แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ นางเก็บเงินได้สองแสนห้าหมื่นตำลึง พอนางคิดถึงเรื่องนี้ก็มีความสุขเหลือเกินเมื่อไม่มีหนี้ก็เบาตัว นางตั้งใจจะส่งเงินกลับไปที่หอมหาสมบัติในเช้าวันพรุ่งนี้ซูชิงอู่อาบน้ำแล้วนอนบนเตียง แต่ไม่ได้จุดตะเกียงน้ำมันภายในห้องมืดสนิท นางเพิ่งหลับตาไปได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงบางอย่างในห้อง ร่างที่เย็นเล็กน้อยก็เข้ามาแนบแผ่นหลังของนาง ทั้งสองร่างถูกคั่นด้วยผ้าห่ม แต่ราวกับสามารถส่งผ่านความอบอุ่นได้ ซูชิงอู่ขยับเล็กน้อย หันไปหาด้วยเสียงที่อ่อนล้า ภายใต้แสงจันทร์ เย่เสวียนถิงเอนศีรษะพิงเตียง มองดูนางอยู่ดวงตาสีเข้มนั้นร้อนผ่าวด้วยความอบอุ่นอันน่าหลงใหลจู่ ๆ ซูชิงอู่ก็รู้สึกเขินอายเมื่อเห็นเขา นางก้มหน้าลงแล้วถามว่า "ทำไมท่านกลับมาดึกนัก?"“ข้ากำลังจัดการเรื่องต่าง ๆ ที่วัดเหลียงซาน”จู่ ๆ ซูชิงอู่ก็จำบางสิ่งบางอย่างได้ และดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นในทันที“ว่าแต่ ผู้เคราะห์ร้ายอยู่ที่ใดกัน?”เย่เสวียนถิงลูบหน้าผากของนางแล้วพูดว่า “พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”หลังจากเข้าไปในพระราชวังมีหลายสิ่งที่นางต้องทำจนนางเกือบลืมไปเสียสนิทเมื่อคิดถึงตอนนี้ ซูชิงอู่ก็ไม่อ
“เดี๋ยวก่อน ไม่จำเป็นหรอก!”ตัวนางเองก็เป็นหมอ จะเอาหมอหลวงมาทำอะไร?แม้ว่าคนเป็นหมอจะรักษาตัวเองไม่ได้ แต่สามารถวินิจฉัยอาการของตัวเองได้ซูชิงอู่สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด และสังเกตชีพจรของตนเองอย่างระมัดระวังแม้จะใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ ชีพจรอาจไม่ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังสัมผัสได้ความยินดีอย่างยิ่งทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเผยอออกหน่อย และมีประกายเล็ก ๆ จากดวงตาของนางเร็วมาก!แต่ใช่ ในชีวิตนี้นางไม่เคยดื่มยาคุมกำเนิดเลย และร่างกายของนางก็อยู่ในสภาพดีเยี่ยมยิ่งไปกว่านั้น นางกับเย่เสวียนถิงอยู่ด้วยกันแทบจะทุกวัน อีกทั้งเย่เสวียนถิงไม่ใช่คนไร้น้ำยาดังนั้นแม้จะไม่ได้สำเร็จในครั้งเดียว แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่นางจะตั้งครรภ์หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น หน้าอกของซูชิงอู่ก็สั่นไหวเย่เสวียนถิงยกเลิกคำสั่ง ไม่ให้ไปตามหมอหลวง แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนาง เขาก็ยังไม่คลายกังวลเขาเพียงกอดนางไว้ในอ้อมแขนของตัวเองและปลอบใจนาง“ถ้าเจ้าเดินไม่ไหว เจ้าต้องบอกข้า”ซูชิงอู่ดึงสติสัมปชัญญะกลับมาได้อีกครั้ง นางรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของเย่เสวียนถิงที่กกกอดนางไว้ และดันเขาอ
เสียงแหบเล็กน้อยและยังอยู่ในช่วงเสียงแตกหนุ่ม ทำให้แยกแยะเพศชายกับหญิงได้ยากซูชิงอู่เลิกคิ้ว “เจ้ากลัวความเจ็บปวดรึไม่?”“ไม่กลัว”เสียงของเขานุ่มนวลและชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเลนางมองไปที่ชายหนุ่มและคล้ายจะเห็นตัวเองในตัวเขาหน่อย ๆชีวิตเล็ก ๆได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และในที่สุดนางและลูกน้อยก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง...หัวใจของซูชิงอู่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักของแม่ และดวงตาของนางก็อ่อนโยนขึ้นเมื่อมองดูเด็กชายหากลูกของนางยังมีชีวิตอยู่ ในอนาคตเขาจะเติบโตเป็นเด็กที่มีหัวจิตหัวใจเข้มแข็งเช่นนี้อย่างแน่นอนนางอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง โดยลืมไปเลยว่าตอนนี้อายุของนางตอนนี้ไม่ได้มากไปกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าสักเท่าไรนางหยิบเข็มเงินออกมาจากกล่อง ขอให้ใครสักคนถอดเสื้อผ้าท่อนบนของเขาออก ช่วยพยุงให้ลุกขึ้น จากนั้นจึงเริ่มกำจัดพิษหลังจากนั้นไม่นาน นางก็เกือบจะทำให้เด็กชายกลายเป็นเม่นตัวน้อยไปเสียแล้วร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง ดีที่คนงานในร้านยาตัวน้อยสองคนคอยช่วยพยุง เขากระตุกสองครั้ง ก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดโชคดีที่ซูชิงอู่คาดการณ์เอาไว้แล้ว จึงให้มีคนเตรียมอ่างไม้ไว้ล่วงหน้าจากนั้น เด็ก
