1 อาทิตย์ต่อมา
“เซทท์ มายแมพวิชาภาษาไทยที่อาจารย์เขาให้ทำอยู่ไหน เอามา จะรวบรวมเอาไปส่งแล้ว” “ไม่มี” ฉันกำลังนั่งเรียงเลขที่ใบงานให้คุณครูพอได้ยินไอ้บ้านี่ตอบมาเท่านั้นแหละแม่ แล้วเป็นแบบนี้แทบจะทุกวิชา คือทุกวิชาเลยดีกว่ายกเว้นวิชาพละ ทำไมมันไม่ไปเรียนโรงเรียนกีฬาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ “นายไม่คิดจะเปลี่ยนคำตอบบ้างหรือไงห๊ะ เย็นนี้กลับไปทำแล้วพรุ่งนี้เอามาให้ฉันด้วย ฉันจะตามส่งให้” ผมหันไปทางยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้าบูดไปหมด แต่ผมก็ไม่ชอบจริงๆ อะ เรียนรู้เรื่องแล้วทำไมต้องให้ทำอะไรที่มันเยอะแยะด้วยวะ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ส่ง” “ไอ้เซทท์!” “อะไร อย่านะเว้ย” ฉันตวัดสายตาไปมองไอ้บ้านี่แบบเหลืออด ตอนนี้ฉันอยากจะเอามือควักลูกตามันออกมาแล้วโยนลูกตามันขึ้นไปหลังคาอาคารเรียนจริงๆ “มิๆ ใบตอง ดอกไม้สด อุปกรณ์สำหรับทำพานมาครบแล้วค่ะสาว” “เออๆ พวกผู้ชาย เดี๋ยวช่วยกันดันโต๊ะไปไว้รอบห้องนะ จะใช้พื้นที่กลางห้องทำพานไหว้ครู เดี๋ยวกูเอางานไปส่งครูก่อนแล้วจะกลับมาเลือกคนถือพาน” “เคๆ” “คิกๆ มึง เราต้องล็อกมง มึงไปบอกเพื่อนให้เลือกเซทท์ถือพานคู่กับไอ้มิ เพราะฝั่งผู้หญิงยังไงก็คุณมิลินท์ของกูอยู่ละ” “เออๆ ไปๆ กระจายข่าว” ผมกับพวกผู้ชายช่วยกันขยับโต๊ะแล้วก็เอากี้เอาไว้รอบห้องแล้วก็เหลือพพื้นที่ตรงกลางเอาไว้แบบที่ยัยนั่นบอก สักพักพวกไอ้อาร์มก็เดินเข้ามาหา “เฮ้ย ไอ้เซทท์ ไปหาซื้ออะไรกินกันปะ ยังไงวันนี้ก็ไม่มีเรียนอยู่แล้วเพราะครูเขาให้เด็กทำพาน” “เออ ไปดิ” ฉันเดินกลับมาในห้องแล้วก็เห็นคนตัวสูงแล้วก็พวกเพื่อนเขา 5-6 พากันเดินออกมาจากห้อง ฉันเลยขมวดคิ้วแล้วถามออกไป “จะไปไหนกัน” “หาซื้ออะไรกิน” “เข้าไปในห้องก่อน จะเลือกคนถือพานแล้วจะกระจายงาน ถ้าไม่เข้าฉันจะปิดประตูและขังทุกคนเอาไว้ข้างในจนกว่าจะถึงเวลาพัก” ผมเท้าเอวมองยัยตัวแสบที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม่งอยากจะจับทุ่มจริงๆ แล้วพวกผมทำอะไรนอกจากเดินเข้ามาในห้องตามที่ยัยนี่บอก “คนที่เดินเข้ามาที่หลังปิดประตูห้องเรียนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เราจะใช้เสียงเยอะในการประชุม” “เผด็จการฉิบหาย กูคิดว่าแม่งเป็นหลานนายก” “พรืด ไอ้เซทท์ ติ๊ด ติ๊ด” “ทำอะไรของมึง” “สัญญาณขาดหายไปชั่วขณะ” “ไอ้สัส” ฉันเดินมาที่หน้าห้องแล้วก็เริ่มพูดกับเพื่อนถึงรายละเอียดและหน้าที่ต่างๆ ที่ทุกคนต้องทำ “ขอเวลา 15 นาที โอเค เราจะมาเลือกคนถือพานซึ่งเป็นตัวแทนของห้อง แล้วไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรานะ เปลี่ยนคนบ้างก็ได้ มันจะได้มีอะไรแปลกใหม่ ใครอยากถือยกมือขึ้นมาได้เลย หรือใครอยากจะเสนอเพื่อนก็ได้เลย เริ่มจากฝ่ายผู้หญิงก่อน” พอยัยตัวแสบถามทุกคนในห้องก็นั่งนิ่งๆ ฝั่งผู้หญิงไม่มีใครยกมือหรือเสนอชื่อเพื่อนเลยสักคน “ทำไมเงียบอะ” “ก็มึงถือเหมือนเดิมไง เอามึงแหละ เป็นหน้าเป็นตาให้ห้อง” “เออๆ พวกกูโหวตมึง” “Stop คือไม่จำเป็นต้องเป็นกูก็ได้ ในห้องนี้พวกมึงก็สวยกันทั้งนั้นอะ มา ใครอยากถือลุกขึ้นเลย” ฉันถามเพื่อนออกไปอีกรอบแล้วก็ได้ความเงียบแล้วเพื่อนก็สั่นหัว คือฉันถือจนเบื่อ ถือจนไม่อยากจะถือแล้วอะ แล้ววันนี้ทำพาน พรุ่งนี้ต้องไปผูกผ้าที่เวทีเพิ่มเป็นบางจุด จัดดอกไม้ แล้วพรุ่งนี้จะมีพิธีซ้อมใหญ่ด้วย ประเด็นคือฉันก็ต้องรำเปิดงาน “แม่ ทุกคนเค้าเลือกมึงค่ะสาว มึงก็ถือไปแหละ” “กูมีรำเปิดงานนะ” “แม่ แก๊งค์นางรำที่มึงดรีมทีมไว้ 8 คน กูก็เห็นรำเปิดงานทุกงาน แล้วมึงก็ทำมาแบบนี้ทุกปี” ผมขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ยัยตัวแสบ ซึ่งภาระที่ยัยนี่รับผิดชอบแล้วก็ดูแลอยู่ดูเหมือนจะหนักมากพอสมควรเลยนะ “อืม แกแหละมิ พานแกไม่ต้องทำ เดี๋ยวพวกเราช่วยกันจัดการให้เอง แกแค่เลือกแบบ นอกนั้นพวกเราจัดให้” ฉันยิ้มให้เพื่อนในห้อง ซึ่งงานฉันเหมือนจะหนักนะ แต่เพื่อนก็ช่วยเหลือกันหมดอะ ไม่มีเกี่ยงงาน ทำอะไรก็ทำด้วยกันทั้งห้อง “เออๆ ผูกผ้าก็มีพวกกู มึงก็เอาเวลามาซ้อมรำก็พอ” “จ้า ขอบใจนะคะเพื่อนๆ ที่แสนจะน่ารัก แล้วผู้ชายล่ะ ธีม ถือคู่เราเหมือนเดิมไหม” ธีม ถือคู่เราเหมือนเดิมไหม ผมมองยัยตัวแสบก่อนจะเบะปากใส่ มันจำเป็นต้องขนาดนี้เลยปะวะ ผมกอดอกก่อนจะใช้เท้าถีบโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ จนเสียงมันดังขึ้นไปทั่วห้อง ปั้ง! “แม่แหก!!” “ผีเข้านายหรือไงห๊ะ” ในจังหวะที่ห้องกำลังเงียบๆ ทุกคนก็พากันอุทานแล้วก็ตกใจขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงอะไรสักอย่างมันดังขึ้นมา ฉันใช้มือกุมหัวใจตัวเองก่อนจะเท้าเอวแล้วตวัดสายตาไปมองไอ้ตัวเจ้าปัญหา “ตีนมันลั่น มีอะไรปะล่ะ” “เดี๋ยวตีนฉันจะลั่นใส่นายบ้าง” “ก็มาดิ ไอ้เตี้ย” “ไอ้เปรต” “อือหื้อ อิหยก มึงแน่ใจนะว่าจะให้คู่นี้ถือพาน ตอนนี้แม่งกำลังฟาดฟันกันอยู่มึงเห็นไหม” “เออ รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” “ฝ่ายชายกูเสนอเซทท์” “เออๆ เราก็เสนอเซทท์!” ผมละสายตาจากยัยตัวแสบแล้วก็หันไปมองเพื่อนแบบงงๆ แล้วคือ มากพิธี ผมก็ไม่ได้ชอบอะ ผมส่ายหัวก่อนจะรีบปฏิเสธ “ไม่เอาอะ เอาคนอื่นเถอะ” “เหอะ มึงเอาคนอื่นเถอะค่ะ เพราะไอ้บัดดี้ของกูเนี่ยนะ เขาเป็นมนุษย์ถ้ำ เล่นแต่กีฬา ธีม งั้นเธอถือคู่เราเหมือนเดิมนะ” ฉันไม่ได้ใส่ใจไอ้บ้านี่เท่าไหร่แค่ได้ยินชื่อนายนี่ขึ้นมาก็รู้ละว่ามันไม่ทำแล้วเราจะเสียเวลาทำไม อีกอย่าง ธีมก็เรียนเก่ง หน้าตาก็สู้ได้ แต่ยังไม่ทันจะตกลงอะไรกันเสียงไอ้บ้านี่ก็พูดแทรกขึ้นมาทันที “เฮ้ย! ฉันจะพานคู่กับเธอ เธอกล้าปะล่ะ ไม่กล้าก็ถอนตัวออกไป” ผมพูดแทรกขึ้นมาหลังจากยัยนี่หันไปถามไอ้ธีม ไอ้หนอนหนังสือของห้องนั่นแหละ ฝ่ายผู้ชายผมก็เห็นมีมันคนเดียวนี่แหละที่ไม่เข้าสังคมอะไรกับใครเขานอกนั้นก็ไปไหนไปกับผมหมดทุกคนอะ “ฉันเนี่ยนะต้องถอนตัว บอกตัวเองเถอะนะ ถึงวันขาก้าวไม่ออก ไม่กล้ามาโรงเรียนแบบนั้นไม่เอานะเว้ย เสียชื่อว่ะ” “ฉันคนจริงอยู่แล้วเว้ย” “จริงแต่ปากไม่เอานะ มันไม่เท่ห์” “ฮึ ฉันเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว ถ้าเธออยากรู้ว่าเรื่องอะไรบ้างก็มาทำความรู้จักกับฉันได้นะ ฉันจะค่อยๆ บอก” “งู้ยยยยย” “งื้ออออ” “นายไปตรวจแล้วไปรอรับยาเถอะ” ฉันสวนนายนี่กลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วตอนแรกมันยังอยู่ในบรรยากาศที่กำลังฟินใช่ปะ ตอนนี้เพื่อนพากันหัวเราะออกมาหมดละ จากนั้นฉันก็แบ่งหน้าที่ว่าใครทำอะไร ส่วนมากตอนนี้ทุกคนก็ช่วยกันเช็ดแล้วก็ฉีกใบตอง แล้วผู้ชายห้องฉันบางคนลุคเถื่อนมากแต่พับกลีบใบตองสวยทุกคนนะคะ แต่มันก็จะมีบางกลุ่มที่พอมองไปแล้วน่าปวดจิต ไม่ต้องพูดชื่อแกก็รู้ใช่ปะ “ดาบนี้ข้าได้มาจากการประมูล และเป็นดาบที่ราคาสูงที่สุดในโลก” ผมกับเพื่อนพากันหยิบก้านกล้วยขึ้นมาเล่นกัน เพราะผมทำไม่เป็นอะ อยู่โรงเรียนเก่าก็ไม่เคยทำสักทีพวกผู้หญิงเอาไปทำเองทั้งหมด ผมยิ้มปากก่อนจะใช้ก้านกล้วยชี้ไปที่ไอ้อาร์มและตอบมันกลับไป “ดาบนี้ที่ข้าถืออยู่มันเป็นดาบที่ไม่สามารถประเมินราคาได้ เพราะถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของข้าตั้งแต่ 100 ปี ที่แล้ว ไม่อยากจะพูดถึงว่ามันทำอะไรได้บ้าง” “ฮึ งั้นเจ้าก็ต้องทำให้พวกข้าเห็นด้วยตาเนื้อแล้วแหละ” “พวกเจ้าจับตาดูข้าให้ดี” เพี๊ยะ ฉันที่กำลังนั่งพับกลับใบตองอยู่แม่งสะดุ้งขึ้นมาหลังจากเหมือนจะโดนอะไรตีลงมาที่หลัง พอหันไปมองก็เห็นไอ้บ้านี่ทำท่าฟันดาบอยู่ มันไม่เจ็บหรอก แต่มันต้องเอาคืน แล้วเพื่อนในห้องทำอะไร ทุกคนแม่งพากันหัวเราะออกมาอะ “ฮ่าๆ” “ไอ้เซทท์ นายแกล้งฉันเหรอห๊ะ” “ฮึ ฉันแกล้งอะไรเธอ มันพลาดปะ” ผมยิ้มก่อนจะตอบยัยตัวสั้นกลับไป เออ พอยัยนี่ของขึ้นแล้วผมชอบอะ มันสนุกดี “มันพลาดเหรอ ไอ้เซทท์ แกตายแน่” “เฮ้ยๆ ยัยตัวสั้น เธอหยุดเลยนะเว้ย” “ห้องมันมีอยู่แค่นี้นายรีบมารับความผิดจากฉันซะ แล้วไอ้ดาบอะไรที่เล่นกันอยู่ฉันจะระเบิดไม่ให้เหลือซากเลย” ฉันรีบวิ่งไปหาไอ้บ้านี่ที่พยายามวิ่งหนี ส่วนเพื่อนก็ช่วยกันเอาของหลบ ฉันใช้จังหวะวิ่งเข้าไปใกล้ๆ แล้วดึงเสื้อพละสีแดงของทางโรงเรียน อ๋อ แล้ววันนี้เขาประกาศให้ใส่ชุดพละจ่ะ พรุ่งนี้สามารถใส่ชุดลำลองมาได้ แต่ต้องเป็นเสื้อยืดแล้วก็กางเกงขายาวแบบใดก็ได้ เพราะมันต้องมาช่วยกันเตรียมงานใส่กระโปรงมันก็จะไม่ค่อยถนัด พอจับนายนี่ได้ฉันก็ใช้ก้านกล้วยที่ดึงมาจากอาร์มตีลงไปที่หลังของไอ้บ้านี่แรงๆ เพี๊ยะ! “โอ๊ะ เธอตีหรือกระทืบฉันวะ ปล่อยเลยนะเว้ย” “หยุดพาเพื่อนเล่นแล้วไปช่วยคนอื่นเขาทำงานเลยนะ” “ฉันพับไอ้พวกนั้นไม่เป็นหรอก” “มันมีงานเดียวหรือไง