การทำงานของเธอผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใด ๆ ได้เรียนรู้งานจากเอกภพเยอะแยะและได้ฝึกทักษะการป้องกันตัวอีกตัว บางวันก็ออกไปพบปะลูกค้ากับบอสเพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้น จนตอนนี้ชำนาญออกไปพบลูกค้าคนเดียวได้
และดูเหมือนว่าตั้งแต่วันที่เธอจัดการกับคุณวีนัส คู่ขานางเอกคนสวยแอ๊บแบ๊วของบอส หญิงสาวก็ไม่โผล่หน้ามาอีกเลย เธอได้ข่าวมาว่าต้องไปโมหน้าใหม่ที่เกาหลีเพราะดั้งหักจากการโดนเธอต่อย คงทำให้หญิงสาวเข็ดหลาบไม่กล้าโผล่หน้ามาอีก
ใช่ว่าจะหมดแค่นี้ ยังมีมาอีกเรื่อย ๆ ทว่าเธอก็หาวิธีจัดการได้หมด โดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย
ช่วงพักกลางวันเธอเดินลงมาหารุ้งวิไล เพื่อนสาวประชาสัมพันธ์ หลังจากได้ผูกมิตรกันเมื่อตอนมาสัมภาษณ์งาน ณ ปัจจุบันเป็นเพื่อนสนิทกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหญิงสาวก็แวะเวียนมานอนค้างบ้านเธอบ่อย สมัครเป็นลูกสาวอีกคนเรียบร้อยแล้ว พ่อกับแม่ต่างรักและเอ็นดูมาก ดีใจยกใหญ่ที่เธอมีเพื่อนเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง
“วันนี้กินอะไรดีรุ้ง ภาคิดไม่ออกเลย” เดินวนรอบโรงอาหารสามสี่รอบก็ยังเลือกไม่ได้สักที แต่ละร้านก็กินมาหมดแล้วจนเริ่มรู้สึกเบื่อ
“ไปกินส้มตำไหม มีร้านหนึ่งอร่อยมากเลยนะ รุ้งรับประกันในความเด็ด” รุ้งวิไลเสนอความคิด เธอเองก็เบื่ออาหารให้ที่นี่เหมือนกัน มีแต่ของเดิม ๆ ไม่มีแปลกใหม่มาลงบ้าง
“งั้นไปร้านที่รุ้งบอกก็แล้วกัน”
สองสาวเดินตากแดดอันร้อนระอุในช่วงเที่ยงไปประมาณ 200 เมตร เพื่อไปกินส้มตำร้านเด็ดแถวบริษัท ซึ่งมีลูกค้าเนืองแน่นมาก ไม่ต้องบอกเลยว่ารสชาติจะเด็ดดวงสักแค่ไหน
“ป้า ๆ เอาปูปลาร้าเผ็ดกลาง ปลาดุก 1 น่องไก่ 2 ปีก 2 ต้มแซ่บกระดูกหมู 1 ลาบ 1 น้ำตก 1 ข้าวเหนียว 2” รุ้งวิไลจัดการสั่งเมนูทันทีโดยไม่ต้องดูรายการอาหาร เธอกับภารดากินเหมือนกัน เลยไม่ลำบากในเวลาสั่งอาหาร
“รอสักแป๊บ เดี๋ยวป้าจัดให้” ป้าเจ้าของร้านหันมารับออร์เดอร์แล้วลงมือทำส้มตำต่อ ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็มาอยู่ตรงหน้าสองสาว กลิ่นของปลาร้าหอม ๆ ชวนน้ำลายสอเหลือเกิน
“อูยยย ทำไมน่ากินขนาดนี้เนี่ย น้ำลายไหลเลย” ภารดามองอาหารตรงหน้าตาไม่กะพริบ แค่สีสันหน้าตาอาหารก็กินขาดแล้ว
“จะรอช้าอยู่ทำไม ลงมือเลยสิ”
