เมื่อฮินาตะเห็นลูกสาวเข้ามา จึงเอ่ยทักหญิงสาวไปว่า“เจอยูตะหรือยังลูก เห็นเขาบอกพ่อว่าจะออกไปหา”“หนูไม่รู้จักเขา พ่ออย่าเอ่ยชื่อนี้ ให้หนูได้ยินอีกนะ!”หญิงสาวกล่าวกับบิดาอย่างหัวเสีย เดินไปสงบสติอารมณ์ อีกมุมหนึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่ม เดินเข้ามาหาบิดาของเธอ หญิงสาวจึงเดินปรี่เข้าไปทันที“พ่อคะ หนูไม่เข้าประชุม หนูจะกลับบ้าน”พูดกับบิดา แต่เธอหันไปมองชายหนุ่มตาขุ่นขวาง ก่อนสะบัดหน้า เดินออกจากห้องโถงไปทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากฮินาตะ ที่มองตามหลังไป เพราะเอ่ยเรียกบุตรสาวไว้ไม่ทัน“ผมจะไปตามเธอเองครับ”ยูตะหันมาบอก แล้ววิ่งตามหญิงสาวไปติดๆแต่ไม่ทัน! เมื่อเธอก้าวเข้าลิฟท์ไปเสียแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจวิ่งลงบันไดไม่นานเขาก็มาถึง คว้าแขนหญิงสาวเอาไว้ได้ ถูกอีกฝ่ายวาดมือมาตบ แต่เขาหลบทัน แล้วรวบเธอพาดบ่าโดยไม่สนใจสายตา ของคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นฤทธิ์เยอะเหมือนเดิม!หญิงสาวโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่แสร้งทำเป็นสงบ พอถูกชายหนุ่มวางลงเท่านั้น เธอก็ปล่อยหมัดใส่เขา แต่ถูกมือใหญ่รวบกำปั้นเล็ก ๆ ไว้ได้ ก่อนจะปล่อยให้เธอชกเขาใหม่ ชกได้เพียงลม หมัดของหญิงสาว ไม่ได้สัมผัสตัวเขาเลยแม้แต่น้อยไอโกะ
คนร้ายประกบรถของหญิงสาว ขนาบทั้งสองข้าง และด้านหลังอีกคัน บังคับให้ไปในทิศทาง ที่ต้องการให้เธอไป ในเมื่อช้าเร็วต้องเผชิญหน้า จะทอดเวลาไปทำไมถ้าต้องการตัวเธอเป็น ๆ ไม่มีทาง! จะเอาตัวเธอไปได้ ต้องปราศจากลมหายใจเท่านั้นหญิงสาวรู้ดีว่า ยากูซ่าพวกนี้โหดร้าย เห็นคนตายเป็นเหมือนขนมหวาน ไม่เคยคิดปราณีใคร เธอไม่ยอมให้พวกมันจับไป ต่อรองกับบิดาโดยเด็ดขาด ถ้าเธอรอดไปไม่ได้ ก็ขอยอมตายอยู่ตรงนี้หญิงสาวหักพวงมาลัย เบียดคันที่อยู่ด้านซ้าย อย่างไม่กลัวตาย จนมันเสียหลักลงข้างทาง...ฝุ่นตลบ...แล้วประคองรถของตัวเองจอดสนิท รีบลงจากรถ แล้วยิงใส่รถอีกสองคัน ที่กำลังจอดตามมา ในระยะใกล้ โดยไม่ให้พวกมันตั้งตัวได้เมื่อถูกหญิงสาวยิงปืนใส่ ในขณะเดียวกัน ยังมีรถรถเก๋งสีดำ ตามมาจ่อท้ายอีกสี่คัน พวกมันจึงรีบออกรถเพื่อหนี เพราะเห็นว่าพวกของเธอมีมากกว่า“โกโร่ ตามไป!ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร” หญิงสาวออกคำสั่ง เมื่อเห็นโกโร่โผล่ออกมาจากรถ“ไม่ต้องตาม ถามไอ้คัน ที่อยู่ข้างล่างนั่นก็รู้แล้ว”ยูตะ โผล่จากประตูหลังออกมาตอบเมื่อเห็นหน้าคนพูด หญิงสาวรีบสะบัดตูดหนี...กลับไปขึ้นรถของตัวเองทันที ตั้งใจว่าจะขับหนีเขาต่อไปให้ไ
