แชร์

บทที่ 647

ผู้เขียน: กานเฟย
หากเผยอวี้แต่งงานกับหลิงหว่าน มันจะกระทบต่อความก้าวหน้าในตำแหน่งของเขา!

แม้ว่าฮูหยินเผยอยากจะให้ลูกชายแต่งงานก่อนออกเดินทาง แต่นางก็ไม่อยากให้การแต่งงานส่งผลกระทบต่ออนาคตของลูกชายเช่นกัน

ตอนนั้นฮูหยินเผยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป แต่หลังจากกลับไปก็ไปพูดเรื่องนี้กับสามีของนาง

ใต้เท้าเผยจึงเอ่ย “หลิงเสียงกังเป็นคนซื่อตรง อุปนิสัยของบุตรสาวที่เขาเลี้ยงดูก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร!”

“แต่ความกังวลของเจ้าก็ถูกเช่นกัน หากแต่งงานกับหลิงหว่านไป ชีวิตภายหน้าของอวี้เอ๋อร์จะต้องได้รับผลกระทบเป็นแน่! เรื่องนี้ยังต้องพิจารณากันก่อน!”

ทันทีที่ได้ยินสิ่งนี้ฮูหยินเผยล้มเลิกความคิดไป!

วันนี้ฮูหยินเผยตามมาแจกโจ๊กด้วย จึงอยากจะมาดูว่ามีตัวเลือกอื่นอีกหรือไม่

เรื่องพวกสหายสนิทของอันซิน ฮูหยินเผยได้ไปสอบถามจากพระชายาผิงหนานมาแล้ว

อวี๋หลานเป็นคนอารมณ์ดี มีนิสัยนุ่มนวล

เผยอวี้เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเผย ภรรยาของเขาจะต้องเป็นฮูหยินของตระกูลในภายหน้า อุปนิสัยที่นุ่มนวลนี้ไม่ใช้ตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นนายหญิงของตระกูล

ส่วนเจียงอวี้เกิดมาในครอบครัวขุนนางฝ่ายบู๊ แต่ฮูหยินเผยรู้สึกว่าเจียงอวี้แข็งแกร่งเกินไป นางกล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 648

    หลิงอวี๋โกรธมากจนอยากจะตบฟางเจียอี๋ในทันที!มีคนจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บกว่านางหลายสิบเท่ารอให้ตนช่วยชีวิตอยู่ ฟางเจียอี๋กล้าดีอย่างไรถึงให้นางมาที่นี่เพียงเพราะอาการบาดเจ็บเช่นนี้?ผู้ลี้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหล่านั้นกังวลเพียงว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดหรือไม่ แต่ฟางเจียอี๋กลับกังวลว่าตนจะเสียโฉมหรือไม่!“พระชายาอ๋องอี้ รีบรักษาคุณหนูของข้าเร็วเข้าเถิด! เหตุใดจึงยืนงงงันอยู่เล่า?”นางรับใช้ของฟางเจียอี๋เห็นหลิงอวี๋ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็ผลักนางอย่างไม่อดทน“ใบหน้าคุณหนูของข้าใช้เงินดูแลไปเป็นจำนวนมาก หากเสียโฉมแล้วล่ะก็ ต่อไปพวกท่านก็อย่าคิดว่าคุณหนูของข้าจะบริจาคข้าวปลาอาหารให้อีกเลย!”หลิงอวี๋ทนไม่ไหวอีกต่อไป ความโกรธที่สั่งสมมาทำให้นางอยากหาคนระบายมานานแล้วด้วยนางรับใช้ผู้นี้แกว่างเท้าหาเสี้ยนเอง เช่นนั้นก็นับว่านางโชคร้ายก็แล้วกัน!หลิงอวี๋ยกมือขึ้นตบนางรับใช้อย่างแรง พลางตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว “ผู้ใดบอกให้เจ้ากล้ามาผลักข้า?”“เจ้ามันเป็นสุนัขรับใช้ที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นจนเป็นนิสัย ไม่แหกตาดูบ้างหรือว่าข้าเป็นใคร?”“ข้าใช่คนที่เจ้าสามารถจิกหัวใช้ได้รึ?”ขณะที่หลิงอวี๋ก่นด่าอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 649

