วันรุ่งขึ้น
ติ๊ติด ติ๊ติด ติ๊ติด
นิราตื่นขึ้นมาคว้านมือหานาฬิกาปลุก ที่แผดเสียงดังอยู่หัวเตียง ก่อนจะเพ่งสายตาที่เหนื่อยอ่อนไปดูเวลาในหน้าปัด
“อร้าย สายแล้ว งานวันแรกของชั้น!”
นิราแผดเสียงร้องดังลั่นห้องเมื่อมองนาฬิกา ตอนนี้มันบอกเวลา 07.30 น. แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงเธอจะต้องไปอยู่ที่ทำงาน มันจะทันได้ไงกับเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แค่อาบน้ำก็เกินแล้ว
“อ๊ะ อา เจ็บ” นิราที่ขยับลุกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องทันทีที่เธอทำแบบนั้น นี่เธอเมาแล้วไปลากใครเข้าห้องด้วย ร่างกายถึงได้มีสภาพแบบนี้
“บ้าเอ้ย ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย”
นิราไม่มีเวลาคิดเรื่องเมื่อคืน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เธอกำลังจะพลาดงานสำคัญ นิราลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน งานนั่นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพราะมันคือรายรับเดียวที่เธอจะใช้จ่ายในสิ้นเดือนนี้
“ชุดอะไรวะเนี้ย”
นิราออกมาจากห้องน้ำ ค้นหาชุดที่เจนจิราเลือกให้เมื่อวาน มันใช้ไม่ได้เลยสักชุด เธอต้องการชุดที่มันสามารถปกปิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เธอเห็นตามตัวตอนอาบน้ำ
“ไปสภาพเดิมก็ได้วะ”
ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาที นิราจึงเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวในตู้ กับกางเกงขายาวมาใส่ ผมสีดำปล่อยมันให้สยายไปเต็มแผ่นหลัง เพื่อปิดรอยแดงที่คอ ส่วนหน้าไม่แต่งมันแล้ว เวลาหมดแล้ว เธอไปสายตั้งแต่ทำงานวันแรก
“พี่วิน ไปซอย 57 ด่วนเลยค่ะ”
นิราเดินมาโบกวินมอเตอร์ไซค์หน้าคอนโด ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ด้วยความลำบาก เพราะเจ็บบริเวณจุดอ่อนไหวที่มันบวมเจ่อ เธอรู้สึกว่ามันยังมีเลือดไหลซึม เธอจึงใส่แผ่นอนามัยแบบเดลี่ไว้ด้วย นี่เธอโดนอะไรไปเนี้ยทำไมมันระบมได้ขนาดนี้
“พี่วิน เร็วค่ะ หนูสายแล้ว”
เร่งวินมอเตอร์ไซด์ ทั้งที่พี่เขาขับเกือบ 80ไปแล้ว ในเมืองหลวงแบบนี้ ต่อให้เร่งแค่ไหนมันก็มีไฟแดง และที่สำคัญคือรถติดมากในเวลาเร่งด่วนแบบนี้
“น้อง พี่เป็นวินนะ ไม่ใช่นักบิน จะได้เหาะได้ แหม๋ รีบขนาดนี้ไม่มาตั้งแต่เมื่อวานละ”
วินมอเตอร์ไซด์หันหน้ามาแขวะ ตอนจอดรถติดไฟแดง ก่อนจะขับต่อเมื่อสัญญาณไฟขึ้นสีเขียว
“พี่วินอะ” นิราได้แต่นั่งเงียบ แม้ในใจจะรู้สึกกังวล ซอยที่เธออยู่กับที่ทำงาน มันไกลกันทีเดียว คงต้องทำใจน้อมรับคำด่าตั้งแต่วันแรกแล้วละนิราเอ้ย
