แชร์

บทที่ 1688

ผู้เขียน: กานเฟย
“หลิงอวี๋ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้เป็นใครหรือ?”

ดูเหมือนว่าเย่หรงจะรู้สึกว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป จึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน

“เป็นผู้บำเพ็ญตนเช่นเดียวกับเจ้า คราก่อนต่อสู้กับข้าแล้วได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นจึงตามหาบุรุษและสตรีมีครรภ์มาบำเพ็ญวิชาลับชั่วร้ายเพื่อฟื้นฟูพลัง!”

หลิงอวี๋คิดถึงเจตนาของเย่หรง แล้วก็อดมิได้ที่จะเอ่ยด้วยความโกรธและประชด “ใต้หล้านี้มีคนไร้ยางอายเช่นนี้ ความสามารถของตนมิเพียงพอ จึงไปเดินเส้นทางที่มิถูกต้อง คนเช่นนี้แม้จะมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปีแล้วจะมีความหมายอะไร!”

“ลึก ๆ แล้วพวกเขาก็คือหัวขโมย มีชีวิตอยู่หลายร้อยปีก็มิอาจชำระล้างสิ่งสกปรกในกระดูกเหล่านั้นได้!”

หลิงอวี๋เอ่ยโดยนัยสองความหมาย ในทางตรงคือด่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย และในทางแฝงคือด่าตระกูลเย่กับตระกูลเฉียวที่มาสอดแนมหยกหล้าสุขาวดีของตน

มิรู้ว่าเย่หรงเข้าใจหรือไม่ แต่สีหน้าของเขายังคงเป็นเช่นเดิม

หลิงอวี๋ก็หมดคำพูดแล้ว รู้สึกว่าการพูดแบบแฝงนัยของตนราวกับสีซอให้ควายฟัง

อย่างไรก็มิสามารถปลุกคนที่แกล้งหลับได้!

ในเมื่อเย่หรงทำเป็นมิเข้าใจคำพูดแฝงนัยของตน แล้วนางจะปลุกความละอายใจของเขาได้อย่างไร!

เสียทีที่ขันทีโม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1689

    “คุณหนู บ่าวตรวจดูแล้วพบว่าเด็กในท้องของสตรีมีครรภ์หายไปหมดแล้วเจ้าค่ะ!”หานอวี้เหลือบมองเย่หรงอย่างดูถูก พลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ “พวกนางถูกมีดผ่าท้องแล้วเอาเด็กออกไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่!”เย่หรงอาเจียนเสร็จแล้วได้ยินคำพูดของหานอวี้ก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้งเขานึกมิถึงว่า การบำเพ็ญตนในทางชั่วร้ายจะเป็นเช่นนี้ สิ่งนี้ทำให้เย่หรงที่มิสนใจอะไรมาโดยตลอดรู้สึกโกรธกับการกระทำของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้อาวุโสตระกูลเย่บำเพ็ญตนในวิธีที่ถูกต้อง แม้ว่าเย่หรงจะซุกซนมาตั้งแต่เด็ก แต่ผู้อาวุโสก็สอนด้วยคำพูดและการกระทำทำให้แม้ว่าบางครั้งเย่หรงจะทำอะไรนอกกรอบไปบ้าง แต่เย่หรงก็ดูถูกและจะมิทำพฤติกรรมที่โหดร้ายเช่นนี้!เมื่อทุกคนจะทำสิ่งใดก็ควรจะมีขอบเขตของตน หากกล้าที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นนั้นจะต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานเล่า!คำพูดของผู้อาวุโสนั้นเย่หรงจดจำขึ้นใจ หลายปีมานี้เขาปฏิบัติตามคำสอนของผู้อาวุโสมาตลอด มิว่าจะกระทำการไร้เหตุผลเพียงใด ก็ยังคงยึดมั่นในขอบเขตของตนวิธีบำเพ็ญตนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยถือเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับผู้บำเพ็ญตนในทางที่ถูกต้องทุกคนในแดนปีศาจ ทุกคนจะต้องลงโทษ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1690

