แชร์

บทที่ 902

ผู้เขียน: กานเฟย
“ปัง!”

ท่านอ๋องเฉิงทนมิไหวอีกต่อไปแล้วจึงเคาะค้อนลงบนโต๊ะแล้วตะคอก

“พระชายาเว่ย เจ้ายังจะไร้เหตุผลและทำเรื่องวุ่นวายอีก...ในตอนแรกเจ้าก็ผลักความผิดไปให้พระชายาอ๋องอี้ว่าเป็นมือสังหาร ตอนนี้เจ้าโยงไปถึงพระชายาฮุ่ย เจ้าคิดที่จะทำลายความสงบสุขภายในราชวงศ์หรือ?”

“ข้าคำนึงถึงความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวของเจ้า ดังนั้นจะมิถือสาหาความกับเจ้า แต่นั่นมิได้หมายความว่าข้าจะยอมทนกับเจ้าไปตลอด!”

“พระชายาเว่ย หากเจ้ากล้าทำเรื่องไร้สาระอีกครั้ง เจ้าจะถูกลงโทษตามกฎของศาล! เจ้าจะถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งต่อหน้าธารกำนัล!”

พระชายาเว่ยอ้าปาก แต่สุดท้ายนางก็มิกล้าพูดอะไรอีก แม้ว่าในใจจะแค้นมากก็ตาม

แต่ท่าทีของท่านอ๋องเฉิง ขอเพียงนางพูดอีก ก็คงหนีมิพ้นถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งเป็นแน่!

“หลิงอวี๋ ก้าวออกมาฟังคำตัดสิน!”

หลิงอวี๋เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง

ท่านอ๋องเฉิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ในคดีจ่างหนิง หลักฐานของมือสังหารตงจู๋เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว หลิงอวี๋กับหลิงซวนมิเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ข้าขอตัดสินว่าพ้นผิดและให้ปล่อยตัวได้!”

“ตงจู๋กับตงเหมยถูกตัดสินประหารชีวิต! ให้ไปดำเนินการทันที!”

......

“หลิงอวี๋ขอบพระ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 903

    หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาถึงคุกเพื่อรับตัวหลิงซวนหลิงอวี๋ฉีดยาให้หลิงซวนและป้อนยาบางอย่างให้นาง จากนั้นหลิงซวนก็ตื่นขึ้นมาหานอวี้ตามเข้ามาแล้วพาหลิงซวนออกจากคุก“แม่นางเหยียนผู้นั้นเล่า?”หลิงอวี๋เห็นว่าป้าหลี่เป็นคนเปิดประตูห้องขังให้ตนจึงเอ่ยถามหลิงอวี๋ยังจำได้ว่า แม่นางเหยียนพาพวกแม่นมเจี่ยเข้ามาวางยาพิษตนก่อนที่ตนจะสลบไปป้าหลี่ยิ้มพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ เมื่อครู่แม่นางเหยียนยังอยู่ที่นี่อยู่เลย แต่มิรู้ว่าไปไหนเสียแล้วเจ้าค่ะ!”“ท่านมีเรื่องอะไรกับนางหรือไม่เจ้าคะ? บ่าวจะช่วยออกไปตามหานางให้!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “แม่นางเหยียนผู้นี้ดีกับหม่อมฉันมาก เมื่อคืนก่อนนางพาคนเข้ามาป้อนยาพิเศษหม่อมฉัน ท่านให้คนช่วยไปตามหานางให้หม่อมฉันทีเถิด หม่อมฉันต้องขอบคุณนางเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็เข้าใจเลย สีหน้าของเขามืดมนลงทันทีมิน่าหลิงอวี๋จึงหมดสติไปมิฟื้น ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเดรัจฉานผู้นี้นี่เอง!“จ้าวซวน เจ้าพาคนไปตามหานาง!”จ้าวซวนก็เข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกเช่นกัน จึงรีบออกมาขอให้ท่านอ๋องเฉิงส่งนักการไปช่วยตามหาคนคนนั้น!ทุกคนค้นหารอบ ๆ ในที่สุดก็พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 904

