“มันบ้าหรือเปล่าวะน่ะ”
ฉันบ่นพึมพำออกมาแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วจากนั้นกลุ่มเพื่อนฉันแล้วก็เพื่อนผู้หญิงในห้องก็เริ่มล้อขึ้นมา “งู้ยยย ฝากซื้อของแล้วไม่ต้องจ่ายเงินแบบนี้ได้เหรอคะสาว” “อือ ถ้าเป็นแฟนก็คงได้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมันคืออะไรเหรอแม่ เฟื่อนปะ” “พวกมึงหยุดเลยค่ะสาว มันก็อาจจะนิสัยรวยไง” “วงเล็บ กับมึงคนเดียวค่ะสาว ฮัลโหล” “หยุดฮัลโหล อย่าเพิ่งฮัลโหลค่ะ พวกมึงก็เห็นว่าไอ้นั่นมันบ้า วันๆ กินยาครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยาหมดแล้วมั้ง อาการแม่งถึงขาดๆ เกินๆ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เออ น้ำกูเกือบพุ่ง มันควรเป็นโมเมนต์หวานๆ ปะ” “มิๆ เปิดเพลงนะ” “เออๆ เปิดเลย ประตูมันเป็นกระจกอยู่แล้วปิดไว้แบบนั้นแหละ” “เค” ผมซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็ถือขนมขึ้นมาบนห้องแล้วก็เดินเข้ามาหายัยตัวแสบแล้วก็นั่งลงข้างๆ และส่งถุงของให้ยัยนี่ไป “นี่นายไปเหมาศูนย์อาหารมาเหรอวะ” “ฉันหิวปะ เอาไป จะได้หยุดพูด” ฉันมองถุงของที่ไอ้บ้านี่มันซื้อมา แม่ง 2 ถุงใหญ่ๆ มันไม่คิดจะไปไหนแล้วมั้ง ฉันรับถุงของมาแล้วก็หยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมา แล้วมันกำลังร้อนๆ ผักก็สด งื้ออ มันดีมาก เพราะโรงเรียนฉันเค้าทำแบบสดๆ แล้วเนื้อคือหนามาก มันดีมากแม่ “อืออ” “หึหึ อิมิ มึงถูกใจใช่ไหมพูด” “มาก” ผมมองยัยตัวแสบที่ทำกินเบอร์เกอร์แล้วก็ทำหน้าฟินอยู่ข้างๆ ผมซื้อเบอร์เกอร์ไก่มาซึ่งมันอร่อยมากนะ แต่ของยัยนี่เป็นปลา มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ พรึ่บ! “งื้อออ ทำไมนายนิสัยแบบนี้วะ” ฉันกำลังเอ็นจอยอยู่กับบรรยากาศซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นเพียงแค่เสียววิ มารู้ตัวอีกทีคือไอ้นี่ใช้มือจับมือฉันไปตรงหน้าแล้วก็กัดเบอร์เกอร์ของฉันไปคำเดียว บางคนบอกคำเดียวทำไมหวงกิน แม๊ คำเดียวของมันเบอร์เกอร์ฉันหายไปครึ่งหนึ่งเลยนะ ฉันกิน 3 คำ ยังไม่เท่ามันกัดคำเดียวเลยอะ “อือ อร่อย” ผมลองกินเบอร์เกอร์ปลาของยัยตัวแสบพอรู้รสชาติเลยชี้นิ้วไปที่เบอร์เกอร์แล้วบอกยัยตัวแสบที่ตอนนี้นั่งหน้าหักอยู่ข้างๆ “นี่ ทำไมนายต้องมาแย่งฉันกินล่ะ นายมันนิสัยชั่วร้ายจริงๆ” “ฮึ เอา คืน แล้วมันก็มีอีกอันหนึ่งปะ” “ฉันอยากกินสองอัน!” “เออ! เดี๋ยววันนี้ฉันจะซื้อให้เธอ 4 อัน จบยัง” “เออ” ฉันตอบไอ้บ้านี่ก่อนจะกัดเบอร์เกอร์ที่นายนี่ยื่นมาตรงหน้าแล้วถ้าไม่กินฉันก็เสียเปรียบอะ ฉันเลยพยายามกินคำใหญ่มากพี่สุดที่จะทำได้ แล้วในจังหวะที่ฉันกัดเสร็จก็ได้ยินเสียงของเพื่อนฉันพูดขึ้นมา “ต๊าย! อิมิ มึงกินคำใหญ่ขนาดนั้นเดี๋ยวกรามก็ค้างหรอกมึง” “เออ แล้วอยู่ต่อหน้าผู้ชายเนาะ มึงกินคำใหญ่ขนาดนั้นได้ยังไง เสียราคาหมด เอาก้านกล้วยมาสิ กูจะขี่ก้านกล้วยไปสอนอิมิ” “อิห่า มึงสงสารก้านกล้วยที่โดนมึงขี่เถอะ” “คิกๆ” “เดี๋ยวก็ติดคอตาย กินดีๆ” พอเพื่อนยัยนี่พูดจบยัยตัวแสบก็ใช้มือจับมือผมไว้แน่นก่อนจะโน้มตัวไปข้างหลังของผมก่อนจะหัวเราะออกมา แล้วเบอร์เกอร์แม่งก็เต็มปาก “งื้อ คิกๆ” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกมันก็ไม่ได้กินคำใหญ่ขนาดนั้นอะ แล้วก็มาหัวเราะเพื่อนฉันอีก ฉันเลยพยายามเคี้ยวเบอร์เกอร์แล้วพอมันเริ่มโอเคเลยกลับมานั่งที่เดิมแล้วก็ดึงทิชชูออกมาเช็ดปาก “หมดกัน คนสวยขาของโรงเรียนกู” “เออ ใครจะมาสวยอยู่ทุกวัน กูเน้นความธรรมชาติเว้ย แล้วมึงอย่าแต่งตั้งตำแหน่งให้กูเยอะค่ะสาว คนสวยในโรงเรียนเราเยอะแยะไม่ใช่กูคนเดียว ใครได้ยินจะหมั่นไส้เราเอา” “กูพูดในสายตาของกูไงคะ มึงใจดีจนกูดูชั่วเลยนะ” “ไอ้บ้า ทำงานเลย” ผมเลิกคิ้วก่อนจะมองไปที่ยัยตัวแสบแล้วมันเหมือนไม่ได้ตั้งตัวอะ มารู้ตัวอีกทีคือถามออกไปแล้ว “เมื่อกี้บอกว่ายัยตัวสั้นใจดี นี่คือใจดีแล้วเหรอ” โอโห พอฉันได้ยินไอ้นี่ถามเลยตวัดสายตามามองไอ้คนตัวสูงด้วยสายตาที่เอาเรื่อง ก่อนจะตอบไอ้บ้านี่กลับไป “ฉันใจดีกับทุกคนนั่นแหละ ยกเว้นนาย” “ยัยตัวสั้น เอาของคืนมาเลยนะเว้ย” “ไม่ ทำงานไปเลยนายอะ ปากกินมือทำงานด้วย คนอื่นเค้าทำไปถึงไหนละ วันนี้ฉันยังไม่เห็นมือนายโดนใบตองเลยนะ” “แล้วทำไมอะ” “ไปนั่งกับเพื่อนนายซะ นั่งอยู่นี่แม่งก็ไม่ได้ทำ อาร์ม มาเอาเพื่อนไป” “ฉันจะนั่งอยู่นี่ ทำไมอะ ฉันอยากนั่งอยู่กับบัดดี้เธอมีอะไรปะล่ะ” “โอ๊ะ ฉันเบื่อขี้หน้านายว่ะ” ฉันตอบไอ้บ้านี่กลับไป แล้วนั่งอยู่ใกล้ๆ กันก็เหมือนพร้อมรบกันตลอดอะ ฉันเบะปากใส่เขาก่อนจะหันมาทำงานต่อแล้วก็กินเบอร์เกอร์ไปด้วย คือฉันกัดแล้ววางไว้บนตัก เพราะมันก็มีกระดาษรองมันเลยไม่เปื้อนกางเกงส่วนมือก็พับกลีบใบตองไปด้วย แต่ระดับความสุขฉันเริ่มลดอีกละ “งื้ออ เอาของฉันมา มันเหลือแค่นั้นแล้วปะ” “จะถือให้ ปากนี่แม่งบ่นอย่างเดียว เอา กินเข้าไป” ผมหยิบเบอร์เกอร์บนตักแล้วก็ถือให้ยัยตัวแสบ เพราะเห็นสภาพแล้วก็นะ แล้วพานคืออลังการสุดๆ เพราะเห็นว่าจะส่งเข้าประกวดพานสวยงามด้วยมั้ง “แม่” “หื้อ” “ถามอะไรหน่อยได้ไหม” ฉันพยักหน้าก่อนจะบอกให้เพื่อนถาม เพราะปกติก็คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้วอะ “อือ ว่า” “เบอร์เกอร์ไก่กับปลาอันไหนอร่อยกว่ากันอะ” “งู้ยยยยยย” “เนี่ยยยย” ผมเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มที่มุมปากหลังเพื่อนยัยตัวแสบถามขึ้นมาแล้วทุกคนก็พากันล้อขึ้นมา แล้วไม่ใช่แค่กลุ่มยัยนี่นะ ทั้งห้องอะ “ก็ทั้งคู่นั่นแหละ” “เหรอออ” ฉันย่นจมูกใส่เพื่อนตัวเองก่อนจะพูดกับพวกมันออกไปสักพักทุกคนก็พากันหัวเราะออกมาหลังจากฉันพูดจบ “แต่กูว่าไก่แม่งเหนียวไปหน่อยว่ะ ปวดปากฉิบหาย” “ฮึ ไม่ดูกำลังปากของตัวเองไงเธออะ” “ใครจะปากเหมือนมีหลุมดำในปากแบบนายล่ะ แม่งกัดคำเดียวเกือบหมดชิ้น” “มันเป็นความสามารถพิเศษปะ” ผมหนักคิ้วให้ยัยตัวแสบจากนั้นทุกคนก็เข้าโหมดจริงจังในการทำงาน จากนั้นเวลามันก็ผ่านไปเรื่อยๆ เพราะมันจะได้เวลาเลิกเรียนแล้ว แม่งทำทั้งวันอะ ห้องมีแต่ใบตองเต็มไปหมด ผมล้มตัวลงนอนกับพื้นห้องโดยใช้หนุนแขนสองข้างตัวเอง “โอ๊ย!!” “เชี้ย นายจะเสียงดังทำไม จะถูกเชือดหรือไง” “ฉันปวดหลังปะ เออ วันนี้ตอนห้าโมงพาฉันไปที่ชมรมกีฬาด้วย อาจารย์จะลองให้เล่นวอลเลย์บอล” ฉันขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้คนตัวสูงที่นอนสั่งเหมือนเป็นพระราชาอะ ฉันเลยถามเขาออกไปแบบงงๆ “ฉันต้องไปด้วยทำไม” “เธอเป็นบัดดี้ฉันปะ เธอก็ต้องคอยดูแลฉันสิ แล้วอาคารมันอยู่ตรงไหนฉันก็ยังไม่รู้เลยปะ” “นายเคยมาแข่งจะไม่รู้ได้ไง” “เอ้า ตอนนั้นครูพาฉันมา แต่ไม่เป็นไร ถ้าฉันไม่ไปฉันก็ถูกลงโทษและเธอก็ต้องโดนทำโทษด้วย” “เออ!! เดี๋ยวถ้าไปแล้วไม่เล่นจะตบแม่งแทนลูกวอลเลย์ให้ทะลุกำแพงออกไปเลย” ผมมองยัยตัวแสบก่อนจะหัวเราะออกมา แล้ววันๆ ยัยนี่แม่งคิดจะฆ่าผมอย่างเดียวเลยมั้ง พอเริ่มรู้สึกเหมือนจะหลับเลยใช้มือสะกิดที่หลังของยัยตัวแสบแล้วเรียกยัยนี่เบาๆ “เธอ เธอ” “หื้อ อะไร อย่ากวนประสาทฉัน” “เอาเสื้อแขนยาวมายืมสิ” “มันเกี่ยวอะไรกัน มันเป็นของใช้ส่วนตัว งื้ออ ไอ้เซทท์ เอาคืนมา” “ไม่ ฉันจะหลับ ไม่ห่มผ้าฉันนอนไม่หลับ 16.50 นาที ปลุกฉันด้วย” ฉันมองไอ้บ้านี่ที่ตอนนี้เอาเสื้อแขนยาวไหมพรมของฉันไปใช้ประหนึ่งเป็นของตัวเอง ตอนแรกก็พยายามดึงน้องคืนมาแต่ค่าตัวน้องก็ค่อนข้างสูงเลยถอนหายใจแล้วก็หันกลับมาทางเดิม เดี๋ยวค่อยเอาไปซักเอา “ขนาดนี้แล้วปะ” “จริง ตรงไหนไม่แฟน แล้วตรงไหนไม่ชอบแม่กูวะ” “โครงการผลักดันให้เพื่อนมีผัวของเราเริ่มเห็นความสำเร็จแล้วค่ะ” “คิกๆ ต่อไปกูขอต่อนะ แค่ชื่อโครงการก็ถูกใจละ” “เออๆ คิกๆ” “พวกมึงหัวเราะอะไรกันอะ” “เปล้า! ใครจะหัวเราะอะไรล่ะแม่ ตอนนี้มีแต่คนมองบนกันหมดแล้วค่ะ อะไรยังไงคะเราอะ” “อืม กูมีอะไรจะบอกพวกมึง” ฉันนั่งชันเข่าก่อนจะทำสีหน้าจริงจังและมองเพื่อนของฉันจนเพื่อนฉันพากันถามออกมา “อะไรวะแม่ อะไรยังไง” “นั่นสิๆ” “กูว่า กูใกล้จะเป็นประสาทว่ะ” “พรืด ไอ้บ้า จะเป็นประสาทหรือแพ้ความรักก่อนคะ” “โรคประสาทจริงแท้แน่นอนโดยไม่มีโรคอื่นแอบแฝงค่ะ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เซทท์ เซทท์! ไอ้เซทท์!!” ผมนอนหลับสนิทไปนานพอสมควรมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงใครเรียกแล้วก็กระชากผ้าห่มออก ผมเลยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจนสายตามันชินกับแสงเลยเห็นหน้ากลมๆ ของยัยตัวแสบ ผมเลยถามยัยนี่ออกไป “เธอมาห้องฉันได้ไง” ฉันดึงเสื้อคืนมาก่อนจะตอบไอ้บ้านี่กลับไป แม่งนอนจนลืมวันลืมคืนแล้วมั้ง “ห้องนายอะไร นี่มันห้องเรียน ตื่น โรงเรียนเลิกแล้ว นายจะไปชมรมกีฬาใช่ไหม” “อืม” ผมพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นมานั่งแล้วก็หยิบกระเป๋าสะพายข้างของแบรนด์หนึ่งขึ้นมาสะพาย เพราะวันนี้ผมไม่ได้เอากระเป๋าที่ใช้เรียนมา มันไม่มีเรียนไง จากนั้นก็เดินมากับยัยตัวแสบ “ฉันแวะซื้อน้ำก่อน ฉันหิวน้ำ” “เธอซื้อของกินไปเผื่อไว้ด้วย” ฉันหันไปมองหน้าไอ้บ้านี่แบบงงๆ ก่อนจะถามนายนี่ออกไป “ซื้อไปทำไม ฉันแค่ไปส่งนายไม่ใช่เหรอ” “เธอต้องอยู่จนฉันซ้อมเสร็จ” “เพื่อ” ผมยิ้มมุมปากก่อนจะหยักคิ้วและตอบยัยนี่กลับไปด้วยสีหน้าของผู้ชนะ “เพราะเธอต้องดูแลฉัน แต่ถ้าเธอไม่อยู่เธอรอรับโทรศัพท์จากครูได้เลย” ฉันเม้มปากแล้วมองไปที่ไอ้บ้านี่แบบเคียดแค้น แล้วจะเอาตรงไหนมาใจดีกับมันวะ ดูแต่ละอย่างที่แม่งทำ หัวจะปวด “ฉันเบื่อขี้หน้านายจริงๆ” “ฉันชอบหน้าเธอมากมั้ง ไป ชักช้า” ผมตอบยัยนี่กลับไปจากนั้นก็พากันมาซื้อน้ำซื้อขนม พอซื้อของเสร็จผมก็พากันโดนมาที่อาคารที่เอาไว้สำหรับเล่นวอลเลย์ อีกห้องก็เป็นห้องสำหรับแข่งบาส แล้วพื้นที่ใหญ่ตามมาตรฐานสากล แล้วก็มีอัศจรรย์สำหรับนั่งเชียร์ ด้านบนเป็นเก้าอี้พลาสติกแบบทั่วไป แต่ด้านล่างจะเป็นเก้าอี้นุ่มๆ เหมือนเก้าอี้ในโรงหนังอะ พอมาถึงทางเข้าผมเลยจับแขนยัยนี่แล้วพากันเดินเข้ามาด้านใน “นี่ ปล่อย ฉันอยู่นี่มาตั้งแต่เบบี๋ละ ฉันไม่หลงหรอก” ฉันพยายามบิดแขนออกจากมือของเขาแล้วชมรมกีฬาคนเยอะมากแม่ “ฉันบอกตอนไหนว่ากลัวเธอจะหลง” “เอ้า แล้วนายจะจับแขนฉันทำไม” “ฉันพอใจจะจับเธอจะทำไม” ผมพูดพร้อมกับแขนยัยนี่ไว้แน่นกว่าเดิม พอเดินเข้ามาก็เห็นอาจารย์แล้วก็เพื่อนในชมรมกำลังทยอยกันมา คนที่ทยอยมาแล้วก็เริ่มหยิบลูกวอลเลย์ไปเล่น พอเห็นผมมากับยัยนี่ทุกคนก็หันมายิ้มและพากันล้อขึ้นมา “ง้วววว” “เนี่ยยยยย วันนี้มาคนเดียวไม่ได้แล้วเหรอวะ” “สวัสดีครับน้องมิลินท์” “พี่ๆ สวัสดีค่ะ” ฉันที่ตอนนี้ก็ยังพยายามบิดข้อมือของตัวเองออกทักทายรุ่นพี่ในโรงเรียนที่เค้าอยู่ชมรมกีฬากลับไป “อ้าว เจ้าแสบมิลินท์ อย่าบอกนะว่าจะมาเล่นกีฬาด้วยอะ” “เปล่าค่ะครู หนูโดนไอ้บ้านี่ลากมา แค่หนูเห็นตึกหนูก็เหนื่อยแล้วค่ะ” “หึหึ เออ ครูก็ว่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นน้ำคงท่วมพิจิตรแน่ๆ อ๋อ ไม่ได้มาเล่น แต่มานั่งให้กำลังใจไอ้เจ้าเซทท์เหรอ เฮ้ย ลูกสาวครูมีความรักแล้วเหรอเนี่ย” “เนี่ยยย!” “ครูคะ ไม่ใช่ค่ะ” “ฮึ ครูครับ ใส่ชุดนักเรียนหรือเปลี่ยนชุดครับ” “เปลี่ยนชุดๆ เดี๋ยวชุดนักเรียนเปื้อน นี่กุญแจล็อกเกอร์ของเรานะ มีเบอร์บอกอยู่ในพวงกุญแจ ครูเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้ในนั้นหมดแล้ว” “ครับ งั้นเดี๋ยวผมมา” “อะเคๆ อ้าวๆ ใครมาถึงแล้วไปเปลี่ยนชุดเลยนะ เราจะได้ลองเล่นกัน!” “ครับ!!” ผมพายัยตัวแสบเดินมาที่เก้าอี้ก่อนจะส่งกระเป๋าแล้วกำชับกับยัยนี่กลับไป “นั่งรออยู่นี่ แล้วใครมาทักก็ไม่ต้องไปคุย” “ฉันมีปากปะ แล้วเผื่อนายจะลืม ฉันอยู่โรงเรียนนี้มาก่อนนายค่ะ” “ทำตาม” ฉันเบะปากใส่ไอ้คนตัวสูงที่ทำหน้าตาจริงจัง แล้วฉันว่ามันอาการเริ่มจะหนักนะ นับวันยิ่งบ้าขึ้นทุกวัน “ฉันว่านายอาการหนักมากแล้วนะ ไปหาหมอเถอะ” “เพราะเธอนั่นแหละ ทำตามด้วย ถ้าไม่งั้นเธอปวดหัวจนหัวระเบิดแน่ๆ” “เออ รีบไปซะ ฉันเหม็นหน้านาย” ผมมองยัยตัวแสบก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับใช้มือบีบแก้มยัยนี่แหละตอบยัยตัวแสบกลับไปแบบกวนๆ “ฮึ ดีนะที่ยังไม่มีอะไรกัน เพราะถ้ามีอะไรกันฉันคงสงสัยว่าเธออาจจะท้องแล้วมีอาการเหม็นหน้าผัว” ฉันเบิกตากว้างก่อนจะใช้มือตีลงไปที่แขนของไอ้บ้านี่แรงๆ และพยายามดันมือเขาออกจากหน้าตัวเอง แล้วดูมันพูดแต่ละอย่าง “ไอ้ผู้ชายปากหมา ไปเลยไป” “ฮึ นั่งรออยู่นี่ห้ามไปไหน” “แล้วฉันยืนอยู่หรือไง” ผมส่งยิ้มให้ยัยนี่แบบกวนๆ ก่อนจะเข้ามาในห้องที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็อาบน้ำสำหรับนักกีฬาที่ทางโรงเรียนทำไว้ให้ปั้ง! ปั้ง!อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากินปี๊ด!“พักก่อนๆ”“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”“ครับครู”“เซทท์”ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน“ว่า”“น้ำไ