อาร์ม กลุ่มเพื่อนของไอ้เซทท์ทุกคนรีบพากันสลายตัวเลยนะ ไม่งั้นใครที่ไม่มีงานทำฉันจะจับไปออกกำลังกายหน้าระเบียง หางานที่ตัวเองทำได้เดี๋ยวนี้!” “รับทราบ!” “พรืด หัวหน้าสุดโหดของกู” “เขาหยอกล้อกันพอกรุบกริบ ถ่ายคลิปไว้มั่งยัง” “ตั้งแต่เริ่มแล้วค่ะ” “งื้อออ” ผมถูกยัยตัวแสบลากมาตรงที่ยัยนี่นั่งอยู่ตอนแรก ส่วนพวกไอ้อาร์มแม่งเหมือนหายเข้ากลีบเมฆอะ “นั่ง ฉีกใบตอง เอาขนาดที่ทำไว้แล้ววางลงไปแล้วฉีกแบบนี้ เดี๋ยวถ้านายทำไม่ได้ฉันจะระเบิดหัวนาย” “เออ ฉันลงไปซื้อกินก่อน เดี๋ยวขึ้นมาทำ” “โอโห กว่าจะทำงานได้เนาะ ฉันให้เวลา 30 นาที ถ้านายไม่ขึ้นมาภายใน 30 นาที งานฉีกใบตองจะเป็นของนายคนเดียว” “ยัยตัวสั้น เธอมันเผด็จการมากเกินไปแล้วนะเว้ย” “เออ! ฉันปกครองแบบนี้นายมีปัญหาอะไรไหม” ฉันเท้าเอวแล้วมองไปที่ไอ้บ้านี่แล้วหยักคิ้วส่งไปให้ คนอื่นเขาก็ปกติปะ มีไอ้บ้านี่คนเดียวแหละที่มันบ้า จะให้ปล่อยเหมือนคนอื่นได้ไง แม่งอายุเท่าไหร่ละเอาก้านกล้วยไปฟันดาบ “ยัยหน้าซาลาเปา แม่งใช่เลย ทั้งกลม ทั้งขาว ช่วงนี้เจริญอาหารสินะ” “งื้ออ เอามือนายออกไปเลยนะ ถ้าสิวฉันขึ้นนะ” “เออ ถ้ามันขึ้นมาเอาค่ายารักษาจากฉันนี่” ผมปล่อยมือออกจากแก้มของยัยตัวแสบก่อนจะลุกขึ้นแล้วว่าจะชวนพวกไอ้อาร์มไปหาซื้ออะไรกิน แต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหนเลย เรียกง่ายๆ ว่ายังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินออกไปไหนเลย เสียงยัยนี่เรียกไว้อย่างเร็ว “เดี๋ยว นายจะไปไหนอะ” “หูเธอตึงเหรอ ฉันก็บอกอยู่ว่าฉันจะลงไปหาซื้ออะไรกิน” “ฉันฝากซื้อด้วย” “เยอะ คนเผด็จการแบบเธอฉันไม่รับฝาก” ฉันกำลังจะเถียงกับไอ้บ้านี่แล้วก็ได้ยินเสียงของธีมถามฉันขึ้นมา “มิลินท์ เราจะลงไปซื้อของ จะฝากเราซื้ออะไรไหม” “มึงอย่ายุ่ง มึงจะลงไปมึงก็รีบลงไปซะ” ผมเท้าเอวก่อนจะบอกกับไอ้ธีมที่อยู่ๆ แม่งไม่รู้มาจากไหน มาเหมือนพระเอกอะ เหมือนแม่งเป็นนักบวช ฮึ ต้องเจอพญามารแบบผมนี่ พอผมพูดจบไอ้นี่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็เดินไป “อุ้ย อาการนี้คือหึงใช่ปะมึง” “มึงดูหน้าเซทท์ก็รู้แล้วปะ สายตาคือฆ่าไอ้ธีมไปแล้วอะ” “นี่ ฉันจะฝากเพื่อนซื้อของปะ งื้ออ” เพี๊ยะ เพี๊ยะ ฉันพูดจบไอ้บ้านี่ก็นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ แล้วก็ใช้มือทั้งสองข้างของเขาจับหน้าฉันเอาไว้แน่น ฉันเลยใช้มือตีที่แขนแล้วก็ตีไปตามตัวของนายนี่แรงๆ แล้วผมฉันมันจะยุ่งปะ “อยากจะขย้ำแม่งให้เหลือแต่กระดูกจริงๆ จะเอาอะไรพูด” ผมถามยัยตัวแสบกลับไปด้วยน้ำเสียงมันเขี้ยว สักพักก็ได้ยินยัยนี่เริ่มบอกรายการที่จะฝากซื้อ “เอาน้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 น้ำแป๊บซี่ 1 แก้ว ไก่ทอด แล้วก็เบอร์เกอร์ปลา 2 แค่นี้แหละ” “เออ แล้วพยายามประคองสติตัวเองด้วยล่ะ ไม่ใช่หิวจนเป็นลมบ้าหมู” “ฉันจะเป็นเฉพาะอยู่กับนายนั่นแหละ” “ก็ดี ฉันจะได้รู้สึกพิเศษ” “ปล่อย อ้าว เฮ้ย! ฉันยังไม่ได้ให้เงินนายเลย” พอเขาเอามือออกจากหน้าฉัน ฉันเลยหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองแล้วหันมาอีกทีคนตัวสูงก็ชวนพวกอาร์มเดินไปจนจะถึงประตูห้องเลยรีบเรียกเขาเอาไว้ “ไม่เอา” ผมหันมาตอบยัยตัวแสบก่อนจะเดินนำพวกไอ้อาร์มออกมาข้างนอกห้อง เพราะมันก็ไม่ได้แพงอะไร ผมก็มีกำลังพอไม่ได้เดือดร้อนอะไร “ไอ้เซทท์ มึงชอบมิลินท์” “มึงกำลังจะส่งกูไปตายหรือไง” “แล้วมึงอารมณ์ขึ้นตอนที่ไอ้ธีมมันคุยกับหัวหน้าทำไม” “มันพูดแทรกกูปะ” ผมตอบพวกเพื่อนผมออกไปตามที่ตัวเองคิด ก็มันไม่ชอบอะ แล้วยัยนั่นทำไมจะต้องทำเสียงหวานใส่ไอ้หนอนหนังสือนั่นด้วยวะ “แล้วยัยนั่นชอบไอ้ธีม” “หื้อ ไม่นะ” “หรือจะใช่วะ เพราะหัวหน้าก็พูดกับมันเพราะอยู่คนเดียวนะเว้ย” “เออ จริงด้วยว่ะ ตั้งแต่เรียนมาด้วยกันอะ ไอ้ธีมมันเป็นข้อยกเว้นเลยนะเว้ย” กึก ผมหยุดเดินก่อนจะกอดอกแล้วหันมามองหน้าเพื่อนตัวเองแล้วถามมันออกไปอีกรอบ “ยัยนั่นพูดกับไอ้นั่นเพราะอยู่คนเดียว” “เออสิ แล้วมึงเป็นไรอะ มึงหึงหัวหน้าเหรอ” “เออ ไหนบอกไม่ชอบหัวหน้าคนโหดของกูไง” “ยัยนั่นเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่” “พรืดด สัสเซทท์ มึงรู้ไหม อาการมึงชัดมาก” “จริง มึงหึงหัวหน้าอะดิ๊” “ดูก็รู้แล้วปะ ตอนแรกจะไม่ถือพาน