    นางรับใช้ทั้งสองคนของฟางเจียอี๋เองก็อายจนหน้าแดงกับพฤติกรรมที่น่าขายหน้าของเจ้านายเช่นกัน จนลืมแสดงละครแล้วรีบก้าวไปช่วยพยุงฟางเจียอี๋ลุกขึ้นนางรับใช้คนหนึ่งปัดฝุ่นตามร่างกายของนาง จากนั้นนางรับใช้อีกคนก็รีบช่วยนางจัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางให้ตรงดีที่ฟางเจียอี๋ไม่ใช่คนโง่แล้วตั้งสติได้ในทันทีจากนั้นก็ร้องพลางเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างเสียใจ“ท่านพี่หลินเทียน… ท่านดูแลพระชายาของท่านด้วยเถิด นางมาถึงก็ทุบตีนางรับใช้ของหม่อมฉันอย่างดุร้ายเลยเพคะ!”“สตรีที่วางท่าอวดดีเช่นนี้จะคู่ควรกับการเป็นพระชายาของท่านได้เยี่ยงไรกันเพคะ? หากท่านมิจัดการนาง… นางจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของท่านอ๋องนะเพคะ!”เซียวหลินเทียนมองฟางเจียอี๋อย่างเย็นชา แล้วจู่ ๆ ก็เอ่ยออกมา “พระชายาของข้าไม่มีอะไรที่ไม่ดี! ไม่จำเป็นต้องจัดการหรอก!”“หา… ท่านพี่หลินเทียน ท่านได้ยินที่หม่อมฉันพูดไม่ชัดเจนหรือ? นางรังแกคนรับใช้เพคะ…”“คนรับใช้ก็เป็นคนเช่นกัน! นางจะทุบตีใครโดยไม่สอบถามได้เยี่ยงไรเพคะ?”ฟางเจียอี๋เอ่ยอย่างกังวล “นางเลวร้ายเช่นนี้จะคู่ควรกับท่านอ๋องได้เยี่ยงไรเพคะ?”เซียวหลินเทียนจึงตอบกลับไปอย่างเย็นชาอีกค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 650

    ในขณะนี้ หัวใจของจ้าวเจินเจินจมลึกลงไปถึงจุดต่ำสุดแล้ว!เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จ้าวเจินเจินเพิ่งพบว่าองค์ชายคังทิ้งตนไว้ตามลำพังแล้วพาทหารองครักษ์จากไป!ตอนนั้นใจของนางว่างเปล่าไปหมด!แต่ตอนนี้ นางเพิ่งค้นพบว่าความผิดหวังที่เกิดขึ้นจากการที่เซียวหลินเทียนไม่สนใจตนนั้น มันมากกว่าความผิดหวังที่องค์ชายคังไม่สนใจตนเองมากนัก...จ้าวเจินเจินจ้องมองแผ่นหลังของเซียวหลินเทียนนิ่ง ๆคนที่เคยอุ้มตนไว กลับกลายเป็นคนแปลกหน้ากับตนไปเช่นนี้จริงหรือ?น้ำตาแห่งความคับข้องใจของนางร่วงหล่นลงมาทีละหยดโดยไม่รู้ตัวความเสียใจที่มีอยู่เต็มหัวใจไม่รู้จะไปคุยกับใคร!ตอนที่ศาลาโจ๊กพัง องค์ชายคังทิ้งนางไว้แล้วหนีไปเพียงลำพัง!หากเป็นเซียวหลินเทียน เขาจะไม่มีวันปล่อยมือนางในยามที่เกิดอันตรายแน่นอน!นางได้รับบาดเจ็บ แต่สามีของตนไม่ถามไถ่อะไรสักคำ ทั้งยังตบหน้าตนอีก!ตอนนี้ก็ทิ้งนางไว้ข้างหลังแล้วรีบร้อนเข้าวังไปหาพระชายาเส้าให้คิดวิธีแก้ไขสถานการณ์!เขาไม่รู้หรือว่าการที่ทิ้งตนไว้เผชิญหน้ากับผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ตนอาจจะตายได้?จ้าวเจินเจินมาที่นี่เพราะอยากให้เซียวหลินเทียนจัดให้คนพาตนกลับ!แต่เซียวหลินเท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 651

