แชร์

บทที่ 2002

ผู้เขียน: กานเฟย
หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”

เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่าง

สุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”

“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”

เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด

“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”

หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา

“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”

ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”

“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 6

    “ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!” “ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!” เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา “กลุ่มคนเศษสวะ!” ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...” “ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!” ชิวเฮ่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 7

    เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจ้องมองที่ขวดยาของเธอ หลิงอวี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การเปิดเผยในคราวนี้ นางใคร่ครวญมาอย่างดีแล้ว ขอเพียงแค่ทำให้เซียวหลินเทียนตกตะลึงก่อนเท่านั้น นางจึงจะมีโอกาสช่วยเฮยจื่อได้! ขณะที่หลิงหยูเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น มือของเธอก็ว่างเปล่า ขวดยาถูกชิวเฮ่าแย่งไปแล้ว ชิวเฮ่าวิ่งกลับไปที่ด้านข้าง เซียวหลินเทียนเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก่อนจะส่งขวดยาให้อย่างภาคภูมิใจ "ท่านอ๋อง ข้าได้รับยาลับมาแล้ว รีบไปช่วยเฮยจื่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ!" เซียวหลินเทียนยิ้มเย้ยหยันออกมา หยิบมันขึ้นมาและมอบให้กับหมอในตำหนัก ไป๋สือที่ติดตามเขามาหลายปี เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยาลับสามารถห้ามเลือดของเฮยจื่อได้เท่านั้น แต่ข้าได้ยินมาว่า ซี่โครงของเฮยจื่อหัก และเสียบเข้าไปในปอดของเขา ถ้าไม่ดึงซี่โครงออกมา เขาก็ยังคงตายไปอยู่ดี!” “หมอของพวกเจ้าจะช่วยได้หรือ? ถ้าไม่ ข้าจะรอเจ้ามาขอร้องข้า! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเจรจาเงื่อนไขด้วย!” “เฮยจื่อ เป็นเพราะเจ้าที่ทำร้ายเขา… เจ้ายังกล้าเจรจาข้อตกลงกับท่านอ๋องของพวกเรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 8

    “หลิงผิง เจ้าติดตามคุณหนูของเจ้ามากว่าสิบปี สิ่งที่เจ้าเอ่ยน่าเชื่อถือที่สุด เจ้าบอกมาว่าหลิงอวี๋มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?” ชิวเหวินซวงดึงหลิงผิงที่ตามมาข้างหลังตนเองออกมา หลิงผิงแสร้งทำเป็นไม่สบายใจนัก ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยอย่างลังเล “กราบบังคมทูลฝ่าบาท บ่าวรับใช้ติดตามหลิงอวี๋ตั้งแต่เล็ก นางโง่เขลาเหมือนหมู หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพก็ไม่ได้ นับประสาอะไรกับทักษะทางการแพทย์ ท่านอ๋องทรงอย่าได้เชื่อคำพูดของนางเพคะ!” หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา นางรับใช้คนนี้ขายนางจนหมดสิ้นจริง ๆ ! ทว่าหลิงอวี๋จะไม่มีทางหวาดกลัว ตราบใดที่เธอช่วยเฮยจื่อได้ ใครจะจริงจังกับคำพูดของนางรับใช้! เซียวหลินเทียนจ้องมองยังหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่านางมิได้รู้สึกตื่นตระหนกใดที่ถูกเปิดเผยความลับออกมา ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หญิงผู้นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้หากว่านางรับใช้กล้าพูดเรื่องลับหลังของเจ้านายเช่นนี้ นางจะต้องรีบร้องตะโกนอธิบายให้กับตนเอง! เซียวหลินเทียนไม่เอ่ยวาจาใด ชิวเฮ่ากลับทนไม่ได้จนร้องคำรามออกมา “คนชั้นต่ำ นางรับใช้ของเจ้าพูดความจริงออกมาแล้ว เจ้ายังจะกล้ามาหลอกท่านอ๋องของข้าอีกรึ?

