บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่สุดในย่านถนนสุวินทวงศ์ ในช่วงเวลาใกล้เลิกงานคลาคล่ำไปด้วยพนักงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาออกันอยู่ที่บริเวณทางออก พวกเธอเหล่านั้นชะเง้อชะแง้เข้าไปในบริเวณโรงงานเหมือนจะรอคอยใครหรืออะไรบางอย่างที่จะเคลื่อนตัวออกมาจากด้านในของโรงงาน
แต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงานและเลยไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง อะไรหรือใครบางคนที่รอคอยอยู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาให้เห็น จนพวกเธอต้องหันไปปรึกษากันก่อนจะตกลงสลายตัวและพากันแยกย้ายออกจากด้านหน้าโรงงานไป
นิ้วมือละออกจากมูลี่ที่ใช้บังแดดและยังให้บังสายตาจากบุคคลด้านนอกได้เป็นอย่างดี ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะและเดินมาหยุดที่บริเวณหน้าโต๊ะทำงาน ดวงตาคมเข้มกวาดมองสิ่งของที่กองรวมกันอยู่บนโต๊ะจนกินพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน มองอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง คิดไม่ตกว่าควรจะเอาสิ่งของพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดี เพราะนี่แค่บางส่วนยังไม่รวมอีกกว่า 50 ชิ้นที่อัดแน่นอยู่ในรถยนต์ของเขา
“ไม่ชอบเทศกาลนี้เลย เฮ้อ!”
บอกตัวเองแต่ก็ยังไม่หายหงุดหงิด เพราะตั้งแต่เช้าที่เข้าไปมหาวิทยาลัยเพราะมีสอนนักศึกษาในช่วงเช้า เขาก็ต้องหอบเอาสารพัดตุ๊กตา ช็อกโกแลต และของขวัญมากมายที่บรรดานักศึกษาทั้งสาวแท้สาวเทียมเอามามอบให้ ยังไม่นับที่วางเรียงรายอยู่บริเวณท้ายรถยุโรปสุดหรูของเขาอีก
และเมื่อถึงช่วงบ่ายที่ต้องมาทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งนี้เพราะเขาเป็นที่ปรึกษาเรื่องส่วนผสมอาหารสัตว์ ก็ไม่พ้นที่ต้องมาเห็นสิ่งของมากมายเหล่านี้บนโต๊ะทำงานอีก และแน่นอนถ้าเขาเกิดออกจากห้องไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน รับรองได้ว่ากว่าจะสามารถพารถให้เคลื่อนออกจากโรงงานได้ก็คงจะเป็นช่วงเวลานี้เหมือนกัน ดังนั้นเลือกแอบอยู่แบบนี้จะดีกว่า
“ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือคะดอกเตอร์ สาวๆ มารอมอบของขวัญกันตรึม ดอกเตอร์เล่นหลบแบบนี้ สาวๆ เขาก็เสียความตั้งใจแย่”
“ดร.ทิเบต สิขริน วิลเลี่ยมส์” นักวิชาการพันธุ์พืชสุดหล่อของมหาวิทยาลัยชื่อดัง หันมอง ‘วารุณี’ ผู้บริหารโรงงานอาหารสัตว์แห่งนี้ ที่ยืนยิ้มทำสีหน้าล้อเลียนเขาอยู่หน้าประตูห้อง
“โธ่! พี่ณีครับ ผมไม่ไหวจริงๆ นะครับ ในรถอีกตั้งเยอะ ไหนจะของพวกนี้อีก ถ้าผมออกไปรับมีหวังต้องขอให้รถของโรงงานขนของขวัญไปให้ที่บ้านแน่ๆ”
“ก็คนหล่อนี่คะ ต้องทำใจหน่อย แล้ว 1 ปีมีวันเดียวเสียด้วย วันแสดงความรักน่ะ สาวๆ ที่โรงงานพี่เขาก็อยากแสดงความรักกับคนหล่อบ้าง ก็ช่วยไม่ได้นี่คะที่ดอกเตอร์ยังโสดอยู่ ลองไม่โสดสิ ความนิยมจะได้ลดไปมากกว่าครึ่ง เหมือนพวกดารานายแบบไงคะ แต่เอ... หรืออาจจะไม่แน่ก็ได้ สมัยนี้สาวๆ เขาถือคติ ไม่โสดยิ่งแซ่บ”
“พี่ณีก็ ล้อผมเล่นเรื่อยเลย แล้วพี่ณีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ ไม่ไปรับลูกที่โรงเรียนเหรอ”
เขาถามเพราะทราบดีว่าวารุณีนั้นเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามให้ความรักและความอบอุ่นแก่ลูกให้มากที่สุด และ ‘ขึ้นฉ่าย’ ลูกชายวัยรุ่นของเธอก็กำลังอยู่ในช่วงหัวเรี่ยวหัวต่อ วารุณีจึงต้องพยายามเป็นทั้งแม่และพ่อ ดูแลเอาใจใส่ลูกทุกอย่าง ช่วงเวลานี้ของทุกวันจึงเป็นเวลาที่เธอจะต้องไปรับลูกกลับจากโรงเรียน
“ไปรับมาแล้ว เล่นคอมฯ อยู่ที่ห้องพี่น่ะ ดอกเตอร์... พี่มีเรื่องอยากจะปรึกษา”
“ครับพี่ ผมไม่ได้รีบอะไร อย่างว่าล่ะครับคนมันโสดก็อย่างนี้แหละ” ทิเบตเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเมื่อเห็นแววกังวลใจและเกรงใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของวารุณี
และสิ่งที่วารุณีมาปรึกษาก็ทำให้ทิเบตต้องเก็บเอามาครุ่นคิดตลอดระยะทางขับรถออกจากโรงงานมาจนถึงที่บ้าน เขาออกจะอึ้งด้วยซ้ำเมื่อได้ฟังเรื่องของเธอ รู้สึกเห็นใจคนที่มีสถานะเป็นแม่ เพราะรู้ว่าเธอต้องทลายความอายที่จะพูดเรื่องเหล่านี้ออกมา และก็ต้องยอมรับว่าเธอกล้าหาญและเป็นคุณแม่ที่ดีมาก ที่กล้าปรึกษาเรื่องนี้กับคนอื่น ไม่ปล่อยให้จุดความสงสัยเล็กๆ ลุกลามกลายเป็นดวงไฟใหญ่โตที่อาจเผาผลาญอนาคตของเด็กชายที่กำลังเจริญเติบโตคนหนึ่งได้
‘ดอกเตอร์... มีทางช่วยพี่ได้ไหม ไม่ใช่ว่าพี่รับไม่ได้หรอกนะในเรื่องนั้น หากเขาจะเป็นจริงๆ แต่พี่ก็อยากให้แน่ใจว่า... มันจะไม่ใช่พฤติกรรมเลียนแบบ’
‘พี่ณีใจเย็นๆ ก่อนนะครับ มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ ขอผมลองปรึกษาเพื่อนๆ ดูก่อนนะครับ เอ่อ... ผมมีเพื่อนลักษณะนี้อยู่หลายคนน่ะครับ แต่อย่างหนึ่งที่อยากบอกให้พี่ณีรู้ไว้ก็คือ คนเหล่านี้เขาเป็นคนพิเศษนะครับ ถ้าเขาได้รับการดูแลที่ดี ได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัว เขาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง ผมเชื่อแบบนั้น’
‘พี่เข้าใจค่ะ ไม่อย่างนั้นพี่กับพ่อของเขาคงฆ่ากันตายไปข้างหนึ่งแล้วล่ะ แต่เพราะพี่เข้าใจเราเลยยังเป็นเพื่อนกันได้ถึงตอนนี้ไงคะ แต่จะให้พี่เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเขาก็ไม่ได้หรอกนะ พี่ก็เห็นมีแต่ดอกเตอร์นี่แหละที่พี่จะปรึกษาได้ ช่วยพี่หน่อยนะคะ พี่ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งพาใครแล้ว’
“เฮ้อ!”
