Share

บทที่ 154

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เมื่อซูถิงหว่านได้ยินก็ตกใจจนสีหน้าซีดสีขาว รีบกล่าวว่า “ข้าไม่ดื่ม เหตุใดข้าต้องดื่มด้วย ข้าไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่ออาซาง ข้าก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้อยู่กับชายอื่น ข้าอยู่กับแค่ท่านอ๋องเท่านั้น พวกท่านไปเรียกท่านอ๋องมาสิ ถามเขาดูว่าเมื่อเช้าทำเรื่องนั้นกับข้าใช่หรือไม่ ข้าจะพูดกับเขาต่อหน้า”

หลังเฉิงฮองเฮาได้ยินก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย เมื่อบุรุษผู้หนึ่งเต็มใจแตะต้องสตรีนางหนึ่งแสดงถึงสิ่งใด นี่แสดงว่าเขาชอบนาง หากครั้งนี้ซูถิงหว่านตั้งครรภ์ขึ้นมา และคืนก่อนนางก็ไม่ได้อยู่ในจวนอ๋องอีก เรื่องนี้ก็พูดได้ไม่ชัดเจนแล้ว

สี่หมัวมัวสั่งหมัวมัวอีกสี่นางให้กดซูถิงหว่านไว้อีกครั้ง

ส่วนสี่หมัวมัวเมื่อยกยาขึ้นมาได้ก็จับกรอกลงปากของนางไปทันที ซูถิงหว่านหวาดกลัวแทบตาย นางปิดปากแน่น ไม่ง่ายเลยกว่านางจะล่อให้เซี่ยซางมาอยู่กับนางอีกครั้ง ต้องไม่ให้แผนชั่วของเฉิงฮองเฮาสำเร็จเด็ดขาด

ถึงอย่างไรซูถิงหว่านก็เป็นวรยุทธ์ แล้วจะยอมให้พวกนางกรอกยาง่ายๆ ได้อย่างไร นางโขกศีรษะออกไปอย่างแรงจนกระแทกถูกดั้งจมูกของสี่หมัวมัว เป็นเหตุให้จมูกของสี่หมัวมัวมีเลือดสดไหลออกมา

จากนั้นก็ถือโอกาสที่ทุกคนกำลังตกตะลึงและผ่อนคลา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 155

    สีหน้าของเจียงเฟิ่งหัวตะลึงไป ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวอีก เซี่ยซางมุ่งมั่นปักใจรักซูถิงหว่านไม่แปรเปลี่ยน ดังนั้นเขาจึงมอบความโปรดปรานให้นาง และให้นางและอดทนให้อภัยนางอย่างไม่มีขีดจำกัดจู่ๆ นางก็กล่าวออกมาว่า “แม้แต่เด็กเล็กยังสามารถรับผิดชอบต่อคำพูดและพฤติกรรมของตน แล้วเหตุใดชายารองซูจึงทำไม่ได้ ชายารองซูนางไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่อาจนำความไร้เดียงสา ร่าเริงเปิดกว้างมารับมือได้ทุกครั้ง นางสามารถไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่หม่อมฉันไม่ทำตามอำเภอใจโกรธใครโดยไม่มีเหตุผลได้”“วันนั้นหม่อมฉันเห็นท่านอ๋องแยกแยะถูกผิดในศาลได้อย่างง่ายดาย หม่อมฉันจึงเต็มไปด้วยความยอมรับนับถือต่อท่านอ๋อง คิดว่าไม่ว่าท่านอ๋องจัดการเรื่องใดล้วนสามารถพิจารณาถูกผิดได้อย่างกระจ่าง คิดไม่ถึงว่าเมื่อท่านอ๋องทรงเผชิญหน้ากับหญิงอันเป็นที่รัก จะทรงมัวเมาหลงใหลจนสูญเสียบรรทัดฐานที่ควรมี”เซี่ยซางจ้องนางอย่างไม่ละสายตา เพราะนางผิดหวังในตัวเขาเสียแล้ว จึงได้ไม่สนใจใช่หรือไม่?นางย่อมไม่มีทางพูดคำพูดประเภท ‘ผิดหวังในตัวเขา’ ที่ทำร้ายสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาออกมา จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป “ท่านอ๋องทรงอยากถามใช่หรือไม่ว่า ที