    เมื่อนึกถึงผลที่ตามมาของการทำให้จ้าวเจินเจินขุ่นเคือง ฟางเจียอี๋ก็อ่อนลงแล้วยิ้มอย่างเอาใจจ้าวเจินเจินพลางเอ่ย“ท่านพี่ ข้าล้อเล่นหนา! ข้าจะทำร้ายท่านได้เยี่ยงไรกันเล่า! เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านสบายพวกเราก็จะสบายไปด้วย!”เมื่อจ้าวเจินเจินเห็นว่าฟางเจียอี๋ยอมถอยแล้วจึงได้ปล่อยมือ นางเหลือบมองฟางเจียอี๋อย่างเย็นชา จากนั้นมองไปที่เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ที่กำลังยุ่งอยู่ไกล ๆ...มุมปากของจ้าวเจินเจินยกขึ้นยิ้มเยาะเซียวหลินเทียน เจ้าทำให้ข้าไม่มีความสุข เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้คิดจะอยู่อย่างสงบสุขได้เช่นกัน!รอข้าก่อนเถอะ ข้าไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้หรอก!สักวันหนึ่ง ข้าจะทำให้เจ้าคุกเข่าตรงแทบเท้าแล้วขอร้องข้า!……“ท่านแม่… ท่านแม่...”หลิงหว่านกำลังยุ่งอยู่กับการพันผ้าพันแผลให้กับผู้บาดเจ็บ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องไห้อันเศร้าสร้อยของเด็กคนหนึ่งนางเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นเด็กอายุสี่ห้าขวบสวมชุดโทรม ๆ เดินเท้าเปล่า และร้องไห้อยู่ท่ามกลางผู้บาดเจ็บหลิงหว่านรีบพันผ้าพันแผลให้ผู้บาดเจ็บแล้ววิ่งไปจับเด็กคนนั้นไว้เด็กคนนั้นใบหน้าสกปรก ผมเผ้าติดกันราวกับฟาง ดูไม่ชัดเจนว่าเป็นเด็กผ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 652

    กระทั่งพวกหลิงอวี๋รักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเสร็จ ก็เกือบจะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหลิงอวี๋หิวจนไส้กิ่ว เดินเข้าไปทรุดตัวลงบนเก้าอี้ในศาลาโอสถ“อาจารย์ ข้าเอาโจ๊กมาให้ท่านหนึ่งชาม กินเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”เมื่อเห็นหลิงอวี๋เหนื่อยเช่นนี้ หลี่ชุงก็ปวดใจ รีบไปเอาโจ๊กมาให้ชามหนึ่ง“ขอบใจเจ้า! เจ้าก็รีบไปกินเถอะ”หลิงอวี๋เห็นว่าหลี่ชุงเองก็ยุ่งมากเช่นกัน จึงรับโจ๊กมาแล้วเร่งให้นางไปกิน“เจ้าค่ะ… อาจารย์ มีเด็กคนหนึ่งนอนอยู่ที่มุมห้อง นามว่าเยี่ยนจื่อ ยังหาแม่ของนางไม่พบเลย โปรดช่วยดูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”หลี่ชุงชี้ไปที่มุมห้องหลิงอวี๋เห็นร่างเล็ก ๆ นอนซุกตัวอยู่ที่มุมห้องจึงพยักหน้าหลังจากกินโจ๊กแล้ว นางก็รู้สึกปวดปัสสาวะนึกได้ว่าห้องปลดทุกข์อยู่ด้านหลังไม่ไกลนัก เยี่ยนจื่อคงยังไม่ตื่นไปอีกสักพัก ตนไปไม่นานก็กลับมาแล้วหลิงอวี๋รีบวิ่งไปเข้าห้องปลดทุกข์ ขณะที่เสร็จสิ้นแล้วกำลังจะออกมา ก็ได้ยินเสียงคนพูดอยู่ข้างนอก“คุณหนูหลิง… เจ้าก็รู้ว่าตัวตนของท่านเป็นใคร ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนดีจึงอยากมาบอกกับเจ้าเสียหน่อย! หากอยากจะให้อวี้เอ๋อร์ของข้าแต่งงานกับเจ้าไปเป็นภรรยาก็คงจะเป็นไปไม่ได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 653

