพาเข้าไปที่ร้านค้าเพื่อดูว่าหวังไห่และคนอื่น ๆ ค้าขายเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเกวียนใกล้ถึงหน้าร้านนางกลับพบว่ามีลูกค้ามากมายจนล้นออกมาหน้าร้าน หลินฉิงอันถึงกับอ้าปากค้าง นางไม่อยากจะเชื่อว่าการขายผลไม้แช่อิ่มจะมีคนสนใจมากมายขนาดนี้หลังจากหายตกใจ หลินฉิงอันให้ชุนจินอ้อมไปเข้าด้านข้างร้านเพื่อนำเกวียนเข้าไปจอดที่ลานหลังร้านแทน เมื่อลงจากเกวียนแล้ว หลินฉิงอันเดินเข้าไปยังหน้าร้านก็พบว่าทุกคนกำลังค้าขายกันอย่างสนุกสนาน ลูกค้ามากมายเข้ามาซื้อสินค้าไปคนละไม่ต่ำกว่าสองชั่ง ลูกค้าบางคนที่สั่งทีเดียวสิบชั่งเลยก็มี หลินฉิงอันเห็นว่าพวกเขากำลังยุ่งอยู่ นางจึงไปนั่งรอที่ลานด้านหลังกับชุนจิน โดยชุนจินไปนำน้ำชามาให้หลินฉิงอันด้วยตัวเอง คราวก่อนที่มาส่งเพื่อน ๆ ชุนจินก็รู้แล้วว่าครัวอยู่ตรงไหน จึงทำให้เขาสามารถดูแลคุณหนูได้อย่างไม่ยากเย็น“ข้าไม่คิดว่าการค้าของเราจะดีขนาดนี้เลยจริง ๆ” หลินฉิงอันทอดถอนใจก่อนจิบชา“นั่นเพราะสินค้าของคุณหนูอร่อยและเก็บ
อีกสองสัปดาห์จะเข้าหน้าหนาวอย่างเต็มตัวแล้ว หลินฉิงอันนึกถึงอากาศที่หนาวเย็นในปีที่แล้วขึ้นมา นางจึงคิดที่จะสร้างเกือกม้าและอานม้า รวมทั้งชุดม้า ลา สำหรับให้พวกมันใส่เพื่อป้องกันความหนาวเย็นด้วยหลินฉิงอันใช้เวลาว่างถึงสามวันวาดแบบออกมาเท่าที่นางจำได้ จากนั้นจึงนำแบบไปปรึกษากับเฉียนซื่อและเฉินกังก่อนให้พวกเขานำเงินไปสั่งทำที่ร้านตีเหล็กในเมือง นางไม่รู้ว่าราคาจะแพงมากหรือไม่จึงให้เงินพวกเขาไป 100 ตำลึงเผื่อเอาไว้ก่อน ส่วนหนังสัตว์ที่นางต้องการนำมาให้ท่านแม่กับพี่สาวหลิงฟางเย็บให้นั้นก็สั่งให้พวกเขาซื้อมาด้วยจำนวนมาก นางให้เงินพวกเขาไปอีก 100 ตำลึงเช่นกันจะได้ไม่เสียเวลากลับมานำเงินไปซื้อของหลายครั้งหลินอ้ายไม่ได้ทักท้วงอะไรที่เห็นหลินฉิงอันใช้เงินจำนวนมากในครั้งนี้ นางรู้ดีว่าบุตรสาวทำสิ่งใดก็ล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์ของคนในบ้านทั้งนั้น เรื่องชุดในบ้านที่นางเองจะมอบให้บ่าวรับใช้ก็เสร็จครบทั้งหมดแล้ว หลินอ้ายนึกถึงเสื้อคลุมกันหนาวขึ้นมาได้ นางจึงคิดจะส่งโจวซานไปสอบถามราคาที่ร้านค้าดูก่อน หากราคาแพงเกินไป นางค
สองวันต่อมา หลินฉิงอันเข้าเมืองกับชุนจินเพื่อไปรับหยกพกที่นางสั่งทำไว้ก่อนหน้านี้ หลินฉิงอันจ่ายเงินที่เหลือก่อนจะรับหยกพกมาตรวจสอบดู รูปแบบหยกที่สลักออกมาทำได้อย่างสวยงามตามที่นางวาดภาพเอาไว้ให้ช่างแกะสลัก ซึ่งหลินฉิงอันให้ช่างแกะสลักเป็นรูปผลไม้ต่าง ๆ รอบตัวหยก ตรงกลางมีคำว่า “林” สลักเอาไว้อย่างสวยงาม หยกพกของบ่าวทั้งหมดเหมือนกัน ส่วนหยกพกอีกห้าอันสำหรับคนในครอบครัวนั้น หลินฉิงอันใช้รูปเมฆมงคลและศาลากลางน้ำหลังเล็กโดยตรงกลางสลักคำว่า “หลิน” เช่นกัน เพิ่มเติมเพียงด้านหลังจะมีชื่อเจ้าของหยกแต่ละอันสลักเอาไว้ สีของหยกยังเป็นหยกมันแพะสีขาวนวล