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2002

    หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่างสุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2001

    หลิงอวี๋จัดการเครื่องยาสมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่งครั้งนี้ วางแผนว่าจะนำไปขายบางส่วนก่อนจากนั้นค่อยไปซื้อโอสถกลับมานางนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานนางและเย่หรงแยกทางกันที่ภูเขาหมางหลิ่งเพื่อหนีเสือ หลังจากนั้นก็มิได้เจอเย่หรงอีก มิรู้ว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่หลิงอวี๋จึงไปที่บ้านตระกูลเย่ก่อนเมื่อมาถึงบ้านตระกูลเย่ นางก็ถามคนเฝ้ายามว่าเย่หรงกลับมาแล้วหรือไม่คนเฝ้ายามยิ้มแล้วเอ่ยตอบ “กลับมาแล้วขอรับ แต่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว บอกว่าจะไปหาสหาย! จริงสิ แม่นางสิง เขาบอกว่าหากท่านมา ให้ท่านรอเขากลับมาด้วย!”“ได้ ข้าจะไปที่ห้องปรุงโอสถของอาจารย์ข้าก่อนก็แล้วกัน!”หลิงอวี๋ได้รู้ว่าเย่หรงมิเป็นอะไรก็สบายใจแล้วนางมาที่ห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝาน เย่ซื่อฝานกำลังกลั่นโอสถอยู่ เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มา เขาก็เอ่ยถามออกไป “เมื่อวานพวกเจ้าพบเสือปีกกาฬหรือ?”“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็รู้ด้วยหรือ?”หลิงอวี๋ทอดถอนใจที่ข่าวกระจายเร็วเกินไป แม้แต่คนที่มิออกจากบ้านเช่นเย่ซื่อฝานก็ยังรู้เรื่อง!“ท่านผู้อาวุโสของเจ้าถูกผู้นำตระกูลเก๋อ ตระกูลเฉียวและตระกูลจงเจิ้งเชิญไปตั้งแต่เช้าเพื่อหารือเรื่องการจับเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2000

    สีหน้าของหลงอิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก นางมิอาจปฏิเสธได้เพราะสิ่งที่หลิงอวี๋พูดมานั้นเป็นความจริง หากเป็นนาง ใครกล้ามาทำลายบ้านของนาง นางก็จะมิยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่!และท่าทางมิยี่หระต่อความตายของหลิงอวี๋ ก็ทำให้หลงอิงมองเห็นความมุ่งมั่นของนางหากคิดจะใช้วิธีการข่มขู่ให้หลิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้นั้นคงเป็นไปมิได้แน่!ทว่าหากปล่อยให้เหมียวหยางถูกพิษจนตาย เช่นนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าวิชาพิษของหอโอสถไป๋เป่าด้อยกว่าสิงอวี๋!แต่หากให้เหมียวหยางยอมรับต่อหน้าธารกำนัลว่าเขาทำลายเรือนของหลิงอวี๋ ก็จะทำให้ไป่หลี่ไห่และหอโอสถไป๋เป่าอับอายขายหน้าเช่นกันฝีมือมิสู้เขาแต่คิดจะไปแก้แค้นเขา จะทางไหนก็ล้วนอับอายทั้งนั้น!ไป่หลี่ไห่รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้จึงได้ส่งหลงอิงไป เขาอยากจะอาศัยการข่มขู่ของตระกูลหลง และความสัมพันธ์ส่วนตัวของหลงอิงกับสิงอวี๋ ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งมาบีบให้สิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้ตอนนี้หากไม้อ่อนใช้กับหลิงอวี๋มิได้ผล ภารกิจของหลงอิงก็มิสามารถสำเร็จได้“เสี่ยวอวี๋ เช่นนั้นถอยกันคนละก้าวดีหรือไม่ ข้าจะให้เหมียวหยางชดเชยเงินสร้างเรือนใหม่ให้เจ้า เจ้าก็มิต้องให้เขาขอโทษต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1999