ผมจับมือยัยตัวแสบแล้วก็พากันเดินลัดเลาะมาที่ลานจอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ แล้ววันนี้ผมเอาลูกชายคนล่าสุดของผมมา เป็นรถบิ๊กไบค์ ของแบรนด์หนึ่งที่ตัวย่อคือตัว H รุ่น NEW CBR1000RR-R SP 30th Anniversary แล้วที่ผมชอบคือการออกแบบของรถที่มันพิเศษแล้วก็เฉพาะจริงๆ เพราะมันเป็นรุ่นฉลองครบรอบด้วยแหละ ทางแบรนด์เลยออกแบบให้ดูพิเศษ ที่สำคัญคือตัวเลขบนถังที่ไม่ซ้ำกันทำให้รถของคุณมีคันเดียวในโลก ส่วนเรื่องราคาก็ช่างมันเถอะ เพราะผมไม่ได้ซื้อเอง คันนี้พี่ชายผมซื้อให้ ผมปล่อยมือยัยตัวแสบก่อนจะนั่งคร่อมบนรถและหยิบหมวกกันน็อคมาใส่แล้วก็เปิดกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นจากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วหันมาหายัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“มา เหยียบขึ้นมา”“นายอย่าแกล้งฉันนะ”ฉันมองคนตัวสูงพร้อมกับกำชับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะรถมันสูงมากอะเธอ จะก้าวขึ้นประหนึ่งรถจักรยานยนต์แบบธรรมดาก็ไม่ได้ ฉันยังไม่เคยรู้สึกว่าขาสั้นมาก่อนเลยอะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกละ“หึหึ เออ ขึ้นมา ใครเขาแกล้งอะไรเธอ”ผมเลื่อนกระเป๋าสะพายไปด้านหลังแล้วก็วางไว้บนเบาะพอยัยตัวแสบก้าวขึ้นเลยช่วยประคองโดยที่ผมใช้มือจับขายัยตัวแสบเอาไว้จนยัยนี่ขึ้นมานั่งเรียบร้อย
Rrrrrrฉันกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้บ้านี่หรอก ปล่อยเบลอไปเลยจ่ะ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพอเห็นเป็นไอ้เจมมี่โทรมาเลยรีบกดรับสาย“เออ ว่า”[สาว!! มึงไปไหนกับเซทท์อะแม่]“แล้วมึงเห็นได้ไง”[อ่ะ กูกำลังซื้อหนังไก่ทอดอยู่จ่ะ แล้วไม่ใช่แค่กูที่ตื่นเต้นนะคะ ตอนนี้ทุกคนที่เห็นคือเขาตื่นเต้นกันหมดอะ สรุปมึงไปไหนคะหญิง อร้าย กูเขิน]“หยุดค่ะ มึงโทรมาก็ดีละ มารับกะ”ผมได้ยินยัยนี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพอรู้ว่ายัยนี่กำลังจะบอกให้เพื่อนมารับผมเลยใช้มือดึงโทรศัพท์ของยัยนี่มาแล้วก็กดวางสายก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋า“นี่ เอาโทรศัพท์ฉันมา”“ฉันไม่ให้ ฮึ มีปากแล้วเหรอเธออะ ฉันคิดว่าเอาปากทิ้งไปละ”“ถ้ามีแล้วปากหมาแบบนายฉันไม่มีให้หนักหน้าฉันหรอก”ฉันตอบไอ้บ้านี่จบก็หันมากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง จะได้รีบกินรีบแยกย้ายเพราะเหม็นหน้าไอ้บ้านี่แบบสุดๆ“ไม่ต้องกลัวหนักหรอก เพราะหน้าเธอใหญ่มีที่เหลืออีกเยอะแยะ”ผมตอบยัยนี่กลับไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่ายัยนี่จะหายละ แต่อาการแม่งมากกว่าเดิม เอาใจยากฉิบ“คุณลุง เท่าไหร่คะ”ฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จเรียบร้อยโด
05.15 นาที“พี่ๆ สวัสดีค่ะ พวกหนูฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”“จ้า ไหนมาให้แม่กอดหน่อย นี่ แล้วคำพูดเหมือนเป็นคนห่างไกลเนาะ”“คิกๆ”ฉันกอดพี่เปียแล้วก็ยิ้มให้พี่ๆ คนอื่นๆ คือรุ่นพี่เขาเป็นสาวสองที่ฝีมือเป็นเริ่ดมาก พี่เค้าเป็นออกแบบแล้วก็ตัดชุดต่างๆ ให้กับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดรำ ชุดดรัมเมเยอร์ ชุดไม่พอแต่งหน้าทำผมคือที่สุด แล้วถ้ามีงานทางโรงเรียนก็ให้พี่เขาแต่งให้ตลอด เห็นกันมาตั้งฉันเด็กอะเธอ“รำแปดคนใช่ไหมลูก ทีมเดิม”“ใช่ค่ะแม่”“พวกหนูก็มาช่วยแต่งตัวเหมือนเดิมค่ะแม่”“จ้า นี่ เดี๋ยวแม่ให้ดูชุดใหม่ที่แม่ตัด”“แม๊ มันจึ้งมาก ดีย์!”“ใช่แม่ ไอ้หยกพูดถูก สวยมากเลยอะ”“มาๆ งั้นเราเริ่มเลยดีกว่า ลูกๆ ชอบแม่ก็ดีใจ”ฉันพยักหน้าแล้วก็พากันนั่งลงจากนั้นพวกพี่เขาก็เริ่มแต่งหน้าให้ ชุดสวยมากจริงๆ อะ ฉันชอบมาก ส่วนชุดที่พี่เขาที่ตัดมาสวยมาก สะไบด้านในเป็นสีน้ำเงิน ด้านนอกเป็นสีแดงปักเลื่อม ผ้าถุงสีแดงแต่มีลวดลายและสีน้ำเงินแทรกมาด้วย แพทเทิร์นเหมือนชุดเจ้าสาวเลยอ อ๋อ แล้วที่เป็นสีแดงกับสีน้ำเงินเพราะสีประจำโรงเรียนของฉันคือ สีแดงกับสีน้ำเงินนั่นเองจ่ะ“เรารวบหรือปล่อยผมดีวะ”“กูว่ารวบแล้วปล่อยห
