Share

บทที่ 318  

Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
นางไม่อยากพิเคราะห์ซูถิงหว่าน อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังรอให้ฮ่องเต้มีบัญชาเข้าเฝ้า ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทว่าทางฝ่าบาทกลับไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งที่ความคืบหน้าของการเดินทัพควรจะมาถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาทได้แล้ว!

เจียงเฟิ่งหัวไม่อยากพึ่งพิงเฉิงฮองเฮาไปตลอด เมื่อชาติก่อนเฉิงฮองเฮาเองก็ทำให้นางอับอายไม่น้อย ครึ่งชีวิตแรกนางถูกซูชิงชิงกดขี่ ส่วนอีกครึ่งชีวิตหลังก็ยังต้องถูกนางกดขี่

ในตอนนั้นเอง อู๋ซินกงกงมาถึงตำหนักคุนหนิงก็ค้อมกายทำความเคารพต่อฮองเฮาก่อนจะกล่าวว่า “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ”

ฮองเฮาทรงโปรดปรานขันทีน้อยคนนี้มาก ทั้งปากหวานเอาใจเก่งรู้สถานการณ์ ที่ฮ่องเต้กลับมาคืนดีกับนางอีกครั้ง เพราะมีอู๋ซินช่วยเอาไว้มาก ฮองเฮาตรัสว่า “ไม่ต้องมากพิธี ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกข้าเข้าเฝ้าหรือ”

“ฝ่าบาททรงกังวลพระทัยตลอดว่าพระพลานามัยของฮองเฮาจะแข็งแรงขึ้นบ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หลายวันมานี้ฝ่าบาททรงยุ่งอยู่กับการศึกชายแดนที่ห้องทรงพระอักษรตลอด ด้วยเหตุผลนี้จึงมิได้เสด็จมาเยี่ยมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ยังกำชับว่าให้ฮองเฮารักษาพระวรกายให้ดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ” แน่นอนว่าอู๋ซินย่อมแต่งเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 319  

    ได้ยินฝ่าบาทตรัสว่า “เหิงอ๋องส่งจดหมายมาแล้ว กล่าวว่าเส้นทางเดินทัพยาวไกล ศึกครั้งนี้กินเวลาอย่างน้อยครึ่งปี หรืออาจจะยาวนานถึงหนึ่งปี จำเป็นต้องเร่งระดมเสบียงส่งไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุด เหิงอ๋องกล่าวว่าพระชายาของเขาได้ก่อตั้งศาลาการกุศลแห่งหนึ่งขึ้นมาในหมู่ประชาชนทั่วไป ภายในมีช่างปักผ้ามากกว่าหนึ่งพันคน หากยามนี้ต้องเร่งตัดเย็บเครื่องนุ่งห่มกันหนาวสำหรับทหารจำนวนมากส่งไปยังแนวหน้า พระชายาคิดว่าเรื่องนี้ลำบากเกินไปหรือไม่” ทางการเองก็มีสำนักตัดเย็บ รับผิดชอบการตัดเย็บเสื้อผ้ารวมถึงชุดเกราะของกองทัพทั้งหมดในเมืองหลวง และมีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ทว่าสภาวการณ์ครั้งนี้เร่งด่วน และรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ตอนก่อนออกเดินทัพมาก อากาศหนาวจัด ทหารจำนวนมากทนความหนาวเย็นไม่ไหว ถึงขั้นพากันติดไข้หวัดล้มป่วยกันไปหมด จะอาศัยเพียงแพทย์ทหารอย่างเดียวก็เหมือนจะไม่เพียงพอ เดิมทีได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้อย่างรอบคอบไร้ช่องโหว่แล้ว ทว่าบัดนี้ทางการยังต้องระดมแพทย์จำนวนมากจากหมู่ประชาชนเพื่อส่งไปยังเขตชายแดน หลังจากเจียงเฟิ่งหัวเข้าใจสถานการณ์แล้ว ก็เอ่ยว่า “ศาลาการกุศลมิใช่หม่อมฉันก่อตั้งขึ้น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 320  