เรื่องราวของวารุณีที่เขามีส่วนได้รับรู้ยิ่งทำให้ทิเบตต้องผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักใจแทน วารุณีจัดเป็นผู้หญิงที่อาจโชคไม่ดีนัก เมื่อสามีของเธอรู้ตัวว่าเป็น ‘เกย์ควีน’ ทั้งที่แต่งงานอยู่กินกับเธอจนมีลูกชายด้วยกันแล้วหนึ่งคน ซึ่งก็คือ ‘ขึ้นฉ่าย’ แต่วารุณีก็ยังมีความโชคดีที่เธอเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่ได้มองคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนผิดปกติ
เธอมองว่านั่นคือสิ่งที่มนุษย์ย่อมเป็นได้ เธอรับได้ในสิ่งที่สามีเป็น และตกลงที่จะเป็นเพื่อนและทำหน้าที่ ‘พ่อแม่’ ให้กับลูกชายคนเดียวอย่างดีที่สุด และตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทั้งวารุณีและ ‘ภาษิต’ ก็ไม่เคยละทิ้งหน้าที่กับลูก
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าปัญหาที่ใหญ่กว่ากำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อวารุณีเกิดพบว่าเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่สามารถบันทึกการสืบค้นได้จะมีประวัติเกี่ยวกับการเปิดดูเว็บไซต์กลุ่มรักร่วมเพศมากมายหลายสิบครั้งด้วยกัน และในบ้านที่มีเพียงเธอกับลูกชาย ใครกันล่ะที่เป็นคนเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ ความสงสัยที่มาพร้อมกับความกังวลใจว่าภาษิตจะเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเลียนแบบให้กับลูก แต่เมื่อคิดในอีกมุม ภาษิตก็ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่พ่อ กลับกันในเวลาที่เธอติดงานเร่งด่วน! ภาษิตก็ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ วารุณีก็ยิ่งสับสนว่าควรจะทำยังไง ในฐานะของคนเป็นแม่ เมื่อรู้แต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเบี่ยงเบนได้เยอะ เธอควรจะหาทางแก้ไข ป้องกัน หรือปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสิ่งนั้น ความเจ็บปวดที่ต้องบอกเล่ากับหยาดน้ำตาของวารุณีที่ไหลลงมาเป็นสายยิ่งทำให้เขาเห็นใจเธอจริงๆ เพราะแม้จะรับได้แต่เอาเข้าจริงคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจอยู่ดี เจ้าของร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ของผู้เป็นพ่อ เดินไปมาอยู่ภายในห้องสมุดของบ้าน ‘สิขริน’ สมบัติที่ตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรม เพราะเป็นลูก
“อูย... ดอกเตอร์น่ะเหรอคะมีเรื่องจะปรึกษาเอกกี้ รู้ไปถึงนังชะนีตัวไหน มันคงได้ร้องโหยหวนกันบ้าง” ทิเบตละความสนใจมาที่เจ้าของเสียงใส่จริตอีกครั้ง ยิ้มเมื่อได้ฟังคำเหน็บเจ็บๆ คันๆ จากเพื่อน แม้เขาจะรับได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำใจไปเรียกว่า ‘เอกกี้’ อย่างที่เอกรัตน์ต้องการก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับเขา เอกรัตน์ก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่ง นอกเสียจากเอกรัตน์จะตัดสินใจแปลงเพศให้เป็นเรื่องเป็นราวไป “หึหึหึ... แล้วว่างจะฟังไหมล่ะ” “นั่นขึ้นอยู่ที่ว่า ดอกเตอร์จะกล้ามาหาเอกกี้คืนนี้หรือเปล่า อิอิ...” “โอว... ไม่ล่ะ ตามสบายเถอะ คืนนี้คงไม่เหมาะ โอเค... พรุ่งนี้ดึกๆ เจอกัน อย่าหักโหมนักล่ะ มดลูกเคลื่อนไปจะยุ่ง หึหึหึ...” ทิเบตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดของเอกรัตน์ดังลั่นออกมา ใจจริงเขาอยากจะออกไปหาเอกรัตน์เสียในคืนนี้ เพราะรู้ดีว่าวารุณีคงจะร้อนใจเต็มที่ แม้เธอจะบอกว่าจะรอคอยคำแนะนำจากเขาก็ตาม แต่เพราะว่าคืนนี้เป็นคืนวาเลนไทน์ เอกรัตน์คงไม่พลาดที่จะมีนัดปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งเขาคงไม่