    เมื่อหลิงอวี๋พูดเช่นนั้นฮูหยินเผยก็หน้าแดงขึ้นมาเมื่อครู่นางก็กังวลเช่นกัน นางเห็นหลิงหว่านคุยกับเผยอวี้สองครั้ง กลัวว่าลูกชายของตนจะควบคุมไม่อยู่แล้วแต่งงานเอาสตรีผู้นี้เข้าบ้านแต่ตอนนี้พอถูกหลิงอวี๋ซักถาม ถึงได้พบว่าตนหุนหันพลันแล่นไป!นางลากหลิงหว่านหลบมาคุยที่นี่เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่ แล้วส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของลูกชายตนพอถูกหลิงอวี๋บอกให้ไปถามเผยอวี้เรื่องนี้จริง ๆ นางก็สามารถคาดเดาความโกรธของลูกชายตนได้เลย“พระชายาอ๋องอี้ คุณหนูหลิง ข้าขอโทษ ข้าสับสนไปเอง!”เพราะว่าฮูหยินเผยมาจากตระกูลใหญ่ มีหรือจะยอมให้เรื่องมันโกลาหลยิ่งขึ้น จึงยอมโอนอ่อนให้ก่อนหลิงอวี๋เหลือบมองนาง ใต้เท้าเผยให้ความเคารพท่านอดีตเสนาบดีเป็นอย่างมาก หลังจากที่ท่านอดีตเสนาบดีได้รับบาดเจ็บเขาก็ยังเตรียมของกำนัลอันล้ำค่ามาเยี่ยมเลยส่วนเผยอวี้กับเซียวหลินเทียนก็เป็นเพื่อนสนิทกัน เมื่อนางเห็นฮูหยินเผยขอโทษ ก็ไม่อยากให้เกิดความแตกร้าวแยกระหว่างทั้งสองครอบครัวเช่นกันหลิงอวี๋ลดน้ำเสียงลงพลางเอ่ย “ฮูหยินเผย เมื่อพิจารณาถึงมิตรภาพหลายปีระหว่างสองครอบครัวของเราแล้ว เราไม่ถือสากับคำพูดไร้มารยาทที่ท่านพูดเม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 654

    “เท่านี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรือ! เรื่องการแต่งงาน เจ้าอย่าไปคิดมากเลย… แค่หาคนที่ปฏิบัติต่อเจ้าด้วยใจจริงก็พอแล้ว!”“คนที่จับมือเจ้าให้แน่นยามตกอยู่ในอันตราย และยืนหยัดอยู่ข้างหลังเจ้าอย่างมั่นคงคอยสนับสนุนเจ้ายามที่เจ้าถูกใส่ร้าย!”เวลานี้หลิงอวี๋ไม่เพียงนึกถึงเซียวหลินเทียนเท่านั้น แต่ยังนึกถึงครอบครัวของพ่อเผิงกับเสี่ยวฮวาด้วย...ยามที่ฟันฝ่าความทุกข์ยากด้วยกัน ยอมแลกชีวิตของตนเพื่อโอกาสที่ครอบครัวจะมีชีวิตรอดต่อไป!“ท่านพี่… ข้าเข้าใจแล้ว! ขอบคุณท่านพี่!”หลิงหว่านมองหลิงอวี๋อย่างชื่นชม ความรู้สึกดูถูกตนเองถูกปัดเป่าออกไปทันทีด้วยคำพูดไม่กี่คำของหลิงอวี๋พี่หลิงหลิงบอกว่านางเป็นสมบัติล้ำค่าของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เป็นที่รักของท่านอดีตเสนาบดี พวกเขาจะปกป้องนาง เช่นนั้นเหตุใดนางต้องรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยในสายตาของคนนอกด้วยเล่า!......เผยอวี้ไม่รู้ว่าแม่ของตนไปพูดอะไรกับหลิงหว่าน เขาพาทหารองครักษ์เดินไปรอบ ๆ และถามผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าแม่สืออยู่ที่ใดแต่ต่อมาจู่ ๆ เผยอวี้ก็นึกขึ้นได้ว่ามีสองศพที่ไม่มีผู้มายืนยัน จึงรีบไปดูข้างในมีศพผู้หญิงอยู่จริง ๆ อายุไม่ถึงยี่สิบปี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 655