    “ขอบพระทัยเพคะเสด็จพ่อ” เจียงเฟิ่งหัวแม้ตั้งครรภ์ท้องโตแต่กระนั้นก็ยังคุกเข่าลงถวายบังคมต่อฝ่าบาทด้วยกิริยาอันนอบน้อมและสุภาพเรียบร้อย เจียงเฟิ่งหัวหมายใจจะช่วยให้พระชายาอวี้อ๋องหลุดพ้นจากเยี่ยนเฟย เมื่อครู่นางเพิ่งถามสถานการณ์ของพระชายาอวี้อ๋องจากอู๋ซิน กล่าวได้ว่าไม่สู้ดีทีเดียว เยี่ยนเฟยไม่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทนานมากแล้ว ฝ่าบาทเองก็หาได้สนพระทัยว่าเยี่ยนเฟยจะเป็นหรือตาย โอรสของนางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว นางจึงพาลเอาอารมณ์ขุ่นเคืองมาระบายใส่พระชายาอวี้อ๋อง เอาแต่ซ้ำเติมว่านางไม่มีปัญญาตั้งครรภ์มีโอรสธิดา เจียงเฟิ่งหัวไม่เข้าใจ ทั้งเป็นคนสกุลหลัวเหมือนกัน สกุลมารดาเดียวกัน พระชายาอวี้อ๋องยังนับได้ว่าเป็นหลานสาวสายนอกของนางด้วยซ้ำ ถึงจะมีบุตรไม่ได้แต่นางมิเพียงไม่ปลอบโยนไม่เห็นใจสงสาร หนำซ้ำยังใจร้ายย่ำยีศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายอีก กระทั่งเจียงเฟิ่งหัวออกไปแล้ว ฮ่องเต้พลันวางแผ่นฎีกาในพระหัตถ์ลงทันที ก่อนจะตรัสกับเฉาเต๋อ “จงไปเรียกเจียงหวยมาเข้าเฝ้า เราอยากจะพบหน้าเขาสักครั้ง” แค่ราชครูตัวน้อย ๆ แต่สามารถอบรมสั่งสอนดรุณีคนหนึ่งให้สง่างามมีศักดิ์ศรีได้เพียงนี้ไม่ง่ายดายนัก เฉาเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 321

    เจียงเฟิ่งหัวมาถึงตำหนักเยี่ยนเฟยแล้ว ก็ได้แต่รู้สึกว่าที่นี่เงียบเหงานัก ในลานกลางตำหนักไม่มีคนแม้แต่คนเดียวมีเพียงหญิงคนหนึ่งนั่งยองอยู่ในมุม เจียงเฟิ่งหัวเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงค่อยเห็นว่าเป็นพระชายาอวี้อ๋อง หลัวจื่อฉยงที่กำลังซักผ้าอยู่ นิ้วมือนางเย็นจนแข็งไปหมดแล้ว แดงไปทั้งมือ เหมือนเป็นแผลถูกความเย็นกัด“พระชายาอวี้อ๋อง” เจียงเฟิ่งหัวเปล่งเสียงเรียกนางหลัวจื่อฉยงหนาวจนชาไปทั้งตัวแล้ว เมื่อได้ยินเสียง นางหันไปก็เห็นเจียงเฟิ่งหัวยืนอยู่ไม่ไกลจากนางนางกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน “พระชายาเหิงอ๋องมาได้อย่างไรกัน?”เจียงเฟิ่งหัวมองดูเสื้อผ้าที่กองเป็นภูเขาตรงหน้านางแวบหนึ่ง “เหตุใดท่านจึงมาซักผ้า?” มองดูก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าของนางกำนัลพระชายาอวี้อ๋องน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่าเคยชินเป็นธรรมดาแล้ว “ไม่มีเหตุอันใดหรอก ท่านแม่สามีป่วย คนที่เป็นลูกสะใภ้ย่อมควรดูแลดี ๆ การซักเสื้อผ้าก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”“ไม่ต้องซักแล้ว ไปกับข้าเถอะ!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงหนักแน่นพระชายาอวี้อ๋องไม่หยุดมือ “พระชายาเหิงอ๋องไม่ต้องสงสารข้าหรอก” นางไม่ซักไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเยี่ยนเฟยจะเปลี่ยนวิธีทรมานนาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 322