สองสาวไม่รอช้าลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโซ รสชาติจัดจ้านของส้มตำและเมนูอื่น ๆ ทำให้สองสาวต่างกินไม่หยุดจนแทบลืมความร้อนไปเลยก็ว่าได้ เพียงไม่นานทุกอย่างก็อันตรธานหายไปหมดเกลี้ยง เหลือเพียงแต่ซากวิญญาณในจาน
“ป้าขา... ขอปูปลาร้าใส่ถุง 1 และก็น้ำตกกับลาบอย่างละ 1 ด้วยนะคะ ข้าวเหนียว 3” และตามด้วยอีกสองสามอย่างเพื่อว่าจะอยู่กันหลายคน เธอไม่เคยลืมที่จะซื้อของกินติดไม้ติดมือไปฝากทุกคน ทำงานด้วยกันก็ต้องมีมิตรไมตรีกันไว้
“สั่งไปกินที่บ้านเหรอภา”
“เปล่าหรอก เอาไว้แอบกินช่วงบ่ายน่ะ จะไปตั้งวงจกปลาร้ากับคุณเอกและก็คนอื่น ๆ ด้วย” เธอขยิบตาให้กับรุ้งวิไลเป็นการรู้กันสองคน ปกติแล้วเวลาเคลียร์งานเสร็จเธอกับคุณเอกภพและลูกน้องคนอื่น ๆ มักจะมาตั้งวงกินข้าวร่วมกันเสมอ โดยเฉพาะขนมหวานที่เธอหอบหิ้วมาฝากจากบ้านทุกวัน
“อ้อ...” รุ้งวิไลพยักหน้าอย่างรับรู้ แล้วลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่าอาหาร และแวะซื้อขนมกับผลไม้ไว้กินในช่วงบ่าย
“ล๊าลั๊นลา...... ช่วงบ่ายจะมีใครโผล่มาอีกหรือเปล่า”
เธอเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุขเมื่อแยกกับรุ้งวิไล พลางคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานที่นี่ มักจะมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นเสมอ บางวันก็เจอคู่ขาของบอสมานั่งเฝ้าหน้าห้องทำงานเป็นเพื่อนเธอ
บางวันก็มากรี๊ด ๆ เหมือนผีเข้า แล้วจากไปพร้อมกับเช็คจำนวน 6 หลัก หรือไม่ก็ 7 หลักในบางคน
“ซาหวัดดีฮับพี่คนสวย” เสียงเล็กน่ารักพูดไม่ค่อยชัดสักเท่าไรเอ่ยกล่าวทักทายเธอพลางยกมือไหว้
“สวัสดีจ้ะสุดหล่อ หนูขึ้นมาชั้นนี้ได้ยังไง มากับใครเหรอครับ” เธอย่อตัวลงตรงหน้าหนุ่มน้อยน่ารักน่าชัง พลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครถึงได้ขึ้นมาบนชั้นบริหารได้ แต่ดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน แบรนด์เนมทั้งตัว
“มากับคุณยายฮับ” หนุ่มน้อยบอกพลางมองหญิงสาวตรงหน้าตาปริบ ๆ
“คุณยาย???” เธอยิ่งงวยงงเข้าไปอีกว่า คนที่หนุ่มน้อยกล่าวถึงคือใคร
“ก็คุณยายขวัญเดือนยังไงล่ะฮับ พี่คนสวยไม่รู้จักเหรอ” หนุ่มน้อยเท้าสะเอวอย่างไม่พอใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่รู้จักคุณยายของตน
“พี่ไม่รู้จัก แต่ว่าสุดหล่อชื่อว่าอะไรครับ”
“ป๋มชื่อเอเดนฮับ”
“พี่สาวชื่อ ภา นะคะ แล้วน้องเอเดนมาหาใครเหรอจ๊ะ”
“มาหาลุงเพลิงฮับ”
“ลุงเพลิง????”
