เมื่อเจิงจื่ออวี้เห็นว่าสวี่เหยียนถูกทุกคนโกรธ ก็กลัวว่าหากอยู่กับนางแล้วจะลำบากไปด้วย จึงดึงองค์หญิงหกออกไปทันใดนั้น รอบตัวของสวี่เหยียนก็ไม่มีใครเลยสักคน นางยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทั้งรู้สึกผิดทั้งหวาดกลัวตู้ตงหงกับฉินรั่วซือเห็นเช่นนั้นก็ไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อนางเลย ทั้งสองคนแอบดีใจ ดีที่ถูกหลิงอวี๋เปลี่ยนตัว มิเช่นนั้นพวกนางอาจจะทำความผิดเช่นนี้ก็ได้!เช่นนั้นก็จะถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว!หลิงอวี๋เดินเข้าไปตรงหน้าไทเฮาอย่างกลุ้มใจแล้วเอ่ยกับไทเฮาอย่างรู้สึกผิด “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันขอประทานอภัย หลิงอวี๋ทรยศต่อความไว้วางใจของท่าน!”ไทเฮาเหลือบมองนางแล้วเอ่ยเรียบ ๆ “เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติของสงคราม! อาอวี๋ แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดของสวี่เหยียนที่ทำให้พวกเจ้าพ่ายแพ้!”“แต่เจ้าเองก็ผิดเช่นกัน เจ้าตรองดูเอาเถิด เจ้าผิดตรงที่ใด?”หลิงอวี๋ก้มหน้าลง รู้สึกละอายใจเล็กน้อยเมื่อครู่นางกำลังสำนึกผิดอยู่ มีสิ่งหนึ่งที่เซียวทงพูดถูก นางใช้ผิดคน!นางมิควรเสี่ยง มิควรคิดว่าทุกคนล้วนเป็นสตรีฉินตะวันตก แล้วจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของฉินตะวันตกเป็นอันดับแรกเท่านั้น!นางมิได้คำนึงถึงความเห็
“เรามิใช่ขยะ!”อันซินเป็นผู้นำตะโกนขึ้นมาพวกของเจียงอวี้กับสวีเยวี่ยก็ตะโกนเสียงดังเช่นกัน “องค์หญิงตานรั่ว เรามิใช่ขยะ!”“ท่านให้เวลาเราหนึ่งปี ถึงเวลานั้นกลับมาแข่งขันอีกครั้ง เราจะพิสูจน์ความสามารถของเราให้ท่านเห็นได้อย่างแน่นอน!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วมิคิดเลยว่า คำพูดที่นางจะโจมตีทำให้ฉินตะวันตกอับอาย จะถูกคำพูดมิกี่คำของหลิงอวี๋ทำให้กลับกลายเป็นคำให้กำลังใจไปเสียได้นางยังต้งการจะเอ่ยอะไรขึ้นอีก แต่องค์ชายหนิงส่งนางรับใช้มากระซิบกับนางว่า พอแล้วเซี่ยโฮ่วตานรั่วจึงทำได้เพียงต้องอดกลั้นเอาไว้!องค์ชายหนิงเคยบอกว่า ในแคว้นหนึ่ง อย่าได้กลัวคนเยอะ แต่ให้กลัวความสามัคคีของทุกคนจุดประสงค์ของพวกเขาคือการสร้างพันธมิตร และค้นหาคนที่สามารถควบคุมได้ มิใช่เพื่อช่วยให้ฉินตะวันตกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน!“เอาเถิด ๆ ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าพิสูจน์ตัวเอง! งานเลี้ยงเตรียมพร้อมแล้ว ไปนั่งกันเถิด!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วเปลี่ยนท่าทีที่ก้าวร้าวแล้วแสดงตัวตนในฐานะเจ้าภาพเชิญทุกคนนั่งลงเซียวทงพาเจิงจื่ออวี้เดินไปข้างหน้าพวกของอันซินมิอยากนั่งกับองค์หญิงหก จึงเดินช้า ๆ อยู่ด้านหลังสุดหลิงอวี๋เห็นว่าหลิ
