แชร์

บทที่ 1974

ผู้เขียน: กานเฟย
พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจ

แต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อ

นี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์

แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’

‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’

‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’

เหอะ ๆ!

เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา

“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”

เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”

เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 6

    “ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!” “ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!” เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา “กลุ่มคนเศษสวะ!” ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...” “ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!” ชิวเฮ่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 7

    เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจ้องมองที่ขวดยาของเธอ หลิงอวี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การเปิดเผยในคราวนี้ นางใคร่ครวญมาอย่างดีแล้ว ขอเพียงแค่ทำให้เซียวหลินเทียนตกตะลึงก่อนเท่านั้น นางจึงจะมีโอกาสช่วยเฮยจื่อได้! ขณะที่หลิงหยูเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น มือของเธอก็ว่างเปล่า ขวดยาถูกชิวเฮ่าแย่งไปแล้ว ชิวเฮ่าวิ่งกลับไปที่ด้านข้าง เซียวหลินเทียนเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก่อนจะส่งขวดยาให้อย่างภาคภูมิใจ "ท่านอ๋อง ข้าได้รับยาลับมาแล้ว รีบไปช่วยเฮยจื่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ!" เซียวหลินเทียนยิ้มเย้ยหยันออกมา หยิบมันขึ้นมาและมอบให้กับหมอในตำหนัก ไป๋สือที่ติดตามเขามาหลายปี เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยาลับสามารถห้ามเลือดของเฮยจื่อได้เท่านั้น แต่ข้าได้ยินมาว่า ซี่โครงของเฮยจื่อหัก และเสียบเข้าไปในปอดของเขา ถ้าไม่ดึงซี่โครงออกมา เขาก็ยังคงตายไปอยู่ดี!” “หมอของพวกเจ้าจะช่วยได้หรือ? ถ้าไม่ ข้าจะรอเจ้ามาขอร้องข้า! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเจรจาเงื่อนไขด้วย!” “เฮยจื่อ เป็นเพราะเจ้าที่ทำร้ายเขา… เจ้ายังกล้าเจรจาข้อตกลงกับท่านอ๋องของพวกเรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 8

    “หลิงผิง เจ้าติดตามคุณหนูของเจ้ามากว่าสิบปี สิ่งที่เจ้าเอ่ยน่าเชื่อถือที่สุด เจ้าบอกมาว่าหลิงอวี๋มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?” ชิวเหวินซวงดึงหลิงผิงที่ตามมาข้างหลังตนเองออกมา หลิงผิงแสร้งทำเป็นไม่สบายใจนัก ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยอย่างลังเล “กราบบังคมทูลฝ่าบาท บ่าวรับใช้ติดตามหลิงอวี๋ตั้งแต่เล็ก นางโง่เขลาเหมือนหมู หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพก็ไม่ได้ นับประสาอะไรกับทักษะทางการแพทย์ ท่านอ๋องทรงอย่าได้เชื่อคำพูดของนางเพคะ!” หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา นางรับใช้คนนี้ขายนางจนหมดสิ้นจริง ๆ ! ทว่าหลิงอวี๋จะไม่มีทางหวาดกลัว ตราบใดที่เธอช่วยเฮยจื่อได้ ใครจะจริงจังกับคำพูดของนางรับใช้! เซียวหลินเทียนจ้องมองยังหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่านางมิได้รู้สึกตื่นตระหนกใดที่ถูกเปิดเผยความลับออกมา ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หญิงผู้นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้หากว่านางรับใช้กล้าพูดเรื่องลับหลังของเจ้านายเช่นนี้ นางจะต้องรีบร้องตะโกนอธิบายให้กับตนเอง! เซียวหลินเทียนไม่เอ่ยวาจาใด ชิวเฮ่ากลับทนไม่ได้จนร้องคำรามออกมา “คนชั้นต่ำ นางรับใช้ของเจ้าพูดความจริงออกมาแล้ว เจ้ายังจะกล้ามาหลอกท่านอ๋องของข้าอีกรึ?

