เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็เป็นไปตามที่เจียงจวินคิดเอาไว้ ป้าเซียวบ่นเซียวซาไปไม่น้อย แต่กลับไม่ได้ตำหนิเธอเลยแม้แต่คำเดียว ป้าเซียวบอกว่าเธอรู้มาตลอดว่าเซียวซาชอบพอเจียงจวิน และเซียวซาก็คงบังคับซื้อของให้เธอ ป้าเซียวจึงเรียกเธอมาคุยในห้อง ก่อนจะเอ่ย
"ป้าไม่ได้คิดจะขัดขวาง แต่เจียงจวินเธอเป็นเด็กดีขนาดนี้ หากจะมาอยู่กับคนไม่เอาไหนอย่างเซียวซาจริงๆ เธอจะทนได้หรือ ป้าไม่อยากให้เธอต้องมาเสียเวลากับเขา อีกอย่างเธอคงพอได้ยินมาบ้างว่าเขามีดวงกินภรรยา"
เจียงจวินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน การเข้ามาอยู่ในบ้านเซียวแรกเริ่มเธอคิดว่าช่างเป็นเรื่องที่แสนจะโชคร้าย แต่ทว่านานวันเข้ามันกลับไม่เป็นแบบนั้น
ทุกคนดีกับเธอและน้องมากเหลือเกิน ดีเสียจนเธอรู้สึกผิดที่เคยมีอคติกับพวกเขา
เมื่อได้ยินที่ป้าเซียวพูด เจียงจวินจึงยิ้มออกมาก่อนจะตอบ
"หนูไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลอย่างการมีดวงกินภรรยาพวกนั้นหรอกค่ะป้าเซียว หนูบอกเขาแล้ว หากเขาเป็นคนดีได้ หนูถึงจะยอมคบหากับเขา หากไม่ได้ ก็เป็นเพียงเจ้าหนี้และลูกหนี้กันไป"
ป้าเซียวถอนหายใจออกมาเล็กน้อย มีหรือเธอจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวดีทำอะไรเอาไว้บ้าง ใช้ได้ที่ไหนกันไปคิดหนี้กับเจียงจวิน เงินหนึ่งพันหยวนนั้นให้มันแล้วไปเถอะ ถือว่าช่วยเด็กสาวสองคนให้พ้นจากขุมนรก เธอเองไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ
"ป้าไม่เคยคิดว่าเธอเป็นหนี้ป้าเลยนะ ถ้าวันหน้าเธอไม่มีที่ไปป้าก็ยังยินดีให้เธออยู่กับป้าที่นี่ตลอดไป"
"ขอบคุณมากๆ นะคะป้าเซียว ป้าดีกับฉันมากจริงๆ"
"เป็นสิ่งที่ควรทำ เธออยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถิด เรื่องที่เซียวซาจะดีหรือไม่ดีช่างเขาเถิด โตจนป่านนี้ย่อมสั่งสอนกันยาก ผิดที่ป้าเองที่ตามใจเขามาตั้งแต่เด็ก เจียงจวิน หากเซียวซารังแกเธอ เธอต้องรีบบอกป้านะ"
"ค่ะป้าเซียว"
"ไปพักเถอะ พรุ่งนี้เราไปที่สวนผักกัน"
เจียงจวินพยักหน้าก่อนจะไปนอนพัก เมื่อเข้ามาในห้องก็พบกับเจียงเป่าที่หลับไปแล้ว ป้าเซียวบอกว่าวันนี้เด็กน้อยกินขนมไปไม่น้อยเลย อีกทั้งยังเลี้ยงง่าย ป้าเซียวชอบเด็กมากจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเลยเวลาที่เลี้ยงเจียงเป่า ป้าเซียวบอกว่าเมื่อเห็นเจียงเป่าก็ทำให้รู้สึกคิดถึงลูกสาวที่แต่งงานออกไปซึ่งก็คือเซียวหยี่นั่นเอง เซียวหยี่ตอนเด็กๆ นั้นเลี้ยงง่ายเหมือนเจียงเป่าเลย
เมื่ออาบน้ำเรียบร้อย เจียงจวินก็มานั่งอ่านหนังสือที่หน้าห้องซึ่งติดกับระเบียง สายลมเย็นพัดผ่านมาเป็นระยะ ในขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือก็ปรากฏว่ามีห่อขนมห่อหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของเธอ เจียงจวินเงยหน้าไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นเซียวซานั่นเอง
เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังส่งยิ้มให้เธอ กลิ่นสุราอ่อนๆ โชยมาจากตัวเขา เจียงจวินปิดหนังสือลง ก่อนจะหันมาพูดกับเขา
"ไหนคุณบอกว่าจะไม่ไปร้านสุราแล้ว ทำไมยังไปอีกล่ะ"
เซียวซาเม้มริมฝีปาก ก่อนจะตอบ
"วันนี้วันเดียวแล้ว วันต่อไปพี่จะไม่ไปแล้ว เจียงจวินอย่าโมโหพี่เลยนะ ดูสิพี่ซื้อขนมหม่าเถียวมาฝากเธอด้วยนะ รีบกินเร็วเข้า อ้อ พี่ซื้อมาไว้ให้เจียงเป่าด้วยแหละ"
เจียงจวินมองดูขนมตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมองเซียวซาอีกครั้ง พบว่าแววตาของเขาเป็นประกาย ท่าทีที่ออดอ้อนเธอราวกับเด็กน้อยมันทำให้เธอรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจอย่างแปลกประหลาด เธอยื่นมือไปรับห่อขนมมาจากมือเขา ก่อนจะแกะขนมออกมากิน ขนมหม่าเถียวเป็นขนมกินเล่นที่คนนิยมกันมาก มันทำมาจากแป้งข้าวเหนียวสอดไส้ถั่วแดงคลึงเป็นแท่งคลุกด้วยงาขาว รสชาติหวานอร่อยเหลือเกิน
เซียวซามองดูเจียงจวินกินขนมก็มีความสุขไม่น้อย เจียงจวินกลืนขนมลงคอและพูดกับเขา
"พรุ่งนี้จะไปสวนผัก คุณต้องไปด้วย"
เซียวซาหันขวับมามองเจียงจวินทันที ตั้งแต่เล็กจนโตนอกจากส่งผักแล้วเขาเคยทำสวนช่วยพ่อแม่เสียที่ไหนกัน