“ค่ะ ในลำดับต่อไปเป็นการแสดงรำไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/2 ชื่อการแสดงว่า รำเชิญขวัญ นำแสดงโดย 1.นางสาวธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ 2. นางสาวสุดารัตน์ ยิ้มละมัย 3.นางสาวจันทร์ดาว เมธีพงศ์…”พอคุณครูเริ่มแนะนำชื่อฉันยกมือไหว้ครูอาจารย์และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แบ่งฝั่งละ 4 คน แล้วก็ถือพานที่ใส่กลีบดอกไม้สด ที่มีทั้งกลีบกุหลาบ ดอกมะลิ กลีบดอกดาวเรือง ข้าวตอก ถั่ว งา เป็นของมงคลทั้งหมด ฉันกับเพื่อนเพื่อนก็พากันเดินมาอยู่ตรงมุมด้านในของเวทีของทั้งสองฝั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็นจอ LED แล้วก็เป็นกราฟิกลายไทย มีคนคอยปรับแสงสีเสียง คือเริ่ดมากอะ“ไอ้อาร์ม มึงดูพานด้วยนะ เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อาร์มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะเขาจัดแถวแบบเป็นห้องอยู่แล้ว ส่วนคนตัวแทนที่ถือพานก็นั่งสองแถวด้านข้างซ้ายสุด ซึ่งเขาก็จัดไว้เป็นระเบียบมากแล้วอะ“แล้วมึงจะไปไหนวะ”ผมหยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็เอาสายกล้องคล้องไว้ที่แขนก่อนจะกดเปิดแล้วตอบไอ้อาร์มกลับไป“ไปถ่ายรูปยัยหัวเน่าของพวกมึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูมา ดูพานดีๆ นะมึง เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวยัยนั่นกินหัวกูอีก”“พรืด เออ หัวหน้าของกูนี่อยู่ในทุกส่วนประสาทของมึ
คำเตือน ⚠️ แนะนำให้ดื่มชาเขียวใสไม่ใส่นมเพิ่มหวานและมะนาวนิดหน่อย แฮ่! ไม่ใช่ๆ คิกๆ ก่อนอ่านนิยายรบกวนรี้ดที่รักทุกคนทำความเข้าใจกันก่อนนะจ๊ะ 👇👇1. เนื้อหาในแต่ละ Episodes ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านและโปรดทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นเท่านั้น โดยทุกเรื่องราวและทุกตัวอักษรทั้งหมดออกมาจากจิตนาการของไรท์เท่านั้น2. ในส่วนเรื่องของฉาก อีโรติก ในนิยายของไรท์ทุกเรื่องส่วนมากจะแซ่บมาก NC25++ และจะเขียนเล่าแบบยกพริกมาทั้งสวนพร้อมกับเสียงใส่เสียงบรรยาย (ปั่ก ปั่ก ปั่ก อะ โอ๊ย) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านและการบรรยายค่ะเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์มากขึ้น หากใครที่ไม่ชอบการบรรยายประมาณนี้ในฉากเราไม่แนะนำให้กดเข้าอ่านนะคะ อาจจะข้ามตอนนี้อ่านเฉพาะเนื้อเรื่องก็ได้นะคะ แต่ถ้าใครชอบรับรองความเผ็ชค่ะ 3. นิยายภายใต้นามปากกาของไรท์จะเป็นแนวคลั่งรัก คลั่งกันจนบางทีอ่านไปมองบนไป คิกๆ อาจจะมีดราม่าบ้างหรือไม่มีเลย แต่ไม่หนักจนตับไตทำงานหนักแน่นอนจ่ะ เพราะไรท์อยากให้รี้ดอ่านเป็นแนวแบบฟิวส์กู๊ด อ่านไปยิ้มไป เพราะในสังคมรอบตัวก็มีความเครียดเยอะแล้วเนาะ ไรท์เลยเขียนแนวนี้ออกมาลดความเครียดให้รี้ดทุกคน4. เ
“มิลินท์เสร็จหรือยังลูก”ฉันที่กำลังจัดของอยู่เงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูห้อง เออ ทุกคนอาจจะงงๆ ใช่ไหม ว่าฉันคือใคร งั้นขออนุญาตแนะนำตัวนะจ๊ะ สวัสดี ฉัน มิลินท์ ชื่อจริง ธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ เป็นลูกคนโต คุณแม่ชื่อ มิ้ม คุณพ่อชื่อ วาโย อะ เริ่มคุ้นกันแล้วใช่อะเปล่า คริคริ หากใครงงๆ ลองไปหาข้อมูลคุณพ่อและคุณแม่ฉันได้นะ (อาจารย์ครับ…ที่รักของผม) คริคริ แล้วรู้ใช่ไหมว่าคุณพ่อฉันคลั่งรักคุณแม่มาก รักลูกเท่าไหนรักคุณแม่มากกว่าหลายเท่ามากๆอ๋อ ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กน้อยตัวอ้วนปากเลอะเค้กแล้วนะจ๊ะ ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วจ่ะ และที่สำคัญชอบเค้กคุณแม่มากๆ เหมือนเดิม ต้องกินวันเว้นวันอะ ตอนนี้ฉันอายุ 16 ปี ส่วนสูง 165 น้ำหนัก 48 สัดส่วนคือ 36 26 39 ผมสีดำยาวและตรงมาก ตอนนี้ผมฉันจะถึงเอวแล้ว ผิวขาว ตาโตปากนิด จมูกหน่อย จัดฟันด้วยจ้า ยางฟันสีชมพูอ่อน และฉันกำลังศึกษาอยู่ที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชน CC ระบบการสอนก็ไม่ต่างจากโรงเรียนรัฐบาลเท่าไหร่แทบจะคล้ายกันเลยด้วยซ้ำ แต่คงต่างกันตรงค่าเทอมแล้วก็ความสะดวกสบายของสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนที่พร้อมใช้งานมากๆ นั่นแหละ