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1974

    พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1973

    เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน เวลาหนึ่งชั่วยามก็ผูกบันไดให้ยาวเพียงพอได้แล้ว เซียวหลินเทียนจึงช่วยหลิงอวี๋วางบันไดลงไปบันไดเหล่านั้นจมเข้าไปในหมอกหนา และมิรู้ด้วยว่าเพียงพอไปถึงด้านล่างหน้าผาหรือไม่“ข้าจะลงไปดู!”เซียวหลินเทียนจับบันไดให้มั่นคงแล้วเอ่ยออกมา“ไม่ ข้าจะลงไป!”หลิงอวี๋หยุดเขาไว้แล้วเอ่ยออกมา “ข้าน้ำหนักเบากว่าท่าน บันไดสามารถรับน้ำหนักข้าได้!”“อีกอย่าง ในหมอกหนาทึบเหล่านั้นมิรู้ว่ามีพิษอยู่หรือไม่ ข้ามีความรู้เรื่องทักษะการแพทย์ ข้าสามารถปรับตามสถานการณ์ได้!”เมื่อหลิงอวี๋เอ่ยเช่นนี้ พวกเผยอวี้ก็คิดว่าสมเหตุสมผลดี“ศิษย์พี่หญิง เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย พวกเราจะรออยู่ข้างบน หากเจ้าเจอพี่ชายของเจ้า ก็ส่งสัญญาณมา พวกเราจะดึงพวกเจ้าขึ้นมาเอง!”เถาจื่อกำชับ“อืม เช่นนั้นข้าลงไปแล้ว!”แล้วหลิงอวี๋ก็ไต่บันไดลงไปทีละขั้น ๆเซียวหลินเทียนมองอยู่ด้านข้างอย่างกังวล มิรู้ว่าบันไดนี้ปลอดภัยหรือไม่ คงจะมิพังลงกลางคันกระมัง!“พวกเจ้านำเถาวัลย์เหล่านั้นมาต่อเข้าด้วยกันเสีย หากบันไดยาวมิพอ จะได้สามารถใช้ได้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมา แล้วเผยอวี้กับเถาจื่อก็รีบต่อเถาวัลย์แรก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1972

    ในบรรดาคนเหล่านี้ นอกจากหลิงอวี๋ที่มีพลังต่ำแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น บางคนก็ใช้กระบี่ บางคนก็ใช้มีด ในเวลามินานที่ขอบหน้าผาก็มีกองเถาวัลย์อยู่กองหนึ่ง“พวกเจ้าตัดไป ข้าจะทำบันไดเอง!”หลิงอวี๋ถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ฉีกจนเป็นผ้าเส้น ๆ แล้วนำมามัดกับเถาวัลย์ไว้เมื่อเถาจื่อเห็นว่าเถาวัลย์กองอยู่มาก จึงมาผูกเถาวัลย์กับหลิงอวี๋ด้วย“ศิษย์พี่หญิง เจ้าต้องการเท่าใดก็บอกมาได้ พวกพี่ชายของข้ามีกำลังเหลือเฟือ! จัดการให้เจ้าได้สบาย!”เถาจื่อเริ่มต้นพูดคุยกับหลิงอวี๋“ขอบคุณ!”ในใจของหลิงอวี๋มีความระแวงคนพวกนี้อยู่แล้ว จึงมิได้พูดอะไรมากแล้วก้มหน้ามัดต่อไปแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกังวลมาก เพราะเขาต้องการลงจากภูเขาไปตามหาหลิงอวี๋ที่จัตุรัสเมืองหลวงแดนเทพแต่เส้นทางลงจากภูเขาล้วนถูกตระกูลเฉียวหรือแม้แต่คนของมหาปราชญ์ปิดกั้นไว้หมดแล้ว หากเขาลงจากภูเขาไปในเวลานี้ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดแน่นอน เขาจึงทำได้เพียงเลื่อนออกไปก่อนก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินซานมาที่เมืองหลวงแดนเทพ เขาได้ทำแขนเทียมครึ่งหนึ่งมาใส่แขนข้างที่ขาดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตน หลังจากที่สับเถาวัลย์ด้วยแขน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1971

    “ศิษย์พี่หญิง ทางลงเขาถูกปิดกั้นไปแล้ว ตอนนี้พวกเราออกไปมิได้ แกล้งทำเป็นช่วยพวกเขาจับตัวคนกันไปก่อนเถิด!”เมื่อเถาจื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินไปข้างหน้า นางจึงดึงหลิงอวี๋เดินไปส่วนหลิงอวี๋ที่ล้มเลิกการแก้แค้น เพราะกังวลเรื่องความเป็นความตายของเถาจื่อและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงสะบัดมือของเถาจื่อออกแล้วเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา“เรื่องที่เจ้าให้ข้าทำข้าก็ทำให้แล้ว ข้าจะไปตามหาพี่ชายของข้า! เจ้าอย่าได้ตามข้ามา และอย่าได้คิดที่จะขู่ข้าอีก มิเช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่าข้าไร้ความปรานี!”หลังจากพูดจบแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินตรงไปอีกทางหนึ่ง“ศิษย์พี่หญิง!”เถาจื่อรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางรู้ว่าคำพูดที่ตนขู่สิงอวี๋ไปเมื่อครู่นั้นทำให้นางโกรธเสียแล้วที่สิงอวี๋ช่วยก็เพียงเพราะนางมิอาจทนเห็นคนมากมายต้องตายไปก็เท่านั้น“ข้าจะไปตามหาด้วยกันกับเจ้า! ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีทางทำร้ายเจ้าเด็ดขาด!”เถาจื่อพูดแล้วก็รีบหยิบตั๋วเงินออกมายัดให้หลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่หญิง ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าร้อนใจจึงขู่เจ้าไป แต่ข้ามิได้คิดจะสังหารเจ้าจริง ๆ นะ!”“นายหญิงของข้าเป็นคนจิตใจดี นางสอนพว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1970

