ณ โรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพมหานคร ช่วงพักกลางวันที่โรงอาหารของโรงเรียนนั้น มักจะเต็มไปด้วยผู้คนทั้งอาจารย์และนักเรียนเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันทั้งสิ้น ทั้งยังมีเสียงคุยเล่นกันของเหล่านักเรียนอย่างสนุกสนาน บ้างก็นินทาอาจารย์ว่าอาจารย์ท่านนั้นโหดบ้างท่านนี้ใจดีบ้าง บางคนก็บ่นว่าทำไมการบ้านเยอะจังแน่ล่ะ แต่เรื่องที่เหล่านักเรียนต้องเมาท์มอยเป็นประจำเลยก็คือ เรื่องของความรัก เขาทั้งหลายจะนำเหตุการณ์ข่าวสารข้อมูลมาแชร์กันเพื่อความสนุกสนานเพิ่มสีสันในการรับประทานอาหารกลางวัน หนึ่งในกลุ่มนักเรียนทั้งหลายนั้นคงขาดไม่ได้เลยคือกลุ่มของ ลลิน กลุ่มของลินหรือลลินนั้น มีด้วยกันอยู่ 3 คน คือ เปรมมิกา สุภาวดีร่วมด้วยตัวลินเอง เพื่อนทั้งสองของลินนั้นรู้ว่าลินชอบใครและสถานะของลินเป็นอย่างไร ถึงลินจะรู้ว่าเขาคนนั้นมีแฟนแล้วก็เถอะเธอมักคิดเสมอว่า ชอบไปแล้วนี่นาให้เลิกคงไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้ก็เช่นกัน ในระหว่างทานข้าว สายตาของเธอก็จะคอยมองมาร์ทหรือคุณาวุฒิอยู่เสมอ“นี่ ยัยลินถ้าจะมองขนาดนั้นอะนะ ฉันว่าแกควรไปบอกชอบพี่เขาตรง ๆ เถอะ จะได้จบ ๆ กันไป ฉันเห็นแกคอยมองหาพี่เขาเป็นคนไม่มีตัวตนแบบนี้ ฉั
ณ คอนโดสุดหรูที่อเมริกา เฮ้อ ผ่านมา 5 ปี แล้วสินะ หึ ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปแล้วเหรอนี่ เฮ้อ เขาจะเป็นอย่างไรบ้างน้า ป่านนี้คงมั่วหญิงเป็นว่าเล่นเลยสิหึ พี่ไล่ฉันออกจากชีวิต ฉันก็ออกมาแล้ว แต่ทำไมนะ ทำไมกันฉันยังไม่ลืมพี่สักที่พี่มาร์ทเฮ้อ ว้า บ่นมาตั้งนานแล้ว ยังไม่แนะนำตัวเลยสวัสดีค่ะ ฉัน ลลิน ค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเพื่อกลับประเทศไทยค่ะ ฉันมาเรียนต่อที่นี่และตอนนี้ก็จบแล้ว มันก็ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปเผชิญความจริงที่ฉันไม่อยากเจอแล้วสินะคะทุกคนคงไม่เชื่อสิ่งที่ฉันจะพูดใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้ว ฉันเป็นหัวหน้าขององค์กร fuck น่ะค่ะ 55 แค่ชื่อองค์กรทุกคนก็น่าจะรู้นะคะ ว่าไมใช่องค์กรที่ดีแน่ ๆ อิอิเราฆ่าแค่คนที่จะทำร้ายหรือขัดผลประโยชน์กับเราเท่านั้นแหละค่ะองค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นโดยฉันและเพื่อนสองคนของฉัน ยัยปรางค์กับยัยมีน นั่นแหละค่ะ สองคนนี้ร้ายไม่เบาหรอก แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับฉันหรอกค่ะ มันเพิ่งกลับประเทศไทยเมื่อเดือนที่แล้ว จริง ๆ ฉันต้องกลับพร้อมมันแต่พอดีมีคนอยากลองของ ฉันเลยขออยู่จัดการเองค่ะองค์กรเราเป็นองค์กรใหญ่นะคะ มีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้น ส่วนนิสัยของฉันเหรอคะ หึ เชื่อเถ