    “อาอวี๋ เจ้าหลุดพ้นมาได้ในครั้งนี้ ฉินซาน องค์ชายเย่และทุกคนต่างก็ออกแรงกันอย่างมากทีเดียว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ “ข้าเกือบจะตำหนิน้องห้าแล้ว!”“เหตุใดหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หมดสติอยู่จึงมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเซียวหลินเทียนเล่าเรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้อย่างคร่าว ๆ ให้ฟัง เมื่อนางได้ยินว่าตนหมดสติไป พระชายาเว่ยก็กล้าใช้กองทัพหลวงข่มขู่เซียวหลินเทียน ทั้งยังสวมชุดผ้ากระสอบไว้ทุกข์ให้ตนด้วยหลิงอวี๋ก็โกรธจนหน้าเคร่งขรึมไปทันทีเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ตอนนั้นข้าอยากจะพาเจ้าออกไปโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น!”“แต่หากข้าทำเช่นนั้น ชีวิตของหลิงเยวี่ยและทุกคนที่ตำหนักอ๋องอี้จะต้องเสียไปเลย... และจะเดือดร้อนไปถึงท่านอดีตเสนาบดีด้วย!”“ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องได้รับความคับข้องใจ! เจ้ามิต้องกังวล ในภายหน้าข้าจะช่วยให้เจ้าได้ชำระแค้นนี้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นึกถึงอันตรายในเวลานั้น แล้วลูบมือเซียวหลินเทียนด้วยความเข้าใจ “ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพคะ!”“ท่านจะทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเพียงเพราะหม่อมฉันคนเดียวมิได้! หม่อมฉันไม่มีทางตำหนิท่านหรอก!”เซียวหลินเท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 905

    กระทั่งกลับไปถึงตำหนักอ๋องอี้แม่นมลี่ก็พาหลิงเยวี่ยวิ่งออกมาต้อนรับหลิงอวี๋จนถึงตอนนี้หลิงเยวี่ยก็มิรู้ว่าหลิงอวี๋กลับมาจากประตูนรก เขายังเชื่อสิ่งที่แม่นมลี่บอก และคิดว่าหลิงอวี๋ออกไปตรวจรักษาให้ผู้คน“ท่านแม่… ผู้ป่วยครั้งนี้รักษายากมากใช่หรือไม่! ท่านแม่ไปตั้งหลายวันเลย! ช่วยรักษาเขาได้หรือไม่ขอรับ?”หลิงเยวี่ยเอ่ยถามอย่างกังวล“รักษาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางกอดหลิงเยวี่ย นางมองแม่นมลี่อย่างซาบซึ้งสองวันที่ผ่านมานี้ทำให้แม่นมลี่กังวลมิน้อยเลย! แต่นางก็ยังดูแลหลิงเยวี่ยได้เป็นอย่างดีถึงเพียงนี้!แม่นมลี่ปาดน้ำตาจากหางตาออกอย่างเงียบ ๆ แล้วยิ้มพลางเอ่ย “กลับมาก็ดีแล้วเจ้าค่ะ บ่าวให้สุ่ยหลิงไปตุ๋นไก่ไว้แล้ว คุณหนูไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด ประเดี๋ยวค่อยกินอาหาร!”“ขอบคุณแม่นม!”ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่หลิงอวี๋มีต่อแม่นมลี่นั้นมิสามารถอธิบายออกมาได้เลย นางอุ้มหลิงเยวี่ยเข้าไปข้างในอย่างมีความสุขระหว่างทางก็เห็นว่ามีนางรับใช้ยื่นหน้าแอบมอง แต่หลิงอวี๋มิได้พูดอะไรแม้ว่าหานเหมยจะพูดมิเก่งนัก แต่ก็กระซิบ “คุณหนู ตอนคุณหนูมิอยู่ เสวี่ยฉินกับเสวี่ยเจินดิ้นรนทำทุกสิ่งเลยเจ้าค่ะ! พว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 906