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 156

    นางย้อนนึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเซี่ยซาง มีเพียงตอนที่นางพูดถึงเฉิงฮองเฮาเท่านั้น ที่เขาดูเหมือนจะสะเทือนใจขึ้นมา กระทั่ง…คำพูดประโยคนั้นของเขาจู่ๆ ในสมองของเจียงเฟิ่งหัวก็มีความคิดที่ทำให้คนตื่นตระหนกผุดขึ้นมา หรือว่าเซี่ยซางเข้าใจมาตลอดว่าเฉิงฮองเฮาไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของเขาแม้แต่ท่าทีที่ฮ่องเต้มีต่อเฉิงฮองเฮาก็ไร้ไมตรีเช่นนั้น นางจึงคิดว่าตัวนางในอดีตก็เหมือนเฉิงฮองเฮา ที่ไม่เป็นที่พึงใจของสวามีตน และถึงขนาดรังเกียจเพราะในใจของเซี่ยซางมีสตรีนางอื่นอยู่อย่างนั้นที่ฮ่องเต้ทรงรังเกียจฮองเฮา ก็เพราะในใจของฮองเฮามีบุรุษอื่นเช่นนั้นหรือ? จึงคิดว่าเซี่ยซางเป็นลูกที่ถือกำเนิดจากฮองเฮาและชายอื่นนางรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ราชวงศ์ไม่มีทางยอมให้สายเลือดของเชื้อพระวงศ์ไม่บริสุทธิ์อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้เซี่ยซางยังต้องเป็นโอรสของฮ่องเต้จริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีทางมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้นางคล้ายจะตะลึงค้างไปแล้ว ดูเหมือนนางจะค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ของวังหลวงเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจซะแล้ว“ท่านอ๋อง ศีรษะของหม่อมฉันถูกพระองค์หมุนจนวิงเวียนไปหมดแล้วเพคะ ทรงรีบวางหม่อมฉันลงเร็วเข้า” เจียงเฟิ่งหัวรีบปรับ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 157

    รอจนเซี่ยซางจากไป ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของซูถิงหว่านจึงจับจ้องไปที่เจียงเฟิ่งหัว จะต้องเป็นนางกล่าวสิ่งใดกับอาซางแน่ อาซางถึงได้รังเกียจข้าเช่นนี้สี่หมัวมัวก็ตกใจมากเช่นกัน นางไม่เคยเห็นเหิงอ๋องบันดาลโทสะใส่ชายารองซูเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยเห็นเขาเป็นห่วงฮองเฮาถึงเพียงนี้เจียงเฟิ่งหัวปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของซูถิงหว่านอย่างสง่างามและน่าเกรงขาม นางจับจ้องไปที่นางโดยไม่แม้จะกะพริบด้วยสีหน้าเย็นชาและบรรยากาศที่กดดันผู้คน “ชายารองซู เจ้าคิดว่าท่านอ๋องทรงไม่ทราบเรื่องที่เจ้าแอบอ้างชื่อของข้าหลอกลวงคนไปทั่วอย่างนั้นหรือ”ดวงตาของซูถิงหว่านแสดงความประหลาดใจออกมา รีบปฏิเสธอย่างเร่งร้อนว่า “ท่านพูดสิ่งใดกัน ข้าฟังไม่เข้าใจ”“ฟังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรชายารองก็ลงชื่อไว้ ถูกเขียนไว้บนกระดาษเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นนั้น คิดจะบ่ายเบี่ยงก็บ่ายเบี่ยงไม่พ้น”ซูถิงหว่านลนลานอย่างสิ้นเชิง นี่ก็เป็นเรื่องที่อวิ๋นฟางออกความคิดขึ้นมาเช่นกัน นางกล่าวว่า “อาศัยสิ่งใดท่านถึงใช้เงินของอา...ท่านอ๋องได้ แต่ข้าใช้ไม่ได้ล่ะ”“เจ้าย่อมใช้ได้เช่นกัน เพียงแต่เจ้าไม่อาจนำชื่อของข้า ‘เจ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 158