เธอรู้เลยทันทีว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าคือหลานชายบอส ดูจากสายตาแพรวพราวแล้วคงได้เชื้อมาจากคนเป็นลุงเยอะพอสมควร ออกลายเสือเด็กแต่น้อย
“เอเดนยืนคุยกับใครอยู่เหรอลูก” เสียงของใครคนหนึ่งดังพร้อมกับปรากฏตัว หญิงสูงวัยดูมีภูมิฐานน่าเกรงขาม มาพร้อมกับลูกน้องร่างกำยำสองคนประกบซ้ายขวา
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้อย่างงงงวย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือใคร ถ้าให้เดาคงจะเป็นญาติของบอสไม่มีผิด
“ไหว้พระเถอะลูก” มาดามขวัญเดือนยกมือรับไหว้หญิงสาวและสะดุดตากับการแต่งตัวแปลกประหลาดราวกับมนุษย์ป้าไม่มีผิด และเดาได้เลยว่าคงเป็นเลขาคนใหม่ของลูกชายเธอ หญิงสาวที่เอกภพเล่าให้ฟังถึงวีรกรรมจัดการนางเอกขาวีนจนหน้าเละวิ่งหาหมอศัลฯ แทบไม่ทัน
“คุณยายฮับ พี่สาวคนสวยชื่อว่า พี่ภา เอเดนชอบจังเลยฮะ” ไม่วายส่งสายตาเจ้าชู้ไปหา นิสัยไม่ผิดเพี้ยนไปจากคนเป็นพ่อและลุงไม่มีผิดเลย
“แก่แดดมากเลยนะ” มาดามขวัญเดือนยกมือทาบอกด้วยความตกใจกับคำพูดของหลานชาย พลางเขกหัวเบา ๆ
“ไม่ทราบคุณผู้หญิงเป็นใครคะ ขอโทษที่ถามแบบนี้นะคะ พอดีว่าภาเพิ่งมาทำงานเป็นเลขาได้เดือนกว่า ๆ ยังไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไร”
“ฉันชื่อขวัญเดือน เป็นแม่ของตาเพลิงน่ะ”
“มาดามขวัญเดือนเหรอคะ ภาต้องขอโทษด้วยนะคะ ภาไม่ทราบจริง ๆ” เธอรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่ด้วยความไม่รู้ สีหน้าเลิ่กลั่กกลัวจะโดนไล่ออก พลางก่นด่าตัวเองกับความโง่เขลาในครั้งนี้
เป็นเลขาประสาอะไร ไม่รู้จักแม่ของเจ้านาย
โอ๊ย!! เครียดเลย
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แล้วตาเพลิงอยู่หรือเปล่า”
“ตอนนี้บอสติดประชุมอยู่ค่ะ มาดามเข้าไปนั่งรอให้ห้องก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวภาหาเครื่องดื่มกับของว่างมาให้”
“เอ๊ะ! นั้นกลิ่นปูปลาร้าหรือเปล่า”
“ชะ... ใช่ค่ะ ภาเป็นคนซื้อมาเอง ถ้ามาดามไม่ชอบ เดี๋ยวภาจะเอาไปตั้งที่อื่นก็ได้” ตอนนี้เธอเริ่มชักกลัวขึ้นมาแล้วกับการกระทำของตัวเอง ไหนจะกลิ่นปูปลาร้าสุดหอมอีก ที่ลืมไปเลยว่า คนมีระดับอย่างมาดามคงไม่ชอบกินของเหม็นเหมือนคนทั่วไป
“ใครบอกล่ะ ฉันชอบจกปลาร้ามากเลยนะ ซื้อจากร้านข้างบริษัทหรือเปล่า ร้านนั้นทำอร่อยมากเลย เวลาฉันแวะมาทีไร ต้องใช้ให้ลูกน้องไปซื้อมาให้กินประจำเลย”
ผิดคาดไปมากกว่าเดิม มาดามขวัญเดือนกลับชื่นชอบเมนูปูปลาร้ามากที่สุด พอช่วยทำให้เธอหายใจคล่องคอเสียหน่อย เกือบคิดไปแล้วว่าต้องโดนไล่ออก
ในหัวของเธอตอนนี้กลัวไปหมดทุกอย่าง เกิดพลาดทำอะไรไม่ถูกใจมาดามขึ้นมาหัวได้หลุดออกจากบ่าแน่
ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่ามาเฟียโหดร้ายแค่ไหน กิตติศัพท์เรื่องความโหดของมาดามขวัญเดือนเป็นที่เลื่องลือในหมู่พนักงานมาก ไม่มีใครกล้าสบตาหรือขัดใจได้
“ซื้อมาจากร้านนั่นแหละค่ะ มาดามจะกินกับภาไหมคะ พอดีภาซื้อมาไว้กินช่วงบ่ายกับคุณเอกและคนอื่น ๆ แต่คงน่าจะเป็นหมันค่ะ” น้ำเสียงตะกุกตะกักกล่าว ก่อนจะเอ่ยแกล้งลองชวนดู เผื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แม้ว่าจะเป็นหนทางสิ้นคิดก็ตาม
“มีอะไรบ้างล่ะ”
“ก็มีปูปลาร้า ลาบ และก็น้ำตก สามอย่างเองค่ะ”
“เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปซื้อ แกงเห็ดกับไก่ย่าง ปลาดุกย่าง ปากเป็ดทอด ไส้อ่อนทอด และก็ข้าวเหนียวมาเพิ่มนะ”
“ไม่มากไปเหรอคะมาดาม”
“ไม่หรอก แค่นี้ยังน้อย เอาของที่เธอซื้อมาเข้าไปรอในห้องเลยนะ เดี๋ยวฉันสั่งลูกน้องให้ไปซื้อก่อน เอเดนเดินตามพี่ภาเข้าไปรอยายในห้องเลยนะลูก เดี๋ยวยายตามไป” มาดามขวัญเดือนเดินไปสั่งให้ลูกน้องซื้อของพร้อมลิสต์รายการใส่ไว้ในกระดาษเผื่อลืม
“พี่ภาคนสวยป๋มช่วยถือนะฮะ” หนุ่มน้อยอาสาช่วยพี่สาวคนสวย
“เป็นเด็กดีจังเลย” เธอลูบหัวอย่างเอ็นดู พลางเปิดประตูห้องทำงานบอสเพื่อให้หนุ่มน้อยเข้าไป จากนั้นเดินไปหยิบจาน ถ้วย ช้อนเตรียมเอาไว้
ผ่านไปสักพักของที่มาดามขวัญเดือนซื้อมาเพิ่มก็ถูกจัดใส่จานเรียบร้อยจนเต็มโต๊ะ มีทั้งปูปลาร้า ลาบ น้ำตก ตับหวาน ปลาดุกย่าง ปีกไก่ทอด น่องไก่ย่าง เกาเหลาทะเล ปากเป็ดทอด ข้อไก่ทอด ไส้อ่อนทอดกระเทียม ต้มแซ่บกระดูกอ่อน และยังซื้อเผื่อให้ลูกน้องกินอีก
“มีแต่ของโปรดเอเดนทั้งนั้นเลย กินแล้วนะฮับ” หยิบข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อน มืออีกข้างถือปีกไก่ทอดกัดเคี้ยวเข้าปาก แก้มตุ่ยน่ารักน่าชังเหลือเกิน
เธอหยิบปูม้ามาดูดกินเนื้ออย่างอร่อย จนลืมไปเลยว่ายังมีมาดามขวัญเดือนนั่งกินอยู่ด้วย ทว่าด้วยความอดใจไม่ไหวเลยเก็บอาการไม่อยู่
“เลอะหมดแล้วเนี่ย” เธอหยิบทิชชูมาเช็ดปากให้หนุ่มน้อย ทว่าหยิกแก้มด้วยความมันเขี้ยว แทนที่เจ้าตัวจะเบนหน้าหนีกลับชอบใจเสียอีก
“หนูภาอายุเท่าไรเหรอ” น้ำเสียงเบาสบายเป็นมิตรเอ่ยถามด้วยความสงสัย จากที่เอกภพได้รายงานเธอมาว่า หญิงสาวอายุยังน้อย พอได้มาเห็นตัวจริงเธอตกใจไม่น้อย คิดว่าอายุ 30 หรือ 40 เสียอีก
“25 ค่ะมาดาม”
“อายุยังน้อย ทำไมแต่งตัวเหมือนป้าเลยล่ะ ปรกติผู้หญิงวันนี้เขาจะตามแฟชั่นกันไม่ใช่เหรอ”
“ภาก็อยากจะตัวสวย ๆ เหมือนคนอื่นบ้างเหมือนกัน แต่ว่า... พ่อกับแม่ท่านไม่ค่อยชอบเท่าไรค่ะ”
“ทำไมล่ะ ฉันไม่เข้าใจ”
“มาดามอย่าไปบอกใครนะคะ คือแบบนี้ค่ะ...”
