3 ชั่วโมงต่อมา
ร่างสูงสง่าดูภูมิฐานของนรสิงค์ หรือคุณสิงค์ ผู้นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่แห่งนี้ เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง หลังจากเสียเวลาอยู่ในห้องประชุมนานกว่าปกติ
วันนี้เขาต้องเป็นประธานในการประชุม แทน คุณพยัคฆ์ หรือเสือ พี่ชายที่หนีไปหาคู่หมั่นคนสวยตั้งแต่เช้า หรือบางทีอาจจะตั้งแต่เมื่อคืน
“คุณรอนานไหมครับ”
นรสิงค์ถามผู้หญิงที่นั่งผงกหัวกับโซฟา เธอคงจะง่วงเพราะรอเขาตั้งนาน ไหนจะตาหวานเยิ้มที่มองเขานั่นอีก นี่เธอตื่นรึยังเนี้ย
“ต้องถามด้วยเหรอคุณ คุณก็น่าจะรู้เรื่องเวลาดีที่สุด”
นิราบ่นให้คนที่ดูนาฬิกาก่อนจะถามเธอด้วยซ้ำ
“อ่า งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ คุณมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเลขาของท่านประธานสินะครับ ผมชื่อนรสิงค์ หรือสิงค์ เป็นรองประธานที่นี่ครับ”
นรสิงค์เอ่ยแนะนำตัว ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์เธอทันที
“ชื่อนิรา อายุ 25 จบโทบริหาร พูดได้ 3 ภาษา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น” นรสิงค์ทวนข้อมูลในเรซูเม่ของเธอช้าๆ การศึกษาเธอดีมากแม้จะจบจากมหาลัยต่างจังหวัดก็เถอะ ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
“คุณพร้อมเริ่มงานวันไหน” นรสิงค์ถามนิราที่นั่งเงียบ นี่เขาสัมภาษณ์งานหรือแค่อ่านประวัติเธอกันแน่
“คุณรับฉันทำงานเหรอคะ” นิราถามย้ำอีกครั้ง
“ครับ คนที่คุณต้องทำงานด้วยคือพี่ชายผมที่เป็นประธานของที่นี่ แค่คุณสมบัติคุณผ่านก็พอ พวกความรู้ค่อยเอามาใช้ตอนทำงานแล้วกันนะครับ” นรสิงค์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณให้ฉันนั่งรอเกือบ4ชั่วโมง แล้วพูดกับฉันแค่10 นาทีนี่นะ” นิราไม่รู้จะดีใจหรือโมโหดี ไอ้ประโยคสามภาษาที่เธอเตรียมมาสัมภาษณ์ ไม่ถูกนำออกมาใช้เลยสักนิด
“แต่ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีนี่ครับ”นรสิงค์ยิ้มน้อยๆ ชอบใจที่ได้คุยกับเธอ เด็กผู้หญิงผิวสองสีที่มีสีผมดำสนิทล้อมกรอบใบหน้าแสนหวานไว้ โชคดีที่เขาเหยียบแว่นตาเธอพัง จึงได้มีโอกาศได้เห็นใบหน้าเธอชัดๆ และมันก็ถูกใจเขามากเลยละ
“งั้นฉันขอเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยได้ไหมค่ะ แล้วเงินเดือนฉันจะได้ตามที่ยื่นไปรึเปล่า”
นิราเอ่ยถามเบาๆ กับผู้ชายตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด ทั้งรูปหน้าที่เกลี้ยงเกลา จมูกโด่ง แต่ที่โดนเด่นที่สุดคงจะเป็นสีผม ที่เขาย้อมเป็นสีเทาอย่างมั่นใจ และมันก็เขากับใบหน้าเขาเป็นอย่างดี
