Share

บทที่ 271

Author: วิ๋นเจิง
คำพูดของเย่เสวียนถิงนับว่าชวนตะลึงจนฮูหยินหลินไม่สามารถโต้ตอบได้ครู่หนึ่ง

ขณะที่นางกำลังนึกถึงสิ่งที่ตนต้องการจะพูด นางก็ได้เห็นว่าทุกคนในจวนอ๋องเสวียนออกไปหมดแล้ว

ใบหน้าของนางบอกบุญไม่รับ ราวกับว่ามีคนตบนางอย่างแรงถึงสองครั้ง

การแสดงออกของเขาค่อนข้างวิเศษมาก

หลินเสวี่ยอิ๋งไม่คาดคิดเลยว่ามารดาของนางจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้จะไม่สามารถฉวยโอกาสนี้เอาไว้ได้

ลูกพี่ลูกน้องของนางซึ่งนางชื่นชมมาตั้งแต่เด็ก บัดนี้พร้อมจะเอาเรื่องทุกคนเพราะเหตุการณ์ของซูชิงอู่ ถึงขนาดไม่สนหน้าใครทั้งนั้น

ดวงตาของนางแดง และดึงแขนเสื้อมารดาอย่างเสียใจ "ท่านแม่ ญาติผู้พี่เสวียนถิงสับสนกับถูกซูชิงอู่นั่นปั่นหัวแน่เจ้าค่ะ!"

หน้าอกของฮูหยินหลินกระเพื่อมด้วยความโกรธอย่างรุนแรง

ซูเฟยปลอบใจนางอย่างรวดเร็วและพูดว่า "พี่สะใภ้ใหญ่ อย่าถือเป็นอารมณ์ไปเลย เสวียนถิงยังอายุน้อยใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ท่านอย่าไปถือสาผู้น้อยเลย"

ฮูหยินหลินหัวเราะด้วยความโกรธกับคำพูดเหล่านี้

แต่ยังเก็บงำสีหน้าต่อซูเฟย

“ผู้น้อยหรือ? พระนางได้ยินสิ่งที่เขาพูดต่อหน้าหม่อมฉันเมื่อครู่รึไม่? อย่างไรเสียหม่อมฉันก็เป็นป้าสะใภ้ของเขาและอาวุโสก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 272

    “ท่านน้า ท่านแม่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ท่านโกรธ คืนนี้เป็นวันส่งท้ายปี ครอบครัวของเราน่าจะได้ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกัน”การแสดงออกของซูเฟยเห็นได้ชัดว่าไม่อบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนดูเหมือนคำพูดไม่กี่คำที่ฮูหยินหลินพูดออกมาได้กลืนกินความอ่อนโยนและความกระตือรือร้นของนางไปจนหมดนางยกมือขึ้นเพื่อปล่อยมือของหลินเสวี่ยอิ๋งและให้พวกเขาออกไป ซูเฟยพูดอย่างใจเย็น "ไม่ คืนนี้ข้าไม่อยากกินอะไรแล้ว"นางเดินตรงเข้าไปในโถงด้านในโดยไม่หันกลับมามอง ทิ้งสองแม่ลูกตระกูลหลินไว้ที่ประตูด้วยความอับอายและใบหน้าบอกบุญไม่รับผู้คนในตำหนักมากมายกำลังเฝ้าดูพวกนาง แม้จะไม่ได้ขับไล่พวกนางออกไปตรง ๆ แต่ภายใต้การจ้องมองเช่นนี้ สองแม่ลูกไม่อาจทนได้หลินเสวี่ยอิ๋งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานี้ ท่าทีของท่านน้าที่มีต่อนางและซูชิงอู่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากนางมองหน้ามารดาของตนด้วยใบหน้าซีดเซียว "ท่านแม่ ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าท่านน้าเลือกอยู่ข้างซูชิงอู่และญาติผู้พี่..."ฮูหยินหลินกำมือแน่นแล้วดึงนางออกมา ด้วยไม่อยากทำให้ตนต้องขายหน้าคนในตำหนักอีกต่อไปขณะที่นางเดินออกไป นางก็พูดขึ้นว่า "เจ้าต้องบอกเรื่องนี้ให้พ่อเจ้ารู้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 273