    “ท่านพี่ แล้วเสี่ยวเยี่ยนจื่อจะทำเช่นไรต่อไป…”หลิงหว่านเอ่ยถามเบา ๆสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า? หรือว่าสถานการกุศล?หลิงอวี๋ไม่รู้ว่าในฉินตะวันตกเรียกว่าอะไร จึงมองไปทางเซียวหลินเทียน“ราชสำนักมีสถานการกุศลสำหรับรับเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยเฉพาะ!”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยความรู้สึกที่หนักหน่วง“ท่านอ๋อง สถานการกุศลมีเด็ก ๆ มากมายถึงเพียงนั้น จะดูแลเด็กที่อายุน้อยเช่นเสี่ยวเยี่ยนจื่อได้ดีหรือเพคะ?” หลิงหว่านเอ่ยถามอย่างกังวลเซียวหลินเทียนพูดไม่ออก มีแม่นมเฒ่าเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่มีที่ไปแล้วมาอยู่ที่สถานการกุศลเพื่อดูแลพวกเขาพวกนางต้องดูแลเด็กจำนวนมาก จะดูแลเด็กคนเดียวเป็นพิเศษได้เยี่ยงไร!หลิงหว่านเข้าใจความเงียบของเซียวหลินเทียน นางจึงเหลือบมองเสี่ยวเยี่ยนจื่ออย่างสับสน แล้วจู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา“ท่านอ๋อง ในเมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อไม่มีครอบครัวอีกต่อไปแล้ว เช่นนั้นหม่อมฉันจะรับเลี้ยงเองเพคะ!”“การที่หม่อมฉันได้เจอนางท่ามกลางผู้ลี้ภัยมากมายนี้ แล้วนางเรียกหม่อมฉันว่าพี่สาว ก็หมายความว่านางมีชะตาต้องกันกับหม่อมฉัน! หม่อมฉันจะรับเลี้ยงนางเอง… หม่อมฉันจำเป็นต้องทำขั้นตอนใด ๆ หรือไม่เพคะ?”

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1798

    หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดนี้ ใจก็กระตุกไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปลูบหน้าของตนโดยมิรู้ตัวคนที่ป้าวเฉิงช่วยตระกูลหวงฝู่ตามหาก็คือตน!แล้วคนที่เขาบอกว่าถูกสังหารไปแล้วนั่นคือใครกัน?หรือว่าจะเป็นหัวหน้าเสิ่นกับเสี่ยวเจียง?หลิงอวี๋เหงื่อตก หากเป็นพวกเขาสองคนที่ถูกสังหารไปจริง ๆ แล้วคนที่สังหารพวกเขาคือใคร?หากมือสังหารพบว่าหัวหน้าเสิ่นมิได้สังหารตน จะกำลังตามหาตนอยู่หรือไม่?เถ้าแก่เจียงที่อยู่ด้านหน้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของป้าวเฉิงกับตระกูลหวงฝู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยออกไป “คนตายไปแล้วก็ส่งศพไปให้เจ้าวังก็จบแล้ว เหตุใดพี่ใหญ่ป้าวต้องไปตรวจสอบด้วยตนเองเล่า!”“เจ้ามิเข้าใจ คนที่เจ้าวังต้องการคือสตรีผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นมีความสำคัญต่อเจ้าวังมาก เจ้าวังบอกมาว่าขอเพียงข้าตามหานางพบและยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะให้สมบัติก้อนโตกับข้า!”ป้าวเฉิงเอ่ยอย่างเป็นทุกข์ “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ คนที่ถูกสังหารจะเป็นสตรีผู้นั้น เช่นนั้นก็มิสามารถไปอธิบายกับเจ้าวังได้แล้ว!”“จริงสิ บอกเรื่องของเจ้ามาก่อนเถิด เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”เถ้าแก่เจียงจึงหันไปเรียก “น้องหญิง มานี่!”

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1797

    มิต้องให้เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อพวกของใช้ประจำวัน เพราะเมื่อฮูหยินเจียงรู้ว่าเถ้าแก่เจียงให้ผู้มีพระคุณมาอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ของตระกูล นางก็รีบให้แม่นมข้างกายเอาผ้าห่มและเหล่าของใช้ประจำวันบางส่วนไปให้ด้วยตนเอง หลิงอวี๋เลือกให้ห้องทางทิศตะวันออกเป็นห้องนอน หลิงซินเองก็มีห้องนอนของตนเช่นกันหลิงอวี๋อยู่คนเดียว หลิงซินแค่ต้องรับใช้งานก็พอแล้วหลิงซินรู้สึกขอบคุณหลิงอวี๋ จึงเช็ดหน้าต่างห้องนอนทั้งสองห้องอย่างขยันขันแข็งจนสะอาดดึกมากแล้วนางก็ยังคงทำงานยุ่งอยู่“หลิงซิน ไปพักผ่อนเถิด แล้วก็นำยาไปทาหน้าเจ้าเสีย!”หลิงอวี๋นำยาทาบาดแผลที่เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อมาส่งให้หลิงซินพลางเอ่ย “เจ้าทาหน้าแล้วพักผ่อน วันพรุ่งยังต้องไปพบนายใหญ่ป้าวกับข้าอีก!”“หลิงซิน ข้าเพิ่งมาที่นี่ มิได้เข้าใจและคุ้นเคยกับคนที่นี่นัก หากมีอะไรที่ข้าทำมิถูกต้องเจ้าก็อย่าลืมเตือนข้าด้วย!”“เจ้าค่ะคุณหนู!”หลิงซินรับยาทาบาดแผลมาอย่างขอบคุณ เดิมทีอยากจะรับใช้จนหลิงอวี๋หลับก่อนค่อยไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋ไล่ออกมาเสียก่อน“ข้ามิได้อ่อนแอบอบบางถึงเพียงนั้น เจ้ามิต้องมารับใช้ข้า ประเดี๋ยวเจ้าค่อย ๆ คุ้นเคย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1796

