หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น ยูตะและลูกน้อง รวมไปถึงบอดี้การ์ดอีกเกือบยี่สิบคน มีหน้าที่รับส่งไอโกะไปโรงเรียนทุกวัน หลังจากเลิกเรียน ชายหนุ่มต้องเป็นครู ฝึกสอนหญิงสาว ให้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ทุกชนิด จนถึงสี่ทุ่มถึงหยุดพักได้
ฮินาตะ สร้างสถานที่ฝึกไว้ ในบริเวณบ้านโดยเฉพาะ เขาไม่ต้องการให้ลูกสาวออกจากบ้าน โดยไม่จำเป็นเพราะกลัวว่า ฝ่ายตรงข้ามอาจลอบทำร้าย หรือจับตัวลูกสาวของเขาไป เพื่อเอามาต่อรองอะไรได้อีก
“เธอต้องฝึกใช้อาวุธ ปืน ดาบ มีด และฝึกร่างกายทุกส่วนให้แข็งแรง พร้อมรับกับสถานการณ์ ที่อาจถูกโจมตีได้ทุกเวลา”
“คุณพูดแบบนี้ทุกวัน ไม่เบื่อหรือไง อัดเสียงตัวเอง แล้วเปิดให้ฉันฟัง จะได้ไม่ต้องพูด ไม่ใช่เพลงชาตินะ พูดอยู่นั่น ย้ำอยู่นั่น”
เธอบ่นพร้อมกับสะบัดหน้า หมุนตัวเดินมานั่ง บนเก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับนั่งพัก ทำหน้างอง้ำ เท้าคางกับโต๊ะ เหลือบตามองชายหนุ่มแล้วพูดไปเรื่อย ๆ
“ฉันอยากไปเที่ยว ชมดอกซากุระที่สวนอุเอโนะ เหลืออีกไม่กี่วัน ก็หมดฤดูซากุระบานแล้ว”
ชายหนุ่มลากเก้าอี้ ออกมานั่งลงตรงข้าม เอ่ยกับหญิงสาวเสียงขรึม
“อันตรายรอบด้าน ทำให้พ่อเธอเป็นห่วง”
ไอโกะเม้มปาก หลุบเปลือกตาที่มีขนตางอนยาว ปิดบังสายตาตัวเอง ก่อนจะเหลือบขึ้นประสานสายตากับชายหนุ่มตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร แต่ดวงตาเป็นประกายของสาวน้อย สามารถบอกอะไร แก่เขาได้มากมายดั่งเช่นครั้งนี้
“จะหนี!...แล้วทำให้ทุกคนวุ่นวายอีกงั้นเหรอ” เขาเดาทางเธอถูกอีกตามเคย
“ในเมื่อฉันเลือกเกิดไม่ได้ คุณจะช่วยฉันให้มีความสุข ในชีวิตสักครั้งจะได้ไหม ฉันอยากนั่งเรือ ชมซากุระ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อน เธอไม่เคยได้ใช้ชีวิต อย่างปกติแบบเด็กคนอื่น ต้องฝึกการต่อสู้ โดยที่หญิงอื่นไม่จำเป็นต้องทำ อยากมีครอบครัวอบอุ่น ไม่ต้องมีชีวิตแขวนอยู่ บนเส้นดายทุกขณะแบบนี้
ชายหนุ่มมองเธอ อย่างเข้าใจความรู้สึก หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น ไอโกะเอาแต่ใจน้อยลง น้อยลงเพียงนิดเดียว สิ่งใดที่เธอไม่อยากทำ ใครก็ห้ามฝืนใจ
ยูตะยกนาฬิกาข้อมือ ขึ้นดูเวลาแล้วเอ่ยว่า
“ไปเวลานี้ ได้ดูช่วงเย็น กับช่วงหัวค่ำ ต้นซากุระจะถูกติดไฟไปทั่ว ดีเหมือนกัน ฉันไม่ได้เห็นแบบนี้นานแล้ว ขึ้นไปแต่งตัวสิฉันจะโทรบอกพ่อของเธอให้”
ไอโกะยิ้มทั้งใบหน้าอย่างดีใจ เพราะหญิงสาวรู้ว่า ถ้าชายหนุ่มเป็นคนเอ่ยปากกับพ่อ ท่านต้องยอมแน่ เพราะท่านไว้ใจเขามากที่สุด
ยูตะมองรอยยิ้ม ที่ประดับอยู่บนใบหน้าอ่อนใส อย่างเผลอตัว ก่อนเตือนตัวเองว่า นั่นมันเด็กนักเรียนปกเสื้อ กะลาสี เขาไม่ชอบเด็ก อย่าคิดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เธอคือลูกสาวของยากูซ่าระดับเจ้าพ่อ ไม่มีวันทำให้หัวใจแข็ง ๆ ของเขาอ่อนไปได้ ในเมื่อเขาไม่อยากเป็นยากูซ่าเหมือนพ่อ ฝึกการต่อสู้ให้เธอจบ เขาก็จะไปตามทางของตัวเอง
ชายหนุ่ม ให้ลูกน้องคู่ใจสองคน ตามไปด้วย โดยให้โกโร่เป็นคนขับ ฮิบารินั่งด้านข้าง ส่วนตัวเองนั่งคู่ กับหญิงสาวทางด้านหลัง บอดี้การ์ดไม่จำเป็น เพราะอาจดูเป็นจุดเด่นจนเกินไป หญิงสาวอยากเดินเที่ยวเล่น กลมกลืนไปกับคนอื่นๆ เหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไปเท่านั้น
เมื่อรถจอดสนิท ไอโกะเปิดประตูรถออกมาเอง ด้วยความตื่นตาตื่นใจ กับภาพที่เห็นตรงหน้า ดอกซากุระบานสพรั่งเต็มสองข้างทาง ยื่นกิ่งก้านโน้มต้นเลยลงไปในทะเลสาบ มีเรือพายให้นักท่องเที่ยวเช่า ชมดอกซากุระตลอดเส้นทาง
ชายหนุ่มกวาดสายตามองโดยรอบ ด้วยความระมัดระวัง ก่อนจูงมือหญิงสาวเดินไปยังจุดเช่าเรือ
ยูตะลงเรือไปก่อน แล้วหันมาส่งมือให้หญิงสาว ประคองร่างบางลงไปนั่งจนเรียบร้อย แล้วจึงถอยกลับมา ทำหน้าที่พายเรือให้หญิงสาวถ่ายรูป ไปตลอดเส้นทาง อย่างมีความสุข
โกโร่กับฮิบาริ ยืนอยู่บนฝั่ง มองหน้ากัน อย่างเดาความคิด ซึ่งกันและกันออก
“โกโร่ ฉันว่า ความฝันของลูกพี่เราคงดับงานนี้” ฮิบาริเอ่ยออกมา พลางถอนหายใจ
โกโร่พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนตอบกลับมาว่า
“แกเคยได้ยินไหมละ ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ”
“นั่นสิ ปากบอกไม่ชอบเด็กนักเรียน ปกเสื้อกะลาสี ฉันเห็นแอบมองเธอ แทบไม่ให้คลาดสายตา ยิ่งได้ฝึกยูโด กับคาราเต้ให้ แกคิดดูสิ ใกล้ขนาดไหน คุณไอโกะเธอไม่ใช่เด็กแล้วนะ ตัวนุ่มนิ่มหอม ๆ อรชรอ้อนแอ้น สวยไปทั้งตัว เป็นฉันคงใจละลายไปนานแล้ว”
“วันก่อนฉันเห็นลูกพี่ ปล่อยให้คุณไอโกะจับทุ่มเอา ๆ โดยไม่ยอมโต้กลับ สงสัยกลัวเธอเจ็บ”
“ถึงวันที่ต้องไปจริง ๆ ลูกพี่เราจะตัดใจได้เหรอวะ”
ลูกน้องทั้งสองคนคุยกันเบาๆ แอบนินทาลูกพี่ ก่อนเดินบนถนน ทอดขนานยาวไปกับสายน้ำ ตีคู่ตามไปห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
ยูตะพายเรือ ให้หญิงสาวได้ถ่ายรูป ไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นดวงตาของสาวน้อย เป็นประกาย เต็มไปด้วยความสุข จนอยากเก็บภาพของเธอไว้ ในส่วนลึกของหัวใจโดยไม่ให้ใครรู้
ชายหนุ่มสามารถเลือกทางเดิน ของชีวิตเองได้ โดยฮินาตะไม่ได้บังคับ ให้เขาเข้ากลุ่มของยากูซ่า แต่หญิงสาวคงไม่มีทางเลือก เพราะต่อไปเธอต้องขึ้น ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแทนบิดา
เธอและเขา มีเส้นทางเดินของชีวิต คนละทาง เหมือนเส้นขนาน ไม่มีวันมาบรรจบพบกันได้ แม้จะรักกันมากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องจากกันอยู่ดี
ยูตะพายเรือกลับ เข้าริมตลิ่งเป็นเวลาช่วงใกล้ค่ำ รอบๆ บริเวณกำลังเปิดไฟสว่างไสวไปทั่ว ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมดอกซากุระบานอย่างไม่ขาดสาย ไอโกะส่งมือให้ชายหนุ่ม ดึงเธอให้ขึ้นจากเรือ ในจังหวะที่หญิงสาวกำลังก้าวขึ้น แต่เขากลับเสียหลัก ลื่นหงายหลังและรั้งร่างของหญิงสาว จนล้มลงมาทับเขาทั้งตัว โดยไม่ได้ตั้งใจ ไอโกะรีบยันตัวเองลุกขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มนอนหลับตาอยู่ท่าเดิม หรือว่า เขาหงายหลังล้ม จนหัวฟาดพื้น! “ยู!...ยู!..ยูตะ!คุณเป็นอะไรไหม” หญิงสาวเขย่าตัว พร้อมกับเรียกชื่อชายหนุ่ม ด้วยความตกใจแต่ความจริงแล้ว ยูตะกำลังหลับตาเพื่อสงบใจ ใจเขาเต้นแรงทุกครั้ง เมื่อได้สัมผัสเธอทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมทุ่ม ขณะฝึกยูโด จนเขาต้องปล่อยให้เธอทุ่ม เพื่อให้เจ็บตัวอยู่อย่างนั้น จะได้ไม่คิดฟุ้งซ่านแม้กระทั่งสอนวิธีจับดาบ แล้วต้องไปยืนซ้อนทางด้านหลัง ได้สูดกลิ่นหอมกรุ่น จากเรือนกายของสาวแรกรุ่นมองเห็นลูกผมผสมกับเหงื่อ แนบไปกับต้นคอขาวผ่อง ยามเมื่อเธอรวบผมสูงขึ้นไปมัดไว้บนศีรษะ เห็นดวงตาคู่สวยกระพริบแต่ละครั้ง จนถึงจมูกโด่งเล็ก รับกับริมฝีปากสีชมพูอิ่มเรื่อ ยามเ