    ในชาตินี้ นางจะให้ลูกของนางถือกำเนิดภายใต้การรอคอยของเซี่ยซาง ได้รับความรักจากเขาจนเติบใหญ่ นางจะไม่มีทางซ้ำรอยความผิดพลาดในชาติก่อนแน่เจียงเฟิ่งหัวไม่มีทางไปสนใจว่า ซูถิงหว่านจะถูกจับกรอกยาป้องกันการมีบุตรด้วยวิธีใดเมื่อเรื่องในตำหนักคุนหนิงและตำหนักเฉินซีลอยไปถึงหูตำหนักอื่น หลังทุกคนได้รู้ก็เพียงหัวเราะออกมาเท่านั้นซูกุ้ยเฟยกดฮองเฮามานานหลายปีเพียงนี้ เวลานี้ซูกุ้ยเฟยถูกย้ายไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว ฮองเฮาจะไม่จัดการกับหลานสาวของนางได้อย่างไรผู้ใดใช้ให้หลานสาวของนางยั่วยวนจนลูกชายของฮองเฮาจนลุ่มหลง ฮองเฮาถอยแล้วถอยอีกถึงได้รับปากให้รับนางเข้าจวนมาเป็นชายารอง คิดไม่ถึงว่านางกลับไม่รู้จักกฎระเบียบ ไม่รู้หนักเบาเช่นนี้ที่น่าสงสารที่สุดคือบุตรสาวของราชครูเจียง เป็นพระชายาเหิงอ๋องแล้วอย่างไร ยังมิใช่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากสวามีหรือ คำพูดนี้ ในชาติก่อนยามทุกคนพบหน้าล้วนต้องกล่าวถึงขึ้นมาสักประโยค ราวกับกำลังรำพันถึงความหนาวเหน็บที่อยู่ในใจนางอย่างไรก็ตาม ในชาตินี้ทุกคนต้องพูดว่า พระชายาเหิงอ๋องมีการศึกษารู้ธรรมเนียม สง่างามสูงศักดิ์ รูปโฉมไม่ธรรมดา เหิงอ๋องก็โปรดปรานนางเป็นอย่างยิ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 159

    ก็เห็นฮองเฮาทรงอาภรณ์หงส์อันหรูหราน่าเกรงขามประทับนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน แม้นทั่วทั้งตำหนักจะเป็นสนมนางในของฮ่องเต้ ทว่าความยินดีบนใบหน้าของนางไม่ว่าจะปิดบังอย่างไรก็ปิดไม่มิดนางกำลังยินดีต่อความใส่ใจและห่วงใยที่บุตรชายมีต่อนาง ดังนั้นนางจึงอยากบอกให้ทุกคนได้รับรู้“ซางเอ๋อร์ หรวนหร่วน พวกเจ้าสองสามีภรรยากินให้มากหน่อย อาหารบนโต๊ะล้วนเป็นของที่พวกเจ้าชอบ” ฮองเฮาตรัสเซี่ยซางรู้สึกกระดากเล็กน้อย “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่” ที่แท้สิ่งที่เสด็จแม่ต้องการเป็นเพียงคำพูดที่แสดงความห่วงใยไม่กี่ประโยคของเขา ทว่าหลายปีมานี้เขากลับไม่เคยทำเลยสักครั้ง ส่วนมากล้วนเป็นการตัดพ้อต่อว่า เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เสด็จแม่ก็เสวยให้มากหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”เซี่ยซางเลือกอาหารที่ดีที่สุดวางลงในจาน แล้วให้นางกำนัลส่งไปที่เบื้องหน้าของฮองเฮา ฮองเฮาตะลึงไปครู่หนึ่ง หมอกน้ำตาจางๆ ปรากฏขึ้นในดวงตา จากนั้นก็กินอาหารลงไปอย่างยินดี การที่เขาเรียกนางว่าเสด็จแม่คำหนึ่งทำให้นางถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้มมื้ออาหารเช่นนี้ทำผู้คนรับประทานจนหัวใจจะวาย มีเพียงฮองเฮาผู้เดียวเท่านั้นที่เพลิดเพลินไปกับมัน“ฝ่าบาทเสด็จ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 160

    “เช่นนั้นเราจะแต่งตั้งสนมรักเป็นเจาอี๋แล้วกัน และประทานทองคำและเงินอีกอย่างละหนึ่งพันตำลึง ส่วนปิ่นทองและเครื่องประดับให้สนมรักเลือกได้ตามใจ” ฮ่องเต้มือเติบเป็นอย่างยิ่งในเสี้ยวนาทีที่ความสูงศักดิ์มั่งคั่งอันมโหฬารนี้ถูกโยนลงมา ก็กระแทกใส่หวังเหม่ยเหรินจนวิงเวียน ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรตอบสนองอย่างไรดี ยังคงเป็นนางกำนัลที่ปรนนิบัตินางก้าวเข้าไปเตือน นางจึงได้กล่าวขอบพระทัยติดๆ กันฮ่องเต้ตรัสแล้วไม่คืนคำ เพียงชั่วพริบตา หวังเหม่ยเหรินก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปถึงสองระดับ ทำให้เหล่าฮูหยินและไฉเหรินทั้งหลายอิจฉาไม่หยุดในเสี้ยววินาทีนั้น ก็มีคนเสนอตัวออกมาติดต่อกันเป็นจำนวนมาก จนทั่วทั้งตำหนักก็คึกคักขึ้นมาหย่าเฟยก็เต้นระบำของแคว้นเจาซีท่ามกลางสายตาผู้คนเพื่อสร้างความสำราญเช่นกัน สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังสะดือที่ปรากฏขึ้นอย่างวับวาบของนางเจียงเฟิ่งหัวนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างว่าง่าย สายตาของฮ่องเต้มิได้ละจากฮองเฮาเลย นี่เขาหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือฮ่องเต้ประสงค์ให้ฮองเฮาร่ายรำเพื่อพระองค์สักเพลงเช่นกัน?นางรีบปฏิเสธความคิดนี้ เพราะฮองเฮาอายุสี่สิบกว่าแล้ว ผู้ใดจะคาดว่าวินาทีฮ่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 161  