ชิงอวี่เงียบไปสักพักและไม่ยอมพูด เขาเพียงแค่เม้มริมฝีปาก ร่างกายโงนเงนซูชิงอู่ไม่มีเวลาคุยกับเขามากเกินไป นางแค่ถามเขาแบบสบาย ๆ ทุกคนมีความลับ และหากอีกฝ่ายไม่ต้องการบอก พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกนางดึงเข็มเงินออกจากร่างกายของเขาซูชิงอู่ขอให้ใครบางคนช่วยให้เขาดื่มยาและพักผ่อนให้เต็มที่ จากนั้นจึงไปหาสตรีอีกคนที่อาการหนักกว่าตลอดทั้งคืน เด็กชายและเด็กหญิงทั้งยี่สิบเจ็ดคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้รับการรักษาโดยซูชิงอู่หลังจากนี้นางจะเข้ามารักษาพวกเขาทุกวัน โดยเร่งการกำจัดพิษและช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวโดยเร็วที่สุดกว่าจะได้กลับจวนอีกครั้งท้องฟ้าก็มืดอย่างเห็นได้ชัดทันทีที่นางก้าวพ้นประตู เย่เสวียนถิงซึ่งคอยติดตามนางและช่วยเหลือนางก็โผเข้ากอดนางเขาเข้ามาหอมแก้มนางแล้วถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “มีข่าวดีจริงหรือ?”เขามักจะคิดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอซูชิงอู่ยืดเอวของนางแม้ว่านางจะง่วงนอนอยู่หน่อย ๆ แต่ร่างกายของนางก็ยังคงสามารถทนต่อการอยู่ดึกดื่นเช่นนี้ได้ผลของการอาบยาทุกวันมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่านไปสามเดือน พลังงานของนางก็เกินกว่าคนทั่วไปทั่วไปแล้ว“ใช่เจ้าค่ะ มีข่าวดีจ
ซูชิงอู่ "หือ?""เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน"ซูชิงอู่ "ใช่แล้ว"นางสัมผัสท้องของตัวเองเบา ๆ และความสุขก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของนางในทันทีนางหลับตาลง แม้แต่คิ้วก็ยังแย้มยิ้ม มุมริมฝีปากของนางยกขึ้นอย่างเต็มไปด้วยความสุขนางเองก็มีความสุขมากเช่นกันเย่เสวียนถิงลดเสียงลงและวางคางไว้บนซอกคอของซูชิงอู่เขาพูดด้วยเสียงต่ำ เสียงของเขาทั้งต่ำและแหบแห้ง “ข้าดีใจจนแทบบ้า...”ซูชิงอู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งในร่างกายของเขา และร่างกายที่ประหม่าและสั่นเทาเล็กน้อย นั่นทำให้นางรู้สึกสงสารนางเบะปากแล้วหัวเราะ “ข้าก็เหมือนกัน”เย่เสวียนถิงจับนางและสูดดมกลิ่นกายของนาง ความตื่นเต้นนี้ทำให้เขาหายง่วงเป็นปลิดทิ้งดูเหมือนเขาจะจำอะไรบางอย่างได้ในทันใด ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองนางด้วยสายตาที่ต่ำลง "เจ้ารู้เรื่องการตั้งครรภ์เมื่อไหร่?"ซูชิงอู่กะพริบตา "เมื่อคืนนี้ ทำไมหรือ?"เย่เสวียนถิงไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานานแล้ว และใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่มีท่าทางที่เย็นชาและสูงส่งเหมือนในอดีตอีกต่อไปมีความอบอุ่นเพิ่มขึ้น แปรเปลี่ยนให้น้ำค้างแข็งและหิมะละลายลง และทุกสิ่งดูคล้ายกลับเข้าสู