“ได้ครับ เงินเดือนสองหมื่นห้า ผมว่าไม่น้อยนะกับการเพิ่งเริ่มงาน แต่ถ้าคุณมีความสามารถมากพอ ผมเชื่อว่าไม่นานเราได้ปรับเงินเดือนให้คุณแน่ สู้ๆ นะครับ” นิราได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา พร้อมกับคำพูดแสนอ่อนโยนของคุณนรสิงค์
“เอ่อ คุณนรสิงค์ ชุดที่ฉันใส่มันน่าเกียจสำหรับงานของพวกคุณรึเปล่า” นิราไม่มั่นใจเลย สงสัยมันคงดูไม่เหมาะกับบริษัทใหญ่ขนาดนี้นั่นแหละ ถึงได้มีแต่สายตาดูแคลนส่งมาให้
“คุณไม่มั่นใจเหรอ งั้นไปกับผมสิ” นรสิงค์เดินมาจับมือนิรา เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
“คุณเจนครับ ไปกัน ไปช่วยผมเลือกชุดให้เลขาคนใหม่ของพี่เสือที” นรสิงค์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีให้เลขาสาวที่มองมาอย่างสงสัยภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยที่ไม่แสดงความรู้สึก
“เชิญนำไปก่อนเลยค่ะ เจนขอหยิบกระเป๋าก่อน” เจนจิราพูดด้วยเสียงนิ่งๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามไป รวมทั้งเอกสารหลังการประชุมเมื่อครู่ด้วย
คนขับรถของนรสิงค์ พาคนทั้งสามมาที่ห้างขนาดใหญ่ นิราที่นั่งตัวเกร็งมาตลอดทาง เพิ่งจะได้หายใจหลังจากลงรถมายืนที่พื้นทางเดินของห้าง
“ไม่เคยมาเหรอ” นรสิงค์ถามนิราที่ยืนด้วยท่าทางประม่า เธอเป็นคนสวยที่ไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย เหมือนเด็กน้อยที่โตแต่ตัว
“ไม่เคยหรอกค่ะ เคยไปแต่โลตัส” นิราบอกความจริงก่อนจะเดินตามนรสิงค์เข้าไปในห้าง โดยมีเจนจิราเดินตามหลังคนทั้งคู่
“แว่นตาผมไม่ซื้อให้นะ ไม่ต้องใส่หรอก สายตาก็ไม่ได้สั้นไม่รู้จะใส่ทำไม ผมชดเชยเป็นเสื้อผ้าพวกนี้แล้วกันนะ คุณเจนรบกวนด้วยนะครับ ช่วยเลือกแบบที่พี่เสือน่าจะชอบ”นรสิงค์พูดยิ้มๆ
ที่จริงก็นึกชอบนิราอยู่หรอก แต่เขามีคนในใจอยู่แล้ว
แต่ที่ถูกใจนิรานั้น เพราะเธอเป็นสเปกของพี่ชายต่างหาก ถ้าหาของสวยๆ งามๆ ใส่พานไปถวายให้พี่ชายได้ พี่เขาจะได้ดุน้อยลง สักนิดก็ยังดี
“ตามมาทางนี้เลยค่ะ”
เจนจิราเอ่ยพนักงานใหม่บอกเบาๆ ตามแบบฉบับของเธอ เดินนำไปทางโซนที่เธอมาบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าเธอจะทำแต่งานเลขา งานที่ไม่ต่างจากสไตลิสต์ เธอก็ทำให้ผู้หญิงของเจ้านายบ่อยๆ และทำออกมาได้ดีมากด้วย ครั้งนี้ก็คิดว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น
“ท่านจะให้เลือกกี่ชุดค่ะ”