    กระทั่งเฉิงฮองเฮาหายใจคล่องขึ้นแล้ว นางกลับทอดสายตามองไปทางเจียงเฟิ่งหัว มองจากแววตาของนางมิได้เห็นท่าทีแดกดันและเย้ยหยัน กลับเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่า คิดได้ว่าตัวนางเองก็เคยเป็นถึงบุตรสาวของฝู่กั๋วกง เรียนศิลปะสี่แขนงและประพันธ์ลำนำคำกลอนมาตั้งแต่เยาว์วัย ตัวนางเองก็เติบโตมาภายใต้การดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากบุพการี ต่อมาในตอนที่อภิเษกสมรสกับฝ่าบาท ก็เป็นช่วงวัยที่งดงามสดใสดุจบุปผาเฉกเช่นเดียวกับพวกนาง สูญเวลาไปกว่าครึ่งชีวิตแล้ว สิ่งที่นางเดิมพันคือลมหายใจ จึงยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ นางมิอาจยอมให้บุตรชายถูกใครดูหมิ่นดูแคลนอย่างเด็ดขาด จะต้องให้ฝ่าบาทเห็นว่านางเฉิงหลางจิ่นเองก็เคยมีเกียรติยศอันสง่างามด้วยเหมือนกัน “สี่หมัวมัว จงไปนำพิณหยกงามของข้าออกมา” ฮองเฮาหันกลับไปมองฮ่องเต้ “หม่อมฉันมิได้ดีดพิณมาหลายปี ฝีมือบรรเลงคงจะระคายพระกรรณของฝ่าบาทแล้ว ขอฝ่าบาทโปรดให้อภัยด้วยเพคะ” ฮ่องเต้ทอดพระเนตรมาทางนาง ดวงเนตรส่องประกาย “ไม่เห็นเป็นไร มีฮองเฮาคอยเสริมความสนุกสนาน งานเลี้ยงฉลองนี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว” แววตาของฮองเฮาฉายประกายเย็นเยียบเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มขึ้นบาง ๆ “ตราบใดที่ฝ่าบา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 162  

    บทแทรกเล็ก ๆ ระหว่างกลางทำให้พวกนางรู้สึกเศร้ารันทดถึงที่สุด และเมื่อได้พบเจอฟ้าดินอันแสนกว้างขวางอีกครั้ง พวกนางได้ปล่อยวางหนทางข้างหน้าและอดีตที่ผ่านพ้นมาไปแล้ว ดรุณีที่สนิทสนมกันราวกับว่าถูกชะตากรรมดึงมาให้รวมตัวกันและแยกจากกันอีกครั้ง พวกนางเคยผ่านช่วงเวลาที่มีสายตาของผู้คนนับหมื่นจ้องมองในตอนที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด และตกลงมาอีกครั้งในหุบเหวลึกหมื่นจ้าง และสุดท้ายก็เหลือไว้เพียงเสียงสะท้อนอันก้องกังวาน วนเวียนไปไม่สิ้นสุด คล้ายกับพวกนางได้ผ่านสภาพการณ์อันรุ่งเรืองดั่งภาพร้อยวิหคชูคอคารวะหงส์ ดูราวกับว่าพวกนางกำลังสนทนาถึงความผันผวนของชีวิตคน รวมถึงสภาพสังคมอันยากลำบาก และนางก็เป็นดั่งพญาหงส์ที่โดดเด่นอยู่ท่านกลางฝูงวิหคที่กำลังร้องขับขานอย่างพร้อมเพรียง ราวกับว่าเฉิงฮองเฮาได้ดีดพิณถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตของนางออกมา และท่าร่ายรำของเจียงเฟิ่งหัวก็ยิ่งวิจิตรตระการตา ท่วงท่าของนางแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กสาว ความโศกเศร้าโศกาของสตรีผู้ซึ่งออกเรือนแล้ว เรื่อยไปจนถึงการปล่อยวางได้อย่างถึงอกถึงใจ กระทั่งเพลงสังคีตจบลง ก็ทำให้คนต่างรู้สึกโศกเศร้าหวิวโหวงในช่องท้อง