    เย่หรงหน้าแดง พลางเอ่ยอย่างเขินอาย “ผู้อาวุโสตระกูลข้ามิปล่อยให้พวกเราแตะต้องทางที่ชั่วร้ายเหล่านี้หรอก อยากรู้อยากเห็นก็มิได้… เขากังวลว่าพวกเราจะหลงไปเข้าทางที่ผิด!”“หากเจ้าอยากรู้ก็ให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าจะถามผู้อาวุโสตระกูลข้าให้ แล้วจะบอกเจ้าอีกที! เขารู้ทั้งเรื่องในอดีตและปัจจุบัน และมีความรู้กว้างขวางมาก จะต้องรู้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋หมดคำพูด เย่หรงมาจากแดนปีศาจ แต่กลับต้องไปถามผู้อาวุโสของเขา ทั้งไปและกลับอย่างน้อยที่สุดก็ครึ่งเดือนกระมังหากรอกระทั่งเขาได้คำตอบ เช่นนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คงบรรลุเป้าหมายไปนานแล้ว คำตอบของเขาก็มิทันการแล้ว!เอาเถิด ถือเสียว่าตนมิได้ถาม หลิงอวี๋ก้มหน้าตรวจศพต่อในเวลานี้ เผยอวี้ก็กลับมา“พี่หญิงหลิงหลิง ข้าเจอที่อยู่ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้ว! แต่นางมีผู้ช่วยมา ข้ากลัวที่จะเป็นการเผยให้นางรู้ความเคลื่อนไหว จึงมิได้ขึ้นไปตรวจสอบขอรับ!”เผยอวี้ได้ยินจากหานอวี้ว่ามีคนนอกอยู่ด้วย เมื่อเข้ามาจึงมิเรียกว่าฮองเฮาเขารายงานหลิงอวี๋ พลางใช้หางตามองพิจารณาเย่หรงไปด้วยบุรุษผู้นี้มีพลังชั่วร้ายเล็กน้อย!ความประทับใจครั้งแรกของเผยอวี้ที่มีต่อเย่หรงคือสิ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1691

    หลิงอวี๋มีความคิดสงสัยนี้แวบขึ้นมา แล้วนางก็ตัดมันทิ้งไปค่ายกองทหารเสือในตอนนี้มีอิ้งเฉิงคนสนิทของเซียวหลินเทียนเป็นราชองครักษ์ของค่ายกองทหารเสือ และอิ้งเฉิงไม่มีวันทรยศเซียวหลินเทียน!ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ มิใช่องครักษ์เงาของค่ายกองทหารเสือที่เหลืออยู่ทรยศ แต่เป็นพวกองครักษ์เงาที่คอยจับตาดูจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่ทรยศพวกเขาปกปิดสถานการณ์ที่แท้จริงกับอิ้งเฉิง ดังนั้นหลิงอวี๋จึงมิได้รับข่าว“กลับไปให้อวี๋เฮ่าทำความกับเข้าใจสถานการณ์ดูก่อน! อย่าได้สงสัยพวกเขาไปเรื่อยเปื่อย!”หลิงอวี๋มิอยากทำลายขวัญกำลังใจของทหาร จึงพามิกี่คนกลับเมืองหลวงแม้ว่าแม่นมอูจะติดตามหลิงอวี๋ออกจากวัง แต่ก็มิได้ดำเนินการร่วมกับหลิงอวี๋่ นางขึ้นไปบนภูเขาแล้วหายตัวไปราวกับผีหลิงอวี๋กลับมาที่วัง แม่นมอูก็มิได้กลับมาหลิงอวี๋มิได้นอนทั้งคืน นางรอให้แม่นมอูกับขันทีโม่กลับมาอย่างอดทนยามเกือบรุ่งสาง แม่นมอูกับขันทีโม่จึงกลับมาตาม ๆ กันสีหน้าแม่นมอูดูเคร่งขรึม ในขณะที่ใบหน้าขันทีโม่ดูผิดหวัง“หลิงอวี๋ ข้ามิพบคนตระกูลเย่เลย!” ขันทีโม่เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นหลิงอวี๋รีบบอกเรื่องที่ตนพบกับเย่หรงบนภูเขาอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1692