    ทันทีที่เถ้าแก่เจียงได้ยินก็มิสนใจแล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “คุณหนูเจียงคงจะมากับครอบครัวใช่หรือไม่? แล้ววางแผนว่าจะอยู่ที่นี่กี่วันหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ย “ข้ามากับน้องสาวข้า แต่ผลก็คือแยกจากกันไปแล้ว! ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะตามหาน้องสาวข้าเจอ!”วันนี้เสี่ยวซานเอ๋อร์พบกับหลิงอวี๋ได้เงินมาหลายสิบตำลึง หากทำงานต่อไปก็จะมีตำแหน่งแล้ว เขาจึงรีบช่วย“พี่ใหญ่เจียง เดิมทีคุณหนูเจียงคิดว่าจะขายกำไลหยกแล้วไปหานายใหญ่ป้าวให้ช่วยตามหาน้องสาว ท่านกับนายใหญ่ป้าวมีมิตรไมตรีต่อกัน ท่านช่วยคุณหนูเจียงพูดหน่อยเถิด!”“เรื่องนี้จะไปยากอะไร วันพรุ่งข้าจะพาเจ้าไปพบกับพี่ใหญ่ป้าว!”เถ้าแก่เจียงเอ่ยขึ้นมาอีก “ข้ายังมีเรือนว่างอยู่ หากคุณหนูมิรังเกียจก็อย่าไปพักที่โรงเตี๊ยมเลย ย้ายมาอยู่ในเรือนข้าเถิด!”เดิมทีหลิงอวี๋คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดว่ามิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะหาเสี่ยวอวี้พบ ตนก็มีเงินอยู่มิมาก จะให้พักโรงเตี๊ยมตลอดก็คงมิใช่เรื่องนางจึงเอ่ย “เรือนนั้นของเถ้าแก่เจียงให้ข้าเช่าอยู่ชั่วคราวเถิด ข้าจะจ่ายค่าเช่า!”เถ้าแก่เจียงหน้านิ่งไป แล้วเอ่ยอย่างมิพอใจ “คุณหนูเจียงพูดอะไรกัน เจ้าช่วยลู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1795

    ทั้งสามคนเข้าไปนั่ง จากนั้นเถ้าแก่เจียงก็พูดออกมาตามตรง “มิทราบว่าผู้มีพระคุณมาหาเจียงโหม่วด้วยเรื่องใดหรือ? ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหย่งเอ๋อร์ไว้ มิว่าจะเป็นเรื่องอะไรเจียงโหม่วก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!”หลิงอวี๋นำกำไลหยกออกมา แล้วยิ้มจาง ๆ “ข้าขาดเงินค่าเดินทาง จึงมาขายเครื่องประดับ เถ้าแก่เจียงลองดูว่าจะได้เงินสักเท่าไร หากเหมาะสมข้าก็จะขายให้เถ้าแก่เจียง!”เถ้าแก่เจียงรับกำไลหยกมาดู กำไลหยกนี้คุณภาพพอได้ ตามปกติแล้วเขาให้ราคาหนึ่งพันตำลึงก็ถือว่าสูงมากแล้ว!แต่นี่เป็นกำไลหยกของผู้มีพระคุณ เถ้าแก่เจียงหรือจะกล้ากดราคา“สามพันตำลึง!”เถ้าแก่เจียงตอบออกไปหลิงอวี๋ตะลึง หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้ได้ราคาเพียงสองพันตำลึงเถ้าแก่เจียงให้ตนสามพัน เห็นได้ชัดว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจหลิงอวี๋หรือจะเอาเปรียบเล็ก ๆ เช่นนี้ เมื่อครู่ที่ช่วยเหลือเจียงหย่งก็มิได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรใด ๆ เป็นการช่วยเหลือง่าย ๆ เท่านั้น“สองพัน เถ้าแก่เจียงเอาเงินมาเถิด! กำไลหยกนี้เป็นของท่านแล้ว!”เสี่ยวซานเอ๋อร์อยู่ด้านข้างก็ขยิบตาให้หลิงอวี๋มิหยุด คุณหนูใหญ่ผู้นี้โง่หรือไม่ มีแต่คนต่อรองราคาให้มากขึ้น มีที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1794

