แชร์

บทที่ 119

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋เก็บภาพวาดของตนเอง แล้วกลับเรือนบุหงาพาหลิงเยวี่ยกับหลิงซินออกไปด้วยกัน

ทั้งสามคนเดินไปตามถนน เห็นร้านยาก็เข้าไปถาม ถามติด ๆ กันไปหลายร้านก็ไม่มีตัวยาสามตัวนี้เลย

กระทั่งมาถึงโรงหุยชุน หลิงอวี๋เห็นว่าเป็นโรงยาเดียวกับที่ปฏิเสธยาของตนเองครั้งที่แล้ว จึงไม่อยากเข้าไป

แต่มาคิดดูโรงยานี้เป็นโรงยาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ไม่แน่ว่าอาจจะมียาที่ตนเองต้องการ

นางจึงพาหลิงเยวี่ยกับหลิงซินเข้าไป

“ฮูหยินท่านนี้ มาซื้อยาหรือว่าหาหมอขอรับ?”

คนทำงานที่โรงยาเห็นก็เข้ามาต้อนรับ

“ข้าอยากซื้อยา โกฐหัวบัว ชวนชวี่ต้วน และกุกบุยโป้ว ที่นี่มีหรือไม่?” หลิงอวี๋ถาม

คนงานเกาหัว หันไปตะโกน “หมอหลี่ มีโกฐหัวบัว ชวนชวี่ต้วน และกุกบุยโป้ว เครื่องยาสมุนไพรสามชนิดนี้หรือไม่?”

หมอหลี่ที่อยู่ด้านในเป็นชายชรามีเคราแพะ พอได้ยินคนงานพูด ก็เอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา

“ไม่เคยได้ยิน! ตัวยาเหลวไหลอะไรกัน เป็นยาที่มีแต่หมอชนบทถึงจะใช้กระมัง! เจ้าให้พวกนางไปหาที่อื่น!”

หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว กำลังจะพากันออกไป ก็เห็นชายหน้าเหลี่ยมอายุประมาณสามสิบกว่าแบกหญิงชราขึ้นหลังเข้ามาในนี้

“หมอหลี่… เร็วเข้า… รีบช่วยแม่ของข้าที! แ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 120

    “พ่อข้าล้มป่วยมาสิบกว่าวันแล้ว เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงช่วยชีวิตคนอื่นเลย!”“พี่ต้าหนิว ที่นี่ยังมีเงินอยู่สองสามตำลึง เจ้าเอาไปหาหมอที่อื่นให้ช่วยแม่เจ้าเถิด!”“น้องเลี่ยว… ข้ารับเงินเจ้าไม่ได้หรอก! เจ้าเก็บไว้ให้พ่อเจ้าหาหมอเถิด!”น้ำเสียงหลี่ต้าหนิวสะอื้นเล็กน้อย “คนดีไม่ได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนเลย! หมอเลี่ยวเป็นคนดีถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงจบลงเช่นนี้ได้!”“โรงหุยชุนรังแกคนมากเกินไปแล้ว… น้องเลี่ยว เจ้าขายร้านโอสถแล้วพาพ่อเจ้ากลับบ้านเถิด! อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง โรงหุยชุนก็ไม่สามารถทำให้พวกเจ้าลำบากได้อีก!”“อืม พี่ต้าหนิว เจ้ารีบไปหาหมอเถิด! อย่าให้เสียเวลาเรื่องอาการป่วยของแม่เจ้าเลย!”“เงินนี่เจ้าเอาไป อย่าปฏิเสธเลย ข้าขายร้านโอสถแล้วก็จะมีเงินแล้ว!”“น้องเลี่ยวเป็นบุญคุณใหญ่หลวงยิ่งนัก! แต่ข้ากลับเคารพไม่ได้!”หลี่ต้าหนิวเช็ดน้ำตา เอาเงินยัดใส่ในอ้อมแขน แล้วแบกแม่กำลังจะไป แต่หมุนตัวไปเจอหลิงอวี๋เข้า“ฮูหยินท่านนี้? มีเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”หลิงอวี๋เห็นน้องเลี่ยวคนนั้น ท่าทางอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดเอง สวมชุดยาวที่ซักจนขาวเขาหน้าตาหล่อเหลา แต่ใบหน้ากลับเต็มไป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 121