เจนจิราหยิบชุดไปให้นิราลอง และตอนนี้นิรากำลังเข้าไปลองชุดพวกนั้น อยู่ข้างในห้องลองชุด เธอจึงเดินกลับมาถามเจ้านายที่รออยู่ ด้วยอยากรู้ว่าเขาตั้งงบครั้งนี้ไว้มากน้อยแค่ไหน
“เอาสัก 10 ชุด ไปก่อน ที่เหลือพี่เสือคงจัดการเอง มานี่หน่อย” นรสิงค์พูดยิ้มๆ ก่อนจะเรียกเลขาสาวให้ขยับเข้ามาใกล้ๆ
“อะไรคะ” เจนจิราถามด้วยใบหน้าหวาดระแวง ตรงนี้ไม่มีใครเลย เพราะพนักงานไปช่วยหาชุดในแบบที่เจนจิราสั่งอยู่อีกด้านของร้าน
“เปล่าไม่มีอะไร ผมแค่เห็นอะไรติดอยู่บนหน้าคุณเจนนะครับ แต่ตอนนี้มันหลุดไปแล้ว” นรสิงค์พูดความจริง เขาเห็นเธอมีสีหน้าไม่พอใจนิดๆ ตอนเดินมาถามเขา แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็วจนเขานึกเสียดาย
เขาต้องทำมากกว่านี้สินะ
“เอ่อ …. คุณค่ะ ฉันว่ามันไม่น่าจะเหมาะกับฉันเท่าไหร่” นิราเดินออกมาโดยสวมชุดเดรสรัดรูปสีดำด้านใน ส่วนด้านนอกเป็นสูทสีดำทับไว้อีกที ดูเรียบร้อยดีแต่มันสั้นมากเลยในความรู้สึกเธอ
“เข้ากับผิวขาวๆ ของคุณมากเลยครับ”
นรสิงค์เอ่ยชมจากใจจริง เพิ่งเห็นว่าภายใต้เสื้อผ้า ผิวของเธอขาวมากขนาดนี้ ต่างจากผิวที่พ้นออกมาจากร่มผ้าลิบลับ ที่มันคล้ำแดดจนเกือบจะเรียกว่าดำ
“แต่ฉันอายค่ะ ผิวฉันมันสีไม่เหมือนกัน ฉันขอใส่เป็นกางเกงได้ไหมคะ”
นิราอายจริงๆ ผิวด้านในเธอขาวสะอาดตา เพราะเวลาไปช่วยงานของแม่ เธอจะใส่ชุดมิดชิด ผิวด้านในจึงไม่โดนแดดเผา ต่างจากมือและข้อมือที่มันคล้ำกว่าผิวจริงมาก ที่ผ่านมาเธอจึงใส่แต่เสื้อแขนยาวปกปิดให้เห็นแค่มือกับผิวหน้าที่หมองคล้ำเท่านั้น มันจะได้ไม่ดู ด่างๆ ดำๆ
“ไม่เห็นต้องอายเลยครับ คนเราดำได้ก็ขาวได้ ไปซื้อครีมบำรุงผิวกันเถอะ”
พูดจบก็เดินไปจ่ายเงินทันที ก่อนจะถือชุดทั้งหมดไว้เอง โดยมีนิราที่อยู่ในชุดรัดรูปสีดำเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณเจนช่วยด้วยค่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มงาน แต่กำลังจะเป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว” นิราหันมาเกาะแขนเจนจิราที่เดินรั้งท้าย“ทุกอย่างวันนี้ฟรีค่ะ” เจนจิรายิ้มขำกับคนที่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเธอจะต้องทำงานชดใช้ค่าของพวกนี้เหรอ เปล่าหรอกเจ้านายตั้งใจซื้อทั้งหมดนี้ให้ยังไงละ“แต่มันแพงนะคะ ฉันไม่กล้าใช้ค่ะ”นิรายังคงบอกเจนจิราที่กำลังเลือกครีมบำรุงผิวให้เธอ แต่เจนจิราไม่สนใจ ทั้งยังเดินไปหยิบเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิวของนิรามาให้อีกหลายอย่าง“แต่ต้องใช้ค่ะ คุณเสือไม่ชอบให้เลขาตัวเองหน้าจืด” เจนจิราไม่ได้ตามใจคุณสิงค์ แต่เธอกำลังทำเพื่อคุณเสือ ท่านประธานต่างหาก“เสร็จหรือยังคุณเจน” นรสิงค์ที่เดินไปนั่งรอ เดินกลับมาอีกครั้ง เมื่อมองเห็นตระกร้าขนาดใหญ่ในมือเจนจิรา“เรียบร้อยค่ะ” เธอบอกก่อนจะวางทั้งครีมทั้งเครื่องสำอางราคาแพงไว้บนเคาน์เตอร์คิดเงิน“ทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทค่ะ” พนักงานบอกยอดสินค้าทั้งหมด“คะ? … เดี๋ยวค่ะ” นิรารีบไปหยิบของที่พนักงานอีกคนกำลังแพคใส่ถุงกระดาษอย่างดีไว้แน่น ตบมือป้าบกับหน้าผากตัวเอง อย่างคนตกใจทำอะไรไม่ถูกกับยอดเงินมหาศาล“ไม่เอาแล้วได้ไหมคะ ครีมอะไ
“แรดบ้างเถอะ อายุ 25 แล้ว ยังไม่มีแฟนเลย วันนี้เจ้จะแต่งให้นิราของเจ้ ถูกใจผู้หล่อๆ รวยๆ สักสิบคนไปเลย” เจ้พิมพูดแซวอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจที่นิราบอกสักนิด“ถ้าเยอะอย่างเจ้ว่าจริงๆ หนูได้ตายก่อนแน่เลยค่ะ” นิรายิ้มให้กับความคิดของเจ้พิมอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเจ้พิมหยุดมือลง“โซนวีไอพีนะ แล้วก็ห้องพิเศษ” เจ้พิมสั่งงานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปดูร้าน เพราะตอนนี้ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาแล้วนิราเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเป็นงาน โดยเริ่มที่โซนวีไอพีก่อนที่แรก เพราะห้องพิเศษนั้นลูกค้าที่จองไว้ยังไม่มาเลย“น้อง! เหล้าเพิ่มครับ”“น้องชงเหล้าหน่อยครับ”น้อง น้อง !นิราถูกเรียกตลอดเวลาจนไม่มีเวลาพักเลย รู้สึกหิวนิดๆ เพราะนี่ก็ผ่านมาสองชั่วโมงแล้วที่เธอทำงาน เธอกินข้าวตั้งแต่เช้าก่อนไปสัมภาษณ์งาน และกินแซนวิชไปอันเดียวก่อนจะงีบหลับ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวมากจนจะทนไม่ไหว“พี่ค่ะ นิวขอไปหาอะไรกินก่อนได้ไหมอะ”นิราถามพี่อีกคนที่ทำโซนเดียวกัน พี่คนนั้นยิ้มแล้วพยักหน้าให้ทันที ตอนนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว เพราะลูกค้าเริ่มเมาได้ที่แล้ว เหลือแต่ห้องพิเศษที่ยังไม่มาถึงนิราเดินหลบไปหลังร้านที่เป็นโซนห้องครัว ก่อนจะล