ตอนนี้ฉันกำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์ที่ชั้นล่างของผับ เหล่าผีเสื้อราตรีก็โยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามัน ยัยปรางค์กับยัยมีนก็เต้นอย่างไม่สนใจใครเลยค่ะ ปกติฉันก็ไม่ค่อยชอบหรอกนะคะที่มาเต้นอะไรแบบนี้ แต่ถูกยัยปรางค์มันบังคับมา เหนือสิ่งอื่นใดเลยฉันก็แค่อยากคลายเครียดบ้างอิอิ เต้นอยู่สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเต้นกับฉัน หน้าตาก็ดีอยู่นะคะ เห็นว่าชื่อเตแต่ฉันไม่สนใจหรอกคะเพราะหมอนี่ไม่ใช่สเปกฉัน ฉันก็แค่คุยกับเขาตามมารยาทเท่านั้นเอง และตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเหมือนนายเตอะไรเนี่ยมือไม้ของมันเริ่มจะอยู่ไม่สุขแล้วล่ะ มันลวนลามฉัน!ฉันสงบสติอารมณ์สักพักก็ตวาดมันกลับไปแข่งกับเสียงเพลง จากตอนแรกที่สนุก ตอนนี้บอกเลยค่ะว่าไม่ ฉันโกรธมาก ๆ เลยล่ะ จนฉันทนไม่ไหวฉันต้องบอกเพื่อนฉันก่อน“มึง ยัยปรางค์ ยัยมีน เต้นกันไปก่อนนะ ฉันหมดอารมณ์แล้วว่ะ เข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวฉันมา” ฉันพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก“เฮ้ย เป็นไรวะ เมื่อกี้ยังสนุกอยู่เลย หรือว่าไอ้นั่นมันจะลวนลามแก”ยัยปรางค์พูดด้วยสีหน้าตกใจ“ก็เออนะสิ แม่งอารมณ์เสียฉิบ” ฉันพูดอย่างโกรธ ๆ“แล้วนี่จะไปเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ ให้ฉันไปเป็นเพื่อ
ตืดดดด ตืดดดด ตืดดดดด “ฮัลโหล อืม มีไรวะ คนจะนอน” ผมไม่ได้มองหรอกนะครับว่าใครโทรมา เพราะตอนนี้ผมง่วง ง่วงมาก ๆ เลย“เฮ้ย ไอ้มาร์ท แกตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย แกลืมแล้วเหรอวะว่าวันนี้แกต้องเข้ามาเคลียร์ค่าใช้จ่ายเมื่อคืน”อ้อ ผมรู้แล้วไอ้คนที่โทรมากวนผมตอนนี้มันคือใคร ไอ้คิมนี่เอง แต่ว่า เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันบอกว่า ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายอะไร ผมนึกไม่ออก“ค่าใช้จ่ายอะไรวะ มึงมั่วแล้ว”ผมบอกอย่างไม่สบอารมณ์ คนยิ่งกำลังง่วง ๆ อยู่ ใครมันจะมีกะจิตกะใจไปไปฟังมันพล่ามกันล่ะ“นี่ ค่าใช้จ่ายที่นางฟ้าคนเมื่อคืนบอกว่ามึงเลี้ยงยังไงล่ะ ผีเสื้อกลางคืนของกูไม่มีใครจ่ายเงินสักคน มึงต้องรับผิดชอบไอ้มาร์ท มึงต้องจ่ายเงินทั้งหมดให้กู เป็นเงิน 10,000,000 ล้านบาท ชัดไหม”“ฮะ! อะไรนะ สิบล้านบาทเหรอ ฮึ่ม เออ ๆ ๆ เดี๋ยวกูจัดการให้ แค่นี้นะคนจะนอน” พอผมได้ยินไอ้คิมมันบอกว่าสิบล้านเท่านั้นแหละ จากที่ง่วง ๆ ตาผมนี่แจ้งขึ้นมาทันทีเลยจริง ๆ แล้วไอ้เงินสิบล้านบาทขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอกครับ แต่ที่ตอนนี้ผมรู้สึกก็คือ ผมต้องเอาคืนยัยแสบของผมที่ทำให้ผมต้องจ่ายเงินสิบล้านโดยไม่จำเป็นนี่ต่างหากโว้ย คิดแล้วแค้น เจอกันแน่ย
