แชร์

บทที่ 295

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
อวิ๋นซีเดินไปที่หน้าต่างและเห็นผู้คนมากมายอยู่ด้านนอก พระสงฆ์มากมายกำลังเดินวุ่นไปทั่วลานโดยแสร้งทำเป็นยุ่ง

“พระชายา พระพวกนั้นที่อยู่ข้างนอกดูเหมือนกำลังเฝ้าดูพวกเราอยู่เพคะ”

อวิ๋นชิงก็เห็นเช่นกัน “หม่อมฉันเห็นคนหลายคนแอบมองมาทางนี้ด้วยเพคะ”

ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อยพร้อมส่งสายตาเย็นชา จู่ ๆ นางก็ลุกขึ้นเดินไปดูที่ประตู จากนั้นนางก็พูดกับอวิ๋นซีว่า “อวิ๋นซี เรียกพระหนุ่มที่มีรูปร่างพอ ๆ กันกับข้ามาทีสิ”

“เพคะพระชายา”

อวิ๋นซีสายตาดี นางเดินออกจากกุฏิไปโบกมือเรียกพระหนุ่มรูปหนึ่ง

เมื่อพระหนุ่มได้ยินดังนั้น เขาก็เดินตามนางผ่านประตูไปทันทีด้วยความกังวลใจ

ม่านในห้องถูกดึงออกทันทีที่พระหนุ่มเข้าไป ภาพตรงหน้าของเขามืดลง แล้วเขาก็ล้มลงไปอย่างแผ่วเบา

ซูชิงอู่ดึงมือกลับ “พาเขาไปที่เตียง”

อวิ๋นซีและอวิ๋นชิงช่วยกัน คนหนึ่งยกเท้าขึ้นและอีกคนหนึ่งยกศีรษะขึ้น พาตัวพระหนุ่มมาวางไว้บนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้เขา

จากนั้นก็เห็นว่าซูชิงอู่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว พลางเอื้อมมือไปหยิบถุงเล็ก ๆ ที่นางนำมาด้วย

ในนั้นมีอุปกรณ์ปลอมตัวต่าง ๆ มากมาย

อวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงที่เคยเห็นขั้นตอนเหล่านั้นมาแล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Big-Bee Heroine
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งสั้นลง แปลว่าตอนนึงแพงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เฮ้อ!!
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 296

    ครึ่งชั่วยามผ่านไปในชั่วพริบตา ท้องฟ้าด้านนอกมืดลงจนหมดแล้ว แสงเทียนสลัวส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ ทำให้สถานที่แห่งนี้สว่างราวกับตอนกลางวันอย่างไรก็ตามในขณะนี้ เปลวไฟที่ไหววูบไปมาเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ทำให้ทั้งห้องโถงมีบรรยากาศแปลก ๆไทเฮาที่ยังทรงหลับตาอยู่ ทันใดนั้นก็ทรงสะดุ้งและลืมตาขึ้นมา“ว๊าย!”มีเสียงอุทานออกมาจากปากของนาง ทุกคนลืมตาขึ้นโดยอัตโนมัติและเห็นไทเฮาทรงเงยหน้ามองพระพุทธรูปตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างยิ่ง“ไทเฮาทรงเป็นอะไรไปเพคะ?”เจียวกุ้ยเฟยรีบเข้าไปประคองไทเฮา นางรู้สึกว่าพระวรกายของไทเฮากำลังสั่นสะท้าน เมื่อนางสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายก็พบว่าทรงมีใบหน้าซีดเพราะเกิดจากความกลัว“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดดวงตาของพระพุทธรูปถึงมีเลือดไหล!”ทุกคนตื่นตระหนกพระชายาและสนมบางคนกลัวมากจนไปซ่อนตัวอยู่ตามมุมเจ้าอาวาสท่องพระนามของพระพุทธองค์ แล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึมในทันที เขายืนอยู่ต่อหน้าทุกคน ร่างกายที่ยืนตรงเหมือนหอคอยเหล็กของเขาทำให้ไทเฮาทรงรู้สึกปลอดภัย“ไทเฮา อาตมาเคยเห็นเหตุการณ์นี้มาก่อน คงเป็นเพราะการรุกรานของวิญญาณชั่ว พระพุทธองค์จึงทรงกรรแสงออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 297