“เห็นไหมคะ อร่อยมากเลย” นิราบอกแขกด้วยใบหน้าแดงนิดๆ ก่อนจะยิ้มโชว์เขา ว่าเหล้าที่เธอแนะนำมันอร่อยสุดยอดแค่ไหน“อร่อยก็ยกอีกสิ” แล้วแก้วที่สอง ที่สามก็ตามมา เหล้ายิ่งหวานลิ้นเท่าไหร่ ยิ่งดื่มง่ายและเมาเร็วเท่านั้น“เห็นไหมคะ ว่าอร่อย” นิราเลียริมฝีปากเก็บเอาเหล้าที่เลอะขอบปากเธอออก หลังจากยกแก้วที่สี่หมดลงไปแล้ว ตอนนี้สติที่เธอเคยมี แทบจะปลิวหายไปหมดแล้ว“ไม่เห็นจะอร่อยเลย ไหน ‘เอาของเธอ’ มาชิมสิ” เขาพูดเบาๆ พลางกระตุกยิ้ม ร่างสวยที่นั่งอยู่ใกล้มาตลอด ขยับเข้ามาใกล้จนตัวชิดกัน ก่อนเธอจะยกแก้วเหล้าของตัวเองยื่นไปตรงหน้า ผู้ชายรูปหล่อที่กำลังยกยิ้มชั่วร้ายใส่เธอ“เอาสิคะ ชิมเลย” นิรายื่นแก้วเหล้าไปให้นานแล้ว แต่เขาไม่รับมันไปสักที นิราจึงขยับหน้าไปใกล้มากขึ้น เมื่อร่างสูงเอาแต่นั่งมองเธอนิ่งๆ“ชิมแบบนี้ดีกว่า”พูดจบก็เทเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนจะเหลือไว้ในปากนิดหน่อย แล้วดึงเธอเข้ามา บดริมฝีปากตัวเองลงไป บนกลีบปากเล็กๆ ของเธอทันที“อ๊ะ อื้อ~”นิราครางเสียงแผ่ว เมื่อโดนริมฝีปากหยักสวยกดทับลงมาอย่างรวดเร็ว เธอได้แต่อยู่นิ่งๆไม่รู้จะทำยังไงดี ร่างกายที่ควรขัดขืนไร้แรงต้านทาน มีเพียงควา
“ง่วงแล้วค่ะ แม่” เธอยกหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาก่อนระบายรอยยิ้มหวานส่งไป เมื่อคิดว่านอนกอดแม่ที่จากมาทำงานในเมืองกรุง“ยั่วเก่ง” เสือพูดเบาๆกับตัวเอง มองใบหน้าสวยที่ยกยิ้มหวานหยดย้อยให้เขา เพราะคิดว่าเขาเป็นแม่ซะงั้น“ฝันดีนะคะ” นิราพูดจบก็หลับตาลงอีกครั้ง เธอยังอยู่ในความฝันแสนหวาน ฝันที่ว่าได้นอนในอ้อมกอดแม่ที่เธอคิดถึงสำหรับเธอจะมีอะไรดีไปกว่านี้“ชิบหายละ!” เสือมัวแต่มองหน้าเธอ จนเผลอปล่อยเธอหลับไปอีกแล้ว นี่เขาต้องปลุกเธอยังไงดี เธอถึงจะตื่น“เธอบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ”เสือพลิกร่างเย้ายวนไปอีกด้านของโซฟา เกยร่างคร่อมทับตัวเธอไว้ กดจูบลงไปตามซอกคอขาวผ่อง แม้หน้าเธอจะไม่ขาวมาก แต่คอและผิวเนื้อที่อื่นกลับขาวเนียนละเอียดน่าฟัด“อื้อ จะ เจ็บค่ะ” นิราครางเสียงแผ่วเบา เพราะเสือกัดผิวเนื้อเธอแรงๆ เธอเลยต้องลืมตาจากฝันแสนหวาน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง“อ๊ะ เจ็บนะคะ อื้อ” นิราดุร่างสูงเลือนรางที่คร่อมทับเธออยู่ เสือจึงต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอ ตอนบอกเขาว่าเจ็บนิรายอมรับเลยว่าตัวเองฝันดี ผู้ชายที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้โคตรหล่อ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจเต้นโครมคราม แถมยังทำให้รู้ส
