แต่ใครเล่าจะรู้ว่าปัญหาที่ใหญ่กว่ากำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อวารุณีเกิดพบว่าเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่สามารถบันทึกการสืบค้นได้จะมีประวัติเกี่ยวกับการเปิดดูเว็บไซต์กลุ่มรักร่วมเพศมากมายหลายสิบครั้งด้วยกัน และในบ้านที่มีเพียงเธอกับลูกชาย ใครกันล่ะที่เป็นคนเรียกดูข้อมูลเหล่านี้
ความสงสัยที่มาพร้อมกับความกังวลใจว่าภาษิตจะเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเลียนแบบให้กับลูก แต่เมื่อคิดในอีกมุม ภาษิตก็ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่พ่อ กลับกันในเวลาที่เธอติดงานเร่งด่วน! ภาษิตก็ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ วารุณีก็ยิ่งสับสนว่าควรจะทำยังไง ในฐานะของคนเป็นแม่ เมื่อรู้แต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเบี่ยงเบนได้เยอะ เธอควรจะหาทางแก้ไข ป้องกัน หรือปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสิ่งนั้น
ความเจ็บปวดที่ต้องบอกเล่ากับหยาดน้ำตาของวารุณีที่ไหลลงมาเป็นสายยิ่งทำให้เขาเห็นใจเธอจริงๆ เพราะแม้จะรับได้แต่เอาเข้าจริงคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจอยู่ดี
เจ้าของร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ของผู้เป็นพ่อ เดินไปมาอยู่ภายในห้องสมุดของบ้าน ‘สิขริน’ สมบัติที่ตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรม เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของ ‘ศศิ สิขริน’ นักวิชาการสาวสวยไฮโซที่ย้ายตามสามี ‘โทมัส วิล-เลี่ยมส์’ ซึ่งก็คือพ่อของเขาไปอยู่ที่อเมริกา
นิ้วมือเรียวยาวเกลี่ยไปตามสันหนังสือที่ตั้งใจมาหา ทั้งที่สมองยังคงคิดถึงความโชคดีของตัวเองที่มีครอบครัวที่พร้อมไปด้วยความอบอุ่นแห่งความรัก
พ่อกับแม่ของเขาพบรักกันเมื่อครั้งแม่ไปทำวิจัยพันธุ์พืชสายพันธุ์ใหม่ที่อเมริกา เพราะชื่นชอบในเรื่องพืชเหมือนกันทำให้ความรักเจริญงอกงามและก็มีเขาออกมาเป็นพยานรักเพียงหนึ่งเดียว เพราะแม่ของเขานั้นรักอิสระเกินกว่าจะยอมให้อาการท้องโย้มาทำให้ท่านต้องยุติการท่องเที่ยวที่จะศึกษาพันธุ์พืชได้ทั่วโลก แน่นอนที่สุดว่าพ่อของเขาต้องเห็นด้วย แม้จะอยากมีลูกสาวอีกสักคนก็ตาม
เขาจึงโตมากับการย้ายถิ่นฐานไปตามประเทศต่างๆ ทั่วทุกทวีปในโลก และทุกที่นั้นจะมีความรักของครอบครัวอยู่รายรอบ แต่แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนที่เขาจะรักและประทับใจได้เท่า ‘เมืองไทย’
เขาจึงเลือกที่จะมาลงหลักปักฐานที่นี่ เอาความรู้ในด้านนักวิจัยพันธุ์พืชมาใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับเมืองไทย นอกจากเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยแล้วนั้น เขายังรับจ๊อบเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์ด้วย