“ไหนคุณบอก...จะออกไปพักโรงแรม ทำไมฉันยังเห็นคุณอยู่นี่อีก”ไอโกะโวยวายเมื่อเห็นชายหนุ่ม นั่งร่วมวงกินข้าวกับบิดา หนำซ้ำยังส่งสายตาแพรวพราวมาให้ อย่างน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าดู“ไม่เอาน่าไอ...ยูเขามาช่วยงานของพ่อ พักที่นี่สะดวกสุดแล้ว นั่นลูกกำลังจะเข้าห้องซ้อมเรอะ ให้ยูตามไปดูหน่อย ว่าฝีมือไปถึงไหน”ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่กลายเป็นบิดาเธอออกรับแทน“ไม่ต้องตามมาดู หนูต้องการซ้อมคนเดียว” หญิงสาวบอกปัดไป โดยไม่ต้องใช้มารยาท“บางอย่างซ้อมคนเดียวได้ อย่างยิงปืนกับขว้างมีด แต่บางอย่างต้องฝึกด้วยกัน ช่วงที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะสอนเพิ่มเติมให้”“ไม่ต้องสอน ฉันไม่เรียน!”“เธออายล่ะสิ ที่ฝีมือยังไม่เอาไหน ชกได้แต่ลมกับกำแพง”ยูตะกล่าวดูถูก ทำให้หญิงสาวถึงกับของขึ้น ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บความโมโหไว้ในใจ แล้วจึงไประบายกับลูกปืน“พรุ่งนี้มือของเธอระบมแน่ ชกกำแพงมาขนาดนั้น ยังมาซ้ำยิงปืนขนาดนี้”ไอโกะหยุดยิง หันขวับมามอง คนที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ด้านหลัง อย่างไม่พอใจ...ทำให้เธอเจ็บทางร่างกายยังไม่พอ ยังตามมาพูดให้เธอเจ็บใจเล่นอีก“มันเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง!”“ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาว ของคนที่บ
หญิงสาวยกมืออีกข้างตะครุบสาบเสื้อเอาใว้ กลับถูกคนตัวใหญ่เอ็ดให้ด้วยสายตา เขาจับมือเธอออกก่อนจัดการกับกระดุมเม็ดสุดท้าย...“สวย..สวยเหมือนวันนั้น”หน้าอกอวบเนียน...สวยลานตาไปหมด ปลายยอดสีชมพูเล็กดังเม็ดทับทิม อวดสายตาชายหนุ่มอยู่ตรงหน้า ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องกลืนน้ำลายลงคอ สะกดความพุ่งพล่านที่กำลังก่อตัวขึ้น มือที่กำลังจับผ้าชุบน้ำเริ่มสั่นไอโกะรู้สึกอายจนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ด้วยไม่มีแรงจะต่อต้านเขาไว้ได้ อีกทั้งสายตาวาวหวานที่กำลังจ้องมองหน้าอกของเธอเหมือนจะจดจำให้ขึ้นใจ ทั้ง ๆ ที่เอ่ยกับเธอเองว่า เห็นหมดทุกซอกทุกมุม...เหมือนกับว่าถ้าเห็นอีกครั้งคงไม่คิดอะไรหญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่า ไม่ใช่ผ้าชุบน้ำที่กำลังลูบเช็ดหน้าอกให้ แต่มันกลับกลายเป็นนิ้วมือเรียวแข็งนั่นต่างหาก ที่กำลังลูบไล้บีบเคล้น จนทำให้ยอดอกของเธอแข็งเป็นไตสู้มือหนา“ไหนคุณบอกว่าจะไม่ฉวยโอกาสกับคนป่วย” หญิงสาวพยายามเอ่ยเตือนชายหนุ่มเสียงแผ่ว“นิดหนึ่งคงไม่เป็นไร ขอแค่ชื่นใจก็พอ”เรียวปากหนาก้มลงมาหาปลายยอดอก ครอบครองมันด้วยริมฝีปากและปลายลิ้นร้อน พอ ๆ กับอุณภูมิในร่างกายของหญิงสาวเวลานี้ระอุจา
“โกโร่ นายเตรียมรถกับบอดี้การ์ดไว้ให้ฉันหรือยัง”ไอโกะตะโกนถาม ขณะวิ่งลงมาจากบันไดชั้นบน“เรียบร้อยแล้วครับ”“ตอนนี้นายใหญ่อยู่ไหน”“ในห้องทำงานครับ”เท้าที่กำลังจะก้าวไปห้องทำงานของบิดาถึงกับชะงัก...