ฉันเดินมาที่ห้องตัวเองพอเดินมาถึงก็เห็นกลุ่มเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง เพื่อนฉันมี มีอยู่ 6 คน มีคุณแม่สามคน คือ ใบหยก เจมมี่ แล้วก็น้ำส้ม ส่วนผู้หญิงก็มี แพรไหม เฟรม แล้วก็แพท เอาจริงๆ ก็สนิททั้งห้องแหละ แต่นี่คือสนิทมากๆ พอฉันเดินเข้ามาไอ้ใบหยกก็รีบลุกขึ้นและพูดขึ้นมา“ทุกคนคะ ได้โปรดลุกขึ้นยืนเพื่อนต้อนรับหัวหน้าห้องสุดสวยแสนสตรองและชอบท้าชน ปรบมือต้อนรับคุณหนูมิลินท์ค่ะ”แปะ แปะ แปะ!!ฉันหัวเราะก่อนจะเอากระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะตัวเองและฉันนั่งกับไอ้ฟร้อนเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปมองพวกมันและถามออกไปแบบงงๆ“ใครบอกว่ากูจะเป็นหัวหน้าห้องคะแม่”“กูไงคะ และก็เพื่อนทุกคน มา เมื่อครบองค์ประชุมตั้งเตาเลยจ่ะ วันนี้กูรู้มาว่ามีนักเรียนจะเข้ามาห้องเราสามคน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน”“อิมิมึงฟังก่อนสิ เอาสติ๊กเกอร์มาแปะสมุดอีกละ”ฉันเงยหน้ามองไอ้น้ำส้มก่อนจะหัวเราะก่อนจะเอามือเท้าคางและถามมันกลับไปแบบงงๆ“หึหึ มึงก็พูดมาสิแม่ หูก็ได้ยินอยู่”“อิหยก มึงเก็บๆ แล้วมึงตั้งใจฟังนะแม่ กูจะบอกว่าผู้ชายหนึ่งในสองคนที่จะมาอยู่ห้องเรามีรอยสักภาษาอังกฤษตรงคอแล้วก็ตรงต้นแขน มึงจำได้บ้างยัง คิดสิแม่”ฉั
“ค่ะ ในลำดับต่อไปเป็นการแสดงรำไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/2 ชื่อการแสดงว่า รำเชิญขวัญ นำแสดงโดย 1.นางสาวธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ 2. นางสาวสุดารัตน์ ยิ้มละมัย 3.นางสาวจันทร์ดาว เมธีพงศ์…”พอคุณครูเริ่มแนะนำชื่อฉันยกมือไหว้ครูอาจารย์และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แบ่งฝั่งละ 4 คน แล้วก็ถือพานที่ใส่กลีบดอกไม้สด ที่มีทั้งกลีบกุหลาบ ดอกมะลิ กลีบดอกดาวเรือง ข้าวตอก ถั่ว งา เป็นของมงคลทั้งหมด ฉันกับเพื่อนเพื่อนก็พากันเดินมาอยู่ตรงมุมด้านในของเวทีของทั้งสองฝั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็นจอ LED แล้วก็เป็นกราฟิกลายไทย มีคนคอยปรับแสงสีเสียง คือเริ่ดมากอะ“ไอ้อาร์ม มึงดูพานด้วยนะ เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อาร์มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะเขาจัดแถวแบบเป็นห้องอยู่แล้ว ส่วนคนตัวแทนที่ถือพานก็นั่งสองแถวด้านข้างซ้ายสุด ซึ่งเขาก็จัดไว้เป็นระเบียบมากแล้วอะ“แล้วมึงจะไปไหนวะ”ผมหยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็เอาสายกล้องคล้องไว้ที่แขนก่อนจะกดเปิดแล้วตอบไอ้อาร์มกลับไป“ไปถ่ายรูปยัยหัวเน่าของพวกมึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูมา ดูพานดีๆ นะมึง เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวยัยนั่นกินหัวกูอีก”“พรืด เออ หัวหน้าของกูนี่อยู่ในทุกส่วนประสาทของมึ
05.15 นาที“พี่ๆ สวัสดีค่ะ พวกหนูฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”“จ้า ไหนมาให้แม่กอดหน่อย นี่ แล้วคำพูดเหมือนเป็นคนห่างไกลเนาะ”“คิกๆ”ฉันกอดพี่เปียแล้วก็ยิ้มให้พี่ๆ คนอื่นๆ คือรุ่นพี่เขาเป็นสาวสองที่ฝีมือเป็นเริ่ดมาก พี่เค้าเป็นออกแบบแล้วก็ตัดชุดต่างๆ ให้กับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดรำ ชุดดรัมเมเยอร์ ชุดไม่พอแต่งหน้าทำผมคือที่สุด แล้วถ้ามีงานทางโรงเรียนก็ให้พี่เขาแต่งให้ตลอด เห็นกันมาตั้งฉันเด็กอะเธอ“รำแปดคนใช่ไหมลูก ทีมเดิม”“ใช่ค่ะแม่”“พวกหนูก็มาช่วยแต่งตัวเหมือนเดิมค่ะแม่”“จ้า นี่ เดี๋ยวแม่ให้ดูชุดใหม่ที่แม่ตัด”“แม๊ มันจึ้งมาก ดีย์!”“ใช่แม่ ไอ้หยกพูดถูก สวยมากเลยอะ”“มาๆ งั้นเราเริ่มเลยดีกว่า ลูกๆ ชอบแม่ก็ดีใจ”ฉันพยักหน้าแล้วก็พากันนั่งลงจากนั้นพวกพี่เขาก็เริ่มแต่งหน้าให้ ชุดสวยมากจริงๆ อะ ฉันชอบมาก ส่วนชุดที่พี่เขาที่ตัดมาสวยมาก สะไบด้านในเป็นสีน้ำเงิน ด้านนอกเป็นสีแดงปักเลื่อม ผ้าถุงสีแดงแต่มีลวดลายและสีน้ำเงินแทรกมาด้วย แพทเทิร์นเหมือนชุดเจ้าสาวเลยอ อ๋อ แล้วที่เป็นสีแดงกับสีน้ำเงินเพราะสีประจำโรงเรียนของฉันคือ สีแดงกับสีน้ำเงินนั่นเองจ่ะ“เรารวบหรือปล่อยผมดีวะ”“กูว่ารวบแล้วปล่อยห
Rrrrrrฉันกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้บ้านี่หรอก ปล่อยเบลอไปเลยจ่ะ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพอเห็นเป็นไอ้เจมมี่โทรมาเลยรีบกดรับสาย“เออ ว่า”[สาว!! มึงไปไหนกับเซทท์อะแม่]“แล้วมึงเห็นได้ไง”[อ่ะ กูกำลังซื้อหนังไก่ทอดอยู่จ่ะ แล้วไม่ใช่แค่กูที่ตื่นเต้นนะคะ ตอนนี้ทุกคนที่เห็นคือเขาตื่นเต้นกันหมดอะ สรุปมึงไปไหนคะหญิง อร้าย กูเขิน]“หยุดค่ะ มึงโทรมาก็ดีละ มารับกะ”ผมได้ยินยัยนี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพอรู้ว่ายัยนี่กำลังจะบอกให้เพื่อนมารับผมเลยใช้มือดึงโทรศัพท์ของยัยนี่มาแล้วก็กดวางสายก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋า“นี่ เอาโทรศัพท์ฉันมา”“ฉันไม่ให้ ฮึ มีปากแล้วเหรอเธออะ ฉันคิดว่าเอาปากทิ้งไปละ”“ถ้ามีแล้วปากหมาแบบนายฉันไม่มีให้หนักหน้าฉันหรอก”ฉันตอบไอ้บ้านี่จบก็หันมากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง จะได้รีบกินรีบแยกย้ายเพราะเหม็นหน้าไอ้บ้านี่แบบสุดๆ“ไม่ต้องกลัวหนักหรอก เพราะหน้าเธอใหญ่มีที่เหลืออีกเยอะแยะ”ผมตอบยัยนี่กลับไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่ายัยนี่จะหายละ แต่อาการแม่งมากกว่าเดิม เอาใจยากฉิบ“คุณลุง เท่าไหร่คะ”ฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จเรียบร้อยโด
ผมจับมือยัยตัวแสบแล้วก็พากันเดินลัดเลาะมาที่ลานจอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ แล้ววันนี้ผมเอาลูกชายคนล่าสุดของผมมา เป็นรถบิ๊กไบค์ ของแบรนด์หนึ่งที่ตัวย่อคือตัว H รุ่น NEW CBR1000RR-R SP 30th Anniversary แล้วที่ผมชอบคือการออกแบบของรถที่มันพิเศษแล้วก็เฉพาะจริงๆ เพราะมันเป็นรุ่นฉลองครบรอบด้วยแหละ ทางแบรนด์เลยออกแบบให้ดูพิเศษ ที่สำคัญคือตัวเลขบนถังที่ไม่ซ้ำกันทำให้รถของคุณมีคันเดียวในโลก ส่วนเรื่องราคาก็ช่างมันเถอะ เพราะผมไม่ได้ซื้อเอง คันนี้พี่ชายผมซื้อให้ ผมปล่อยมือยัยตัวแสบก่อนจะนั่งคร่อมบนรถและหยิบหมวกกันน็อคมาใส่แล้วก็เปิดกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นจากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วหันมาหายัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“มา เหยียบขึ้นมา”“นายอย่าแกล้งฉันนะ”ฉันมองคนตัวสูงพร้อมกับกำชับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะรถมันสูงมากอะเธอ จะก้าวขึ้นประหนึ่งรถจักรยานยนต์แบบธรรมดาก็ไม่ได้ ฉันยังไม่เคยรู้สึกว่าขาสั้นมาก่อนเลยอะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกละ“หึหึ เออ ขึ้นมา ใครเขาแกล้งอะไรเธอ”ผมเลื่อนกระเป๋าสะพายไปด้านหลังแล้วก็วางไว้บนเบาะพอยัยตัวแสบก้าวขึ้นเลยช่วยประคองโดยที่ผมใช้มือจับขายัยตัวแสบเอาไว้จนยัยนี่ขึ้นมานั่งเรียบร้อย
ปั้ง! ปั้ง!อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากินปี๊ด!“พักก่อนๆ”“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”“ครับครู”“เซทท์”ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน“ว่า”“น้ำไ
“มันบ้าหรือเปล่าวะน่ะ” ฉันบ่นพึมพำออกมาแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วจากนั้นกลุ่มเพื่อนฉันแล้วก็เพื่อนผู้หญิงในห้องก็เริ่มล้อขึ้นมา “งู้ยยย ฝากซื้อของแล้วไม่ต้องจ่ายเงินแบบนี้ได้เหรอคะสาว” “อือ ถ้าเป็นแฟนก็คงได้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมันคืออะไรเหรอแม่ เฟื่อนปะ” “พวกมึงหยุดเลยค่ะสาว มันก็อาจจะนิสัยรวยไง” “วงเล็บ กับมึงคนเดียวค่ะสาว ฮัลโหล” “หยุดฮัลโหล อย่าเพิ่งฮัลโหลค่ะ พวกมึงก็เห็นว่าไอ้นั่นมันบ้า วันๆ กินยาครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยาหมดแล้วมั้ง อาการแม่งถึงขาดๆ เกินๆ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เออ น้ำกูเกือบพุ่ง มันควรเป็นโมเมนต์หวานๆ ปะ” “มิๆ เปิดเพลงนะ” “เออๆ เปิดเลย ประตูมันเป็นกระจกอยู่แล้วปิดไว้แบบนั้นแหละ” “เค” ผมซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็ถือขนมขึ้นมาบนห้องแล้วก็เดินเข้ามาหายัยตัวแสบแล้วก็นั่งลงข้างๆ และส่งถุงของให้ยัยนี่ไป “นี่นายไปเหมาศูนย์อาหารมาเหรอวะ” “ฉันหิวปะ เอาไป จะได้หยุดพูด” ฉันมองถุงของที่ไอ้บ้านี่มันซื้อมา แม่ง 2 ถุงใหญ่ๆ มันไม่คิดจะไปไหนแล้วมั้ง ฉันรับถุงของมาแล้วก็หยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมา แล้วมันกำลังร้อนๆ ผักก็สด งื้ออ มันดีมาก เพราะโรงเรียนฉันเค้าทำแบบสดๆ แล้วเนื้อคือหนา