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 336

    เพราะองค์ชายสี่ก็เป็นธุระในเรื่องนี้เช่นกัน นางจึงดึงพระชายาขององค์ชายสี่เข้าไปด้วย แต่พระชายาองค์ชายสี่เป็นคนสกุลจาง สกุลจางเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ นางจึงหาข้ออ้างมาไว้ทุกข์ที่สกุลจางได้อีกหลายวันมานี้ไม่เพียงกินน้อย ยังพูดน้อยอย่างมาก ญาติสนิททั้งสองท่านมาเสียชีวิตติดกัน นางจะเศร้าโศกเสียใจก็เป็นเรื่องธรรมดา คำพูดประเภทคนตายไม่อาจฟื้นคืนพวกนั้นนางก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไร เพราะมิใช่บิดามารดาของนางและเรื่องก็มิได้เกิดขึ้นกับตัวนางจีเฉินถูกขังอยู่ในคุกอยู่ตลอด ไม่ว่าจะสอบปากคำอย่างไรเขาก็ยังคงยืนหยัด ไม่ยอมเปิดโปงสกุลซูออกมาเจียงเฟิ่งหัวหยิบเสื้อเสื้อคลุมตัวหนึ่งไปที่เบื้องหน้าจางอวี่มั่วแล้วคลุมให้นาง “พี่สะใภ้”เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่วัน จางอวี่มั่วก็ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้ว หากมิใช่เพราะเฝิงจิ้งย่วนคอยสรรหาวิธีมาทำอาหารให้นางทาน ร่างกายของนางจนอ่อนล้าจนล้มลงนานแล้วนางมองซากปรักหักพังตรงหน้าด้วยดวงตาที่บวมแดง “เพราะข้ากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก พวกท่านจึงมอบความรักทั้งหมดให้ข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพวกท่านจะจากข้าไปเร็วขนาดนี้ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ ที่แท้เป็นเพราะเหตุใดกัน เหตุใดป้าสะใ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 335

    ซูเซวี่ยนมิได้รับคำ เพียงฟังเซี่ยซางชี้ไปที่กระบะทรายแล้ววิเคราะห์อย่างมั่นใจหลายปีมานี้ เป็นเพราะฮ่องเต้มิได้มอบโอกาสให้เหิงอ๋องได้สวมชุดเกราะออกศึก มิเช่นนั้นอาณาเขตของต้าโจวก็คงมิได้มีเพียงเท่านี้สายตาของฮ่องเต้ยังคงสั้นเกินไป เหิงอ๋องมีอุดมการณ์และความทะเยอทะยาน หากซูถิงหว่านใช้การไม่ได้ สกุลซูยังมีบุตรสาวนางอื่นที่ส่งมาปรนนิบัติได้ในเวลานี้ เจียงจิ่นเหยียนก็นำข่าวของเมืองหลวงมาแล้วเช่นกัน นอกจากข่าวเสบียงและสิ่งของที่กำลังเดินทางมาแล้ว เขายังนำข่าวอีกชิ้นหนึ่งมาด้วย “พระชายาถูกลอบสังหาร จวนของจางกั๋วกงเกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”หลังเซี่ยซางได้ฟัง สายตาของเขาก็ดั่งมีเปลวเพลิงอันร้อนแรงกองหนึ่งกำลังลุกโชน “เป็นผู้ใดที่ลงมือกับพระชายากัน? หรวนหร่วนกับลูกเป็นอย่างไรบ้าง”เจียงจิ่นเหยียนกล่าวต่อว่า “ยังดีที่ข้างกายพระชายามีคนอยู่ มือสังหารจึงทำไม่สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ นางกับซื่อจื่อน้อยล้วนปลอดภัยดี แต่ท่านผู้อาวุโสทั้งสองของสกุลจางมิได้โชคดีเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”“ในจดหมายบอกว่าเป็นจีเฉิน เขาหามือสังหารมา แต่หลังมือสังหารถูกจับก็กินยาพิษฆ่าตัวตายหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกมันมิใช่มือสังหารทั่ว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 334

    นางถือโอกาสกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าต้องการกลับบ้านเจ้าค่ะ ข้าจะไปดูท่านแม่ของข้า” นางแค่ต้องการหนีเท่านั้นทันใดนั้น ใบหน้าของซูเซวี่ยนก็ปรากฏความไม่พอใจขึ้นมาแล้วหายไป “ที่นี่ห่างจากเมืองหลวงนับพันลี้ อีกทั้งหิมะยังตกหนักจนปิดทาง ที่ชายแดนก็กำลังทำสงครามอีก สถานการณ์วุ่นวายเช่นนี้ เจ้าจะกลับไปได้อย่างไร”“แต่ท่านแม่ของข้า…”“ข้าจะให้คนของสกุลซูไปดูที่จวนสกุลจางเอง เจ้าจงพักอยู่ที่นี่อย่างวางใจ ไม่ได้ไปที่ใดทั้งนั้น” น้ำเสียงของเขาไม่อนุญาตให้สงสัย ยิ่งไม่อนุญาตให้ต่อต้านสวี่หมัวมัวที่รออยู่ด้านข้างรับปลอบใจนาง “ฮูหยินโปรดระงับความเสียใจ ท่านเขยจะต้องจัดการจนเรียบร้อยแน่เจ้าค่ะ”สวี่หมัวมัวเป็นหมัวมัวคนสนิทที่ฮูหยินรองสกุลจางจัดมาอยู่ข้างกายจางอวี่เยี่ยน นับตั้งแต่พวกนางมาถึงชายแดนและเข้ามาอาศัยอยู่ในจวนสกุลซู พวกนางก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวเช่นกันไม่มีการกราบไหว้ฟ้าดินก็จับคุณหนูไปขึ้นเตียงเสียแล้ว ไม่มีกฎธรรมเนียมแม้แต่น้อย ทว่าพวกนางก็ได้แต่โกรธอยู่ในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะไม่ว่าอย่างไร ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นผู้ไปสู่ขอต่อสกุลจางด้วยตนเอง และคุณหนูยังเป็นภรรยาในนามของเขา พวกนาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 333

    วันนั้นหลังจากจางอวี่เยี่ยนถูกซูเซวี่ยนตบไปฉาดหนึ่งก็โวยวายไปอีกสองรอบ แต่หลังจากที่ถูกสั่งสอนไปนางก็ว่าง่ายแล้ว ไม่กล้าขัดคำสั่งซูเซวี่ยนอีก นางต้องเรียนรู้ที่จะประจบเอาใจ ปรนนิบัติเขาอย่างไร้ศักดิ์ศรีเหมือนสาวใช้ในเรือนของเขาอย่างไรก็ตาม แม้นางจะไม่มีเกียรติ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เรียกนางว่าฮูหยิน และนางไม่ต้องไปทำงานเหมือนสาวใช้วันนี้ด้านนอกหิมะตกหนัก เกล็ดหิมะปลิวไสวราวขนห่าน ยามที่นางอยู่ในเมืองหลวงไม่เคยเห็นหิมะตกหนักเช่นนี้มาก่อน ตอนออกจากเมืองหลวง ท่านแม่บรรจุสินเดิมให้นางถึงสามคันรถเต็มๆ และได้เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่ในฤดูหนาวไว้ให้นางอย่างพรั่งพร้อมด้วยในเวลานี้ นางทำได้เพียงดูของต่างหน้าคน คิดถึงบ้านที่เมืองหลวง คิดถึงมารดานางคิดไม่ถึงว่า ท่านแม่ทัพซูจะมีอนุภรรยามากมายเช่นนี้ กระทั่งบางคนยังมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนางอีกเมื่อมองดูดวงตาที่คับแค้นและหดหู่แต่ละคู่ในจวน ความหวาดหวั่นและขลาดกลัวก็เต็มรื้นขึ้นมาในหัวใจของจางอวี่เยี่ยน นางยิ่งระมัดระวังขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องให้ซูเซวี่ยนทำพิธีแต่งงานกับนางอีก นางรู้สึกว่าแม้ปากพวกเขาจะเรียกนางว่าฮูหยิน แต่นางได

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 332

    จางอวี่เยี่ยนกอดตนเองแน่นอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็หมุนตัวขึ้นเตียงไปหลบอยู่ในผ้าห่ม เพราะสถานที่แห่งนี้หนาวเกินไป หลายวันที่นางมาที่นี่ มีเพียงตอนอยู่ในผ้าห่มนางจึงจะรู้สึกอบอุ่นน้อยครั้งมากที่นางจะออกไปจากเรือนนี้เช่นกัน เพราะนางไม่คุ้นเคยกับผู้ใดเลย และยิ่งไม่รู้จักใคร นางพบว่าคนสกุลซูนั้นเยอะจริงๆ โดยเฉพาะสตรี นางแอบไปสืบข่าวมาแล้ว ยังดีที่พวกนางไม่ใช่ผู้หญิงในเรือนของซูเซวี่ยน แต่เป็นอนุของท่านแม่ทัพซูบิดาของเขาในเวลานั้นเอง ประตูก็ถูกคนผลักออกอย่างกะทันหัน เงาร่างของคนผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างเงียบงัน จางอวี่เยี่ยนส่งเสียงว่า “ติงเซียง?”ตะโกนเรียกอยู่สองครั้งผู้ที่มาล้วนมิได้ตอบนาง จู่ๆ ตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะก็ดับลงเช่นกัน จางอวี่เยี่ยนขดตัวซ่อนอยู่ในผ้าห่ม หวาดกลัวจนตัวสั่น นางถอนปิ่นบนมวยผมมากำไว้ในมืออย่างไม่รู้ตัว “เป็นผู้ใดกัน…”วินาทีถัดมา เงาร่างนั้นก็โผเข้ามาที่เตียงในความมืด เขาดึงเท้าของจางอวี่เยี่ยนออกมาจากผ้าห่มทันที จางอวี่เยี่ยนตกใจจนกรีดร้องออกมา “กรี๊ด ช่วยด้วย”แต่ไม่ทันทีนางจะแทงปิ่นในมือเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย ปิ่นก็ถูกผู้มาทิ้งออกไปแล้วภายในห้องมืดมิดไร้แสง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 331