    ซูชิงอู่ยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งนี้ คิ้วของนางโค้งขึ้น "ท่านนี่โลภจริง ๆ"เย่เสวียนถิงก็ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของนางเช่นกัน นั่นทำให้เขาหัวเราะเบา ๆ ใบหน้าของเขายังคงความอ่อนเยาว์และความมีชีวิตชีวาที่เป็นเอกลักษณ์ของคนหนุ่มสาว และดูสดใสยิ่งขึ้นเมื่อเขาผ่อนคลายลงได้แม้ว่าเขาจะค่อนข้างแตกต่างไปจากความเป็นผู้ใหญ่และอารมณ์ที่มั่นคงที่เขามีในไม่กี่ปีต่อจากนี้ แต่ร่างกายของเขาไร้ซึ่งกำแพงหนา อีกทั้งใบหน้าก็ไม่ได้แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ทุกการเคลื่อนไหวแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นที่หาได้ยาก“อย่างนั้นอย่าได้ให้รางวัลข้าเลย อย่างไรนี่ก็เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรเล่าว่าข้าจะทำให้เจ้าห่างจากความกังวล ข้าจะปล่อยให้เจ้าอารมณ์ไม่ดีเพราะคนของตระกูลหลินได้อย่างไร”ซูชิงอู่ถอนหายใจและส่ายหัว "ข้าไม่ได้รู้สึกอะไร"เย่เสวียนถิงตกตะลึง“ข้าไม่ชอบฟังคนอื่นพูดถึงท่านแบบนั้น ท่านอ๋องเป็นได้อย่างทุกวันนี้เพราะความอุตสาหะของท่านเอง ท่านไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากใคร ท่านไต่เต้าขึ้นมาเป็นใหญ่ในกองทัพโดยอาศัยความแข็งแกร่งของตนเอง คนที่จะทำเช่นท่านได้ มีไม่มากหรอกเจ้าค่ะเย่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 274

    เย่เสวียนถิงคว้าตัวนางกำนัลประจำตำหนักข้าง ๆ เอาไว้ แล้วถามว่า "เหตุใดไฟจึงไหม้ได้"นางกำนัลตัวสั่นด้วยความกลัว "หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ แต่หม่อมฉันเพิ่งได้ยินเสียงระเบิดครั้งใหญ่ แล้วไฟก็เริ่มไหม้ ซูเฟยน่าจะติดอยู่ข้างใน หม่อมฉันควรทำอย่างไรดี?"ซูชิงอู่มองไปที่ผู้คนรอบตัวนาง "มัวทำอะไรอยู่? ไปเอาน้ำมาดับไฟสิ!""เพคะ!"ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ พวกเขาแยกย้ายกันไปและพยายามตักน้ำมาดับไฟอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามบ่อน้ำในตำหนักจิ้งอี๋นั้นอยู่ห่างออกไปพอสมควร ทำให้ต้องเสียเวลาเดินไปมาอย่างมากกว่าพวกเขาจะตักน้ำมาดับไฟได้ ไฟก็คงลามจนไหม้ไปทั้งตำหนักแล้วเย่เสวียนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งไปยังเรือนภายในที่ถูกไฟไหม้ เขาต้องช่วยเหลือคนก่อนเป็นอันดับแรกซูชิงอู่อ่านความคิดของเขาได้ ริมฝีปากเม้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ห้ามเขานางติดตามเขาไป เนื่องด้วยต้องการเข้าไปด้วยกันไฟไหม้ครั้งนี้นับว่าแปลกประหลาดจริง ๆ เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ กลับลามไปได้ไกลเพียงนี้ ข้อสันนิษฐานแรกคงมีสาเหตุเพราะตัวเรือนไม้ของตำหนักจิ้งอี๋นั้นเก่ามาก และข้อสันนิษฐานที่สองคงเป็นฝีมือมนุษย์เย่เสวียนถิงได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นข้า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 275