    มิว่าอย่างไร วันพรุ่งก็จะต้องขัดขวางมิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลั่นยาอายุวัฒนะสำเร็จ หลิงอวี๋ได้หารือเรื่องแผนการรับมือกับพวกขันทีโม่และแม่นมอูแล้วหลิงอวี๋ตัดสินใจแบ่งกองทหารออกเป็นสามกลุ่ม ตนพาคนไปดึงความสนใจของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ส่วนขันทีโม่มีหน้าที่ไปทำลายห้องกลั่นโอสถของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแม่นมอูพาคนไปปล้นพวกคนส่งยาเผยอวี้กับฉินซานจัดสรรกำลังคนไปร่วมมือกับขันทีโม่และแม่นมอูทางด้านค่ายกองทหารเสือ อิ้งเฉิงกับเผยอวี้ไปจัดการกับองค์หญิงใหญ่ด้วยกันคราก่อนไทฮองไทเฮาเห็นแก่ที่องค์หญิงใหญ่เป็นธิดาของตนจึงไว้ชีวิตองค์หญิงใหญ่ แต่องค์หญิงใหญ่ยังมิรู้จักกลับใจ คิดจะฉวยโอกาสในขณะที่เซียวหลินเทียนมิอยู่ในเมืองหลวงร่วมมือกับองค์ชายคังวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ การกระทำเช่นนี้หลิงอวี๋ไม่มีทางยอมได้วังหลวงยังคงอยู่ในการควบคุมขององค์ชายเย่กับท่านอ๋องเฉิง เพื่อป้องกันมิให้องค์หญิงใหญ่หนีไป หลิงอวี๋จึงให้เผยอวี้ไปหาท่านอ๋องผิงหนาน ให้ท่านอ๋องผิงหนานนำกำลังพลกลุ่มหนึ่งมาคุ้มกันเมืองหลวงไว้ด้วยกระทั่งจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จฟ้าก็สว่างแล้วหลิงอวี๋ขึ้นว่าราชกิจยามเช้าตามปกติ มิได้แสดงความผิดปกติใด ๆ ออกไปกระท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1693

    “เหอะ ๆ!”เย่หรงรู้สึกขบขันกับคำพูดของหลิงอวี๋ เขามิรู้ว่าหลิงอวี๋ไปเอาความกล้าหาญถึงเพียงนี้มาจากไหน รู้ทั้งรู้ว่าตนอาจจะมุ่งร้ายต่อนาง แต่ก็ยังเผชิญหน้ากับตนอย่างสงบเช่นนี้นี่หากมิใช่โง่เขลาก็คงโอหังเกินไปแล้ว!เย่หรงเดินตามหลิงอวี๋เข้าไปในท้องพระโรงอย่างช้า ๆเย่หรงมิได้สนใจวังที่หรูหราและสง่างามนี้มากนัก เพราะวังของแดนปีศาจนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่นี่มาก“พี่หรง เชิญนั่ง!”หลิงอวี๋นั่งอยู่บนบัลลังก์ แล้วให้เย่หรงนั่งที่เก้าอี้เย่หรงนั่งลงอย่างสบาย ๆ แล้วเขาก็เอ่ยเข้าประเด็น “ข้าสามารถช่วยเจ้าจัดการกับเฉียวเค่อและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ ข้ามีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น หลังจากที่เรื่องนี้สำเร็จแล้วเจ้าต้องตามข้ากลับไปแดนเทพ!”แดนปีศาจคือชื่อที่มนุษย์เหล่านี้เรียกเพราะความกลัว เย่หรงจึงแก้คำพูดของหลิงอวี๋ไปหลิงอวี๋ตะลึงไปเล็กน้อย คาดมิถึงว่าเย่หรงจะร้องขอเช่นนี้เขารู้หรือไม่ว่าหากตนตามเขากลับไปแดนเทพแล้วจะต้องเผชิญกับอะไร?นางจะต้องตาย และตายอย่างอนาถด้วย!ใบหน้าสงบของเย่หรงทำให้หัวใจของหลิงอวี๋สั่นไหว หรือเขาอาจจะมิรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงที่ตระกูลเย่ให้เขาพาตนกลับไป!เมื่อคืนเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1694

    เดิมทีราษฎรธรรมดาไม่มีความผิด แต่เมื่อมีหยกในครอบครองก็ถือเป็นโทษ!หลิงอวี๋มิได้มีความจำเป็นต้องครอบครองหยกหล้าสุขาวดีชิ้นนี้ แต่โชคชะตากลับมอบให้นางโดยมิให้โอกาสนางได้เลือกนางได้ชีวิตนี้กลับคืนมาใหม่ นางมิอยากตาย นางไม่มีทางให้ใครมาทำเรื่องที่โหดร้ายกับตนเช่นนี้แน่เย่หรงเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของหลิงอวี๋ แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ผู้อาวุโสแอบพูดกับตนก่อนออกเดินทาง แล้วก็เชื่อไปครึ่งหนึ่งเขาพูดมิออกอยู่ครู่หนึ่ง มิรู้ว่าควรจะพูดอะไรเย่หรงเป็นดังที่ขันทีโม่บอกไว้ เขาทำการสิ่งใดมิคล้ายคนที่อยู่ในความถูกต้องของตระกูลเย่ เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแต่เขาก็มีขอบเขตของตน และจะมิสังหารผู้บริสุทธิ์!หากหลิงอวี๋เป็นคนเช่นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แม้ว่าเย่หรงจะได้ยินว่าจำเป็นต้องใช้วิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้เพื่อเอาหยกหล้าสุขาวดีออกมา เขาก็ไม่มีทางขมวดคิ้วแต่เย่หรงมาถึงเมืองหลวงหลายวันแล้ว และได้รู้จักหลิงอวี๋อยู่บ้าง เขาจะให้หลิงอวี๋ไปตายเช่นนี้ได้อย่างไร!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลิงอวี๋มีดวงตาที่คุ้นเคยและสนิทสนมคู่นี้อยู่!ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เย่หรงลังเล นี่เป็นเหตุผลหลักที่เขาตกลง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1695