หมุนตัวหันมาถามโกโร่อีกทีเพื่อความแน่ใจ“อยู่กับใคร”“ลูกพี่ยูตะครับคุณไอโกะ”เมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่มหญิงสาวจึงเปลี่ยนใจ ถ้าเธอเข้าไปบอกพ่อ เขาจะต้องรู้แน่ว่าเธอกำลังจะไปไหนหลายวันมานี้ ชายหนุ่มเข้ามาดูแลหญิงสาวในเวลาช่วงเช้า และ ก่อนนอน ขโมยหอมแก้มเธอตลอดเวลาถ้ามีโอกาส ไม่เว้นแม้แต่ยามหลับ เธอเงื้อมือจะตบเขาทีไร ถูกจับไว้ได้ทุกที หรือฝีมือของเธอห่วย ไม่เอาไหนเหมือนที่ชายหนุ่มว่าไว้จริงๆมาคราวนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ญี่ปุ่นนานแค่ไหน เธอไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจตามเขาไป เพราะวันหนึ่ง เขาอาจทิ้งเธอเหมือนที่เคยทำมาแล้ว หญิงสาวได้แต่คอยเตือนตัวเองเสมอว่า...เจ็บแล้วต้องจำ “ไปกันเลยโกโร่ เดี๋ยวฉันค่อยโทรบอกพ่อ”“กำลังจะไปไหนกันโกโร่”เมื่อได้ยินเสียงของยูตะทักมาจากด้านหลัง หญิงสาวหันไปทำตาขวางใส่...ออกอาการเซ็งสุดขีด“ไปสวนดอกไม้ครับลูกพี่” โกโร่ตอบชายหนุ่มออกไปทันที“โกโร่!นายบอกเขาทำไม!”“เอ
คำบอกเล่าของฮินาตะไม่ได้ทำให้แค่ไอโกะตกใจเท่านั้น แต่ทำให้คนตรงข้าม ขยับ… รู้สึกใจเสีย แต่ยังคงนิ่งเฉย เก็บความรู้สึกเอาไว้ภายใน“หนูไม่แต่ง!”ไอโกะตอบออกไปทันทีที่ได้ยิน“การแต่งงานของหนูกับฮิโรชิจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ไอ้พวกที่จ้องจะทำร้ายเรา จะต้องถอยไปถ้าเรารวมกลุ่มสำเร็จ” ฮินาตะพยายามอธิบาย เหมือนเมื่อห้าปีที่แล้วไม่มีผิด“หนูไม่ชอบผู้ชายแบบนั้น ยังไงหนูก็ไม่แต่ง ถ้าพ่อบังคับหนูจะหนี”“ไอโกะ” ฮินาตะเรียกบุตรสาวอย่างอ่อนใจ“หนูดูแลแก๊งแทนพ่อได้โดยไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องการใครหน้าไหนมาช่วย และหนูจะทำให้อาณาจักรของพ่อกลายเป็นสีขาวไม่ใช่สีเทาแบบทุกวันนี้ ทุกอย่างที่ผิดกฎหมายหนูจะเลิก ล้างมือให้หมด”“มันทำยากนะลูก คนของเราหลายพันคน ที่เห็นด้วยก็มี ไม่เห็นด้วยก็เยอะ” ฮินาตะถอนหายใจยาวยืด“เอาชีวิตหนูเป็นเดิมพัน”หญิงสาวลุกขึ้นตอบผู้ให้กำเนิด อย่างมั่นอกมั่นใจ ดวงตาเด็ดเดี่ยวอย่างที่ฮินาตะไม่เคยเห็น....ก่อนเดินออกไป...ทิ้งให้ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังบอบบางไปอย่างห่วงใย หญิงสาวโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆหลังจากนั้น ฮินาตะ พาไอโกะเข้าร่วมประชุมแก๊ง เพื่อแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ว่าเธอคือ ว่าที่หัวหน้า
บรรยากาศรอบ ๆ เริ่มดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อหญิงสาวยอมให้ชายหนุ่มจูงมือ มานั่งบนโซฟาตัวนุ่ม และฟังเขาอธิบาย“เธอต้องเรียนรู้เกี่ยวกับงานของพ่อเธอ ทุกสาขาที่อยู่ประเทศต่างๆ และฝึกซ้อมการต่อสู้ให้แข็งแกร่ง และชำนาญกว่านี้”“คุณจะบอกว่าคุณจะสอนฉัน..ว่างั้น!”“ใช่..”“จะอยู่สอนฉัน สักกี่วันดีคะ หรือครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบครั้งก่อน” เธอค้อน ไม่วายเหน็บกลับ“ตลอดชีวิต ถ้าเธอยังต้องการ”หญิงสาวมองประสานสายตา สีหน้าไม่อยากเชื่อ“รู้ว่าไม่เชื่อ...แต่ให้เวลาพิสูจน์ฉันดีไหม” เขาอ่านสีหน้าและดวงตาของหญิงสาวออก และรู้ว่าเธอคิดอะไรไอโกะนั่งเงียบ หลุบตาต่ำลงมองอกกว้างของชายหนุ่มอย่างชั่งใจ รู้สึกกลัวความผูกพันระหว่างกัน ขึ้นมาเสียดื้อๆยิ่งชายหนุ่มถึงเนื้อถึงตัวบ่อย ๆ แบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกกับเขามากกว่าเดิม ถ้าถูกเขาทิ้งไปครั้งนี้ แล้วเธอจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาพิสูจน์นี่แหละสำคัญ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน เธอควรให้โอกาสเขาใช่ไหม...“ฉัน...จะให้โอกาสคุณ”ยูตะยิ้มกว้างดึงร่างบางเข้ามาแนบอก...กดจมูกโด่งกับเส้นผมหอมกรุ่น กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น...สัญญากับตัวเองในใจ...ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ช่าง เวลานี้เขาไม่สนใจอะ
และได้รู้เดี๋ยวนั้น...เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกับเขาทั้งน้ำตา“ฉันไม่ได้โกรธคุณ..ฉันชอบให้คุณทำทุกอย่างกับฉัน แต่ฉันกลัวว่าวันหนึ่ง คุณจะทิ้งฉันไปอีกยังไงเล่า...ตาบ้า!”ชายหนุ่มถูกกำปั้นเล็ก ๆ ทุบรัวบริเวณหัวไหล่ พร้อมกับใบหน้าแดงเรื่อของเธอซุกลงไปที่เดิมเขาหัวเราะอย่างรู้สึกเอ็นดู และพอใจกับคำตอบตรง ๆ ของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน“ไม่ไปไหนแล้ว ฉันจะอยู่กับเธอ...ดูแลเธอ...ปกป้องเธอ...จนกว่าเธอจะไม่ต้องการฉัน แต่เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเธอบอกให้ฉันหยุด ไม่ใช่ที่นี่ คืออะไร เธอบอกฉันมาให้หมดสิ..”“ถ้าฉันบอกคุณไปตามตรง ฉันจะเป็นผู้หญิงน่าอายไหมคะ แต่ถ้าไม่พูดออกไปมันก็ต้องเก็บไว้ให้อึดอัดใจ”“ไม่เห็นน่าอายตรงไหน เปิดเผยดีออก ฉันจะได้รู้และไม่ต้องคิดไปเองแบบผิดๆ ทำอะไรผิดๆ”“จริงเหรอคะ”“จริงสิ..บอกมาเถอะน่า”เธอหลุบเปลือกตาลงต่ำ ครุ่นคิดอย่างหนัก...ก่อนตัดสินใจ...ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับเขา ตามที่ใจคิด“ฉันอยากรู้ว่า ถ้าคุณได้ฉันแล้ว คุณจะทิ้งฉันไปเหมือนคราวนั้นอีกไหมคะ”“ฮื่อ...ถามอะไรแบบนี้..บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีกแล้ว...ฉันสัญญา...”ชายหนุ่มเอ่ยกับเธออย่างหนักแน่น มอง
ยูตะนอนตะแคงทอดสายตามองร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอกำลังหลับสนิท...ชายหนุ่มกดจมูกลงกับแก้มนุ่มหนักๆ จนทำให้อีกคนตื่น...ปรือตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขากำลังจับมือของเธอขึ้นมาแนบข้างแก้มของตัวเอง“นอนไม่หลับเหรอคะ” เสียงหวานอู้อี้ติดจะงัวเงียเอ่ยถามก่อนขยับร่างเข้ามาชิด เอื้อมแขนเล็กกอดเขาไว้ แล้วซุกหน้ากับอกอุ่นเพื่อนอนต่อ“มีหลายเรื่องต้องคิดน่ะ”ประโยคนี้ของเขาทำเอาคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรในหัว...รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง...เพราะห่วง...