แชร์

บทที่ 1575

ผู้แต่ง: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 16:01:04
เซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็วางใจไปได้มาก

ก็จริง แม้ว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณของเซียวหลินเทียนจะมิสู้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย ทว่าหากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดจะวางแผนใส่โดยที่เขามิรู้ตัวนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้

แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่หลิงอวี๋เองก็มิสามารถวางใจได้อย่างเต็มที่ จึงเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างเอาแต่ใจ “อยู่ในวังหลวง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังกล้าจะลองหยั่งเชิงท่าน นางจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอนว่าการฝึกฝนของท่านมิสู้ของนาง!”

“เซียวหลินเทียน คืนนี้ท่านจะต้องฝึกฝนต่อ พยายามบรรลุไปให้ถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ให้ได้!”

เซียวหลินเทียนใบหน้าขมขื่นไปทันที แล้วมองหลิงอวี๋อย่างน่าสงสาร

หากฝึกฝนก็ต้องเสียเวลาทั้งคืนไป เขายังอยากจะมีลูกกับหลิงอวี๋อีกสักคน หากมิขยันแล้วจะมีลูกได้อย่างไรกัน!

“ใช้สายตาเช่นนี้มามองหม่อมฉันก็ไม่มีประโยชน์เพคะ! คืนนี้หากมิเลื่อนไปถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ ต่อไปก็มิอนุญาตให้ขึ้นเตียงของหม่อมฉัน!”

หลิงอวี๋เท้าเอวจ้องมองเซียวหลินเทียนราวกับสตรีผู้โหดร้าย

คนผู้นี้เคยได้อะไรแล้วก็อยากจะได้อีก ทุกคืนเอาแต่เอาเรื่องที่จะมีลูกอีกคนมาคลอเคลียตน เอวของนางเกือบจะหักอยู่แล้ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1576

    คราวนี้หลิงอวี๋วางแผนไว้ว่าจะไปสามวัน หลี่ชุงบอกว่าภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านตระกูลหลี่นั้นใหญ่มาก เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นสามารถพบได้ในสถานที่ที่คนมิอาจเข้าถึงได้เท่านั้นออกไปหนนี้ หลิงอวี๋เตรียมเสบียงไปจำนวนหนึ่ง คนที่พาไปก็ล้วนเป็นคนที่มีวรยุทธ์ และเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาด้านหลังในวันนั้นเลยดังที่หลี่ชุงได้บอกไว้ ยิ่งเดินลึกเข้าไป เครื่องยาสมุนไพรก็ยิ่งมาก หลิงอวี๋มิสนใจเครื่องยาสมุนไพรทั่วไป แล้วเลือกเก็บเอาเครื่องยาสมุนไพรที่ยากจะพบในยามปกติการฝึกฝนของหลิงอวี๋พัฒนาขึ้น ทั้งยังเรียนรู้การสร้างแหวนพระสุเมรุระดับต่ำในมิติอีกด้วย นางจึงทำมอบให้เถาจื่อ สุ่ยหลิงและพวกนางรับใช้ข้างกายทุกคนเช่นนี้แล้วเมื่อทุกคนเก็บเครื่องยาสมุนไพรจึงมิต้องแบก ล้วนใส่ไว้ในแหวนพระสุเมรุกันทั้งหมดเถาจื่อกับพวกสุ่ยหลิงได้รับแหวนพระสุเมรุครั้งแรกก็ตกใจมาก พวกนางมิคาดคิดว่าข้างในของแหวนเล็ก ๆ จะมีพื้นที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น ที่สามารถเก็บสิ่งของของตนเข้าไปได้ทั้งหมด อีกทั้งหลิงอวี๋ก็บอกพวกนางว่าพื้นที่นี้จะขยายใหญ่ตามการฝึกฝนของพวกนางที่พัฒนาขึ้นด้วยพวกนางรับใช้จึงถูกล่อลวงในทันที พวกนางจึงยิ่งฝึก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1577

