วันรุ่งขึ้น
ติ๊ติด ติ๊ติด ติ๊ติด
นิราตื่นขึ้นมาคว้านมือหานาฬิกาปลุก ที่แผดเสียงดังอยู่หัวเตียง ก่อนจะเพ่งสายตาที่เหนื่อยอ่อนไปดูเวลาในหน้าปัด
“อร้าย สายแล้ว งานวันแรกของชั้น!”
นิราแผดเสียงร้องดังลั่นห้องเมื่อมองนาฬิกา ตอนนี้มันบอกเวลา 07.30 น. แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงเธอจะต้องไปอยู่ที่ทำงาน มันจะทันได้ไงกับเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แค่อาบน้ำก็เกินแล้ว
“อ๊ะ อา เจ็บ” นิราที่ขยับลุกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องทันทีที่เธอทำแบบนั้น นี่เธอเมาแล้วไปลากใครเข้าห้องด้วย ร่างกายถึงได้มีสภาพแบบนี้
“บ้าเอ้ย ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย”
นิราไม่มีเวลาคิดเรื่องเมื่อคืน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เธอกำลังจะพลาดงานสำคัญ นิราลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน งานนั่นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพราะมันคือรายรับเดียวที่เธอจะใช้จ่ายในสิ้นเดือนนี้
“ชุดอะไรวะเนี้ย”
นิราออกมาจากห้องน้ำ ค้นหาชุดที่เจนจิราเลือกให้เมื่อวาน มันใช้ไม่ได้เลยสักชุด เธอต้องการชุดที่มันสามารถปกปิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เธอเห็นตามตัวตอนอาบน้ำ
“ไปสภาพเดิมก็ได้วะ”
ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาที นิราจึงเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวในตู้ กับกางเกงขายาวมาใส่ ผมสีดำปล่อยมันให้สยายไปเต็มแผ่นหลัง เพื่อปิดรอยแดงที่คอ ส่วนหน้าไม่แต่งมันแล้ว เวลาหมดแล้ว เธอไปสายตั้งแต่ทำงานวันแรก
“พี่วิน ไปซอย 57 ด่วนเลยค่ะ”
นิราเดินมาโบกวินมอเตอร์ไซค์หน้าคอนโด ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ด้วยความลำบาก เพราะเจ็บบริเวณจุดอ่อนไหวที่มันบวมเจ่อ เธอรู้สึกว่ามันยังมีเลือดไหลซึม เธอจึงใส่แผ่นอนามัยแบบเดลี่ไว้ด้วย นี่เธอโดนอะไรไปเนี้ยทำไมมันระบมได้ขนาดนี้
“พี่วิน เร็วค่ะ หนูสายแล้ว”
เร่งวินมอเตอร์ไซด์ ทั้งที่พี่เขาขับเกือบ 80ไปแล้ว ในเมืองหลวงแบบนี้ ต่อให้เร่งแค่ไหนมันก็มีไฟแดง และที่สำคัญคือรถติดมากในเวลาเร่งด่วนแบบนี้
“น้อง พี่เป็นวินนะ ไม่ใช่นักบิน จะได้เหาะได้ แหม๋ รีบขนาดนี้ไม่มาตั้งแต่เมื่อวานละ”
วินมอเตอร์ไซด์หันหน้ามาแขวะ ตอนจอดรถติดไฟแดง ก่อนจะขับต่อเมื่อสัญญาณไฟขึ้นสีเขียว
“พี่วินอะ” นิราได้แต่นั่งเงียบ แม้ในใจจะรู้สึกกังวล ซอยที่เธออยู่กับที่ทำงาน มันไกลกันทีเดียว คงต้องทำใจน้อมรับคำด่าตั้งแต่วันแรกแล้วละนิราเอ้ย
@บริษัทนำเข้าและส่งออก
เสือที่หนีออกมาจากคอนโดนิรา ตอนตีห้า เข้ามานั่งทำงานด้วยอาการง่วงหง่าวหาวนอน เมื่อคืนกว่าเขาจะข่มใจได้ ก็เกือบตีสี่ แทบจะไม่ได้นอนเลย เพราะยัยนิราที่หลับอยู่ข้างกาย
“พี่เสือ เลขาคนใหม่ยังไม่มาเหรอครับ ฝ่ายบุคคลแจ้งแล้วใช่ไหม ว่าเมื่อวานผมรับเลขามาให้พี่แล้ว” นรสิงค์ที่รอประชุม เดินเข้าห้องมาถามพี่ชายที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ในห้องทำงานประจำตำแหน่ง
“เหรอ ยังไม่เห็นใครมาเลย นี่ถ้ามาสายเกินชั่วโมงไม่ต้องให้เข้ามานะ ไม่รับ” เสือบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหลับตาลงเอนหลังไปกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ พลางคิดถึงร่างกายที่เขานอนกอดเมื่อคืน
“อ่า หรือคุณนิราเกิดเปลี่ยนใจ” นรสิงค์พูดแค่นั้น ก่อนจะเดินทำหน้าไม่สบายใจออกไป เสือเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง เลขาใหม่ชื่อเหมือนยัยคนเมื่อคืนเลยแฮะ
“คนชื่อนิรามีเยอะแยะว่ะ!”
เสือพูดกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขายังไม่อิ่มจากยัยนั่นเลย รู้สึกเสียดายชะมัด ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้ามาเคลียร์งาน ตอนนี้เขาคงยังนอนกอดก่ายร่างนุ่มนิ่มนั้นอยู่
@ชั้นหนึ่งของบริษัทนำเข้าและส่งออก
นิราเมื่อมาถึงบริษัท ก็รีบเดินกึ่งวิ่งมากดลิฟต์เพื่อใช้มันโดยสารขึ้นไปชั้นบนสุด ตอนนี้เวลา 08.49 น. ไปแล้ว เธอต้องโดนเจ้านายใหม่เพ่งเล็งแน่ๆ ที่มาสายตั้งแต่วันแรกแบบนี้
“คุณเจน นิรายังมีโอกาศไหมคะ” นิราเดินมาถึงโต๊ะก็เห็นเจนจิรานั่งทำงานอยู่แล้ว เจนจิราทำแค่เพียงยิ้มให้นิรานิดๆ ก่อนจะมองสำรวจนิราอีกครั้ง
“ไม่ผ่านค่ะ คุณไม่ยอมใส่ชุดที่เจนเลือก แต่ตอนนี้เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องค่ะ รีบไปเถอะค่ะเพราะเหลืออีกแค่5นาที ก่อนจะหมดโอกาศที่ท่านให้ไว้” เจนจิราบอกพลางชี้ไปที่ห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนิดเดียว
นิรารีบวิ่งมาที่ห้องดังกล่าว ก่อนจะจัดชุดของตัวเองอีกครั้ง เสร็จแล้วก็รวบรวมความกล้า ยกมือเคาะประตูเบาๆ
ก๊อก ๆ ๆ
“เข้ามา”
เสียงทรงอำนาจดังออกมาจากในห้อง นิราจึงเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดลงอย่างเบามือ ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม ไม่ได้มองไปทางโต๊ะทำงาน ที่มีใครสักคนนั่งหันหลังอยู่สักนิด
“สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาวันแรกค่ะ” เธอพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะกลัว
“หึ ถ้าช้ากว่านี้ 1 นาทีผมไม่เอามาใช้งานหรอกนะ วันแรกก็สายขนาดนี้ แล้วงานสำคัญของผมจะไม่พังหมดเหรอ”
เสือยังคงนั่งหันหลังให้คนที่เข้ามาในห้อง เขาไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา คงจะมัวแต่นอนกกกอดผัวอยู่ละสิ ถึงได้มาสาย คนสมัยนี้ก็แบบนี้ ไม่ค่อยตรงต่อเวลา
“ดิฉันขอโทษค่ะ” นิราขอโทษเสียงเบา
“ผมจะสัมภาษณ์ใหม่ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้ทำ”
เสือพูดก่อนจะหันเก้าอี้กลับมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นิราเงยหน้าขึ้นมาพอดี เพราะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดเจ้านายคนใหม่
“แต่คุณนรสิงค์บอกว่ารับฉันทำงานแล้วนะคะ”
นิราเถียงกลับ เธอถูกนรสิงค์นัดเข้าทำงานแล้วนะ แม้เธอจะมาสายหนึ่งชั่วโมงในวันแรกก็ตามเถอะ เธอควรได้ทำต่อสิ ไม่ใช่เริ่มใหม่หมดแบบนี้
“แต่ผมเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้าง”
เสือมองผู้หญิงตรงหน้าที่ให้ความรู้สึกแปลกตามาก เขาจำหน้าเธอได้ แม้ตอนนี้หน้าเธอจะไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า แตกต่างจากเมื่อคืน แต่ความสวยของใบหน้านั้นยังคงฉายชัด เขามั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่แน่ๆ
“ฉัน…” นิราพูดอะไรไม่ออกเลย เธอจะทำยังไงดี ถ้าเขาสัมภาษณ์เองเธอจะได้งานไหม? คนตรงหน้าดูไม่ได้ใจดีเลยสักนิด
“ให้เวลาเตรียมตัวห้านาที แล้วมาเริ่มสัมภาษณ์กัน”
เสือพูดอย่างหงุดหงิด ตอนนี้เขาต้องโฟกัสเรื่องงาน มากกว่าเรื่องที่เธอทำเหมือนว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ ไม่ต้องรอถึงห้านาทีหรอกตอนนี้เลย” เมื่อเธอไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องพุ่งชนกับเขาตรงๆ นี่ละ
“ดี! หวังว่าไอ้สิงค์คงไม่เอาเด็กบ้านนอกมาย้อมแมวเป็นเลขาผมหรอกนะ”
เสือบอกออกไป ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการดูถูกคนตรงหน้าสักนิด ดูยังไงเธอก็แตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ผิวคล้ำที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาว ไหนจะใบหน้าสดที่หมองคล้ำนั่นอีก ทาครีมบ้างไหมเนี้ย หรือยัยนี่จะเป็นฝาแฝดกับคนเมื่อคืนวะ