ห้องเสื้อที่นี่ก็สวยดีเหมือนกันนะเนี่ย ซื้อไปใส่ดีกว่าเสื้อผ้าแบรนด์เนมด้วย อิอิ หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จเนี่ยต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป จริง ๆ ฉันก็อยากช็อปปิงกับเพื่อน แต่ว่ายัยมีนต้องเข้าไปเช็กของที่จะต้องส่งลูกค้าน่ะสิส่วนยัยปรางค์ฉันให้มันตามเรื่องหนอนบ่อนไส้ที่อยู่เมืองไทย เพราะหลังจากที่ปีเตอร์ส่งข่าวมาบอกว่าในองค์กรของเรามีหนอนบ่อนไส้จริง ๆ แต่ว่าหนอนตัวนี้มันอยู่ที่เมืองไทยซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ยัยปรางค์จึงต้องคอยจับตาดูคนในองค์กรที่ฐานในเมืองไทยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเหลือฉันแค่คนเดียวที่ว่างงานออกมาช็อปปิงคนเดียวเฮ้อออไม่ชอบเลยช็อปคนเดียว เอ๊ะ แต่เดี๋ยวนะฉันรู้สึกเหมือนมีคนตามมาด้วยแหละ แต่พอหันไปก็ไม่เห็นใครหึ อยากตามก็ตามไปไม่สนหรอก เจอก็แค่เชือดเท่านั้นเอง จากที่คิดได้ดังนั้นฉันจึงเข้าไปเลือกชุดต่อ เมื่อเลือกชุดได้ตามต้องการแล้วฉันก็เอาชุดที่เลือกทั้งหมดนั้นเตรียมเข้าไปลองในห้องลองชุดทันทีตอนนี้ฉันก็อยู่ข้างในห้องลองชุดแล้วละค่ะ ฉันถอดเสื้อคลุมออก ตามด้วยเสื้อสายเดี่ยว ซึ่งตอนนี้ทั้งตัวของฉันเหลือแค่บราเซียร์กับกางเกงที่ยังไม่ได้ถอดเท่านั้นเองแกร๊ก!“เฮ้ย กรี๊ดด.....
“อะไรนะ!!! แกพูดใหม่สิ” ตอนนี้ผมรู้สึกโมโหมาก ที่ได้ยินลูกน้องคนสนิทของผมมันบอกว่ามีคนแอบเอาความลับของบริษัทผมไปบอกให้คนนอกรู้ ซึ่งผมเกลียดพวกหนอนบ่อนไส้มาก“คือผมบอกว่า คนของเราแอบเอาข้อมูลลับของทางบริษัทไปบอกบริษัทคู่แข่งของเราครับ” กวินมือขวาของผมพูดขึ้น ผมนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะถามมันออกไปว่า “รู้ไหมว่ามันเป็นใคร ที่กล้าเหยียบหัวคนอย่างฉัน” ผมพูดนิ่ง ๆ แต่สำหรับคนที่อยู่กับผมมานานอย่างมันจะดูออกว่า เมื่อไหร่ที่ผมเป็นแบบนี้แสดงว่าผมเริ่มที่จะโกรธแล้ว“เอ่อ คือ ผมกำลังสืบอยู่ครับ แต่เหมือนมันจะรู้ตัวเพราะว่ามันปิดทุกอย่างที่จะสาวไปถึงตัวมันหมดครับ ผมขอเวลาสักพักแล้วผมจะหาคนทรยศมาให้บอสให้ได้ครับ ส่วนบริษัทคู่แข่งที่มันเอาไปบอกคือ บริษัทของคุณโทมัสครับ เพราะว่างานของเราขัดผลประโยชน์ของทางนั้นอย่างหนัก บริษัทของคุณโทมัสจึงลดราคาของให้มีราคาต่ำกว่าของเรา ทำให้ลูกค้าบางส่วนหันไปใช่บริการสั่งของ ของบริษัทคุณโทมัสแทนครับ แต่ลูกค้าประจำของเรายังติดต่อซื้อขายกับเราอยู่ครับ”“หึ ไอ้โทมัสศัตรูคู่อาฆาตฉันนี่เอง ปล่อยมันได้ใจไปก่อน ส่วนคนที่ทรยศหักหลังเราฉันให้นายตามสืบหาตัวมันให้เร็วที่สุด เมื่