"เจียงจวิน พี่ไม่ไปได้ไหม"
"หากคุณไป ฉันจะเรียกคุณว่าพี่ หากไม่ไป ฉันก็ไม่อยากสนิทกับคุณอีกแล้ว"
เซียวซาได้ยินเจียงจวินยื่นข้อเสนอแบบนี้มาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาจึงรีบตกปากรับคำเธอทันที
เช้าวันต่อมาหลังจากกินอาหารเช้าแล้ว เจียงจวินก็จูงมือเจียงเป่าเดินตามป้าเซียวไปที่สวนผักทันที โดยมีเซียวซาที่ถืออุปกรณ์ทำสวนติดตามไปด้วย เมื่อมาถึงก็พบว่าคนงานกำลังทำงานอย่างแข็งขัน บางคนรดน้ำสวนดอกไม้ บางคนพรวนดิน บางคนกำลังเก็บผลไม้ที่ออกผลผลิต บางคนก็รดน้ำผัก
"เด็กดี นั่งรอใต้ต้นไม้ก่อนนะ หากหิวก็กินขนมหม่าเถียวรอพี่สาวไปก่อนนะ"
"ค่ะพี่"
เจียงจวินเอ่ยกับเจียงเป่าอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินเข้ามาหาเซียวซา เธอเม้มริมฝีปากก่อนจะเอ่ยเรียกเขา
"วันนี้ป้าเซียวบอกว่าจะขึ้นร่องผักใหม่ พี่มาช่วยฉันทำสิ ฉันลองถามคนงานดูแล้ว เขาสอนฉันเมื่อครู่นี้แล้วมันไม่ยากเลย ฉันจะสอนพี่ทำต่อเอง"
หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาว่าพี่อย่างไม่เต็มปากเต็มคำเท่าใดนัก เซียวซาดีใจจนแทบบ้า เขาพยักหน้าตกลงทันที
แต่ทว่าทำไปครึ่งค่อนวัน เซียวซาก็ไม่ไหวเสียแล้ว เขาไม่เคยทำงานหนักเลย วันๆ เอาแต่เที่ยว แต่ทว่าเมื่อหันไปมองเจียงจวินที่ส่งสายตามองมาที่เขา เซียวซาก็รีบดีดตัวลุกขึ้นไปทำงานต่อทันที
เจียงจวินยื่นน้ำส่งให้เขา ก่อนจะสังเกตว่าเขามีท่าทีกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด เธอจึงรีบเอ่ยถาม
"พี่เป็นอะไร"
เซียวซาถูมือตนเองไปมา ก่อนจะเงยหน้ามามองเจียงจวินครั้งหนึ่ง
"เจียงจวิน พี่อยากดื่มสุรา เธอก็รู้ว่ามันไม่อาจเลิกได้ง่ายๆ ในวันเดียว"
เจียงจวินที่ได้ยินแบบนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอเคยได้ยินว่าหาเร่งรัดเลิกดื่มภายในวันเดียวหรือรวดเร็วเกินไป อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ เธอจึงเดินมาทิ้งกายนั่งข้างๆ เขา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาชุบน้ำและเช็ดไปตามใบหน้าของเขาที่ยามนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดิน ก่อนจะพูดกับเขา
"ขอโทษด้วย ฉันลืมไปว่าพี่ดื่มมันมานาน แต่พี่รู้ไหมว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ หากวันหน้าฉันแต่งกับพี่ แล้วพี่ตายไปฉันก็ต้องเป็นม่าย ต้องมีสามีใหม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่จะตายอย่างสงบได้เหรอ"
เซียวซาได้ยินแบบนั้นก็รีบพูดทันที
"พี่ไม่มีทางให้เธอมีสามีใหม่แน่นอน หากใครคิดจะมาเป็นสามีใหม่เธอ ต่อให้พี่ตายพี่ก็จะตามมาหลอกมัน"
เจียงจวินยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดกับเขาต่อ
"เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฉันจะให้พี่กิน แต่พี่ต้องกินไม่เยอะ กินแค่พออยากกิน และที่สำคัญพี่ต้องทำงานที่สวนกับฉันจนงานแล้วเสร็จถึงจะไปดื่มสุราได้ พี่ทำได้ไหม พี่ไม่สงสารพ่อแม่พี่เหรอ พวกท่านแก่มากแล้ว พี่ชายของพี่ก็อยู่ไกลบ้าน พี่สาวก็แต่งงานออกไปแล้ว พวกท่านเหลือแค่พี่แล้วนะ ที่ฉันอยากให้พี่ทำงาน เลิกกินเหล้าไม่ใช่เพื่อฉันเท่านั้น แต่เพื่อพ่อแม่ของพี่ด้วย พี่คือความหวังของพวกท่านนะ พี่เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม"
เซียวซาจ้องมองเจียงจวินด้วยสายตาที่อ่อนโยน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย และยื่นมือมาบีบแก้มของเธออย่างเอ็นดู เจียงจวินเจ็บจึงยกมือทุบไปที่หลังเซียวซาหนึ่งครั้งจนเขาร้องโอดโอย
"เจ็บนะ"
“เจ็บสิดี จะได้รู้สึกเสียบ้าง”
“โธ่ จับแก้มเท่านั้นเอง”
เจียงจวินถลึงตาใส่เซียวซา ก่อนจะเอ่ยกับเขา
"พี่ไปพักเถอะ ฉันขอทำต่ออีกหน่อยก็จะกลับแล้ว"
"ได้ครับ"
เซียวซารับคำ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเจียงเป่าที่กำลังกินขนม เขาทิ้งกายลงนั่งและมองเด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาที่เอ็นดู
"เป่าเปา ขนมอร่อยหรือไม่"
เจียงเป่าเงยหน้ามามองเซียวซา ก่อนจะยิ้มตาหยีและพยักหน้าตอบรับ
"อร่อยมากค่ะ"
"ดีมาก ไว้พี่จะซื้อมาให้กินอีกนะ"