พอหัวหน้าจะถือกับไอ้ธีมรีบเลยนะมึงอะ” ผมถอนหายใจก่อนจะหันกลับมาแล้วก็เดินมาที่ลิฟต์และตอบพวกมันกลับไป “เรื่องของกู” “เรื่องของมึงที่พวกกูรู้” “กูเบื่อหน้าพวกมึงว่ะ” “ฮ่าๆ”“มันบ้าหรือเปล่าวะน่ะ” ฉันบ่นพึมพำออกมาแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วจากนั้นกลุ่มเพื่อนฉันแล้วก็เพื่อนผู้หญิงในห้องก็เริ่มล้อขึ้นมา “งู้ยยย ฝากซื้อของแล้วไม่ต้องจ่ายเงินแบบนี้ได้เหรอคะสาว” “อือ ถ้าเป็นแฟนก็คงได้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมันคืออะไรเหรอแม่ เฟื่อนปะ” “พวกมึงหยุดเลยค่ะสาว มันก็อาจจะนิสัยรวยไง” “วงเล็บ กับมึงคนเดียวค่ะสาว ฮัลโหล” “หยุดฮัลโหล อย่าเพิ่งฮัลโหลค่ะ พวกมึงก็เห็นว่าไอ้นั่นมันบ้า วันๆ กินยาครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยาหมดแล้วมั้ง อาการแม่งถึงขาดๆ เกินๆ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เออ น้ำกูเกือบพุ่ง มันควรเป็นโมเมนต์หวานๆ ปะ” “มิๆ เปิดเพลงนะ” “เออๆ เปิดเลย ประตูมันเป็นกระจกอยู่แล้วปิดไว้แบบนั้นแหละ” “เค” ผมซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็ถือขนมขึ้นมาบนห้องแล้วก็เดินเข้ามาหายัยตัวแสบแล้วก็นั่งลงข้างๆ และส่งถุงของให้ยัยนี่ไป “นี่นายไปเหมาศูนย์อาหารมาเหรอวะ” “ฉันหิวปะ เอาไป จะได้หยุดพูด” ฉันมองถุงของที่ไอ้บ้านี่มันซื้อมา แม่ง 2 ถุงใหญ่ๆ มันไม่คิดจะไปไหนแล้วมั้ง ฉันรับถุงของมาแล้วก็หยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมา แล้วมันกำลังร้อนๆ ผักก็สด งื้ออ มันดีมาก เพราะโรงเรียนฉันเค้าทำแบบสดๆ แล้วเนื้อคือหนา
ปั้ง! ปั้ง!อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากินปี๊ด!“พักก่อนๆ”“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”“ครับครู”“เซทท์”ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน“ว่า”“น้ำไ
ผมจับมือยัยตัวแสบแล้วก็พากันเดินลัดเลาะมาที่ลานจอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ แล้ววันนี้ผมเอาลูกชายคนล่าสุดของผมมา เป็นรถบิ๊กไบค์ ของแบรนด์หนึ่งที่ตัวย่อคือตัว H รุ่น NEW CBR1000RR-R SP 30th Anniversary แล้วที่ผมชอบคือการออกแบบของรถที่มันพิเศษแล้วก็เฉพาะจริงๆ เพราะมันเป็นรุ่นฉลองครบรอบด้วยแหละ ทางแบรนด์เลยออกแบบให้ดูพิเศษ ที่สำคัญคือตัวเลขบนถังที่ไม่ซ้ำกันทำให้รถของคุณมีคันเดียวในโลก ส่วนเรื่องราคาก็ช่างมันเถอะ เพราะผมไม่ได้ซื้อเอง คันนี้พี่ชายผมซื้อให้ ผมปล่อยมือยัยตัวแสบก่อนจะนั่งคร่อมบนรถและหยิบหมวกกันน็อคมาใส่แล้วก็เปิดกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นจากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วหันมาหายัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“มา เหยียบขึ้นมา”“นายอย่าแกล้งฉันนะ”ฉันมองคนตัวสูงพร้อมกับกำชับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะรถมันสูงมากอะเธอ จะก้าวขึ้นประหนึ่งรถจักรยานยนต์แบบธรรมดาก็ไม่ได้ ฉันยังไม่เคยรู้สึกว่าขาสั้นมาก่อนเลยอะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกละ“หึหึ เออ ขึ้นมา ใครเขาแกล้งอะไรเธอ”ผมเลื่อนกระเป๋าสะพายไปด้านหลังแล้วก็วางไว้บนเบาะพอยัยตัวแสบก้าวขึ้นเลยช่วยประคองโดยที่ผมใช้มือจับขายัยตัวแสบเอาไว้จนยัยนี่ขึ้นมานั่งเรียบร้อย
Rrrrrrฉันกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้บ้านี่หรอก ปล่อยเบลอไปเลยจ่ะ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพอเห็นเป็นไอ้เจมมี่โทรมาเลยรีบกดรับสาย“เออ ว่า”[สาว!! มึงไปไหนกับเซทท์อะแม่]“แล้วมึงเห็นได้ไง”[อ่ะ กูกำลังซื้อหนังไก่ทอดอยู่จ่ะ แล้วไม่ใช่แค่กูที่ตื่นเต้นนะคะ ตอนนี้ทุกคนที่เห็นคือเขาตื่นเต้นกันหมดอะ สรุปมึงไปไหนคะหญิง อร้าย กูเขิน]“หยุดค่ะ มึงโทรมาก็ดีละ มารับกะ”ผมได้ยินยัยนี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพอรู้ว่ายัยนี่กำลังจะบอกให้เพื่อนมารับผมเลยใช้มือดึงโทรศัพท์ของยัยนี่มาแล้วก็กดวางสายก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋า“นี่ เอาโทรศัพท์ฉันมา”“ฉันไม่ให้ ฮึ มีปากแล้วเหรอเธออะ ฉันคิดว่าเอาปากทิ้งไปละ”“ถ้ามีแล้วปากหมาแบบนายฉันไม่มีให้หนักหน้าฉันหรอก”ฉันตอบไอ้บ้านี่จบก็หันมากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง จะได้รีบกินรีบแยกย้ายเพราะเหม็นหน้าไอ้บ้านี่แบบสุดๆ“ไม่ต้องกลัวหนักหรอก เพราะหน้าเธอใหญ่มีที่เหลืออีกเยอะแยะ”ผมตอบยัยนี่กลับไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่ายัยนี่จะหายละ แต่อาการแม่งมากกว่าเดิม เอาใจยากฉิบ“คุณลุง เท่าไหร่คะ”ฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จเรียบร้อยโด