“อ๊ะ อื้อ” นิราเช็ดเหงื่อตามซอกคอตัวเองออกแรงๆ ก่อนจะครางแผ่วเบาอย่างไม่ชอบใจ สภาพอากาศตอนนี้ เธอร้อน เธออยากได้แอร์เย็นๆ“อ่ะ อื้อ ร้อน” นิราบ่นกับตัวเอง เธอร้อนมาก แต่ไม่มีแรงจะเดินไปเปิดแอร์ ที่นี่ที่ไหน ขออากาศเย็นๆให้นิราหน่อย“ฮึ่ม!” นิราย่นคิ้วลง เมื่ออากาศในห้องไม่ได้เย็นขึ้นสักนิด เธอเปิดเปลือกตามองรอบกาย โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นใครสักคน ที่ยืนมองเธออยู่ทางด้านหัวเตียงเลยอ่า! นี่ห้องเธอเอง งั้นแก้ผ้านอนคงไม่มีใครว่าหรอกมั้งนิราไม่รู้ว่าตัวเองมาที่นี่ได้ยังไง แต่ในสติอันน้อยนิดบอกว่าห้องนี้คือห้องของเธอเอง เธอคงเมานั่นแหละ เจ้พิมคงลากมาส่ง แต่เจ้พิมลืมเปิดแอร์ให้ไง โคตรร้อน“อื้อ อ่า” นิราครางอื้ออึง เมื่อพยายามถอดชุดรัดรูปของตัวเองออกจากตัว เมื่อถอดมันไม่ได้ เธอก็กระชากมันออกแรงๆ จนผ้าบางๆมันขาด จากนั้นก็ก้มลงไปดึงถุงน่องสีดำ ที่มันทำให้คันยุบยิบนั่นทิ้ง ตอนนี้ทั้งร่างของนิรา เหลือเพียงบรากับกางเกงชั้นในลูกไม้เข้าชุด“แม่งยั่วสัส! กูต้องทนไหม ก็ไม่นะ”เสือที่ยืนมองการกระทำของเธอเงียบๆ พูดกับตัวเองแผ่วเบา เขาเห็นหมดเลย ตั้งแต่เธอถอดชุดตัวเองออก ไหนจะถอดไปด้วยครางไปด้วย ม
เสือพูดจบก็จับร่างเธอดึงมาปลายเตียง ส่วนเขาลงไปยืนรออยู่ก่อนแล้ว หลังจากถอดกางเกงในที่เหลือของตัวเองเสร็จ ใช้มือจับแท่งเนื้อขนาดใหญ่ถูไถเบาๆ เข้ากับร่องรักของเธอ ไม่นานก็กดมันลงไปอย่างไม่ยั้งแรง“กรี๊ด! เจ็บ ปล่อย! / แม่งเอ้ย! แน่นสัส” เสือหยุดไว้แค่ส่วนหัวที่เข้าไปได้เพียงน้อยนิด เพราะโดนร่องของเธอบีบรัดแก่นกายเขาอย่างหนักอ่า~ หมอที่ไหนวะ ทำได้อย่างเนียน เขาจะบอกเด็กๆ ของเขาให้ไปทำบ้าง“เจ็บ ฮือ/ อย่าเกร็ง ทำไมไม่ให้หมอทำแบบพอดีๆ หน่อยวะ”เสือดุนิราที่เอาแต่ร้องไห้ส่ายหน้าไปมาเพราะความเจ็บ ก่อนที่เสือจะใช้ข้อมือบดขยี้เม็ดเนื้อสีสวยของเธอ ใกล้แท่งเนื้อขนาดใหญ่ของตัวเอง“อ๊ะ อ่า/แม่งสวย”นิราครางกระเส่าเพราะสัมผัสที่เสือทำ ส่วนเสือก็เอ่ยชมกลีบเนื้อสีสวยที่มันค่อยๆ หายเข้าไปพร้อมกับแท่งเนื้อของเขา แม่งเอ้ย ของเธอเหมือนของเด็ก“อ่า”เสือครางอย่างพึงพอใจกับจุดซ่อนเร้นแสนสวย ก่อนจะเสียบพรวดเข้าไปใหม่อีกครั้งเมื่อเธอผ่อนคลายขึ้น แท่งเนื้อขนาดใหญ่ชำแรกผ่านเยื่อบางๆของหญิงสาวไป แล้วไปหยุดอยู่นิ่งๆ เมื่อเข้าไปจนสุดลำ“อ่า!/ อร้าย ฮือ” เสือครางอย่างสุขสมเขาเป็นคนแรกของเธอ ในขณะที่เธอเอาแต