    “เยี่ยนเฟยทรงระวังคำพูดหน่อยจะดีกว่านะเพคะ! ทุกคนล้วนเป็นสตรีทั้งนั้น นางทั้งเป็นหลานสาวท่านและยังเป็นลูกสะใภ้ท่านอีกด้วย เหตุใดเยี่ยนเฟยจึงต้องทำให้นางต้องลำบากใจถึงเพียงนี้เล่า”“คนที่ข้าพูดถึงคือลูกสะใภ้ข้า แล้วเกี่ยวอะไรกับพระชายาเหิงอ๋องด้วย ฮองเฮาประชวร พระองค์มีลูกสะใภ้สองคนดูแลรับใช้อยู่ข้างพระวรกาย พอข้าป่วยแล้วข้าให้ลูกสะใภ้ข้าเข้าวังมารับใช้บ้างไม่ได้หรือไร? เป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้เหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดจึงมีความแตกต่างเช่นนี้ หรือว่าข้าไม่ใช่แม่สามีเช่นนั้นหรือ” เยี่ยนเฟยไปสืบข่าวมาตั้งนานแล้ว ฮองเฮาก็ใช้งานพระชายารองซูไม่น้อยเหมือนกัน นางก็เพียงแค่เลียนแบบตามตัวอย่างที่มีเท่านั้นเจียงเฟิ่งหัวยังไม่เคยเจอคนที่ไร้สมองเช่นนี้ นางรู้สึกว่าเยี่ยนเฟยป่วยจริง ๆ แต่นางป่วยทางจิต“ขอเชิญพระชายาอวี้อ๋องมารับพระราชโองการเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงเข้ม “ข้านำพระราชกระแสรับสั่งจากฝ่าบาทมา หากเยี่ยนเฟยทำให้ธุระสำคัญของเสด็จพ่อล่าช้า เกรงว่ามีแต่จะต้องไปพำนักอยู่ที่ตำหนักเย็นเสียแล้ว”เยี่ยนเฟยดูท่าทางนางแล้วไม่ได้พูดโกหก แม้ว่าโกรธแต่ก็ไม่กล้าพูดมากอีกต่อไป แต่ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงทรง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 1

    ภายในห้องหับวิจิตรงามสง่า สาวน้อยนางหนึ่งสวมชุดวิวาห์หรูหรานั่งอยู่หน้ากระจก ดวงหน้างามพิลาสของนางเผยรอยยิ้มอ่อนโยนมารดาของสาวน้อยกำลังแต่งตัวให้นาง มองดูลูกสาวตรงหน้าอย่างทั้งปลาบปลื้มและปวดใจ ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่กำลังจะออกเรือนแล้ว ดวงตาของนางแดงเรื่ออย่างอดไม่อยู่ “เดิมทีแม่อยากให้เจ้าอยู่ข้างกายอีกสักสองปี คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงวัยปักปิ่นก็มีราชโองการประทานสมรสของฝ่าบาทลงมาเสียแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยปลอบ “ลูกแต่งเข้าราชวงศ์ไปเป็นชายาอ๋อง พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศทรัพย์ศฤงคาร แพรพรรณอาหารชั้นเลิศ ชีวิตย่อมสุขสบายเป็นแน่แท้ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน”“จ้ะๆๆ ลูกสาวแม่เป็นคนมีวาสนา คุณหนูสกุลใหญ่มีตั้งมากมาย ฮองเฮาทอดพระเนตรปราดเดียวก็เลือกเจ้าเป็นชายาของเหิงอ๋อง เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของฮองเฮา ฮองเฮายังโปรดเจ้ามากถึงเพียงนี้ วันหน้าจะต้องไม่ดูดายเจ้าแน่นอน” เฝิงจิ้งย่วนปีติยินดีจนน้ำตาไหล คิดถึงว่าเหิงอ๋องหล่อเหลาสง่างาม ความสามารถด้านศิลปศาสตร์โดดเด่น ทรงอำนาจบารมี ลูกสาวโฉมงามล่มเมือง เชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากล้อม เขียนพู่กันและวาดภาพ สกุลเจียงซึ่ง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 2

    เมื่อครู่ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วเวลากะพริบตาเดียวเท่านั้น ความเคลื่อนไหวของเซี่ยซางนับว่าว่องไว ดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ร่วงลงมาตรงอกเจียงเฟิ่งหัวคลุมศีรษะให้นางใหม่ หลังจากนั้นเขาก็กลับไปมีท่าทางห่างเหินที่ห้ามคนแปลกหน้าใกล้ชิดอีกครั้ง ไอเย็นห่อหุ้มรอบกาย แววตายิ่งเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ปราศจากความรู้สึกแม้เศษเสี้ยว น้ำเสียงหนักแน่นเปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดดังขึ้นริมโสตนาง “เจ้ายังดำเนินพิธีต่อได้หรือไม่?”เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าน้อยๆ “เพคะ”นางรู้ว่าถึงเซี่ยซางจะไม่ยินดีแต่งงานกับนาง แต่ก็ไม่มีทางเห็นคนประสบอันตรายแล้วไม่ช่วยเหลือ พวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อน เจอกันครั้งแรกก็วีรบุรุษช่วยสาวงาม เท่านี้ก็พอให้ซูถิงหว่านที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนถือสาแล้ว ส่วนว่าความเคลื่อนไหวของนางจะทำให้แม่สามีไม่พอใจหรือไม่นั้น มิได้อยู่ในขอบเขตการพิจารณของนางยามนั้นขุนนางผู้ดำเนินพิธีรีบเอ่ยว่า “ยิ่งไฟลุกยิ่งรุ่งโรจน์ ยิ่งโหมไหม้ยิ่งเป็นมงคล ชีวิตของพระชายากับท่านอ๋องจะต้องรุ่งโรจน์โชติช่วง เจริญรุ่งเรืองเป็นแน่แท้ ดำเนินพิธีมงคลสมรสต่อไปได้...”ทุกคนเห็นเจ้าสาวเพียงแวบเดียวก็เอ่ยวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความประหลาดใจ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 3