เสียงเพลงกระหึ่มในจังหวะเร้าใจดังขึ้นพร้อมๆ กับงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างสวยงาม ผู้คนที่สนใจในเรื่องยานยนต์ เซเลบ ดารา ไฮโซ ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ ตลอดจนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่างตบเท้ากันเข้าชมงานไม่ขาดสาย เพราะตลอดทั้งงานที่จัดติดต่อกันถึง 12 วันนี้ ทุกค่ายรถยนต์ต่างขนนวัตกรรมยานยนต์มานำเสนออย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้คนคลาคล่ำที่เป็นชายมากกว่า 90% นั้นคงตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าแทบทั้งหมดนั้นมาดูรถยนต์ เพราะต่างรู้กันดีว่า สิ่งที่ล่อตาล่อใจและล่อ ‘ลวง’ ลูกค้าได้มากยิ่งกว่ามากนั้น ไม่พ้นจะเป็นพนักงานแนะนำรถยนต์สาวสวยที่ใครๆ ก็เรียกว่า ‘พริตตี้’ นางฟ้าจักรกลเหล่านี้แหละที่ทำให้คนหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายต่างรอคอยช่วงเวลาแห่งปีจะเวียนมาถึงอีกครั้ง เพื่อเก็บภาพประทับใจและภาพแห่งความทรงจำลงในสมอง “อูย... แม่ง... นมใหญ่เป็นบ้าเลยว่ะ อย่างนี้ให้กูจัดสักที กูยอมกราบเลย” “เออ... กูก็อยากเป็นลูกของน้องเขาจริงๆ ว่ะ” “ทำไมวะ” “ก็กูจะได้ดูดนมน้องเขานอนไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เสียง
‘นี่แกได้ยินไหมที่คุณชัยเรียกยัยบัวเข้าไปเตือนเรื่องงานอะ” ‘อืม... สงสัยจะโดนไปหลายดอก เห็นออกมาหน้าระรื่น’ ‘จริงอะแก ก็อย่างว่าล่ะนะ คุณชัยแกคงไม่คิดอะไรหรอก ก็รู้ๆ กันอยู่ พวกนมใหญ่มันสมองมักเล็ก ที่แกรับไว้ก็คงแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ ได้เขี่ยนิดๆ แตะหน่อยๆ ก็มีความสุขประจำวันได้แล้ว’ ‘อิอิ... จริงอย่างที่แกพูดทุกอย่าง นี่ได้ข่าวว่าพี่ยศไอทีก็หวังจะซบหน้าลงบนอกใหญ่ๆ ของยัยบัวด้วยนะแก เห็นว่าไม่เกินอาทิตย์คงได้มีเรื่องมาเม้าท์ แกว่าจะถ่ายรูปเสื้อในมายืนยัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...’ นั่นคือเรื่องซุบซิบของบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมงานที่มักจะได้ยินเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ‘ผู้หญิงนมใหญ่ สมองมักเล็ก’ นั่นมันคือ ‘ปมด้อย’ ที่เธอต้องสะกดเก็บหรือมันเป็น ‘ต่อมอิจฉา’ ที่พวกนมเล็กมักจะคิดกัน แต่เธอพยายามที่จะไม่คิดอะไร ตั้งใจทำงานให้เห็นผลให้มากที่สุดจะดีกว่า เพื่อลบคำสบประมาทเหล่านั้น แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะเมื่อ ‘นมดึงดูด’ ของเธอแผลงฤทธิ์อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ‘เอ้า! น้องบัว อยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ วันนี้พี่เลี้ยงเอง’