หากจะถามว่าได้เงินมากไหม ต้องตอบว่า ‘ไม่’ ที่ทำน่ะเพราะใจรักล้วนๆ เพราะสมบัติที่มีอยู่เมื่อไม่มีใครมาแชร์ใช้ด้วยก็ทำให้ใช้จ่ายได้ทั้งชาติอย่างสบายๆ คุณสมบัติแบบนี้แหละถึงได้ของขวัญมาเต็มคันรถ แต่ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาจะไปจัดการกับของเหล่านั้น เพราะสิ่งที่รบกวนจิตใจมากกว่าเรื่องอื่นก็คือ เรื่องของ ‘ขึ้นฉ่าย’
นิ้วมือเรียวยาวยังคงเกลี่ยไปตามสันหนังสือที่ถูกจัดเรียงอยู่ในตู้อย่างเป็นหมวดหมู่ ดวงตาคมเข้มที่อยู่ภายใต้แว่นตากรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าไล่มองหาสิ่งที่คิดว่าอาจมี เพราะหนังสือนับพันเล่มนี้อาจมีสักเล่มที่ไขข้อข้องใจให้เขาได้ ต้องขอบคุณ ‘คุณตา’ ของเขา ที่ท่านเป็นศาสตราจารย์และเป็นนักอ่านตัวยง ท่านจึงถ่ายทอดสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับแม่ และแม่ก็ถ่ายทอดสู่ตัวเขา แม้คุณตาจะจากไปนานนับ 10 ปี แต่กลิ่นอายความใส่ใจใฝ่ความรู้ของท่านก็ยังกรุ่นอยู่ใน ‘สิขริน’
“เฮ้อ! ไม่มีจริงๆ เหรอเนี่ย”
ใบหน้าหล่อส่ายไปมาเมื่อไม่สามารถหาหนังสือเล่มไหนมาไขข้อข้องใจของเขาได้แต่เขายังไม่หมดหวังในเรื่องคำตอบ เมื่อรับปากจะช่วยวารุณีแล้ว เขาก็ต้องช่วยอย่างสุดๆ แต่ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ เขาก็ต้องหาตัวช่วยอื่น คิดได้ดังนั้นทิเบตก็ไม่รอช้าที่จะต่อสายหาใครบางคน ที่คิดว่าจะสามารถให้คำปรึกษาเขาได้เป็นอย่างดี ใครที่เคยผ่านประสบการณ์เหล่านั้นมาแล้ว
.
.
เสียงโทรศัพท์ที่แผดร้องในทำนองเพลงประจำชาติของกลุ่มชายรักชาย ทำให้ชายหนุ่มหล่อเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า ละสายตาขึ้นจากแบบที่สเกตซ์ไว้คร่าวๆ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเพราะถูกขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีย์ ในเวลาทำงานเขาไม่ชอบเลยที่ใครจะขัด มือเสยลูกผมที่ละลงมาที่ปลายหางคิ้วก่อนจะรู้ตัวรีบขยี้หัวคิ้วตัวเองเร็วไว
“ไม่ได้ๆๆ เดี๋ยวคิ้วย่น ตีนกาจ๋าอย่ามาเยือน ว้ายๆ ลงสิ! ลงซี่!”
น้ำเสียงขัดใจที่หัวคิ้วไม่สบอารมณ์นั้นไม่ยอมลงตามนิ้วมือที่ไล้วนไปมา แต่ก็ถลาไปหาโทรศัพท์สีม่วงเข้มติดเม็ดคริสทัลแวววาวเพราะถ้ายังขืนช้ามีหวังคงได้เต้นกันจนจบเพลงก่อนจะรับโทรศัพท์เป็นแน่
แต่เมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรเข้ามา ใบหน้าหล่อก็ระบายไปด้วยรอยยิ้มหัวคิ้วย่นเมื่อครู่หายวับไปกับตา ไม่รอช้า ‘เอกกี้ หรือ เอกรัตน์’ เจ้าของห้องเสื้อแบรนด์ดัง กรอกเสียงแมนๆ แต่ใส่จริตลงไปในทันที
“ห้าโหล... สวัสดีเจ้าค่ะ คุณดอกเตอร์ที่หล่อที่สุดในสามโลก มีอะไรให้เอกกี้รับใช้หรือคะถึงได้กดหาได้ เอ... หรือว่าดอกเตอร์อยากจะเปลี่ยนแนวมาเป็นเพื่อนสาวกับเอกกี้อีกคน หรือว่าจะมีพืชพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีสรรพคุณทั้งอึดทั้งทนมาให้เอกกี้ทดลอง แบบรากราคะ ว่านราคี หรือว่านผัวหลงทางจนออกจากบ้านไม่ถูกอะไรอย่างเงียะอะ สามารถให้เอกกี้เป็นนกน้อยทดลองได้นะคะ สำหรับดอกเตอร์เอกกี้ยอม...”