    หลิงอวี๋แย้มยิ้มพลางชี้ที่ท้องของป้าหลี่ “ถุงน้ำดีของนางมีเศษหินกรวดเต็มไปหมด ถ้าผ่าตัดถุงน้ำดีทิ้งอาการจะไม่กำเริบอีกในภายหน้า!”“พอผ่าตัดถุงน้ำดีออกแล้ว คนจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? แม่นาง เจ้าอย่าหลอกข้านะ!”หลี่ต้าหนิวเผยสีหน้าเหลือจะเชื่อหลิงอวี๋ยังไม่ทันกล่าวคำ น้องเลี่ยวพลันขบคิดขณะเอ่ยว่า“ข้าได้ยินมาว่า ในสมัยโบราณมีหมอนามว่า อวี๋ฟู การรักษาไม่พึ่งยาต้ม เพียงใช้มีดกรีดรักษาส่วนเจ็บปวดต่าง ๆ ระบายหนองกับเลือดออก!”“เหนือการผ่าตัดกรีดผิวนอกกายแล้ว อวี๋ฟูยังผ่าตัดส่วนท้องได้ด้วย หรือว่าแม่นางจะเข้าใจเคล็ดของอวี๋ฟู?”หลิงอวี๋มองเขาอย่างแปลกใจ คิดไม่ถึงเลยว่า เด็กคนนี้จะรู้เรื่องอวี๋ฟูจากคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง(1) สมกับที่เกิดมาในตระกูลเก่าแก่มากวิชาแพทย์ยิ่งนักนางพยักหน้าเล็กน้อยพลางยิ้มตอบว่า “อวี๋ฟูคือบรรพบุรุษแห่งการผ่าตัดศัลยกรรม! การผ่าตัดถุงน้ำดีของอาอึ้มท่านนี้นอกจากขจัดโรคเรื้อรังแล้ว ภายภาคหน้าก็จะไม่ต่างจากคนทั่วไปด้วย!”หลี่ต้าหนิวมองดูน้องเลี่ยวและหลิงอวี๋ ก่อนจะลูบจมูกอย่างประหม่าพลางกล่าวว่า “แม่นาง การผ่าตัดเอาออกต้องใช้เงินเท่าไรหรือขอรับ?”หลิงอวี๋มองหลี่ต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 122

    “ท่านพ่อข้า… คือหมอเลี่ยวจากโรงเหยียนหลิง(1)!” เลี่ยวเซียนเอ่ยแนะนำ“ข้านามหลิงอวี๋ คารวะหมอเลี่ยว!” หลิงอวี๋แสดงความเคารพเลี่ยวเซียนช่วยประคองหมอเลี่ยวเข้ามาหลิงอวี๋รับรู้ได้ว่า สุขภาพของหมอเลี่ยวไม่ได้มีปัญหาอะไร ทว่าคือความกลัดกลุ้มอัดแน่นในใจต่างหากและไข้หวัดที่ยังเป็นไม่หายเฉย ๆ“หมอเลี่ยว ท่านอยากขายโรงเหยียนหลิงหรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามโดยไม่คิด“ขาย!”“ไม่ขาย!”หมอเลี่ยวกับเลี่ยวเซียวตอบพร้อมกันพอหมอเลี่ยวกล่าวจบก็มองลูกชายพลางถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะผงกศีรษะเคร่งเครียดหลิงอวี๋ลอบมองทั้งสองพลางเอ่ยถาม “เหตุใดต้องการขายโรงเหยียนหลิงล่ะ? บริหารไม่สันทัดหรือมีเหตุผลอื่นหรือ?”เลี่ยวเซียนรินน้ำให้บิดาพลางตอบว่า “โรงเหยียนหลิงสืบทอดจากท่านปู่ข้า ถือเป็นร้านเก่าแก่นับร้อยปี!”“วิชาแพทย์ของท่านพ่อข้าก็เป็นท่านปู่ชี้แนะเช่นกัน ในเมื่องหลวงข้าไม่กล้าบอกว่าติดสามอันดับแรก แค่ติดสิบอันดับแรกก็สมชื่อแล้ว!”เลี่ยวเซียนรินน้ำให้หลิงอวี๋เช่นกัน ก่อนจะลอบมองหมอเลี่ยวส่ายศีรษะพลางกล่าวคำ“ท่านพ่อข้าเหมือนคนใจบุญท่านนั้นที่เจ้าเล่า ยึดมั่นในคำสอนบรรพบุรุษ ช่วยเหลือคนจนอย่างไม่เห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 123