แตกต่างจากสีหยกของบ่าวในเรือนที่เป็นหยกสีเขียวธรรมดาหลังจากรับของมาทั้งหมดแล้ว หลินฉิงอันนำถุงหยกทั้งสองถุงเก็บเอาไว้ในรถม้าอย่างดี ก่อนที่นางจะไปยังร้านขายของชำเพื่อซื้อเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม รวมทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ถั่วเขียว ถั่วเหลืองเพิ่มด้วย ถึงแม้เมื่อวานทางร้านจะนำไปส่งที่บ้านนางจำนวนมาก แต่หลินฉิงอันก็ยังคงเผื่อเหลือเอาไว้อีกนิดหน่อย นางรู้ดีว่าการเ
คืนนั้นหลินฉิงอันใช้เวลาครึ่งค่อนคืนเพื่อเขียนรายการสิ่งของจำเป็น เสบียงอาหารที่จะต้องซื้อในปีนี้ให้พอเพียงกับคนจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นในครอบครัว นางคิดด้วยว่าปีที่แล้วนางชวนครอบครัวกินหม้อไฟไปแล้ว ปีนี้นางอยากให้พวกเขาได้ลองกินหมูกระทะดูบ้าง หลินฉิงอันจึงร่างแบบหม้อสำหรับทำหมูกระทะตามความทรงจำในภพก่อนออกมา ด้วยคนจำนวนมากในบ้าน หลินฉิงอันคิดจะสั่งทำหม้อสัก 50 ใบเผื่อเอาไว้ก่อน ส่วนเตานั้นนางก็จะต้องซื้อเพิ่มมาด้วยเพื่อให้พอเพียงสำหรับวางหม้อหมูกระทะที่นางต้องการหลังอาหารเช้าวันต่อมา หลินฉิงอันอ่านรายการสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ พร้อมกับเสบียงอาหารจำนวนมากให้หลินอ้ายและหลินฉางหยูฟังเป็นเวลานาน หลินอ้ายและหลินฉางหยูยังบอกรายการสิ่งของเพิ่มเติมสำหรับการนำมาเป็นเสบียงอาหารในปีนี้ด้วย พวกเขาคิดว่าคนจำนวนมากจะต้องได้กินอิ่มนอนหลับในขณะที่อยู่ร่วมกันกับพวกเขาที่หมู่บ้านหลินฉิงอันไม่ได้ปฏิเสธรายการต่าง ๆ ที่พ่อและแม่นางเสนอ หลินฉิงอันทำเพียงแค่เพิ่มรายการต่าง ๆ เข้าไปในกระดาษเท่านั้น“ลูกค
หลินฉิงอันเดินทางไปขายเก๋ากี้ทั้งหมดที่ร้านขายยาก่อน วันนี้นางได้รับเงินมากถึง 20 ตำลึง จากจำนวนเก๋ากี้ที่ทุกคนช่วยกันเก็บได้เมื่อวานนี้ นางยังบอกเถ้าแก่ด้วยว่าช่วงหน้าหนาวนางคงไม่ได้มาส่งอีก ก่อนที่หลินฉิงอันจะให้ชุนจินพาไปยังร้านขายผลไม้แช่อิ่มเพื่อนำผลไม้แช่อิ่มทั้ง 30 กระสอบไปส่งเมื่อไปถึงหน้าร้านนางก็เห็นมีลูกค้าบ้างประปราย หลินฉิงอันจึงให้ชุนจินขับเกวียนเข้าไปด้านข้างร้านเพื่อลงของแทน หลี่หมิงที่ตาไวเห็นคุณหนูของเขามาถึงจึงบอกกับหวังไห่ทันที หวังไห่จึงปล่อยให้คนอื่น ๆ เฝ้าร้านแทนและนำสมุดบัญชีไปส่งให้หลินฉิงอันตรวจสอบระหว่างที่จ้าวหลงกับชุนจินช่วยกันยกกระสอบผลไม้แช่อิ่มเข้าไปเก็บไว้ในคลังของร้าน หลินฉิงอันก็นั่งตรวจดูบัญชีย้อนหลัง นางพบว่าการค้าถึงแม้จะไม่เฟื่องฟูเท่ากับช่วงแรก ๆ แต่ก็นับว่าได้กำไรไม่น้อยเช่นเคย“พี่ชายหวัง ข้าตรวจสอบเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ท่านอย่าลืมลงจำนวนผลไม้แช่อิ่มที่นำมาครั้งนี้อีก 30 กระสอบด้วยนะเจ้าคะ”“ขอรับ