“บ้าน่ะเอก... เรามีเรื่องจะปรึกษานาย โทรมาทีไรอย่างนี้ทุกที”
ทิเบตยิ้มส่ายใบหน้าไปมาอย่างขำๆ กับสรรพนามที่เอกรัตน์ใช้เรียกตัวเอง ก่อนจะพาเรือนร่างสูงใหญ่ออกมายืนที่ระเบียงด้านข้างของห้องสมุดที่สามารถมองออกไปเห็นบริเวณโรงรถได้อย่างชัดเจน และที่นั่นเขาเห็น
‘ป้าดอกรัก’ แม่บ้าน และ ‘ลุงต๋อย’ คนดูแลสวนซึ่งพ่วงตำแหน่งสามีป้าดอกรักไปอีกตำแหน่ง แต่ว่าอย่างหลังนั้นไม่ได้เงินมีแต่เป็นฝ่ายเสียเงินเท่านั้น ทั้งคู่กำลังช่วยกันขนของขวัญมากมายออกจากรถของเขา คิดจะออกไปบอกว่าเขาเปลี่ยนใจแล้วไม่ต้องขนลง
“อูย... ดอกเตอร์น่ะเหรอคะมีเรื่องจะปรึกษาเอกกี้ รู้ไปถึงนังชะนีตัวไหน มันคงได้ร้องโหยหวนกันบ้าง” ทิเบตละความสนใจมาที่เจ้าของเสียงใส่จริตอีกครั้ง ยิ้มเมื่อได้ฟังคำเหน็บเจ็บๆ คันๆ จากเพื่อน แม้เขาจะรับได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำใจไปเรียกว่า ‘เอกกี้’ อย่างที่เอกรัตน์ต้องการก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับเขา เอกรัตน์ก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่ง นอกเสียจากเอกรัตน์จะตัดสินใจแปลงเพศให้เป็นเรื่องเป็นราวไป “หึหึหึ... แล้วว่างจะฟังไหมล่ะ” “นั่นขึ้นอยู่ที่ว่า ดอกเตอร์จะกล้ามาหาเอกกี้คืนนี้หรือเปล่า อิอิ...” “โอว... ไม่ล่ะ ตามสบายเถอะ คืนนี้คงไม่เหมาะ โอเค... พรุ่งนี้ดึกๆ เจอกัน อย่าหักโหมนักล่ะ มดลูกเคลื่อนไปจะยุ่ง หึหึหึ...” ทิเบตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดของเอกรัตน์ดังลั่นออกมา ใจจริงเขาอยากจะออกไปหาเอกรัตน์เสียในคืนนี้ เพราะรู้ดีว่าวารุณีคงจะร้อนใจเต็มที่ แม้เธอจะบอกว่าจะรอคอยคำแนะนำจากเขาก็ตาม แต่เพราะว่าคืนนี้เป็นคืนวาเลนไทน์ เอกรัตน์คงไม่พลาดที่จะมีนัดปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งเขาคงไม่
เสียงเพลงกระหึ่มในจังหวะเร้าใจดังขึ้นพร้อมๆ กับงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างสวยงาม ผู้คนที่สนใจในเรื่องยานยนต์ เซเลบ ดารา ไฮโซ ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ ตลอดจนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่างตบเท้ากันเข้าชมงานไม่ขาดสาย เพราะตลอดทั้งงานที่จัดติดต่อกันถึง 12 วันนี้ ทุกค่ายรถยนต์ต่างขนนวัตกรรมยานยนต์มานำเสนออย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้คนคลาคล่ำที่เป็นชายมากกว่า 90% นั้นคงตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าแทบทั้งหมดนั้นมาดูรถยนต์ เพราะต่างรู้กันดีว่า สิ่งที่ล่อตาล่อใจและล่อ ‘ลวง’ ลูกค้าได้มากยิ่งกว่ามากนั้น ไม่พ้นจะเป็นพนักงานแนะนำรถยนต์สาวสวยที่ใครๆ ก็เรียกว่า ‘พริตตี้’ นางฟ้าจักรกลเหล่านี้แหละที่ทำให้คนหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายต่างรอคอยช่วงเวลาแห่งปีจะเวียนมาถึงอีกครั้ง เพื่อเก็บภาพประทับใจและภาพแห่งความทรงจำลงในสมอง “อูย... แม่ง... นมใหญ่เป็นบ้าเลยว่ะ อย่างนี้ให้กูจัดสักที กูยอมกราบเลย” “เออ... กูก็อยากเป็นลูกของน้องเขาจริงๆ ว่ะ” “ทำไมวะ” “ก็กูจะได้ดูดนมน้องเขานอนไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เสียง