    เมื่อรู้ว่าสกุลจางไฟไหม้นางไม่มีทางไม่มา หลินอวี่สามารถสืบได้ในทันทีว่าฮูหยินรองสกุลจางเป็นคนวางเพลิง และไฟยังเริ่มลุกไหม้มาจากเรือนของจางกั๋วกงอีก ในสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายเช่นนี้ และตอนนั้นไฟก็ยังมิได้ถูกดับลงอีก พวกเขาจะจับฮูหยินรองได้ไวถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ฮูหยินรองเมื่อถูกหย่าก็ไม่ควรอยู่จวนสกุลจางแล้ว แล้วเหตุใดนางจึงวิ่งกลับมาวางเพลิงที่สกุลจางอีก? นี่มิใช่การรนหาที่ตายหรืออย่างไร?เมื่อครู่นางถามจีเฉินว่าเขาเป็นคนวางเพลิงหรือไม่ แต่ในคำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่ากำลังกระตุ้นโทสะนาง และกระทั่งมั่นใจว่าใครเป็นผู้วางเพลิงที่แท้ซูเซวี่ยนคำนวณถึงสิ่งที่นางคิดไว้ก่อนแล้ว และรู้ด้วยว่าการลอบสังหารในครั้งนี้น่าจะไม่สำเร็จ เพราะมีคนของจวนอ๋องคุ้มครองอยู่ นางจึงไม่มีทางตายอย่างง่ายดายเช่นนั้น มีเพียงเจ้าโง่จีเฉินนั่นที่คิดว่าทุกเรื่องจะราบรื่นเพราะซูเซวี่ยนส่งมือสังหารมาให้เขาดังนั้น จีเฉินก็ตกอยู่ในแผนการของซูเซวี่ยนเช่นกันเมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งเหล่านี้ เจียงเฟิ่งหัวก็ถอนใจอยู่ในใจว่า ‘ดีเหลือเกิน แม่ทัพซูเซวี่ยนผู้นี้ช่างความคิดลึกซึ้งเจ้าแผนการนัก เซี่ยซางอยู่ไกลออกไปถึงชายแดนเขา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 330

    นางเดินไปที่เบื้องหน้าของหัวหน้ากองหยางและรองผู้ว่าจาง แล้วกล่าวเสียงหนักว่า “ใต้เท้าหยางและใต้เท้าจาง มือสังหารที่มาลอบสังหารข้าล้วนถูกจับหมดแล้ว รบกวนพวกท่านทั้งสองตรวจสอบว่าเป็นผู้ใดบงการให้พวกเขามาลอบสังหารข้า สกุลจางเกิดเพลิงไหม้ ท่านกั๋วกงและฮูหยินล้วนถูกสังหาร ทำให้ผู้คนโศกเศร้ายิ่งนัก ขอใต้เท้าโปรดตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อมอบคำอธิบายให้ท่านกั๋วกงและฮูหยินด้วย”จางอันอวี่ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเหิงอ๋องเช่นกัน ยามนี้เหิงอ๋องนำทัพไปออกศึก พวกเขาย่อมรักษาเขตเมืองหลวงให้ท่านอ๋องเป็นอย่างดี ใต้เท้าจางกล่าวด้วยความเคารพว่า “พระชายาโปรดวางพระทัย ผู้น้อยจะจัดการอย่างเข้มงวดพ่ะย่ะค่ะ”อ้าวเสวี่ยมาที่เบื้องหน้าของเจียงเฟิ่งหัวอย่างเร่งร้อน “ทูลพระชายา มือสังหารเสียชีวิตหมดแล้วเพคะ เป็นการตายจากพิษกำเริบ หัวหน้าหน่วยเย่อิ่งตรวจสอบแล้วเพคะ พวกมันไม่ใช่มือสังหารแต่เป็นหน่วยกล้าตายเพคะ”“จะพิษกำเริบได้อย่างไร?” จางอันอวี่สงสัยหยางเจิ้งก็กล่าวเสริมอีกประโยค “ฆ่าคนปิดปากน่ะสิ”หัวคิ้วของเจียงเฟิ่งหัวขมวดแน่น นางถามว่า “หน่วยกล้าตายคือสิ่งใด?” เจียงเฟิ่งหัวยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามือสังหารกับ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 329