    ขนตาเจียงเฟิ่งหัวไหวระริก ใบหน้าเล็กๆ นั้นอดกลั้นจนแดงก่ำ นิ้วมือเรียวกระชับชุดชั้นนอกที่เดิมก็บางเบาอยู่แล้ว ยิ่งปกปิดยิ่งเผยให้เห็นเรือนร่างกลมกลึงของนาง เท้าเปลือยเปล่าคู่นั้นเปิดเผยอยู่เบื้องหน้าเขา ชวนให้คนเอ็นดูเหมือนภูตน้อยไม่มีผิดเซี่ยซางรีบเสสายตาหนี เอ่ยเสียงเย็นชา “แต่งตัวให้เรียบร้อย”เจียงเฟิ่งหัวก้มหน้ามอง พบว่าเท้าของตนเองเปลือยเปล่า นางบิดเอวคอดเดินผ่านหน้าเขาไป ด้านหนึ่งดึงอาภรณ์ลงปกปิดอย่างร้อนรน ด้านหนึ่งก็อธิบายเสียงเบา “หม่อมฉันไม่ได้ไม่รู้กฎระเบียบนะเพคะ ท่านอ๋องโปรดฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน ตอนกลางวันชุดชั้นนอกของหม่อมฉันถูกไฟเผา หม่อมฉันเกรงว่าจะแลดูไม่เหมาะสม ครั้นกลับห้องหม่อมฉันจึงให้คนไปเตรียมน้ำอาบน้ำ เดิมคิดว่าจะแต่งตัวใหม่ แต่อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินไปจึงเผลอหลับไปโดยไม่ทันระวัง หม่อมฉันจึงลืมเวลาไปชั่วขณะ”“ข้าไม่ได้ถือสา” น้ำเสียงของเขาห่างเหินเย็นชา แววตามืดครึ้มเผยให้เห็นความไม่พอใจนางคิด สำหรับคนที่ไม่สนใจแล้ว ต่อให้เปลือยทั้งตัว เขาก็ไม่สนใจหรอกเจียงเฟิ่งหัวดวงตาเป็นประกาย นางหลบไปข้างๆ อย่างอ่อนแอขวัญอ่อน ดวงตาฉายแววลังเล กัดริมฝีปากสีแดงฉ่ำพึมพ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 4

    ปลายฤดูวสันต์ อากาศเริ่มร้อนระอุ บนร่างเจียงเฟิ่งหัวสวมชุดบางๆ ชั้นเดียวไม่หนาวและไม่ร้อน ในไม่ช้าก็นอนหลับไป ลมหายใจสม่ำเสมอเซี่ยซางอาบน้ำกลับมาก็เห็นนางนอนอยู่ด้านในสุดของเตียง เรือนร่างนางโค้งเว้าชัดเจน เอวคอดดุจกิ่งหลิว ขาเรียวงามโผล่ออกมานอกผ้าห่ม เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดถึงที่สุด แขนเกลี้ยงเกลาดุจหยกพาดสะเปะสะปะ ดวงหน้างามพิสุทธิ์ผุดผาด ดวงตาทั้งสองหลับพริ้ม ขนตางอนงามสงบนิ่งดุจหญิงที่ยังไม่ออกเรือน ริมฝีปากแดงอิ่มเป็นมันวาว เย้ายวนชวนเสน่หาเซี่ยซางอึ้งไปชั่วขณะ เขาจำต้องยอมรับว่ารูปโฉมงามพิลาสของเจียงเฟิ่งหัวนั้นหาได้ยากยิ่ง เขานอนอยู่ด้านนอกสุดของเตียงโดยสวมอาภรณ์เรียบร้อย เว้นที่ว่างกว้างเท่าหนึ่งคนนอนได้ไว้ตรงกลาง กลิ่นหอมกรุ่นจางๆ ซ่านเข้าจมูก ตอนกลางวันขณะที่เขาอุ้มนางก็ได้กลิ่นหอมอ่อนจางเช่นนี้ หอมจรุงใจยิ่งนักเขาหลับตา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เขากลั้นหายใจรวบรวมสมาธิ เตือนตัวเองว่าแม้จะนอนร่วมเตียงกับสตรีผู้หนึ่งก็สามารถทำได้ถึงขั้นจิตใจไม่วอกแวกเจียงเฟิ่งหัวไม่ใช่คนที่เขารัก นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่มีดีเพียงรูปโฉม ไม่อาจมีความคิดนอกลู่นอกทางกับนางเป็นอันขาดหันไปมองเจี