เซี่ยโฮ่วตานรั่วกับนางรับใช้มองการต่อสู้ภายในฉินตะวันตกอย่างรู้สึกมีความสุข องค์หญิงหกทำให้พระชายาอ๋องอี้อับอายเช่นนี้ มันช่างสาแก่ใจเสียจริง!มันควรจะให้เซียวหลินเทียนเห็นว่า พระชายาที่เขาปกป้องกำลังทำในสิ่งที่คนรับใช้ทำ เขาจะต้องรู้สึกอับอายมากอย่างแน่นอน!ทางองค์ชายหนิงขมวดคิ้วมองเซียวทงแล้วเอ่ย “องค์หญิงหก ช่างมันเสียเถิด พระชายาอ๋องอี้เหนื่อยแล้ว มิต้องให้นางทำความสะอาดหรอก! พวกเจ้าทุกคนกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถิด! คนของข้าจะทำความสะอาดเอง”“จะได้เยี่ยงไรเล่า ในการเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้! คนของฉินตะวันตกล้วนเป็นคนที่พูดคำแล้วมิคืนคำ หลิงอวี๋ เจ้าว่าถูกหรือไม่?”เซียวทงมีหรือจะปล่อยโอกาสที่จะทำให้หลิงอวี๋อับอายอย่างง่ายดายเช่นนี้ไป จึงเอ่ยอย่างมีความสุข“ใช่ การเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้! ข้าจะมิบิดพลิ้วหรอก!”หลิงอวี๋ลุกยืน พับแขนเสื้อขึ้นแล้วเริ่มเก็บจานและตะเกียบหลิงหว่านยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ แล้วตามหลิงอวี๋ไปทำความสะอาดเซียวทงเห็นเข้าก็ตะโกนทันที “หลิงหว่าน เจ้าทำอะไร? ตกลงกันแล้วมิใช่หรือหากหลิงอวี๋นำกลุ่มพ่ายแพ้จะต้องรับการลงโทษ! ห้ามใครช่วยนางทั้งนั้น ให้นางล
งานเลี้ยงวันเกิดของเซี่ยโฮ่วตานรั่วสิ้นสุดลงไปเช่นนี้แต่เรื่องการพ่ายแพ้ในการแข่งขันเตะลูกกลมทำให้เกิดผลสืบเนื่องตามมา...คืนนั้น หลิงอวี๋เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จก็หลับไปที่เรือนบุหงาในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้นจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู“พระชายา เกิดเรื่องแล้ว ตื่นเร็วเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที จำได้ว่าเป็นเสียงของเถาจื่อ จึงตะโกน “เข้ามาคุยในนี้!”เถาจื่อเปิดประตูแล้วเอ่ยอย่างเร่งรีบ “พระชายา คุณหนูอันกับคุณชายอันอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ พวกเขาบอกว่าสวี่เหยียนกินยาพิษฆ่าตัวตาย แม่ของนางไปขอร้องคุณหนูอัน คุณหนูอันสงสารสวี่เหยียนจึงมาขอให้ท่านไปช่วยนางเจ้าค่ะ!”หา...หลิงอวี๋ตกใจ รีบแต่งตัวทันทีนางมิคาดคิดว่าสวี่เหยียนจะเปราะบางถึงขนาดที่จะกินยาพิษฆ่าตัวตายแต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้น สวี่เหยียนต่างถูกทุกคนว่าอย่างนั้นอย่างนี้ สตรีผู้มิแยแสเรื่องของใคร จะมีกี่คนที่รับการโจมตีเช่นนี้ได้หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย นางมิเห็นสวี่เหยียนตอนงานเลี้ยง นางยังคิดเลยว่าสวี่เหยียนคงจะมิกล้าสู้หน้าใครจึงไปก่อนไหนเลยจะคิดสวี่เหยียนจะกลับไปกินยาพิษฆ่าตั