    หลิงอวี๋ตะลึงกับคำพูดของเถาจื่อไปครู่หนึ่ง ตอนนี้นางจึงได้รู้ว่าเรื่องที่เถาจื่อขอให้ตนทำนั้นสำคัญมากเพียงใดนางสามารถวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวตนของเซียวหลินเทียนก็มิอาจปกปิดได้เช่นกันเช่นนั้นเถาจื่อและคนที่อยู่ในคฤหาสน์อู่ทุกคนก็จะหนีมิทัน และจะต้องถูกมหาปราชญ์สังหารจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนสังหารลูกชายของตน แต่ชีวิตของคนจำนวนมากมายเหล่านั้นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากนางวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียน ก็จะเป็นการสังหารคนเหล่านั้นทางอ้อมไม่มีเวลาให้หลิงอวี๋ได้คิดแล้ว เซียวหลินเทียนพี่ใหญ่ของเถาจื่อมุดตัวออกมาจากพุ่มไม้แล้วเซียวหลินเทียนพบว่าตนตกหลุมพรางแผนการร้ายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเช่นเดียวกับที่เถาจื่อพูดไปเมื่อครู่ เขาสามารถอาศัยวรยุทธ์ของตนหนีไปจากภูเขาหมางหลิ่งเพียงลำพังได้แต่เผยอวี้ ฉินซานและผู้คุ้มกันของคฤหาสน์อู่ที่พามาด้วย ก็จะถูกเปิดเผยตัวตนเพราะเหตุนี้ และจะต้องถูกมหาปราชญ์ล้อมโจมตีเป็นแน่เซียวหลินเทียนจะปล่อยให้เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต้องลำบากเพราะตนเพียงผู้เดียวได้อย่างไร ดังนั้นในความเร่งรีบเขาจึงนึกถึงสิงอวี๋ขึ้นมาสิงอวี๋มีความ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1969

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเถาจื่อ ก็ราวกับถูกฟ้าผ่าในทันทีคนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนเหล่านั้นไปจับตัวคือเซียวหลินเทียน!แต่เถาจื่อกลับบอกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยวางแผนทำร้ายพี่ใหญ่ของนาง!หากเป็นเช่นนี้ พี่ใหญ่ของเถาจื่อก็คือเซียวหลินเทียนหรือ?เซียวหลินเทียนคือศัตรูของตน!แต่เถาจื่อจะให้ตนไปช่วยพี่ใหญ่ของนาง?“พี่ใหญ่ของเจ้า… คือเซียวหลินเทียนหรือ? คนที่มหาปราชญ์เสนอรางวัลค่าหัวอย่างหนักนั่นหรือ?”หลิงอวี๋ตื่นเต้นจนตัวสั่น นี่นับว่าเป็นการย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกมิพบพาน แต่ยามได้มากลับมิเสียเวลาเลยใช่หรือไม่?นางทุ่มเททุกอย่างในการตามหาเซียวหลินเทียน เพราะอยากจะแก้แค้นให้กับลูกชายของตน แต่เซียวหลินเทียนกลับเดินมาหาตนเสียเอง?“ศิษย์พี่หญิง เจ้าคงมิได้ต้องการเงินรางวัลสิบล้านเช่นกันหรอกใช่หรือไม่?”เมื่อเถาจื่อเห็นความตื่นเต้นของหลิงอวี๋ สายตาของนางก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา แล้วจ้องมองหลิงอวี๋“ศิษย์พี่หญิง ข้าเคารพเจ้า ยอมมาขอให้เจ้าช่วยเหลือ เพราะข้าคิดว่าเจ้ามิได้เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ดังเช่นคนพวกนั้น!”“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ของข้าคือเซียวหลินเทียน และเขาก็เป็นจักรพรรดิของฉินตะวันตกด้วย! แต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1968