1 อาทิตย์ต่อมา “เซทท์ มายแมพวิชาภาษาไทยที่อาจารย์เขาให้ทำอยู่ไหน เอามา จะรวบรวมเอาไปส่งแล้ว” “ไม่มี” ฉันกำลังนั่งเรียงเลขที่ใบงานให้คุณครูพอได้ยินไอ้บ้านี่ตอบมาเท่านั้นแหละแม่ แล้วเป็นแบบนี้แทบจะทุกวิชา คือทุกวิชาเลยดีกว่ายกเว้นวิชาพละ ทำไมมันไม่ไปเรียนโรงเรียนกีฬาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ “นายไม่คิดจะเปลี่ยนคำตอบบ้างหรือไงห๊ะ เย็นนี้กลับไปทำแล้วพรุ่งนี้เอามาให้ฉันด้วย ฉันจะตามส่งให้” ผมหันไปทางยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้าบูดไปหมด แต่ผมก็ไม่ชอบจริงๆ อะ เรียนรู้เรื่องแล้วทำไมต้องให้ทำอะไรที่มันเยอะแยะด้วยวะ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ส่ง” “ไอ้เซทท์!” “อะไร อย่านะเว้ย” ฉันตวัดสายตาไปมองไอ้บ้านี่แบบเหลืออด ตอนนี้ฉันอยากจะเอามือควักลูกตามันออกมาแล้วโยนลูกตามันขึ้นไปหลังคาอาคารเรียนจริงๆ “มิๆ ใบตอง ดอกไม้สด อุปกรณ์สำหรับทำพานมาครบแล้วค่ะสาว” “เออๆ พวกผู้ชาย เดี๋ยวช่วยกันดันโต๊ะไปไว้รอบห้องนะ จะใช้พื้นที่กลางห้องทำพานไหว้ครู เดี๋ยวกูเอางานไปส่งครูก่อนแล้วจะกลับมาเลือกคนถือพาน” “เคๆ” “คิกๆ มึง เราต้องล็อกมง มึงไปบอกเพื่อนให้เลือกเซทท์ถือพานคู่กับไอ้มิ เพราะฝั่งผู้หญิงยังไงก็คุณมิลินท์ของกูอยู่ละ
12.40 นาที“มิลินท์ ครูประพันธ์เรียกพบน่ะ”ฉันที่กำลังนั่งกินขนมกับเพื่อนอยู่ที่โซนพักผ่อนของโรงเรียนแล้วก็นั่งเมาส์เรื่องทั่วไป สักพักเพื่อนต่างห้องก็วิ่งมาตาม ฉันเลยขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้น“ขอบใจนะ แล้วไปที่ไหนล่ะ ห้องพักครูเหรอ”“เปล่าๆ ที่ศูนย์อาหาร”“อ๋อ อะเค พวกมึงรอกูอยู่นี่ก็ได้”“ไม่เป็นไร ไปด้วยกัน เดี๋ยวกูนั่งรอ โต๊ะเก้าอี้เรามีเยอะแยะ”“เคๆ”ตู้มมมม!!“เชี้ย ไอ้เซทท์ มึงว่ายเร็วฉิบหาย”ผมว่ายน้ำไปกลับ 500 เมตร จากนั้นก็ถอดแว่านตาแล้วตอบรุ่นพี่ในชมรมกีฬากลับไปแบบปกติ อ๋อ แล้วพอครูชูศักดิ์เค้าผู้ว่าผมย้ายมานี่เลยทาบทามให้มาอยู่ชมรมกีฬาด้วยกัน ผมก็ตอบรับครูเค้า เพราะผมก็ชอบอยู่แล้ว และตอนนี้ผมก็สนิทกับรุ่นพี่รุ่นน้องทุกคนเรียบร้อยแล้ว มันผู้ชายด้วยกันแล้วก็คุยกันไม่ยากอะ“อือ นี่ความเร็วปกติ ถ้าให้ว่ายเร็วกว่านี้ก็ทำได้”“เชี้ยย แล้วมึงเล่นได้ทุกกีฬาเลยเหรอวะ”“อืม จำความได้ก็แข่งกีฬามาตลอด”“โคตรสุด กูว่าแล้วทำไมมึงแม่งชำนาญขนาดนี้”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะตอบเพื่อนในชมรมกลับไปพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก“ไม่ขนาดนั้นหรอก ไอ้ที่แพ้ก็มี ใครจะชนะทุกครั้งที่ลง”“แล้วถ้ามึงต้องแข่งกับโรงเรียน
ฉันเดินมาที่ห้องตัวเองพอเดินมาถึงก็เห็นกลุ่มเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง เพื่อนฉันมี มีอยู่ 6 คน มีคุณแม่สามคน คือ ใบหยก เจมมี่ แล้วก็น้ำส้ม ส่วนผู้หญิงก็มี แพรไหม เฟรม แล้วก็แพท เอาจริงๆ ก็สนิททั้งห้องแหละ แต่นี่คือสนิทมากๆ พอฉันเดินเข้ามาไอ้ใบหยกก็รีบลุกขึ้นและพูดขึ้นมา“ทุกคนคะ ได้โปรดลุกขึ้นยืนเพื่อนต้อนรับหัวหน้าห้องสุดสวยแสนสตรองและชอบท้าชน ปรบมือต้อนรับคุณหนูมิลินท์ค่ะ”แปะ แปะ แปะ!!ฉันหัวเราะก่อนจะเอากระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะตัวเองและฉันนั่งกับไอ้ฟร้อนเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปมองพวกมันและถามออกไปแบบงงๆ“ใครบอกว่ากูจะเป็นหัวหน้าห้องคะแม่”“กูไงคะ และก็เพื่อนทุกคน มา เมื่อครบองค์ประชุมตั้งเตาเลยจ่ะ วันนี้กูรู้มาว่ามีนักเรียนจะเข้ามาห้องเราสามคน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน”“อิมิมึงฟังก่อนสิ เอาสติ๊กเกอร์มาแปะสมุดอีกละ”ฉันเงยหน้ามองไอ้น้ำส้มก่อนจะหัวเราะก่อนจะเอามือเท้าคางและถามมันกลับไปแบบงงๆ“หึหึ มึงก็พูดมาสิแม่ หูก็ได้ยินอยู่”“อิหยก มึงเก็บๆ แล้วมึงตั้งใจฟังนะแม่ กูจะบอกว่าผู้ชายหนึ่งในสองคนที่จะมาอยู่ห้องเรามีรอยสักภาษาอังกฤษตรงคอแล้วก็ตรงต้นแขน มึงจำได้บ้างยัง คิดสิแม่”ฉั