Share

บทที่ 294

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
“ท่านอ๋องทรงคิดเห็นอย่างไรเพคะ?” เจียงเฟิ่งหัวถาม

“ไม่รบย่อมเป็นการดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ว่าหากพวกมันคิดอยากมารนหาที่ตายจริง ๆ ต้าโจ้วก็ไม่กลัวพวกมัน” แววตาเซี่ยซางลุ่มลึก มีความเหี้ยมเกรียมแผ่ออกมา “เสียงจากขุนนางใหญ่ในราชสำนักที่ถวายคำแนะนำให้เจรจาสันติภาพมีมากกว่าเสียงที่สนับสนุนให้เตรียมรับสงคราม พวกผู้เฒ่าเหล่านั้นกลับไม่รู้ว่ายิ่งถอย พวกเผ่าหูยิ่งกำเริบเสิบสาน พวกมันก็จะยิ่งนึกว่าต้าโจวกลัวพวกมัน เรื่องนี้ก็จะไม่มีวันจบสิ้น”

เจียงเฟิ่งหัวน้ำเสียงสบาย ๆ ในแววตาเหมือนมีแสงดาวส่องประกาย นางถึงกับดูเหมือนว่าหลงใหลและบูชาเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว ทำให้เซี่ยซางนึกว่าในสายตาและในใจนางมีแต่เขาและเขาเท่านั้น เติมเต็มความรู้สึกชายเป็นใหญ่ของเขา

นางยิ้มน้อย ๆ กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “หม่อมฉันเชื่อว่าท่านอ๋องต้องปกป้องประชาราษฎรชาวต้าโจวได้อย่างแน่นอนเพคะ หากจะต้องสู้รบคราวนี้จริง ๆ ต้าโจวของเราก็มีโอกาสที่จะชนะ หม่อมฉันสนับสนุนท่านอ๋องอย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อให้เลวร้ายที่สุด พวกเราก็ยังมีศาลาการกุศล ช่วงที่ท่านไม่อยู่ พระชายาอ๋องสาวและพระชายาอ๋องรอง อีกทั้งเหล่าสตรีในเมืองหลวง พวกนาง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Meerada Sunny
สู้ๆนะชายาเอก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 295

    เจียงเฟิ่งหัวมองดูอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ หันไปทางพวกนาง กล่าวอย่างสงบเยือกเย็น “ทุกคนมากินด้วยกันเถอะ อย่าให้เสียของ คืนนี้สวีหมัวมัวต้มน้ำแกงเนื้อแพะ วันหนาว ๆ กินแล้วจะได้อุ่นท้อง”เหลียนเย่โมโหจนปากคว่ำจะโค้งถึงฟ้าแล้ว สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ท่านอ๋องทรงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน พระชายาทรงเริ่มเตรียมมาตั้งแต่บ่าย อย่างน้อยเสวยแล้วค่อยไปสิเพคะ!”หงซิ่วกล่าว “เจ้าพูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ อย่างน้อยท่านอ๋องกลับจวนมาแล้วเรื่องแรกที่ทำก็คือนึกถึงพระชายาของเรา” ยิ่งไปกว่านั้นขณะนี้ร่างกายของพระชายาไม่สะดวกปรนนิบัติ ย่อมทำให้พระชายารองซูฉวยโอกาสได้ ความกังวลของสวีหมัวมัวก็มาเยือนจริง ๆ หงซิ่วก็ได้รับการฝึกฝนมาแล้ว หลาย ๆ เรื่องนางมองได้ทะลุปรุโปร่ง ในช่วงที่เรียนกับพ่อบ้านเฉิงนี้ นางก็ได้เรียนรู้มามาก แต่นางมุ่งไปที่การวางแผนเพื่อพระชายามากกว่า ไม่ว่าท่านอ๋องจะมีผู้หญิงสักกี่คน นางก็รู้สึกว่าการได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องภายในของจวนอ๋องนั้นสำคัญกว่าพระชายามีอำนาจในมือ ใครก็รังแกนางไม่ได้โชคดีที่ท่านอ๋องมอบอำนาจทั้งหมดในจวนให้พระชายาแล้ว ส่วนพระชายารองซู นางก็เพียงแค่อยากล่อลวงท่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 296