ความรู้สึกของคนที่เธอกำลังกอดอยู่หญิงสาวเปิดเปลือกตา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วเชิงถามแทนเสียง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันยูตะเลือกที่จะเดินตัวเปล่าไปเปิดตู้ หยิบผ้าขนหนูมาส่งให้เธอ ก่อนพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายไอโกะมองตามร่างสูงที่เดินตัวเปล่าผ่านหน้าไปอย่างงงๆ ทั้ง ๆ ที่มีผ้า แต่เจ้าตัวกลับเอาพาดบ่าซะอย่างงั้น...แล้วนะ ก็ไม่รู้หรือไงว่าเธออาย...ถึงแม้จะเห็นและสัมผัสเขาทั้งตัว แต่มันยังไม่ชินที่จะให้เธอเห็นเขาเดินโทง ๆ ขนาดนี้คำพูดของเขานั่นอีก...มันทำให้เธอหายง่วงไปแล้ว..ตอนนี้
เขากอดเธอไว้กับตัว พากระโดด แล้วเหวี่ยงเธอขึ้นมาบนชั้นลอยพร้อมกับตัวเองอย่างง่ายๆ ราวกับว่าเขากำลังแบกนุ่นอยู่...แบกเธอขึ้นที่สูงขนาดนี้...โดยไม่ต้องใช้เชือกอีกด้วยเหอะ...เขาเท่...มีเสน่ห์....น่าหลงไหล..เกินไปแล้วนะ...กับชุดที่ใส่นี่ก็ด้วยอ่ะ...ชายหนุ่มปล่อยร่างบางลงกับพื้น แล้วหมุนตัวทำท่าจะกระโดดพุ่งตัวลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว...เหมือนกับตอนที่เอาตัวเธอขึ้นมา....แต่ทว่าเขากลับเสียจังหวะเพราะ...จุ๊บ!แขนเรียวบางที่คล้องคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังเขย่งปลายเท้าจุ๊บปากของชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้าที่ปิดใบหน้าเขาไว้อีกยูตะส่ายหน้าก่อนดึงผ้าที่ปิดปากลงไว้ใต้คาง แล้วโน้มตัวกดริมฝีปากหนัก ๆ กับเธออย่างเร็วแล้วผละออกเพราะรู้ว่าต้อง..แบบนี้เธอถึงจะยอมปล่อย…หญิงสาววิ่งตามไปดู...จนสุดราวที่กั้นไว้... เธอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านล่างซึ่งเวลานี้..ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ..โดยมีชายในชุดดำ.ยืนคุมพวกนั้นอยู่ทั่ว...และมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวอีกด้วยยูตะยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้า จ่อปลายดาบเข้ากับคอหอยของฟุมิโอะที่มีสภาพร่อแร่เต็มที...แต่ยังปากดีท้าทายเจ้าของปลายดาบอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน“ฆ่าฉั
“พ่อคะ..พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”ประโยคแรกที่ได้ยินคือหญิงสาวเอ่ยถามคนเป็นบิดา...ที่ยืนอยู่หลังโต๊ะอีกฝั่ง บนนั้นมีแฟ้มเอกสารที่พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายกำลังบังคับให้ทำอะไรบนใบหน้าฮินาตะมีสีช้ำ หางตาบวมปูด..หางคิ้วแตกยับ ยังเห็นเลือดเกาะกรังจนมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ออกเลย มันบังคับ และซ้อมพ่อของเธอ …หญิงสาวพยามกลืนน้ำตาของความอ่อนแอเข้าไปข้างใน...สั่งใจตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้สารเลว....รู้แบบนี้เธอฆ่าลูกมันทิ้งแต่ทีแรกไปแล้ว“พ่อไม่เป็นไรลูก”ฮินาตะตอบลูกสาวกลับมาเพราะไม่อยากให้เธอกังวล เขารู้ว่า ยังไงยูตะต้องมาช่วย เขาจึงไม่ยอมเซ็นเอกสารมอบอำนาจ ยอมให้พวกมันซ้อมเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับตัวมาด้วยแบบนี้“หุบปาก!พวกแกหมดเวลาพูดกันแล้ว ถ้าแกไม่ยอมเซ็นเอกสารนะฮินาตะ ลูกสาวแกกลายเป็นศพตรงนี้แน่...