เจียงเป่าพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนจะขมวดคิ้วและพูดกับเซียวซาด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา
"พี่ชายคะ หากเป่าเปาได้กินขนม แต่พี่สาวต้องถูกพี่ชายกัดปากทุกครั้ง เป่าเปาไม่กินก็ได้ค่ะ เป่าเปาเป็นห่วงพี่สาว ไม่อยากให้ปากพี่สาวขาด"
เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะชอบใจออกมา ก่อนจะยื่นมือไปลูบศีรษะเจียงเป่า
"ก็ได้ พี่ชายจะไม่กัดปากพี่สาวของเป่าเปาแล้ว"
"พี่ชายใจดีมากเลยค่ะ"
เซียวซายิ้มตาหยี ก่อนจะครุ่นคิดในใจ
ไม่กัดต่อหน้าเป่าเปาหรอก ค่อยกัดตอนเป่าเปาหลับต่างหากเล่า
เซียวซามองดูเจียงจวินอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดจะนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า แต่ไม่นานนักพ่อก็เดินมาบอกว่าให้เขาช่วยแบกปุ๋ยกลับไปเก็บที่ห้องเก็บของ เขาจึงต้องกลับบ้านไป เมื่อกลับมาถึงก็พบกับเซียวหยี่ พี่สาวที่เพิ่งแต่งงานออกไปสองเดือนกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในบ้านเซียวซามองดูเซียวหยี่ที่ตอนนี้ใบหน้าบวมช้ำคล้ายเพิ่งถูกคนทุบตีมา ก็พอจะคาดเดาเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดีสองเดือนก่อนเซียวหยี่แต่งงานออกไปกับสามีต่างหมู่บ้านถัดไป ผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่าเฉินซิง มีอาชีพทำสวนผักเช่นเดียวกับบ้านของเขา ค่อนข้างมีฐานะในระดับหนึ่ง แต่ทว่าชอบดื่มสุราเหมือนเขา เพียงได้เห็นหน้าเฉินซิงครั้งแรกเขาก็พอมองนิสัยออกแล้ว เพราะเขาเองก็ชอบดื่มเหล้า แต่เขาเองไม่เคยทำร้ายใครหากใครไม่มาหาเรื่องเขาก่อนแต่กับเฉินซิงไม่ใช่ เขาเป็นพ่อม่ายได้ยินว่าทุบตีภรรยาคนเก่าจนพิการและเลิกกันไป ส่วนภรรยาคนที่สองทนเฉินซิงไม่ไหวต้องจ้างเขาเลิกด้วยเงินถึงสามร้อยหยวน จนมาถึงภรรยาคนที่สามก็คือเซียวหยี่พี่สาวของเขาเซียวหยี่ดื้อรั้นไม่สนใจคำพ่อแม่ที่เตือน จึงถูกเฉินซิงใช้อุบายหลอกล่อจนตกเป็นภรรยา เมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้วก็ย่อมไม่อาจทำสิ
รุ่งเช้าของวันต่อมา เซียวซา เจียงจวิน และเซียวหยี่ก็ขับรถข้ามหมู่บ้านไปที่บ้านเฉินในทันที ระหว่างทางเซียวหยี่มองเจียงจวินเป็นระยะ เมื่อเช้าตื่นนอนมาได้ยินแม่พูดว่าอีกไม่กี่วันจะแต่งเจียงจวินเข้าบ้านเซียวเป็นสะใภ้ บอกว่าเธอถูกเซียวซาเอาเปรียบ แต่เท่าที่เซียวหยี่มองเห็นกลับรู้สึกว่าสองคนนี้ดูจะชอบพอกันเป็นอย่างมากเธอเป็นคนจิตใจดี ทำให้สามารถพูดคุยกับเจียงจวินได้อย่างสนิทสนมในระยะเวลาอันสั้น เมื่อพูดคุยกันก็รู้สึกว่าถูกคอ เซียวหยี่ก็รู้สึกชอบเจียงจวินเป็นอย่างมากใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงบ้านเฉิน เมื่อมาถึงคนทั้งหมดก็เดินลงจากรถ ทันทีที่ลงมาก็เห็นเฉินซิงกำลังนั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้านพอดี เฉินซิงที่เห็นว่าผู้เป็นภรรยากลับมา ก็พูดขึ้นมาทันที"ไง นังตัวดี ไสหัวกลับมาแล้วเหรอ เสนอหน้ามาทำไม ไม่อยู่บ้านพ่อแม่แกไปเลยล่ะ"เซียวหยี่กำมือแน่น พยายามระงับโทสะ ก่อนจะเอ่ยตอบ"ฉันมาเก็บของ ต่อไปนี้จะไม่อยู่กับคนชั่วๆ แบบแกอีกแล้ว"เฉินซิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาและมองเซียวหยี่อย่างดูถูก"ของของแกฉันเผาทิ้งไปหมดแล้ว ส่วนของมีค่าฉันก็เอาไปขายมาซื้อเหล้ากิน อ้อ เงินที่เหลือยังไปซื้อผู้หญิงขาย
ท้ายที่สุดเซียวหยี่ก็กลับมาอยู่ที่บ้านเซียว กว่าเธอจะทำใจยอมรับและลืมภาพที่เฉินซิงตายไปในวันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เซียวหยี่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอนอนฝันร้ายแทบทุกคืน ถึงขนาดที่ป้าเซียวต้องมานอนเป็นเพื่อนลูกสาวตนเองเพื่อให้เซียวหยี่หายกลัว เจียงจวินสงสารเซียวหยี่เป็นอย่างมาก แต่ก็นับว่าโชคดีที่คนอย่างเฉินซิงตายไปจากโลกใบนี้ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเซียวหยี่คงจะลำบากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอนเมื่อมรสุมครั้งนี้ผ่านพ้นไป บ้านเซียวก็จัดงานแต่งงานให้กับเซียวซาและเจียงจวิน