Bab terbaru

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 322

    “เยี่ยนเฟยทรงระวังคำพูดหน่อยจะดีกว่านะเพคะ! ทุกคนล้วนเป็นสตรีทั้งนั้น นางทั้งเป็นหลานสาวท่านและยังเป็นลูกสะใภ้ท่านอีกด้วย เหตุใดเยี่ยนเฟยจึงต้องทำให้นางต้องลำบากใจถึงเพียงนี้เล่า”“คนที่ข้าพูดถึงคือลูกสะใภ้ข้า แล้วเกี่ยวอะไรกับพระชายาเหิงอ๋องด้วย ฮองเฮาประชวร พระองค์มีลูกสะใภ้สองคนดูแลรับใช้อยู่ข้างพระวรกาย พอข้าป่วยแล้วข้าให้ลูกสะใภ้ข้าเข้าวังมารับใช้บ้างไม่ได้หรือไร? เป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้เหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดจึงมีความแตกต่างเช่นนี้ หรือว่าข้าไม่ใช่แม่สามีเช่นนั้นหรือ” เยี่ยนเฟยไปสืบข่าวมาตั้งนานแล้ว ฮองเฮาก็ใช้งานพระชายารองซูไม่น้อยเหมือนกัน นางก็เพียงแค่เลียนแบบตามตัวอย่างที่มีเท่านั้นเจียงเฟิ่งหัวยังไม่เคยเจอคนที่ไร้สมองเช่นนี้ นางรู้สึกว่าเยี่ยนเฟยป่วยจริง ๆ แต่นางป่วยทางจิต“ขอเชิญพระชายาอวี้อ๋องมารับพระราชโองการเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงเข้ม “ข้านำพระราชกระแสรับสั่งจากฝ่าบาทมา หากเยี่ยนเฟยทำให้ธุระสำคัญของเสด็จพ่อล่าช้า เกรงว่ามีแต่จะต้องไปพำนักอยู่ที่ตำหนักเย็นเสียแล้ว”เยี่ยนเฟยดูท่าทางนางแล้วไม่ได้พูดโกหก แม้ว่าโกรธแต่ก็ไม่กล้าพูดมากอีกต่อไป แต่ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงทรง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 321

    เจียงเฟิ่งหัวมาถึงตำหนักเยี่ยนเฟยแล้ว ก็ได้แต่รู้สึกว่าที่นี่เงียบเหงานัก ในลานกลางตำหนักไม่มีคนแม้แต่คนเดียวมีเพียงหญิงคนหนึ่งนั่งยองอยู่ในมุม เจียงเฟิ่งหัวเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงค่อยเห็นว่าเป็นพระชายาอวี้อ๋อง หลัวจื่อฉยงที่กำลังซักผ้าอยู่ นิ้วมือนางเย็นจนแข็งไปหมดแล้ว แดงไปทั้งมือ เหมือนเป็นแผลถูกความเย็นกัด“พระชายาอวี้อ๋อง” เจียงเฟิ่งหัวเปล่งเสียงเรียกนางหลัวจื่อฉยงหนาวจนชาไปทั้งตัวแล้ว เมื่อได้ยินเสียง นางหันไปก็เห็นเจียงเฟิ่งหัวยืนอยู่ไม่ไกลจากนางนางกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน “พระชายาเหิงอ๋องมาได้อย่างไรกัน?”เจียงเฟิ่งหัวมองดูเสื้อผ้าที่กองเป็นภูเขาตรงหน้านางแวบหนึ่ง “เหตุใดท่านจึงมาซักผ้า?” มองดูก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าของนางกำนัลพระชายาอวี้อ๋องน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่าเคยชินเป็นธรรมดาแล้ว “ไม่มีเหตุอันใดหรอก ท่านแม่สามีป่วย คนที่เป็นลูกสะใภ้ย่อมควรดูแลดี ๆ การซักเสื้อผ้าก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”“ไม่ต้องซักแล้ว ไปกับข้าเถอะ!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงหนักแน่นพระชายาอวี้อ๋องไม่หยุดมือ “พระชายาเหิงอ๋องไม่ต้องสงสารข้าหรอก” นางไม่ซักไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเยี่ยนเฟยจะเปลี่ยนวิธีทรมานนาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 320  