    หลิงอวี๋สิ้นคำกล่าว เหตุใดโรงหุยชุนเผด็จการขนาดนี้!นางเอ่ยถาม “หากเจ้าเผาโรงหุยชุนแล้วพี่เจ้าจะเป็นอย่างไรเล่า?”เลี่ยวซวนก้มหน้างุดหมองหม่นหยาดน้ำตาหมอเลี่ยวร่วงโรยพลางกล่าวคำสิ้นหวัง“แขนไม่อาจบิดต้นขาได้ฉันใดผู้อ่อนแอไม่อาจต่อกรผู้เรืองอำนาจได้ฉันนั้น… ข้าเตือนเจ้าเด็กนี้แล้ว แต่ยังรั้นไม่ยอมประนีประนอม!”“อา เซียนเอ๋อร์ ยอมรับชะตากรรมเสีย! มอบโฉนดที่ดินเถิด! พาพี่ใหญ่เจ้ากลับมา ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ครอบครัวเราจะได้ออกไปจากเมืองหลวง!”เลี่ยวเซียนบ่ายศีรษะเช็ดหยาดน้ำตาที่หางตาพลางกล่าวประชดประชัน“แต่ข้าก็ไม่อยากให้โรงหุยชุนในราคาถูก ๆ ข้าไม่เชื่อว่าบนใต้หล้าแห่งนี้จะไม่มีความยุติธรรม! หากบีบคั้นข้า ข้าจะไปตีกลองร้องทุกข์(1)ที่พระราชวัง!”“เจ้าเด็กนี่ ไยไม่เชื่อฟังบ้าง!”หมอเลี่ยวตีไหล่เขาหนึ่งฝ่ามือพลางกล่าวตำหนิ“พี่ใหญ่เจ้าโดนขังคุกไปแล้ว หรือว่าเจ้าก็อยากเข้าคุกเหมือนกันเล่า?”“เช่นนั้นเจ้าไม่สู้เอามีดมาแทงข้าให้ตายเลยเล่า! พ่อไม่อยากเห็นพวกเจ้าต้องมาตายก่อนข้านะ!”หมอเลี่ยวนึกถึงเรื่องน่าเศร้า หยาดน้ำตาก็พลันไหลพรากเลี่ยวเซียนทั้งปวดใจและร้อนรน กระทืบเท้ากล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 124

    หลี่ต้าหนิวเก็บกวาดห้องเสร็จแล้ว กวาดถูจนสะอาดสะอ้านหลิงอวี๋สั่งหลี่ต้าหนิวแบกหญิงชรามา สบโอกาสเมื่อเขาออกไปรีบเข้ามิติหยิบเครื่องมือผ่าตัดหมอเลี่ยวเดินตามหลี่ต้าหนิวมา เขาขจัดความเศร้าก่อนหน้าจนบัดนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะมากพลางกล่าวอย่างเบิกบาน“ฮูหยิน ข้าช่วยเป็นลูกมือเจ้าได้ไหม?”“ข้าเป็นหมอมาหลายปี ยังไม่เคยพบวิธีรักษาแบบนี้มาก่อน หากฮูหยินรู้สึกว่าไม่สะดวก งั้นก็ช่างมันเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มจาง ๆ พลางกล่าวคำ “วิชาแพทย์ข้ามิใช่ความลับส่วนตัว ไม่มีอะไรไม่สะดวก!”“หมอเลี่ยว จากนี้ไปเรียกข้าว่าแม่นางหลิงเถิด! ข้าไม่สะดวกเผยตัวในวงสังคม ภายหลังเป็นหมอก็ขานชื่อนี้เช่นกัน!”“ได้ ๆ เรียกแม่นางหลิง!”หมอเลี่ยวมองท่าทีผิดแผกของหลิงอวี๋ แต่ก็คิดว่าไม่เห็นแปลกอะไรที่หลิงอวี๋จะพะวงถึงตัวตนจึงคิดอำพรางไว้ พลันผงกศีรษะทันที“นี่คือเข็มยาชา เจ้าดูนะว่าฉีดแบบนี้!”หลิงอวี๋หยิบหลอดเข็มมาฉีดหญิงชราพลางอธิบายผลและปริมาณที่ใช้ยาชาไปด้วย ครั้นรอยาชาออกฤทธิ์ หลิงอวี๋ส่งถุงมือปลอดเชื้อคู่หนึ่งและหน้ากากอนามัยพลางแสดงเจตนาให้เขาสวมตามตนนางหยิบมีดผ่าตัดออกมากรีดท้องส่วนใต้ชายโครงขวาของหญิงชรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 125

    “ต้าหนิวเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ!”หมอเลี่ยวรินน้ำมาให้หลิงอวี๋พลางเอ่ยโดยไม่ต้องคิด“สองปีที่ผ่านมาเงินเขาเก็บใช้จ่ายค่ารักษาของมารดาจนหมด จนทำให้บ้านเหลือแต่ผนังสี่ด้านยากแค้นแสนเข็ญ”“ลูกสะใภ้ทนความลำบากไม่ไหว จึงทิ้งลูกไว้สองคนแล้วหนีไปกับชายอื่น!”“ก่อนหน้าพี่ใหญ่ของเขาได้รับบาดเจ็บที่ขาขณะทำงานไม้ ครอบครัวฝั่งลูกสะใภ้พานางกลับและบังคับให้นางออกเรือนใหม่ แถมที่บ้านยังมีลูกสามคนไม่มีใครดูแล!”“ครอบครัวแปดคนนี้ต่างมุ่งหวังต้าหนิว! แม้จะยากจน แต่สองครอบครัวก็เข้ากันได้ เด็ก ๆ ก็สามัคคีกัน เงินที่เก็บได้จากการล่าสัตว์ขายฟืนล้วนใช้รักษาอาอึ้มหลี่จนหมดแล้ว!”“อาอึ้มหลี่รู้สึกเสียใจนัก มีคราหนึ่งนางคิดพยายามปลิดชีพตนเนื่องจะได้ไม่เป็นภาระพวกเขา”“สุดท้ายก็ถูกต้าหนิวพบเข้า ต้าหนิวพาเด็ก ๆ มาคุกเข่าต่ออาอึ้มหลี่กล่าวว่า พวกเขาอกตัญญู ปล่อยให้อาอึ้มหลี่พยายามปลิดชีพตน ถ้าอาอึ้มคิดอยากตายจริง งั้นทั้งครอบครัวก็ตายไปด้วยกันเถอะ!”หลิงอวี๋ฟังแล้วปวดใจ ตอนทุกคนคุกเข่าต่อหน้าอาอึ้มหลี่ แม้แต่คนไร้หัวใจก็คงไม่คิดฆ่าตัวตายอีกหรอก!“แม้ทั้งชีวิตอาอึ้มหลี่จะยากไร้นัก แต่ทว่าเด็ก ๆ พวกนี้ที่นางส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 126

    “เจ้าค่ะ ข้ารู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมาย”“ท่านย่าล้มป่วย ครอบครัวใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษานาง ข้าคิดว่า หากได้วิชาแพทย์ก็จะช่วยรักษาท่านย่าได้เจ้าค่ะ!”ต้ายาก้มหน้าเศร้าหมอง “แต่ไม่มีคนสอนข้า! ร้านโอสถต่างไม่รับผู้ช่วยหญิงเลย!”หลิงอวี๋ลอบมองหมอเลี่ยว ส่วนหมอเลี่ยวก็ยิ้มขมขื่น “ไม่มีคนเชื่อใจหมอหญิง ฉะนั้นน้อยนักที่สตรีจะเรียนหมอ!”หลิงอวี๋มองทางต้ายาพลางกล่าวว่า “เรียนหมอลำบากยิ่ง! เจ้ามุ่งมั่นได้หรือ?”ต้ายาเอ่ยหนักแน่น “ข้ามุ่งมั่นได้! ลำบากแค่ไหนข้าก็มิหวั่นเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองทางหลี่ต้าหนิว เอ่ยถาม “ต้าหนิว เจ้ายอมให้ต้ายาเรียนหมอหรือไม่?”หลี่ต้าหนิวมองต้ายา ต้ายาก็กำลังมองเขาด้วยดวงหน้าเฝ้าหวังหลี่ต้าหนิวขบฟันกล่าวคำ “มีทักษะในมือ ภายหลังออกเรือนมีชีวิตลำบากก็ยังสามารถหาเลี้ยงตนได้! แม่นางหลิง ข้ายอมให้นางเรียนหมอขอรับ!”ต้ายาพลันหน้าเปื้อนยิ้มทันทีพลางมองทางหมอเลี่ยวอย่างเฝ้าหวังหลิงอวี๋คลี่ยิ้ม กล่าวว่า “ต้ายา หากเจ้าอยากเรียนหมอสามารถติดตามข้าได้ ข้าจักเป็นอาจารย์เจ้าเอง!”หมอเลี่ยวซึ่งมั่นใจในทักษะการแพทย์ที่หลิงอวี๋รักษาป้าหลี่แล้ว พลันรีบกล่าวคำ“ต้ายา แม่น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 127