    เถ้าแก่เจียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็กำลังคิดจะด่า หลิงอวี๋ก็อุ้มเจียงหย่งมาและหันหลังให้ตนแล้วสองมือของนางกอดรัดอยู่ตรงช่วงท้องของเจียงหย่ง มือหนึ่งกำหมัดแล้ววางด้านหัวแม่มือของกำปั้นนั้นอยู่ที่ตรงอกและตรงท้องของเจียงหย่งส่วนมืออีกข้างของหลิงอวี๋ก็จับมือที่กำหมัดไว้แล้วรีบกระทุ้งที่ช่วงท้องของเจียงหย่งอย่างแรงการกระทำนี้ทำเอาเถ้าแก่เจียงโกรธจนกำหมัดไปทุบที่หัวของหลิงอวี๋“ให้ตายสิ นี่เป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายกันแน่ วางลูกชายข้าลงเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หลิงอวี๋อุ้มเจียงหย่งหลบมา พลางตะคอกใส่เถ้าแก่เจียง “ข้ากำลังช่วยลูกท่านอยู่ ท่านมิเห็นหรือว่าเขากำลังจะตายแล้ว?”“ท่านอย่ามารบกวนข้า หากข้ารักษาเขาตาย ข้าจะชดใช้เขาด้วยชีวิต!”แม้ว่าฮูหยินเจียงจะดูมิเข้าใจวิธีการช่วยเหลือของหลิงอวี๋ แต่ลูกชายใกล้จะตายแล้วจริง ๆ ขอเพียงมีความหวังเพียงเล็กน้อยนางก็จะไม่มีทางยอมแพ้นางดึงเถ้าแก่เจียงไว้หลิงอวี๋ก็ใช้วิธีเดิมกระทุ้งเข้าที่ช่วงท้องของเจียงหย่งต่อไปหลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้ง เจียงหย่งก็ไอแค่ก ๆ แล้วถั่วลิสงเม็ดหนึ่งที่มีเลือดติดอยู่ก็หลุดออกมาจากปากเขาและกระเด็นลงส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1793

    เสี่ยวซานเอ๋อร์จึงพาหลิงอวี๋ไปขายกำไลหยก​ ระหว่างทางเสี่ยวซานเอ๋อร์ก็ยังเล่าเรื่องอื่น ๆ ในเมื่อนี้ให้หลิงอวี๋ฟังอีกหลิงอวี๋เอ่ยถามไปอย่างอ้อม ๆ “เสี่ยวซานเอ๋อร์ ข้ามากับน้องสาว แต่น้องสาวข้าหายตัวไปแล้ว ได้ยินว่าป้าวเฉิงเจ้าถิ่นที่นี่เก่งเรื่องตามหาคน หากข้าไปขอให้เขาช่วย จะต้องใช้เงินเท่าใดหรือ?”เสี่ยวซานเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “คุณหนูใหญ่ แม้ว่านายใหญ่ป้าวจะเก่งเรื่องตามหาคน แต่ก็มิใช่ว่าจะช่วยใครง่าย ๆ! หากจะไปขอร้องเขาแล้วมีเงินมิถึงหลักพันเขาก็มิสนใจหรอก!”“สองพันพอหรือไม่?”หลิงอวี๋นึกถึงที่หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้สามารถขายได้สองพันตำลึงจึงเอ่ยถาม“แล้วแต่คน!”เสี่ยวซานเอ๋อร์คิดว่าหลิงอวี๋ใจกว้างกับตนมากจึงเอ่ยขึ้นมา “ข้ารู้จักกับผู้ดูแลหมู่บ้านตระกูลป้าว ข้าจะไปคุยกับเขาดู เขาน่าจะช่วยได้!”“เช่นนั้นขอร้องเจ้าด้วย! รอให้ขายกำไลหยก จากนั้นเจ้าก็ค่อยพาข้าไปหาเขา ข้าจะมิให้เจ้าขาดทุนอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋ใจชื้นขึ้นมา เงินทองเป็นของนอกกาย ขอเพียงตามหาเสี่ยวอวี้เจอ และพวกนางได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องความจนก็มิกลัวหรอกกระทั่งมาถึงที่บ้านเถ้าแก่เจียงที่รับซื้อกำไลหยก ทั้งสองยังม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1792