ซูชิงอู่กล่าวว่า “ข้าได้โค่นล้มผู้คนส่วนใหญ่ในวัดเหลียงซานลง แต่ยังมีพระภิกษุหนุ่มสองสามคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับวั่งเหยียน พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของข้า ดังนั้นข้าจึงขอให้พวกเขาช่วย”"ช่วยอะไร?"ซูชิงอู่ลดสายตาลงและริมฝีปากโค้งเบา ๆ"ในวัดเหลียงซานมีวัตถุระเบิดจำนวนมากฝังอยู่ ไม่เพียงแต่ในห้องใต้ดินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงที่อื่นด้วย ข้าฝังวัตถุระเบิดไว้ใกล้ ๆ ตราบใดที่ข้าออกคำสั่ง พวกมันก็จะระเบิด พอที่จะระเบิดทุกสิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นกระจายไปบนฟ้าได้เลย"จู่ ๆ ม่านตาของเย่เสวียนถิงก็หดตัวลง “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็…”ซูชิงอู่เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าเห็นว่าท่านไม่ได้คิดจะฆ่าข้า ข้าก็เลยไม่ขัดขืน ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายก็ไม่อยากตายไปพร้อมกับข้า นักฆ่าเหล่านั้นคงหวงแหนชีวิตของตัวเองมาก”แม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ซูชิงอู่ก็ยังมั่นใจมากกว่าเจ็ดถึงแปดส่วนว่าน่าจะสามารถปกป้องชีวิตของตัวเองได้แม้ว่าการมาถึงของนักฆ่าจะเป็นเหตุไม่คาดฝัน แต่ซูชิงอู่ได้คำนวณความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบไว้แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่เชื่อ นางก็จะขอให้ใครสักคนจุดระเบิดบนภูเขาอันไกลโพ้นลูกนั้นเพื่อแสดงให้อีกฝ่า
เย่เสวียนถิงส่งเสียงฮึมฮัม "อีกอย่าง หากอาอู่จะปลอมตัวอีกครั้ง อย่าลืมทำเครื่องหมายบนร่างกายที่มีเพียงเจ้าและข้าที่รู้เท่านั้นด้วย..."เขากำลังจะพูดต่อเมื่อจู่ ๆ เขาก็หยุดชั่วคราว "ไม่จำเป็นหรอก"ซูชิงอู่สับสน “ทำไม? ข้าคิดว่านี่ฟังดูเข้าท่านะ”เย่เสวียนถิงกล่าวว่า “คราวนี้มันเป็นแค่เหตุสุดวิสัย ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะปลอมตัวเป็นพระหนุ่ม” เขาปัดผมของซูชิงอู่ขึ้นจากหน้าผากของนาง จากนั้นมองลึกเข้าไปในดวงตาของซูชิงอู่“ครั้งต่อไป ข้าจะจำเจ้าได้อย่างรวดเร็ว และจะไม่มีข้อผิดพลาดอีก ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเครื่องหมายอะไรทั้งนั้น”ซูชิงอู่ประหลาดใจ “จะเป็นไปได้ยังไง?”นางยังคงมั่นใจในทักษะการปลอมตัวของนางมากเย่เสวียนถิงกล่าวว่า “เป็นไปได้แน่ ไม่มีทางเกิดเรื่องประหลาดอะไรขึ้นอีก”เพราะตราบใดที่เขามองเข้าไปในดวงตาของซูชิงอู่ เขาก็จะจำนางได้ครั้งที่แล้วเขาประมาทและประเมินชายาของเขาต่ำไปทันใดนั้น ซูชิงอู่ก็เริ่มสนใจ "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไปเปลี่ยนรูปลักษณ์ของข้า ลองดูไหมว่าท่านจะค้นหาข้าท่ามกลางผู้คนมากมายได้หรือไม่ ดีไหม?"เย่เสวียนถิงมองดูใบหน้ากระตือรือร้นของนางและกดศีรษะลงบนหมอน"
รถม้าคันหนึ่งหยุดอยู่นอกประตูข้าราชบริพารในวังเข้ามาทันทีและประกาศว่า "ฝ่าบาท พระชายา มีสารจากพระราชวังพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าพระองค์ทรงตั้งครรภ์ ซูเฟยรู้สึกปิติยินดีมาก จึงส่งคนมาเชิญพระองค์เข้าวังด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ... ”เย่เสวียนถิงขมวดคิ้วทันที“อาอู่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรขยับร่างกายมากนัก เหตุใดตอนนี้ท่านแม่ถึงได้เรียกหานางล่ะ?”ทุกคนตกตะลึงหลังจากที่ซูเฟยได้รับข่าว นางก็มีความสุขมากจนอยากพบพระชายา นั่นก็ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?แต่เมื่อมองดูหน้าท่านอ๋อง บ่าวรับใช้ทุกคนก็ไม่กล้าปริปากพูดเย่เสวียนถิงมีสีหน้าเคร่งขรึม และคอยประคองซูชิงอู่ในอ้อมแขนของเขา ในขณะที่เขาเดินออกไป สายตาของเขาดูเป็นปรปักษ์กับทุกคนเล็กน้อยดูเหมือนว่าหากมีใครเข้าใกล้ซูชิงอู่ ก็แปลว่าคนพวกนั้นจะทำร้ายนางได้ซูชิงอู่คิดว่าความรู้สึกนี้นับว่าวิเศษมาก ดูเหมือนว่าจู่ ๆ นางก็ได้กลายเป็นทรัพย์สมบัติแสนเปราะบางที่พร้อมจะพังทลายลงถูกสัมผัส นางได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจากมังกรยักษ์ และไม่มีใครแตะต้องนางได้คิ้วของนางยกสูง และนางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มหลังจากนั้น เย่เสวียนถิงอุ้มนางขึ้นรถม้าด้วยตัวเอง เขา