“อูย... ดอกเตอร์น่ะเหรอคะมีเรื่องจะปรึกษาเอกกี้ รู้ไปถึงนังชะนีตัวไหน มันคงได้ร้องโหยหวนกันบ้าง” ทิเบตละความสนใจมาที่เจ้าของเสียงใส่จริตอีกครั้ง ยิ้มเมื่อได้ฟังคำเหน็บเจ็บๆ คันๆ จากเพื่อน แม้เขาจะรับได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำใจไปเรียกว่า ‘เอกกี้’ อย่างที่เอกรัตน์ต้องการก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับเขา เอกรัตน์ก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่ง นอกเสียจากเอกรัตน์จะตัดสินใจแปลงเพศให้เป็นเรื่องเป็นราวไป “หึหึหึ... แล้วว่างจะฟังไหมล่ะ” “นั่นขึ้นอยู่ที่ว่า ดอกเตอร์จะกล้ามาหาเอกกี้คืนนี้หรือเปล่า อิอิ...” “โอว... ไม่ล่ะ ตามสบายเถอะ คืนนี้คงไม่เหมาะ โอเค... พรุ่งนี้ดึกๆ เจอกัน อย่าหักโหมนักล่ะ มดลูกเคลื่อนไปจะยุ่ง หึหึหึ...” ทิเบตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดของเอกรัตน์ดังลั่นออกมา ใจจริงเขาอยากจะออกไปหาเอกรัตน์เสียในคืนนี้ เพราะรู้ดีว่าวารุณีคงจะร้อนใจเต็มที่ แม้เธอจะบอกว่าจะรอคอยคำแนะนำจากเขาก็ตาม แต่เพราะว่าคืนนี้เป็นคืนวาเลนไทน์ เอกรัตน์คงไม่พลาดที่จะมีนัดปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งเขาคงไม่
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าปัญหาที่ใหญ่กว่ากำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อวารุณีเกิดพบว่าเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่สามารถบันทึกการสืบค้นได้จะมีประวัติเกี่ยวกับการเปิดดูเว็บไซต์กลุ่มรักร่วมเพศมากมายหลายสิบครั้งด้วยกัน และในบ้านที่มีเพียงเธอกับลูกชาย ใครกันล่ะที่เป็นคนเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ ความสงสัยที่มาพร้อมกับความกังวลใจว่าภาษิตจะเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเลียนแบบให้กับลูก แต่เมื่อคิดในอีกมุม ภาษิตก็ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่พ่อ กลับกันในเวลาที่เธอติดงานเร่งด่วน! ภาษิตก็ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ วารุณีก็ยิ่งสับสนว่าควรจะทำยังไง ในฐานะของคนเป็นแม่ เมื่อรู้แต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเบี่ยงเบนได้เยอะ เธอควรจะหาทางแก้ไข ป้องกัน หรือปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสิ่งนั้น ความเจ็บปวดที่ต้องบอกเล่ากับหยาดน้ำตาของวารุณีที่ไหลลงมาเป็นสายยิ่งทำให้เขาเห็นใจเธอจริงๆ เพราะแม้จะรับได้แต่เอาเข้าจริงคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจอยู่ดี เจ้าของร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ของผู้เป็นพ่อ เดินไปมาอยู่ภายในห้องสมุดของบ้าน ‘สิขริน’ สมบัติที่ตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรม เพราะเป็นลูก
บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่สุดในย่านถนนสุวินทวงศ์ ในช่วงเวลาใกล้เลิกงานคลาคล่ำไปด้วยพนักงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาออกันอยู่ที่บริเวณทางออก พวกเธอเหล่านั้นชะเง้อชะแง้เข้าไปในบริเวณโรงงานเหมือนจะรอคอยใครหรืออะไรบางอย่างที่จะเคลื่อนตัวออกมาจากด้านในของโรงงาน แต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงานและเลยไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง อะไรหรือใครบางคนที่รอคอยอยู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาให้เห็น จนพวกเธอต้องหันไปปรึกษากันก่อนจะตกลงสลายตัวและพากันแยกย้ายออกจากด้านหน้าโรงงานไป