Z…z…Z…Z…z…z…“ยัยลิน ตื่นได้แล้ว ตื่นนนนนนน” ใครมันปลุกฉันแต่เช้าวะ คนยิ่งง่วง ๆ อยู่“นี่ยัยลินตื่น เป็นเจ้าบ้านอะไรวะ มาให้แขกปลุก ลุกได้แล้ววว”อ้อฉันรู้แล้วว่าเสียงใคร เสียงยัยมีนนี่เอง“โอ๊ย นี่แกจะรีบปลุกไปไหนเนี่ย ยิ่งง่วง ๆ อยู่”ฉันพูดกับมันอย่างไม่สบอารมณ์และมองหายัยปรางค์แต่ไม่เห็น กำลังจะถามกับยัยมีน แต่ยัยปรางค์ก็ออกมาจากห้องน้ำซะก่อน“นี่แกลืมไปแล้วเหรอ ว่าวันนี้เราต้องไปมหาลัยที่พ่อฉันถือหุ้นอยู่ เพื่อไปประชุมนะฮะ!” เสียงยัยปรางค์มาเลย “แล้วนอกจากนั้น แกจะไม่ไปดูเด็กเราหน่อยเหรอ ไม่รู้ป่านนี้เรียนเป็นไงมั่ง” เสียงยัยมีนว่าเด็ก เด็กที่ไหนวะ หรือว่า อ๋อน้องแพรวคนในองค์กรฉันนี่แหละ น้องมันเข้าปีหนึ่งปีนี้แถมยังเรียนวิศวซะด้วยไอ้แพรวมันน่ารักนะ นิสัยมันก็พอ ๆ กันกับพวกฉันเลย แต่ไอ้แพรวมันจะถนัดคอมมาก มันชอบคิดระบบความปลอดภัยใหม่ ๆ ให้องค์กรตลอด เป็นเด็กที่พวกฉันสามคนรัก เพราะมันเปรียบเสมือนน้องสาวของพวกฉันสามคนเลยล่ะ เมื่อคิดได้ฉันก็ลุกไปอาบน้ำโดยไม่หันมาคุยกับพวกมันอีกเลย“โอ๊ย นี่พวกแก เสร็จกันยัง เร็ว ๆ ดิ” เสียงฉันเร่งยัยพวกนั้นเองแหละค่ะ แฮ่ ๆ“แป๊บ/แป๊บ” เสียงมันสอ
ตอนนี้พวกผมสามคนอยู่ที่มหาลัยของไอ้ตินแล้วครับ เพราะวันนี้มันมีประชุมกับหุ้นส่วนของมหาลัย แต่มันบอกให้พวกผมสองคนมาด้วย พวกผมก็เลยมาแต่เหตุเมื่อกี้สิครับที่ทำให้พวกผมตะลึง คือลลินหันไปพูดอะไรกับไอ้มาร์คัสน้องไอ้ตินก็ไม่รู้ แต่จากที่ผมสังเกตก็คือทุกคนดูตะลึง จากนั้นลลินก็กระชากผู้หญิงข้างกายไอ้มาร์คัสมาและตบเธอไปสี่ครั้งติดทำให้น้องคนนั้นถึงกับล้มเลยล่ะครับ นั่นยังไม่พอเธอหันไปหยิบจานข้าวแล้วค่อย ๆ เทลงบนหัวของน้องคนนั้น ผมนี่ตะลึงทำอะไรไม่ถูกเลย จนไอ้ตินมันสะกิด“ไอ้มาร์ทเว้ย มึงไปห้ามสิมึงชอบน้องเขานิ เดี๋ยวน้องลลินของมึงก็มีเรื่องหรอก ผู้หญิงที่น้องลินมึงมีเรื่องด้วยเนี่ยเป็นลูกผู้มีอิทธิพลนะเว้ย”พอได้ยินเท่านั้นแหละผมวิ่งไปหาเธอและตะโกนบอกให้เธอหยุด“ลิน ลินหยุดพี่บอกให้หยุด” แต่ดูเหมือนเธอจะไม่หยุดนะครับจนผมเข้าไปกอดเธอจากทางด้านหลังแต่เธอผลักผมออกแล้วหันไปพูดกับน้องที่เธอตบเมื่อกี้อีกครั้ง น้ำเสียงเธอนิ่งมาก ๆ และผมเริ่มรู้แล้วว่าเธอน่ากลัวเพราะน้ำเสียงนิ่งก็จริงแต่สายตาของเธอนี่สิ สามารถฆ่าคนได้เลยละครับบรึ๋ย นึกแล้วผมก็เริ่มกลัวเธอขึ้นมานิด ๆ ล่ะแล้วน้องแพรวอะไรนั่นที่เธอประ
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