แชร์

บทที่ 325

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
อวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงหน้าแดงทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น

ร่องรอยทั้งหลายตามเรือนร่างของพระชายา ไม่ต้องมองก็บอกได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

แต่พวกนางทั้งสองไม่ได้คิดเป็นอื่น เพราะด้วยความสามารถของพระชายา หากนางไม่ยินยอมถึงจะใช้เป็นร้อยเป็นพันวิธีก็ไม่สามารถจัดการนางได้

“เมื่อคืนนี้พระชายาออกไปกับท่านอ๋อง”

อวิ๋นจื่อพูดประโยคบอกเล่า

ซูชิงอู่ที่นั่งอยู่บนเตียงพยุงตัวเองขึ้น พลางเลิกคิ้วเล็กน้อย “อวิ๋นจื่อฉลาดมาก เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

อวิ๋นจื่อปิดปากยิ้ม “ก็เพราะว่าท่านอ๋องชอบทิ้งรอยไว้ที่หลังหูของพระชายาเพคะ มะ... แม้แต่หม่อมฉันเองก็คุ้นเคยกับรอยตรงตำแหน่งนั้นแล้วเพคะ”

ซูชิงอู่แตะคอตัวเองแล้วพูดว่า “จริงหรือ ข้าไม่รู้มาก่อนเลย”

เรียกได้ว่าเป็นรอยจูบที่ดูหวงแหนอย่างยิ่ง และทุกครั้งที่อวิ๋นจื่อเห็นมันนางก็รู้สึกประหลาดใจ

เพราะดูจากภายนอกแล้วท่านอ๋องดูไม่เหมือนคนที่มีนิสัยเช่นนั้น

แต่ใครจะรู้เล่า?

คนในจวนรู้อยู่แก่ใจว่าท่านอ๋องมีจุดอ่อนและจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือพระชายา

ประมาณหนึ่งชั่วยามต่อมา ทุกคนก็ลงจากเขาและขึ้นรถม้ากลับวัง

แม้ราชครูจะหายตัวไป แต่ไทเฮาก็ยังกลัวพระสนมซูเฟยมากจึงสั่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 326

    แต่เขากลัวว่าซูชิงอู่จะผลักเขาออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขยับรถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้า และทันใดนั้นซูชิงอู่ก็ลืมตาขึ้นมา “ท่านบุกเข้ามาเช่นนี้ มีใครเห็นท่านหรือไม่?”เย่เสวียนถิงตอบ “ไม่ มีคนช่วยปกปิดร่องรอยให้ ข้าจะออกไปตอนที่เราใกล้ถึงเมืองหลวง”ซูชิงอู่เลียริมฝีปากของตัวเอง สายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏบนดวงหน้าจะให้นางไม่สบายอยู่คนเดียวได้อย่างไร?“ท่านอ๋องเขยิบมาหน่อยสิ”“หืม?”ซูชิงอู่เชิดคางแล้วพูดข้างหูอีกฝ่าย “ตรงนี้ไม่มีใครเห็นหรอก ให้ข้าจูบท่านเถิด”เย่เสวียนถิงตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นจึงตระหนักได้ว่าการถูกเผาไหม้ด้วยความปรารถนานั้นเป็นอย่างไร……เหล่าองครักษ์ส่งไทเฮาและคนอื่น ๆ กลับถึงวังแล้ว อีกทั้งฮ่องเต้เฒ่าก็ทรงทราบแล้วว่าเมื่อคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นนางสนมกลุ่มหนึ่งพากันประคองไปที่ท้องพระโรงและต่างรอการซักถามไม่ขาดไปแม้แต่คนเดียวพระสนมซูเฟยถูกผลักไปด้านหน้า นางมองกลับไปทางซูชิงอู่ด้วยความกังวลนางถูกคุมตัวเพียงคืนเดียว และแม้นางจะตัวคนเดียว แต่กลับไม่ได้ถูกเอารัดเอาเปรียบแต่อย่างใดตอนนี้เจียวกุ้ยเฟยนับนางเป็นคนของตัวเอง ดังนั้นนางจึงสั่งให้คนส่งเครื่องนอน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 327