สิบวันต่อมา เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่ที่เตรียมฎีกาต่าง ๆ เพื่อถวายให้กับฮ่องเต้เกี่ยวกับความรู้ทั้งหมดที่พวกเขาได้รับจากหลินฉิงอันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ไปบอกลาเหิงอันโหวก่อนจะเดินทางกลับในเวลาต่อมาก่อนที่พวกเขาจะกลับไป หลินฉิงอันยังมอบผลไม้แช่อิ่มให้พวกเขานำกลับไปด้วยถึงสิบกระสอบเพื่อกินระหว่างทางและนำไปฝากครอบครัวด้วย ชาวบ้านในหมู่บ้านเองก็นำเกาลัดคั่วที่พวกเขาทำมอบให้ไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน เสนาบดีหลี่รู้ว่าพวกชาวบ้านนำสิ่งของเหล่านี้ไปขายในเมืองกันนานแล้ว ท่านจึงมอบเงินให้กับผู้ใหญ่บ้านหลี่นำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านเป็นการตอบแทนเจ้าเมืองเติ้งที่ทราบข่าวว่าเสนาบดีเซี่ยกำลังจะเดินทางกลับก็มาส่งพวกเขาออกจากหมู่บ้านต้าไห่เช่นเดียวกัน เสนาบดีเซี่ยยังกล่าวอีกว่าหากมีเรื่องใดที่ต้องการคำแนะนำจากหลินฉิงอัน เขาจะส่งม้าเร็วมาส่งข่าวให้ถึงหมู่บ้านต้าไห่หลินฉิงอันที่วันนี้แต่งตัวด้วยชุดขุนนางเต็มยศรับปากว่านางจะรอและยังส่งมอบเอกสารเรื่องการปรับปรุงน้ำเพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เ
สายวันต่อมา หลินฉิงอันนำเอกสารทั้งหมดที่เขียนเอาไว้เมื่อคืนไปให้กับเสนาบดีเซี่ยตรวจสอบดู เนื้อหาภายในอธิบายถึงวิธีการปรับปรุงดินแบบต่าง ๆ ตามลักษณะดินที่เสนาบดีเซี่ยบอกหลินฉิงอันเอาไว้เมื่อวานนี้ โดยนางได้แบ่งเนื้อหาให้แยกออกเป็นส่วน ๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ดินเหนียวนั้นนางให้ข้อแนะนำในการปรับปรุงโดยให้เติมทราย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือเศษใบไม้เพื่อทำให้ดินมีการระบายน้ำได้ดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการปลูกพืชหมุนเวียนเช่นพืชตระกูลถั่วสลับกับพืชหลักเพื่อปรับปรุง ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าวิธีการแรกที่นางแนะนำดินทราย หลินฉิงอันแนะนำให้ปรับปรุงดินโดยการเติมดินเหนียว ปุ๋ยหรือเศษใบไม้เพื่อให้ดินมีความหนาแน่นมากขึ้นและอุ้มน้ำได้ รวมถึงการปลูกพืชคลุมดินเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของดินทรายได้อีกด้วยดินกรด ให้ปรับปรุงดินโดยการเติมปูนขาวหรือปุ๋ยเพื่อให้ดินมีธาตุอาหารสำหรับพืชผักได้ ซึ่งปูนขาวจะช่วยปรับค่าความเป็นกรดในดินให้ลดลงดินเค็ม ให้ปรับปรุงดินโดยการล้างดินให้สะอา
ช่วงบ่าย หลินฉิงอันปล่อยให้เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่อยู่ในโรงงานผลิตตามที่พวกเขาต้องการ ส่วนนางแยกตัวออกมาและไปยังเรือนพักเพื่อคิดเรื่องที่จะทำอย่างไรให้การเกษตรในแคว้นพัฒนาไปมากกว่านี้หลินฉิงอันนำกระดาษและพู่กันมานั่งเขียนแผนผังการพัฒนาที่ดินในรูปแบบต่างๆ โดยคำนึงถึงลักษณะของดินเป็นหลัก นางอยากให้ชาวบ้านรู้จักใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่พวกเขายังมีความคิดล้าหลังและไม่คิดที่จะพัฒนาที่ดินรกร้างเพื่อทำการเกษตรเลยแม้แต่นิดเดียวช่วงสายของวันต่อมา