เธอชั่งใจตัวเองอยู่นานว่าจะบอกดีไหม ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วเลยถอดแว่นหนาเตอะให้ท่านเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงภายใต้คราบมนุษย์ป้าที่ปกปิดไว้
“OMG! นะ... หนูภา ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า หนูสวยมาก ถอดแว่นหนา ๆ หนูก็สวยเหมือนเจ้าหญิงเลยนะเนี่ย” มาดามขวัญเดือนอ้าปากค้างตกใจกับสิ่งที่เห็น
“ขอบคุณมากค่ะมาดาม เหตุผลแค่นี้แหละค่ะที่ภาต้องแต่ตัวเฉิ่ม ๆ เพื่อความปลอดภัย” เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้มาดามขวัญเดือนฟังว่า เคยเจอกับเหตุการณ์อะไรมาบ้างถึงได้ตัดสินใจแต่งตัวแบบนี้
“อ้อ... ฉันเข้าใจแล้ว บางคนก็เกินไปจริง ๆ นะ แค่เห็นเขาสวยกว่าก็อิจฉาตาร้อนอยู่ไม่เป็นสุข ส่วนพวกผู้ชายก็เลวเหมือนกัน ฉันเสียดายความสะสวยของหนูมาก แต่ตอนนี้หนูโตแล้วนะ คงไม่มีใครกล้าทำร้ายหรอก”
คำพูดของมาดามขวัญเดือนทำให้เธอนิ่งไปสักพัก ก็จริงอย่างที่ท่านบอกนั่นแหละ เธอโตพอจะป้องกันตัวเอง ทำไมยังแต่งตัวแบบนี้อยู่อีก ยังไม่ทันจะอ้าปากตอบ น้ำเสียงแจ๋วแหววก็เอ่ยแทรกขึ้น
“พี่ภาสวยมากนะฮับคุณยาย สวยเหมือนนางฟ้าไม่มีผิด” หนุ่มน้อยเอเดนมองพี่สาวคนสวยไม่กะพริบตา แม้ว่าไก่ทอดจะคาอยู่ในปากก็ตาม เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“ตอนนี้หนูทำงานเป็นเลขาแล้วนะ ต้องออกไปพบกับลูกค้าด้วย ฉันว่าควรเปลี่ยนตัวเองได้แล้ว อย่าได้ไปกลัวในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่าไหม” รู้สึกเสียดายในความสวยจนต้องเอ่ยปากร้องขอ
“จะดีเหรอคะมาดาม ภากลัวจังเลย” เธอไม่กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองสักเท่าไร กลัวว่าจะโดนคนอื่นเขาอิจฉาหรือเกลียดได้ เป็นสิ่งที่เธอหวาดกลัวมาตลอด
“กลัวอะไรล่ะ”
“กลัวคู่ขาของบอสจะมาตบนะสิคะ” นี่แหละสิ่งที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ถ้าเธอเปลี่ยนลุคใหม่ขึ้นมา คู่ขาของบอสได้มาดักตบเธอแน่นอน เพราะกลัวว่าเธอจะไปแย่งเอาสิ อยากใช้ชีวิตอยู่แบบสงบโดยไม่ต้องมานั่งกังวลว่าวันนี้ใครจะมาหาเรื่องอีก
“ใครจะกล้ามาตบหนูได้ แค่วีรกรรมจัดการแม่วีนัสซะน่วม จนต้องรีบบินไปหาหมอศัลฯ คู่ขาคนไหนก็ไม่กล้ามายุ่งด้วยหรอก คนพวกนี้ขี้ขลาดตาขาวจะตาย มีฤทธิ์แค่แว้ด ๆ ใส่คนอื่นเท่านั้น ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับใครหรอก แต่ละคนรักสวยรักงามกลัวมือเสีย”
“ตอนนั้นแค่สติหลุดไปเองค่ะ คุณวีนัสมาหาเรื่องภาก่อน แล้วพอนึกถึงเรื่องโบนัสก้อนโตที่บอสจะให้ เลยเก็บความกลัวไว้ ขอโต้กลับบ้าง”
“ดีแล้ว ผู้หญิงพวกนี้ต้องเจอแบบหนูภาถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน เลขาคนก่อน ๆ นะ แรดมาก งานไม่ค่อยสนใจเท่าไรหรอก มาสมัครเป็นเลขาบังหน้า แต่ความจริงแล้วจ้องจะอ่อยเจ้าเพลิง ตบตีกับคู่ขาประจำจนต้องไล่ออกหมด มีหนูภาคนแรกนี่แหละที่ทำงานได้ดี ไม่สนใจลูกชายตัวดีของฉันด้วย”
แกรก
เสียงประตูเปิดขึ้นทำให้สองสาวหันไปมอง พบว่าเป็นเพลิงพิษกับเอกภพเองที่เพิ่งประชุมเสร็จ