    วันรุ่งขึ้น ขณะที่หลิงอวี๋กับผู้รอบรู้กำลังกินอาหารเช้ากันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นมาหลิงอวี๋กับผู้รอบรู้มองหน้ากันแล้วระวังตัวขึ้นมาทันที“ผู้ใด?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามเสียงดัง“สิงอวี๋ ข้าเอง หลงอิง!”เสียงของหลงอิงเอ่ยขึ้นมาผู้รอบรู้จึงมองหลิงอวี๋แล้วหลิงอวี๋ก็นึกเรื่องที่ตนวางยาพิษเหมียวหยางขึ้นมาได้เหมียวหยางถูกพิษกำเริบขึ้นมาแล้ว ตอนนี้หลงอิงก็นับว่าเป็นศิษย์น้องหญิงของเหมียวหยาง นางคงมาขอยาแก้พิษให้เหมียวหยางกระมัง?“พี่ใหญ่ เปิดประตูเถิด!”เมื่อผู้รอบรู้ได้รับอนุญาตจากหลิงอวี๋แล้วก็เปิดประตูออกหลงอิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม นางพานางรับใช้มาด้วยหนึ่งคนผู้รอบรู้โบกมือให้หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังหลงอิง เป็นการบอกหลิงอวี๋ว่าข้างนอกไม่มีใครแล้ว“สิงอวี๋ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปที่ภูเขาหมางหลิ่งมา พบสมบัติอะไรหรือไม่?”หลงอิงมีท่าทางอยากรู้อยากเห็น “ข้าได้ยินมาด้วยว่ามีเสือปีกกาฬสัตว์อสูรพันปีปรากฏตัวที่ภูเขาหมางหลิ่ง เป็นความจริงหรือ?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่านางมิได้เอ่ยถึงเรื่องเหมียวหยาง นางก็มิได้เอ่ยถึงเช่นกัน จากนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมา “เป็นความจริง มันกัดคนตายไปมา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1998

    “สตรีที่กล่าวหาว่าเจ้าช่วยเซียวหลินเทียนที่ภูเขาหมางหลิ่งวันนี้นั่นน่ะหรือ?”ผู้รอบรู้นึกขึ้นมาได้ ว่ากันว่าใบหน้าของสตรีผู้นั้นก็ถูกเซียวหลินเทียนกรีดเช่นกัน จึงคลุมผ้าคลุมไว้“พี่ใหญ่ เป็นนาง! ข้าลืมเรื่องราวในอดีตไป ตอนที่ข้ารู้สึกตัวนางบอกว่าข้าเป็นนางรับใช้ของนาง ข้ายังเชื่อคิดว่าเป็นความจริง!”เมื่อหลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำกับตน ก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด“ข้านึกมิออกว่าตนเองเป็นใคร แต่บางครั้งในหัวของข้าก็จะมีบางช่วงบางตอนแวบเข้ามา… หลังจากที่หน้ากากผิวหนังมนุษย์ของเซียวหลินเทียนถูกทำลายไป แล้วข้าก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาอย่างชัดเจน เขาก็คือคนที่ปรากฏขึ้นมาในภาพที่ข้าเห็น!”“พี่ใหญ่ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกข้าว่า เซียวหลินเทียนเตะลูกชายของข้าจนตาย ข้าเห็นลูกชายของข้าในภาพเหล่านั้น ทั้งยังเห็นว่าเซียวหลินเทียนให้คนเฆี่ยนตีข้าด้วย!”“จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกว่า ที่เซียวหลินเทียนไล่ล่าข้าก็เพราะว่าข้าสังหารสตรีที่เขารักที่สุดไป! แต่ข้ามิรู้เรื่องเหล่านี้เลย ข้านึกอะไรมิออกทั้งนั้น!”“พี่ใหญ่ ข้ามิเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ดูจากการแสดงออกของเซียวหลินเทียนในวันนี้แล้ว ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1997