“อย่าดูถูกคนเพียงแค่เห็นจากภายนอกสิคะ มันดูไม่เป็นผู้นำเลย” นิราพูดออกไปอย่างนึกตำหนิ ตอนนี้เธอยังไม่ใช่พนักงานของที่นี่สักหน่อย มีสิทธิ์พูดเหมือนที่เขาพูดต่อว่าเธอนั่นแหละ“นี่เธอ! / เริ่มเถอะค่ะ เสียเวลา” เสือกำลังจะอ้าปากต่อว่า นิราก็สวนกลับทันที เธอไม่ค่อยยอมใครซะด้วยสิ เมื่อกี้เขาก็ว่าเธอก่อนเลยนะ“แนะนำตัว กับนำเสนอแผนงานเล่มนั้นมาเป็นภาษาจีนสิ” เขารู้ว่าเธอได้ภาษาจีน เพราะดูจากเรซูเม่ที่วางแหมะอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมอง แต่พอก้มหน้าลงไปที่โต๊ะ ก็เห็นมันวางอยู่บนสุดเลย ดูสิภาษาจีนหรือภาษาอะไรที่เธอพูดได้“แผนการขยายยอดการส่งออกปีหน้าในจีน ที่มันลดลงเพราะคู่แข่งของตลาดรถในจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกและนำเข้าในปีหน้ามีแนวโน้วว่าจะลดลง แต่ตามการคาดการณ์ในตลาดหุ้นปีนี้ ยอดการนำเข้ายังสูงอยู่ แม้ลูกค้าจะลดลงแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน” นิราพูดภาษาจีนด้วยความชำนาญ ทันทีที่อ่านแผนการวิเคราะห์ตลาดส่งออกล่วงหน้าหนึ่งปีของบริษัทแบบคร่าวๆ“แต่ถ้าลองขยายการส่งออกไปในประเทศที่กำลังพัฒนาศักยภาพทางด้านการเงินอยู่ตอนนี้ น่าจะดีกว่า อย่างประเทศที่เปิดเสรีด้านการค้าน่าจะมีโอกาศ
“นี่คุณ!” นิราหน้าบึ้งทันที เขาจำเธอไม่ได้ แล้วยังมาพูดเรื่องนี้ออกมาโต้งๆ ได้ไง ถ้าคนอื่นมาได้ยิน จะหาว่าเธอโดนใครที่ไหนปู้ยี้ปู้ยำมานะสิ“ปล่อยได้รึยัง ฉันจะไปแล้ว” นิราไม่รู้จะพูดยังไงดี จึงได้แต่บอกเขาเสียงเบาลง นึกเสียใจที่สูญเสียครั้งแรกให้คนแบบเขา แต่เธอจะเสียใจกว่านี้ ถ้าปล่อยให้ลูกของเขาเกิดมา“ไม่ถามหาความรับผิดชอบเลยเหรอ” เสือว่าเธอต้องจำเขาได้แน่ๆ เพราะท่าทางเธอตอนนี้มันเหมือนว่าเธอรู้จักเขามาก่อน อาจจะก่อนหน้าที่เธอเมา“ทำไมต้องถาม ไม่ต้องการสักนิด” นิราเบะปากให้คนที่ยังจับข้อมือเธอไว้แน่น ท่าทางแบบนั้นมันช่างอวดดีเหลือเกินสำหรับเสือ“งั้นก็ตามมานี่” ในเมื่อเจ้าตัวไม่ต้องการ เขาจำเป็นต้องแคร์ด้วยเหรอ ก็ไม่นี่นา เขาไม่คิดจะรับผิดชอบใครหรอก ผู้หญิงสำหรับเสือก็แค่คู่นอน“นี่คุณปล่อย! ฉันไม่ใช่คนของคุณนะ” นิราขืนตัวไว้ ไม่ให้เท้าก้าวเดินไปตามแรงฉุดที่ข้อมือ อีกมือก็กระชับเสื้อเข้าหากันแน่น เมื่อเขาลากเธอออกมาจากห้อง“คุณเจน ช่วยพายัยนี่ไปซื้อยาคุม เสร็จแล้วพาไปแต่งตัวใหม่ซะ เอาแบบที่ผมชอบนะ พากลับมาหาผมก่อนเที่ยง เอาแบบดูเป็นผู้เป็นคนด้วยล่ะ” เสือออกมาสั่งงานเลขาของน้องชาย
เสือที่นั่งประชุมอยู่ ได้แต่เบนสายตามองนาฬิกาตลอดเวลา ป่านนี้เจนจิราจะพาเธอกลับมารึยังนะ หรือเธอจะแอบหนีเขาไปแล้ว“ท่านคะ แผนงานปีหน้า จะทำยังไงดีค่ะ กับยอดขายที่ลดลง” พนักงานฝ่ายขายเอ่ยถามความเห็นจากประธานบริษัท“เราจะเปลี่ยนแผนการนำเข้าและส่งออกทั้งหมด ลดการนำเข้า และเน้นส่งออกแทน” เขาจำที่นิราเสนอมาให้เมื่อเช้าได้ขึ้นใจ“แต่ส่งออกมันได้กำไรน้อยกว่านำเข้านะคะ” พนักงานอีกคนแย้งการนำเข้ารถแพงๆมาขาย ได้กำไรเยอะกว่าส่งออกรถราคากลางๆไปขายซะอีก แม้กำลังซื้อในประเทศจะลดลง แต่มันก็น่าจะมีกำไรมากกว่าส่งออกอีกนะ“ถ้านำเข้ารถ10 ล้านมาขาย ได้เดือนละคันสองคัน กับส่งออกรถราคา 2 ล้าน เดือนละ 30-40 คัน คุณคิดว่ายังไงละ” เสือถามกลับ รถที่ผลิตในไทยภายใต้การนำของเขา มีคุณภาพเทียบเท่ารถจากต่างประเทศ แต่ที่เขานำเข้ารถมาขายมากกว่าจะโปรโมทรถตัวเอง เพราะคนไทยคิดว่าอะไรที่มาจากต่างประเทศจะดีกว่ารถที่ผลิตในไทย ทั้งที่รถที่ผลิตในไทยหลายรุ่น คุณภาพดีกว่ารถนอกด้วยซ้ำ“มีใครค้านเรื่องนี้ไหม หรือถ้าคำนาณแล้วผลกำไรมันไม่คุ้มค่า ก็เตรียมเปิดธุรกิจใหม่” เสือยังคงพูดต่อ“คะ/ครับ ธุระกิจใหม่” คนในห้องประชุมต่างส่ง