    “ขอบพระทัยเพคะเสด็จพ่อ” เจียงเฟิ่งหัวแม้ตั้งครรภ์ท้องโตแต่กระนั้นก็ยังคุกเข่าลงถวายบังคมต่อฝ่าบาทด้วยกิริยาอันนอบน้อมและสุภาพเรียบร้อย เจียงเฟิ่งหัวหมายใจจะช่วยให้พระชายาอวี้อ๋องหลุดพ้นจากเยี่ยนเฟย เมื่อครู่นางเพิ่งถามสถานการณ์ของพระชายาอวี้อ๋องจากอู๋ซิน กล่าวได้ว่าไม่สู้ดีทีเดียว เยี่ยนเฟยไม่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทนานมากแล้ว ฝ่าบาทเองก็หาได้สนพระทัยว่าเยี่ยนเฟยจะเป็นหรือตาย โอรสของนางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว นางจึงพาลเอาอารมณ์ขุ่นเคืองมาระบายใส่พระชายาอวี้อ๋อง เอาแต่ซ้ำเติมว่านางไม่มีปัญญาตั้งครรภ์มีโอรสธิดา เจียงเฟิ่งหัวไม่เข้าใจ ทั้งเป็นคนสกุลหลัวเหมือนกัน สกุลมารดาเดียวกัน พระชายาอวี้อ๋องยังนับได้ว่าเป็นหลานสาวสายนอกของนางด้วยซ้ำ ถึงจะมีบุตรไม่ได้แต่นางมิเพียงไม่ปลอบโยนไม่เห็นใจสงสาร หนำซ้ำยังใจร้ายย่ำยีศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายอีก กระทั่งเจียงเฟิ่งหัวออกไปแล้ว ฮ่องเต้พลันวางแผ่นฎีกาในพระหัตถ์ลงทันที ก่อนจะตรัสกับเฉาเต๋อ “จงไปเรียกเจียงหวยมาเข้าเฝ้า เราอยากจะพบหน้าเขาสักครั้ง” แค่ราชครูตัวน้อย ๆ แต่สามารถอบรมสั่งสอนดรุณีคนหนึ่งให้สง่างามมีศักดิ์ศรีได้เพียงนี้ไม่ง่ายดายนัก เฉาเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 319  

    ได้ยินฝ่าบาทตรัสว่า “เหิงอ๋องส่งจดหมายมาแล้ว กล่าวว่าเส้นทางเดินทัพยาวไกล ศึกครั้งนี้กินเวลาอย่างน้อยครึ่งปี หรืออาจจะยาวนานถึงหนึ่งปี จำเป็นต้องเร่งระดมเสบียงส่งไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุด เหิงอ๋องกล่าวว่าพระชายาของเขาได้ก่อตั้งศาลาการกุศลแห่งหนึ่งขึ้นมาในหมู่ประชาชนทั่วไป ภายในมีช่างปักผ้ามากกว่าหนึ่งพันคน หากยามนี้ต้องเร่งตัดเย็บเครื่องนุ่งห่มกันหนาวสำหรับทหารจำนวนมากส่งไปยังแนวหน้า พระชายาคิดว่าเรื่องนี้ลำบากเกินไปหรือไม่” ทางการเองก็มีสำนักตัดเย็บ รับผิดชอบการตัดเย็บเสื้อผ้ารวมถึงชุดเกราะของกองทัพทั้งหมดในเมืองหลวง และมีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ทว่าสภาวการณ์ครั้งนี้เร่งด่วน และรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ตอนก่อนออกเดินทัพมาก อากาศหนาวจัด ทหารจำนวนมากทนความหนาวเย็นไม่ไหว ถึงขั้นพากันติดไข้หวัดล้มป่วยกันไปหมด จะอาศัยเพียงแพทย์ทหารอย่างเดียวก็เหมือนจะไม่เพียงพอ เดิมทีได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้อย่างรอบคอบไร้ช่องโหว่แล้ว ทว่าบัดนี้ทางการยังต้องระดมแพทย์จำนวนมากจากหมู่ประชาชนเพื่อส่งไปยังเขตชายแดน หลังจากเจียงเฟิ่งหัวเข้าใจสถานการณ์แล้ว ก็เอ่ยว่า “ศาลาการกุศลมิใช่หม่อมฉันก่อตั้งขึ้น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 318  