    มุมปากของเซี่ยซางมีรอยยิ้ม “ที่แท้หวานหว่านก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ”“ท่านอ๋องทรงลองชิมดูสิเพคะ อาหารจานนี้เรียกว่าคลื่นมรกต ทั้งเลิศรสและให้ความรู้สึกสดชื่นมากเลยเพคะ”เซี่ยซางหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมไปคำหนึ่ง สดชื่นจริงดั่งว่า รสชาติมีเอกลักษณ์และมีกลิ่นหอม คล้ายรสชาติที่เจียงเฟิ่งหัวชื่นชอบ แต่เพราะตอนนี้นางตั้งครรภ์จึงเปลี่ยนมาชอบทานเนื้อซูถิงหว่านกล่าวต่อว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันมักชอบกินเนื้อ แต่กลับไม่รู้ว่าเนื้อมื้อหนึ่งของหม่อมฉัน หากอยู่ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา พวกเขาจะกินได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น”“เป็นแบบนั้นจริงๆ ครั้งนี้ข้าไปบรรเทาทุกข์ที่เจียงหนาน ล้วนกล่าวกันว่าเจียงหนานมั่งคั่ง ราษฎรอุดมด้วยเสื้อผ้าอาหาร แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยเสื้อผ้าอาหารมีเพียงผู้สูงศักดิ์ร่ำรวย ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก รวมกับต้องมาประสบอุทกภัยในช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงอีก ชีวิตของความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ยิ่งลำเค็ญ พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดจากฤดูหนาวนี้ให้ได้ ถึงจะรอถึงช่วงเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า” เซี่ยซางบรรยายอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง เขาเกือบจะเรียกหรวนหร่วน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 297

    วันถัดมา เจียงเฟิ่งหัวเข้าวังแต่เช้าเมื่อฮองเฮาเห็นนางมา ก็จูงมือนางไปนั่งข้างกายอย่างยินดี แล้วถามไถ่อย่างอบอุ่นว่า “ช่วงนี้สุขภาพดีขึ้นหรือยัง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่?”“ทูลเสด็จแม่ ดีขึ้นมากแล้วเพคะ อยากอาหารและรับประทานได้มากขึ้น และไม่อาเจียนแล้วเพคะ” นางตอบอย่างซื่อตรงตามความจริงฮองเฮาเห็นเจียงเฟิ่งหัวท้องได้สี่เดือนแล้วแต่ยังผ่ายผอมถึงเพียงนี้ ดวงหน้าจะยังคงงามพิลาสเหนือปุถุชน แต่หน้าอกอวบอิ่มขึ้นไม่น้อย ดูแล้วยิ่งมีเสน่ห์ บรรยากาศรอบกายให้ความรู้สึกสดใส นางยิ่งมองก็ยิ่งพอใจที่ตอนนั้น ตนเองเลือกสะใภ้ที่งดงามดั่งดอกไม้ น่ารักน่าใคร่เช่นนี้ให้แต่งกับเขานางกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า “หรวนหร่วนต้องกินให้มากหน่อย ตอนนี้เจ้าคนเดียวต้องกินอาหารสำหรับสามคน ดังนั้นอย่าได้ควบคุมปริมาณอาหารเพื่อความงามเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรเด็กก็สำคัญที่สุด ส่วนรูปร่างนั้นค่อยไปควบคุมภายหลังก็ได้”“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ เสด็จแม่ทรงวางพระทัยเถิด เด็กๆ แข็งแรงมากเพคะ” แม้ปากของเจียงเฟิ่งหัวจะกล่าวอย่างเคารพ ทว่าภายในใจกับกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์ที่นางเข้าวังมาในวันนี้เช่นกัน นางกล่าวต่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 298

    เจียงเฟิ่งหัวรู้ถึงสถานการณ์ของสกุลเฉิง ชาติที่แล้วก็เป็นเช่นนี้ ชีวิตของเฉิงฮองเฮาไม่ดี วันเวลาของสกุลเฉิงก็ไม่ดีไปด้วยแม้นางจะเป็นภรรยาเอกของเซี่ยซาง แต่ก็ทำให้สกุลเจียงทั้งตระกูลพลอยเดือดร้อนมีชีวิตอย่างยากลำบากเช่นกัน ดังนั้นนางจึงเข้าใจเฉิงฮองเฮาเป็นอย่างดีแต่เมื่อได้ฟังเฉิงฮองเฮากล่าวกับนางด้วยตนเองเช่นนี้ ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างน้อยที่สุด เฉิงฮองเฮาก็เห็นนางสะใภ้ผู้นี้เป็นคนกันเองแล้วหากเฉิงฮองเฮาเต็มใจช่วยนางจัดการกับซูถิงหว่าน นางก็ไม่รังเกียจจะช่วยพูดให้สกุลเฉิงต่อหน้าเซี่ยซางสักประโยคสองประโยคขอเพียงแม่ทัพเฉิงสามารถคว้าโอกาสไว้ได้ การที่พวกเขาคิดจะไต่เต้ายิ่งขึ้นไป ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของสกุลเจียงแต่อย่างใดศัตรูที่พวกเขามีร่วมกันล้วนเป็นสกุลซู เรื่องดีๆ เช่นนี้เหตุใดนางจะไม่ทำเล่าเจียงเฟิ่งหัวยิ้มบางๆ ว่า “ความหมายของเสด็จแม่คือ หากท่านอ๋องจะออกศึก ทรงหวังให้พระองค์นำชนรุ่นหลังของจวนแม่ทัพเฉิงไปด้วยใช่ไหมเพคะ” ได้แต่ช่วยดันคนรุ่นหลังก่อน เพราะในชาติก่อน แม่ทัพเฉิงก็คว้าโอกาสนี้ไว้ไม่ได้ หากเขาไปขอราชโองการอย่างบุ่มบ่าม เกรงว่าจะทำให้ฮ่องเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 299