“อ้าวแม่! มาตอนไหนเนี่ย แล้วทำอะไรกันอยู่ โอ้โฮ!! ทำไมห้องผมมีกลิ่นปลาร้าเนี่ย” ยกมือขึ้นปิดจมูกไม่ทัน พอหันไปเห็นของที่วางอยู่เต็มโต๊ะเลยเข้าใจ ทว่าแล้วทำไม... ภารดาถึงได้มาร่วมวงด้วย
“แม่กำลังตั้งวงจกปลาร้ากับหนูภาและเอเดนอยู่น่ะ” มาดามขวัญเดือนหันไปบอกลูกชายแล้วตักส้มตำเข้าปากต่อ ต่างจากภารดาแทบวางช้อนแทบไม่ทัน
“คุณลุงเพลิงฮะ เอาปากเป็ดทอดไหม” เอเดนลุกขึ้นเดินไปหา พร้อมกับปากเป็ดทอดหนึ่งชิ้นในมือ
“ไม่เป็นไรครับ แม่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ถึงได้แวะมาหาผม” ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ เลขาสาว พลางเอ่ยถามมารดาพร้อมกับตักไส้อ่อนทอดเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ด้วยความหิวจากการประชุมตั้งแต่เช้า โดยไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยสักนิด มีเพียงแค่กาแฟกับน้ำเปล่าเท่านั้น
“ไม่มีอะไรหรอก แค่แวะมาเฉย ๆ ตรวจดูความเรียบร้อยเท่านั้น”
“แล้วทำไมแม่ต้องมานั่งกินในห้องทำงานผมด้วย กลิ่นปลาร้าตลบอบอวลไปหมด” ว่าพลางตักต้มแซ่บเข้าปากไม่หยุด
“บ่นมากน่า เดี๋ยวให้แม่บ้านมาจัดการ แกทำงานเสร็จแล้วยัง”
“เสร็จแล้วครับ”
“แม่ลืมอะไรบางอย่าง แม่ชอบหนูภามาก มีเลขาดี ๆ แบบนี้ต้องรักษาไว้รู้ไหม เพิ่มเงินเดือนกับโบนัสให้เยอะ ๆ หนูภาจะได้มีกำลังใจทำงานมากขึ้น”
“ผมไม่ลืมหรอกครับ เงินเดือนกับโบนัสเนี่ยผมจ่ายให้อย่างงามให้สมกับที่ทำงานถูกใจ”
“คุณลุงเพลิงฮับ เอเดนอยากให้พี่ภาไปอยู่ที่บ้านเราจังเลย ผมชอบพี่ภา” หนุ่มน้อยเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ทำเอาเจ้าตัวสีหน้าเลิ่กลั่กอย่างบอกไม่ถูก พลางบ่นอุบอิบในใจว่า เธอเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา ถึงจะได้พาไปอยู่ด้วย ถ้าเอาแบบหยาบ ๆ ก็ เธอไม่ใช่หมานะ!
โป๊ก!
“เจ้าเด็กแก่แดด เห็นสาว ๆ ไม่ได้ ระริกระรี้เชียวนะ พาไปอยู่ได้ที่ไหนกัน เดี๋ยวพ่อแม่เขาก็มาเขกหัวเอาหรอก” เพลิงพิษเขกหัวหลานชายจอมกะล่อนอย่างหมั่นไส้ พูดแบบนั้นต่อหน้าพนักงานได้ยังไงกัน เสียการปกครองหมด
“วันอาทิตย์น้องเอเดนมาเที่ยวเล่นบ้านพี่ก็ได้นะ จะได้กินขนมอร่อย ๆ ฝีมือคุณแม่พี่ภา”
“จริงเหรอฮะ งั้นวันเสาร์เอเดนขอไปนอนบ้านพี่ภานะ” หนุ่มน้อยหูตาแพรวพราว เมื่อพี่สาวคนสวยเอ่ยปากชวนไปที่บ้านวันอาทิตย์นี้ เลยถือโอกาสเอ่ยปากขอไปนอนด้วยซะเลย
“เดี๋ยว ๆ ใครอนุญาตเรา” เสียงทุ้มถาม
“ไม่มีฮะ เอเดนอยากไป ทุกคนห้ามขัดใจด้วย” มือเล็กยกขึ้นกอดอกหน้าเชิด
“เฮ้อ... อยากไปก็ไป แต่อย่าพูดมาก รู้ไหม “เพลิงพิษถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างยอมแพ้แล้วอนุญาตให้ไปได้ แต่ก็ไม่วายกำชับให้เป็นเด็กดี กลัวจะไปพูดอะไร เสียหายเขาหมด ไม่อยากโดนลูกน้องนินทาลับหลังด้วย
“เย้ ๆ ขอบคุณค้าบบบ” ยกมือไหว้คุณลุงกับคุณยายยกใหญ่ กระโดดร้องเต้นดีใจไปทั่วห้อง
“รบกวนหนูภาด้วยนะ” มาดามขวัญเดือนกล่าวพลางยืนมือไปจับไหล่บางหญิงสาว แค่ได้เจอกันวันแรกก็ถูกชะตายังไงไม่รู้ แล้วไหนจะหลานชายตัวแสบอีกที่เล่นขอไปนอนที่บ้านด้วยคงชอบมากน่าดู น้อยคนนักที่เอเดนจะให้ความสนิทสนมด้วย รายนี้หยิ่งยิ่งกว่าอะไร