    นางไม่อยากพิเคราะห์ซูถิงหว่าน อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังรอให้ฮ่องเต้มีบัญชาเข้าเฝ้า ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทว่าทางฝ่าบาทกลับไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งที่ความคืบหน้าของการเดินทัพควรจะมาถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาทได้แล้ว! เจียงเฟิ่งหัวไม่อยากพึ่งพิงเฉิงฮองเฮาไปตลอด เมื่อชาติก่อนเฉิงฮองเฮาเองก็ทำให้นางอับอายไม่น้อย ครึ่งชีวิตแรกนางถูกซูชิงชิงกดขี่ ส่วนอีกครึ่งชีวิตหลังก็ยังต้องถูกนางกดขี่ ในตอนนั้นเอง อู๋ซินกงกงมาถึงตำหนักคุนหนิงก็ค้อมกายทำความเคารพต่อฮองเฮาก่อนจะกล่าวว่า “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ” ฮองเฮาทรงโปรดปรานขันทีน้อยคนนี้มาก ทั้งปากหวานเอาใจเก่งรู้สถานการณ์ ที่ฮ่องเต้กลับมาคืนดีกับนางอีกครั้ง เพราะมีอู๋ซินช่วยเอาไว้มาก ฮองเฮาตรัสว่า “ไม่ต้องมากพิธี ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกข้าเข้าเฝ้าหรือ” “ฝ่าบาททรงกังวลพระทัยตลอดว่าพระพลานามัยของฮองเฮาจะแข็งแรงขึ้นบ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หลายวันมานี้ฝ่าบาททรงยุ่งอยู่กับการศึกชายแดนที่ห้องทรงพระอักษรตลอด ด้วยเหตุผลนี้จึงมิได้เสด็จมาเยี่ยมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ยังกำชับว่าให้ฮองเฮารักษาพระวรกายให้ดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ” แน่นอนว่าอู๋ซินย่อมแต่งเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 317  

    “ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา” นางหาที่นั่งและทิ้งบั้นท้ายนั่งลงทันที สันหลังตั้งตรง ท่าทีมองลงมาจากที่สูง นางยังคงติดตรึงในห้วงความฝันท่าทางของนางที่เปี่ยมล้นด้วยเกียรติยศและอำนาจ สมจริงถึงเพียงนี้เชียว คล้ายกับว่านั่นคืออีกครึ่งชีวิตหลังจากนี้ที่นางจะได้สัมผัสมันในวันข้างหน้า ซูถิงหว่านก็เหลือบสายตามองท้องของเจียงเฟิ่งหัว ในความฝันของนางเด็กสองคนที่เกิดจากเจียงเฟิ่งหัวจะทรมานเจียงเฟิ่งหัว จะทำให้นางเป็นทุกข์เหมือนตายทั้งเป็น ซูถิงหว่านยินดีเป็นอย่างยิ่ง นางจึงเอ่ยว่า “ได้ยินหมอหลวงเหมยกล่าวว่าพระชายาตั้งครรภ์ลูกแฝด พระชายาช่างมีโชควาสนาจริง ๆ เพคะ ตั้งครรภ์คราเดียวได้ถึงสองพระองค์” เพราะนางเอ่ยว่าเซี่ยซางได้รับชัยในสงครามแล้ว สีพระพักตร์ของฮองเฮาจึงมิได้ย่ำแย่ลง แต่กลับรับคำพูดนั้นต่ออย่างราบรื่น “ซางเอ๋อร์มีวาสนาดี ได้อภิเษกสมรสกับพระชายาผู้งดงามเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอย่างหรวนหร่วนคนนี้ หรวนหร่วนเองก็มีความพยายาม ตั้งครรภ์คราเดียวก็ได้เจ้าตัวน้อยถึงสองพระองค์ ผิดกับบางคนที่ตลอดทั้งชีวิตก็ยังตั้งครรภ์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป” อันที่จริงบางคนที่นางผู้ถึงก็คือซูถิงหว่าน เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซู

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 316  

    ถือสิทธิ์อะไร? หากความฝันเป็นความจริงได้ก็คงดี นางได้เป็นฮองเฮาผู้สูงส่งไร้ใดเปรียบ ส่วนเด็กสองคนที่เจียงเฟิ่งหัวให้กำเนิดกลับต้องเรียกนางว่าเสด็จแม่ การเลี้ยงดูพวกเขาให้เสียผู้เสียคนคือเรื่องที่ทำให้นางสะใจที่สุดแล้ว ในตอนนี้เอง สี่หมัวมัวก็พาคนเข้ามาพร้อมหอบเครื่องภูษากองหนึ่งบุกเข้ามาด้วย เห็นนางยังนอนอยู่บนเตียง สี่หมัวมัวก็เริ่มเอ่ยวาจาหาเรื่องทันที “เครื่องภูษาของฮองเฮากองนี้ยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่พระชายารองซูกลับเกียจคร้านซ่อนตัวอยู่ในห้อง” ซูถิงหว่านลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบว่า “เครื่องภูษาของฮองเฮายังต้องให้ข้าทำความสะอาด เช่นนั้นจะเลี้ยงบ่าวชั้นต่ำอย่างพวกเจ้าเอาไว้เพื่ออะไร” นางคิดถึงภาพอันน่าสังเวชของเฉิงฮองเฮาที่ต้องใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเดียวดายในความฝันขึ้นมา นางก็เกือบจะหัวเราะออกมา ไม่รู้เหตุใดเซี่ยซางจึงไม่โปรดปรานเสด็จแม่ของเขา แม้ว่าจะยอมให้นางได้เป็นไทเฮา ทว่านางก็เป็นไทเฮาแค่ในนาม อำนาจในมือล้วนอยู่ที่ท่านป้าของนางหมด สี่หมัวมัวเห็นเช่นนี้ก็เอ่ยว่า “ก่อนท่านอ๋องจะเสด็จออกไปได้มีคำสั่ง ให้พระชายารองซูอยู่ที่วังหลวงคอยดูแลปรนนิบัติฮองเฮา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 315  