    กระทั่งทั้งสองคนเข้าไปในวัง ขันทีฉางก็นำทางพวกเขาไปที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮาทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นไทเฮา องค์จักรพรรดิและฮองเฮาเว่ยนั่งอยู่ที่ประทับด้านบน ส่วนพระชายาหรงยืนอยู่ด้านล่าง“หลิงอวี๋เข้าเฝ้าไทเฮา องค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเพคะ…”หลิงอวี๋คุกเข่าลงทำความเคารพทั้งสามคน เซียวหลินเทียนก็คุกเข่าลงเช่นกันไม่มีใครบอกให้ลุกขึ้นได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็มิกล้าลุกขึ้นเช่นกันจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา แล้วจึงเอ่ยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเรียกพวกเจ้าเข้ามาในวัง?”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเอ่ยพร้อมกัน “เสด็จพ่อ ลูกมิรู้!”จักรพรรดิอู่อันยิ้มเยาะ มองหลิงอวี๋แล้วยกมือขึ้น จากนั้นขันทีฉางก็ยกจานมาหนึ่งใบหลังจากที่หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาก็พบว่าการได้ยินและการมองเห็นของตนเฉียบคมขึ้น ความสามารถต่าง ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าด้วยมีห่อยาอยู่ในจานของขันทีฉาง มิต้องเปิดดูหลิงอวี๋ก็ได้กลิ่นยาชนิดหนึ่งแล้วจู่ ๆ นางก็ใจสั่น รู้ทันทีว่าเหตุใดตนถึงถูกเรียกเข้าวัง!“หลิงอวี๋ เจ้าดูสิ นี่คือสิ่งใด?” จักรพรรดิอู่อันเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 907

    เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยถูกทรมานเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกปวดใจและโกรธมาก น้ำเสียงของเขาจึงเฉียบคมขึ้นมา“เจ้าทาสสุนัข ปล่อยเขาลงมา! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดกัน?”“บังอาจ! ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีสิทธิ์ตะโกนเช่นนี้แล้วรึ?”จักรพรรดิอู่อันตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ ไปเรียกหมอหลวง บอกว่าจะมีการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์!”“เซียวหลินเทียน เจ้าเต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกผู้อื่น มิได้หมายความว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย!”“วันนี้เราจะหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์กันอีกครั้ง หากเลือดมิเข้ากัน ข้าจะตัดหัวของหลิงอวี๋กับลูกนอกสมรสนี้ทิ้ง!”หมอจางนำแอ่งน้ำมาเอง เขาเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูก กำลังจะก้าวไปกรีดมือของหลิงเยวี่ยแล้วไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ฝ่าบาท ให้คนของแม่ไปตักน้ำเถิด! ไป่ซุ่ย ไปเอาอ่างน้ำมาให้หมอจาง!”หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง “ฝ่าบาท คงจะมิสงสัยว่าแม่จะมีกลอุบายใดหรอกใช่หรือไม่?”จักรพรรดิอู่อันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “ไทเฮามีความยุติธรรมและเข้มงวด ข้าจะสงสัยท่านได้เยี่ยงไร!”ไป่ซุ่ยออกไปตักน้ำมาใหม่อีกครั้งหมอจางรู้สึกตื่นตร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 908

    สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันดูมิดีไปทันที พลางจ้องมองพระชายาหรงอย่างดุร้าย แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ถามพระชายาหรงดูเถิด!”พระชายาหรงเอ่ยตะกุกตะกัก “เทียนเอ๋อร์ ป้าก็กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกจึงขอให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบอีกครั้ง… มีคนมาบอกว่าผงราชาไข่มุกหากเอาไปทาที่มือจะสามารถทำให้เลือดของคนที่มิเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมาหลอมรวมกันได้!”“หลิงอวี๋ นาง...นาง...”“พระชายาหรง ข่าวที่ไม่มีมูลความจริงก็เชื่อได้เยี่ยงนั้นหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านคิดที่จะใส่ร้ายหลิงอวี๋เพียงเพราะข่าวที่ลือกันมา ทั้งยังไปรบกวนองค์จักรพรรดิกับไทเฮาให้วุ่นวายไปกับท่านอีก… นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”“เสด็จพ่อทรงยุ่งกับเรื่องการบ้านการเมืองมากอยู่แล้ว หากทุกคนเป็นเหมือนท่านที่พอได้ยินข่าวลือก็มารบกวนเสด็จพ่อแล้วพระองค์จะดูแลจัดการฉินตะวันตกได้เยี่ยงไร?”ครั้งนี้เซียวหลินเทียนโกรธมาก จึงดุพระชายาหรงอย่างเปิดเผย จริง ๆ แล้วเขาดุจักรพรรดิอู่อันไปด้วยซ้ำจักรพรรดิผู้สง่างามของแคว้น กลับเพิกเฉยต่อเรื่องการบ้านการเมืองแล้วมารับฟังเรื่องข่าวลือไม่มีมูลของสตรี นี่มิใช่เรื่องไร้สาระหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันมี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 909