    “เช้าวันนี้ตอนที่หม่อมฉันจะเข้าวัง ได้ยินพ่อบ้านเฉิงพูดว่าจะจัดเตรียมชุดกันหนาวให้ชายารองซู ดูเหมือนชายารองซูจะเดินทางไกลนะเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวขึ้นมาอีก“นางจะไปที่ใดกัน ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วนางยังคิดจะไปที่ใดอีก” เฉิงฮองเฮากล่าวเสียงหนัก“แม่ทัพน้อยสกุลซูกลับเมืองหลวงแล้ว ชายารองซูน่าจะไปที่จวนสกุลซูเพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูยังพักอยู่ที่นั่นเพคะ”“นางเฒ่านั่นจะกลับชายแดนแล้ว ได้กราบทูลต่อฝ่าบาททราบแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ชายารองซูคงมิได้คิดจะกลับไปกับฮูหยินผู้เฒ่าซูกระมังเพคะ!”“นางจะไปก็ไปเถอะ ทางที่ดีที่สุดอย่าได้กลับมาอีกตลอดกาลเลย…”นางเพิ่งกล่าวคำพูดนี้จบ เจียงเฟิ่งหัวก็เอ่ยเตือนว่า “ท่านอ๋องก็จะไปชายแดนแล้วเช่นกันเพคะ ชาวหูมีเจตนาจะก่อสงคราม ท่านอ๋องได้ถวายฎีกาขอออกศึกแล้วเพคะ รอได้รับราชโองการก็จะออกเดินทาง” พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เซี่ยซางบอกนาง นางมิได้โป้ปด ส่วนที่เหลือก็รอให้ฮองเฮาไปคาดเดาเอาเอง“ซูถิงหว่านคิดจะตามกองทัพไปทำศึกด้วย ราชสำนักต้าโจวไม่มีธรรมเนียมให้แม่ทัพพาสตรีในครอบครัวไปออกรบด้วยมาก่อน หากซางเอ๋อร์รับราชโองการแล้วนางคอยติดตามอยู่ด้านข้างจริงๆ นางคิ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 300

    เฉิงฮองเฮาลืมตาขึ้นเล็กน้อย ราวกับสติไม่แจ่มใสนัก น้ำเสียงของนางแหบพร่าและอ่อนแรง “ซางเอ๋อร์มาแล้วหรือ แค่กๆ…แม่ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก” กล่าวจบนางก็หลับตาลงอีกครั้ง ราวกับเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าเหลือเกิน และคล้ายกลับหมดสติไปอีกครั้งแล้วดวงตาของเซี่ยซางแดงระเรื่อ เขาคุกเข่าลงข้างเตียง “เป็นลูกอกตัญญู เสด็จแม่ทรงป่วยหนักถึงเพียงนี้ ลูกกลับไม่รู้เลย เสด็จแม่ทรงไม่สบายที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ให้หมอหลวงตรวจดูสักหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาส่ายหน้า หางตามีหยดน้ำตาซึมออกมา ในขณะที่สะลึมสะลือนางก็ร้องไม่หยุดว่า “เจ็บ”นางยิ่งเป็นเช่นนี้เซี่ยซางก็ยิ่งปวดใจ ถามว่านางเจ็บที่ใดนางก็บอกได้ไม่ชัดเจนเซี่ยซางสัมผัสหน้าผากของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “เหตุใดจึงได้ร้อนเช่นนี้”เขารีบให้คนตักน้ำมา บิดผ้าเช็ดหน้าวางลงบนหน้าผากของนาง แล้วตวาดใส่นางกำนัลด้วยความโมโหทีหนึ่งว่า “พวกเจ้าดูแลเสด็จแม่อย่างไรกัน”นางกำนัลตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น “หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้เสด็จแม่ทรงดีขึ้นได้อย่างไร หม่อมฉันได้ยินเสด็จแม่ร้องว่าเจ็บ เหตุใดจึงทรงเจ็บ แล้วเจ็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 301