@บริษัทนำเข้าและส่งออก
เสือที่หนีออกมาจากคอนโดนิรา ตอนตีห้า เข้ามานั่งทำงานด้วยอาการง่วงหง่าวหาวนอน เมื่อคืนกว่าเขาจะข่มใจได้ ก็เกือบตีสี่ แทบจะไม่ได้นอนเลย เพราะยัยนิราที่หลับอยู่ข้างกาย
“พี่เสือ เลขาคนใหม่ยังไม่มาเหรอครับ ฝ่ายบุคคลแจ้งแล้วใช่ไหม ว่าเมื่อวานผมรับเลขามาให้พี่แล้ว” นรสิงค์ที่รอประชุม เดินเข้าห้องมาถามพี่ชายที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ในห้องทำงานประจำตำแหน่ง
“เหรอ ยังไม่เห็นใครมาเลย นี่ถ้ามาสายเกินชั่วโมงไม่ต้องให้เข้ามานะ ไม่รับ” เสือบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหลับตาลงเอนหลังไปกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ พลางคิดถึงร่างกายที่เขานอนกอดเมื่อคืน
“อ่า หรือคุณนิราเกิดเปลี่ยนใจ” นรสิงค์พูดแค่นั้น ก่อนจะเดินทำหน้าไม่สบายใจออกไป เสือเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง เลขาใหม่ชื่อเหมือนยัยคนเมื่อคืนเลยแฮะ
“คนชื่อนิรามีเยอะแยะว่ะ!”
เสือพูดกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขายังไม่อิ่มจากยัยนั่นเลย รู้สึกเสียดายชะมัด ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้ามาเคลียร์งาน ตอนนี้เขาคงยังนอนกอดก่ายร่างนุ่มนิ่มนั้นอยู่
@ชั้นหนึ่งของบริษัทนำเข้าและส่งออก
นิราเมื่อมาถึงบริษัท ก็รีบเดินกึ่งวิ่งมากดลิฟต์เพื่อใช้มันโดยสารขึ้นไปชั้นบนสุด ตอนนี้เวลา 08.49 น. ไปแล้ว เธอต้องโดนเจ้านายใหม่เพ่งเล็งแน่ๆ ที่มาสายตั้งแต่วันแรกแบบนี้
“คุณเจน นิรายังมีโอกาศไหมคะ” นิราเดินมาถึงโต๊ะก็เห็นเจนจิรานั่งทำงานอยู่แล้ว เจนจิราทำแค่เพียงยิ้มให้นิรานิดๆ ก่อนจะมองสำรวจนิราอีกครั้ง
“ไม่ผ่านค่ะ คุณไม่ยอมใส่ชุดที่เจนเลือก แต่ตอนนี้เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องค่ะ รีบไปเถอะค่ะเพราะเหลืออีกแค่5นาที ก่อนจะหมดโอกาศที่ท่านให้ไว้” เจนจิราบอกพลางชี้ไปที่ห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนิดเดียว
นิรารีบวิ่งมาที่ห้องดังกล่าว ก่อนจะจัดชุดของตัวเองอีกครั้ง เสร็จแล้วก็รวบรวมความกล้า ยกมือเคาะประตูเบาๆ
ก๊อก ๆ ๆ
“เข้ามา”
เสียงทรงอำนาจดังออกมาจากในห้อง นิราจึงเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดลงอย่างเบามือ ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม ไม่ได้มองไปทางโต๊ะทำงาน ที่มีใครสักคนนั่งหันหลังอยู่สักนิด
“สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาวันแรกค่ะ” เธอพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะกลัว
“หึ ถ้าช้ากว่านี้ 1 นาทีผมไม่เอามาใช้งานหรอกนะ วันแรกก็สายขนาดนี้ แล้วงานสำคัญของผมจะไม่พังหมดเหรอ”
เสือยังคงนั่งหันหลังให้คนที่เข้ามาในห้อง เขาไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา คงจะมัวแต่นอนกกกอดผัวอยู่ละสิ ถึงได้มาสาย คนสมัยนี้ก็แบบนี้ ไม่ค่อยตรงต่อเวลา
“ดิฉันขอโทษค่ะ” นิราขอโทษเสียงเบา
“ผมจะสัมภาษณ์ใหม่ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้ทำ”
เสือพูดก่อนจะหันเก้าอี้กลับมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นิราเงยหน้าขึ้นมาพอดี เพราะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดเจ้านายคนใหม่
“แต่คุณนรสิงค์บอกว่ารับฉันทำงานแล้วนะคะ”
นิราเถียงกลับ เธอถูกนรสิงค์นัดเข้าทำงานแล้วนะ แม้เธอจะมาสายหนึ่งชั่วโมงในวันแรกก็ตามเถอะ เธอควรได้ทำต่อสิ ไม่ใช่เริ่มใหม่หมดแบบนี้
“แต่ผมเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้าง”
เสือมองผู้หญิงตรงหน้าที่ให้ความรู้สึกแปลกตามาก เขาจำหน้าเธอได้ แม้ตอนนี้หน้าเธอจะไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า แตกต่างจากเมื่อคืน แต่ความสวยของใบหน้านั้นยังคงฉายชัด เขามั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่แน่ๆ
“ฉัน…” นิราพูดอะไรไม่ออกเลย เธอจะทำยังไงดี ถ้าเขาสัมภาษณ์เองเธอจะได้งานไหม? คนตรงหน้าดูไม่ได้ใจดีเลยสักนิด
“ให้เวลาเตรียมตัวห้านาที แล้วมาเริ่มสัมภาษณ์กัน”
เสือพูดอย่างหงุดหงิด ตอนนี้เขาต้องโฟกัสเรื่องงาน มากกว่าเรื่องที่เธอทำเหมือนว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ ไม่ต้องรอถึงห้านาทีหรอกตอนนี้เลย” เมื่อเธอไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องพุ่งชนกับเขาตรงๆ นี่ละ
“ดี! หวังว่าไอ้สิงค์คงไม่เอาเด็กบ้านนอกมาย้อมแมวเป็นเลขาผมหรอกนะ”
เสือบอกออกไป ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการดูถูกคนตรงหน้าสักนิด ดูยังไงเธอก็แตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ผิวคล้ำที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาว ไหนจะใบหน้าสดที่หมองคล้ำนั่นอีก ทาครีมบ้างไหมเนี้ย หรือยัยนี่จะเป็นฝาแฝดกับคนเมื่อคืนวะ