“คุณพาไปเที่ยวหน่อยได้ไหมคะ”หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อน ผิดกับเมื่อครู่ หน้ามือเป็นหลังมือ“บอกให้ฝึกนั่งสมาธิตอนก่อนนอน เวลาฝึกจะได้นิ่ง โฟกัสให้ตรงจุด การเคลื่อนไหวจะได้คล่องแคล่ว การจู่โจมจะแม่นยำ ไม่ได้ทำเลยหรือไง”ยูตะต่อว่าหญิงสาวเสียงเข้ม ไม่ยอมออกนอกเรื่อง ทำเหมือนหูไม่ได้ยิน ในสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยให้เขาฟัง“นั่ง!...แต่พอหลับตา มันก็เห็น แต่สถานที่เที่ยวเต็มไปหมดเลยนี่คะ” เธอตอบเขาหน้าง้ำ และบ่นตามมาอีกกระบุง“ปิดเทอมทั้งที ใคร ๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน มีแต่ฉันที่ต้องมานั่งซ้อม ยูโด คาราเต้ ยิงปืน ปามีด ฟันดาบ ดูมือฉันสิคะด้านไปหมดแล้ว ตัวก็เหมือนกัน ถูกคุณทุ่มจนกระดูก เคลื่อนไปกี่ซี่แล้วก็ไม่รู้ ” ไอโกะหงายมือเรียวเล็กให้ชายหนุ่มดู ประกอบคำพูด เพราะกลัวเขาไม่เชื่อยูตะหลุบเปลือกตาลง มองฝ่ามือเรียวบางตรงหน้า ก่อนเปิดเปลือกตา ประสานดวงตาคู่งาม อย่างรู้สึกหวั่นไหว แต่พยายามตัดใจ เอ่ยถามหญิงสาวกลับไปเสียงขรึม“อยากไปไหน”“ฉันอยากนั่งรถไฟไปเที่ยว ทะเลสาบคาวากุจิโกะ อยากนั่งรถดูรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ นั่งเรือโจรสลัด ชิมไข่ดำโอวาคูดานิ ไปดูดอกไม้ที่สวนฮิตาชิซีไซด์ ช่วงนี้ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ดอกนีโมฟิลา
เวลานี้ เธอกำลังอยู่ที่ไหน เขาได้แต่หวังว่า อย่าให้พวกนั้น เจอเธอก่อนเขาเท่านั้นเองไอโกะบอกเขาว่า อยากนั่งรถไฟไปเที่ยว หญิงสาวคงไปสวนดอกไม้จังหวัดอิบารากิ ดอกไม้ที่สวนฮิตาชิซีไซด์ เพราะเธอชอบดอกไม้มาก“ฮิบาริ รีบไปที่สถานีรถไฟ”ฮิบาริเหยียบจนสุดไมล์ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจ ลูกพี่เอาเสียเลยไอโกะสะพายกระเป๋า เดินเข้าไปในสถานีรถไฟเพื่อซื้อบัตร หญิงสาวเคยนั่งรถไฟกับเพื่อน เที่ยวภายในโตเกียวเท่านั้น ยังไม่เคยนั่งรถไฟออกไปต่างจังหวัด เลยสักครั้ง ครั้งนี้คือครั้งแรก เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย และไม่รู้ตัวเลยว่า มีใครเฝ้าตามตลอดเวลา ตั้งแต่ออกจากบ้านมา จนถึงสถานีรถไฟชายปริศนารีบหลบหลังเสาทันที เมื่อเห็นยูตะ เดินแกมวิ่งเข้าไปดึงแขน ของหญิงสาวอย่างแรงด้วยความโมโห จนร่างบางเซมาปะทะกับอกกว้าง ชายหนุ่มจึงรวบเอวบางเอาไว้กับตัว เพราะกลัวว่าเธอจะวิ่งหนีเขาไปอีก“กลับบ้านเดี๋ยวนี้!”ยูตะตะคอกใส่หญิงสาวเสียงดังลั่น ไม่สนใจคนบริเวณนั้น ที่กำลังมองทั้งคู่ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นสองแขนกลมกลึงยกขึ้น ดันอกกว้างของชายหนุ่มเอาไว้ เงยหน้าขึ้น สบตาคู่คมโดยไม่รู้สึกกลัวอะไร และตะเบ็งเสียงตอบกลับไป ไม่ยิ่งหย่
ไอโกะนั่งชิดจนติดริมประตู ริมฝีปากอิ่มสีเรื่อปิดสนิทถึงแม้ว่า ในใจลึก ๆ แล้วรู้สึกดีใจ ที่ชายหนุ่มยอมตามใจ แต่อีกใจก็ยังคงเก็บ ความไม่พอใจเอาไว้เงียบๆด้วยความเป็นเด็กเอาแต่ใจ การควบคุมอารมณ์คุกรุ่น ที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงยังทำได้ไม่ง่ายนัก หากเป็นผู้ใหญ่กว่านี้สักหน่อย คงยกระดับการควบคุมอารมณ์ ของตัวเองได้มากขึ้นตามลำดับ“ฮิบาริ วนหาโรงแรมให้คุณไอโกะพักก่อน”ยูตะสั่ง เพราะระยะทางจากโตเกียว มาถึงตัวจังหวัด อิบารากิ ใช้เวลาขับรถยนต์ ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเวลานี้ยังไม่ถึงเที่ยงคืนด้วยซ้ำ“ไม่ต้อง!ไม่พัก! ไม่อยากพัก”“อีกหลายชั่วโมงนะกว่าสวนจะเปิด เธอควรพักเอาแรง สวนดอกไม้ของที่นั่น กว้างมากจนสุดลูกหูลูกตา เธออาจไม่มีแรงเดิน” ชายหนุ่มพยายามอธิบายให้หญิงสาวเข้าใจ“ไปจอดนอนรอหน้าสวน พอสวนเปิด จะได้ซื้อบัตรให้ฉันเป็นคิวแรก” เธอตอบเขากลับไปเสียงห้วนทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ ขืนพูดออกไป เหมือนเอากองไฟโยนใส่น้ำมันชายหนุ่มส่งสายตา บอกลูกน้องอย่างรู้กัน เมื่อเห็นฮิบาริ เหลือบตาขึ้นมองเขา ทางกระจกมองหลังเมื่อถึงหน้าสวน ทั้งสี่คนพากันออกมาจากรถ เพราะรู้สึกเมื่อยล้า โก