วันรุ่งขึ้นติ๊ติด ติ๊ติด ติ๊ติดนิราตื่นขึ้นมาคว้านมือหานาฬิกาปลุก ที่แผดเสียงดังอยู่หัวเตียง ก่อนจะเพ่งสายตาที่เหนื่อยอ่อนไปดูเวลาในหน้าปัด“อร้าย สายแล้ว งานวันแรกของชั้น!”นิราแผดเสียงร้องดังลั่นห้องเมื่อมองนาฬิกา ตอนนี้มันบอกเวลา 07.30 น. แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงเธอจะต้องไปอยู่ที่ทำงาน มันจะทันได้ไงกับเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แค่อาบน้ำก็เกินแล้ว“อ๊ะ อา เจ็บ” นิราที่ขยับลุกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องทันทีที่เธอทำแบบนั้น นี่เธอเมาแล้วไปลากใครเข้าห้องด้วย ร่างกายถึงได้มีสภาพแบบนี้“บ้าเอ้ย ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย” นิราไม่มีเวลาคิดเรื่องเมื่อคืน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เธอกำลังจะพลาดงานสำคัญ นิราลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน งานนั่นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพราะมันคือรายรับเดียวที่เธอจะใช้จ่ายในสิ้นเดือนนี้“ชุดอะไรวะเนี้ย” นิราออกมาจากห้องน้ำ ค้นหาชุดที่เจนจิราเลือกให้เมื่อวาน มันใช้ไม่ได้เลยสักชุด เธอต้องการชุดที่มันสามารถปกปิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เธอเห็นตามตัวตอนอาบน้ำ“ไปสภาพเดิมก็ได้วะ”ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาที นิราจึงเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวในตู้ กับกาง
“อย่าดูถูกคนเพียงแค่เห็นจากภายนอกสิคะ มันดูไม่เป็นผู้นำเลย” นิราพูดออกไปอย่างนึกตำหนิ ตอนนี้เธอยังไม่ใช่พนักงานของที่นี่สักหน่อย มีสิทธิ์พูดเหมือนที่เขาพูดต่อว่าเธอนั่นแหละ“นี่เธอ! / เริ่มเถอะค่ะ เสียเวลา” เสือกำลังจะอ้าปากต่อว่า นิราก็สวนกลับทันที เธอไม่ค่อยยอมใครซะด้วยสิ เมื่อกี้เขาก็ว่าเธอก่อนเลยนะ“แนะนำตัว กับนำเสนอแผนงานเล่มนั้นมาเป็นภาษาจีนสิ” เขารู้ว่าเธอได้ภาษาจีน เพราะดูจากเรซูเม่ที่วางแหมะอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมอง แต่พอก้มหน้าลงไปที่โต๊ะ ก็เห็นมันวางอยู่บนสุดเลย ดูสิภาษาจีนหรือภาษาอะไรที่เธอพูดได้“แผนการขยายยอดการส่งออกปีหน้าในจีน ที่มันลดลงเพราะคู่แข่งของตลาดรถในจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกและนำเข้าในปีหน้ามีแนวโน้วว่าจะลดลง แต่ตามการคาดการณ์ในตลาดหุ้นปีนี้ ยอดการนำเข้ายังสูงอยู่ แม้ลูกค้าจะลดลงแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน” นิราพูดภาษาจีนด้วยความชำนาญ ทันทีที่อ่านแผนการวิเคราะห์ตลาดส่งออกล่วงหน้าหนึ่งปีของบริษัทแบบคร่าวๆ“แต่ถ้าลองขยายการส่งออกไปในประเทศที่กำลังพัฒนาศักยภาพทางด้านการเงินอยู่ตอนนี้ น่าจะดีกว่า อย่างประเทศที่เปิดเสรีด้านการค้าน่าจะมีโอกาศ