“อย่าดูถูกคนเพียงแค่เห็นจากภายนอกสิคะ มันดูไม่เป็นผู้นำเลย” นิราพูดออกไปอย่างนึกตำหนิ ตอนนี้เธอยังไม่ใช่พนักงานของที่นี่สักหน่อย มีสิทธิ์พูดเหมือนที่เขาพูดต่อว่าเธอนั่นแหละ“นี่เธอ! / เริ่มเถอะค่ะ เสียเวลา” เสือกำลังจะอ้าปากต่อว่า นิราก็สวนกลับทันที เธอไม่ค่อยยอมใครซะด้วยสิ เมื่อกี้เขาก็ว่าเธอก่อนเลยนะ“แนะนำตัว กับนำเสนอแผนงานเล่มนั้นมาเป็นภาษาจีนสิ” เขารู้ว่าเธอได้ภาษาจีน เพราะดูจากเรซูเม่ที่วางแหมะอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมอง แต่พอก้มหน้าลงไปที่โต๊ะ ก็เห็นมันวางอยู่บนสุดเลย ดูสิภาษาจีนหรือภาษาอะไรที่เธอพูดได้“แผนการขยายยอดการส่งออกปีหน้าในจีน ที่มันลดลงเพราะคู่แข่งของตลาดรถในจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกและนำเข้าในปีหน้ามีแนวโน้วว่าจะลดลง แต่ตามการคาดการณ์ในตลาดหุ้นปีนี้ ยอดการนำเข้ายังสูงอยู่ แม้ลูกค้าจะลดลงแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน” นิราพูดภาษาจีนด้วยความชำนาญ ทันทีที่อ่านแผนการวิเคราะห์ตลาดส่งออกล่วงหน้าหนึ่งปีของบริษัทแบบคร่าวๆ“แต่ถ้าลองขยายการส่งออกไปในประเทศที่กำลังพัฒนาศักยภาพทางด้านการเงินอยู่ตอนนี้ น่าจะดีกว่า อย่างประเทศที่เปิดเสรีด้านการค้าน่าจะมีโอกาศ
“นี่คุณ!” นิราหน้าบึ้งทันที เขาจำเธอไม่ได้ แล้วยังมาพูดเรื่องนี้ออกมาโต้งๆ ได้ไง ถ้าคนอื่นมาได้ยิน จะหาว่าเธอโดนใครที่ไหนปู้ยี้ปู้ยำมานะสิ“ปล่อยได้รึยัง ฉันจะไปแล้ว” นิราไม่รู้จะพูดยังไงดี จึงได้แต่บอกเขาเสียงเบาลง นึกเสียใจที่สูญเสียครั้งแรกให้คนแบบเขา แต่เธอจะเสียใจกว่านี้ ถ้าปล่อยให้ลูกของเขาเกิดมา“ไม่ถามหาความรับผิดชอบเลยเหรอ” เสือว่าเธอต้องจำเขาได้แน่ๆ เพราะท่าทางเธอตอนนี้มันเหมือนว่าเธอรู้จักเขามาก่อน อาจจะก่อนหน้าที่เธอเมา“ทำไมต้องถาม ไม่ต้องการสักนิด” นิราเบะปากให้คนที่ยังจับข้อมือเธอไว้แน่น ท่าทางแบบนั้นมันช่างอวดดีเหลือเกินสำหรับเสือ“งั้นก็ตามมานี่” ในเมื่อเจ้าตัวไม่ต้องการ เขาจำเป็นต้องแคร์ด้วยเหรอ ก็ไม่นี่นา เขาไม่คิดจะรับผิดชอบใครหรอก ผู้หญิงสำหรับเสือก็แค่คู่นอน“นี่คุณปล่อย! ฉันไม่ใช่คนของคุณนะ” นิราขืนตัวไว้ ไม่ให้เท้าก้าวเดินไปตามแรงฉุดที่ข้อมือ อีกมือก็กระชับเสื้อเข้าหากันแน่น เมื่อเขาลากเธอออกมาจากห้อง“คุณเจน ช่วยพายัยนี่ไปซื้อยาคุม เสร็จแล้วพาไปแต่งตัวใหม่ซะ เอาแบบที่ผมชอบนะ พากลับมาหาผมก่อนเที่ยง เอาแบบดูเป็นผู้เป็นคนด้วยล่ะ” เสือออกมาสั่งงานเลขาของน้องชาย