05.15 นาที“พี่ๆ สวัสดีค่ะ พวกหนูฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”“จ้า ไหนมาให้แม่กอดหน่อย นี่ แล้วคำพูดเหมือนเป็นคนห่างไกลเนาะ”“คิกๆ”ฉันกอดพี่เปียแล้วก็ยิ้มให้พี่ๆ คนอื่นๆ คือรุ่นพี่เขาเป็นสาวสองที่ฝีมือเป็นเริ่ดมาก พี่เค้าเป็นออกแบบแล้วก็ตัดชุดต่างๆ ให้กับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดรำ ชุดดรัมเมเยอร์ ชุดไม่พอแต่งหน้าทำผมคือที่สุด แล้วถ้ามีงานทางโรงเรียนก็ให้พี่เขาแต่งให้ตลอด เห็นกันมาตั้งฉันเด็กอะเธอ“รำแปดคนใช่ไหมลูก ทีมเดิม”“ใช่ค่ะแม่”“พวกหนูก็มาช่วยแต่งตัวเหมือนเดิมค่ะแม่”“จ้า นี่ เดี๋ยวแม่ให้ดูชุดใหม่ที่แม่ตัด”“แม๊ มันจึ้งมาก ดีย์!”“ใช่แม่ ไอ้หยกพูดถูก สวยมากเลยอะ”“มาๆ งั้นเราเริ่มเลยดีกว่า ลูกๆ ชอบแม่ก็ดีใจ”ฉันพยักหน้าแล้วก็พากันนั่งลงจากนั้นพวกพี่เขาก็เริ่มแต่งหน้าให้ ชุดสวยมากจริงๆ อะ ฉันชอบมาก ส่วนชุดที่พี่เขาที่ตัดมาสวยมาก สะไบด้านในเป็นสีน้ำเงิน ด้านนอกเป็นสีแดงปักเลื่อม ผ้าถุงสีแดงแต่มีลวดลายและสีน้ำเงินแทรกมาด้วย แพทเทิร์นเหมือนชุดเจ้าสาวเลยอ อ๋อ แล้วที่เป็นสีแดงกับสีน้ำเงินเพราะสีประจำโรงเรียนของฉันคือ สีแดงกับสีน้ำเงินนั่นเองจ่ะ“เรารวบหรือปล่อยผมดีวะ”“กูว่ารวบแล้วปล่อยห
“ค่ะ ในลำดับต่อไปเป็นการแสดงรำไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/2 ชื่อการแสดงว่า รำเชิญขวัญ นำแสดงโดย 1.นางสาวธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ 2. นางสาวสุดารัตน์ ยิ้มละมัย 3.นางสาวจันทร์ดาว เมธีพงศ์…”พอคุณครูเริ่มแนะนำชื่อฉันยกมือไหว้ครูอาจารย์และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แบ่งฝั่งละ 4 คน แล้วก็ถือพานที่ใส่กลีบดอกไม้สด ที่มีทั้งกลีบกุหลาบ ดอกมะลิ กลีบดอกดาวเรือง ข้าวตอก ถั่ว งา เป็นของมงคลทั้งหมด ฉันกับเพื่อนเพื่อนก็พากันเดินมาอยู่ตรงมุมด้านในของเวทีของทั้งสองฝั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็นจอ LED แล้วก็เป็นกราฟิกลายไทย มีคนคอยปรับแสงสีเสียง คือเริ่ดมากอะ“ไอ้อาร์ม มึงดูพานด้วยนะ เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อาร์มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะเขาจัดแถวแบบเป็นห้องอยู่แล้ว ส่วนคนตัวแทนที่ถือพานก็นั่งสองแถวด้านข้างซ้ายสุด ซึ่งเขาก็จัดไว้เป็นระเบียบมากแล้วอะ“แล้วมึงจะไปไหนวะ”ผมหยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็เอาสายกล้องคล้องไว้ที่แขนก่อนจะกดเปิดแล้วตอบไอ้อาร์มกลับไป“ไปถ่ายรูปยัยหัวเน่าของพวกมึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูมา ดูพานดีๆ นะมึง เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวยัยนั่นกินหัวกูอีก”“พรืด เออ หัวหน้าของกูนี่อยู่ในทุกส่วนประสาทของมึ
คำเตือน ⚠️ แนะนำให้ดื่มชาเขียวใสไม่ใส่นมเพิ่มหวานและมะนาวนิดหน่อย แฮ่! ไม่ใช่ๆ คิกๆ ก่อนอ่านนิยายรบกวนรี้ดที่รักทุกคนทำความเข้าใจกันก่อนนะจ๊ะ 👇👇1. เนื้อหาในแต่ละ Episodes ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านและโปรดทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นเท่านั้น โดยทุกเรื่องราวและทุกตัวอักษรทั้งหมดออกมาจากจิตนาการของไรท์เท่านั้น2. ในส่วนเรื่องของฉาก อีโรติก ในนิยายของไรท์ทุกเรื่องส่วนมากจะแซ่บมาก NC25++ และจะเขียนเล่าแบบยกพริกมาทั้งสวนพร้อมกับเสียงใส่เสียงบรรยาย (ปั่ก ปั่ก ปั่ก อะ โอ๊ย) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านและการบรรยายค่ะเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์มากขึ้น หากใครที่ไม่ชอบการบรรยายประมาณนี้ในฉากเราไม่แนะนำให้กดเข้าอ่านนะคะ อาจจะข้ามตอนนี้อ่านเฉพาะเนื้อเรื่องก็ได้นะคะ แต่ถ้าใครชอบรับรองความเผ็ชค่ะ 3. นิยายภายใต้นามปากกาของไรท์จะเป็นแนวคลั่งรัก คลั่งกันจนบางทีอ่านไปมองบนไป คิกๆ อาจจะมีดราม่าบ้างหรือไม่มีเลย แต่ไม่หนักจนตับไตทำงานหนักแน่นอนจ่ะ เพราะไรท์อยากให้รี้ดอ่านเป็นแนวแบบฟิวส์กู๊ด อ่านไปยิ้มไป เพราะในสังคมรอบตัวก็มีความเครียดเยอะแล้วเนาะ ไรท์เลยเขียนแนวนี้ออกมาลดความเครียดให้รี้ดทุกคน4. เ