    หลิงอวี๋เดินออกจากเรือนของเซียวหลินเทียน และยังรู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโมโหเรื่องอันใดนางรีบรุดกลับเรือนบุหงา เนื่องรู้สึกว่าความโกรธของตัวเองช่างแปลกประหลาดนัก“ท่านแม่ ผู้ใดแหย่ท่านโกรธขอรับ? หรือว่าเจ้าคนหลายใจนั่นตำหนิท่านอีกแล้ว?”หลิงเยวี่ยมองมารดาเดินเข้ามาหน้าบึ้ง พลันเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเจ้าคนหลายใจ?จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกขบขันทันที คำนี้นางด่าเซียวหลินเทียนแล้วหลิงเยวี่ยได้ยินก็เรียนรู้แล้วเอามาพูด เมื่อได้เอ่ยแล้วก็รู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อหลิงอวี๋เห็นดวงตากลมโตของหลิงเยวี่ยกะพริบ ความโกรธก็มลายหายนางบีบหน้าเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ยพลางยิ้มตอบว่า “เขามิได้ตำหนิแม่! และแม่ก็มิได้โกรธด้วย!”“แต่ปากของท่านแม่เมื่อตะกี้เบะจนแขวนตะเกียงได้แล้วนะขอรับ!”หลิงเยวี่ยกล่าวเสียงหวานไร้เดียงสา “มิใช่ว่าท่านแม่สอนเยวี่ยเยวี่ยห้ามพูดปดหรือ? ไม่เช่นนั้ยจมูกจะยาว!”หลิงอวี๋หัวเราะฮ่าฮ่า นี่เป็นนิทานพินอคคิโอที่นางเล่าให้หลิงเยวี่ยฟังในคืนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่า หลิงเยวี่ยจะความจำดีขนาดนี้!“ท่านแม่ไม่ได้โกหก! ดูสิ จมูกท่านไม่ได้ยาว! พิสูจน์ว่าท่านแม่พูดค

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1853

    ฮูหยินเก๋อมิได้เข้าใจความพยายามของข้าหลวงเก๋อในทันที และยังคงรู้สึกเสียใจกับเงินห้าพันตำลึงนี้อยู่ ข้าหลวงเก๋อเห็นว่านางมิเข้าใจ จึงลากนางเดินออกไปจากนั้นข้าหลวงเก๋อจึงบอกความตั้งใจของตนให้ฮูหยินเก๋อฟังอย่างง่าย ๆ ฮูหยินเก๋อจึงได้สติคืนมาการที่สามีได้เลื่อนขั้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้นย่อมเป็นสิ่งฮูหยินเก๋ออยากเห็นอยู่แล้ว แม้ว่านางจะทำใจมิได้แต่ก็ทำได้เพียงนำตั๋วเงินห้าพันตำลึงมามอบให้หลิงอวี๋และเพื่อเป็นการดึงตัวหลิงอวี๋ให้มาทำงานกับสามี ฮูหยินเก๋อจึงพยายามพูดความดีของข้าหลวงเก๋ออย่างเต็มที่ ทั้งยังพูดออกไปอย่างมิปิดบังอีกว่า ขอเพียงหลิงอวี๋ติดตามพวกเขาไปเป็นหมอประจำตระกูลเก๋อที่เมืองหลวงแดนเทพ นางจะมิทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากอย่างแน่นอนเมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จึงได้รู้ว่าที่ข้าหลวงเก๋อให้เงินเป็นจำนวนมากนั้นเพราะมีเจตนาแอบแฝง นางจึงลังเลขึ้นมาทันทีหากพูดด้วยใจที่เป็นกลางแล้วละก็ นางมิยินยอมที่จะเป็นทาสของตระกูลเก๋อ เพราะหากเป็นเช่นนั้นนางจะสูญเสียอิสรภาพไปแต่เมื่อหลิงอวี๋คิดว่า นางเองก็ต้องไปที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และบางทีก็อาจจะพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ด้วย การที่มีตระกูล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1852