พรึ่บ!“มาตกลงกันก่อน ถ้าถูกใจจะพาไปกินข้าว” เสืออุ้มเธอมาวางลงบนตัก ก่อนเขาจะเอนหลังไปกับโซฟา ด้วยท่าทีสบายๆ“เราไม่มีอะไรต้องตกลง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พลาดก็คือพลาด ตอนนี้ฉันกินยาคุมแล้ว คุณไม่ต้องห่วง” นิราพูดเสียงเบา“คิดว่ายานั่นจะได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์กัน” เสือถามนิราด้วยใบหน้าจริงจัง พอต้องมาคุยเรื่องแบบนี้ กลับไม่ได้รู้สึกลำบากใจอย่างที่คิด“……. ก็น่าจะ50/50” นิราไม่กล้าบอกไปมากกว่านี้ มันมีเคสที่ตั้งท้องทั้งที่กินยาคุมให้เห็นเยอะแยะ“มาทำงานให้ฉัน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ท้อง” เสือยื่นคำขาด“แต่ฉัน….” นิราจะเลือกอะไรดีละ เธอมีทางเลือกอื่นอีกไหมเนี้ย อยู่กับเขาเธอเปลืองตัวมาก“5 หมื่นกับงานเลขา แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็มานอนกับฉัน” เสือคิดว่าผู้หญิงทุกคน คงอยากจะกระโจนเข้าใส่แน่ๆ ถ้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ออกไป“ใครเขาจะอยากนอนกับคุณ ปล่อยได้รึยัง ฉันหิวแล้ว ฉันจะรับแค่งานเลขาเท่านั้น” นิราพูดจบก็ตั้งท่าจะลุกจากตักแกร่งที่กักขังเธอมาเนินนาน“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ ฉันเด็ดนะ เทคนิคก็แพรวพราว ฉันว่าเธอต้องติดใจแน่ๆ” เสือพูดอ้อยอิ่งชิดลำคอระหง เขาใช้มือรวบผมสีดำทั้งหมดของเธอไปไว้ด้านข้าง กดริมฝีปากค
“ห้าแสน เป็นผู้หญิงของฉันสองเดือน” เขาคิดว่าสองเดือน ตัวเองก็น่าจะเบื่อเธอแล้วแหละ เพราะคนอื่นๆ ก็ไม่เกิน 2ครั้งด้วยซ้ำ แต่ตั้งไว้สองเดือน ก็เผื่อติดใจเธอ จะได้ไม่ต้องเริ่มคุยใหม่“เอาเงินไปบริจากเถอะค่ะ” นิราพูดจบก็เดินไปที่เตียงรวบผ้าห่มดึงออกจากตัวเขาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด“ลุกค่ะ ฉันจะเปลี่ยนที่นอน นอนไปได้ยังไงทั้งที่มันเลอะขนาดนั้น” นิรามองเตียงสีชมพูที่มันเลอะคราบเลือดของเธออยู่ เขาไม่อาย แต่เธออายไง“เธอใจแข็งชะมัด” เสือเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างขัดใจ ปล่อยให้นิราเดินไปจัดที่นอนเงียบๆ“จะไปไหนอีก” เสือเห็นนิราเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาถือไว้“จะไปอาบน้ำค่ะ ฉันเหนียวตัวมากๆ เพราะไอ้ครีมที่ทาอยูบนตัวนี่ หวังว่าออกมาจะไม่เจอคุณนะคะ อ่อ! ฉันไม่ได้ไล่นะ แต่รีบไปเลยค่ะ”ปึ่งนิราเดินไปปิดประตูห้องน้ำใส่เขาทันที ไม่สนใจเสือที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทำไมเขาต้องกลับ หน้าด้านซะอย่าง ของกินที่เขาสั่งมาเยอะแยะ ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ เขาเป็นคนจ่ายเงิน เขาควรได้กินมันสิกริ่งๆ กริ่งเสือนั่งรอเกือบชั่วโมง ก็มีคนมากดกริ่ง สงสัยว่าจะเป็นคนส่งอาหารนั่นแหละแก๊ก!“คุณยังไม่กลับอีกเหรอ” นิราที่รีบออกมาเพร
“มีอะไร” เสือถามเมื่อรับรู้ว่านิราหยุดมือลง“พอแล้วไงคะ นี่เย็นมากแล้ว” นิราพูดจบก็เดินออกไปจากห้องไม่สนใจเสืออีกเลย เสือได้แต่ทำหน้างง มองแผ่นหลังแบบบางที่เดินจากไปจะรู้สึกหวงทำไม ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกัน นิราได้แต่คิดในใจ“คุณเจนจะกลับแล้วเหรอคะ” นิราเดินออกมา เจอเจนจิราที่กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านพอดี“ป่าวค่ะ เจนมีธุระที่ต้องไปต่อ คุณนิราไปด้วยกันไหมคะ ร้านเหล้าน่ะ” เจนจิราบอก และถามนิราทันที บางทีมีเพื่อนดื่มก็น่าจะดีกว่าดื่มคนเดียว“จะไปไหนต่อครับสาวๆ ผมไปด้วยสิ” นรสิงค์ที่กำลังจะกลับบ้าน เดินออกมาพอดีเลยได้ยินเจนจิราชวนนิราไปร้านเหล้า“ถ้าท่านเลี้ยงนะคะ” เจนจิราพูดอย่างห่างเหินมากกว่าปกติ จนนรสิงค์ต้องย่นคิ้ว“ถ้าไม่เลี้ยง จะไม่ให้ไปด้วยเลยเหรอครับ” เธอไม่เคยไปไหนกับเขา นอกเหนือเวลางานเลยสักครั้ง“ค่ะ” เจนจิราตอบรับ ไม่ได้อยากให้คุณสิงค์ไปด้วยสักนิด“คุณเจนไปร้านไหนไลน์บอกนิราหน่อยนะคะ เดี๋ยวนิราตามไปค่ะ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดแป๊ปนึงค่ะ” นิราพูดจบก็ก้าวเดินจากไปเพราะเธอมีไลน์เจนจิราอยู่ เดี๋ยวค่อยถามชื่อร้านเอาทีหลังก็ได้“สรุปจะไปไหมคะ” เจนจิราถามคนที่ยืนมองเธอนิ่งๆ เหมือนกำลัง
นิราเดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะมองหาเจนจิรา ทางโซนที่เธออ่านมาจากในไลน์ เห็นเจนจิรากวักมือเรียกอยู่ด้านในสุด โดยที่ข้างกายคุณเจน คือคุณสิงค์รองประธานสุดหล่อนั่นเอง“อ่า! คุณสิงค์ก็มาเหรอคะ” นิราถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ ตัวที่นรสิงค์ลุกขึ้นดึงออกมาให้เธอใช้นั่ง“ถ้ากลัวว่ามีผมแล้วมันจะไม่สนุก ผมไปนั่งที่อื่นก็ได้นะครับ” นรสิงค์พูดอย่างเกรงใจสองสาว ในขณะที่เจนจิรานั่งดื่มเงียบๆตั้งแต่มาถึงร้าน“ไม่เป็นไรค่ะ หลายคนสนุกดี จริงไหมคะคุณเจน” นิรายิ้มแย้มให้เจนจิรา แม้เธอกับเจนจิราจะอายุเท่ากัน แต่นิราก็ยังติดเรียกคุณอย่างให้เกียรติเสมอ“เรียกเจนเฉยๆ เถอะค่ะ เราเพื่อนกันนี่นา ถ้าไม่สะดวกใจก็ค่อยเรียกแบบปกติตอนทำงานก็ได้ค่ะ” เจนจิรายกยิ้ม เธอเป็นคนที่ยิ้มได้สวยมากๆ แต่นิราแทบจะไม่เคยเห็นเจนจิรายิ้มเลย หรือเห็นแทบจะนับครั้งได้“ยิ้มแล้วสวยมากครับ”นรสิงค์พูดชมกับภาพที่เขาเห็น ตอนนี้เจนจิราหน้าขึ้นสีนิดๆ ดูน่ามอง ไหนจะรอยยิ้มที่แต่งแต้มใบหน้าสวยหวานของเธอนั่นอีก เจนจิราสวยมาก“สวยแต่ไม่ถูกใจ” เจนจิราพึมพำเบาๆอยู่คนเดียว เพราะคุณสิงค์หันไปชนแก้ว กับผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ที่ยิ้มให้เขารา
“ค่ะ ฉันชื่อนิรา” นิราบอกยิ้มๆ เธอไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง เธอเปิดโอกาศให้ทุกคน แต่ไม่ได้เปิดใจให้ใครขนาดนั้น พอคุยแล้วไม่ถูกใจเธอก็บาย ไม่อยากเสียเวลา และไม่เคยเสียตัวให้ใครเลยยกเว้นเสียให้คุณเสือตอนเมานั่นแหละ รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่เสียให้คนไม่เห็นคุณค่ามันแบบเขา แต่เธอพลาดเอง จะพูดอะไรได้ละ รู้ว่างานร้านเหล้ามันอันตราย แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับตัวเองจนได้“มีแฟนรึยังครับ ทำไมมาคนเดียว เหงาเหรอ” ตรินถามพลางยิ้มกริ่ม มือไม้เริ่มขยับ นี่คือตัวตนจริงๆ ของเขา ที่ซ่อนมันไว้ภายใต้รูปลักษณ์ของนายแว่นที่แสนดี“ค่ะ มาคนเดียว/ มากับผัว และกำลังจะกลับไปนอนเอากันแล้วด้วย” เสือตะโกนใส่คนทั้งคู่ ก่อนจะดึงแขนนิราให้ลุกขึ้นยืน เขามองมาที่เธอตลอด จนไม่ได้สนใจผู้หญิงที่มาด้วยสักนิด ก่อนจะเดินมาหาเธออย่างร้อนรน เมื่อผู้ชายคนนั้นกำลังลูบไล้แผ่นหลังของนิรา“ผัวเหรอ? เสียเวลาชิบหาย!” ตรินพูดจบก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด“คุณเสือ! ใครเมียคุณ” นิรายืนกอดอกมองเสือนิ่งๆ ไม่คิดจะขยับไปไหน เธอเพิ่งสั่งเหล้าไป และดูเหมือนจะได้จ่ายเองด้วย เพราะเขาไล่คนที่อาสาจ่ายค่าเหล้าให้เธอไปแล้ว“เธอเป็นเมียฉัน” เสือย้ำชัดๆ เขาได
“ทำไมไม่กลับบ้านเลยละ” เสือเดินออกมาถามลูกสาว ที่ยังไม่ยอมเข้าไปในบ้าน ข้างๆ เขาคือภรรยาและลูกสาวคนกลาง“ทำไมต้องกลับมาที่นี่ละคะ งานยุ่งจะตาย ตอนนี้คุณพ่อก็มีทุกอย่างครบแล้วนี่คะ จะแคร์ทำไม กับอีแค่ลูกคนเดียวไม่กลับมาบ้าน”ทุกครั้งที่เธอกลับมา เธอจะระเบิดความน้อยใจที่อัดอั้นไว้ทุกครั้งและหนีกลับไป แค่ดูเหมือนครั้งนี้จะแตกต่าง เพราะไอ้ตัวแสบที่กอดเธอไม่ปล่อย จึงไม่สามารถกลับขึ้นรถที่อยู่ห่างออกไปเพียงนิดเดียวได้เลย“นินทำไมพูดกับพ่อแบบนั้นละลูก”“แม่ก็เข้าข้างพ่อตลอด อยากรู้ไหมทำไมหนูถึงไม่อยากกลับ ก็เพราะว่าที่นี่ไม่ต้องการผู้หญิงแบบนินไง”นิรากำลังจะเอื้อมมือไปดึงลูกสาวของเธอที่กำลังร้องไห้น้อยอกน้อยใจอย่างทุกทีที่กลับมาบ้าน แต่คนเป็นสามีกลับเดินไปถึงตัวเธอก่อน แล้วดึงเธอมากอดไว้อย่างหวงแหน“ใครบอกครับว่าพ่อไม่ต้องการนิน พ่อรู้ว่าที่นิน ทำทุกอย่างจนมันเหนื่อย พ่อผิดเองที่ยกทุกอย่างให้นินดูแล แต่เพราะว่านั่นคือสิ่งที่พ่อเชื่อมั่น ว่านินทำได้ พ่อถึงยกให้ นินมีค่านะครับมีค่ากับพ่อและน้องทุกคน และนินมีค่าที่สุดกับแม่”“พ่อขอโทษที่ทำให้เสียใจ เพราะพ่ออยากได้ลูกชายมากจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าพ่อ