    วินาทีต่อมาชายที่แทงเขาด้วยกริชก็ตกตะลึงเย่เสวียนถิงไม่แม้แต่จะมองย้อนกลับไป เขาหันไปด้านข้างแล้วยกมือขึ้นเพื่อจับข้อมือของชายคนนั้น จากนั้นครู่ต่อมาก็ได้ยินเสียงดังแกร๊กและหักมันโดยไม่ลังเล"อ๊า!"ชายคนนั้นกรีดร้องสั้น ๆ และตระหนักได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในเวลานี้ เย่เสวียนถิงจึงได้เห็นใบหน้าของนางกำนัลในตำหนักอย่างชัดเจนนางกำนัลคนดังกล่าวตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าใบหน้าของนางถูกเปิดเผย นางกัดถุงพิษในปากของตนอย่างไม่ลังเล ด้วยตั้งใจจะฆ่าตัวตายแต่ผลลัพธ์ที่ได้... “เพียะ!”นางถูกตบเข้าอย่างแรงซูชิงอู่ไม่ได้ใช้กำลังใด ๆ เลย และฟันด้านซ้ายของนางกำนัลที่มีถุงพิษก็กระเด็นออกจากปากของนางในทันทีปากของนางกำนัลเต็มไปด้วยเลือด ศีรษะกระแทกเสาจนหมดสติไปซูชิงอู่ถูมือของตนเองแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อยพวกเขาทั้งสองแสดงกระบวนท่าประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ ซูชิงอู่ลงมือเกือบจะทันทีที่เย่เสวียนถิงคว้าข้อมือของนางกำนัลผู้นั้นเอาไว้ การเคลื่อนไหวทั้งหมดรวดเร็วปานสายฟ้าแม้แต่เย่เสวียนถิงก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งเขากับซูชิงอู่จะร่วมมือกันได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้ซูชิงอู่ปิดริมฝีปากของนางและไอเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 276

    หมอหลวงซุนรายงานว่า "ฝ่าบาท ซูเฟยเพียงหมดสติไปเท่านั้น ร่างกายของพระนางไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเจียวกุ้ยเฟยเห็นฉากนี้และอดไม่ได้ที่จะพูดแทนซูเฟยว่า "ฝ่าบาท หม่อมฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่น่าสงสัยเกี่ยวกับซูเฟย ไฟไหม้ใหญ่โตเช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็นได้อย่างไร?!"ฮ่องเต้ตั้งเป้าไปที่นางกำนัลซูชิงอู่คุกเข่าลงและไม่รู้ว่านางสัมผัสร่างกายของนางกำนัลบริเวณใด ร่างกายของนางกำนัลสั่นเทิ้มและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากนั้นนางมองดูใบหน้าของซูชิงอู่ที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยความหวาดกลัว“เอ่อ...กึกกึก...”ฟันในปากของนางหักไปครึ่งหนึ่งในขณะนี้คำพูดของนางกำนัลไม่ค่อยชัดเจนซูชิงอู่ยกมือขึ้น ลูบคางของนางกำนัล และพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว "ขอโทษที เมื่อครู่ข้าหนักมือไปหน่อย ถ้าเจ้าพูดไม่ได้ก็เขียนเอา"นางกำนัลส่ายหน้าทันทีซูชิงอู่สับสน "เจ้าเขียนไม่ได้หรือ?"นางกำนัลพยักหน้าซูชิงอู่ถอนหายใจ "อย่างนั้นก็ลำบากแล้ว ในเมื่อเจ้าเขียนไม่ได้ เช่นนั้นก็อย่าเก็บมือไว้เลย"สิ้นน้ำเสียงสงบ นางหยิบมีดสั้นที่นางกำนัลเพิ่งหยิบออกมาต่อหน้าทุกคนออกม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 277

    ไทเฮาก็ทรงประหลาดใจเช่นกัน นางเข้ามาหาฮ่องเต้แล้วทูลว่า “ฝ่าบาท โปรดให้คนตรวจสอบที่มาของนางกำนัลคนนี้ก่อนเถิด”ฮ่องเต้พยักหน้า เรียกนางกำนัลอาวุโสในวังและให้ฮุ่ยเฟยและคนอื่น ๆ เข้ามาไฟที่นั่นเกือบจะดับแล้ว และนางกำนัลและคนรับใช้คนอื่น ๆ ของตำหนักจิ้งอี๋ที่ไม่ได้รับผลกระทบก็เข้ามาคุกเข่าเป็นแถวเพื่อรอการสอบสวนไม่นานหลังจากนั้น ฮุ่ยเฟยก็วิ่งมาและคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อคารวะฮ่องเต้และไทเฮาทันที“ถวายพระพรฮ่องเต้และไทเฮาเพคะ!”ฮ่องเต้ถามว่า “ฮุ่ยเฟย นางกำนัลผู้นี้อยู่ในตำหนักของเจ้าหรือไม่?”ฮุ่ยเฟยหันกลับมามองและเห็นใบหน้าของนางกำนัลซึ่งมีใบหน้าบวมไปหมดแม้ว่านางจะจำมันได้ไม่ชัดเจน แต่นางก็รู้สึกตงิดใจกับใบหน้านี้เล็กน้อยนอกจากนี้ นางกำนัลอาวุโสที่อยู่ข้าง ๆ ยังพยักหน้าให้นางด้วย ฮุ่ยเฟยจึงเอ่ยตอบอย่างกล้าหาญว่า "เพคะ"ดวงตาของฮ่องเต้เริ่มเฉียบคมอย่างเห็นได้ชัด "เจ้าโกรธซูเฟยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับองค์ชายหกหรือ? เช่นนั้นเจ้าจึงตั้งใจที่จะเผานางจนตายใช่ไหม ซูเฟยเห็นเจ้าเป็นน้องสาว ดังนั้นจึงมีเพียงคนของเจ้าเท่านั้นที่เมื่อมาที่นี่แล้ว ซูเฟยจะไม่ทันได้ระแวดระวัง!”ฮุ่ยเฟยรู้สึ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 278