ด้านเจียงเป่าที่ยังเด็กและไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ก็เอ่ยถามพี่สาวของตนเองด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา"พี่คะ ทำไมพี่ต้องแต่งงานกับพี่ชายด้วยล่ะคะ"เจียงจวินที่ได้ยินเจียงเป่าเอ่ยถามก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะอุ้มเจียงเป่าขึ้นมา และเอ่ยกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่รักใคร่เอ็นดู"เป่าเปา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูต้องเชื่อฟังพี่เซียวซาด้วยนะ เราจะอยู่ที่บ้านเซียวไม่ไปไหนอีกแล้ว คนบ้านเซียวดีกับเรา พี่เซียวซาก็ดีกับเราสองคนมาก เจียงเป่าต้องดีกับคนบ้านเซียวนะคะ รู้ไหม"เจียงเป่าพยักหน้าทั้งที่ไม่เข้าใจ แต่เด็กหญิงก็ไม่เอ่ยถา
เช้าของวันต่อมา เจียงจวินตื่นนอนมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะป่วยเป็นไข้ยังไงยังงั้น เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับเซียวซาที่กำลังนอนมองเธออยู่บนเตียง เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ทำให้หญิงสาวอับอายจนต้องยกผ้าห่มขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตัวเองเอาไว้ เซียวซากอดภรรยาเอาไว้แน่น ก่อนจะกระซิบเสียงเบา"อีกรอบไหม""คนบ้า!! ฉันจะตื่นนอนไปอาบน้ำและทำอาหารแล้ว"เจียงจวินทำท่าจะลุกขึ้น แต่เซียวซากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป"จะรีบตื่นไปทำไมกัน เธอไม่ใช่แม่บ้านแล้วนะ แต่เธอคือภรรยาของฉัน เป็นสะใภ้บ้านเซียวเชียวนะ ใครกล้าใช้งานเธอ ฉันไม่ยอมหรอก"เจียงจวินที่ได้ยินเซียวซาพูดแบบนั้นก็ยกมือขึ้นตีแขนเขาครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูด"ได้ที่ไหนกัน คนเราต้องทำงาน ฉันไม่ใช่พวกชอบเอาแต่นอนนะ รีบตื่นแล้วไปช่วยพ่อกับแม่ทำงานที่สวนได้แล้ว""โธ่ นอนต่ออีกหน่อยเถิดภรรยาครับ""ไม่ได้!!! ลุกขึ้นมา""ภรรยาครับ""ไม่ลุกก็ไม่ต้องนอนในห้องนะคืนนี้น่ะ"เซียวซาทำท่าคอตกหมดแรง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นจากเตียง เขาลุกขึ้นยืนทั้งที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า เจียงจวินยกมือขึ้นปิดปากตนเอง พลันหันหน้าหนี"หันหน้าหนีทำไม มันเป
เช้านี้อาการค่อนข้างดีไม่น้อยเลย เจียงจวินตื่นนอนแต่เช้า เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าสามีกำลังนอนหลับอยู่ เธอไม่อยากจะปลุกเขา จึงให้เขานอนต่อ เมื่อจัดการล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินมาที่ด้านหลังบ้าน ที่ตรงนี้แม่สามีใช้มันปลูกผักสวนครัวเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้กินในบ้าน จะได้ไม่ต้องเดินไปเก็บที่สวนให้เหนื่อย เจียงจวินมองไปโดยรอบ คิดว่าจะหาผักมาทำอาหารเสียหน่อย เมื่อวานนี้พ่อสามีเข้าเมือง จึงซื้อสาลี่หิมะมาฝากคนในบ้าน เธอคิดว่าจะทำสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนเสียหน่อย เมี้ยว!!เจียงจวินที่กำลังนั่งเก็บผักก็พลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง และพบกับแมวสีขาวราวกับหิมะตัวหนึ่งที่กำลังจ้องมองเธออยู่ มันยืนอยู่บนขอบบ่อตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกลเท่าไรนัก พร้อมกับจ้องมองเจียงจวินอย่างไม่ลดละเธอก็อยู่ที่นี่มาตั้งระยะหนึ่งแล้ว แต่ทำไมไม่เคยเห็นแมวตัวนี้เลยนะ"เจ้าแมว"เจียงจวินเอ่ยเรียกเจ้าแมวสีขาวตัวนั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เจ้าแมวขาวเอียงคอมองเจียงจวิน ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา"เจ้าเห็นข้าด้วยหรือ"เจียงจวินตัวแข็งทื่อ เธอขยี้ตาก่อนจะเงี่ยหูฟังอีกรอบ แมวพูดได้เหรอ?เจ้าแมวหิมะตัวนั้นทำหน้าราวกับเ