ว่าไง...”สองพ่อลูกเงียบเสียงลง มองสบนัยน์ตาด้วยความหมายที่ต่างคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว พอดีกับที่ฟุมิโอะรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นลูกชายตัวเองเข้ามาเสียที เขาจึงหันไปเอ่ยถามกับลูกน้องที่ยืนคุมตัวของไอโกะเอาไว้ว่า“แล้วฮิโรชิลูกพี่แกไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”ฟุมิโอะเลิกคิ้วส
ดื้อ!แต่ก็ชอบ...ดีกว่าตอบแต่ค่ะๆๆๆ นั่นมันก็จืดชืดไปหน่อย...“เธอใส่ชุดราตรี มันเด่น ไม่คล่องตัว...แล้วฉันเป็นห่วง ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง”เขาพยายามอธิบายตามมา แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมฟัง…นอกจากไม่ฟังแล้วยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกนะนั่นน่ะ“คุณพอจะมีชุดดำแบบคุณให้ฉันใส่บ้างไหมล่ะคะ แบบครบชุดทั้งอาวุธด้วย”ยูตะหัวเราะหึในลำคอ...ก็เดาใจเธอไม่เคยผิดเลยสินะ...ว่าเมียดื้อของเขาต้องพูดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่ใช่ไอโกะ“มันต้องปีนป่าย โรยตัวจากเชือกลงมา ต้องทำให้ตัวเบา เธอยังไม่เคยฝึกอะไรแบบนี้ ทำไม่ได้หรอกนะ”“ทำได้ค่ะ...คุณก็ทำตัวเบา แล้วให้ฉันขี่หลังพาปีนขึ้นไป แล้วก็พาไต่ลงมา มันก็เหมือนเป็นการฝึกไปในตัวนะฉันว่า...”แล้วมาบอกเขาว่ามีผัวแล้วไม่ใช่เด็ก...แต่ที่พูดออกมาแต่ละประโยคนั่น มันใช่ผู้ใหญ่แล้วเถอะ“นินจามันต้องใช้ความเบา ความเร็ว..และคล่องตัว....แล้วฉันจะอุ้มเธอกระเตงไปได้ยังไงล่ะ...ไม่อยากให้ลูกศิษย์กับลูกน้องฉันมาหัวเราะเรา แล้วฝ่ายนั้นอีกพวกมันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ แล้วฉันจะคุมคนได้ยังไง…รอฉันอยู่ที่นี่เถอะนะ”“...!!...”“............นะ”“..........ไอ..นะ”เขาอ้อนก่อนทิ้งหัวที่มีผ้าคลุมสีด
ยูตะไม่รอช้า รีบพิมพ์ข้อความลับส่งถึงโกโร่...หลังจากที่ไอโกะได้วางสายไปแล้ว...ที่เลือกส่งข้อความลับนั่นก็เพราะว่า...ถ้าเขาเลือกใช้โทรศัพท์ คนอยู่ใกล้ ๆ อาจได้ยินด้วยนี่สิ...ฝ่ายโกโร่..เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็รู้แล้วว่า ลูกพี่ของเขามีคำสั่ง...และต้องปฎิบัติตามโดยไม่ให้คุณไอโกะรู้นั่นแหละคำสั่งมีอยู่ว่า ให้ถ่วงเวลาหญิงสาวเอาไว้...ก็แค่นั้น...“ โกโร่ นายรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่ามันจับตัวพ่อฉันไปไว้ที่ไหน ” ไอโกะเอ่ยถาม...เพราะรู้สึกคุ้นตากับบริเวณที่ผ่านมารอบ ๆ ตัวรถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาทางด้านหลังนั่น ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมคันหน้าของเจ้านาย ถึงได้ขับรถวนไปวนมาแบบนั้น ในเมื่อใกล้จะถึงที่หมายอยู่แล้วนั่นน่ะพวกเขาขับติดตามรถคันหน้าของเจ้านายไปสักพัก...จึงเข้าสู่เส้นทางหลักที่นายใหญ่ของพวกเขาถูกจับตัวไปจริง ๆ เสียทีก่อนถึงที่หมาย ยูตะได้ส่งข้อความไลน์บอกโกโร่ว่า..."อย่าเพิ่งบุกเข้าไปด้านหน้า เพราะเวลานี้พรรคพวกของฟุมิโอะ ได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน...พาเธอมาหาฉันที่จุดนัดพบตอนนี้เลย"เมื่อถึงจุดรวมพล...โกโร่มองเห็นรถตู้ที่จอดอยู่ในระยะไกลเป็นจำนวนมาก เขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือล
ร่างสูงของยูตะลงมาจากเวทีแล้วเดินตรงปรี่เข้ามาหาฮิบาริที่รอเขาอยูด้านล่าง เพื่อรับฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท ขณะเดินตามกันออกมาจากงานพร้อมกับคนของเขาที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้ครึ่งหนึ่ง“คนของเรามาถึงแล้วใช่ไหมฮิบาริ” เขาเสหน้าหันมาถาม ขณะรูดเน็คไทล์ลง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถแล้ว“ถึงแล้วครับ กำลังรอคำสั่งของลูกพี่”“ส่งโลเกชั่นให้แล้วบอกให้รีบตามมา...ได้เวลาตัดริบบิ้นเสียที” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงขรึม “รู้ใช่ไหมว่าพวกที่โจมตีนายใหญ่ของเราคือใคร...” เขาถามต่อ“แก๊งของคุณฟุมิโอะครับ...” ฮิบาริหันมาตอบ...ต่อเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบเสียงของตัวเองลง เพื่อรอฟังรายงานของฮิบาริต่อจากนั้น“โกโร่โทรมาบอกว่า...เมื่อกี้คุณไอกับพวกของเราถูกคุณฮิโรชิเอาลูกน้องมาขวางไว้...ดันโผล่มาตอนที่เธอกำลังรีบ...เลยโมโหซัดมีดเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน...ปักกลางตูดเข้าไปเต็มๆ”ยูตะหัวเราะพรืด...นึกภาพเวลาเธอโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วต้องขำ..น่าฟัดจะตายเหอะ...ขัดขืนนิดๆ พอมีจริตจกร้านหน่อยๆ มันทำให้เขาคึกคักทุกทีด้วยสิ..ยิ่งนึกถึงเสียงครางเรียกชื่อเขาหวานๆนั่น มันทำให้รู้สึก...คึกขึ้นมาอีกแล้วเหอะ...เวลาหน้าสิ่วหน
“รอลูกพี่ก่อนดีกว่านะครับคุณไอ..”เหมือนเคย..โกโร่เอ่ยเตือนเจ้านาย...ขณะที่เขาเดินแกมวิ่งตามเธอออกมา...เมื่อเห็นว่าเธอใจร้อน....รีบออกมาจากงานเพื่อจะตามไปช่วยบิดาโดยไม่ยอมรอลูกพี่ของเขา...เพราะความห่วงใยผู้ให้กำเนิด“เรานำหน้าไปก่อน เดี๋ยวฮิบาริก็คงบอกเอง ลูกพี่นายคงตามเรามาทัน หรือว่า...” เธอหันมาเอ่ยกับโกโร่แล้วเว้นคำพูดไว้ในตอนท้าย ขณะเดินเร็ว ๆ แล้วเปลี่ยนป็นวิ่งเหยาะๆ แทน“ครับ ๆ..เรานำไปก่อนเดี๋ยวนี้เลยครับคุณไอ”โกโร่รีบทำตามคำสั่ง เพราะรู้ว่าประโยคสุดท้ายที่เธอจะเอ่ยตามมานั้น คือคำว่าอะไร...ถ้าไม่บอกว่า...นายจะรอลูกพี่นายอยู่ที่นี่ก็ได้....หรือไม่ก็....นายใช่คนของฉันหรือเปล่า...อย่างน้อยถ้าห้ามไม่ได้ ก็ต้องตามไปคุ้มกัน...หากหญิงสาวเป็นอะไรไปแม้เพียงปลายเล็บ เขาอาจมีรูระบายอากาศทั้งตัว...และผู้เป็นคนติดตั้งให้ ก็คงเป็นเจ้านายอีกคนที่ยังอยู่ในงานนั่นเหอะบอดี้การ์ดที่ตามมาทางด้านหลัง...พากันเร่งฝีเท้าและรอทำตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง...ทุกคนรู้หน้าที่โดยไม่ต้องให้หญิงสาวเอ่ยอะไรมากนักทันทีที่ไอโกะและบอดี้การ์ดส่วนหนึ่ง เดินมาถึงลานจอดรถ...ฮิโรชิและลูกน้องของเขา ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ข