    เซี่ยซางได้ยินนางกล่าวเช่นนั้นจึงไม่บังคับนางอีก ต้าโจวให้ความสำคัญกับจริยธรรมที่สุด การที่นางกตัญญูต่อเสด็จแม่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจยิ่งเพื่อให้เจียงเฟิ่งหัวสบายขึ้นหน่อย เซี่ยซางสั่งให้คนนำเก้าอี้เล็กๆ มาไว้ข้างเตียง ท้องของนางไม่ใหญ่มาก ประกอบกับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำให้ไม่เหนื่อย อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่ล้วนรออยู่ข้างนอก เขาได้สั่งให้คนไปรับคนทั้งสองมาเช่นกัน บัดนี้นางอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ข้างกายไม่อาจไร้คนดูแลกฎระเบียบภายในวังพวกนี้ เขาย่อมไปทูลขอให้เสด็จพ่อทรงอนุโลมเองเขาเห็นทั้งหมดว่า เจียงเฟิ่งหัวดูแลเสด็จแม่อย่างใส่ใจเพียงใด และก็รู้สึกภาคภูมิใจยิ่งที่ได้แต่งกับภรรยาทั้งงามสง่าและมีคุณธรรมเช่นนี้หมอหลวงหวังไปเขียนใบรายการยาและต้มยาด้วยตนเองอีกครั้งรอจนคนจากไป สี่หมัวมัวก็ก้าวออกมาเบื้องหน้าอย่างกะทันหัน จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเซี่ยซางเพื่อขอรับโทษ“ล้วนต้องโทษบ่าวที่ไม่ได้ดูแลฮองเฮาให้ดี บ่าวมีความผิดเพคะ บ่าวก็เคยเกลี้ยกล่อมให้ฮองเฮาทรงคลายพระทัยแล้ว แต่พระนางตรัสว่ามักทรงรู้สึกผิด…”แววตาของนางดูร้อนใจคล้ายมีคำพูดที่อยากจะกล่าว แต่ก็ราวกับไม่กล้าเล่าสิ่งใดทั้งสิ้น เซี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 302

    แต่หากฮองเฮาทำให้เขาโมโห เขาก็สามารถทอดทิ้งนาง ทรมานนางได้เช่นกันเพราะเขาคือฮ่องเต้ที่สูงส่งเหนือผู้ใด เคยชินกับการมีสตรีคอยเอาอกเอาใจและเชื่อฟังมานานแล้ว ก็แค่นั้นเอง ดังนั้นฮ่องเต้และฮองเฮาจะมีความผูกพันฉันสามีภรรยาได้สักเท่าไรนางรับรู้ได้ถึงความเย็นชาไร้น้ำใจของฮ่องเต้มีเพียงใช้ชีวิตอย่างไร้ใจไร้ไมตรีเท่านั้นจึงจะไม่เจ็บปวดนางคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าเส้นทางที่นางต้องเดินก็คือทางสายเก่าของฮองเฮา แต่เส้นทางของนางกับฮองเฮาก็แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เพราะนางจะกุมหัวใจของเซี่ยซางไว้ให้มั่น แล้วเหยียบซูถิงหว่านกับสกุลซูทั้งตระกูลขึ้นสู่ตำแหน่งหากมีวันหนึ่ง พวกมันได้รู้ว่า ความร่ำรวยหรูหรายศถาบรรดาศักดิ์ที่พวกมันเคยได้เพลิดเพลินในชาติก่อน ถูกตัวนางในชาตินี้ทำลาย ไม่รู้ว่าพวกมันจะสำนึกเสียใจต่อทุกสิ่งที่เคยทำร้ายนางหรือไม่เส้นทางนี้ทั้งยาวนานและยากลำบากอย่างยิ่ง ทว่าขอเพียงนางค่อยๆ วางแผนไปทีละก้าว ก็ไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่อาจเอาชนะ นางมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะได้เห็นฉากที่พวกมันก้มกราบศิโรราบอยู่บนพื้นทางด้านนี้ เหล่าองค์ชายกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงออกถึงความกตัญญูของตน แ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 302