เมื่อกินอาหารอิ่มแล้ว เจียงจวินจึงเอ่ยกับแม่สามีทันที"แม่คะ ฉันคิดว่าอยากจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวค่ะ และจะชวนพี่เซียวหยี่มาทำด้วยกัน พี่เซียวหยี่ไม่เคยทำสวนเลย เธอบอกว่าอยู่บ้านอย่างเดียวรู้สึกไม่สบายใจ ฉันจึงอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวขายในราคาไม่แพงมาก จะได้ช่วยกันทำกับพี่เซียวหยี่สองคน แม่คิดว่าดีไหมคะ"แม่สามีบ้านเซียวที่ได้ยินเแบบนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย ส่วนพ่อสามีของเธอนั้นไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไร หลังแต่งงานเจียงจวินกลับรู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ"เอาตามที่เธอว่าเถอะ แม่จะออกทุนให้เอง ขายของอย่างไงก็ยังได้เงินทุกวัน""ขอบคุณมากนะคะแม่""ขอบคุณอะไรกัน คนในครอบครัวทั้งนั้น เธอขยันทำงานแม่มีหรือจะไม่สนับสนุน"เซียวซามองเจียงจวินด้วยแววตาที่ภาคภูมิใจ ภรรยาของเขาขยันมากขนาดนี้ มีหรือเขาจะไม่ดีใจเมื่อตัดสินใจว่าจะทำแล้ว เจียงจวินก็ลงมือทันที เธอมีความรู้เรื่องการทำอาหารมาไม่น้อยเลย จึงรู้วิธีการนวดแป้งและการทำน้ำซุปบะหมี่ เจียงจวินตักน้ำจากในบ่อมาใช้ โดยมีเซียวหยี่คอยช่วย เซียวหยี่มองเจียงจวินก่อนจะเอ่ยถาม"นี่น้องสะใภ้ บ่อน้ำนี้ที่บ้านไม่ค่อยได้ใช้ มันจะสะอาดจริงเหรอ ปกติก็ใช้บ่อน้ำอีก
เช้าของวันต่อมา เป็นวันที่เจียงจวินกำลังจะเปิดร้านบะหมี่อย่างเป็นทางการแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากิจการจะเป็นยังไง แต่เธอกับเซียวหยี่ก็จะตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ"บะหมี่หมูสองเหมาจ้ะ บะหมี่เนื้อสามเหมาจ้ะ"เจียงจวินเอ่ยกับผู้คนที่ผ่านไปมา หมู่บ้านชิงหลงแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ผู้คนก็มีไม่น้อย เพียงวันเดียวร้านบะหมี่ของเจียงจวินก็ถูกพูดถึงกันปากต่อปาก ทำให้ขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เจียงจวินยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ก่อนจะหันไปพูดกับเซียวหยี่"พี่เซียวหยี่ วันนี้เราได้กำไรไม่น้อยเลย"เซียวหยี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจพร้อมกับพยักหน้า"หากได้ไปขายในเมืองจะดีแค่ไหนกันนะ แต่ตอนนี้หนทางยังคงลำบากอยู่ บ้านเราแม้จะไม่ห่างจากตัวเมืองมาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะไปกลับได้ คงเหนื่อยไม่น้อยเลย"เจียงจวินครุ่นคิดตามคำพูดของเซียวหยี่ หากได้ไปขายในเมืองก็คงจะดีสินะด้านเซียวซานั้น เขารู้ว่าตัวเองทำผิดจึงไม่กล้ามาเข้าใกล้เจียงจวิน ทำได้เพียงมองเธออยู่ห่างๆ ก่อนจะหันไปมองเจียงเป่าที่กำลังใช้ตะเกียบคีบบะหมี่ขึ้นมากิน เพราะยังเด็กนัก จึงทำให้คีบๆ หลุดๆ อยู่แบบนั้น เซียวซายื่นมือไปหยิบตะเกียบมาจากเด็กหญิงตัวน้
เช้าวันต่อมาเมื่อได้ยินว่าเซียวซาและเจียงจวินจะเข้าเมือง และคิดจะไปเยี่ยมแม่ของเย่ซวง สองสามีภรรยาบ้านเซียวจึงฝากผลไม้ให้เซียวซาและเจียงจวินไปมอบให้แม่ของเย่ซวงด้วย คนป่วยอย่างไรหากได้กินผลไม้ดีๆ ร่างกายก็ย่อมฟื้นฟูได้รวดเร็วแรกเริ่มคิดจะพาเจียงเป่าไปด้วย แต่เจ้าตัวแสบกลับติดแม่สามีของเธออย่างกับอะไรดี บอกว่าจะไปช่วยทำสวนผัก ไม่อยากนั่งรถไกลๆเมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซียวซาและเจียงจวินก็ออกเดินทางทันที ครั้งนี้มีเซียวหยี่ติดตามไปช่วยซื้อของด้วย ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงตลาด ตลาดในเมืองค่อนข้างคึกคักกว่าตลาดในชนบทมากนัก อีกทั้งยังมีของให้เลือกมากมาย ทั้งของสด ผักสด เนื้อหมูสด เจียงจวินคำนวณค่าใช้จ่ายต้นทุนที่ต้องใช้ และเลือกซื้อของเท่าที่จำเป็น ทั้งสามคนเดินจ่ายตลาดอยู่นาน ก่อนจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลใหญ่ทันทีเพราะไม่อยากสิ้นเปลืองเงินซื้ออาหารกลางวันในเมืองกิน เพราะรู้ดีว่าราคาไม่ค่อยถูกเหมือนอาหารของคนชนบท เจียงจวินจึงทำอาหารใส่กล่องมาสามกล่อง เธอมอบให้เซียวซาและเซียวหยี่คนละกล่อง เมื่อกินอาหารอิ่มแล้ว จึงมาที่โรงพยาบาลใหญ่ เพื่อเยี่ยมแม่ของเย่ซวงเมื่อมาถึงและได้