เสือที่นั่งประชุมอยู่ ได้แต่เบนสายตามองนาฬิกาตลอดเวลา ป่านนี้เจนจิราจะพาเธอกลับมารึยังนะ หรือเธอจะแอบหนีเขาไปแล้ว“ท่านคะ แผนงานปีหน้า จะทำยังไงดีค่ะ กับยอดขายที่ลดลง” พนักงานฝ่ายขายเอ่ยถามความเห็นจากประธานบริษัท“เราจะเปลี่ยนแผนการนำเข้าและส่งออกทั้งหมด ลดการนำเข้า และเน้นส่งออกแทน” เขาจำที่นิราเสนอมาให้เมื่อเช้าได้ขึ้นใจ“แต่ส่งออกมันได้กำไรน้อยกว่านำเข้านะคะ” พนักงานอีกคนแย้งการนำเข้ารถแพงๆมาขาย ได้กำไรเยอะกว่าส่งออกรถราคากลางๆไปขายซะอีก แม้กำลังซื้อในประเทศจะลดลง แต่มันก็น่าจะมีกำไรมากกว่าส่งออกอีกนะ“ถ้านำเข้ารถ10 ล้านมาขาย ได้เดือนละคันสองคัน กับส่งออกรถราคา 2 ล้าน เดือนละ 30-40 คัน คุณคิดว่ายังไงละ” เสือถามกลับ รถที่ผลิตในไทยภายใต้การนำของเขา มีคุณภาพเทียบเท่ารถจากต่างประเทศ แต่ที่เขานำเข้ารถมาขายมากกว่าจะโปรโมทรถตัวเอง เพราะคนไทยคิดว่าอะไรที่มาจากต่างประเทศจะดีกว่ารถที่ผลิตในไทย ทั้งที่รถที่ผลิตในไทยหลายรุ่น คุณภาพดีกว่ารถนอกด้วยซ้ำ“มีใครค้านเรื่องนี้ไหม หรือถ้าคำนาณแล้วผลกำไรมันไม่คุ้มค่า ก็เตรียมเปิดธุรกิจใหม่” เสือยังคงพูดต่อ“คะ/ครับ ธุระกิจใหม่” คนในห้องประชุมต่างส่ง
พรึ่บ!“มาตกลงกันก่อน ถ้าถูกใจจะพาไปกินข้าว” เสืออุ้มเธอมาวางลงบนตัก ก่อนเขาจะเอนหลังไปกับโซฟา ด้วยท่าทีสบายๆ“เราไม่มีอะไรต้องตกลง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พลาดก็คือพลาด ตอนนี้ฉันกินยาคุมแล้ว คุณไม่ต้องห่วง” นิราพูดเสียงเบา“คิดว่ายานั่นจะได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์กัน” เสือถามนิราด้วยใบหน้าจริงจัง พอต้องมาคุยเรื่องแบบนี้ กลับไม่ได้รู้สึกลำบากใจอย่างที่คิด“……. ก็น่าจะ50/50” นิราไม่กล้าบอกไปมากกว่านี้ มันมีเคสที่ตั้งท้องทั้งที่กินยาคุมให้เห็นเยอะแยะ“มาทำงานให้ฉัน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ท้อง” เสือยื่นคำขาด“แต่ฉัน….” นิราจะเลือกอะไรดีละ เธอมีทางเลือกอื่นอีกไหมเนี้ย อยู่กับเขาเธอเปลืองตัวมาก“5 หมื่นกับงานเลขา แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็มานอนกับฉัน” เสือคิดว่าผู้หญิงทุกคน คงอยากจะกระโจนเข้าใส่แน่ๆ ถ้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ออกไป“ใครเขาจะอยากนอนกับคุณ ปล่อยได้รึยัง ฉันหิวแล้ว ฉันจะรับแค่งานเลขาเท่านั้น” นิราพูดจบก็ตั้งท่าจะลุกจากตักแกร่งที่กักขังเธอมาเนินนาน“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ ฉันเด็ดนะ เทคนิคก็แพรวพราว ฉันว่าเธอต้องติดใจแน่ๆ” เสือพูดอ้อยอิ่งชิดลำคอระหง เขาใช้มือรวบผมสีดำทั้งหมดของเธอไปไว้ด้านข้าง กดริมฝีปากค