    แต่หากฮองเฮาทำให้เขาโมโห เขาก็สามารถทอดทิ้งนาง ทรมานนางได้เช่นกันเพราะเขาคือฮ่องเต้ที่สูงส่งเหนือผู้ใด เคยชินกับการมีสตรีคอยเอาอกเอาใจและเชื่อฟังมานานแล้ว ก็แค่นั้นเอง ดังนั้นฮ่องเต้และฮองเฮาจะมีความผูกพันฉันสามีภรรยาได้สักเท่าไรนางรับรู้ได้ถึงความเย็นชาไร้น้ำใจของฮ่องเต้มีเพียงใช้ชีวิตอย่างไร้ใจไร้ไมตรีเท่านั้นจึงจะไม่เจ็บปวดนางคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าเส้นทางที่นางต้องเดินก็คือทางสายเก่าของฮองเฮา แต่เส้นทางของนางกับฮองเฮาก็แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เพราะนางจะกุมหัวใจของเซี่ยซางไว้ให้มั่น แล้วเหยียบซูถิงหว่านกับสกุลซูทั้งตระกูลขึ้นสู่ตำแหน่งหากมีวันหนึ่ง พวกมันได้รู้ว่า ความร่ำรวยหรูหรายศถาบรรดาศักดิ์ที่พวกมันเคยได้เพลิดเพลินในชาติก่อน ถูกตัวนางในชาตินี้ทำลาย ไม่รู้ว่าพวกมันจะสำนึกเสียใจต่อทุกสิ่งที่เคยทำร้ายนางหรือไม่เส้นทางนี้ทั้งยาวนานและยากลำบากอย่างยิ่ง ทว่าขอเพียงนางค่อยๆ วางแผนไปทีละก้าว ก็ไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่อาจเอาชนะ นางมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะได้เห็นฉากที่พวกมันก้มกราบศิโรราบอยู่บนพื้นทางด้านนี้ เหล่าองค์ชายกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงออกถึงความกตัญญูของตน แ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 301

    เซี่ยซางได้ยินนางกล่าวเช่นนั้นจึงไม่บังคับนางอีก ต้าโจวให้ความสำคัญกับจริยธรรมที่สุด การที่นางกตัญญูต่อเสด็จแม่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจยิ่งเพื่อให้เจียงเฟิ่งหัวสบายขึ้นหน่อย เซี่ยซางสั่งให้คนนำเก้าอี้เล็กๆ มาไว้ข้างเตียง ท้องของนางไม่ใหญ่มาก ประกอบกับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำให้ไม่เหนื่อย อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่ล้วนรออยู่ข้างนอก เขาได้สั่งให้คนไปรับคนทั้งสองมาเช่นกัน บัดนี้นางอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ข้างกายไม่อาจไร้คนดูแลกฎระเบียบภายในวังพวกนี้ เขาย่อมไปทูลขอให้เสด็จพ่อทรงอนุโลมเองเขาเห็นทั้งหมดว่า เจียงเฟิ่งหัวดูแลเสด็จแม่อย่างใส่ใจเพียงใด และก็รู้สึกภาคภูมิใจยิ่งที่ได้แต่งกับภรรยาทั้งงามสง่าและมีคุณธรรมเช่นนี้หมอหลวงหวังไปเขียนใบรายการยาและต้มยาด้วยตนเองอีกครั้งรอจนคนจากไป สี่หมัวมัวก็ก้าวออกมาเบื้องหน้าอย่างกะทันหัน จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเซี่ยซางเพื่อขอรับโทษ“ล้วนต้องโทษบ่าวที่ไม่ได้ดูแลฮองเฮาให้ดี บ่าวมีความผิดเพคะ บ่าวก็เคยเกลี้ยกล่อมให้ฮองเฮาทรงคลายพระทัยแล้ว แต่พระนางตรัสว่ามักทรงรู้สึกผิด…”แววตาของนางดูร้อนใจคล้ายมีคำพูดที่อยากจะกล่าว แต่ก็ราวกับไม่กล้าเล่าสิ่งใดทั้งสิ้น เซี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 300