เมื่อสวนเริ่มเปิดมีผู้คนทยอย เข้าไปซื้อตั๋ว แบบระบบอัตโนมัติ กันอย่างเนื่องแน่น แน่นอนว่าโกโร่และฮิบาริ ได้ยืนรอคิวเป็นอันดับแรกไอโกะรู้สึกดีใจ ที่จะได้ชมสวนดอกไม้ กว้างใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ดูมาจากโซเชี่ยลต่าง ๆ จนติดตา และเก็บเอาไปฝันฝันว่า ในดงดอกไม้นั้น มีเธอและยูตะ หยอกล้อเล่นกัน ราวกับคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง มีความสุขกับบรรยากาศรอบ ๆ ท่ามกลางดอกไม้หลากสีสายพันธุ์แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่มีวันเป็นจริงได้ เธอรู้ว่า สักวันเขาต้องจากไป เธอจึงพยายามชักชวนให้เขา พาเธอมาเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกัน ให้อยู่ในความทรงจำลึกๆ ในหัวใจ ถึงแม้มันอาจไม่มีความหมาย มากมายสำหรับเขา แต่สำหรับเธอแล้ว คงไม่มีวันลืมเขาได้ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่เมื่อทุกคนเดินผ่านประตูทางเข้า ก็พบกับรถรางหลากสี เพื่อให้คนนั่ง เข้าไปชมสวนดอกไม้ ได้ทุกโซน เพราะบางคนอาจเดินไม่ไหวอีกจุดหนึ่งทางสวน มีบริการเช่ารถจักยานให้ปั่น เพื่อกันการเกิดอุบัติเหตุ จึงแยกเส้นทาง ระหว่างจักรยาน กับคนเดินเท้าอย่างชัดเจนไอโกะหันไปจับแขนชายหนุ่ม เขย่าแล้วเงยหน้าถามเขา อย่างประจบ ผิดกับไอโกะเมื่อวานนี้ราวคนละคน“ยู ปั่
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันในรถ ฮิบาริจึงเปลี่ยนให้โกโร่เป็นคนขับแทนบ้างขณะโกโร่กำลัง เคลื่อนรถออกจากบริเวณสวนดอกไม้ ก็มีเสียงของไอโกะเอ่ยทักขึ้นมา“ฉันยังไม่อยากกลับนะโกโร่”โกโร่มองสบตาลูกพี่ ผ่านกระจกมองหลัง เหมือนจะรอคำตอบ“อยากไปไหน” ยูตะหันมาถาม“ฉันเมื่อยขา เมื่อยตัวด้วย คุณพาฉันไปพักที่ออนเซ็นหน่อยนะคะ เอาแบบอยู่ในห้องส่วนตัว ด้านนอกเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้เยอะๆ แล้วก็เสียงนกร้อง แถว ๆ นี้มีไหม”“โกโร่ ฮิบาริ”“ได้ครับลูกพี่”ง่าย ๆ สั้น ๆ ไม่ต้องส่งลิงก์ทางสายตา เพียงแค่เรียกชื่อ ลูกน้องทั้งสองคนของชายหนุ่ม ก็ลงมือทำงานกันได้ อย่างคล่องแคล่วว่องไวฮิบาริยกโทรศัพท์กดหา สถานที่ออนเซ็น ในแบบที่หญิงสาวต้องการ เมื่อพบแล้ว ก็หันไปบอกสถานที่นั้นกับโกโร่ทันทีทำงานกันเป็นทีม!“ฮิบาริ ถามที่นั่นให้ฉันทีว่า มีจิ้งจกอยู่ไหม ถ้ามีช่วยเอาออกจากห้อง ไปให้หมดนะ ฉันกลัว”ยูตะได้ยินจึงหันไปแอบยิ้ม โดยไม่ให้ไอโกะเห็น แต่กลับไม่พ้นสายตาของโกโร่ ที่เห็นอาการของลูกพี่ ผ่านกระจกมองหลัง“เธออยากได้ธรรมชาติไม่ใช่หรือไง มันคือสัตว์ที่อยู่กับธรรมชาติ บ้านไหนมีจะแสดงถึง ความร่ำรวย ยิ่งมีเยอะก็จะยิ่งมั่งคั่ง”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เพราะจับใจความไม่ได้ สมองกำลังสั่งให้ความรู้สึก ทั้งหมดของร่างกายเริ่มตื่นตัว จนไร้แรงต้านทานมันได้อีกต่อไปร่างนุ่มนิ่ม ผิวเนียนขาวอมชมพู ที่เขาอยากสัมผัสมานาน อยู่ในอ้อมแขนตรงหน้ามือใหญ่เริ่มปัดป่ายไปทั่วหลังบอบบาง ไล่ลงมาบริเวณเอวเล็กนอกผ้าขนหนู ลูบไล้ไปที่ขาอ่อน ไม่มีอะไรปกปิดไว้เลยเพราะหญิงสาวพันกาย ปิดได้เพียงช่วงบน ช่วงล่างบัดนี้ ชายผ้าขนหนู ได้ถูกรั้งลอยขึ้นมาเพราะอยู่ใต้น้ำ ไอโกะตัวแข็ง เมื่อถูกสัมผัสลูบไล้จากฝ่ามือหนา และเริ่มตัวอ่อนตามมา เมื่อริมฝีปากอุ่นจัด บดจูบเธออย่างเร่าร้อน หิวกระหาย จนทำให้สติของหญิงสาวแตกกระเจิง รู้สึกอ่อนแรงลงทุกขณะ อะไรบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทันทีที่ริมฝีปากได้สัมผัส กับริมฝีปากนุ่มแสนหวาน จูบนั้นทำให้ชายหนุ่ม ลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น ลืมสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้แต่แรก หญิงสาวช่างมีแรงดึงดูดมหาศาล ทำให้ชายหนุ่มเสียการควบคุมตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเห็นเธองดงามไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ ทำให้เขาหมดความยั้งคิด อารมณ์ปรารถนาที่เคยถูกปิดกั้นมาก่อน ต่างประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดยั
ไอโกะกลับจากเที่ยวชมสวนดอกไม้ หญิงสาวไม่ได้เห็นหน้า ชายหนุ่มอีกเลยหลังจากนั้น รวมไปถึงลูกน้องทั้งสองคนของเขา ก็หายไปด้วยเช่นกัน เธอรู้สึกแปลกใจ จึงรีบสาวเท้าก้าวเข้าบ้านโดยเร็ว เมื่อเห็นรถของบิดาจอดอยู่ในโรงรถ นั่นแสดงว่าท่านได้กลับมาแล้ว“พ่อคะ ยูตะไปไหน หนูไม่เห็นมาหลายวันแล้ว พ่อใช้ให้เขาไปไหนอีก”“เขาไปแล้ว”“ไปไหนคะ”“พอดีบริษัทที่พ่อให้เขาดูแลอยู่ที่อเมริกา มีปัญหากับหุ้นส่วน และคู่แข่ง ยูตะเลยต้องกลับไปจัดการนะลูก”“ทำไมเขาไม่บอกหนู เขาจะไปนานแค่ไหนคะ เมื่อไหร่จะกลับมา แล้วใครจะสอนหนู”คำถามที่กำลังพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากอิ่มเรื่อ ทำให้ฮินาตะต้องวางปากกา ที่กำลังเซนเอกสารลง แล้วเงยหน้าขึ้นตอบบุตรสาวตามตรง“ยูตะ เป็นคนฝีมือดี ทั้งทางบู้ และมีไหวพริบทางธุรกิจ เขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังคงดูแลบริษัทให้พ่ออยู่ เขาไม่ต้องการเข้ากลุ่มยากูซ่า ไม่อยากยุ่งกับธุรกิจสีเทา พ่อเรียกเขากลับมาเพื่อสอนลูก และอยากให้เขาดูแลปกป้องลูก เหมือนที่พ่อของเขา เคยปกป้องพ่อเสมอจนตัวตาย แต่เขาไม่เลือกเรา”ฮินาตะรักพ่อของยูตะ เสมือนน้องชายตัวเอง เขาจึงไม่อยากใช้อำนาจ บังคับชายหนุ่มให้เข้ากลุ่ม ไ
ในห้องทำงานของยูตะ..“ดินเนอร์ใต้แสงเทียน..เฮอะ!...ฉันยังไม่เคยเลยสักครั้ง”ไอโกะบ่นหน้ามุ่ย กรอกตามองบน...ริมฝีปากบนยกขึ้นจนเกือบติดจมูกรั้น ๆ นั่น...เธอลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมา จนโกโร่กับฮิบาริเริ่มมึนหัวแทน“จะบ่นทำไม..เธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดเองนี่...ใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อ..แน่ใจนะว่าจะไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นมา...ให้เสียงานใหญ่น่ะ”เขาถามเธออีกครั้งเพื่อให้เธอยืนยัน...ให้แน่ใจอีกที..ขณะเดียวกันก็ลุกไปนั่งที่โซฟา..ยกขาเหยียดยาวของตัวเองขึ้นพาดกับโต๊ะกระจกตรงกลาง อย่างสบายอารมณ์..มองดูร่างบางที่เดินไปมา..แล้วถึงกับส่ายหน้า..ขำในใจ...แต่ไม่แสดงออก....คงแสดงออกได้เหอะ!โกโร่กับฮิบาริที่ยืนอยู่ใกล้...ก็พากันรอลุ้นแหละว่า...คุณหนูอารมณ์ร้าย...เหวี่ยง...วีน...เอาแต่ใจ...จะจัดการลูกค้าสาวแสนสวยจอมตื้อนั่นอย่างไร...พวกเขาเห็นหล่อนแล้ว...ทั้งสวย...หุ่นสะบึม..เซ็กซี่ไปทั้งตัว...จ้องจะเขมือบลูกพี่ของเขาเสียให้ได้...แต่คุณไอโกะกลับยกปลาย่าง...ถวายให้แมวจนถึงปากขนาดนี้...จะไหวไหมวะ...ไอโกะหยุดเดินแล้วหันองศาหน้ามาหาลูกน้อง เอ่ยเรียกพวกเขาเสียงเข้ม“โกโร่…ฮิบาริ!”“ครับ/ครับ”เธอถอนหายใจยาวยืด แล้วเอ่ย