    สกุลจางเกิดเรื่อง จางอวี่มั่วกับราชครูเจียงและฮูหยินเจียงล้วนพากันมาแล้วในเวลานี้ สกุลจางโกลาหลไปหมด ฤๅสวรรค์คงได้ยินเสียงร้องไห้ครวญคร่ำของจางอวี่มั่วที่ดังสะเทือนเลือนลั่นไปถึงฟ้า จึงได้ส่งสายพิรุณลงมาดับอัคคีภัยครั้งใหญ่ของจวนสกุลจางสุดท้าย ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลจางก็รอเจอหน้าจางอวี่มั่วเป็นครั้งสุดท้ายไม่ไหว เจียงเฟิ่งหัวยังจำได้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าฝืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายกุมมือนางไว้ “สาวน้อย บอกมั่วเอ๋อร์อย่าได้เสียใจ ปกป้องนางด้วย ขอบคุณ…”จางอวี่มั่วมองศพของสองผู้เฒ่าสกุลจาง นางร้องไห้จนสลบไปแล้ว เจียงฮูหยินรีบตระกองนางไว้ในอ้อมแขนสกุลจางเกิดคดีฆาตกรรม คนของเขตเมืองหลวงและกองกำลังรักษาความปลอดภัยนครบาลล้วนมากันหมด เมื่อจับตัวฮูหยินรองสกุลจางได้นางก็มิได้ตื่นตระหนก แต่สารภาพทันทีว่านางเป็นผู้วางเพลิง และเหตุผลก็เป็นเพราะสกุลจางหย่าขาดนางเมื่อเจียงเฟิ่งหัวเห็นสภาพที่อันน่าอนาถภายใน นางก็โมโหจนแทบเสียสติ แต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถไร้สติได้ มีเพียงนางที่ไม่ได้ เพราะคนร้ายตัวจริงที่ชักนำและบงการให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้กำลังคุกเข่าอยู่ในลาน นางจะส่งมันไปลงนรกอเวจีขุมที่สิบแ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 328

    เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมิใช่เจียงเฟิ่งหัว เมื่อเข้ามาใกล้แล้วเห็นหน้านางชัดเขาถึงได้รู้ว่านางเป็นใคร ผู้ดูแลหลินของหอเซียงหย่า สตรีที่ทั้งมากรักและไม่สำรวม นางถึงกับเป็นวรยุทธ์เขาไม่คาดว่า ด้วยความสัมพันธ์ของนางกับสกุลจาง ทั้งที่สกุลจางเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้และเจียงเฟิ่งหัวก็มาถึงสกุลจางแล้ว นางยังจะหาคนมาปลอมแปลงเป็นนางได้อีกเรื่องราวถูกเปิดโปง จีเฉินอดทนต่อความเจ็บปวดที่มือคิดจะฉวยโอกาสหนีไปในความวุ่นวาย แต่หลินอวี่จะมอบโอกาสให้เขาได้อย่างไร จึงถีบหลังของเขาจนล้มหน้าคะมำจีเฉินสวมหมวกปิดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง ฟ้าก็มืดแล้วหลินอวี่จึงจำหน้าเขาไม่ได้ นางกล่าวว่า “ให้มารดาดูหน่อยเถอะว่าเป็นเศษสวะตัวใดที่คิดทำร้ายคนกัน”จีเฉินที่นอนหมอบอยู่บนพื้นพลิกมือคิดจะจับมือของหลินอวี่ไว้ ทว่าอ้าวเสวี่ยที่เหินกายมาอย่างกะทันหันเหยียบตัวเขาไว้ ประกายดาบในมือตวัดขึ้น ครั้งก่อนนางก็คิดจะจัดการมันแล้ว แต่ปล่อยให้มันหนีไปได้ทว่าเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยห้าม “อ้าวเสวี่ย รอก่อน” หากเขาวางเพลิงเผาจวนสกุลจาง จนเป็นเหตุให้จางกั๋วกงและฮูหยินของจางกั๋วกงเสียชีวิตจริงๆ เขายังต้องมอบคำชี้แจงให้สกุลจาง กระทั่งยั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status