“ยินดีค่ะมาดาม” เธอยิ้ม แล้วหันไปเก็บจานชามไปล้างให้เรียบร้อย จากนั้นก็กลับไปนั่งทำงานต่อและเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องฉีดพ่นสเปรย์ดับกลิ่นตาม
เมื่อถึงเวลาเลิกงานภารดารีบจัดเก็บกระเป๋ากลับบ้านด่วน โดยไม่ลืมเข้าไปลามาดามขวัญเดือนและหนุ่มน้อยเอเดน วันนี้เธอต้องกลับไปช่วยแม่ทำขนมส่งลูกค้าในเช้าวันพรุ่งนี้ ท่านเพิ่งได้ออร์เดอร์จากคนรู้จักต้องรีบทำให้เสร็จก่อนส่งถึงมือลูกค้า
------------------
“แม่ถูกชะตากับหนูภามากเลยนะ นิสัยก็ดี หน้าตาสะสวยด้วย” มาดามกล่าวในระหว่างนั่งรถกลับบ้าน ทำเอาเพลิงพิษที่ได้ฟังหันมองหน้าด้วยตกใจกับคำพูดของท่าน
“สวย??? แม่มองยังไงว่ายัยเฉิ่มสวย” งุนงงกับสิ่งที่ท่านบอก เขาทำงานกับภารดามาเกือบเดือนยังมองไม่เห็นถึงความสวยของเจ้าหล่อนเลยสักนิด ใส่แว่นหนาเตอะ มวยผมรวบขึ้นเหมือนมนุษย์ป้า เสื้อผ้าการแต่งการปิดมิดชิดยิ่งกว่าแม่ชีเสียอีก อยากถามท่านเหลือเกินว่าตาฝาดไปหรือเปล่า
“สวยจริง ๆ ฮะลุงเพลิง เอเดนเห็นมากับตาสวยเหมือนนางฟ้าเลย” หลานชายตัวน้อยช่วยยืนยันอีกคน เพราะถึงอย่างไรแล้วเด็กอย่างเอเดนก็ไม่มีทางโกหกและถ้าไม่สวยจริง ๆ รายนี้คงไม่หลงหรอกนะ ยิ่งเจ้าชู้เหมือนพ่อมันด้วย เชื้อไม่ทิ้งแถว ออกลายเสือตั้งแต่เล็ก
“ก็ลองแอบดูตอนที่หนูภาถอดแว่นสิ ไม่อยากจะบอกเลยว่า พวกนางแบบดาราที่แกคั่วอยู่เทียบไม่ติดเลยสักคน”
คำพูดของมารดาและหลานชายทำให้เขาคิดได้
คงต้องหาโอกาสให้ยัยเฉิ่มถอดแว่นแล้วแหละว่าจะสวยสมกับที่มารดาเขาชมหรือเปล่า ถึงอย่างไรแล้วเขาคิดว่าไม่น่าจะสวยสักเท่าไรหรอก พวกนางแบบที่เขาควงน่าจะสวยกว่า ของแบบนี้ฟังอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูให้เห็นกับตาตัวเอง
“จัดการหาเลขาคนใหม่มาให้ฉันด้วยนะ ไม่เอาแบบคนเก่านะ” เพลิงพิษเอ่ยสั่งขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาเอาเอกสารสำหรับประชุม ซึ่งรับหน้าที่เป็นเลขาชั่วคราวแทนคนเก่าที่เขาเพิ่งไล่ออกเมื่อวันก่อน เจ้าหล่อนไม่ใช่เพียงแค่อ่อยและยั่วเขาเท่านั้น ยังขยันสร้างเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เอาชื่อเขาไปข่มขู่คนอื่นอีก จนต้องเล่นยาแรง ยื่นใบลาออกให้เซ็นแบบโดยดี ถ้าหากไม่ยอม เขาก็จะสั่งให้ทุกบริษัทไม่ต้องรับเจ้าหล่อนทำงานและไม่มีที่ยืนในสังคมเลขาแต่ละคนที่รับเข้ามา ไม่ได้เรื่องเลยสักคนไม่อ่อยเขา ก็อ่อยลูกน้อง หรือไม่ก็พนักงานในบริษัทนี่แหละ งานการก็ทำไม่เรียบร้อย จนเขาต้องจัดการเองทั้งหมด“ครับ” ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่ง พลางหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วไปยังฝ่ายบุคคลทันที เพื่อเร่งให้หาเลขาคนใหม่ให้เจ้านาย ก่อนที่ระเบิดชุดใหญ่จะลง-------------“แม่จ๋า... วันนี้หนูจะไปสัมภาษณ์งานเป็นเลขาของบริษัท xxx นะแม่” หญิงสาวเจ้าของเสียงนามว่า ‘ภารดา’ บอกกับมารดาขึ้น เมื่อเธอได้รับเมลตอบกลับจากบริษัทที่ส่งประวัติไปสมัครงานในตำแหน่งเลขา ทำให้เธอตื่นเต้นจนรีบตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวไปสัมภาษณ์โดยที่ยังไม่ได้บอกให้พ่อกับแ