งานนี้จะมีอะไรตามมาอีกวะ..เฮ่อ!เธอมองจ้องโทรศัพท์..สลับกับมองสบตากับเขามันขึ้นโปรไฟล์เดียวกันกับวันนั้น...ผู้หญิง!คนเดิม...ใคร!..ผู้หญิงที่ไหน!ตอบ!บรรยากาศดี ๆ เปลี่ยนไปทันทีทันใดอ่อ...ลูกค้ารายใหญ่ดีกรีนางงามคนนั้น...“ฉันกดรับสายเธอให้นะคะ...” เธอเอ่ยเสียงเย็น..และกดรับให้เขาเองหน้าตาเฉย...เปิดโฟนให้อีกด้วย... ยิ้มเย็นเฉียบ... ขยับปากโดยไม่มีเสียง..บอกให้เขาพูดกลับไป กับอีกคนที่อยู่ปลายสาย..แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมลุกออกไปไหน...ต้องการฟังด้วยนะสิ....สบตากันไปมา...จนได้ยินเสียงปลายสายเรียกขาน คนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเสียงหวาน(“คุณยูคะ...อิจิโอะเองคะ จำได้ไหมเอ่ย”)ใครอนุญาติให้หล่อนเรียกเขาแบบนี้ได้..เรียกชื่อเล่น...สนิทกันแค่ไหน...ห๊ะ!วงแขนเล็กที่โอบรอบคอเขาไว้..เปลี่ยนเป็นจิกเล็บยาวสวยของเธอลงบนบ่าเขาแรง ๆ เพื่อระบายอารมณ์ จนเขารู้สึกได้แม้จะไม่มีเสียงเธอเอ่ยอะไรออกมาก็ตามที...หึงโหดแบบนี้เขาต้องทำไงวะ...เสียวไปถึงตูดเลยสิครับงานนี้...ฝืนยิ้มให้เธอ...อย่างไม่เต็มปาก..ซุกหน้ากับซอกคอหอมกรุ่นกระซิบเบา ๆ เอาใจ..บอกเธอไปว่า“ไม่รับได้เปล่าอ่ะ”“แล้วให้ไอดีไปทำไมล่ะคะ”เธอสะบั
หลังจากได้เที่ยวทะเล...ที่ยามากูจิคราวนี้ ไอโกะก็ได้แต่อ้อนให้ยูตะพาไปเที่ยวที่อื่นต่อ เหมือนกับเวลานี้…เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมทำงานทำการใดๆ...มานั่งห้อยขาบนโต๊ะทำงานของเขา...มือเล็กข้างขวาวางบนบ่าหนาแล้วเขย่าโยก...เพื่อไม่ให้เขาเซนต์เอกสารหรือให้หยุดทำงานนั่นแหละ...รอให้เขารับปากว่าจะพาเธอไปเที่ยวในที่ที่เธอยังไม่เคยไป..ยั่วกันแต่เช้า...ยั่วกันเข้าไป....แล้วไอ้ต้นขาขาวๆ ที่พ้นชายกระโปรงสั้นออกมาอยู่ใกล้แค่เพียงหางตานี่...เขาควรจะจัดการยังไงดีล่ะ...ทำงานไม่รู้เรื่องแล้วมั้งแบบนี้น่ะ...“ไม่ทำงานหรือไงฮึ...มานั่งบนโต๊ะค้ำหัวผู้ใหญ่แบบนี้ ใครเข้ามาเห็นจะทำยังไง ฉันจะปกครองใครได้อีก”ไอโกะไม่ตอบ...หลุบตาลงมองเขานิดหน่อย ก่อนเสหน้าไปอีกทางเมื่อยังไม่คำตอบที่ชัดเจน…เงียบ..ให้รู้ว่า..งอนแล้ว..“มานี่”เขาว่า...เอาแขนข้างขวาข้างเดียว...เกี่ยวเอวเธอลงมานั่งบนตักเขาพอดี..แล้วหอมแก้มเธอดัง...ฟ่อด!“ยู!”จุ๊บ!“ยู!”ไอโกะยกมือนุ่มหอมขึ้นปิดปากเขาไว้ก่อน แล้วค่อยเอ่ยย้ำคำเดิม“ฉันอยากไปเที่ยว..หมู่บ้านหิมะ....คุณพาฉันไปนะคะ”เอ่ยจบก็เอามือตัวเองออก เปลี่ยนเป็นจูบเขาเบาๆ แล้วผละออกมาจูบแค่นี้...ไม
“อยากเล่นกับเธอในน้ำมากกว่า....นะ...ได้ไหม”เธอไม่ตอบ แต่จูบเขากลับไป เมื่อผละริมฝีปากออกมาจึงเอ่ยถามเขาว่า“คุณขออนุญาตฉันเหรอคะ”“เปล่า...ไม่ได้ขอ..ชวนน่ะ”เขาตอบ ขณะริมฝีปากและจมูกเริ่มซุกไซร้ซอกคอเรื่อยลงไปอย่างหนัก มือหนาแอบดึงเชือกของชุดทูพีชออกไปจนหมด...ตอนไหน..เธอยังไม่รู้ตัวเองเลยนี่...มือเขายิ่งกว่าปลาหมึกอีกแน่ะ…“แล้วถ้าฉันไม่..” ร่างกายไม่มีอะไรปกปิดแล้วยังจะปฏิเสธ…ขอเล่นตัวสักหน่อยเถอะนะ“จะเอา”เขาว่า...แล้วยกร่างบางขึ้นมาอุ้มในท่าที่เหมาะสมทางด้านหน้า...ดวงตาเป็นประกายแพรวพราวเมื่อลดสายตามองทรวงอกอวบอิ่มตรงหน้า...ที่เจ้าของบอกว่าไม่...แต่กำลังแอ่นกายรับริมฝีปาก ที่ก้มลงไปดูดดุนขบกัดมันอย่างมันเขี้ยว“ถ้าฉันไม่...อ่า...อื้อ..อุ๊ย!..ยู...!”เธอโอบรั้งต้นคอเขายึดไว้...ร้องครางเสียงหวานเมื่อแก่นกายใต้น้ำของเขารุกเข้าไปสำรวจภายใน..และถูกเขากดสะโพกของเธอ รับแรงส่งหนัก ๆ จากความเป็นชายของเขา...รุกหญิงสาวอย่างรวดเร็ว... “ไอ..อื้ม.. อ่า...”เขาครางหนัก ๆ กัดริมฝีปากล่างเอาไว้จนเลือดซิบริมฝีปากนุ่มถูกบดจูบด้วยริมฝีปากคนตรงหน้า จากเนินนาบเริ่มเร่งเร้าเอาแต่ใจ...หนักขึ้นเรื่อยๆ