    เฉิงฮองเฮาลืมตาขึ้นเล็กน้อย ราวกับสติไม่แจ่มใสนัก น้ำเสียงของนางแหบพร่าและอ่อนแรง “ซางเอ๋อร์มาแล้วหรือ แค่กๆ…แม่ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก” กล่าวจบนางก็หลับตาลงอีกครั้ง ราวกับเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าเหลือเกิน และคล้ายกลับหมดสติไปอีกครั้งแล้วดวงตาของเซี่ยซางแดงระเรื่อ เขาคุกเข่าลงข้างเตียง “เป็นลูกอกตัญญู เสด็จแม่ทรงป่วยหนักถึงเพียงนี้ ลูกกลับไม่รู้เลย เสด็จแม่ทรงไม่สบายที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ให้หมอหลวงตรวจดูสักหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาส่ายหน้า หางตามีหยดน้ำตาซึมออกมา ในขณะที่สะลึมสะลือนางก็ร้องไม่หยุดว่า “เจ็บ”นางยิ่งเป็นเช่นนี้เซี่ยซางก็ยิ่งปวดใจ ถามว่านางเจ็บที่ใดนางก็บอกได้ไม่ชัดเจนเซี่ยซางสัมผัสหน้าผากของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “เหตุใดจึงได้ร้อนเช่นนี้”เขารีบให้คนตักน้ำมา บิดผ้าเช็ดหน้าวางลงบนหน้าผากของนาง แล้วตวาดใส่นางกำนัลด้วยความโมโหทีหนึ่งว่า “พวกเจ้าดูแลเสด็จแม่อย่างไรกัน”นางกำนัลตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น “หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้เสด็จแม่ทรงดีขึ้นได้อย่างไร หม่อมฉันได้ยินเสด็จแม่ร้องว่าเจ็บ เหตุใดจึงทรงเจ็บ แล้วเจ็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 299

    “เช้าวันนี้ตอนที่หม่อมฉันจะเข้าวัง ได้ยินพ่อบ้านเฉิงพูดว่าจะจัดเตรียมชุดกันหนาวให้ชายารองซู ดูเหมือนชายารองซูจะเดินทางไกลนะเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวขึ้นมาอีก“นางจะไปที่ใดกัน ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วนางยังคิดจะไปที่ใดอีก” เฉิงฮองเฮากล่าวเสียงหนัก“แม่ทัพน้อยสกุลซูกลับเมืองหลวงแล้ว ชายารองซูน่าจะไปที่จวนสกุลซูเพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูยังพักอยู่ที่นั่นเพคะ”“นางเฒ่านั่นจะกลับชายแดนแล้ว ได้กราบทูลต่อฝ่าบาททราบแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ชายารองซูคงมิได้คิดจะกลับไปกับฮูหยินผู้เฒ่าซูกระมังเพคะ!”“นางจะไปก็ไปเถอะ ทางที่ดีที่สุดอย่าได้กลับมาอีกตลอดกาลเลย…”นางเพิ่งกล่าวคำพูดนี้จบ เจียงเฟิ่งหัวก็เอ่ยเตือนว่า “ท่านอ๋องก็จะไปชายแดนแล้วเช่นกันเพคะ ชาวหูมีเจตนาจะก่อสงคราม ท่านอ๋องได้ถวายฎีกาขอออกศึกแล้วเพคะ รอได้รับราชโองการก็จะออกเดินทาง” พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เซี่ยซางบอกนาง นางมิได้โป้ปด ส่วนที่เหลือก็รอให้ฮองเฮาไปคาดเดาเอาเอง“ซูถิงหว่านคิดจะตามกองทัพไปทำศึกด้วย ราชสำนักต้าโจวไม่มีธรรมเนียมให้แม่ทัพพาสตรีในครอบครัวไปออกรบด้วยมาก่อน หากซางเอ๋อร์รับราชโองการแล้วนางคอยติดตามอยู่ด้านข้างจริงๆ นางคิ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 298