กลิ่นอาเจียน!หากอาเจียนออกมาก็ดีหน่อย หลิงอวี๋รีบไปตรวจดูทันทีฮูหยินสวี่อยู่ข้าง ๆ จึงเอ่ยขึ้นมา “พระชายาอ๋องอี้ สวี่เหยียนกินยาพิษที่ใช้ฆ่าหนูเข้าไป ข้าใช้ตะเกียบบังคับให้นางอาเจียนออกมาสองครั้ง นาง… นางจะยังรอดได้หรือไม่?”หลิงอวี๋เห็นว่าสวี่เหยียนหมดสติไป นางก็มิรู้ว่ายาเบื่อหนูนั้นรุนแรงแค่ไหน จึงเอ่ย “ฮูหยินสวี่ โปรดออกไปรอก่อนเถิด ข้าจะพยายามช่วยสวี่เหยียนอย่างเต็มที่!”“ให้ใครก็ได้เอาน้ำกับเกลือมาที!”หลิงอวี๋อธิบายขณะหยิบท่อล้างกระเพาะอาหารออกมาด้วยอันซินกลัวว่าฮูหยินสวี่จะกลัว จึงรีบประคองฮูหยินสวี่ออกไปอันซินได้ยินว่าสวี่เหยียนกินยาฆ่าตัวตายก็ตกใจเช่นกัน เมื่อเป็นเรื่องของชีวิตแล้ว การชนะหรือแพ้ก็ไม่มีความสำคัญแล้วอันซินคิดอย่างรู้สึกผิด หากรู้ว่าสวี่เหยียนจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นนางมิน่าเป็นผู้นำในการกล่าวโทษสวี่เหยียน ตอนนี้นางทำได้เพียงอธิษฐานขอให้สวี่เหยียนมิเป็นไรหลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่ข้างใน อันเจ๋อกับเซียวหลินเทียนเป็นบุรุษ จึงเดินออกไปรอนอกเรือนเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย“คิดมิถึงเลยว่าสวี่เหยียนจะมีจิตใจที่ค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขั้นฆ่าตัวตาย!”อันเจ๋อเอ่
ฮูหยินสวี่มิได้เอ่ยอะไรหลังจากนั้น แต่รอยยิ้มเยาะครั้งสุดท้ายของนางนั้นหลิงอวี๋จดจำอย่างฝังลึกทำให้หลิงอวี๋เปลี่ยนความเข้าใจที่มีต่อฮูหยินสวี่ รู้สึกว่าอาจมีพลังที่น่าแปลกใจซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์ที่อ่อนโยนของนางบางทีใต้เท้าสวี่กับทุกคนในเมืองหลวงอาจมองฮูหยินสวี่ผิดไปหลิงอวี๋ตรวจดูอาการของสวี่เหยียน ยืนยันว่านางพ้นอันตรายแล้วจากนั้นจึงบอกฮูหยินสวี่ว่าควรดูแลนางอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจ กลุ่มคนจึงออกจากหมู่บ้านตระกูลสวี่ก่อนที่สวี่เหยียนจะฟื้น หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้แล้วถึงได้มีเวลาตรวจสอบจดหมายลาตายของสวี่เหยียนสวี่เหยียนอาจจะสิ้นหวังกับชีวิตภายหน้าของตนแล้ว ทั้งยังโกรธที่สหายสนิทก็ทิ้งตนไปด้วยในจดหมายลาตาย นางบอกทุกเรื่องที่องค์หญิงหกบอกให้พวกนางทำ รวมถึงเรื่องที่องค์หญิงหกทำให้หลิงหว่านลำบากใจ และตั้งใจให้พวกนางร่วมมือกับตน ทำให้ทั้งกลุ่มพ่ายแพ้สวี่เหยียนระบุชื่อคนในกลุ่มองค์หญิงหกทีละคนไว้ด้วยสวี่เหยียนพูดถึงการกระทำสุดท้ายของตนในจดหมายลาตายด้วยเช่นกัน หลิงอวี๋อ่านแล้วก็รู้สึกผิดนางกับทุกคนเข้าใจสวี่เหยียน!ผิดโชคดีที่ตนช่วยชีวิตสว