หลินฉิงอันพาเสนาบดีเซี่ยและพวกขึ้นเขาไปดูว่าเตาเผาถ่านที่ปล่อยเอาไว้เป็นอย่างไรบ้าง ครั้งนี้ยังคงเป็นหัวหน้าองครักษ์เหลียงกับจ้าวหลงที่เดินทางตามไปด้วย เมื่อพวกเขาไปถึงเตาเผาถ่านก็เห็นว่าควันที่เคยมีมากมายตอนเริ่มเผานั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงไอร้อนที่ยังคงแผ่ออกมาตามช่องทางที่ทำเอาไว้สำหรับระบายควันเท่านั้น“ข้าคิดว่าเตาเผาน่าจะได้ที่แล้วเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวให้จ้าวหลงเป็นคนเปิดหน้าเตาเพื่อความปลอดภัยก็แล้วกันนะเจ้าคะ
กว่าที่คนทั้งหมดจะลงจากเขา ก็เป็นเวลาก่อนอาหารเย็นเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว หลินฉิงอันขอตัวไปเข้าครัวตามที่นางตั้งใจ โดยมีจ้าวหลงสะพายตะกร้าปลาที่จับมาได้จนเต็มตามหลังไปติด ๆ ส่วนเสนาบดีเซี่ยกับคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะออกก่อนจะมานั่งสนทนากับเหิงอันโหวที่ลานหน้าบ้านรอทานอาหารเย็นที่หลินฉิงอันกับบ่าวกำลังทำกันอยู่“พวกเจ้าขึ้นเขาไปเป็นอย่างไรบ้างเล่า”“เรียนท่านโหว วันนี้พวกเราได้ทดลองทำเตาเผาถ่านด้วยตัวเองขอรับ นับว่าการมาครั้งนี้พวกเราได้รับความรู้เพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว”“นั่นก็ดีแล้ว แม่หนูฉิงอันของข้ามีความสามารถมากใช่ไหมเล่า พวกเข้าก็เรียนรู้จากนางให้มาก ๆ ต่อไปจะได้นำไปพัฒนาบ้านเมืองช่วยฝ่าบาท”“ขอรับ ท่านโหว” ทั้งห้าตอบรับเสียงดังจนเหิงอันโหวได้แต่ทำตาเขียวใส่“พวกเจ้าจะเสียงดังให้คนอื่นได้ยินหรืออย่างไร ฮึ่ย!”&ldqu
เย็นวันนั้นหลินฉิงอันร่วมโต๊ะกับเสนาบดีเซี่ยและขุนนางทั้งสี่พร้อมกับคนในครอบครัวเช่นเคย ส่วนทหารทั้งหมดที่กำลังสร้างที่พักอยู่ก็ได้รับการดูแลจากบ่าวในเรือนพักฝั่งตรงข้าม ตอนนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วจนสามารถสร้างเรือนพักไปได้ถึงห้าหลังแล้ว เหลือเรือนพักอีกหนึ่งหลังก็สามารถให้ทุกคนที่มาพักผ่อนกันได้โดยไม่แออัด เพราะเรือนพักหลังหนึ่งสามารถเข้าพักได้ถึงยี่สิบคน ห้องน้ำต่าง ๆ ก็ถูกสร้างขึ้นมาประจำเรือนพักทั้งห้าหลังด้วยเช่นกัน นางต้องขอบคุณการควบคุมการก่อสร้างของนายช่างหวังจึงทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งทหารที่มายังมีวรยุทธ์สูงส่ง การทำงานที่ชาวบ้านธรรมดาต้องใช้เวลานานจึงแตกต่างจากทหารเหล่านี้ที่สามารถลดเวลาการทำงานได้มากกว่าครึ่งหลังอาหารเย็นสองชั่วยาม เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่ที่ยังคุยกันอยู่ที่ห้องโถงรับแขกเรือนหลักก็ขอตัวลาไปพักผ่อนยังเรือนพักของที่ดินอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเครื่องนอนต่าง ๆ ทหารที่มาจำนวนหนึ่งนำเกวียนลาของบ้านหลินไปซื้อมาจากในเมืองไห่ตงก่อนเวลาอาหารเย็นแล้ว อีกทั้งทางร้านยังจัดส่งตามมาให้จนครบจำนวน