    “ข้า...”เย่หรงมองไปทางหลิงอวี๋ อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไปเขาพูดมิได้ หากพูดเรื่องมารดาผู้ให้กำเนิดตนก็ต้องเล่าภูมิหลังชีวิตของตนด้วย เขามิอยากพูดถึงอดีตที่ทนมิได้เหล่านั้นแล้ว“พี่หรง เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าคนเรามีชาติก่อนและชาตินี้?”หลิงอวี๋เพิ่งจะรู้จักเย่หรงได้มินานนัก รู้ว่าเย่หรงมิสามารถพูดเรื่องที่เขาถูกข่มขู่ออกมาโดยไม่มีเหตุผลได้ จึงเอ่ยอย่างอดทน“เมื่อคืนตอนที่เห็นเจ้าพุ่งเข้ามาตรงที่ซ่อนตัวของข้า มีชั่วครู่หนึ่งที่ข้าคิดจะลงมือ! แต่ข้าก็มิทำ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?”“เพราะเหตุใด?”“เพราะข้ามักจะฝันในแบบเดียวกัน ในฝันข้ารู้จักเจ้า… เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ชื่อว่าหลิงหรง!”“ใบหน้าของเจ้าดูเหมือนกับที่ข้าเห็นในความฝันทุกประการ!”หลิงอวี๋ยังมิอาจแน่ใจได้ว่าเย่หรงคู่ควรที่จะเชื่อใจหรือไม่ จึงมิกล้าเล่าเรื่องยุคปัจจุบันของตนออกไป ดังนั้นจึงใช้ข้ออ้างว่าเคยเห็นเขาในความฝัน“เจ้าจำคำแรกที่ข้าพูดกับเจ้าในตอนนั้นได้หรือไม่? ก่อนหน้านี้ข้ามิเคยพบเจ้ามาก่อน แต่ข้าเรียกเจ้าว่าเสี่ยวหรง!”เย่หรงนึกขึ้นได้แล้ว ตอนนั้นหลิงอวี๋เห็นตนแล้วเรียกตนว่าเสี่ยวหรงจริง ๆ ทั้ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1696

    หลังจากที่ทั้งสองบรรลุข้อตกลงกันแล้ว หลิงอวี๋ก็ให้คนไปเชิญขันทีโม่กับแม่นมอูมา แล้วแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเย่หรงขันทีโม่มิอยากจะเชื่อเลยว่าหลิงอวี๋จะชักชวนลูกชายผู้มิสนใจสิ่งใดของตระกูลเย่ผู้นี้ได้ เขามีข้อสงสัยและกังวลว่าเย่หรงแสร้งทำเป็นยินดีแล้วจงใจหลอกลวงหลิงอวี๋นับตั้งแต่ที่แม่นมอูถูกหลงหมิงหลอก นางก็มิชอบบุรุษหน้าตาหล่อเหล่าเช่นนี้นัก จึงเอ่ยมิกี่คำพอเป็นพิธีแล้วก็ออกไปท่าทีของขันทีโม่กับแม่นมอูที่มีต่อเย่หรงทำให้หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เย่หรงมิสนใจ เขาได้พบกับการจ้องมองอย่างเย็นชาจากตระกูลเย่มามากพอแล้ว เขาเคยชินกับมันแล้ว“พี่หรง เจ้าไม่มีปัญหาที่จะจัดการกับเฉียวเค่อใช่หรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างกังวลเย่หรงส่งเสียงเย็นชา “พลังของนายน้อยตระกูลเฉียวนั้นยังมิสู้ข้าเลย เขาอาศัยว่าเกิดมาในตระกูลดีจึงได้เป็นนายน้อย หากมาเปลี่ยนสถานะกับข้า คาดว่าเขาคงมิสามารถมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงอายุเท่านี้หรอก!”หลิงอวี๋ฟังดูจากคำพูดของเย่หรงก็รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ในตระกูลเย่อย่างมิดีนัก แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาถามเกี่ยวกับอดีตของเขา ทำได้เพียงค่อยถามในภายหลังเท่านั้น“เช่นนั้นเฉียวเค่อกั