    “เซียวหลินเทียนอยู่ที่ภูเขาหมางหลิ่ง หลิงอวี๋ก็ด้วย รางวัลค่าหัวของพวกเขารวมกันเป็นสิบห้าล้าน ทุกคนรีบมาเร็วเข้า รีบมาจับพวกเขาเร็ว!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยค่อย ๆ หายใจดีขึ้นแล้ว จึงใช้กำลังภายในตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ตอนที่เซียวหลินเทียนบีบคอของนาง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ถือโอกาสนั้นทำบางอย่างกับอาภรณ์ของเขา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยากใช้สิ่งนี้จับตัวเซียวหลินเทียน และกำจัดอันตรายที่คุกคามตนไปให้หมดสิ้นเสียผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นล้วนมีความสามารถในการได้ยินที่พิเศษกว่าคนทั่วไป และเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดนี้ ก็พากันไปทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากทุกทิศทุกทางในทันทีแน่นอนว่าเซียวหลินเทียนเองก็ย่อมได้ยินคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเช่นกัน แล้วเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา เขารู้อยู่แล้วว่าสตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์ แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้มิมีผิด!เซียวหลินเทียนมิได้รีบร้อนที่จะออกไป หากเขาพุ่งออกไปเช่นนี้ในเวลานี้ ก็จะเป็นการบอกคนเหล่านั้น ว่าตนก็คือคนที่พวกเขาต้องการจับกุมมิใช่หรือ?เซียวหลินเทียนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วสวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออก แล้วพุ่งขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนกิ่งไม้ส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1967

    คำพูดนี้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนจึงเชื่อ“ป้าวซวนอยู่ที่ใด? หลิงอวี๋อยู่ที่ใด?”เซียวหลินเทียนซักถามออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา “ท่านคิดว่าหม่อมฉันจะบอกหรือ? ถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว เช่นนั้นหากหม่อมฉันจะตายก็จะลากหลิงอวี๋ไปรับเคราะห์ด้วย!”“เซียวหลินเทียน หากท่านอยากให้หม่อมฉันบอกที่อยู่ของป้าวซวนกับหลิงอวี๋ ท่านก็ต้องรับปากว่าจะปล่อยหม่อมฉันไปเท่านั้น!”เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกไปอย่างไร้ความปรานี “จ้าวหรุ่ยหรุ่ย เจ้าไม่มีพื้นที่ให้มาต่อรองกับข้าหรอกนะ!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “เพคะ ท่านสามารถทรมานหม่อมฉันได้ แต่หม่อมฉันจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงมีศักดิ์ศรี แม้ว่าท่านจะสังหารหม่อมฉัน ก็อย่าได้คิดว่าจะได้รับข่าวของพวกนางจากปากของหม่อมฉัน!”“เซียวหลินเทียน ทุกเวลาที่ท่านล่าช้าไป ก็หมายความว่าหลิงอวี๋จะยิ่งตกอยู่ในอันตราย!”“หลิงอวี๋สังหารเฉียวเค่อ ตระกูลเฉียวเกลียดนางถึงเพียงนั้น หากหลิงอวี๋ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเฉียวขึ้นมา พวกเขาจะต้องใช้วิธีที่โหดร้ายกว่าท่านหลายสิบเท่ามาจัดการนางอย่างแน่นอน!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1966

    ราวกับเป็นการพิสูจน์ว่าตนมิได้โกหก เซียวหลินเทียนยกมือขึ้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นเพียงแสงสะท้อนจากคมกริชเย็นเยียบวาบผ่านตรงหน้า แล้วใบหน้าก็รู้สึกเย็นขึ้นมาในทันที...กระทั่งเซียวหลินเทียนถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเยาะเย้ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้าขึ้นมา แล้วหยดเลือดนับมิถ้วนไหลลงมาตามแก้ม“เซียวหลินเทียน ท่านทำอะไรกับหม่อมฉัน?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนกใบหน้าของนาง?หรือว่าตนจะถูกเซียวหลินเทียนกรีดหน้านับครั้งมิถ้วน เช่นเดียวกับที่ตนทำกับหลิงอวี๋?“ก็ดังที่เจ้าทำกับอาอวี๋… หากเจ้ามิยอมบอกความจริง ก็อย่ามาหาว่าข้าไร้ความปรานี!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างดุร้าย “นี่เพิ่งเริ่มต้น หากเจ้ายังมิบอกความจริงอีก ข้าก็จะตัดเนื้อเจ้าเป็นชิ้น ๆ แล้วป้อนให้เจ้ากินไปเสีย!”เมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นความเกลียดชังเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตาของเซียวหลินเทียน ก็รู้ว่าวันนี้ตนมิสามารถหนีจากการทรมานของเขาไปได้แล้ว!หรือว่าวันนี้ตนจะต้องตายอยู่บนภูเขารกร้างแห่งนี้จริง ๆ?ไม่!นางมิยอม!“หม่อม… หม่อมทำอะไรผิด?”จู่ ๆ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ตะโกนขึ้นมา “เซียวหลินเทียน พวกท่านกำลังร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status