    เจียงเฟิ่งหัวรู้ถึงสถานการณ์ของสกุลเฉิง ชาติที่แล้วก็เป็นเช่นนี้ ชีวิตของเฉิงฮองเฮาไม่ดี วันเวลาของสกุลเฉิงก็ไม่ดีไปด้วยแม้นางจะเป็นภรรยาเอกของเซี่ยซาง แต่ก็ทำให้สกุลเจียงทั้งตระกูลพลอยเดือดร้อนมีชีวิตอย่างยากลำบากเช่นกัน ดังนั้นนางจึงเข้าใจเฉิงฮองเฮาเป็นอย่างดีแต่เมื่อได้ฟังเฉิงฮองเฮากล่าวกับนางด้วยตนเองเช่นนี้ ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างน้อยที่สุด เฉิงฮองเฮาก็เห็นนางสะใภ้ผู้นี้เป็นคนกันเองแล้วหากเฉิงฮองเฮาเต็มใจช่วยนางจัดการกับซูถิงหว่าน นางก็ไม่รังเกียจจะช่วยพูดให้สกุลเฉิงต่อหน้าเซี่ยซางสักประโยคสองประโยคขอเพียงแม่ทัพเฉิงสามารถคว้าโอกาสไว้ได้ การที่พวกเขาคิดจะไต่เต้ายิ่งขึ้นไป ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของสกุลเจียงแต่อย่างใดศัตรูที่พวกเขามีร่วมกันล้วนเป็นสกุลซู เรื่องดีๆ เช่นนี้เหตุใดนางจะไม่ทำเล่าเจียงเฟิ่งหัวยิ้มบางๆ ว่า “ความหมายของเสด็จแม่คือ หากท่านอ๋องจะออกศึก ทรงหวังให้พระองค์นำชนรุ่นหลังของจวนแม่ทัพเฉิงไปด้วยใช่ไหมเพคะ” ได้แต่ช่วยดันคนรุ่นหลังก่อน เพราะในชาติก่อน แม่ทัพเฉิงก็คว้าโอกาสนี้ไว้ไม่ได้ หากเขาไปขอราชโองการอย่างบุ่มบ่าม เกรงว่าจะทำให้ฮ่องเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 297

    วันถัดมา เจียงเฟิ่งหัวเข้าวังแต่เช้าเมื่อฮองเฮาเห็นนางมา ก็จูงมือนางไปนั่งข้างกายอย่างยินดี แล้วถามไถ่อย่างอบอุ่นว่า “ช่วงนี้สุขภาพดีขึ้นหรือยัง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่?”“ทูลเสด็จแม่ ดีขึ้นมากแล้วเพคะ อยากอาหารและรับประทานได้มากขึ้น และไม่อาเจียนแล้วเพคะ” นางตอบอย่างซื่อตรงตามความจริงฮองเฮาเห็นเจียงเฟิ่งหัวท้องได้สี่เดือนแล้วแต่ยังผ่ายผอมถึงเพียงนี้ ดวงหน้าจะยังคงงามพิลาสเหนือปุถุชน แต่หน้าอกอวบอิ่มขึ้นไม่น้อย ดูแล้วยิ่งมีเสน่ห์ บรรยากาศรอบกายให้ความรู้สึกสดใส นางยิ่งมองก็ยิ่งพอใจที่ตอนนั้น ตนเองเลือกสะใภ้ที่งดงามดั่งดอกไม้ น่ารักน่าใคร่เช่นนี้ให้แต่งกับเขานางกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า “หรวนหร่วนต้องกินให้มากหน่อย ตอนนี้เจ้าคนเดียวต้องกินอาหารสำหรับสามคน ดังนั้นอย่าได้ควบคุมปริมาณอาหารเพื่อความงามเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรเด็กก็สำคัญที่สุด ส่วนรูปร่างนั้นค่อยไปควบคุมภายหลังก็ได้”“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ เสด็จแม่ทรงวางพระทัยเถิด เด็กๆ แข็งแรงมากเพคะ” แม้ปากของเจียงเฟิ่งหัวจะกล่าวอย่างเคารพ ทว่าภายในใจกับกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์ที่นางเข้าวังมาในวันนี้เช่นกัน นางกล่าวต่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 296

    มุมปากของเซี่ยซางมีรอยยิ้ม “ที่แท้หวานหว่านก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ”“ท่านอ๋องทรงลองชิมดูสิเพคะ อาหารจานนี้เรียกว่าคลื่นมรกต ทั้งเลิศรสและให้ความรู้สึกสดชื่นมากเลยเพคะ”เซี่ยซางหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมไปคำหนึ่ง สดชื่นจริงดั่งว่า รสชาติมีเอกลักษณ์และมีกลิ่นหอม คล้ายรสชาติที่เจียงเฟิ่งหัวชื่นชอบ แต่เพราะตอนนี้นางตั้งครรภ์จึงเปลี่ยนมาชอบทานเนื้อซูถิงหว่านกล่าวต่อว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันมักชอบกินเนื้อ แต่กลับไม่รู้ว่าเนื้อมื้อหนึ่งของหม่อมฉัน หากอยู่ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา พวกเขาจะกินได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น”“เป็นแบบนั้นจริงๆ ครั้งนี้ข้าไปบรรเทาทุกข์ที่เจียงหนาน ล้วนกล่าวกันว่าเจียงหนานมั่งคั่ง ราษฎรอุดมด้วยเสื้อผ้าอาหาร แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยเสื้อผ้าอาหารมีเพียงผู้สูงศักดิ์ร่ำรวย ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก รวมกับต้องมาประสบอุทกภัยในช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงอีก ชีวิตของความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ยิ่งลำเค็ญ พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดจากฤดูหนาวนี้ให้ได้ ถึงจะรอถึงช่วงเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า” เซี่ยซางบรรยายอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง เขาเกือบจะเรียกหรวนหร่วน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 295