ระยะนี้เซียวตั๋วอาการดีขึ้นมาก แม้ขาจะเดินกะเผลกๆ แต่เขาก็ทำงานหลายอย่างได้มากขึ้น เซียวซาและเจียงจวินเองก็ไม่เอาเปรียบพี่ชายพี่สาว หากขายได้เยอะก็แบ่งกำไรให้เสมอ กลายเป็นเซียวตั๋วและเซียวหยี่ที่เกรงใจคนทั้งสองเจียงจวินมองดูภายในร้าน คิดว่าอาจจะต้องจ้างคนมาเพิ่ม หลายวันก่อนเยี่ยนอิงมาเยี่ยมเธอพร้อมกับเยี่ยนชาง คนทั้งสองบอกว่ามีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล เป็นที่ของคุณปู่เขาเอง หากเธออยากซื้อเขาขายให้สามพันห้าร้อยตำลึง เป็นที่ดินผืนไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก เดิมทีอยากจะลดราคาให้ แต่ที่ผืนนั้นราคาดี ไม่อาจที่จะลดราคาได้มากกว่านี้แล้ว เจียงจวินเองขอปรึกษากับเซียวซาเสียหน่อย เพราะราคาที่ว่านั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่เซียวซากลับบอกว่าแล้วแต่เธอ หากเธออยากซื้อเขาเองก็ไม่คัดค้านอะไรวันนี้คนในร้านค่อนข้างที่จะมากอยู่ ผู้คนต่างเข้ามาในร้านจนกระทั่งถึงเวลาเย็น บะหมี่ก็ขายดีจนหมด แม้กระทั่งสุราของเซียวซาก็ไม่เหลือ ในขณะที่กำลังจะเก็บร้านกันอยู่นั้น ก็มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน "เจียงจวิน นั่นเธอใช่ไหม"เจียงจวินที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคิดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเ
โรงพยาบาลใหญ่"ดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก ราวกับสติของเขาหลุดลอยไปไกลแล้ว เขาทั้งยิ้มทั้งทำหน้าตาเหมือนคนมึนงง จนเซียวตั๋วต้องพูดขึ้นมา"อาซา เมียแกท้องแล้ว!!!"อาซาพลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ"ปะ แปดสัปดาห์คืออะไรเหรอครับคุณหมอ"เขามึนงงไปหมดแล้ว สมองตอนนี้คิดหรือนึกภาพอะไรไม่ออกเลย หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทีของคุณพ่อมือใหม่ก็เป็นแบบนี้กันทุกคน"สองเดือนครับ""สองเดือน""ครับ""ขอบคุณครับหมอ ผมต้องดูแลเธอยังไงบ้างครับ""คุณพ่อใจเย็นนะครับ ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไร แค่ให้เธอนอนพักให้มากๆ กินอาหารมีประโยชน์ ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้เธอทำงานหนักก็พอครับ""ครับๆ ผมจะทำตามที่คุณหมอบอกครับ""ครับ อย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอยิ้มให้เซียวซาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป เซียวซาหันมามองเซียวตั๋ว ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ"พี่ใหญ่ เมียผมท้องแล้ว"เขาโผเข้ากอดเซียวตั๋วด้วยความดีใจ หลัวจื่อชิวมองภาพตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยครั้งนี้เขาควรตัดใจจากเธอแล้วจริงๆ สินะ ดูแล้วเธอก็คงมีความสุขดีกับค
เช้าวันต่อมาเจียงจวินและเซียวซาตื่นแต่เช้า สองสามีภรรยาเตรียมจะเข้าเมืองเพื่อไปทำความสะอาดร้าน วันนี้เธอพาเจียงเป่าและเจ้าแมวเป่าเป้ยไปด้วย เจียงเป่าค่อนข้างตื่นเต้นเหลือเกิน ส่วนเจ้าแมวเป่าเป้ยก็รู้สึกว่าวันนี้ตนจะได้ไปเปิดหูเปิดตาเสียทีหลังจากที่เอาแต่เฝ้าบ่อน้ำมานานพวกเขายังพาเซียวหยี่และเซียวตั๋วไปด้วย จะได้พากันไปเปิดหูเปิดตา เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องอยู่แต่ในบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นไม่อยากเดินทางไกล เพราะเหนื่อยล้านั่งรถนานๆ ไม่ไหวแล้วร้านที่เยี่ยนชางให้เช่าทำเลดีและค่อนข้างกว้างขวาง เจียงจวินรู้ดีว่าที่เขาให้เช่าในราคาถูกเพราะเห็นแก่เธอ อีกอย่างเยี่ยนชางร่ำรวยขนาดนั้น เขาเองกลับไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอเลยด้วยซ้ำทุกคนช่วยกันทำความสะอาดร้านอย่างขยันขันแข็ง ส่วนเซียวตั๋วก็กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า เด็กน้อยที่ช่างพูดและชวนเขาคุย มันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจว่านับจากนี้จะตั้งใจรักษาตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานร้านก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาเที่ยงเซียวซาก็ไปซื้ออาหารมาให้ทุกคนได้กินกันรองท้อง เพราะต้องพาเซียวตั๋วไปที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษาเรื่อ