“พี่แพท จะไปเที่ยวกับลินินไหมคะ”“ทำไมต้องไป” แพทริคพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อยัยเด็กไม่รู้จักโตยื่นหน้ามาใกล้“ก็ลินินกับมิรินเพิ่งเคยมา ไม่รู้จักที่นี่เลย นะคะ” เด็กน้อยให้เหตุผลแกมออดอ้อน ถึงพ่อจะพาไปเที่ยวบ่อยๆ แต่ที่นี่เพิ่งเคยมาจริงๆ“นะก่ะ” มิรินวัยสามขวบแล้วแต่พูดยังไม่ชัด เอ่ยปากพูดตามพี่สาว ก่อนที่เพเทอร์จะหัวเราะ โตแล้วแต่เธอยังพูดไม่ชัดเลย“ฟันหลอรึเปล่า ทำไมพูดไม่ชัด” เพเทอร์เป็นเด็กซนต่างจากพี่ชายที่นิ่งๆ เพเทอร์พูดจบก็จับใบหน้าน้องเล็กที่สุด แล้วเอามือไปดูฟันของน้องจริงๆ“ฮาฮา มิรินฟันหลอ” เพเทอร์หัวเราะสนุกสนาน และเด็กน้อยวัยสามขวบก็หัวเราะตามผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันอยู่ถึงกับส่ายหน้ากับเด็กๆ“พักผ่อนกันก่อนนะครับ พรุ่งนี้ค่อยพาเด็กๆ เที่ยว” อภิวัฒน์ พูดจบก็จับมือภรรยาลุกขึ้น“เด็กๆ ต้องกลับแล้ว น้องจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมา” สิ้นเสียงเรียก เด็กชายทั้งสองก็วิ่งมาทางพ่อแม่ ก่อนจะวิ่งออกไปทางประตูโดยไม่รอใครเลย“เราก็ไปพักกันดีกว่า” นิราเดินมานั่งกับลูกสาวทั้งสอง ก่อนจะอุ้มมิรินไว้ในอ้อดกอด ส่วนลินินก็พยายามจะขึ้นมาขี่ที่หลังของนิราด้วยความลำบาก“ลิ
ตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง เธอกับเขาทำเพียงแค่นั่งคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เพราะรู้จักกันไม่นานเธอกับเขาก็มีลูก และใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเลี้ยงลูกและดูแลคนในครอบครัว จึงแทบไม่ค่อยได้คุยกันจริงจังแบบนี้เลยสักครั้งและการคุยกันแบบนี้มันช่างสนุก และมีความสุข เหมือนเธอกับเขาเพิ่งจะได้คุยกันเหมือนแฟนเป็นครั้งแรกเสือมองหน้าแดงระเรื่อของภรรยา ส่วนปากเธอก็ขยับคุยเรื่องของเธอให้เขาฟังไม่หยุด เมื่อไหร่จะเมาเนี้ย หมดไปสองขวดแล้วนะ“สนุกไหมครับ” เสือถามคนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม คงจะคอแห้งนั่นแหละ เล่นพูดไม่หยุดแบบนี้“ทั้งๆ ที่แต่งงานกันมา8 ปีแล้ว เพิ่งจะได้มาทำอะไรที่เหมือนแฟนกันครั้งแรก” นิราบอกด้วยรอยยิ้ม วันนี้เธอมีความสุขนะ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีความสุขดี แต่การคุยกันแบบนี้ก็ทำให้เธอเข้าใจพี่เสือมากขึ้น“ครับ พี่ก็รู้สึกแบบนั้น”เสือปัดปอยผมออกให้ภรรยา ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด รอไม่ไหวหรอก ถ้ารอให้ยัยนี่เมาเขาต้องหลับก่อนแน่ๆเสือวางเธอลงบนเตียงกว้าง ทั้งยังสบตาคนที่มองเขาอยู่ตลอด เขาจะลองเสี่ยงดวงอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ไม่ท้อง เขาก็จะตัดใจเรื่องลูกชาย จะไปทำหมันแล้วนิราพลิกตัวขึ้นมาคร่อมทับคนที่