    ไทเฮามองเจ้าอาวาสเฒ่าแล้วตรัสว่า “ท่านเจ้าอาวาส โปรดคิดหาทางแก้ไขโดยเร็วเถิด ที่นี่คือวัดพุทธ เราจะยอมให้คนเช่นนี้มาสร้างมลทินให้กับดินแดนแห่งพุทธศาสนาได้อย่างไร!”“ไทเฮาไม่ต้องทรงกังวล กระหม่อมจะไม่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างไรนางก็คือบุคคลผู้สูงศักดิ์ในวัง หากไม่มีพระองค์ กระหม่อมและคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าจัดการพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาทรงขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรมองไปที่ซูเฟยเส้นสีดำหนาแน่นบนคอของซูเฟยทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวไทเฮาตรัสด้วยใบหน้าซีดเซียว “เรื่องนั้นข้าจะทูลฝ่าบาทด้วยตัวเอง ตอนนี้ขอให้ท่านเจ้าอาวาสกำจัดพลังงานชั่วร้ายออกจากตัวซูเฟยก่อนเถิด หลังจากนั้นก็มัดนางไว้ แล้วค่อยจัดการทีหลังเมื่อกลับไปถึงพระราชวังแล้ว!”เจ้าอาวาสพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของซูเฟย“ใครก็ได้มาพาท่านผู้บำเพ็ญหญิงไปชำระล้างร่างกายทีซิ”พระหนุ่มหลายคนมาจากด้านข้างและล้อมรอบซูเฟยเอาไว้ทุกคนเฝ้าดูอย่างไม่แยแส เมื่อซูเฟยเห็นใครบางคนเอื้อมมือออกมา นางก็เริ่มขัดขืนทันที“อย่าเข้ามานะ ห้ามแตะต้องข้า!”แต่การต่อสู้ของนางไม่มีประโยชน์สำหรับพระสงฆ์เหล่านั้น ข้อมือของนางถ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 298

    “อาตมาจะปิดประตูให้ ไม่ต้องสนใจอะไร พวกท่านสองคนป้อนยาให้นางเถอะ ท่านเจ้าอาวาสให้สิ่งนี้มาเพื่อขจัดสิ่งสกปรก”“ขอรับศิษย์พี่”พระรูปหนึ่งปิดประตู และอีกรูปหนึ่งคว้าข้อมือของซูเฟย แล้วกดนางลงกับพื้นสีหน้าของซูเฟยเกรี้ยวกราด “พวกเจ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้า ท่านอ่องเสวียนไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ คนที่ซูเฟยพอจะนึกถึงได้ก็คือเย่เสวียนถิงเขาคือคนเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้นางเป็นเพียงสตรีผู้หนึ่งที่เติบโตมาอย่างเก็บเนื้อเก็บตัว แล้วนางจะยืนหยัดต่อสู้กับคนเลวทรามเหล่านี้ได้อย่างไรพระทั้งสองมีสีหน้าไร้อารมณ์ ทันทีที่ประตูปิดเสียงดังปัง พระที่ปิดประตูก็เดินกะโผลกกะเผลกและล้มลงกับพื้นพระจิตใจหยาบช้าที่จับข้อมือซูเฟยเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวและมองมา “เจ้าไปดูทีว่าศิษย์พี่เป็นอะไร?”ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้าวิตกกังวล “อาตมาไม่รู้ ศิษย์พี่ล้มลงไปกะทันหัน เขาตายรึยังก็ไม่รู้ ท่านรีบมาดูทีสิ!”เขาเหลือบมองซูเฟย เมื่อเขาแน่ใจว่านางหนีไม่พ้นก็เดินไปที่ประตู เขายื่นมือไปอังดูลมหายใจของพระที่นอนอยู่บนพื้นชั่วครู่ต่อมาเขาก็ล้มลงกับพื้นเช่นก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 299