“รักฉัน...ตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาหันมาถาม แต่อีกฝ่ายยังไม่ตอบเพราะมัวแต่ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้เขาและให้ตัวเองไปพร้อมกัน เอียงหัวมาซบที่ไหล่หนาแล้วทวนประโยคที่เขาถาม“รักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ”หลังจากทำท่าคิด เธอจึงตอบเขาไปว่า... “อืม...ตั้งแต่ได้สบตากับคุณ...แล้วคุณก็ใจดีพาฉันเที่ยวตลอดเลย”หึ..ใช่เหรอ...ใครว่าเขาใจดี..ก็แม่คุณเล่นจะหนีทุกครั้งไหม..ให้เขาไล่จับจนปวดหัว...เลยต้องยอมต่างหากล่ะนั่นน่ะ...คิดได้แต่ในใจอีกแล้วเหอะ!“คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า คุณรักฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไง ฉันรอคุณเล่าอยู่นะคะเนี่ย” เธอเอ่ยทวงแขนแข็งแรงรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิด.หันไปกอดเธอทั้งตัว...จมูกโด่งก้มสูดความหอมจากเรือนผมของเธอหนักๆ ริมฝีปากหยักเอ่ยตอบเธอออกไปว่า“ตั้งแต่เห็นนักเรียนปกเสื้อกะลาสี...แอบรักเด็ก!ทั้ง ๆ ที่บอกตัวเองว่าจะไม่รัก..แต่ก็รักจนได้...ถึงตอนนี้ ยิ่งมากกว่ารักเธอเสียอีกนะ...ฉันดูเธอผ่านวีดีโอที่โกโร่ส่งไปให้ทุกวัน...กรอไปกรอมา..จนในหัวมีเธอเต็มไปหมด...ถ้าฉันตาย จิตสุดท้ายคงอยู่กับเธอนี่แหละมั้ง” เอ่ยถึงตรงนี้ เขาก็หัวเราะหึ...ขำตัวเองชะมัด!ทำไปได้...ก็เพราะรักเธอมากมายนั
คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด...ไม่มีแสงของดวงจันทร์มาบดบัง..ดวงดาวทั้งหลายจึงเปล่งแสงแข่งกันอย่างสวยงามเต็มท้องฟ้าไปหมด..ไอโกะลดระดับสายตาลง...เพ่งมองไปยังทะเลด้านหน้า เห็นแนวคลื่นเป็นฟองสีขาวสะท้อนแสงแล้วอดใจไม่ไหว..หญิงสาวก้มลงถอดรองเท้า...แล้ววิ่งลงไปย่ำเล่นกับฟองคลื่น...กางแขนหมุนรอบตัว...หัวเราะลั่นเหมือนเด็กๆ...ชายหนุ่มยืนมอง...ยิ้มค้าง...อย่างรู้สึกเอ็นดู...เธอเนี่ย...น่ารักอีกแล้วนะ..ไอโกะ...เขาต้องมาเลี้ยงเด็ก...ไม่ใช่สิ...เลี้ยงลูกให้แทนนายใหญ่...ไม่ใช่อีกนั่นแหละนะ..เธอน่าจะเป็นแทบทุกอย่างเลยละมั้ง...ตั้งแต่...เป็นลูก...ที่เขาต้องคอยโอ๋เอ๋ปลอบประโลม...เป็นเมีย...ที่ให้ความสุขสุดยอดแก่เขาได้ทางร่ายกายและใจ..เป็นแม่...เพราะมีนมให้เขาดูด..นี่เขาคิดถูกไหมนะแบบนี้น่ะ..แต่ทุกอย่างที่เป็นเธอ...เขาก็รักไปหมด...เรียกว่าหลงเลยก็คงได้ละมั้งแบบนี้...“ยู!..มานี่สิคะ..เร็วๆ ”เขาถอดรองเท้า...พับขากางเกงขึ้นไปเล็กน้อย เดินย่ำทรายลงไปหาเธอตามเสียงเรียก...“เล่นน้ำกันนะคะ”หญิงสาวเอ่ยชวน...ขณะเดินเข้ามาจับมือชายหนุ่ม ดึงให้ลงทะเลตามเธอมาด้วยกัน...แต่อีกฝ่ายยื้อไว้....รวบเอวเธอเข้ามากอด แล้
ชายหนุ่มร้องเสียงหลง...แล้วรีบกระโจนลงจากเตียงไปรับไว้ได้เสียก่อน...ไม่งั้นคงร่วงลงพื้นแตกกระจายไปแล้ว“โธ่..ไอ..พังกันพอดี”เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และเริ่มหายใจขัดเมื่อก้มลงมองหน้าจอ ที่เวลานี้ยังมีเสียงเรียกเข้าดังต่อเนื่องเหมือนปลายสายยังไม่ยอมแพ้ แม้อีกฝ่ายจะยังไม่กดรับเสียทีนั่นเขาเหลือบตาคมมองคนที่ยังนอนนิ่ง ไม่ขยับส่วนไหนของร่างกายเลย ซึ่งผิดกับเมื่อครู่…งอนแหละดูออก!เพิ่งดีกันยังไม่ทันข้ามวัน…มีเรื่องให้ปวดกบาลอีกแล้ว...มีธุระอะไรนักหนา ถึงโทรมาหาเขาเช้าขนาดนี้เนี่ย...