‘นี่แกได้ยินไหมที่คุณชัยเรียกยัยบัวเข้าไปเตือนเรื่องงานอะ” ‘อืม... สงสัยจะโดนไปหลายดอก เห็นออกมาหน้าระรื่น’ ‘จริงอะแก ก็อย่างว่าล่ะนะ คุณชัยแกคงไม่คิดอะไรหรอก ก็รู้ๆ กันอยู่ พวกนมใหญ่มันสมองมักเล็ก ที่แกรับไว้ก็คงแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ ได้เขี่ยนิดๆ แตะหน่อยๆ ก็มีความสุขประจำวันได้แล้ว’ ‘อิอิ... จริงอย่างที่แกพูดทุกอย่าง นี่ได้ข่าวว่าพี่ยศไอทีก็หวังจะซบหน้าลงบนอกใหญ่ๆ ของยัยบัวด้วยนะแก เห็นว่าไม่เกินอาทิตย์คงได้มีเรื่องมาเม้าท์ แกว่าจะถ่ายรูปเสื้อในมายืนยัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...’ นั่นคือเรื่องซุบซิบของบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมงานที่มักจะได้ยินเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ‘ผู้หญิงนมใหญ่ สมองมักเล็ก’ นั่นมันคือ ‘ปมด้อย’ ที่เธอต้องสะกดเก็บหรือมันเป็น ‘ต่อมอิจฉา’ ที่พวกนมเล็กมักจะคิดกัน แต่เธอพยายามที่จะไม่คิดอะไร ตั้งใจทำงานให้เห็นผลให้มากที่สุดจะดีกว่า เพื่อลบคำสบประมาทเหล่านั้น แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะเมื่อ ‘นมดึงดูด’ ของเธอแผลงฤทธิ์อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ‘เอ้า! น้องบัว อยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ วันนี้พี่เลี้ยงเอง’
บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่สุดในย่านถนนสุวินทวงศ์ ในช่วงเวลาใกล้เลิกงานคลาคล่ำไปด้วยพนักงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาออกันอยู่ที่บริเวณทางออก พวกเธอเหล่านั้นชะเง้อชะแง้เข้าไปในบริเวณโรงงานเหมือนจะรอคอยใครหรืออะไรบางอย่างที่จะเคลื่อนตัวออกมาจากด้านในของโรงงาน แต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงานและเลยไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง อะไรหรือใครบางคนที่รอคอยอยู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาให้เห็น จนพวกเธอต้องหันไปปรึกษากันก่อนจะตกลงสลายตัวและพากันแยกย้ายออกจากด้านหน้าโรงงานไป นิ้วมือละออกจากมูลี่ที่ใช้บังแดดและยังให้บังสายตาจากบุคคลด้านนอกได้เป็นอย่างดี ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะและเดินมาหยุดที่บริเวณหน้าโต๊ะทำงาน ดวงตาคมเข้มกวาดมองสิ่งของที่กองรวมกันอยู่บนโต๊ะจนกินพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน มองอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง คิดไม่ตกว่าควรจะเอาสิ่งของพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดี เพราะนี่แค่บางส่วนยังไม่รวมอีกกว่า 50 ชิ้นที่อัดแน่นอยู่ในรถยนต์ของเขา “ไม่ชอบเทศกาลนี้เลย เฮ้อ!” บอกตัวเองแต่ก็ยังไม่หายหงุด
“อูย... ดอกเตอร์น่ะเหรอคะมีเรื่องจะปรึกษาเอกกี้ รู้ไปถึงนังชะนีตัวไหน มันคงได้ร้องโหยหวนกันบ้าง” ทิเบตละความสนใจมาที่เจ้าของเสียงใส่จริตอีกครั้ง ยิ้มเมื่อได้ฟังคำเหน็บเจ็บๆ คันๆ จากเพื่อน แม้เขาจะรับได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำใจไปเรียกว่า ‘เอกกี้’ อย่างที่เอกรัตน์ต้องการก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับเขา เอกรัตน์ก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่ง