    ซูชิงอู่พิจารณารูปลักษณ์พี่ชายของซูเฟย ราชครูหลินซึ่งเป็นขุนนางผู้มีอำนาจแม้เขาจะอายุเกือบห้าสิบปีแล้ว แต่ราชครูหลินก็ยังดูอ่อนวัยมาก ผมสีดำของเขาไม่มีสีขาวแซมเลย ต่างกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่พระเกศาตรงขมับส่วนใหญ่เป็นสีขาวเขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบขุนนาง รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับซูเฟย บุคลิกแลดูเป็นคนสุภาพอ่อนโยนฮ่องเต้เฒ่าทอดพระเนตรมองไปที่ราชครูหลินแล้วตรัสว่า “เจ้าอยากจะสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องในวังหลังของข้ารึ?”ราชครูหลินรีบโค้งตัวไปพูดตอบ “กระหม่อมมิกล้า!”“ในเมื่อไม่กล้าแล้วยังมาทำอะไรที่นี่?”ราชครูหลินต่อต้านแรงกดดันอันแรงกล้าที่เล็ดลอดออกมาจากฮ่องเต้ เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “กระหม่อมเป็นผู้เลี้ยงดูซูเฟยจนเติบโตขึ้นมา กระหม่อมกับพระสนมต้องพึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงรู้นิสัยของนางเป็นอย่างดี นางไม่มีทางฝึกฝนมนตราชั่วร้ายอย่างแน่นอน ขอฝ่าบาทโปรดทรงตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้เฒ่าทรงพระสรวลเบา ๆ “แค่คำพูดจากลมปากของเจ้าก็สามารถลบล้างความผิดได้เลยเช่นนั้นรึ?”ราชครูหลินรีบตอบ “กระหม่อมขอรับประกันด้วยชีวิต ขอโปรดทรงให้เวลาก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 328

    เทคนิคคาถาอาคมทั้งหมดเป็นเพียงกลอุบายที่ใช้หลอกลวงผู้อื่นพระสนมซูเฟยที่เดินมาถึงประตูแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ เสียงหัวเราะของนางดึงดูดผู้คนมากมายให้มองมาที่นางซูเฟยได้เปลี่ยนท่าทางที่ดูอ่อนแอก่อนหน้านี้ของนางไปเป็นท่าทีเด็ดขาดนางพูดว่า “ก่อนหน้านั้นข้าก็เป็นเช่นนี้ ไทเฮามีรับสั่งให้คนจับข้าและกล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าข้าใช้คาถาอาคม ตอนนี้ทุกคนก็เป็นเหมือนกันแล้ว พวกท่านจะพูดอย่างไรดีล่ะ?”แต่ทันทีที่นางพูดจบ บรรดานางสนมที่อยู่รอบ ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามาคว้าชายกระโปรงของนาง “ท่านเป็นคนทำใช่หรือไม่? พวกเราค้นพบความลับของท่าน ท่านเลยจะแก้แค้นทุกคน!”“นั่นสิ ต้องใช่แน่ ๆ ในเมื่อท่านสามารถทำให้รอยชั่วร้ายบนร่างกายของท่านหายไปได้ ท่านก็ต้องช่วยพวกเราได้เช่นกัน มอบยาแก้พิษมาเลย!”เมื่อต้องเผชิญกับภัยอันตรายที่คุกคามถึงชีวิต นางสนมเหล่านี้ก็ไม่สนใจสิ่งใด พวกนางต้องการโยนความผิดให้ซูเฟยซูเฟยหัวเราะด้วยความโกรธเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวในวังหลังแห่งนี้ จิตใจของผู้คนช่างเลวร้ายเหลือจะทน พวกนางมองว่านางเป็นเชือกฟางช่วยชีวิตและพากันมารุมจับนางไว้แน่น ทว่าพวกนางกลับไม่รู้เลยว่าในตอนนั้น