    “ไปหาสมบัติที่ภูเขาหิมะหรือ? อยากตายนักหรือไรกัน! ภูเขาหิมะนั่นกินคนมิเหลือแม้กระดูก!”แขกคนหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ย“คนเหล่านี้แตกต่างไป พวกเขาแต่ละคนมีวรยุทธ์แก่กล้า อีกทั้งยังพาคนเข้าไปตั้งมากมาย มิน่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วกระมัง!”“พวกเราเองก็ตามไปหากำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างดีหรือไม่!”แขกอีกคนหนึ่งยิ้มออกมาแล้วเอ่ย “เจ้าน่ะหรือ อย่าไปเลย ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่กำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย จะกลับกลายเป็นว่าเอาชีวิตไปทิ้งอยู่ข้างในนั้นน่ะสิ!”“เสี่ยวซานเอ๋อร์ หากเจ้าอยากจะร่ำรวยจริง ๆ พี่ชี้ช่องทางให้ดีหรือไม่?”หลิงอวี๋เหลือบมองเสี่ยวซานเอ๋อร์ผู้นั้น เขาเป็นวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบ ดูผอมและอ่อนแอมาก การแต่งกายก็ดูเรียบง่ายธรรมดาเครื่องหน้างดงาม ทว่าดวงตาค่อนข้างแปลก ดูเหมือนมองคนแล้วมิสามารถมองให้ชัดเจนได้สงสัยจะตาเหล่กระมัง!เสี่ยวซานเอ๋อร์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “พี่หาน ช่องทางอะไรหรือ? รีบบอกมาเร็วเข้า หากข้าร่ำรวยแล้วจะไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน!”“ไปเป็นผู้ค้ามนุษย์อย่างหม่าเฉียงอย่างไรเล่า! เจ้ามิเห็นหรือว่าทาสหญิงหนึ่งเกวียนของเขาขายไปได้สี่แสนหกหมื่น? การค้าขายนี้ง่ายดายกว่าที่เจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1791

    หัวหน้าเสิ่นถูกปู้ติงจ้องมองอยู่ด้วยสายตาดุร้ายก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องเขียนหนังสือยอมรับผิด เขาขอแค่เพียงหลบหนีไปได้ อย่างก็อื่นค่อยว่ากันทีหลัง“หัวหน้าเสิ่น หากจะตามหาคนคนหนึ่งควรเริ่มจากที่ใด?”สุดท้ายหลิงอวี๋ก็ถามหัวหน้าเสิ่นไปหนึ่งคำถามหัวหน้าเสิ่นยิ้มขมขื่น “หากแม่นางจะตามหาคน ป้าวเฉิงคนที่ข้าพูดถึงเมื่อครู่คือคนที่มีความสามารถเก่งกาจยิ่งนัก เขามีลูกน้องมากมาย อีกทั้งคนในหมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ นี้ก็เชื่อฟังเขาด้วย”“หากเจ้าจะตามหาคน ขอเพียงมีเงินมากพอ เขาก็จะช่วยตามหาคนให้ได้เร็วที่สุด!”หลิงอวี๋อยากจะตามหาเสี่ยวอวี้น้องสาวของตน เมื่อได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมาแต่ตนไม่มีเงินติดตัวสักแดง จะไปพูดให้ป้าวเฉิงตามหาคนให้ตนได้อย่างไรกัน!“หัวหน้าเสิ่น เอาของมีค่าที่ท่านน้าหลินให้มาให้ข้าสักชิ้นเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปตามตรง “ข้าไม่มีเงินติดตัวสักแดง เจ้าก็ถือว่าทำบุญแล้วกัน!”ต่อให้หลิงอวี๋จะต้องการของมีค่าทั้งหมดของหัวหน้าเสิ่น หัวหน้าเสิ่นก็มิกล้าบอกว่าไม่ นับประสาอะไรกับหนึ่งชิ้นเล่า!หัวหน้าเสิ่นรีบเปิดห่อของตนแล้วหันหลังให้หลิงอวี๋หยิบกำไลหยกออกมาหนึ่งชิ้น!“แม่นาง กำไลหยก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1790

    “อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status