3 ปีผ่านไป“คุณพยัคฆ์ค่ะ ช่วยเซ็นอนุมัติการผลิตรถรุ่นใหม่ด้วยค่ะ”เลขาคนสวยที่มากด้วยความสามารถเดินเข้ามาวางเอกสารลงบนโต๊ะของเสือ ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนให้เจ้านายสุดหล่อของเธอเธอเพิ่งจะมาทำงานได้เดือนเดียว เพราะคนเก่าของคุณพยัคฆ์ลาออกไป มันจึงเป็นโอกาศเหมาะที่เธอจะได้ทำงานเลขาให้เขาพยัคฆ์ตรงหน้าดูหล่อเหลา และภูมิฐาน แม้จะอายุ 38 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูดีไปหมดทุกอย่างแก๊ก ปังงงงงงงนิราเปิดและปิดประตูลงเสียงดัง จนเลขาที่กำลังสงสายตาให้พยัคฆ์อยู่สะดุ้งทันที ก่อนเธอจะมองนิราที่เข้ามาใหม่อย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน เธอไม่เคยเห็น ก็สวยอยู่หรอกแต่ดูท่าทางไม่น่าจะใช่สเปคเจ้านายเธอ“บริษัทของพี่ทัศติดต่อมา ให้พี่เสือบินไปต่างประเทศด่วน ไม่ได้อ่านไลน์เหรอคะ”นิราไม่สนใจเลขาคนใหม่ของสามี แต่เดินมาหยุดหน้าโต๊ะ แล้วถามสามีนิ่งๆตอนนี้เธอทำหน้าที่ประสานงานกับบริษัทคู่ค้าทั้งหมดของอัครโยธินกุล และบริหารร้านเบเกอรี่ จึงต้องเข้าออกบริษัทบ่อยครั้ง แต่เลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามายังไม่เคยเจอเธอ และคงไม่รู้ว่าสามีเธอแต่งงานแล้ว มีลูกด้วยกันกับเธอถึงสองคน“ครับ พี่ยุ่งอยู่ยังไม่ได้อ่านไลน์ เดี๋ยวเสร็จนี
เสือพานิราอยู่ที่สวิตฯเดือนเดียวจริงๆ แต่ก็ถือว่าเที่ยวได้เยอะพอสมควร เพราะได้ครอบครัวของเมลานีที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆ นำเที่ยวตลอด และตอนนี้ครอบครัวของเธอก็ยังอาสามาส่งที่สนามบินอีกด้วย“ถ้าคลอดแล้ว พาลูกสาวมาเที่ยวบ้างนะคะ” เมลานี บอกกับเสือและนิราที่นั่งรอขึ้นเครื่อง“แพทริคอยากไปหาน้องบ้าง” แพทริคที่พูดได้คล่อง บอกเบาๆ พลางวางมือลงบนท้องน้อยๆ ของนิรา“ถ้าน้องคลอดแล้ว จะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้แพทริคนะคะ” นิราลูบหัวเด็กชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู แพทริคชอบมาหาเธอบ่อยๆ และบ้านของเมลานีก็คอยช่วยเหลือเธอกับเสือมาตลอดหนึ่งเดือน“สัญญานะครับ”“จ้า” นิราเกี่ยวก้อยสัญญากับลูกครึ่งไทย-สวิตฯ ที่โตขึ้นต้องฉายแววความหล่อเหมือนแม่กับพ่อแน่ๆ“เดินทางปลอดภัยนะครับ” สามีของเมลานี ยกมือขึ้นจับเสือเป็นการกล่าวลา ก่อนจะพาเด็กๆ และภรรยาเดินจากไป“กลับบ้านเรากันเถอะครับ”เครื่องบินลำใหญ่ พาเสือกับนิรามาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ก่อนคนทั้งคู่จะขึ้นรถที่คุณหญิงส่งไปรับกลับมาที่บ้านของตัวเองเท่านี้ก็ถือว่าเขากับเธอปลอดภัยแล้วที่เหลือก็ใช้ชีวิตปกติ และรอแค่ลูกคลอดเท่านั้น“พี่เสือของขวัญเต็มบ้านเลยค่ะ” ทันทีที่เปิดเข
ก๊อกๆๆเหมือนผีจะหลอกเขากลางวันแสกๆ เพราะเสือไม่เห็นใครเลยแต่เสียงเคาะประตูยังดังอย่างต่อเนื่อง เสือจึงต้องเปิดประตูออกไปดู ว่าผีที่ไหนมาเคาะประตูบ้านกลางวันแสกๆ“Gruetzi”ทันทีที่เสือเปิดประตูออกไป ก็เจอเด็กคนนึงยืนยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดอะไรก็ไม่รู้“????” เสือทำหน้างงอย่างหนัก เด็กผีนี่มาจากไหน ทำไมพ่อแม่ปล่อยออกมาเล่นคนเดียวแบบนี้ แถมพูดอะไรที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง“Was musst du tun, Kind?” เสียงผู้หญิงที่ออกมาจากบ้านข้างๆ ตะโกนมาทางเขาและเด็กชายตัวน้อยเสือเข้าใจว่าคนสวิตฯส่วนใหญ่ใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสาร แต่เขาไม่มีความรู้เรื่องภาษาเยอรมันเลย เพราะเขาทำธุรกิจอยู่โซนเอเชีย ที่เน้นหลักทางจีน ภาษาจีนกับอังกฤษจึงเป็นภาษาที่เขามั่นใจมากที่สุด“สวัดดีค่ะ” ผู้หญิงที่เพิ่งออกมาจากบ้านข้างๆ เดินมาใกล้ก่อนจะพูดเป็นภาษาไทย เมื่อคนตรงหน้าเธอมีสีหน้างงๆ“ครับ?? คนไทย?”“เปล่าค่ะ แต่สามีฉันเป็นคนไทย” ผู้หญิงที่ดูยังไงก็เป็นชาวต่างชาติ พูดด้วยภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัด แต่เสือกลับฟังรู้เรื่องกว่าภาษาที่เธอกับเด็กคนนี้พูดออกมาก่อนหน้านั้น“แพทริค ทำไมไม่สวัสดีละ แล้วการที่มาเคาะบ้านคนอื่น รู้ไหมมันเสียมารย