นอกเสียจากเอกรัตน์จะตัดสินใจแปลงเพศให้เป็นเรื่องเป็นราวไป “หึหึหึ... แล้วว่างจะฟังไหมล่ะ” “นั่นขึ้นอยู่ที่ว่า ดอกเตอร์จะกล้ามาหาเอกกี้คืนนี้หรือเปล่า อิอิ...” “โอว... ไม่ล่ะ ตามสบายเถอะ คืนนี้คงไม่เหมาะ โอเค... พรุ่งนี้ดึกๆ เจอกัน อย่าหักโหมนักล่ะ มดลูกเคลื่อนไปจะยุ่ง หึหึหึ...” ทิเบตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดของเอกรัตน์ดังลั่นออกมา ใจจริงเขาอยากจะออกไปหาเอกรัตน์เสียในคืนนี้ เพราะรู้ดีว่าวารุณีคงจะร้อนใจเต็มที่ แม้เธอจะบอกว่าจะรอคอยคำแนะนำจากเขาก็ตาม แต่เพราะว่าคืนนี้เป็นคืนวาเลนไทน์ เอกรัตน์คงไม่พลาดที่จะมีนัดปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งเขาคงไม่
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าปัญหาที่ใหญ่กว่ากำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อวารุณีเกิดพบว่าเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่สามารถบันทึกการสืบค้นได้จะมีประวัติเกี่ยวกับการเปิดดูเว็บไซต์กลุ่มรักร่วมเพศมากมายหลายสิบครั้งด้วยกัน และในบ้านที่มีเพียงเธอกับลูกชาย ใครกันล่ะที่เป็นคนเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ ความสงสัยที่มาพร้อมกับความกังวลใจว่าภาษิตจะเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเลียนแบบให้กับลูก แต่เมื่อคิดในอีกมุม ภาษิตก็ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่พ่อ กลับกันในเวลาที่เธอติดงานเร่งด่วน! ภาษิตก็ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ วารุณีก็ยิ่งสับสนว่าควรจะทำยังไง ในฐานะของคนเป็นแม่ เมื่อรู้แต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเบี่ยงเบนได้เยอะ เธอควรจะหาทางแก้ไข ป้องกัน หรือปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสิ่งนั้น ความเจ็บปวดที่ต้องบอกเล่ากับหยาดน้ำตาของวารุณีที่ไหลลงมาเป็นสายยิ่งทำให้เขาเห็นใจเธอจริงๆ เพราะแม้จะรับได้แต่เอาเข้าจริงคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจอยู่ดี เจ้าของร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ของผู้เป็นพ่อ เดินไปมาอยู่ภายในห้องสมุดของบ้าน ‘สิขริน’ สมบัติที่ตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรม เพราะเป็นลูก
บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่สุดในย่านถนนสุวินทวงศ์ ในช่วงเวลาใกล้เลิกงานคลาคล่ำไปด้วยพนักงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาออกันอยู่ที่บริเวณทางออก พวกเธอเหล่านั้นชะเง้อชะแง้เข้าไปในบริเวณโรงงานเหมือนจะรอคอยใครหรืออะไรบางอย่างที่จะเคลื่อนตัวออกมาจากด้านในของโรงงาน แต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงานและเลยไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง อะไรหรือใครบางคนที่รอคอยอยู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาให้เห็น จนพวกเธอต้องหันไปปรึกษากันก่อนจะตกลงสลายตัวและพากันแยกย้ายออกจากด้านหน้าโรงงานไป นิ้วมือละออกจากมูลี่ที่ใช้บังแดดและยังให้บังสายตาจากบุคคลด้านนอกได้เป็นอย่างดี ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะและเดินมาหยุดที่บริเวณหน้าโต๊ะทำงาน ดวงตาคมเข้มกวาดมองสิ่งของที่กองรวมกันอยู่บนโต๊ะจนกินพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน มองอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง คิดไม่ตกว่าควรจะเอาสิ่งของพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดี เพราะนี่แค่บางส่วนยังไม่รวมอีกกว่า 50 ชิ้นที่อัดแน่นอยู่ในรถยนต์ของเขา “ไม่ชอบเทศกาลนี้เลย เฮ้อ!” บอกตัวเองแต่ก็ยังไม่หายหงุด
‘นี่แกได้ยินไหมที่คุณชัยเรียกยัยบัวเข้าไปเตือนเรื่องงานอะ” ‘อืม... สงสัยจะโดนไปหลายดอก เห็นออกมาหน้าระรื่น’ ‘จริงอะแก ก็อย่างว่าล่ะนะ คุณชัยแกคงไม่คิดอะไรหรอก ก็รู้ๆ กันอยู่ พวกนมใหญ่มันสมองมักเล็ก ที่แกรับไว้ก็คงแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ ได้เขี่ยนิดๆ แตะหน่อยๆ ก็มีความสุขประจำวันได้แล้ว’ ‘อิอิ... จริงอย่างที่แกพูดทุกอย่าง นี่ได้ข่าวว่าพี่ยศไอทีก็หวังจะซบหน้าลงบนอกใหญ่ๆ ของยัยบัวด้วยนะแก เห็นว่าไม่เกินอาทิตย์คงได้มีเรื่องมาเม้าท์ แกว่าจะถ่ายรูปเสื้อในมายืนยัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...’ นั่นคือเรื่องซุบซิบของบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมงานที่มักจะได้ยินเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ‘ผู้หญิงนมใหญ่ สมองมักเล็ก’ นั่นมันคือ ‘ปมด้อย’ ที่เธอต้องสะกดเก็บหรือมันเป็น ‘ต่อมอิจฉา’ ที่พวกนมเล็กมักจะคิดกัน แต่เธอพยายามที่จะไม่คิดอะไร ตั้งใจทำงานให้เห็นผลให้มากที่สุดจะดีกว่า เพื่อลบคำสบประมาทเหล่านั้น แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะเมื่อ ‘นมดึงดูด’ ของเธอแผลงฤทธิ์อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ‘เอ้า! น้องบัว อยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ วันนี้พี่เลี้ยงเอง’
เสียงเพลงกระหึ่มในจังหวะเร้าใจดังขึ้นพร้อมๆ กับงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างสวยงาม ผู้คนที่สนใจในเรื่องยานยนต์ เซเลบ ดารา ไฮโซ ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ ตลอดจนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่างตบเท้ากันเข้าชมงานไม่ขาดสาย เพราะตลอดทั้งงานที่จัดติดต่อกันถึง 12 วันนี้ ทุกค่ายรถยนต์ต่างขนนวัตกรรมยานยนต์มานำเสนออย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้คนคลาคล่ำที่เป็นชายมากกว่า 90% นั้นคงตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าแทบทั้งหมดนั้นมาดูรถยนต์ เพราะต่างรู้กันดีว่า สิ่งที่ล่อตาล่อใจและล่อ ‘ลวง’ ลูกค้าได้มากยิ่งกว่ามากนั้น ไม่พ้นจะเป็นพนักงานแนะนำรถยนต์สาวสวยที่ใครๆ ก็เรียกว่า ‘พริตตี้’ นางฟ้าจักรกลเหล่านี้แหละที่ทำให้คนหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายต่างรอคอยช่วงเวลาแห่งปีจะเวียนมาถึงอีกครั้ง เพื่อเก็บภาพประทับใจและภาพแห่งความทรงจำลงในสมอง “อูย... แม่ง... นมใหญ่เป็นบ้าเลยว่ะ อย่างนี้ให้กูจัดสักที กูยอมกราบเลย” “เออ... กูก็อยากเป็นลูกของน้องเขาจริงๆ ว่ะ” “ทำไมวะ” “ก็กูจะได้ดูดนมน้องเขานอนไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เสียง