“ห้าแสน เป็นผู้หญิงของฉันสองเดือน” เขาคิดว่าสองเดือน ตัวเองก็น่าจะเบื่อเธอแล้วแหละ เพราะคนอื่นๆ ก็ไม่เกิน 2ครั้งด้วยซ้ำ แต่ตั้งไว้สองเดือน ก็เผื่อติดใจเธอ จะได้ไม่ต้องเริ่มคุยใหม่“เอาเงินไปบริจากเถอะค่ะ” นิราพูดจบก็เดินไปที่เตียงรวบผ้าห่มดึงออกจากตัวเขาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด“ลุกค่ะ ฉันจะเปลี่ยนที่นอน นอนไปได้ยังไงทั้งที่มันเลอะขนาดนั้น” นิรามองเตียงสีชมพูที่มันเลอะคราบเลือดของเธออยู่ เขาไม่อาย แต่เธออายไง“เธอใจแข็งชะมัด” เสือเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างขัดใจ ปล่อยให้นิราเดินไปจัดที่นอนเงียบๆ“จะไปไหนอีก” เสือเห็นนิราเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาถือไว้“จะไปอาบน้ำค่ะ ฉันเหนียวตัวมากๆ เพราะไอ้ครีมที่ทาอยูบนตัวนี่ หวังว่าออกมาจะไม่เจอคุณนะคะ อ่อ! ฉันไม่ได้ไล่นะ แต่รีบไปเลยค่ะ”ปึ่งนิราเดินไปปิดประตูห้องน้ำใส่เขาทันที ไม่สนใจเสือที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทำไมเขาต้องกลับ หน้าด้านซะอย่าง ของกินที่เขาสั่งมาเยอะแยะ ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ เขาเป็นคนจ่ายเงิน เขาควรได้กินมันสิกริ่งๆ กริ่งเสือนั่งรอเกือบชั่วโมง ก็มีคนมากดกริ่ง สงสัยว่าจะเป็นคนส่งอาหารนั่นแหละแก๊ก!“คุณยังไม่กลับอีกเหรอ” นิราที่รีบออกมาเพร
“มีอะไร” เสือถามเมื่อรับรู้ว่านิราหยุดมือลง“พอแล้วไงคะ นี่เย็นมากแล้ว” นิราพูดจบก็เดินออกไปจากห้องไม่สนใจเสืออีกเลย เสือได้แต่ทำหน้างง มองแผ่นหลังแบบบางที่เดินจากไปจะรู้สึกหวงทำไม ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกัน นิราได้แต่คิดในใจ“คุณเจนจะกลับแล้วเหรอคะ” นิราเดินออกมา เจอเจนจิราที่กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านพอดี“ป่าวค่ะ เจนมีธุระที่ต้องไปต่อ คุณนิราไปด้วยกันไหมคะ ร้านเหล้าน่ะ” เจนจิราบอก และถามนิราทันที บางทีมีเพื่อนดื่มก็น่าจะดีกว่าดื่มคนเดียว“จะไปไหนต่อครับสาวๆ ผมไปด้วยสิ” นรสิงค์ที่กำลังจะกลับบ้าน เดินออกมาพอดีเลยได้ยินเจนจิราชวนนิราไปร้านเหล้า“ถ้าท่านเลี้ยงนะคะ” เจนจิราพูดอย่างห่างเหินมากกว่าปกติ จนนรสิงค์ต้องย่นคิ้ว“ถ้าไม่เลี้ยง จะไม่ให้ไปด้วยเลยเหรอครับ” เธอไม่เคยไปไหนกับเขา นอกเหนือเวลางานเลยสักครั้ง“ค่ะ” เจนจิราตอบรับ ไม่ได้อยากให้คุณสิงค์ไปด้วยสักนิด“คุณเจนไปร้านไหนไลน์บอกนิราหน่อยนะคะ เดี๋ยวนิราตามไปค่ะ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดแป๊ปนึงค่ะ” นิราพูดจบก็ก้าวเดินจากไปเพราะเธอมีไลน์เจนจิราอยู่ เดี๋ยวค่อยถามชื่อร้านเอาทีหลังก็ได้“สรุปจะไปไหมคะ” เจนจิราถามคนที่ยืนมองเธอนิ่งๆ เหมือนกำลัง
นิราเดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะมองหาเจนจิรา ทางโซนที่เธออ่านมาจากในไลน์ เห็นเจนจิรากวักมือเรียกอยู่ด้านในสุด โดยที่ข้างกายคุณเจน คือคุณสิงค์รองประธานสุดหล่อนั่นเอง“อ่า! คุณสิงค์ก็มาเหรอคะ” นิราถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ ตัวที่นรสิงค์ลุกขึ้นดึงออกมาให้เธอใช้นั่ง“ถ้ากลัวว่ามีผมแล้วมันจะไม่สนุก ผมไปนั่งที่อื่นก็ได้นะครับ” นรสิงค์พูดอย่างเกรงใจสองสาว ในขณะที่เจนจิรานั่งดื่มเงียบๆตั้งแต่มาถึงร้าน“ไม่เป็นไรค่ะ หลายคนสนุกดี จริงไหมคะคุณเจน” นิรายิ้มแย้มให้เจนจิรา แม้เธอกับเจนจิราจะอายุเท่ากัน แต่นิราก็ยังติดเรียกคุณอย่างให้เกียรติเสมอ“เรียกเจนเฉยๆ เถอะค่ะ เราเพื่อนกันนี่นา ถ้าไม่สะดวกใจก็ค่อยเรียกแบบปกติตอนทำงานก็ได้ค่ะ” เจนจิรายกยิ้ม เธอเป็นคนที่ยิ้มได้สวยมากๆ แต่นิราแทบจะไม่เคยเห็นเจนจิรายิ้มเลย หรือเห็นแทบจะนับครั้งได้“ยิ้มแล้วสวยมากครับ”นรสิงค์พูดชมกับภาพที่เขาเห็น ตอนนี้เจนจิราหน้าขึ้นสีนิดๆ ดูน่ามอง ไหนจะรอยยิ้มที่แต่งแต้มใบหน้าสวยหวานของเธอนั่นอีก เจนจิราสวยมาก“สวยแต่ไม่ถูกใจ” เจนจิราพึมพำเบาๆอยู่คนเดียว เพราะคุณสิงค์หันไปชนแก้ว กับผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ที่ยิ้มให้เขารา
“ค่ะ ฉันชื่อนิรา” นิราบอกยิ้มๆ เธอไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง เธอเปิดโอกาศให้ทุกคน แต่ไม่ได้เปิดใจให้ใครขนาดนั้น พอคุยแล้วไม่ถูกใจเธอก็บาย ไม่อยากเสียเวลา และไม่เคยเสียตัวให้ใครเลยยกเว้นเสียให้คุณเสือตอนเมานั่นแหละ รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่เสียให้คนไม่เห็นคุณค่ามันแบบเขา แต่เธอพลาดเอง จะพูดอะไรได้ละ รู้ว่างานร้านเหล้ามันอันตราย แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับตัวเองจนได้“มีแฟนรึยังครับ ทำไมมาคนเดียว เหงาเหรอ” ตรินถามพลางยิ้มกริ่ม มือไม้เริ่มขยับ นี่คือตัวตนจริงๆ ของเขา ที่ซ่อนมันไว้ภายใต้รูปลักษณ์ของนายแว่นที่แสนดี“ค่ะ มาคนเดียว/ มากับผัว และกำลังจะกลับไปนอนเอากันแล้วด้วย” เสือตะโกนใส่คนทั้งคู่ ก่อนจะดึงแขนนิราให้ลุกขึ้นยืน เขามองมาที่เธอตลอด จนไม่ได้สนใจผู้หญิงที่มาด้วยสักนิด ก่อนจะเดินมาหาเธออย่างร้อนรน เมื่อผู้ชายคนนั้นกำลังลูบไล้แผ่นหลังของนิรา“ผัวเหรอ? เสียเวลาชิบหาย!” ตรินพูดจบก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด“คุณเสือ! ใครเมียคุณ” นิรายืนกอดอกมองเสือนิ่งๆ ไม่คิดจะขยับไปไหน เธอเพิ่งสั่งเหล้าไป และดูเหมือนจะได้จ่ายเองด้วย เพราะเขาไล่คนที่อาสาจ่ายค่าเหล้าให้เธอไปแล้ว“เธอเป็นเมียฉัน” เสือย้ำชัดๆ เขาได