“พี่เสือเร็วหน่อย”นิราเอ่ยเร่งคนที่ทำหน้าที่ยกกระเป๋าเดินทางลงจากรถ ทั้งของเธอกับเขา เสือได้แต่ส่ายหัวกับความตื่นเต้นของเธอ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะตื่นเต้น ก็นี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาต่างประเทศอะเนอะ“ถ้าวิ่งพี่จะตีจริงๆ นะนิว” เสือดุคนที่เดินนำเขาไปทางบ้านพักหลังไม่ใหญ่นัก ใกล้ๆ ทะเลสาบลูเซิร์นที่เปรียบเสมือนหัวใจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์“ขอบคุณนะคะที่พามา” นิราหันมาขอบคุณผู้ชายที่เธอรักที่สุด ก่อนกระชับเสือโค้ทกันหนาวแน่นขึ้นตอนนี้เพิ่งจะต้นเดือนมีนาเอง อากาศเลยยังหนาวอยู่นิดหน่อย แต่มันก็หนาวน้อยกว่าช่วง ธันวา-กุมภา อยู่ดี“ต้องไปขอบคุณมิล ที่ยกบ้านพักตากอากาศให้เรามาอยู่ฟรีๆ ถึงสองเดือน”ทันทีที่เสือเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆ ฟัง และบอกว่าแม่เขาให้ไปพักผ่อนที่ต่างประเทศจนกว่าท่านจะจัดการเรื่องเสร็จ อรุณก็ต่อสายหามัลลิกา และเธอก็เสนอบ้านพักตากอากาศสุดหรู ริมทะเลสาบลูเซิร์นให้ทันที“พี่มิลบอกว่าเป็นของขวัญแต่งงานค่ะ” เธอคุยกับมัลลิกาแล้ว และพี่มิลยังบอกอีกว่า สงสารที่พี่เสือไม่เคยพาเธอไปฮันนีมูลเลย จึงยกบ้านพักให้เธอกับพี่เสือมาฮันนีมูลนั่นแหละ“ของขวัญที่คนให้วันแต่งเกาะยังไม่หมด
“รู้แล้วค่ะ โอ้ยมันจักจี้” นิราหลบคนที่เอาแต่แกล้งเธอ ด้วยการถูจมูกไปตามซอกคอ จนไรหนวดน้อยๆ นั่นทิ่มผิวเธอจนเกิดรอยแดงจางๆ“ไม่รักพี่เหรอครับ” เสือหยุดทุกการกระทำ ก่อนจะมองหน้าคนที่เขารักนิ่งๆ เธอไม่ค่อยบอกรักเขาเลย จนสงสัยว่าเธอรักเขาจริงหรือเปล่า“ถ้าไม่รักจะยอมเอาตัวเข้าแลกไหมละคะ มันจะมีผู้หญิงบ้าที่ไหน เอาตัวไปยั่วยวนคนที่ตัวเองไม่ได้รักละ” นิราพูดด้วยเสียงแผ่วเบา คิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ต้องอายหน้าแดงทุกที“ยั่วพี่บ่อยๆ นะ ไม่งั้นพี่จะทิ้งจริงๆ ด้วย”เสือชอบแกล้งเธอนะ เวลาที่เธอโกรธจนใบหน้าเล็กๆ นัั่นบูดบึ้งมันน่าหมั้นเขี้ยวที่สุด“ก็ลองดูสิคะ” นิราเลื่อนมือลงไปตามหน้าอกกว้าง ก่อนจะออกแรงบิดเมื่อเจอเป้าหมาย“โอ้ยยยย! ยัยบ้า พี่เจ็บนะ” เสือลูบหัวนมตัวเองปอยๆ ยัยนี่เป็นอะไรกับหัวนมนักหนาเนี้ย เดี๋ยวกัดคืนซะเลยนิ“ก็พูดไม่เข้าหู ถอยไปเลยค่ะ นิวจะไปอาบน้ำ ช้ากว่านี้เช้าพอดี” นิราดุคนที่ทิ้งตัวนอนลงบนที่นอน ทั้งยังกอดเอวเธอไว้หลวมๆ จนเธอขยับไปไหนไม่ได้เลย นี่มันจะเช้าแล้วนะ ตีสองแล้ว ขืนดึกกว่านี้เธอจะไม่อาบน้ำแล้วนะ“ไม่อาบก็ไม่เป็นหรอก นอนเถอะครับมันดึกแล้ว” ไม่อยากให้เธออาบน้ำดึกๆ เท
“ไม่เอาอย่าร้อง เดี๋ยวลูกในท้องจะเสียใจ อ่านคู่มือไหมเนี้ย เขาบอกว่าคนท้องห้ามเครียด ห้ามๆๆ เข้าใจไหม” มัลลิกาเช็ดน้ำตาให้นิราเบาๆ เห้อ!! เหมือนแม่ยัยเด็กนี่เข้าไปทุกที เธอแย่งคนที่ฉันรักไปนะยะ ยังจะมาอ้อนอะไรฉันแบบนี้อีก“นิวเป็นห่วงพี่เสือ”“รู้แล้วๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพาไปรอที่บ้านคุณแม่ จะได้มีคนอยู่ด้วย” มัลลิกาจับมือนิราไว้เบาๆไม่กล้าไปส่งเธอไว้บ้าน เพราะไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว ตอนนี้แม่ของยัยเด็กนี่อยู่ที่บ้านคุณหญิงทิพย์อาภา เพราะคุณหญิงไม่อยากให้นิรารับภาระดูแลแม่ป่วย ท่านจึงอาสาดูแลให้ทั้งหมด ยัยนี่โชคดีขนาดไหนที่มีแม่สามีดีขนาดนี้ปังงงงงงงเสือเปิดประตูเข้ามาในร้านอย่างแรง จนประตูแบบผลัก ชนกันเสียงดัง เรียกให้นิรา มัลลิกา และเมธาวีที่เป็นผู้จัดการร้าน หันไปมองอย่างตกใจ“ขอโทษ!! นี่รีบมาแล้ว นิวกลับบ้านกันเถอะ”เสือเบาเสียงในตอนท้าย เมื่อนิราเดินแกมวิ่งมากอดเขาแน่น อย่างไม่คิดว่าตัวเองจะท้องอยู่สักนิด“ไปไหนมาคะ”“เดี๋ยวถึงบ้านพี่เล่าให้ฟังนะครับ” เสือแกะคนที่กอดเขาออกเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเป็นห่วงเธอมาก อยากจะมาหาเธอตั้งแต่ออกจากบริษัท แต่ก็วางใจเพราะมีมัลลิกาอย