    “งดงามมาก สวรรค์บนหล้ามนุษย์คงเป็นเช่นนี้กระมัง!”สุ่ยหลิงกับหานเหมยต่างก็ร้องออกมาอย่างตกตะลึงลู่หนานกับพวกองครักษ์ก็พากันเออออไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานงดงามเหล่านั้น น้ำตกที่ไหลลงมา ทั้งยังมีไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือแอ่งน้ำลึก ทำให้กลายเป็นภาพที่มีความสวยสดงดงามยิ่งนักระหว่างที่หลิงอวี๋ประหลาดใจอยู่นั้น กลับรู้สึกถึงสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากคลื่นสนามแม่เหล็กนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าบนเจดีย์วัดไคหยวนที่ติ้งโจววันนั้นอีก!สายตาของหลิงอวี๋มองไปทางน้ำตกด้านบน แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา น้ำเหล่านั้นที่เป็นราวกับม่านธรรมชาติ สะท้อนเป็นแสงหลากสีราวกับมายาจู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงถ้ำม่านน้ำในไซอิ๋ว หลังน้ำตกมีถ้ำด้วยหรือไม่?นางรู้สึกได้ว่าศูนย์กลางน้ำตกนั้นเป็นสถานที่ที่สนามแม่เหล็กแข็งแกร่งที่สุด“ลู่หนาน!”หลิงอวี๋เรียกลู่หนาน แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การบำเพ็ญตนมาก เจ้าจงแบ่งคน คนกลุ่มหนึ่งบำเพ็ญตนอยู่กับที่ ส่วนอีกกลุ่มรับผิดชอบในการระวังภัย!”“ข้าจะพาพวกเถาจื่อไปดูที่น้ำตกเสียหน่อย อาจจะพบอะไรก็ได้!”“ให้กระหม่อมตามท่านไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเห็นน้ำตกที่สูงนั้นแล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1578

    กระทั่งลู่หนานกับทุกคนปีนขึ้นไปถึงแท่นกันหมด ทุกคนออกแรงดันร่วมกัน แต่ประตูเหล็กก็มิขยับ“ฮองเฮา นี่น่าจะเป็นประตูที่มีกลไกควบคุมอยู่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่มิรู้ว่ากลไกอยู่ข้างในหรือว่าข้างนอก พวกเราลองหากันดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเสนอทุกคนก็แยกย้ายกันตามหาบริเวณใกล้ ๆหลิงอวี๋มองไปที่ประตูเหล็กที่ดูหนักหน่วงนั้น นอกจากมังกรทองนั้นแล้ว บนประตูเหล็กยังมีลวดลายแฝงอีกนับมิถ้วนลวดลายแฝงเหล่านี้มองแวบแรกเป็นเพียงแค่การตกแต่ง แต่เมื่อดูให้ละเอียดแล้วดูคล้ายกับรูปภาพสามมิติที่นางเคยเล่นในยุคปัจจุบัน ขอเพียงจ้องมองดูสักหน่อยก็จะเห็นรูปภาพที่ต่างกันอยู่ข้างในหลิงอวี๋เห็นภาพกลุ่มหนึ่ง บนนั้นเป็นรูปเหมือนคนเก่าแก่มากและแต่งตัวแปลก ๆ พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดคนกลุ่มสุดท้ายถูกบีบให้ยอมแพ้และอพยพไปในระหว่างการเดินทางที่ยาวไกลนั้น พวกเขาพบกับการไล่ล่า การสู้รบ การเกิดแก่เจ็บตาย และโรคภัยต่าง ๆ เดิมทีพวกเขาเป็นชนเผ่าที่มีกันอยู่หลายร้อยคน สุดท้ายกลับกลายเป็นยิ่งนานวันไปก็ยิ่งน้อยลง...ฉากสงครามเหล่านั้นถูกบรรยายจนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง ราวกับว่านางเห็นความรุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1578