เมื่อใกล้ถึงเวลารับรางวัล แต่ฮินาตะยังมาไม่ถึง เขาโทรมาบอกกับลูกสาวว่า ให้เป็นตัวแทนของท่านขึ้นไปรับรางวัลได้เลย เพราะเครื่องบินที่นั่งมานั้นดีเลย์...เนื่องจากสภาพอากาศจึงเลื่อนเวลาลงจอดออกไปนิดหน่อย...“ไอ...”ยูตะเรียกให้ไอโกะหันมา...แล้วโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างกกหูของหญิงสาว เอ่ยย้ำกับเธออีกครั้ง ขณะที่ทั้งคู่นั่งรอรับรางวัลอยู่ด้านล่างของเวที รวมกับแขกวีไอพีคนอื่นๆ“เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลก่อนฉัน...ระหว่างที่ฉันขึ้นไปรับรางวัล นั่งอยู่ตรงนี้รอฉันลงมา เธอห้ามไปไหนเด็ดขาดเลยนะ...สัญญามาก่อนสิ”ไอโกะได้แต่บึนปาก...เพราะถูกย้ำเป็นครั้งที่ร้อย...ตั้งแต่แต่งตัวให้เธอที่บ้าน จนถึงเวลานี้ก็พูดอยู่แค่สองสามประโยควนลูปอยู่นี่เหอะ...เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็อดเถียงเขากลับไปไม่ได้อีกนั่นแหละ“ฉันมีผัวแล้ว...ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้น่า...อย่าได้ห่วง..”เขายิ้มกว้างกับประโยคแรกที่เธอเอ่ยถึงสถานะของตัวเองออกมา อย่างเต็มปากเต็มคำเป็นครั้งแรก และเขาก็เพิ่งเคยได้ยินในวันนี้น่ารักชิบ!...จนอยากจะชวนออกไปหามุมมืด...ก็หื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยนะมึงเนี่ย... “ผูกเอวฉันติดไว้กับตัวคุณเลยดีไห
เมื่อถึงวันงานสมาคมนักธุกิจภาคพื้นเอเชีย ไอโกะถึงได้รู้ว่าทำไมยูตะถึงต้องการให้เธอใส่ชุดแบบนี้มากระโปรงบานยาวย้วยที่หญิงสาวใส่ มันสามารถปิดบังด้านใน ที่เธอติดปืนพกเล็ก ๆ เอาไว้ได้นี่เอง...ชายหนุ่มกำลังขมักเขม่นกับการแต่งตัวให้หญิงสาว พร้อมกับติดอาวุธให้เธอด้วยตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ และตั้งสติตัวเองไว้ไม่ให้เขวไปกับของของเธอที่อยู่...ใกล้ตา...ใกล้มือ...และใกล้ปากขนาดนี้..เพราะไม่อยากให้เสียงาน... “ฉันว่าเธออย่าใส่ส้นสูงเลยนะ ใส่ผ้าใบน่าจะดีกว่าคล่องตัวดี”เขาแหงนหน้าขึ้นบอกกับหญิงสาว ขณะกำลังนั่งยองขา ติดปืนบริเวณปลีน่องด้านข้างให้“ก็ได้ค่ะ เพราะถึงใส่รองเท้าสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดี”หญิงสาวเห็นด้วยเพราะไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เธอก็ไม่ควรประมาทและไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็นห่วงหรืองกังวลใจกับเธอมากนักเขาบอกให้เธอระวังตัว...ไว้ตลอดเวลา อย่างห่างจากเขาไปไหน แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำก็ตามทีบริเวณงานมีทั้งตำรวจ และบอดี้การ์ดของบรรดานักธุรกิจ หรือยากูซ่าทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมงานนี้มากมาย แทบไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่ที่เธอจำได้...ก็คือหล่อนคนนั้น อิจิโอะ เธอยืนอยู่ข้างกันกับฮิโรชิ หล่อนโปร