    “นางคือเสด็จแม่ และนางก็เป็นฮองเฮา เป็นเสด็จแม่ของพวกข้า” องค์ชายน้อยตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “มีเพียงฮองเฮาที่รักพวกข้ามากที่สุด นางให้ข้ากิน ให้พวกข้าสวมอาภรณ์ชุดใหม่ แต่ท่านกลับทำได้เพียงเย็บอาภรณ์เก่า ๆ เหล่านี้ให้พวกข้า มิหนำซ้ำยังปล่อยให้พวกข้าอดอยาก พวกข้าเกลียดท่านที่สุด” เจียงเฟิ่งหัวเจ็บปวดเหมือนมีดกรีดแทงหัวใจ นางร่ำไห้น้ำตานองราวกับห่าฝน รู้สึกอึดอัดเสียใจจนพูดไม่ออก ซูถิงหว่านหรี่ตามองอย่างเยือกเย็น ก่อนจะสั่งให้คนไปนำอาหารและเสื้อผ้าดี ๆ มาให้เด็กน้อยไร้เดียงสาสองคน และให้คนพาพวกเขาทั้งสองคนกลับตำหนักคุนหนิงเพื่อจะได้ดูแลอย่างเต็มที่ หากนางรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ ก็จะพาพวกเขากลับมาเผชิญความลำบากอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็จะจงเกลียดจงชังมารดาผู้ให้กำเนิดของเขาแล้ว นางยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “เจียงเฟิ่งหัว ต่อให้เจ้าเป็นชายาเอกของฝ่าบาทแล้วอย่างไร แม้จะถูกเจ้าแย่งชิงตำแหน่งพระชายารัชทายาทไปแล้วอย่างไร บัดนี้ข้าเป็นถึงฮองเฮาผู้เป็นมารดาแห่งใต้หล้าแล้ว ดูสิ! แม้แต่บุตรสองคนที่เจ้าให้กำเนิดยังไม่ยอมรับเจ้าเลยด้วยซ้ำ พวกเขาเกลียดเจ้าอย่างกับอะไรดี” เจียง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 314  

    กลับมาถึงตำหนักครั้นนางผลักประตูห้องออกก็รับรู้ได้ถึงกระแสอากาศเย็นเยียบระลอกหนึ่งพัดเข้ามาจนนางหนาวสั่นไปทั้งร่างกาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องรอให้เซี่ยซางกลับมา นางคงถูกฮองเฮาทรมานจนตายไปก่อนแล้ว ฮองเฮาและเจียงเฟิ่งหัวเกลียดนางเข้ากระดูกดำ คนอย่างพวกนางไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ ไม่รู้ว่าสงครามนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าใด แต่นางต้องหาหนทางหลบหลีกเอาตัวรอดจากการทรมานของพวกนางให้ได้ บัดนี้ท่านป้าสูญเสียความโปรดปรานจากฝ่าบาทไปแล้ว มิหนำซ้ำยังคลุ้มคลั่งจนสติวิปลาสไปแล้ว หวังให้นางช่วยเหลือก็คงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ซูถิงหว่านเพิ่งออกมาจากห้องเครื่องเล็ก นางกินอิ่มแล้ว บัดนี้ความง่วงงุนเริ่มครอบงำ จึงตัดสินใจว่าจะงีบบนเตียงสักตื่นหนึ่งก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ต่อให้จะหนีออกจากวังหลวงกลับไปที่ด่านชายแดน ก็ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่นานนัก ซูถิงหว่านก็ค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทรา ในความฝันนางเห็นเจียงเฟิ่งหัวสวมอาภรณ์เนื้อหยาบสีเรียบกำลังเย็บปะเสื้อผ้า มือของนางเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยช้ำจากความหนาวเย็น ข้างกายของนางมีเด็กชายหนึ่งคนและเด็กหญิงอีกหนึ่งคน เสื้อผ้าที่สวมอยู่บนตัวดูเก่าคร่ำคร่า แม้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status