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 329

    คำพูดนั้นพุ่งเป้ามาที่ซูชิงอู่ ทำให้ทุกคนเริ่มหันมาสนใจซูชิงอู่ยิ้มและพูดอย่างไม่รีบร้อน “หม่อมฉันรู้เพียงนิดเดียวเท่านั้นเพคะ”องค์หญิงสี่ปิดปากด้วยสีหน้าตกตะลึง “บางทีรอยชั่วร้ายนี่อาจจะเป็น…”นางพูดเพียงครึ่งหนึ่งของประโยค แต่นั่นก็ทำให้ผู้คนคิดตามบางคนที่มีสีหน้าหวาดกลัวและโกรธอยู่แล้ว เมื่อมองซูชิงอู่ก็ทำสีหน้าราวกับกำลังเจอกับโรคระบาดซูเฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล ทันใดนั้นนางก็ก้าวไปหาซูชิงอู่พร้อมดึงเสื้อของนางอย่างระมัดระวังและส่ายหัวให้นางเล็กน้อยไทเฮาและฮ่องเต้ทรงเกลียดคาถาอาคมประเภทนี้มากที่สุด หากซูชิงอู่แปดเปื้อนด้วยเรื่องนี้ มันจะต้องทิ้งภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไว้อย่างแน่นอนซูชิงอู่แสดงสีหน้ามั่นใจกับซูเฟย หันไปเผชิญหน้ากับสายตาของทุกคนแล้วพูดว่า “หมหลวงซุน ดูทีสิว่านี่คืออะไร?”หมอหลวงซุนเดินเข้ามาหยิบยาเม็ดสีดำจากมือของซูชิงอู่อย่างระมัดระวังจากนั้นก็บดและดมกลิ่นมันคิ้วของเขายิ่งขมวดแน่นขึ้น และหลังจากคิดอยู่นาน เขาก็แสดงสีหน้าเข้าใจในทันที“มีน้ำสกัดจากหญ้าก้านดำอยู่ในนั้นพ่ะย่ะค่ะ!”ซูชิงอู่พยักหน้า นางเงยหน้าเชิดคางมองไปที่ฮ่องเต้“ในบันทึกยาของตระกูลฟา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 330

    “กราบทูลไทเฮา เมื่อครู่หมอหลวงซุนก็ได้ทูลไปแล้วไม่ใช่หรือเพคะว่ารอยดำบนร่างกายของพระองค์และสนมคนอื่น ๆ จะหายไปในเช้าวันพรุ่งนี้”ไทเฮาทรงเลิกคิ้ว “ของชั่วร้ายเหล่านั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของข้าก็ได้ใครจะรู้”เมื่อเห็นว่าไทเฮาทรงตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำเช่นนั้น ซูชิงอู่ก็พุ่งเป้าไปที่องค์หญิงสี่ทันที“ได้เพคะ ให้คนมาลองการรักษาของหม่อมฉันดีไหมเพคะ?”นางยิ้มมุมปากแล้วพูดทันที “องค์หญิงสี่ รบกวนมาทางนี้หน่อยเพคะ”นางตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งนางอ้าปากค้าง สีหน้าของนางดูไม่ค่อยสู้ดี ทันใดนั้นนางก็ปิดปากและไออย่างรุนแรง“ขะ...ข้าไม่สบายนิดหน่อย ไม่นานมานี้เป็นหวัดโดยไม่ทันได้ระวังตัว เกรงว่าจะร่วมการทดลองไม่ได้...”ซูชิงอู่ยิ้มและพูดว่า “พอดีเลยเพคะ วิธีรักษาของหม่อมฉันไม่เพียงแต่สามารถกำจัดรอยดำเหล่านั้นได้ แต่ยังรักษาโรคของท่านได้ด้วย”เย่หมิงเยว่กัดฟัน ปากและฟันของนางสั่นเล็กน้อยขณะที่นางมองหน้าของซูชิงอู่ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่ซูชิงอู่พูดในโบสถ์...ตัดมือให้เจ้าสัตว์กิน ตัดแขนขาออก แล้วทำให้กลายเป็นหมู...ทันใดนั้นนางก็ค้นพบว่าบุตรีคนเล็กของตระกูลซูไม่ใช่ดอกไม้สีขาวท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 331

    ซูชิงอู่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อนาง นางหยิบเข็มออกมาจากกล่องของหมอหลวงซุนอย่างไม่ได้จริงจังอะไร และฝังมันไว้บนศีรษะของเย่หมิงเย่วดวงตาของเย่หมิงเยว่เบิกกว้าง นางอยากจะกรีดร้องแต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ได้นางมีอาการปวดหัวแทบแตกและรู้สึกราวกับศีรษะของนางถูกแยกออกความเจ็บปวดดูคล้ายจะไม่มีที่สิ้นสุด นิ้วของนางกำอะไรบางอย่างไว้แน่น และความเจ็บปวดนั้นมากมายอย่างยิ่งซูชิงอู่พูดขณะฝังเข็ม "หมอหลวงซุน การทำเช่นนี้สามารถช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยขับให้พิษแปลกปลอมออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว"หมอหลวงซุนมองวิชาการฝังเข็มของซูชิงอู่ และอดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่ามารดาของซูชิงอู่เป็นแพทย์ยอดฝีมือ และก็สืบทอดทักษะทางการแพทย์ของตระกูลฟางมา แต่เขาไม่เคยมีโอกาสพบนางเลยในตอนที่เขาขึ้นเป็นเป็นหัวหน้าสำนักหมอหลวงคนตระกูลฟางก็จากไปแล้วทักษะทางการแพทย์ระดับตำนานที่ครั้งหนึ่งเคยสูญหายไปและไร้ผู้สืบทอด ในตอนนี้ซูชิงอู่ได้แสดงพรสวรรค์ออกมาหลายครั้ง นั่นนับว่าน่าตกใจจริง ๆ“พระชายาเสวียนทำได้ดีมาก”เย่หมิงเยว่ได้ยินเสียงของคนข้าง ๆ นางนางไม่คาดคิ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 332