    กระทั่งลู่หนานกับทุกคนปีนขึ้นไปถึงแท่นกันหมด ทุกคนออกแรงดันร่วมกัน แต่ประตูเหล็กก็มิขยับ“ฮองเฮา นี่น่าจะเป็นประตูที่มีกลไกควบคุมอยู่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่มิรู้ว่ากลไกอยู่ข้างในหรือว่าข้างนอก พวกเราลองหากันดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเสนอทุกคนก็แยกย้ายกันตามหาบริเวณใกล้ ๆหลิงอวี๋มองไปที่ประตูเหล็กที่ดูหนักหน่วงนั้น นอกจากมังกรทองนั้นแล้ว บนประตูเหล็กยังมีลวดลายแฝงอีกนับมิถ้วนลวดลายแฝงเหล่านี้มองแวบแรกเป็นเพียงแค่การตกแต่ง แต่เมื่อดูให้ละเอียดแล้วดูคล้ายกับรูปภาพสามมิติที่นางเคยเล่นในยุคปัจจุบัน ขอเพียงจ้องมองดูสักหน่อยก็จะเห็นรูปภาพที่ต่างกันอยู่ข้างในหลิงอวี๋เห็นภาพกลุ่มหนึ่ง บนนั้นเป็นรูปเหมือนคนเก่าแก่มากและแต่งตัวแปลก ๆ พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดคนกลุ่มสุดท้ายถูกบีบให้ยอมแพ้และอพยพไปในระหว่างการเดินทางที่ยาวไกลนั้น พวกเขาพบกับการไล่ล่า การสู้รบ การเกิดแก่เจ็บตาย และโรคภัยต่าง ๆ เดิมทีพวกเขาเป็นชนเผ่าที่มีกันอยู่หลายร้อยคน สุดท้ายกลับกลายเป็นยิ่งนานวันไปก็ยิ่งน้อยลง...ฉากสงครามเหล่านั้นถูกบรรยายจนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง ราวกับว่านางเห็นความรุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1577

    “งดงามมาก สวรรค์บนหล้ามนุษย์คงเป็นเช่นนี้กระมัง!”สุ่ยหลิงกับหานเหมยต่างก็ร้องออกมาอย่างตกตะลึงลู่หนานกับพวกองครักษ์ก็พากันเออออไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานงดงามเหล่านั้น น้ำตกที่ไหลลงมา ทั้งยังมีไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือแอ่งน้ำลึก ทำให้กลายเป็นภาพที่มีความสวยสดงดงามยิ่งนักระหว่างที่หลิงอวี๋ประหลาดใจอยู่นั้น กลับรู้สึกถึงสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากคลื่นสนามแม่เหล็กนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าบนเจดีย์วัดไคหยวนที่ติ้งโจววันนั้นอีก!สายตาของหลิงอวี๋มองไปทางน้ำตกด้านบน แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา น้ำเหล่านั้นที่เป็นราวกับม่านธรรมชาติ สะท้อนเป็นแสงหลากสีราวกับมายาจู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงถ้ำม่านน้ำในไซอิ๋ว หลังน้ำตกมีถ้ำด้วยหรือไม่?นางรู้สึกได้ว่าศูนย์กลางน้ำตกนั้นเป็นสถานที่ที่สนามแม่เหล็กแข็งแกร่งที่สุด“ลู่หนาน!”หลิงอวี๋เรียกลู่หนาน แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การบำเพ็ญตนมาก เจ้าจงแบ่งคน คนกลุ่มหนึ่งบำเพ็ญตนอยู่กับที่ ส่วนอีกกลุ่มรับผิดชอบในการระวังภัย!”“ข้าจะพาพวกเถาจื่อไปดูที่น้ำตกเสียหน่อย อาจจะพบอะไรก็ได้!”“ให้กระหม่อมตามท่านไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเห็นน้ำตกที่สูงนั้นแล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1576