    เก๋อฮุ่ยหนิงมองไปแล้วก็เกือบจะอาเจียนออกมา“คุณหนูสาม หมอเจียงได้นำถุงน้ำออกมาแล้วเจ้าค่ะ นางให้บ่าวยกออกมาให้พวกท่านดู! ตอนนี้หมอเจียงกำลังเย็บแผลของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ คงจะต้องใช้เวลาสักพักเจ้าค่ะ!”นางรับใช้ใช้ตัวน้อยยกสิ่งที่อยู่ในจานให้ทุกคนดู เมื่อฮูหยินเก๋อและคุณหนูคนอื่น ๆ เห็นก็ตกใจจนรีบเบือนสายตาไปทางอื่นในทันทีเก๋อฮุ่ยหนิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ภายในใจ หมอที่ตนเชิญมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ตนช่างมีสายตาที่หลักแหลมเสียจริง!“ยกถุงน้ำไปให้ท่านพ่อดูสิ ท่านพ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ในที่สุดโรคของท่านย่าก็รักษาหายแล้ว!”เก๋อฮุ่ยหนิงจงใจเอ่ยขึ้นมานางรับใช้ตัวน้อยจึงทำตามคำสั่งแล้วยกไปให้ข้าหลวงเก๋อดูเก๋อฮุ่ยซินและฮูหยินเก๋อต่างก็มองหน้ากัน ทั้งสองคนต่างก็โกรธมาก ๆหากฮูหยินผู้เฒ่าหายดีแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าฮูหยินเก๋อยังต้องถูกฮูหยินผู้เฒ่ากดขี่ต่อไปอีก และจะมิได้สิทธิ์ดูแลตระกูลเก๋อด้วยทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเก๋อฮุ่ยหนิง!ในชั่วขณะหนึ่งฮูหยินเก๋ออยากจะตีนางสารเลวผู้นี้ให้ตายไปเสีย นางถึงกับแอบสาบานว่า นางจะต้องหาคู่แต่งงานที่น่ารังเกียจที่สุดให้ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1851

    เมื่อหลิงอวี๋ไปถึงบ้านตระกูลเก๋อ ตอนนี้เก๋อฮุ่ยหนิงมองหลิงอวี๋แตกต่างออกไปแล้ว ที่แท้หมอเจียงก็มีตระกูลเฉียวสนับสนุนอยู่ นางจึงได้กล้าหาญมิเกรงกลัวอำนาจของตระกูลเก๋อเช่นนี้!กระต่ายน้อยที่หลิงอวี๋ผ่าท้องไปนั้นยังมีชีวิตอยู่ดี ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจึงยิ่งรู้สึกสนใจที่จะให้หลิงอวี๋ทำการรักษานางแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจะรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว แต่หากยังมิผ่านการยินยอมจากลูกชายเสียก่อน นางก็มิอาจตัดสินใจเองโดยพลการได้ ข้าหลวงเก๋อจึงถูกเชิญมา นับเป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้พบกับใต้เท้าข้าหลวงเมืองจงกวนผู้นี้เขาอายุสี่สิบกว่า ดูมีชีวิตชีวา เขามีใบหน้ารูปเหลี่ยม จมูกงุ้มเล็กน้อยและมีดวงตาลึกเขามองประเมินหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “หมอเจียง ท่านแม่ของข้าเทียบกับกระต่ายมิได้หรอกนะ ชีวิตของนางมีค่ามากกว่ากระต่ายตัวนั้นร้อยเท่า เจ้าแน่ใจหรือว่าการผ่าตัดให้นางจะมิเป็นอันตราย?”หลิงอวี๋เผชิญหน้ากับข้าหลวงเก๋อผู้มีอำนาจ โดยมิได้แสดงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอจนเกินไป “ท่านใต้เท้าเก๋อ แม้ว่าชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่าจะล้ำค่ากว่ากระต่ายตัวนั้นแต่ก็เป็นชีวิตเจ้าค่ะ ข้าได้พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1850