    ฮ่องเต้ตรัสเสียงเรียบ "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อาหาร อาภรณ์ และข้าวของเครื่องใช้ของซูเฟย ให้มีเทียบเท่ากับฮองเฮาทุกประการ"เมื่อนางสนมคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัส พวกนางก็ตกใจทันทีซูเฟยเป็นหนึ่งในสี่พระสนมแล้ว ตำแหน่งของนางไม่อาจสูงส่งไปกว่านี้ได้แล้ว นับตั้งแต่โบราณกาล มีฮองเฮาและกุ้ยเฟยได้เพียงตำแหน่งละหนึ่งคนเท่านั้น และนางก็ไม่อาจก้าวไปสู่ตำแหน่งเหล่านั้นได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเคียงกับการมอบสินน้ำใจที่ฮ่องเต้ทรงตรัส เท่ากับบอกเป็นนัยว่าต่อไปซูเฟยมีศักดิ์เท่าฮองเฮาใช่หรือไม่?ยังไม่พูดถึงว่าตอนนี้นางเป็นตัวแทนของหกตำหนักฝ่ายใน และแม้แต่เจียวกุ้ยเฟยก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้หลังจากที่ซูชิงอู่เริ่มที่จะขจัดริ้วสีดำบนร่างไทเฮา กลุ่มนางสนมในวังก็เข้ามาล้อมรอบนางทันทีผู้ที่เคยช่วยองค์หญิงสี่บีบคั้นซูชิงอู่ก็อยู่ในหมู่พวกนางด้วยเพียงแต่ว่าตอนนี้ใบหน้าของทุกคนแดงก่ำและสีหน้าของพวกนางก็ดูค่อนข้างเขินอายแต่ถึงกระนั้น เพื่อสุขภาพของพวกนางเอง พวกนางจึงได้แต่มองซูชิงอู่ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือซูชิงอู่เหลือบมองใบหน้าของคนเหล่านั้นนางเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 333

    ราชครูหลินออกจากวังและกลับมาที่จวนราชครูทันทีเมื่อลงจากรถม้าเดินไปที่ประตู เขาเอามือไพล่หลังแล้วพูดกับคนรับใช้ว่า “ไปตามฮูหยินและคุณหนูมาที่โถงเสีย”"ขอรับ!"คนรับใช้รีบไปรายงานทันที ไม่นานหลังจากนั้น หลินซื่อและหลินเสวี่ยอิ๋งก็ยืนรออยู่ที่โถงกลางแล้วเมื่อนางเห็นราชครูหลินกลับมา นางก็ทักทายเขาทันที "นายท่าน!" อย่างไรก็ตาม หลินซื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึม ราชครูหลินมองหลินเสวี่ยอิ๋ด้วยสายตาโกรธขึง“เจ้าเลี้ยงลูกสาวได้ดีจริง ๆ!”หลินซื่อตกตะลึงและไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ นายท่านถึงโกรธมาก ทั้งที่เพิ่งกลับมาหลินเสวี่ยอิ๋งซ่อนตัวอยู่ข้างหลังมารดาทันทีราชครูหลินมองดูพวกนางด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขาหรี่ตาลง "ต่อไป เจ้าต้องจำไว้ว่าอย่าไปสร้างปัญหาให้กับอ๋องเสวียนและชายาของเขา อย่าลืมว่าตอนนี้ตระกูลหลินและจวนอ๋องเสวียนผูกติดอยู่ในเชือกเส้นเดียวกัน ถ้าไม่อยากตายก็จงใช้สมองให้มาก”“ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร ท่านอยากให้ข้าลืมเรื่องที่ซูชิงอู่ สตรีนางนั้นทำงั้นหรือ? ไม่มีทาง!”ซูชิงอู่ทำให้นางสูญเสียแต้มพรหมจรรย์ของนางไป และทำให้นางขายหน้าหลายครั้ง จนตอนนี้นางกลายเป็นตัวตลกของคนทั่วทั้งเมือ

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status