นิ้วมือละออกจากมูลี่ที่ใช้บังแดดและยังให้บังสายตาจากบุคคลด้านนอกได้เป็นอย่างดี ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะและเดินมาหยุดที่บริเวณหน้าโต๊ะทำงาน ดวงตาคมเข้มกวาดมองสิ่งของที่กองรวมกันอยู่บนโต๊ะจนกินพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน มองอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง คิดไม่ตกว่าควรจะเอาสิ่งของพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดี เพราะนี่แค่บางส่วนยังไม่รวมอีกกว่า 50 ชิ้นที่อัดแน่นอยู่ในรถยนต์ของเขา “ไม่ชอบเทศกาลนี้เลย เฮ้อ!” บอกตัวเองแต่ก็ยังไม่หายหงุด
‘นี่แกได้ยินไหมที่คุณชัยเรียกยัยบัวเข้าไปเตือนเรื่องงานอะ” ‘อืม... สงสัยจะโดนไปหลายดอก เห็นออกมาหน้าระรื่น’ ‘จริงอะแก ก็อย่างว่าล่ะนะ คุณชัยแกคงไม่คิดอะไรหรอก ก็รู้ๆ กันอยู่ พวกนมใหญ่มันสมองมักเล็ก ที่แกรับไว้ก็คงแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ ได้เขี่ยนิดๆ แตะหน่อยๆ ก็มีความสุขประจำวันได้แล้ว’ ‘อิอิ... จริงอย่างที่แกพูดทุกอย่าง นี่ได้ข่าวว่าพี่ยศไอทีก็หวังจะซบหน้าลงบนอกใหญ่ๆ ของยัยบัวด้วยนะแก เห็นว่าไม่เกินอาทิตย์คงได้มีเรื่องมาเม้าท์ แกว่าจะถ่ายรูปเสื้อในมายืนยัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...’ นั่นคือเรื่องซุบซิบของบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมงานที่มักจะได้ยินเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ‘ผู้หญิงนมใหญ่ สมองมักเล็ก’ นั่นมันคือ ‘ปมด้อย’ ที่เธอต้องสะกดเก็บหรือมันเป็น ‘ต่อมอิจฉา’ ที่พวกนมเล็กมักจะคิดกัน แต่เธอพยายามที่จะไม่คิดอะไร ตั้งใจทำงานให้เห็นผลให้มากที่สุดจะดีกว่า เพื่อลบคำสบประมาทเหล่านั้น แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะเมื่อ ‘นมดึงดูด’ ของเธอแผลงฤทธิ์อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ‘เอ้า! น้องบัว อยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ วันนี้พี่เลี้ยงเอง’
เสียงเพลงกระหึ่มในจังหวะเร้าใจดังขึ้นพร้อมๆ กับงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างสวยงาม ผู้คนที่สนใจในเรื่องยานยนต์ เซเลบ ดารา ไฮโซ ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ ตลอดจนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่างตบเท้ากันเข้าชมงานไม่ขาดสาย เพราะตลอดทั้งงานที่จัดติดต่อกันถึง 12 วันนี้ ทุกค่ายรถยนต์ต่างขนนวัตกรรมยานยนต์มานำเสนออย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้คนคลาคล่ำที่เป็นชายมากกว่า 90% นั้นคงตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าแทบทั้งหมดนั้นมาดูรถยนต์ เพราะต่างรู้กันดีว่า สิ่งที่ล่อตาล่อใจและล่อ ‘ลวง’ ลูกค้าได้มากยิ่งกว่ามากนั้น ไม่พ้นจะเป็นพนักงานแนะนำรถยนต์สาวสวยที่ใครๆ ก็เรียกว่า ‘พริตตี้’ นางฟ้าจักรกลเหล่านี้แหละที่ทำให้คนหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายต่างรอคอยช่วงเวลาแห่งปีจะเวียนมาถึงอีกครั้ง เพื่อเก็บภาพประทับใจและภาพแห่งความทรงจำลงในสมอง “อูย... แม่ง... นมใหญ่เป็นบ้าเลยว่ะ อย่างนี้ให้กูจัดสักที กูยอมกราบเลย” “เออ... กูก็อยากเป็นลูกของน้องเขาจริงๆ ว่ะ” “ทำไมวะ” “ก็กูจะได้ดูดนมน้องเขานอนไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เสียง