    คราวนี้หลิงอวี๋วางแผนไว้ว่าจะไปสามวัน หลี่ชุงบอกว่าภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านตระกูลหลี่นั้นใหญ่มาก เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นสามารถพบได้ในสถานที่ที่คนมิอาจเข้าถึงได้เท่านั้นออกไปหนนี้ หลิงอวี๋เตรียมเสบียงไปจำนวนหนึ่ง คนที่พาไปก็ล้วนเป็นคนที่มีวรยุทธ์ และเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาด้านหลังในวันนั้นเลยดังที่หลี่ชุงได้บอกไว้ ยิ่งเดินลึกเข้าไป เครื่องยาสมุนไพรก็ยิ่งมาก หลิงอวี๋มิสนใจเครื่องยาสมุนไพรทั่วไป แล้วเลือกเก็บเอาเครื่องยาสมุนไพรที่ยากจะพบในยามปกติการฝึกฝนของหลิงอวี๋พัฒนาขึ้น ทั้งยังเรียนรู้การสร้างแหวนพระสุเมรุระดับต่ำในมิติอีกด้วย นางจึงทำมอบให้เถาจื่อ สุ่ยหลิงและพวกนางรับใช้ข้างกายทุกคนเช่นนี้แล้วเมื่อทุกคนเก็บเครื่องยาสมุนไพรจึงมิต้องแบก ล้วนใส่ไว้ในแหวนพระสุเมรุกันทั้งหมดเถาจื่อกับพวกสุ่ยหลิงได้รับแหวนพระสุเมรุครั้งแรกก็ตกใจมาก พวกนางมิคาดคิดว่าข้างในของแหวนเล็ก ๆ จะมีพื้นที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น ที่สามารถเก็บสิ่งของของตนเข้าไปได้ทั้งหมด อีกทั้งหลิงอวี๋ก็บอกพวกนางว่าพื้นที่นี้จะขยายใหญ่ตามการฝึกฝนของพวกนางที่พัฒนาขึ้นด้วยพวกนางรับใช้จึงถูกล่อลวงในทันที พวกนางจึงยิ่งฝึก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1575

    เซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็วางใจไปได้มากก็จริง แม้ว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณของเซียวหลินเทียนจะมิสู้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย ทว่าหากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดจะวางแผนใส่โดยที่เขามิรู้ตัวนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่หลิงอวี๋เองก็มิสามารถวางใจได้อย่างเต็มที่ จึงเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างเอาแต่ใจ “อยู่ในวังหลวง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังกล้าจะลองหยั่งเชิงท่าน นางจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอนว่าการฝึกฝนของท่านมิสู้ของนาง!”“เซียวหลินเทียน คืนนี้ท่านจะต้องฝึกฝนต่อ พยายามบรรลุไปให้ถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ให้ได้!”เซียวหลินเทียนใบหน้าขมขื่นไปทันที แล้วมองหลิงอวี๋อย่างน่าสงสารหากฝึกฝนก็ต้องเสียเวลาทั้งคืนไป เขายังอยากจะมีลูกกับหลิงอวี๋อีกสักคน หากมิขยันแล้วจะมีลูกได้อย่างไรกัน!“ใช้สายตาเช่นนี้มามองหม่อมฉันก็ไม่มีประโยชน์เพคะ! คืนนี้หากมิเลื่อนไปถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ ต่อไปก็มิอนุญาตให้ขึ้นเตียงของหม่อมฉัน!”หลิงอวี๋เท้าเอวจ้องมองเซียวหลินเทียนราวกับสตรีผู้โหดร้ายคนผู้นี้เคยได้อะไรแล้วก็อยากจะได้อีก ทุกคืนเอาแต่เอาเรื่องที่จะมีลูกอีกคนมาคลอเคลียตน เอวของนางเกือบจะหักอยู่แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1574

    เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมากแต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคนแต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใดที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตายหลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลาหลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันทีไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1573

    “ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน!”“อาอวี๋ เจ้าอยู่กินอาหารกับไท่เฟยเส้าและไทฮองไทเฮาเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนจึงบอกกับหลิงอวี๋และไทฮองไทเฮาแล้วกำลังจะไป“ฝ่าบาท หรุ่ยหรุ่ยรบกวนการเสวยของพวกท่านหรือเพคะ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยด้วยใบหน้าที่อึดอัดเจือความรู้สึกผิด “หรุ่ยหรุ่ยแค่อยากจะมาคารวะไทฮองไทเฮาเพคะ หากมิสะดวก เช่นนั้นหรุ่ยหรุ่ยขอทูลลา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ระดับความเสแสร้งของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิได้ด้อยไปว่าจ้าวเจินเจินเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนกำลังหลีกเลี่ยง แม้ว่าคนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างก็มิควรเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับหยิบยกมาพูดแสร้งทำเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา!“พี่สะใภ้รอง องค์จักรพรรดิมีธุระจริง ๆ เมื่อครู่ก็บอกไว้แล้ว ให้เขาไปเถิด พวกเราบรรดาสตรีกินด้วยกันก็พอแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยพลางเอ่ย “ฝ่าบาท กลางคืนหม่อมฉันจะเตรียมพระกระยาหารมื้อดึกไว้ให้ ท่านจัดการเรื่องบ้านเมืองเสร็จแล้วก็มาเสวยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนสับสนไปในทันที เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1572

