คราวนี้มิจำเป็นที่ท่านอ๋องเฉิงต้องพูดอะไรแล้ว ใครก็ตามที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีนั้นก็ล้วนเห็นปฏิกิริยาที่หวาดกลัวของเฮ่ออันทั้งนั้นตอนหลิงอวี๋ช่วยเฮ่ออันขึ้นมา เฮ่ออันเผชิญหน้ากับนางก็มิได้แสดงออกถึงความกลัวเลย!หากหลิงอวี๋ฆ่าจ่างหนิงและทำให้เฮ่ออันบาดเจ็บ เฮ่ออันจะยังสงบเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?แต่พอเฮ่ออันเห็นตงจู๋ เขาก็ดูหวาดกลัวขึ้นมาทันที แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าใครเป็นมือสังหาร!สีหน้าของเฮ่อจู้ดูแย่ลงไปทันที มิรู้ว่าในใจเขาควรจะมีความสุขหรือกังวลดี!เหยียนฮุ่ยเหลือบมองเฮ่อจู้อย่างเฉยเมยไม่มีใครรู้จักสามีได้ดีเท่าภรรยาอีกแล้ว!เมื่อครู่ตอนที่เฮ่อจู้ลังเลเหยียนฮุ่ยเห็นหน้าสามีของตนชัดเจน!ตนดีใจที่ได้ยินว่าหลิงอวี๋สามารถช่วยเฮ่ออันได้!ขอเพียงยังมีความหวังสักเล็กน้อย นางก็จะมิยอมแพ้ในการช่วยเหลือลูกชายของตน!แต่ในขณะนั้นดวงตาของเฮ่อจู้ที่ฉายแววออกมา กลับกำลังสงสัยว่าควรจะให้หลิงอวี๋ช่วยดีหรือไม่!อีกทั้งหลังจากนั้นก็ยังคิดที่จะขัดขวางหลิงอวี๋มิให้ช่วยเหลือเฮ่ออันด้วย...ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเฮ่อจู้ต้องการย้ำความผิดของหลิงอวี๋ ให้องค์ชายเว่ยกับภรรยาของเขากำจัดหลิงอวี๋
“ปัง!”ท่านอ๋องเฉิงทนมิไหวอีกต่อไปแล้วจึงเคาะค้อนลงบนโต๊ะแล้วตะคอก“พระชายาเว่ย เจ้ายังจะไร้เหตุผลและทำเรื่องวุ่นวายอีก...ในตอนแรกเจ้าก็ผลักความผิดไปให้พระชายาอ๋องอี้ว่าเป็นมือสังหาร ตอนนี้เจ้าโยงไปถึงพระชายาฮุ่ย เจ้าคิดที่จะทำลายความสงบสุขภายในราชวงศ์หรือ?”“ข้าคำนึงถึงความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวของเจ้า ดังนั้นจะมิถือสาหาความกับเจ้า แต่นั่นมิได้หมายความว่าข้าจะยอมทนกับเจ้าไปตลอด!”“พระชายาเว่ย หากเจ้ากล้าทำเรื่องไร้สาระอีกครั้ง เจ้าจะถูกลงโทษตามกฎของศาล! เจ้าจะถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งต่อหน้าธารกำนัล!”พระชายาเว่ยอ้าปาก แต่สุดท้ายนางก็มิกล้าพูดอะไรอีก แม้ว่าในใจจะแค้นมากก็ตามแต่ท่าทีของท่านอ๋องเฉิง ขอเพียงนางพูดอีก ก็คงหนีมิพ้นถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งเป็นแน่!“หลิงอวี๋ ก้าวออกมาฟังคำตัดสิน!”หลิงอวี๋เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟังท่านอ๋องเฉิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ในคดีจ่างหนิง หลักฐานของมือสังหารตงจู๋เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว หลิงอวี๋กับหลิงซวนมิเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ข้าขอตัดสินว่าพ้นผิดและให้ปล่อยตัวได้!”“ตงจู๋กับตงเหมยถูกตัดสินประหารชีวิต! ให้ไปดำเนินการทันที!”......“หลิงอวี๋ขอบพระ
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาถึงคุกเพื่อรับตัวหลิงซวนหลิงอวี๋ฉีดยาให้หลิงซวนและป้อนยาบางอย่างให้นาง จากนั้นหลิงซวนก็ตื่นขึ้นมาหานอวี้ตามเข้ามาแล้วพาหลิงซวนออกจากคุก“แม่นางเหยียนผู้นั้นเล่า?”หลิงอวี๋เห็นว่าป้าหลี่เป็นคนเปิดประตูห้องขังให้ตนจึงเอ่ยถามหลิงอวี๋ยังจำได้ว่า แม่นางเหยียนพาพวกแม่นมเจี่ยเข้ามาวางยาพิษตนก่อนที่ตนจะสลบไปป้าหลี่ยิ้มพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ เมื่อครู่แม่นางเหยียนยังอยู่ที่นี่อยู่เลย แต่มิรู้ว่าไปไหนเสียแล้วเจ้าค่ะ!”“ท่านมีเรื่องอะไรกับนางหรือไม่เจ้าคะ? บ่าวจะช่วยออกไปตามหานางให้!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “แม่นางเหยียนผู้นี้ดีกับหม่อมฉันมาก เมื่อคืนก่อนนางพาคนเข้ามาป้อนยาพิเศษหม่อมฉัน ท่านให้คนช่วยไปตามหานางให้หม่อมฉันทีเถิด หม่อมฉันต้องขอบคุณนางเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็เข้าใจเลย สีหน้าของเขามืดมนลงทันทีมิน่าหลิงอวี๋จึงหมดสติไปมิฟื้น ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเดรัจฉานผู้นี้นี่เอง!“จ้าวซวน เจ้าพาคนไปตามหานาง!”จ้าวซวนก็เข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกเช่นกัน จึงรีบออกมาขอให้ท่านอ๋องเฉิงส่งนักการไปช่วยตามหาคนคนนั้น!ทุกคนค้นหารอบ ๆ ในที่สุดก็พ