เมื่อจัดการเก็บของที่ต้องเก็บและซื้อของที่เตรียมเอาไว้ทำอาหารเรียบร้อยแล้ว เซียวซาและเจียงจวินจึงขับรถกลับบ้านเซียวกันในทันที ระหว่างทางยังไม่ลืมแวะซื้อขนมอร่อยๆ กลับไปฝากคนที่บ้านเซียวด้วยเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงเป่ากำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าแมวเป่าเป้ยที่หน้าบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อยู่ ด้านเซียวหยี่นั้นก็กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้านบะหมี่ เมื่อเห็นว่าเซียวซาและเจียงจวินกลับมาแล้ว เซียวหยี่จึงเอ่ยถามทันที"กลับมาแล้วเหรอ วันนี้กลับมาไวนะ ขายดีใช่ไหม พวกเธอสองคนกินอะไรมาหรือยัง หิวไหมพี่จะไปทำอาหารมาให้"เจียงจวินยิ้มให้เซียวหยี่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"กินมาแล้วค่ะพี่ นี่ค่ะฉันกับเซียวซาซื้อขนมมาฝากคนในบ้านด้วย""อืม พวกเธอไปพักเถอะ"เจียงจวินพยักหน้า ในขณะที่เซียวซามองไปรอบๆ บ้าน และพูดขึ้นมา"แม่ครับ พี่ใหญ่ล่ะครับ"หญิงชราที่รดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วจึงหันมามองลูกชายคนเล็ก ก่อนจะเอ่ยตอบ"อยู่ในห้องนั่นแหละ""ครับ ผมจะเอาขนมไปให้พี่ใหญ่เสียหน่อย"เซียวซาพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับห่อขนมในมือ เขามุ่งหน้าไปที่ห้องของเซียวตั๋วในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะไปที่ประ
เซียวตั๋วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที เซียวซาและเจียงจวินนั้นตกใจจนแทบเสียสติ เมื่อสอบถามเรื่องราวจากคนละแวกนั้นก็ได้ความว่า เซียวตั๋วมีเรื่องกับสามีใหม่ของเย่ซวง เขาดื่มมาเล็กน้อยจึงคิดจะไปหาเย่ซวง เดิมทีคิดจะกลับบ้านแต่กลับไม่ถึง เขาถูกคนของสามีใหม่เย่ซวงรุมทุบตีจนสาหัส ส่วนพวกที่ทุบตีก็หนีหายไปยังไม่ถูกจับ ด้านเย่ซวงนั้นก็บอกว่าเธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังพูดอีกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเซียวตั๋วแล้ว เขาต่างหากที่มารังควานเธอไม่ยอมเลิกราเซียวซายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ระยะนี้บ้านเซียวมีแต่เรื่องจริงๆ อีกทั้งเซียวตั๋วยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจียงจวินยื่นมือของตัวเองไปจับมือของเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นมา"เราควรไปแจ้งความกันก่อนนะคะ ฉันจะให้พี่จื่อชิวช่วยพวกเราอีกแรง"เซียวซาถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยักหน้าให้เจียงจวินและพากันไปที่โรงพักหลัวจื่อชิวที่เห็นสภาพเซียวซาที่เหมือนกับตีกับใครมาก็มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเจียงจวิน"พี่จะส่งคนออกตามหาพวกนั้นให้เร็วที่สุด แต่ถ้าพวกมันเป็นเพียงคนเมาก็คงจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรมากนัก แล้วพี่สามีของเธ
เซียวซาและเจียงจวินจ้องมองชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นด้วยแววตาที่เรียบเฉย เซียวซาดันเจียงจวินมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยถามหนึ่งในหัวหน้าแก๊งนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกเราจ่ายค่าเช่ากับคนที่ปล่อยเช่าไปแล้ว""เจ้าของคนไหนล่ะ ไม่เห็นรู้จักเลย ที่นี่มีแค่พี่ที่เป็นเจ้าถิ่น จ่ายมา ก่อนที่จะเจ็บตัว ที่นี่ไม่มีใครล้มพี่ได้ พวกพี่สามคนเป็นคนคุมที่นี่"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ไอ้พวกอันธพาลกวนเมืองนี่มันชอบระรานคนจริงๆ ดูแล้วคงจะทำบ่อย เพราะชาวบ้านที่มาขายของหรือพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ก้มหน้าไม่กล้าเข้ามาช่วยพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียวแต่เขาไม่กลัวหรอก"ไม่จ่าย หัดทำงานบ้าง ไม่ใช่มารีดไถเงินคนอื่นแบบนี้ มันน่าสมเพช"เซียวซาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันหลังคิดจะพาเจียงจวินกลับ แต่ทว่าชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งกลับยกมือขึ้นตบศีรษะเซียวซาจนเขามึนงง เซียวซาจึงหันไปมองอย่างเอาเรื่อง"ทำไมวะน้องชาย คิดจะสู้กับพี่เหรอ แถวนี้ไม่มีใครสู้กับพี่ได้ หากใครล้มพี่ได้พี่จะยอมนับถือเป็นลูกพี่เลย"เซียวซาโมโหแล้ว เขาจึงชกหัวหน้าแก๊งมันจนล้มหงายหลัง พวกลูกน้องสามคนที่เหลือคิดจะเข้ามาทำร้ายเซียวซา จึงช่วยกั