    ความทะเยอทะยานของเก๋อเฟิ่งฉิงสามารถโน้มน้าวซูจู๋ได้ ซูจู๋จึงเอ่ยออกไปอย่างยอมรับ “คุณหนู บ่าวเชื่อฟังท่านทุกอย่างเจ้าค่ะ ท่านว่าอย่างไรบ่าวก็ว่าตามนั้น!”เก๋อเฟิ่งฉิงยิ้มแล้วเอ่ยออกมาอย่างมีความหมาย “มหาปราชญ์ประสบเหตุจนบาดเจ็บรุนแรง เขาคงหลบไปพักฟื้นรักษาบาดแผล แต่จะให้เขาสบายเช่นนี้มิได้ เมื่อกลับไป เจ้าไปหาคนข้างนอกกระจายข่าวเรื่องที่เขาตาบอด และแขนขาดออกไปเสีย!”“เจ้าแห่งทะเลก็ควรต้องจริงจังสักหน่อยเช่นกัน เขาจะได้มิคิดไปเองว่าแผ่นดินของตระกูลหลงจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์!!”ซูจู๋หันไปมอง “คุณหนู แล้วเรื่องเซียวหลินเทียนจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”เก๋อเฟิ่งฉิงเหลือบมองซูจู๋แล้วเอ่ยออกมาเรียบ ๆ “ให้คนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาต่อไปก่อน อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม…”“ซูจู๋ เมื่อครู่ข้ามีความรู้สึกหนึ่งขึ้นมา พลังของเซียวหลินเทียนพัฒนาขึ้นมาก ส่วนจะถึงดินแดนใดแล้วนั้น ข้ามิอาจรู้ได้! สิ่งนี้ทำให้ข้ายิ่งรู้สึกว่าเขามีค่า!”ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ภูเขาหิมะ เก๋อเฟิ่งฉิงรู้สึกได้ว่าพลังของเซียวหลินเทียนยังมิเท่าตนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขานำหน้านางไปเสียแล้วเขาจะต้องมีโชคที่มิคาดคิดแน่ ๆ!“แล้วก็สิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1996

    เมื่อไปถึงครึ่งทางเซียวหลินเทียนก็กล่าวลาเก๋อเฟิ่งฉิง เขากังวลว่าหากกลับไปด้วยกัน จะยิ่งทำให้เกิดคำพูดนินทาเขาไม่มีทางไปสู่ขอเก๋อเฟิ่งฉิงแน่ เมื่อควรรักษาระยะห่างก็ต้องคอยระวังไว้ดูเหมือนว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะมองความกังวลของเซียวหลินเทียนออก จึงมิได้ยืนกรานต่อ นางยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยออกมา “พี่ใหญ่ คำพูดที่ข้าพูดต่อหน้าทุกคนเมื่อครู่นี้ ท่านมิจำเป็นต้องคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก ข้าจะมิบังคับให้ท่านแต่งงานกับข้า!”“ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วน ข้ากังวลว่าพวกเขาจะเกิดความสงสัยแล้วทำการสอบสวนต่อ ข้าจึงได้พูดไปเช่นนั้น!”“พี่ใหญ่ แค่เรารู้กันว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก็พอแล้ว รักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้เพียงภายนอกไปก่อน จนกว่าท่านจะเจอคนที่ท่านตามหา!”เก๋อเฟิ่งฉิงจัดเตรียมตัวตนปลอมให้แก่เซียวหลินเทียน เมื่อครู่นี้คนมากมายต่างก็ได้ยินว่านางกับเซียวหลินเทียนจิตใจตรงกัน และอยากจะคุยเรื่องการแต่งงานเช่นนี้ก็หมายความว่า เซียวหลินเทียนสามารถใช้สถานะคู่หมั้นของเก๋อเฟิ่งฉิงเดินไปมาอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพได้แต่เซียวหลินเทียนพบหลิงอวี๋แล้ว เขามิอยากให้หลิงอวี๋เข้าใจผิด และในขณะที่เขากำลังคิดจะปฏิเสธอยู่นั้น เขาก็ถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1995

    ตอนนี้เก๋อฮุ่ยหนิงยังมีหน้ามาพูดคำสวยหรูกับตน คิดว่าตนตาบอดมิเห็นทั้งหมดที่นางทำลงไปจริงหรือไร?ปกติแล้วที่ช่างพูดนั้นก็เพราะอยากจะเอาใจตนและแต่งงานกับเฉียวไป๋เพื่อเข้ามาเป็นฮูหยินของผู้นำตระกูลเฉียวมิใช่หรือ?หากยอมให้สตรีผู้นี้แต่งงานเข้ามาในตระกูลจริง ๆ ต่อไปนางจะมิพรากอำนาจของตนไปอย่างช้า ๆ หรือ!ดูจากความชั่วร้ายของนาง นางจะต้องทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน!“ข้ารู้ ตอนนั้นสถานการณ์มันวิกฤติ แค่เจ้ามีความตั้งใจเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว!”ฮูหยินเฉียวพูดพอเป็นพิธีเลี่ยง ๆ ไป จากนั้นก็เชิญเก๋อฮุ่ยหนิงขึ้นรถม้าและแล้วแผนการจับตัวเซียวหลินเทียนก็ได้ล้มเหลวไปเช่นนี้ หลังจากที่ฮูหยินเฉียวประสบกับภัยพิบัติครั้งนี้ นางก็ยิ่งรู้ซึ้งว่าการแก้แค้นให้สามีและลูกชายนั้นยากลำบากยิ่งนักแต่นางจะมิยอมแพ้เป็นอันขาด!การแก้แค้นกลายเป็นเสาหลักในการมีชีวิตต่อไปของนางแล้ว เพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัวที่ตายไปของนาง นางจะต้องจับตัวหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาให้ได้ “พี่ใหญ่ พวกเราก็ไปกันเถิด! ข้าจะไปส่งพวกท่านกลับเอง รถม้าของข้าอยู่ทางนั้น!”แล้วเก๋อเฟิ่งฉิงก็เอ่ยเสริมขึ้นมา “ข้ายังมีเรื่องจะคุยกับท่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1994

    เมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นว่าสถานการณ์มิสู้ดี จึงรีบตามยอดฝีมือเหล่านั้นลงจากภูเขาไปอย่างบ้าคลั่งนางจะอยู่คนเดียวมิได้เป็นอันขาด มิฉะนั้นหากตกไปอยู่ในมือของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง นางจะต้องตายอย่างแน่นอน!“พวกเราก็ไปกันเถิด!”ท่านอาเฉียวเห็นว่าทุกคนต่างพากันหนีไปทุกทิศทุกทางแล้ว และเขาก็มิได้สนใจความเป็นความตายของฮูหยินเฉียวเช่นกัน จึงลากเฉียวไป๋หนีไปด้วยทันทีที่บรรดาคนรับใช้ของตระกูลเฉียวที่เหลือเห็นว่าทั้งสองหนีแล้ว พวกเขาก็หนีไปด้วยเช่นกัน“ฮูหยินเฉียว รีบไปเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยขึ้นมาอย่างกังวล “ข้ามิรู้ว่าเหตุใดท่านจึงให้พวกนางมาจับข้า แต่ข้ารู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีความแค้นเคืองต่อข้ากับหลงอิงที่ไปแย่งอันดับหนึ่งของนางมา นางจึงคิดจะอาศัยพลังของท่านมาแก้แค้นส่วนตัว!”“คนส่วนใหญ่ที่มาหาสมบัติที่ภูเขาหมางหลิ่งนั้นล้วนมีความรู้เรื่องเครื่องยาสมุนไพร คาดว่าเครื่องเทศของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คงจะมิได้วิเศษดังที่นางบอก นางคงกังวลว่าพวกท่านจะต่อว่านางไร้ความสามารถ จึงได้คิดจะหาแพะรับบาปเจ้าค่ะ!”“ฮูหยินเฉียว หากมีเรื่องอันใดที่เข้าใจผิดกัน เอาไว้พวกเราค่อยคุยกันเถิด ตอนนี้รีบไปก่อนดีกว่า!”ฮู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status