    เจียงเฟิ่งหัวมองดูอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ หันไปทางพวกนาง กล่าวอย่างสงบเยือกเย็น “ทุกคนมากินด้วยกันเถอะ อย่าให้เสียของ คืนนี้สวีหมัวมัวต้มน้ำแกงเนื้อแพะ วันหนาว ๆ กินแล้วจะได้อุ่นท้อง”เหลียนเย่โมโหจนปากคว่ำจะโค้งถึงฟ้าแล้ว สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ท่านอ๋องทรงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน พระชายาทรงเริ่มเตรียมมาตั้งแต่บ่าย อย่างน้อยเสวยแล้วค่อยไปสิเพคะ!”หงซิ่วกล่าว “เจ้าพูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ อย่างน้อยท่านอ๋องกลับจวนมาแล้วเรื่องแรกที่ทำก็คือนึกถึงพระชายาของเรา” ยิ่งไปกว่านั้นขณะนี้ร่างกายของพระชายาไม่สะดวกปรนนิบัติ ย่อมทำให้พระชายารองซูฉวยโอกาสได้ ความกังวลของสวีหมัวมัวก็มาเยือนจริง ๆ หงซิ่วก็ได้รับการฝึกฝนมาแล้ว หลาย ๆ เรื่องนางมองได้ทะลุปรุโปร่ง ในช่วงที่เรียนกับพ่อบ้านเฉิงนี้ นางก็ได้เรียนรู้มามาก แต่นางมุ่งไปที่การวางแผนเพื่อพระชายามากกว่า ไม่ว่าท่านอ๋องจะมีผู้หญิงสักกี่คน นางก็รู้สึกว่าการได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องภายในของจวนอ๋องนั้นสำคัญกว่าพระชายามีอำนาจในมือ ใครก็รังแกนางไม่ได้โชคดีที่ท่านอ๋องมอบอำนาจทั้งหมดในจวนให้พระชายาแล้ว ส่วนพระชายารองซู นางก็เพียงแค่อยากล่อลวงท่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 294

    “ท่านอ๋องทรงคิดเห็นอย่างไรเพคะ?” เจียงเฟิ่งหัวถาม“ไม่รบย่อมเป็นการดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ว่าหากพวกมันคิดอยากมารนหาที่ตายจริง ๆ ต้าโจ้วก็ไม่กลัวพวกมัน” แววตาเซี่ยซางลุ่มลึก มีความเหี้ยมเกรียมแผ่ออกมา “เสียงจากขุนนางใหญ่ในราชสำนักที่ถวายคำแนะนำให้เจรจาสันติภาพมีมากกว่าเสียงที่สนับสนุนให้เตรียมรับสงคราม พวกผู้เฒ่าเหล่านั้นกลับไม่รู้ว่ายิ่งถอย พวกเผ่าหูยิ่งกำเริบเสิบสาน พวกมันก็จะยิ่งนึกว่าต้าโจวกลัวพวกมัน เรื่องนี้ก็จะไม่มีวันจบสิ้น”เจียงเฟิ่งหัวน้ำเสียงสบาย ๆ ในแววตาเหมือนมีแสงดาวส่องประกาย นางถึงกับดูเหมือนว่าหลงใหลและบูชาเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว ทำให้เซี่ยซางนึกว่าในสายตาและในใจนางมีแต่เขาและเขาเท่านั้น เติมเต็มความรู้สึกชายเป็นใหญ่ของเขานางยิ้มน้อย ๆ กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “หม่อมฉันเชื่อว่าท่านอ๋องต้องปกป้องประชาราษฎรชาวต้าโจวได้อย่างแน่นอนเพคะ หากจะต้องสู้รบคราวนี้จริง ๆ ต้าโจวของเราก็มีโอกาสที่จะชนะ หม่อมฉันสนับสนุนท่านอ๋องอย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อให้เลวร้ายที่สุด พวกเราก็ยังมีศาลาการกุศล ช่วงที่ท่านไม่อยู่ พระชายาอ๋องสาวและพระชายาอ๋องรอง อีกทั้งเหล่าสตรีในเมืองหลวง พวกนาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status