    พระสนมซูเฟยตกใจ “นี่คืออะไรกัน?”ซูชิงอู่บดยาในมือจนเป็นผงร่วงหล่นลงบนพื้น “หลังจากกินเข้าไป ใบหน้าของเสด็จแม่จะเป็นแผล แม้ให้หมอหลวงตรวจดูก็จะไม่เจอสาเหตุใดใด เมื่อถึงเวลานั้นทุกคนก็จะพากันพูดว่าเสด็จแม่เสียโฉมเพราะผลกระทบจากการใช้คาถามนตราเพคะ”ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ซูเฟยก็เป็นสนมของฮ่องเต้ มีเพียงฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเท่านั้นที่สามารถจัดการกับนางได้คนอื่นไม่กล้าทิ้งร่องรอยใดใดไว้บนร่างกายของนางเป็นแน่นั่นเป็นสาเหตุที่อีกฝ่ายใช้อุบายที่น่ารังเกียจเช่นนั้นแม้เมื่อถึงตอนนั้นนางจะเป็นผู้บริสุทธิ์และถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรม ทว่าหากได้ทอดพระเนตรมองสตรีที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ ฮ่องเต้ก็คงไม่อยากที่จะแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดและลบล้างมลทินให้นางสตรีผู้เสียโฉมในพระราชวังนั้นคงกลายเป็นผู้ไร้ค่าไร้ราคา ไม่ว่าสถานะใดของนางก็คงไม่มีผลอีกต่อไปหลังจากที่ซูเฟยได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด พละกำลังทั้งหมดของนางดูเหมือนจะหมดลงนางนั่งบนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ สักพักแล้วพูดว่า “ชิงอู่ เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?”เมื่อเห็นซูเฟยสงบลง ใบหน้าของซูชิงอู่ที่ปลอมตัวเป็นพระหนุ่มก็ยิ้มขึ้นมาแม้จ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 300

    ต้องแสดงความจริงใจของตัวเองออกมา ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้อาจไร้ประโยชน์เพียงแต่ไทเฮาทรงเชื่อไปแล้วอย่างไม่กังขาเลยว่าซูเฟยรู้คาถามนตรา นางจึงไม่สามารถขัดต่อพระประสงค์ของไทเฮาได้เจียวกุ้ยเฟยกลอกตาไปมาแล้วกระซิบกับไทเฮา “ไทเฮาเพคะ แม้คนในวัดเหลียงซานทั้งหมดจะเป็นพระสงฆ์ แต่ซูเฟยก็เป็นหนึ่งในสนมของฝ่าบาท คงไม่ดีที่จะขังนางไว้ตามลำพัง ให้หม่อมฉันส่งคนของหม่อมฉันไปเฝ้าจะดีกว่า พระองค์ทรงคิดว่าอย่างไรเพคะ?”ไทเฮาทรงขมวดคิ้ว “เช่นนั้นฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน”เจียวกุ้ยเฟยถอนหายใจด้วยความโล่งอกและสั่งให้คนของนางรีบไปทันทีนางสั่งเสียงเบา “อย่าปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้ซูเฟยตามอำเภอใจ"“เพคะกุ้ยเฟย”การทำเช่นนี้ทำให้นางสามารถปกป้องความปลอดภัยของซูเฟยทางอ้อมได้ หวังว่าหากซูชิงอู่รู้เรื่องนี้ นางคงไม่เข้าใจผิดว่าตนไม่ได้ออกแรงช่วยคราวนี้เจียวกุ้ยเฟยรู้สึกสบายใจแล้วจึงรับประทานอาหารร่วมกับทุกคนแต่ทันทีที่หยิบตะเกียบขึ้นมา ก็มีพระหนุ่มจากข้างนอกวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกเจ้าอาวาสเฒ่าและราชครูที่เพิ่งหยิบชามข้าวก็เห็นพระหนุ่มเข้ามารายงานเสียงดังว่า “ท่านเจ้าอาวาส ในอาหารมีพิษขอรับ!

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 301

    เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ทำได้อีกแล้วผู้คนที่วัดเหลียงซานระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง และกระบวนการทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญกล่าวคือความเร็วในการออกฤทธิ์ของยาที่ซูชิงอู่จ่ายให้ในครั้งนี้นับว่าช้ามาก เพื่อที่นางจะได้ประสบความสำเร็จแต่ถึงกระนั้นก็มีภิกษุในวัดเพียงสองสามร้อยรูปเท่านั้นที่ได้รับการคัดเลือก ผู้ที่รับประทานอาหารช้าจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบทันทีเมื่อเห็นผู้คนมีอาการโชคดีที่ซูชิงอู่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและดำเนินการเพื่อทำให้คนเหล่านั้นหมดสติทันทีที่พวกเขารู้ตัวขณะนี้ผู้คนมากกว่าเจ็ดในสิบส่วนในวัดเหลียงซานล้วนหมดสติไป และเหลือพระสงฆ์เพียงประมาณสามร้อยรูปเท่านั้นที่ต้องคอยดูแลสถานที่ทำให้ยังไม่รับประทานอาหารนางวางแผนที่จะหาวิธีจัดการกับคนกลุ่มนี้ก่อน จากนั้นจึงสังหารคนสองคนที่อยู่ตรงหน้านาง!หลังจากได้ยินรายงานของซูชิงอู่ เจ้าอาวาสเฒ่าก็เอ่ยปากทันที "ไร้สาระ ไปพาคนที่เหลือมาที่นี่ ฆาตกรจะต้องอยู่ในบรรดาคนกลุ่มนี้แน่!""ขอรับ!"ซูชิงอู่ไปทำตามคำสั่งทันทีนางได้บอกแก่ภิกษุรูปอื่น ๆ ที่ยังมีสติและไม่ได้กินดื่มอะไรมารวมตัวกันนอกจากพระนักรบเหล่านั้นแล้ว ภิกษุมากกว่าห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 302