    หนังสือหย่า?เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็ตกตะลึงหลิงอวี๋จำได้ว่าตอนที่ตนข้ามเวลามา นางถูกเซียวหลินเทียนทุบตีจนเนื้อแตก เมื่อนางสามารถต้านทานได้ก็ใช้กลอุบายแขวนเซียวหลินเทียนไว้บนต้นไม้ บังคับให้เซียวหลินเทียนตกลงที่จะหย่าร้างกับตน!หลังจากที่เซียวหลินเทียนส่งหนังสือหย่ามาหลิงอวี๋ก็เก็บซ่อนมันไว้ตลอด เพียงรอโอกาสให้องค์จักรพรรดิเห็นชอบกับการหย่าร้างและออกจากตำหนักอ๋องอี้!หนังสือหย่านั้นนางมิเคยตรวจสอบดูเลย ไหนเลยจะคิดว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของพระชายาหรง...หลังจากที่จักรพรรดิอู่อันอ่านหนังสือหย่าแล้ว เขาก็โกรธมาก “เซียวหลินเทียน ที่แท้เจ้ามิพอใจการแต่งงานที่ข้าประทานให้เจ้ามานานแล้ว! ดังนั้นจึงเขียนหนังสือหย่าไว้!”“เช่นนั้นก็ได้ วันนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง! นับจากนี้ไป ข้าจะมิยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”“เสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกังวลแล้วตะโกน “หนังสือหย่านี้ลูกเขียนไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว! ตอนนั้นหลิงอวี๋ทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระมากมาย ดังนั้นลูกจึงตอบรับคำขอของนางด้วยความโกรธ!”“แต่ตอนนี้ ลูกรู้ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกของลูก ลูกเองก็ชอบหลิงอวี๋ด้วย ลูกมิต้องการหย่าร้างกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 910

    จักรพรรดิอู่อันเข้าใจคำใบ้ของไทเฮา หากวันนี้ตนยืนกรานที่จะให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋หย่าร้างกัน และหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนในเรื่องไร้ความสามารถเรื่องนั้นก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงของราชวงศ์ด้วย!และไทเฮายังได้เตือนจักรพรรดิอู่อันถึงยาที่เป็นความกตัญญูของหลิงอวี๋ด้วยหลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม หากปล่อยหลิงอวี๋ออกไป แล้วหากตนเจ็บป่วยในภายหน้า เช่นนั้นก็จะมิมีหมอที่ยอมมารักษาตนเองแล้วจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋แล้วชั่งน้ำหนักข้อดีกับข้อเสีย จากนั้นจึงเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล “ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผล เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะมิทำให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ!”“ได้ยินสิ่งที่ไทเฮาบอกแล้วหรือไม่? กลับไปก็มีชีวิตที่ดี แล้วมีหลานชายอีกคนให้ข้าโดยเร็ววัน!”“หากเจ้ากล้าทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระอีก ข้าจะมิยกโทษให้เจ้าเป็นอันขาด!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็คำนับพระชายาหรงกับฮองเฮาเว่ยโกรธมาก เหตุใดหลิงอวี๋จึงโชคดีเช่นนี้ พลิกเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้ครั้งแล้วครั้งเล่าฮองเฮาเว่ยมองไทเฮา นางเกลียดไทเฮาอย่างมากเหตุใดยายแก่ผู้นี้จ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status