    อย่าว่าแต่ตอนนี้นางไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเลย แม้ว่านางจะมีหลักฐานแต่ก็ยังมีปัญหามากมายนางถอนหายใจเล็กน้อยและกำลังจะยอมรับชะตากรรมของนางและถูกพาตัวไปขัง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ไม่ไกลฮ่องเต้ได้ยินเสียงนั้นโดยธรรมชาติและหันหน้าไปมองซูชิงอู่ซูชิงอู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางเม้มริมฝีปากและดวงตาของนางแทบจะปิดด้วยเสียงหัวเราะฮ่องเต้ขมวดคิ้ว "มีอะไรน่าขันหรือ?"นางยืนอยู่ข้างหลังเย่เสวียนถิงและพูดว่า "หม่อมฉันหัวเราะให้กับทักษะการแสดงของนางกำนัลน่ะเพคะ"เมื่อนางกำนัลผู้คนนั้นได้ยินดังนั้น ปากของนางก็กระตุกนางเผลอจิกบาดแผลโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้สีหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด“การแสดงหรือ?”ดวงตาของฮ่องเต้จ้องมองไปที่ใบหน้าของนางกำนัล และคิ้วของเขาก็ขมวดลึกยิ่งขึ้นซูชิงอู่ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและพูดออกมาเพื่อช่วยฮุ่ยเฟย "ฮุ่ยเฟยไม่ใช่คนโง่ หากนางต้องการทำร้ายซูเฟยจริง ๆ แล้วนางจะจัดการให้ 'หนึ่งในคนของนาง' มาฆ่าใครสักคนอย่างโจ่งแจ้งได้อย่างไรกันล่ะเพคะ?"“ในตอนที่ท่านอ๋องและหม่อมฉันเข้าไปในตำหนักของซูเฟยเพื่อช่วยเหลือคน นางกำนัลผู้นี้ซ่อนตัวอยู่ท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 279

    แม้แต่หมอหลวงซุนก็ยังเคยเผชิญหน้ากับนักฆ่าหรือมือสังหารคนอื่น ๆ ที่ฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ แต่พิษที่พวกเขาได้รับนั้นแตกต่างกันออกไปดังนั้นจากองค์ประกอบของพิษจึงสามารถรู้ได้อย่างคร่าว ๆ ว่าคนเหล่านี้อยู่กลุ่มเดียวกันหรือไม่ในฐานะที่เป็นคนใหญ่คนโตในวังมาหลายปี หมอหลวงซุนเป็นผู้รอบรู้และพิษที่เขาพบในครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อสิบสองปีที่แล้วทันใดนั้นดวงตาของฮ่องเต้ก็เริ่มจริงจัง“สิบสองปีที่แล้ว? มันเรื่องอะไรกัน?!”เรื่องนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว ผ่านไปพักใหญ่ฮ่องเต้ก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงอะไรกับการลอบสังหารในปัจจุบันได้เสียงของหมอหลวงซุนนับว่าแผ่วเบา แต่ซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงซึ่งอยู่ไม่ไกลยังคงได้ยินอยู่“คือ...การเสียชีวิตของฮูหยินซูจวนอัครเสนาบดีซู...”ฮูหยินซู…เมื่อซูชิงอู่ได้ยินสามคำนี้ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันทีนางเดินไปหาหมอหลวงซุน และจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ลึกและมืดมนโดยไม่ลังเลเลย “ท่านหมายความว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการตายของแม่ข้างั้นหรือ?”เมื่อหมอหลวงซุนเห็นซูชิงอู่เข้ามา เขาก็รีบก้มศีรษะลงแล้วพูดด้วยความเคารพ "กระหม่อมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันหรื

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status