อิจิโอะตัดสินใจไม่รับ...กดทิ้ง...อย่างยอมเสียมารยาทซะเลยดิ...ช่างหัวมัน!..“ทำไม่ไม่รับเธอล่ะคะ...รับเธอสิ...รับแล้วเปิดโฟนด้วยนะคะ”คนนอนนิ่ง...ตะแคงตัวหันองศาหน้ามาเอ่ยกับชายหนุ่มเสียงเรียบ แต่ดวงตาดุยังกับแม่เสือว่าแล้วต้องโดนแบบนี้...ถึงได้รีบกดทิ้งทันทีไงครับ...“วางสายไปแล้ว”“โทรกลับไปสิคะ”ยังไม่จบ!แล้วบอกไม่หึงไม่หวงสักนิด..ซะเมื่อไหร่ล่ะครับ...อาการแบบนี้มันหนักกว่านั้นอีกเนอะ...“ไม่โทรกลับ..ไม่รับสายใครทั้งนั้น วันนี้ฉันจะพาเธอไปเที่ยวไง...ไปไหมละ”เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ...และทำให้เธออารมณ
ไอโกะเบิกตากว้างก่อนกระพริบตาปริบ ๆ ออกอาการงง...วิ่งสวนชายหนุ่ม ออกไปที่ระเบียง...มองลงไปด้านล่าง แล้วหันองศาหน้ามามองเขาอีกที...ลืมความโกรธที่มีไปชั่วขณะ“คุณขึ้นมาได้ยังไงคะ” เอ่ยถามออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังโกรธอยู่ จึงรีบเปลี่ยนคีย์เสียงสูงขึ้นทันที“มาทางไหนคุณกลับไปทางนั้นเลยนะ!”ทั้ง ๆ ที่อยากรู้ว่า เขาปีนขึ้นมาหาเธอได้อย่างไร แต่ความที่ทิฐิมีมากกว่า จึงหยุดความอยากรู้ของตัวเองไว้แค่นั้นชายหนุ่มไม่เอ่ยอะไร นอกจากยิ้มกวนๆ แล้วสาวเท้าเข้ามาหา...เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง“อย่าเข้ามานะ!” มองหาสิ่งของรอบตัวว่ามีอะไรบ้าง...แล้วคว้ามาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหวี แป้ง น้ำหอม ครีม กวาดมาเรียบ แล้วขว้างใส่คนตัวสูงที่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้เขาหลบได้...รีบคว้าร่างบางเข้ามากอด....ล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน...ก่อนที่หญิงสาวจะหยิบอาวุธอย่างอื่นออกมาอีกเฮ้อ!เหนื่อยทุกรอบที่ทำให้เธอโกรธ...แต่ก็มันดี...ล้มลงมาบนที่นอนแบบนี้ ท่ากำลังได้...ดื้อมากๆ...จะฟัดให้จมเตียงเลยคอยดูเหอะ...หงับ!“โอ๊ย!”ยายหมาบ้านี่กัดแขนเขา“เจ็บนะไอ!”โป๊ก!“โอ๊ย!..ไอ.”หญิงสาวเอาหัวตัวเองโขลกกับหน้าผากของชายหนุ่ม แล้วผลักเขาออกจาก
ไอโกะก้าวเท้านำหน้าลูกน้องนับสิบคน เข้าไปในบ่อนใหญ่ด้วยมาดของนางพญา...ที่เวลานี้ ..เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ และใครหน้าไหนอย่าได้ขวาง...เมื่อไปถึงด้านในทุกคนในที่นี้ต่างหันมามอง และแตกฮือ เมื่อไม่รู้ว่าผู้มาเยือนในที่นี้คือใคร....หญิงสาว..จึงแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พยายามระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นของตัวเอง ให้ค่อย ๆ เย็นลงตามลำดับ“ฉันไอโกะมาแล้ว...ไอ้ไดจิอยู่ไหนเรียกมันออกมา”เสียงกดต่ำฟังแล้วดูมีอำนาจ กับท่าทางองอาจกล้าหาญ ดวงตาเด็ดเดี่ยว ไม่ทำให้พวกลูกน้องของไดจิเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับพากับหัวเราเยาะกับ ท่าทาง และรูปร่างบอบบางอรชอนอ้อนแอ้น สวยบาดตาบาดใจ..โดยไม่มีคาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมีดีอะไร มาต่อกรกับผู้ชายอย่างพวกมันได้“ฉันต้องการพบไอ้ไดจิ มันไปมุดหัวอยู่ใต้กระโปรงใคร แน่จริงให้มันออกมา”แม้จะไม่เกรงกลัวหญิงสาว แต่คำพูดของเธอทำให้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก้าวออกมาด้านหน้า แล้วเอ่ยแนะนำตัวเองว่า“ฉันเองไดจิ เธอเรอะลูกสาวนายใหญ่ ที่เป็นคนสั่งให้ปิดบ่อนทุกที่”“ใช่...แต่แกก็ขัดคำสั่งฉัน"“เพราะพวกฉันไม่เห็นด้วย”“ฉันไม่ได้มาถามความเห็น แต่จะมาดูหน้าไอ้คนที่มันกล้าขัดคำสั่ง..รู้กฎของ