    ไท่เฟยเส้ามิได้พอใจกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้เป็นสะใภ้มากนัก ก่อนหน้านี้นางหวังให้ตระกูลจ้าวให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานเข้ามาและสามารถช่วยให้องค์ชายคังประสบความสำเร็จได้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ครั้งแรกก็พ่ายแพ้แล้ว สิ่งนี้ทำให้ไท่เฟยเส้าผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะมาไหว้ตน ไท่เฟยเส้าก็เรียกเข้ามาตำหนิภายนอกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฟังอย่างนอบน้อม แต่ในใจอยากจะจัดการนางดังเช่นที่ทำกับองค์ชายคัง“สิ่งที่หมู่เฟยสอนก็คือ คราวนี้หรุ่ยหรุ่ยไม่มีประสบการณ์ เตรียมการมิมากพอ ครั้งต่อไปจะมิให้หลิงอวี๋รอดไปได้แล้วเพคะ!”คำพูดอ่อนโยนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ความโกรธของไท่เฟยเส้าเบาบางลงไปมาก อย่างน้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็สามารถบีบให้หลิงอวี๋อยู่ในสถานการณ์อับจนได้ เมื่อเทียบกับจ้าวเจินเจินแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยดีมากแล้วไท่เฟยเส้าได้ต่อว่าไปแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงมา แล้วก็เอ่ยด้วยความเกลียด “ตอนนี้ในวังอยู่ในการควบคุมของหลิงอวี๋กับยายเฒ่านั่น หมู่เฟยจะทำอะไรก็มิได้สะดวกนัก”“หมู่เฟยอยากให้ยายแก่นั่นตายไปเร็ว ๆ เช่นนี้แล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็จะไม่มียายเฒ่าคอยหนุนหลัง ก็จะจัดการได้ง่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1571

    สำหรับคำถามของหลิงอวี๋ ฮูหยินผู้เฒ่าเผยกับใต้เท้าเผยได้หารือกันในบ้านแล้วฮูหยินผู้เฒ่าเผยเองก็รู้ว่า หากเอาเรื่องที่หลิงหว่านต้องไว้ทุกข์แม่สามปีมาถอนหมั้นนั้นฟังมิขึ้น แต่นางกับตระกูลเผยล้วนมิชอบหลิงหว่าน จึงยอมที่จะถูกด่าลับหลังและยืนกรานที่จะถอนหมั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยมิกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงทำได้เพียงเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ฮองเฮา การแต่งงานเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดีของสองตระกูล มิใช่การผูกความโกรธแค้น...”“ถือเสียว่าตระกูลเผยขอโทษคุณหนูหลิง ขอร้องให้ฮองเฮาทรงเห็นใจ ตกลงกับคำร้องที่จะถอนพระราชโองการด้วยเถิดเพคะ สินสอดก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นการชดใช้ให้คุณหนูหลิงเถิด!”หลิงหว่านได้ยินก็โกรธมาก จึงเอ่ยเรียบ ๆ “หม่อมฉันมิต้องการการชดใช้! ฮองเฮา ท่านตกลงเถิดเพคะ! หม่อมฉันหลิงหว่าน แม้ว่าชีวิตนี้จะมิได้แต่งงานก็ไม่มีทางร้องขอแต่งงานเข้าตระกูลเผย!”หลิงอวี๋ทอดถอนใจอยู่ในใจ แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเผยอวี้คือคนที่หลิงหว่านสามารถไว้วางใจไปได้ตลอดชีวิต แต่ตระกูลเผยทั้งหลายต่อต้านหลิงหว่านเช่นนี้ หากหลิงหว่านแต่งงานเข้าไปก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขการแต่งงานมิใช่การแต่งกับคนคนเดียว โดยเฉพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1570

    จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว

DMCA.com Protection Status