    เก๋อฮุ่ยหนิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง จากที่จื่ออวิ๋นเล่ามา เนื้อตัวของเฉียวไป๋เต็มไปด้วยบาดแผล และหมอเจียงก็เป็นหมอ ดังนั้นบางทีนางอาจจะช่วยชีวิตเฉียวไป๋เอาไว้ก็ได้เฉียวไป๋อยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพเกือบพันลี้ ดังนั้นขอเพียงตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เฉียวไป๋จดจำความดีของตนเอาไว้ แล้วค่อยยุให้ท่านย่าออกหน้า การแต่งงานครั้งนี้ก็จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จถึงแปดหรือเก้าในสิบแล้วแต่จะเข้าใกล้เฉียวไป๋ได้อย่างไรกัน?เก๋อฮุ่ยหนิงมิคิดว่า หากตนเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเฉียวไป๋ก่อน เขาก็คงจะสนใจนางปกติแล้วคุณชายตระกูลขุนนางเหล่านี้มักจะมิเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น หากมิใช่คนพิเศษสักหน่อย เฉียวไป๋ไม่มีทางยอมให้ตนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!“จื่ออวิ๋น เจ้าไปสืบมาทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฉียว เหตุใดคุณชายเฉียวจึงมาลำบากอยู่ที่นี่ได้!”“และหากสืบมาได้ว่าคุณชายเฉียวชอบอะไรก็จะยิ่งดี!”เก๋อฮุ่ยหนิงรู้สึกว่า เมื่อก่อนนั้นตนยอมรับความลำบากมาโดยตลอด จึงได้ถูกเก๋อฮุ่ยซินแย่งชิงเรื่องการแต่งงานไป แต่ครั้งนี้มิว่าอย่างไรนางก็จะต่อสู้เพื่อตนเองให้ได้หากว่ามิสำเร็จ นางค่อยยอมรับชะตากรรมก็ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1849

    จื่ออวิ๋นติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสามปีก่อนตระกูลเก๋อได้เดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองอายุครบร้อยปีที่ตระกูลหลงจัดขึ้นที่เมืองหลวงแดนเทพตอนนั้นจื่ออวิ๋นได้ติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงไปที่เมืองหลวงแดนเทพ เดิมทีท่านย่าของตระกูลเก๋อจะใช้โอกาสนี้พูดคุยเรื่องแต่งงานให้กับเหล่าคุณหนูตระกูลเก๋อ นางจึงพาเหล่าคุณหนูไปด้วยดังนั้นจื่ออวิ๋นจึงเคยพบกับพวกคุณชายจากตระกูลที่มีชื่อเสียงที่ยังมิได้แต่งงาน ในงานเลี้ยงชมบุปผาที่ทางด้านตระกูลเก๋อเป็นผู้จัดขึ้น เฉียวไป๋ก็มาเช่นกัน จื่ออวิ๋นเคยได้พบกับเขาแล้วในเวลานั้นจื่ออวิ๋นยังเคยบอกเก๋อฮุ่ยหนิงด้วยว่า เฉียวไป๋เหมาะกับเก๋อฮุ่ยหนิงมาก ทั้งคู่อายุใกล้เคียงกัน และเฉียวไป๋ก็หน้าตาหล่อเหลาด้วยเพียงแต่เมื่อดูจากภูมิหลังทางครอบครัวของตระกูลเก๋อแล้ว แม้แต่คุณหนูที่เป็นลูกสาวถูกต้องตามกฎหมายก็มิอาจเอื้อมถึงตระกูลเฉียวได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงเก๋อฮุ่ยหนิงที่เป็นลูกสาวของอนุภรรยาเลยในตอนนั้นแม้ว่าเก๋อฮุ่ยหนิงจะชื่นชอบเฉียวไป๋เช่นกัน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จึงมิอาจเอื้อม และมิได้เอามาใส่ใจแต่จื่ออวิ๋นไหนเลยจะคาดคิดว่า เฉียวไป๋คุณชายตระกูลขุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1848

    เงื่อนไขที่เก๋อฮุ่ยหนิงต่อรองกับหลิงอวี๋คือ หลังจากที่หลิงอวี๋ทำการผ่าตัดให้กระต่ายแล้ว หากว่ากระต่ายตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ข้าหลวงเก๋อก็จะต้องปล่อยลูกชายของหมอเถาไป“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว! แต่ท่านพ่อบอกว่าเขาจะต้องได้เห็นกระต่ายมีชีวิตอยู่เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่มีทางปล่อยตัวคนไปแน่!”เก๋อฮุ่ยหนิงกลับมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ถึงอย่างไรเจ้าก็มั่นใจในทักษะการแพทย์ของเจ้าเองมากอยู่แล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นรออีกสักวันก็มิเป็นอะไรหรอก!”หลิงอวี๋มองออกว่าเก๋อฮุ่ยหนิงพยายามเต็มที่แล้ว นางจึงพยักหน้ากระทั่งเก๋อฮุ่ยหนิงให้นางรับใช้ไปหากระต่ายมา หลิงอวี๋กับเสี่ยวซิ่งก็นำอุปกรณ์ที่ต้องการออกมา แล้วผ่าท้องกระต่ายต่อหน้าเก๋อฮุ่ยหนิงกระต่ายถูกโอสถหมาฝู่ส่านทำให้สลบไป และทักษะที่ชำนาญของหลิงอวี๋ก็ทำให้เก๋อฮุ่ยหนิงยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น นางรู้สึกว่าหลิงอวี๋จะต้องรักษาท่านย่าของตนได้อย่างแน่นอนกระทั่งหลิงอวี๋เย็บท้องของกระต่ายเรียบร้อยแล้ว และฤทธิ์ของโอสถหมาฝู่ส่านหมดลง เมื่อเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นกระต่ายฟื้นขึ้นมา นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็อยากจะรีบไปบอกข่าวนี้กับท่านย่า“คุณหนูสาม มันดึกแล้ว ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1847