“มิลินท์เสร็จหรือยังลูก”ฉันที่กำลังจัดของอยู่เงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูห้อง เออ ทุกคนอาจจะงงๆ ใช่ไหม ว่าฉันคือใคร งั้นขออนุญาตแนะนำตัวนะจ๊ะ สวัสดี ฉัน มิลินท์ ชื่อจริง ธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ เป็นลูกคนโต คุณแม่ชื่อ มิ้ม คุณพ่อชื่อ วาโย อะ เริ่มคุ้นกันแล้วใช่อะเปล่า คริคริ หากใครงงๆ ลองไปหาข้อมูลคุณพ่อและคุณแม่ฉันได้นะ (อาจารย์ครับ…ที่รักของผม) คริคริ แล้วรู้ใช่ไหมว่าคุณพ่อฉันคลั่งรักคุณแม่มาก รักลูกเท่าไหนรักคุณแม่มากกว่าหลายเท่ามากๆอ๋อ ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กน้อยตัวอ้วนปากเลอะเค้กแล้วนะจ๊ะ ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วจ่ะ และที่สำคัญชอบเค้กคุณแม่มากๆ เหมือนเดิม ต้องกินวันเว้นวันอะ ตอนนี้ฉันอายุ 16 ปี ส่วนสูง 165 น้ำหนัก 48 สัดส่วนคือ 36 26 39 ผมสีดำยาวและตรงมาก ตอนนี้ผมฉันจะถึงเอวแล้ว ผิวขาว ตาโตปากนิด จมูกหน่อย จัดฟันด้วยจ้า ยางฟันสีชมพูอ่อน และฉันกำลังศึกษาอยู่ที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชน CC ระบบการสอนก็ไม่ต่างจากโรงเรียนรัฐบาลเท่าไหร่แทบจะคล้ายกันเลยด้วยซ้ำ แต่คงต่างกันตรงค่าเทอมแล้วก็ความสะดวกสบายของสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนที่พร้อมใช้งานมากๆ นั่นแหละ
“ค่ะ ในลำดับต่อไปเป็นการแสดงรำไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/2 ชื่อการแสดงว่า รำเชิญขวัญ นำแสดงโดย 1.นางสาวธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ 2. นางสาวสุดารัตน์ ยิ้มละมัย 3.นางสาวจันทร์ดาว เมธีพงศ์…”พอคุณครูเริ่มแนะนำชื่อฉันยกมือไหว้ครูอาจารย์และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แบ่งฝั่งละ 4 คน แล้วก็ถือพานที่ใส่กลีบดอกไม้สด ที่มีทั้งกลีบกุหลาบ ดอกมะลิ กลีบดอกดาวเรือง ข้าวตอก ถั่ว งา เป็นของมงคลทั้งหมด ฉันกับเพื่อนเพื่อนก็พากันเดินมาอยู่ตรงมุมด้านในของเวทีของทั้งสองฝั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็นจอ LED แล้วก็เป็นกราฟิกลายไทย มีคนคอยปรับแสงสีเสียง คือเริ่ดมากอะ“ไอ้อาร์ม มึงดูพานด้วยนะ เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อาร์มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะเขาจัดแถวแบบเป็นห้องอยู่แล้ว ส่วนคนตัวแทนที่ถือพานก็นั่งสองแถวด้านข้างซ้ายสุด ซึ่งเขาก็จัดไว้เป็นระเบียบมากแล้วอะ“แล้วมึงจะไปไหนวะ”ผมหยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็เอาสายกล้องคล้องไว้ที่แขนก่อนจะกดเปิดแล้วตอบไอ้อาร์มกลับไป“ไปถ่ายรูปยัยหัวเน่าของพวกมึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูมา ดูพานดีๆ นะมึง เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวยัยนั่นกินหัวกูอีก”“พรืด เออ หัวหน้าของกูนี่อยู่ในทุกส่วนประสาทของมึ
05.15 นาที“พี่ๆ สวัสดีค่ะ พวกหนูฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”“จ้า ไหนมาให้แม่กอดหน่อย นี่ แล้วคำพูดเหมือนเป็นคนห่างไกลเนาะ”“คิกๆ”ฉันกอดพี่เปียแล้วก็ยิ้มให้พี่ๆ คนอื่นๆ คือรุ่นพี่เขาเป็นสาวสองที่ฝีมือเป็นเริ่ดมาก พี่เค้าเป็นออกแบบแล้วก็ตัดชุดต่างๆ ให้กับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดรำ ชุดดรัมเมเยอร์ ชุดไม่พอแต่งหน้าทำผมคือที่สุด แล้วถ้ามีงานทางโรงเรียนก็ให้พี่เขาแต่งให้ตลอด เห็นกันมาตั้งฉันเด็กอะเธอ“รำแปดคนใช่ไหมลูก ทีมเดิม”“ใช่ค่ะแม่”“พวกหนูก็มาช่วยแต่งตัวเหมือนเดิมค่ะแม่”“จ้า นี่ เดี๋ยวแม่ให้ดูชุดใหม่ที่แม่ตัด”“แม๊ มันจึ้งมาก ดีย์!”“ใช่แม่ ไอ้หยกพูดถูก สวยมากเลยอะ”“มาๆ งั้นเราเริ่มเลยดีกว่า ลูกๆ ชอบแม่ก็ดีใจ”ฉันพยักหน้าแล้วก็พากันนั่งลงจากนั้นพวกพี่เขาก็เริ่มแต่งหน้าให้ ชุดสวยมากจริงๆ อะ ฉันชอบมาก ส่วนชุดที่พี่เขาที่ตัดมาสวยมาก สะไบด้านในเป็นสีน้ำเงิน ด้านนอกเป็นสีแดงปักเลื่อม ผ้าถุงสีแดงแต่มีลวดลายและสีน้ำเงินแทรกมาด้วย แพทเทิร์นเหมือนชุดเจ้าสาวเลยอ อ๋อ แล้วที่เป็นสีแดงกับสีน้ำเงินเพราะสีประจำโรงเรียนของฉันคือ สีแดงกับสีน้ำเงินนั่นเองจ่ะ“เรารวบหรือปล่อยผมดีวะ”“กูว่ารวบแล้วปล่อยห
Rrrrrrฉันกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้บ้านี่หรอก ปล่อยเบลอไปเลยจ่ะ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพอเห็นเป็นไอ้เจมมี่โทรมาเลยรีบกดรับสาย“เออ ว่า”[สาว!! มึงไปไหนกับเซทท์อะแม่]“แล้วมึงเห็นได้ไง”[อ่ะ กูกำลังซื้อหนังไก่ทอดอยู่จ่ะ แล้วไม่ใช่แค่กูที่ตื่นเต้นนะคะ ตอนนี้ทุกคนที่เห็นคือเขาตื่นเต้นกันหมดอะ สรุปมึงไปไหนคะหญิง อร้าย กูเขิน]“หยุดค่ะ มึงโทรมาก็ดีละ มารับกะ”ผมได้ยินยัยนี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพอรู้ว่ายัยนี่กำลังจะบอกให้เพื่อนมารับผมเลยใช้มือดึงโทรศัพท์ของยัยนี่มาแล้วก็กดวางสายก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋า“นี่ เอาโทรศัพท์ฉันมา”“ฉันไม่ให้ ฮึ มีปากแล้วเหรอเธออะ ฉันคิดว่าเอาปากทิ้งไปละ”“ถ้ามีแล้วปากหมาแบบนายฉันไม่มีให้หนักหน้าฉันหรอก”ฉันตอบไอ้บ้านี่จบก็หันมากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง จะได้รีบกินรีบแยกย้ายเพราะเหม็นหน้าไอ้บ้านี่แบบสุดๆ“ไม่ต้องกลัวหนักหรอก เพราะหน้าเธอใหญ่มีที่เหลืออีกเยอะแยะ”ผมตอบยัยนี่กลับไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่ายัยนี่จะหายละ แต่อาการแม่งมากกว่าเดิม เอาใจยากฉิบ“คุณลุง เท่าไหร่คะ”ฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จเรียบร้อยโด
ผมจับมือยัยตัวแสบแล้วก็พากันเดินลัดเลาะมาที่ลานจอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ แล้ววันนี้ผมเอาลูกชายคนล่าสุดของผมมา เป็นรถบิ๊กไบค์ ของแบรนด์หนึ่งที่ตัวย่อคือตัว H รุ่น NEW CBR1000RR-R SP 30th Anniversary แล้วที่ผมชอบคือการออกแบบของรถที่มันพิเศษแล้วก็เฉพาะจริงๆ เพราะมันเป็นรุ่นฉลองครบรอบด้วยแหละ ทางแบรนด์เลยออกแบบให้ดูพิเศษ ที่สำคัญคือตัวเลขบนถังที่ไม่ซ้ำกันทำให้รถของคุณมีคันเดียวในโลก ส่วนเรื่องราคาก็ช่างมันเถอะ เพราะผมไม่ได้ซื้อเอง คันนี้พี่ชายผมซื้อให้ ผมปล่อยมือยัยตัวแสบก่อนจะนั่งคร่อมบนรถและหยิบหมวกกันน็อคมาใส่แล้วก็เปิดกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นจากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วหันมาหายัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“มา เหยียบขึ้นมา”“นายอย่าแกล้งฉันนะ”ฉันมองคนตัวสูงพร้อมกับกำชับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะรถมันสูงมากอะเธอ จะก้าวขึ้นประหนึ่งรถจักรยานยนต์แบบธรรมดาก็ไม่ได้ ฉันยังไม่เคยรู้สึกว่าขาสั้นมาก่อนเลยอะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกละ“หึหึ เออ ขึ้นมา ใครเขาแกล้งอะไรเธอ”ผมเลื่อนกระเป๋าสะพายไปด้านหลังแล้วก็วางไว้บนเบาะพอยัยตัวแสบก้าวขึ้นเลยช่วยประคองโดยที่ผมใช้มือจับขายัยตัวแสบเอาไว้จนยัยนี่ขึ้นมานั่งเรียบร้อย
ปั้ง! ปั้ง!อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากินปี๊ด!“พักก่อนๆ”“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”“ครับครู”“เซทท์”ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน“ว่า”“น้ำไ
“มันบ้าหรือเปล่าวะน่ะ” ฉันบ่นพึมพำออกมาแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วจากนั้นกลุ่มเพื่อนฉันแล้วก็เพื่อนผู้หญิงในห้องก็เริ่มล้อขึ้นมา “งู้ยยย ฝากซื้อของแล้วไม่ต้องจ่ายเงินแบบนี้ได้เหรอคะสาว” “อือ ถ้าเป็นแฟนก็คงได้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมันคืออะไรเหรอแม่ เฟื่อนปะ” “พวกมึงหยุดเลยค่ะสาว มันก็อาจจะนิสัยรวยไง” “วงเล็บ กับมึงคนเดียวค่ะสาว ฮัลโหล” “หยุดฮัลโหล อย่าเพิ่งฮัลโหลค่ะ พวกมึงก็เห็นว่าไอ้นั่นมันบ้า วันๆ กินยาครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยาหมดแล้วมั้ง อาการแม่งถึงขาดๆ เกินๆ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เออ น้ำกูเกือบพุ่ง มันควรเป็นโมเมนต์หวานๆ ปะ” “มิๆ เปิดเพลงนะ” “เออๆ เปิดเลย ประตูมันเป็นกระจกอยู่แล้วปิดไว้แบบนั้นแหละ” “เค” ผมซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็ถือขนมขึ้นมาบนห้องแล้วก็เดินเข้ามาหายัยตัวแสบแล้วก็นั่งลงข้างๆ และส่งถุงของให้ยัยนี่ไป “นี่นายไปเหมาศูนย์อาหารมาเหรอวะ” “ฉันหิวปะ เอาไป จะได้หยุดพูด” ฉันมองถุงของที่ไอ้บ้านี่มันซื้อมา แม่ง 2 ถุงใหญ่ๆ มันไม่คิดจะไปไหนแล้วมั้ง ฉันรับถุงของมาแล้วก็หยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมา แล้วมันกำลังร้อนๆ ผักก็สด งื้ออ มันดีมาก เพราะโรงเรียนฉันเค้าทำแบบสดๆ แล้วเนื้อคือหนา