เมื่อได้ยินเช่นนี้เผยอวี้ก็รีบพยักหน้า พลางเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ท่านย่ามิต้องกังวลขอรับ หว่านเอ๋อร์ใจดีมาก นางไม่มีทางโกรธเคืองเหลียนเอ๋อร์เป็นแน่!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยเอ่ยอย่างตำหนิ “มิโกรธเคืองก็ต้องไปขอโทษ อย่าให้คนอื่นคิดว่าตระกูลเผยของเราเป็นพวกคนที่มิรู้จักมารยาท!”“อวี้เอ๋อร์เอ๋ย แม้ว่าหลิงหว่านผู้นี้จะเป็นบุตรีขุนนางต้องโทษ แต่นอกเหนือจากจุดนี้แล้ว นางดีเหลือเกินและคู่ควรกับเจ้า!”ตอนที่ไปสู่ขอในวันนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยสังเกตหลิงหว่านอย่างละเอียด นางมีการศึกษาดีและมีเหตุผล มีความประพฤติดี ที่สำคัญกว่านั้นคือ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตนก็มิได้ดูแข็งกร้าวจนเย่อหยิ่งและมิได้ถ่อมตัวจนต้อยต่ำได้คนเช่นนี้มาอยู่ในฐานะภรรยาของตระกูลเผยได้ก็สามารถดูแลจัดการทุกอย่างได้!ทางด้านไทเฮา เมื่อเห็นจดหมายลาตายที่เซียวหลินเทียนมามอบให้เองหลังการเข้าเฝ้า ไทเฮาก็ตกใจเช่นกันมันเป็นเพียงกาารแข่งขันเล็ก ๆ แต่เสียหายถึงชีวิตคนในขณะที่ไทเฮาเห็นใจจสวี่เหยียน นางก็ยิ่งโกรธเซียวทงมากในการแข่งขันก็ใจคับแคบจนทำให้หลิงหว่านได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังกล้ายุยงกลุ่มของตนให้จงใจแพ้เยวี่ยใต้อีก!เกียรติยศกับสมบัติล
เจียงอวี้มิรู้ตัวเลยว่านั่งอยู่ในบ้านเฉย ๆ แล้วจะมีภัยหล่นมาจากฟากฟ้าพ่อกับพี่ชายของนางอยู่ที่ชายแดนกันหมด มีเพียงแม่ ย่า กับครอบครัวของลุงรองอยู่ที่บ้าน ทันใดนั้นนางก็ได้ยินว่าให้รับพระราชโองการ จึงเปลี่ยนอาภรณ์ออกมาอย่างงุนงงเมื่อได้ยินว่าให้ตนติดตามองค์หญิงหกเข้าวัง เจียงอวี้มิโต้ตอบสิ่งใด นางรู้สึกมิเต็มใจ แต่ก็ยอมรับพระราชโองการแต่โดยดีกระทั่งส่งขันทีฉางที่มาส่งพระราชโองการกลับไปแล้ว แม่กับย่าของเจียงอวี้ก็รีบดึงเจียงอวี้เข้าไปในบ้านทันที“พวกเจ้าไปเฝ้าประตูไว้ อย่าให้ใครเข้ามาใกล้!” ฮูหยินเจียงสั่งนางรับใช้เสียงแข็ง“ท่านแม่ เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? ก็แค่ติดตามองค์หญิงหกเข้าไปในวังมิใช่หรือ? เหตุใดทำเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งไปได้เล่า?”เจียงอวี้ยังคงมิเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ“ลูกสาวผู้โง่เขลาของข้า เหตุใดเจ้าจึงโง่เขลาถึงเพียงนี้!”เมื่อฮูหยินเจียงเห็นว่าลูกสาวของตนยังมิเข้าใจว่าการเข้าวังหมายความว่าอย่างไร ก็กังวลมากจนแทบจะน้ำตาไหลออกมานิสัยที่เรียบง่ายเช่นนี้ หากเข้าวังไป กลัวว่ามิถึงสองเดือนก็จะถูกพวกของฮองเฮาเว่ยและพระชายาเส้าจัดกา