ทุกคนที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มตั้งสติได้และช่วยกันนำน้ำมาดับไฟไม่ให้มันลุกลามเข้ามาในตัวบ้าน แต่เพราะว่าไฟลุกโหมไหม้รุนแรงมากเกินไป เพียงไม่นานมันก็กินพื้นที่เข้ามาถึงห้องนอนของเซียวซาและเจียงจวิน เจียงจวินส่งเจียงเป่าให้เซียวหยี่อุ้มเอาไว้ ก่อนจะรีบช่วยเซียวซาและหลัวจื่อชิวดับไฟ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาช่วยเหลือ เจียงจวินมัวแต่ดับไฟจึงไม่ได้มองเห็นว่าตอนนี้หลัวจื่อชิวได้วิ่งอ้อมไปอีกทางหนึ่งแล้วหลัวจื่อชิวเป็นตำรวจ ทุกสิ่งที่ผิดสังเกตย่อมอยู่ในสายตาของเขาไม่อาจหนีรอดไปได้ หลังจากที่ไฟไหม้ไม่นานเขาก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งหนีออกไปทางหลังบ้าน เขาไม่รอช้ารีบตามไปจับเอาไว้ได้ในทันที ชายผู้นั้นดูแล้วเพิ่งจะอายุเพียงยี่สิบต้นๆ ใบหน้าก็ไม่ได้ดูดีมากนัก ซ้ำร้ายกลิ่นเหล้ายังคละคลุ้งไปทั่วทั้งร่างกาย เมื่อถูกหลัวจื่อชิวจับได้เขาก็โวยวายขึ้นมาทันที"มาจับผมทำไม!!!""แล้วนายล่ะ เผาบ้านคนอื่นทำไม!!!""ปล่อยสิวะ!!"หลัวจื่อชิวที่รู้ว่าชายคนนั้นคิดจะหนี เขาจึงใช้เท้าถีบเข้าไปที่ข้อพับขาของมันทันที จนคนถูกถีบทรุดลงไปกองกับพื้น จากนั้นหลัวจื่อชิวก็จับตัวเขาเอาไว้และ
เมื่อหลัวจื่อชิวได้ยินแบบนั้นก็พอเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ในทันที เขามองเซียวซาครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดในใจเขาจำได้ว่าวันนั้นเจียงจวินบอกว่าจะกลับกับสามี เธอจับมือผู้ชายคนนี้และเดินจากไป ที่แท้เขาก็คือสามีของเธอสินะผู้ชายคนนี้ผิวออกจะคล้ำ ไม่ได้ขาวมาก แต่กลับหล่อเหลาเหมือนกับดาราหนัง ไม่แปลกที่เจียงจวินจะหลงใหลจนยอมแต่งงานด้วย แต่คนนิสัยอย่างเจียงจวินไม่น่าจะชอบผู้ชายแบบเซียวซาง่ายดายถึงขั้นแต่งงาน มันเพราะอะไรกันนะ?หรือว่าเซียวซาบังคับขืนใจเธอเซียวซาจ้องมองหลัวจื่อชิวอย่างไม่ลดละ สายตาของหลัวจื่อชิวที่มองเขาด้วยความสงสัยและแฝงไว้ด้วยความดูแคลนเล็กน้อยนั้นเขามีหรือจะมองไม่ออก เซียวซาส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะพูด "นี่คุณ ผมจำได้ว่าครั้งก่อนที่โรงพักคุณเคยช่วยพี่ชายผมไว้ ผมต้องขอบคุณมาก แต่คุณไม่จำเป็นต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้มั้ง ทำไม คนสวนอย่างผมมันไม่สูงส่งเท่าตำรวจแบบคุณเหรอ"หลัวจื่อชิวเม้มริมฝีปากแน่น เขาไม่ได้คิดว่าตนเองสูงส่งแบบนั้นเสียหน่อย"ขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น"เซียวซาเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับหลัวจื่อชิว เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงถามหลัวจื่อชิวทันที"คุณมาถามหาภร
เมื่อเสร็จกิจแล้วสองสามีภรรยาก็นอนพักเอาแรง จนกระทั่งเวลาเย็น เจียงจวินก็รีบลุกมาทำอาหารใส่กล่องเพื่อเตรียมเอาไปให้พ่อแม่สามี ส่วนอีกสองกล่องเธอแบ่งเอาไว้ให้เซียวหยี่เซียวซา และกล่องเล็กๆ เป็นของเจียงเป่า เธอนั้นไม่ค่อยหิวเท่าไรนัก รู้สึกว่าระยะนี้ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรเซียวซาและเซียวหยี่รีบเข้ามาช่วยเธอหิ้วกล่องอาหารขึ้นไปที่รถ ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล เจียงเป่าเองก็ว่าง่ายเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเลยแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็พบว่าพ่อสามีมีสีหน้าที่ดีขึ้นมากแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้ก็คงกลับบ้านได้ สร้างความดีใจและโล่งใจให้แก่คนทั้งบ้านเซียวเป็นอย่างมากอาหารมื้อนี้ที่โรงพยาบาลแม้จะไม่ได้หรูหรา แต่มันก็อบอุ่นเหลือเกิน ทุกคนนำอาหารในกล่องมาวางรวมกัน ก่อนจะแบ่งกันกิน พ่อสามีเองแม้จะยังกินอะไรไม่ได้มาก แต่ก็รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เจียงจวินรู้สึกอบอุ่นใจ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอกลัวแทบแย่เลยวันต่อมาพ่อสามีก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาที่บ้านเซียว แต่คุณหมอสั่งห้ามว่านับแต่นี้คงจะทำงานหนักเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว พ่อสามีมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ท่านบอกว่าคนทำงานมาทั้งชีวิตอยู่ๆ จะให้มานั่งๆ นอน