เช้าวันต่อมาภารดาตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้นกับการทำงานวันแรก วันนี้เธอเลือกสวมเดรสสีดำตัวยาวถึงข้อเท้า เกล้าผมมัดขึ้น สภาพไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ป้าเลยสักนิด ทว่าสิ่งที่ทำมักมีเหตุผลเสมอพ่อกับแม่ไม่อยากให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของพวกผู้ชายหื่นกาม ทว่าความเป็นจริงเธอมีใบหน้าสะสวยจนทำให้เพื่อนหมั่นไส้ ผู้ชายตามจีบจนน่ารำคาญ ไหนจะเพื่อนที่คอยจ้องจะอิจฉาแทงข้างหลัง พอเรียนจบพ่อเลยสั่งให้เปลี่ยนลุคการแต่งตัวใหม่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แม้ว่าท่านจะเป็นนักมวยคอยสอนศิลปะการต่อสู้ ทว่าบางครั้งเธอก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ตัวคนเดียวแถมยังตัวเล็กอีกต่างหากจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาสู้กับคนหลายคน การแต่งตัวมิดชิดแบบนี้ถือว่าเป็นทางออกที่ดีสำหรับตัวเธอ“พร้อมไปทำงานแล้วค่ะ” เธอเดินลงมาจากห้องนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พลางนั่งลงข้างมารดาที่กำลังตักข้าวต้มหอมฉุยใส่ถ้วย“มา ๆ โด๊ปพลังงานก่อนเลย วันนี้ลูกสาวแม่น่ารักที่สุด”“ไข่กี่ฟองดีลูก สองหรือสามดี” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามพลางหยิบไข่ลวกขึ้นมาโชว์“เอาสามฟองแล้วกันค่ะ จะได้อยู่ท้อง ทำงานวันแรกด้วยไม่อยากหิ้วของไปกินบนโต๊ะ เกรงใจเจ้านาย”ผู้เป็นบิดาเลื่อนถ้
วันต่อมา เมื่อคืนคุณเอกภพไลน์มาบอกเธอว่าให้เตรียมตัวไว้ดี ๆ เผื่อว่าคู่ขาของบอสจะเข้ามาหาในวันนี้ ทำเอาเธอคิดไม่ตกเลยจะต้องจัดการยังไงดี ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีเรื่องตบตีกับใคร นอกจากด่าผู้ชายแถวบ้านนี่แหละที่คอยมากวนตีนตลอด พอมาถึงบริษัทเลยรู้สึกกดดันตัวเองอย่างไรไม่รู้“แกทำได้อยู่แล้วยัยภา ใจเย็น ๆ” เธอพยายามเรียกขวัญกำลังตัวเองให้มากที่สุดทว่าทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของเอกภพตลอด ชายหนุ่มนั่งสังเกตพฤติกรรมของหญิงสาวมาได้สักพักจึงเอ่ยถาม“คุณภาเป็นอะไรเหรอครับ ทำไมสีหน้าไม่ค่อยจะดีเลย”“ภาเครียดนิดหน่อยค่ะ คิดไม่ออกว่าจะรับมือกับคู่ขาของบอสยังไงดี”“ทำไมเหรอครับ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เขาเองได้สืบประวัติของหญิงสาวมาแล้วและได้รู้ว่ามีพ่อเป็นครูสอนมวย มีหรือที่หญิงสาวจะไม่ได้วิชามาจากพ่อ“ภาไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนเลยค่ะ กลัวว่าจะสู้ไม่ไหว” ถึงแม้ว่าจะมีวิชาทางด้านการต่อสู้ แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้เลยสักครั้ง ส่วนมากเดินหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการตบตีกัน“ทำไมถึงไม่มั่นใจในตัวเองแบบนั้นล่ะครับ ผมเชื่อว่าในตัวของคุณภามีเลือดนักสู้อยู่ อย่าลืมนึกถึงโบนัสก้อนโตอีกสามเดือนข้างหน้านะคร