1 อาทิตย์ต่อมา “เซทท์ มายแมพวิชาภาษาไทยที่อาจารย์เขาให้ทำอยู่ไหน เอามา จะรวบรวมเอาไปส่งแล้ว” “ไม่มี” ฉันกำลังนั่งเรียงเลขที่ใบงานให้คุณครูพอได้ยินไอ้บ้านี่ตอบมาเท่านั้นแหละแม่ แล้วเป็นแบบนี้แทบจะทุกวิชา คือทุกวิชาเลยดีกว่ายกเว้นวิชาพละ ทำไมมันไม่ไปเรียนโรงเรียนกีฬาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ “นายไม่คิดจะเปลี่ยนคำตอบบ้างหรือไงห๊ะ เย็นนี้กลับไปทำแล้วพรุ่งนี้เอามาให้ฉันด้วย ฉันจะตามส่งให้” ผมหันไปทางยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้าบูดไปหมด แต่ผมก็ไม่ชอบจริงๆ อะ เรียนรู้เรื่องแล้วทำไมต้องให้ทำอะไรที่มันเยอะแยะด้วยวะ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ส่ง” “ไอ้เซทท์!” “อะไร อย่านะเว้ย” ฉันตวัดสายตาไปมองไอ้บ้านี่แบบเหลืออด ตอนนี้ฉันอยากจะเอามือควักลูกตามันออกมาแล้วโยนลูกตามันขึ้นไปหลังคาอาคารเรียนจริงๆ “มิๆ ใบตอง ดอกไม้สด อุปกรณ์สำหรับทำพานมาครบแล้วค่ะสาว” “เออๆ พวกผู้ชาย เดี๋ยวช่วยกันดันโต๊ะไปไว้รอบห้องนะ จะใช้พื้นที่กลางห้องทำพานไหว้ครู เดี๋ยวกูเอางานไปส่งครูก่อนแล้วจะกลับมาเลือกคนถือพาน” “เคๆ” “คิกๆ มึง เราต้องล็อกมง มึงไปบอกเพื่อนให้เลือกเซทท์ถือพานคู่กับไอ้มิ เพราะฝั่งผู้หญิงยังไงก็คุณมิลินท์ของกูอยู่ละ
12.40 นาที“มิลินท์ ครูประพันธ์เรียกพบน่ะ”ฉันที่กำลังนั่งกินขนมกับเพื่อนอยู่ที่โซนพักผ่อนของโรงเรียนแล้วก็นั่งเมาส์เรื่องทั่วไป สักพักเพื่อนต่างห้องก็วิ่งมาตาม ฉันเลยขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้น“ขอบใจนะ แล้วไปที่ไหนล่ะ ห้องพักครูเหรอ”“เปล่าๆ ที่ศูนย์อาหาร”“อ๋อ อะเค พวกมึงรอกูอยู่นี่ก็ได้”“ไม่เป็นไร ไปด้วยกัน เดี๋ยวกูนั่งรอ โต๊ะเก้าอี้เรามีเยอะแยะ”“เคๆ”ตู้มมมม!!“เชี้ย ไอ้เซทท์ มึงว่ายเร็วฉิบหาย”ผมว่ายน้ำไปกลับ 500 เมตร จากนั้นก็ถอดแว่านตาแล้วตอบรุ่นพี่ในชมรมกีฬากลับไปแบบปกติ อ๋อ แล้วพอครูชูศักดิ์เค้าผู้ว่าผมย้ายมานี่เลยทาบทามให้มาอยู่ชมรมกีฬาด้วยกัน ผมก็ตอบรับครูเค้า เพราะผมก็ชอบอยู่แล้ว และตอนนี้ผมก็สนิทกับรุ่นพี่รุ่นน้องทุกคนเรียบร้อยแล้ว มันผู้ชายด้วยกันแล้วก็คุยกันไม่ยากอะ“อือ นี่ความเร็วปกติ ถ้าให้ว่ายเร็วกว่านี้ก็ทำได้”“เชี้ยย แล้วมึงเล่นได้ทุกกีฬาเลยเหรอวะ”“อืม จำความได้ก็แข่งกีฬามาตลอด”“โคตรสุด กูว่าแล้วทำไมมึงแม่งชำนาญขนาดนี้”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะตอบเพื่อนในชมรมกลับไปพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก“ไม่ขนาดนั้นหรอก ไอ้ที่แพ้ก็มี ใครจะชนะทุกครั้งที่ลง”“แล้วถ้ามึงต้องแข่งกับโรงเรียน
ฉันเดินมาที่ห้องตัวเองพอเดินมาถึงก็เห็นกลุ่มเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง เพื่อนฉันมี มีอยู่ 6 คน มีคุณแม่สามคน คือ ใบหยก เจมมี่ แล้วก็น้ำส้ม ส่วนผู้หญิงก็มี แพรไหม เฟรม แล้วก็แพท เอาจริงๆ ก็สนิททั้งห้องแหละ แต่นี่คือสนิทมากๆ พอฉันเดินเข้ามาไอ้ใบหยกก็รีบลุกขึ้นและพูดขึ้นมา“ทุกคนคะ ได้โปรดลุกขึ้นยืนเพื่อนต้อนรับหัวหน้าห้องสุดสวยแสนสตรองและชอบท้าชน ปรบมือต้อนรับคุณหนูมิลินท์ค่ะ”แปะ แปะ แปะ!!ฉันหัวเราะก่อนจะเอากระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะตัวเองและฉันนั่งกับไอ้ฟร้อนเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปมองพวกมันและถามออกไปแบบงงๆ“ใครบอกว่ากูจะเป็นหัวหน้าห้องคะแม่”“กูไงคะ และก็เพื่อนทุกคน มา เมื่อครบองค์ประชุมตั้งเตาเลยจ่ะ วันนี้กูรู้มาว่ามีนักเรียนจะเข้ามาห้องเราสามคน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน”“อิมิมึงฟังก่อนสิ เอาสติ๊กเกอร์มาแปะสมุดอีกละ”ฉันเงยหน้ามองไอ้น้ำส้มก่อนจะหัวเราะก่อนจะเอามือเท้าคางและถามมันกลับไปแบบงงๆ“หึหึ มึงก็พูดมาสิแม่ หูก็ได้ยินอยู่”“อิหยก มึงเก็บๆ แล้วมึงตั้งใจฟังนะแม่ กูจะบอกว่าผู้ชายหนึ่งในสองคนที่จะมาอยู่ห้องเรามีรอยสักภาษาอังกฤษตรงคอแล้วก็ตรงต้นแขน มึงจำได้บ้างยัง คิดสิแม่”ฉั