“อาอวี๋ เจ้าหลุดพ้นมาได้ในครั้งนี้ ฉินซาน องค์ชายเย่และทุกคนต่างก็ออกแรงกันอย่างมากทีเดียว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ “ข้าเกือบจะตำหนิน้องห้าแล้ว!”“เหตุใดหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หมดสติอยู่จึงมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเซียวหลินเทียนเล่าเรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้อย่างคร่าว ๆ ให้ฟัง เมื่อนางได้ยินว่าตนหมดสติไป พระชายาเว่ยก็กล้าใช้กองทัพหลวงข่มขู่เซียวหลินเทียน ทั้งยังสวมชุดผ้ากระสอบไว้ทุกข์ให้ตนด้วยหลิงอวี๋ก็โกรธจนหน้าเคร่งขรึมไปทันทีเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ตอนนั้นข้าอยากจะพาเจ้าออกไปโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น!”“แต่หากข้าทำเช่นนั้น ชีวิตของหลิงเยวี่ยและทุกคนที่ตำหนักอ๋องอี้จะต้องเสียไปเลย... และจะเดือดร้อนไปถึงท่านอดีตเสนาบดีด้วย!”“ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องได้รับความคับข้องใจ! เจ้ามิต้องกังวล ในภายหน้าข้าจะช่วยให้เจ้าได้ชำระแค้นนี้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นึกถึงอันตรายในเวลานั้น แล้วลูบมือเซียวหลินเทียนด้วยความเข้าใจ “ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพคะ!”“ท่านจะทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเพียงเพราะหม่อมฉันคนเดียวมิได้! หม่อมฉันไม่มีทางตำหนิท่านหรอก!”เซียวหลินเท
กระทั่งกลับไปถึงตำหนักอ๋องอี้แม่นมลี่ก็พาหลิงเยวี่ยวิ่งออกมาต้อนรับหลิงอวี๋จนถึงตอนนี้หลิงเยวี่ยก็มิรู้ว่าหลิงอวี๋กลับมาจากประตูนรก เขายังเชื่อสิ่งที่แม่นมลี่บอก และคิดว่าหลิงอวี๋ออกไปตรวจรักษาให้ผู้คน“ท่านแม่… ผู้ป่วยครั้งนี้รักษายากมากใช่หรือไม่! ท่านแม่ไปตั้งหลายวันเลย! ช่วยรักษาเขาได้หรือไม่ขอรับ?”หลิงเยวี่ยเอ่ยถามอย่างกังวล“รักษาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางกอดหลิงเยวี่ย นางมองแม่นมลี่อย่างซาบซึ้งสองวันที่ผ่านมานี้ทำให้แม่นมลี่กังวลมิน้อยเลย! แต่นางก็ยังดูแลหลิงเยวี่ยได้เป็นอย่างดีถึงเพียงนี้!แม่นมลี่ปาดน้ำตาจากหางตาออกอย่างเงียบ ๆ แล้วยิ้มพลางเอ่ย “กลับมาก็ดีแล้วเจ้าค่ะ บ่าวให้สุ่ยหลิงไปตุ๋นไก่ไว้แล้ว คุณหนูไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด ประเดี๋ยวค่อยกินอาหาร!”“ขอบคุณแม่นม!”ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่หลิงอวี๋มีต่อแม่นมลี่นั้นมิสามารถอธิบายออกมาได้เลย นางอุ้มหลิงเยวี่ยเข้าไปข้างในอย่างมีความสุขระหว่างทางก็เห็นว่ามีนางรับใช้ยื่นหน้าแอบมอง แต่หลิงอวี๋มิได้พูดอะไรแม้ว่าหานเหมยจะพูดมิเก่งนัก แต่ก็กระซิบ “คุณหนู ตอนคุณหนูมิอยู่ เสวี่ยฉินกับเสวี่ยเจินดิ้นรนทำทุกสิ่งเลยเจ้าค่ะ! พว
กระทั่งทั้งสองคนเข้าไปในวัง ขันทีฉางก็นำทางพวกเขาไปที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮาทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นไทเฮา องค์จักรพรรดิและฮองเฮาเว่ยนั่งอยู่ที่ประทับด้านบน ส่วนพระชายาหรงยืนอยู่ด้านล่าง“หลิงอวี๋เข้าเฝ้าไทเฮา องค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเพคะ…”หลิงอวี๋คุกเข่าลงทำความเคารพทั้งสามคน เซียวหลินเทียนก็คุกเข่าลงเช่นกันไม่มีใครบอกให้ลุกขึ้นได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็มิกล้าลุกขึ้นเช่นกันจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา แล้วจึงเอ่ยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเรียกพวกเจ้าเข้ามาในวัง?”