    ชายคนนั้นมีรูปร่างผอมเพรียว สวมเสื้อคลุมสีดำสนิท และมีหน้ากากผีบิดบังใบหน้าซึ่งทำให้แม้เห็นเพียงแวบเดียว ก็ทำให้ผู้คนตัวสั่นได้ชายสวมหน้ากากผีนั้นดุร้ายและน่าสะพรึงกลัว ดูราวกับผีร้ายที่ผุดขึ้นจากนรก หยดเลือดยังคงหลั่งรินลงมาจากหน้ากาก ราวกับผีร้ายที่กัดกินมนุษย์ทันทีที่เห็นหน้ากากอย่างชัดเจน ดวงตาของราชครูเฒ่าก็เบิกกว้างขึ้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าว“โหลวชา!”เมื่อเอ่ยถึงโหลวชาความรู้สึกแรกของทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ย่อมคิดถึงความชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวปฏิกิริยาที่สองคือ ความรู้สึกกลัวจนขนหัวลุก!แม้แต่เจ้าอาวาสเฒ่าก็ยังมีความกลัวปรากฏในดวงตาอันสุกใสของเขาทันใดเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังฝั่งตรงข้าม "อมิตาพุทธ นี่คือวัดพุทธ จะก่อบาปหนักอย่างการฆ่าคนต่อหน้าพระพุทธเจ้าได้อย่างไร เมื่อถึงคราวตายเขาจะถูกโยนลงนรกขุมที่สิบแปดแน่!” โชคดีที่อีกฝ่ายมีเพียงคนเดียวทุกคนในวัดมองไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างจริงจัง พวกเขาพากันกลืนน้ำลายอย่างประหม่าพระนักรบในตอนนี้ยังมาไม่ถึง เดาว่าคงกำลังต่อกรกับกลุ่มโหลวชาอยู่ และไม่นานเหล่าพระนักรบจะต้องพ่ายแพ้การที่คนผุ้นี้สามารถฝ่าวงล้อมข

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 303

    ซูชิงอู่ก้มศีรษะลงและก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวเจ้าอาวาสเฒ่าก็เป็นพระนักรบมาก่อนเช่นกันและเขาก็เป็นปรมาจารย์ที่มีฝีมือสูงมากอีกด้วย ในขณะนี้ เขากำลังต่อสู้กับชายสวมหน้ากากผีอยู่แต่ปรากฏชัดว่าเจ้าอาวาสเฒ่าเป็นฝ่ายถูกชายสวมหน้ากากผีเล่นงานเสียอย่างนั้นเกรงว่าใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เจ้าอาวาสเฒ่าคงทนไม่ไหวแล้วถอยกลับไปตอนนี้เจ้าอาวาสเฒ่ากำลังถ่วงเวลาอยู่ แม้ว่ากลุ่มคนของเขาจะไม่มาช่วยเหลือแต่ราชครูเฒ่าก็ไม่ตื่นตระหนกนัก เขาหยิบขวดออกมาจากอ้อมแขนของตนแล้วยื่นให้ซูชิงอู่ "โยนสิ่งนี้ใส่ชายสวมหน้ากากผีเสีย"ซูชิงอู่หยิบขวดดังกล่าวมาไว้ในมือมีสีหน้ากังวลและหวาดกลัวบนใบหน้าของนาง“อาตมาทำไม่ได้ เกิดขว้างไม่ดีขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ?”เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ดูขลาดเขลาของนาง ใบหน้าของราชครูเฒ่าก็มืดลงทันที "ไปเถอะ บอกให้เจ้าไปก็ไปเสีย ไม่เช่นนั้นทั้งเจ้าและข้าจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งคู่!"นอกจากนี้เขายังหยิบกริชออกมาจากแขนเสื้อของตนอีกด้วย สันคมของกริชเรืองแสงสีฟ้าจาง ๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยพิษ“หากขวดยาไม่ได้ผลก็หาโอกาสใช้กริชนี้ทำร้ายชายสวมหน้ากากผีก็ได้ เจ้าอาวาสเฒ่าคอยยับยั้ง

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status