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1857

    สองวันต่อมา ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และนอกจากสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่เล็กน้อยกับร่างกายที่ยังคงอ่อนแออยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วนางก็สามารถเดินไปเดินมาในห้องได้แล้วข้าหลวงเก๋อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋มากขึ้นไปอีก และให้ฮูหยินเก๋อจัดเตรียมเรือนให้สองพี่น้องตระกูลเจียงอาศัยอยู่โดยเฉพาะเลยข้าหลวงเก๋อเคยถามหลิงอวี๋แล้วว่า ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อแล้วพวกเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพกันได้เมื่อใดหลิงอวี๋ให้คำตอบมาว่า คงจะครึ่งเดือน เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มให้คนเตรียมตัวเรื่องการเดินทางทางด้านฮูหยินเก๋อ นางก็วางแผนไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานให้เก๋อฮุยซินกับคุณชายจ้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก่อนหน้านี้ตระกูลจ้าวก็กังวลว่า หากฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อตาย เก๋อฮุ่ยซินก็จะต้องไว้ทุกข์ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมจัดงานแต่งงานไว้ล่วงหน้าแล้วของกำนัลในงานแต่งงานทั้งหมดก็เตรียมเสร็จแล้ว และตระกูลเก๋อก็ตกลงกันได้ทันที ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานไว้ในอีกสิบวันต่อมาแต่เก๋อฮุ่ยซินกลับมิได้ยินดีแล้ว มิรู้ว่านางไปได้ยินมาจากใครว่าเก๋อฮุ่ยหนิงช่วยชีวิตค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1856

    หลิงอวี๋กำลังอยู่ดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ และคิดเรื่องที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพ แล้วนางก็เห็นนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“หมอเจียง น้องสาวของท่านกับคุณชายเฉียวเผชิญหน้ากับมือสังหาร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณหนูสามให้เชิญท่านไปดูเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบให้แม่นมหลี่คอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ แล้วนางก็รีบตามนางรับใช้ไปยังเรือนที่เก๋อฮุ่ยหนิงอาศัยอยู่ที่แขนของป้าวซวนเปื้อนไปด้วยเลือด และถูกพันแผลเอาไว้ลวก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ ดวงตาของนางก็แดงก่ำแล้วน้ำตาไหลออกมาทันทีก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหลบหนี จนมิรู้จักกลัวอันตรายใด ๆแต่ยามนี้เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ผู้เป็นดั่งพี่สาวของตน ป้าวซวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“น้องหญิง เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประคองป้าวซวนแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างกระวนกระวาย ป้าวซวนส่ายหัวพลางสะอื้นเอ่ย “ข้ามิเป็นไร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า เจ้าไปดูอาการเขาก่อนเถิด!”เก๋อฮุ่ยหนิงก็ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง แล้วตะโกนออกมา “หมอเจียง เจ้ารีบมาดูคุณชายเฉียวเร็วเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุด มิรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1855

    เฉียวไป๋ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นโต๊ะภายในห้องที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ลอยขึ้นไป แล้วโจมตีใส่มือสังหารตามแรงลมจากฝ่ามือของเฉียวไป๋...ทว่ามือสังหารที่ข้าหลวงเก๋อส่งมาล้วนมีวรยุทธ์แก่กล้าทั้งสิ้น มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวไป๋เลยมือสังหารคนหนึ่งฟันโต๊ะที่ปลิวมาหาตน แล้วพุ่งไปหาเฉียวไป๋อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า...”ป้าวซวนตะโกนขึ้นมา นางหวังให้แขกคนอื่นในโรงเตี๊ยมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่แขกที่ขี้ขลาดกลัวปัญหาเหล่านั้นหนีกันไปตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่ามีมือสังหารแทงที่ต้นขาของเฉียวไป๋อีกครั้ง ป้าวซวนก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตอนที่หลิงอวี๋เตรียมยาแก้พิษให้ตนเมื่อคืน นางได้ให้ผงยาหนึ่งห่อไว้กับตนด้วยหลิงอวี๋บอกว่าเป็นของดีที่ให้นางใช้หลบหนีเมื่อพบเจอพวกคนเลวป้าวซวนจึงมิคิดอะไรแล้ว นางหยิบมันออกมาแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นโปรยผงยาให้ลอยไปทางพวกมือสังหาร“มีพิษ!”มือสังหารที่พุ่งมาข้างหน้าชะงักไปทันที แล้วก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว ป้าวซวนจึงรีบคว้าเฉียวไป๋แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วมือส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status