    ทันทีที่เก๋อฮุ่ยซินได้ยินว่า เก๋อฮุ่ยหนิงคิดจะสะสางให้ตนใสสะอาด นางก็ตะโกนขึ้นมา “เจ้าอย่าได้พูดให้น่าฟังไปหน่อยเลย ใคร ๆ ก็รู้ความในใจของเจ้ากันทั้งนั้นว่าเจ้าชื่นชอบคุณชายจ้าว…”“พอแล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นการที่สองพี่น้องแย่งสามีคนเดียวกันเช่นนี้ จะปกปิดก็ยังมิทัน แต่เก๋อฮุ่ยซินกลับตะโกนออกมาต่อหน้าคนนอก นี่ยังน่าอับอายมิพออีกหรือ?“เก๋อฮุ่ยซิน เจ้าออกไปเสีย!”ฮูหยินผู้เฒ่าดุด้วยความโกรธ “เจ้าถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน หากเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้า สินสอดของเจ้าจะลดลงกึ่งหนึ่ง!”เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกว่าชีวิตของนางกำลังถูกบีบขึ้นมาทันที นางจึงตะโกนออกไปด้วยความร้อนรน “ท่านย่า ข้าทำเพื่อท่านจริง ๆ ท่านจะเชื่อคำพูดของเก๋อฮุ่ยหนิงกับหมอหญิงผู้นี้มิได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”ฮูหยินผู้เฒ่าก็จ้องมองนางอย่างเย็นชา “หากเจ้าพูดออกมาอีกคำ สินสอดของเจ้าจะหายไปทั้งหมด!”เก๋อฮุ่ยซินตกใจจนต้องปิดปากไว้พลันน้ำตาคลอ และวิ่งออกไปร้องไห้ด้วยความคับข้องใจเก๋อฮุ่ยหนิงแอบรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่นางมิกล้าแสดงท่าทีใด ๆ ออกไป จึงยังคงเช็ดน้ำตาอย่างเสียใจต่อไป“หนิงเอ๋อร์ ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1846

    หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อเคยถามคำถามเดียวกันนี้กับหมอคนอื่นมาก่อนแล้ว และทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิเหมาะที่จะเดินทางไกลไปรับการรักษาที่เมืองหลวงแดนเทพหมอเถาถึงกับเคยบอกอ้อม ๆ ว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นอาจจะตายระหว่างทางก็เป็นได้ส่วนข้าหลวงเก๋อแม้ว่าจะมีอำนาจและอิทธิพล แต่ก็มิสามารถเชิญหมอที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงแดนเทพมาได้เนื่องจากหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นดังที่เก๋อฮุ่ยหนิงบอก พวกเขาล้วนสูงส่ง จำเป็นต้องไปขอร้องถึงหน้าประตูและจ่ายเงินก้อนโตก่อนจึงจะยอมรักษาหากมิให้หลิงอวี๋รักษานาง ในเมืองจงกวนจะไม่มีใครที่สามารถรักษาโรคประหลาดของฮูหยินผู้เฒ่านี้ได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้นฮูหยินผู้เฒ่ายังใช้ชีวิตอยู่มิเพียงพอ แล้วจะทำใจจากไปเช่นนี้ได้อย่างไรแต่จะให้หลิงอวี๋ผ่าท้องของตน ฮูหยินผู้เฒ่าก็กลัวอีกหลิงอวี๋มองออกถึงความขัดแย้งในใจของฮูหยินผู้เฒ่า นางจึงเอ่ยออกไป “ฮูหยินผู้เฒ่า ยังมีวิธีที่ประนีประนอมกันได้เจ้าค่ะ…”เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินดังนั้น นางก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “หมอเจียง วิธีประนีประนอมอย่างไร เจ้าบอกมาเร็วเข้า!”หลิงอวี๋

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status