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเอ่ยพร้อมกัน “เสด็จพ่อ ลูกมิรู้!”จักรพรรดิอู่อันยิ้มเยาะ มองหลิงอวี๋แล้วยกมือขึ้น จากนั้นขันทีฉางก็ยกจานมาหนึ่งใบหลังจากที่หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาก็พบว่าการได้ยินและการมองเห็นของตนเฉียบคมขึ้น ความสามารถต่าง ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าด้วยมีห่อยาอยู่ในจานของขันทีฉาง มิต้องเปิดดูหลิงอวี๋ก็ได้กลิ่นยาชนิดหนึ่งแล้วจู่ ๆ นางก็ใจสั่น รู้ทันทีว่าเหตุใดตนถึงถูกเรียกเข้าวัง!“หลิงอวี๋ เจ้าดูสิ นี่คือสิ่งใด?” จักรพรรดิอู่อันเ
เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยถูกทรมานเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกปวดใจและโกรธมาก น้ำเสียงของเขาจึงเฉียบคมขึ้นมา“เจ้าทาสสุนัข ปล่อยเขาลงมา! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดกัน?”“บังอาจ! ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีสิทธิ์ตะโกนเช่นนี้แล้วรึ?”จักรพรรดิอู่อันตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ ไปเรียกหมอหลวง บอกว่าจะมีการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์!”“เซียวหลินเทียน เจ้าเต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกผู้อื่น มิได้หมายความว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย!”“วันนี้เราจะหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์กันอีกครั้ง หากเลือดมิเข้ากัน ข้าจะตัดหัวของหลิงอวี๋กับลูกนอกสมรสนี้ทิ้ง!”หมอจางนำแอ่งน้ำมาเอง เขาเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูก กำลังจะก้าวไปกรีดมือของหลิงเยวี่ยแล้วไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ฝ่าบาท ให้คนของแม่ไปตักน้ำเถิด! ไป่ซุ่ย ไปเอาอ่างน้ำมาให้หมอจาง!”หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง “ฝ่าบาท คงจะมิสงสัยว่าแม่จะมีกลอุบายใดหรอกใช่หรือไม่?”จักรพรรดิอู่อันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “ไทเฮามีความยุติธรรมและเข้มงวด ข้าจะสงสัยท่านได้เยี่ยงไร!”ไป่ซุ่ยออกไปตักน้ำมาใหม่อีกครั้งหมอจางรู้สึกตื่นตร
สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันดูมิดีไปทันที พลางจ้องมองพระชายาหรงอย่างดุร้าย แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ถามพระชายาหรงดูเถิด!”พระชายาหรงเอ่ยตะกุกตะกัก “เทียนเอ๋อร์ ป้าก็กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกจึงขอให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบอีกครั้ง… มีคนมาบอกว่าผงราชาไข่มุกหากเอาไปทาที่มือจะสามารถทำให้เลือดของคนที่มิเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมาหลอมรวมกันได้!”“หลิงอวี๋ นาง...นาง...”“พระชายาหรง ข่าวที่ไม่มีมูลความจริงก็เชื่อได้เยี่ยงนั้นหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านคิดที่จะใส่ร้ายหลิงอวี๋เพียงเพราะข่าวที่ลือกันมา ทั้งยังไปรบกวนองค์จักรพรรดิกับไทเฮาให้วุ่นวายไปกับท่านอีก… นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”“เสด็จพ่อทรงยุ่งกับเรื่องการบ้านการเมืองมากอยู่แล้ว หากทุกคนเป็นเหมือนท่านที่พอได้ยินข่าวลือก็มารบกวนเสด็จพ่อแล้วพระองค์จะดูแลจัดการฉินตะวันตกได้เยี่ยงไร?”ครั้งนี้เซียวหลินเทียนโกรธมาก จึงดุพระชายาหรงอย่างเปิดเผย จริง ๆ แล้วเขาดุจักรพรรดิอู่อันไปด้วยซ้ำจักรพรรดิผู้สง่างามของแคว้น กลับเพิกเฉยต่อเรื่องการบ้านการเมืองแล้วมารับฟังเรื่องข่าวลือไม่มีมูลของสตรี นี่มิใช่เรื่องไร้สาระหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันมี
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต