“สามีภรรยากันเมื่อมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมเผชิญพ่ะย่ะค่ะ! อาอวี๋ยอมถึงขั้นถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัล ลูกมิให้นางต้องเผชิญเพียงลำพังหรอกพ่ะย่ะค่ะ! ลูกเองก็จะยอมรับโทษเหมือนกับที่หลิงอวี๋ยอม!”เซียวหลินเทียนมองเจตนาขององค์ชายเว่ยออกแต่ก็มิได้กลัว เขายืดหลังตรงแล้วมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิอู่อัน“หากเสด็จพ่อไม่มีคำตำหนิอื่นแล้ว ลูกกับหลิงอวี๋ขอทูลลา พวกเรายังต้องกลับไปเตรียมการแข่งขันของวันพรุ่งอีกพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนพูดไปอย่างเยือกเย็นเช่นนี้ ทำให้จักรพรรดิอู่อันเองก็มิสะดวกที่จะตำหนิเขาแล้วการตัดหัวในที่สาธารณะนั้น เพราะเซียวหลินเทียนเป็นลูกชายของตน เขาจะกล้าร่วมกับทุกคนบีบให้ลูกตายหรือ?จักรพรรดิอู่อันมองลูกชายผู้นี้แล้วก็มีคาดหวังที่เต็มเปี่ยมขึ้นมาอีกครั้งชีวิตเป็นสิ่งล้ำค่า!การที่เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋เอาชีวิตของตนมารับคำมั่นสัญญาทางทหารนั้นมิใช่เรื่องเล่น ๆ เช่นนั้นแล้วในการแข่งขันอีกสองรายการที่เหลือพวกเขาจะต้องทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อชีวิตของตนอย่างแน่นอนหลังจากเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษรแล้วเห็นแสงอาทิตย์ หลิงอวี๋ก็หยุดฝีเท้าไปทันทีแล้วหรี่ตามอง“
“เหตุใดจึงเดินไปทางนี้เล่า ออกจากวังต้องไปทางนี้สิ!”เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋เดินไปอีกทางจึงรีบตามไปคว้าตัวนางไว้“ไปเยี่ยมไทเฮากันเถิดเพคะ! ในวันพรุ่งล้วนเกิดสิ่งมิคาดฝันขึ้นได้ทั้งนั้น ถือโอกาสที่วันนี้ว่าง หม่อมฉันจะทำให้พระนางฟื้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุดเพคะ!”มีเพียงแค่ไทเฮาต้องฟื้นขึ้นมาเท่านั้น จึงจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับตนและเซียวหลินเทียนได้หลิงอวี๋กลัวว่าสิ่งมิคาดฝันที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสิ่งที่ตนกับเซียวหลินเทียนควบคุมมิได้ หากจะมีคนช่วยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนนางก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปแน่นอน“ได้ ข้าว่าตามเจ้า!”สายตาของเซียวหลินเทียนเลื่อนลงไปที่ปากของหลิงอวี๋โดยมิรู้ตัว นางจูบตนเองแล้ว!เหอะ ๆ ...รางวัลเช่นนี้ยิ่งได้เยอะก็ยิ่งดี...สองวันมานี้หลิงซวนอยู่ในตำหนักของไทเฮาตลอด และมีขันทีเซี่ยคอยดูแลอยู่จึงไม่มีใครกล้าไปทำให้นางต้องเดือดร้อนเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมา หลิงซวนก็ดีใจมาก พุ่งเข้าไปกอดหลิงอวี๋ทันที“อาจารย์ ข้าคิดถึงท่านมาก! คิดถึงท่าน… แล้วก็คิดถึงแม่นมกับเยวี่ยเยวี่ยด้วย เมื่อใดข้าจะได้กลับไปหรือ!”“รอให้ไทเฮาฟื้น และการแข่งขันจบลงก่อน แล
หลิงอวี๋มิอยากแหวกหญ้าให้งูตื่นจึงแสร้งทำเป็นมิเห็นสิ่งใด นางเลื่อนสายตาไปที่หน้าของไทเฮา แล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวด“พระชายาอ๋องอี้ พระอาการของไทเฮาเป็นอย่างไรเจ้าคะ? เมื่อใดพระนางจึงจะฟื้นขึ้นมา?”แม่นมเว่ยเห็นสีหน้าของหลิงอวี๋แล้วก็ใจเต้น จึงเอ่ยถามอย่างรีบร้อนหลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นแล้วส่ายหน้าพลางเอ่ย “การหายใจและการเต้นของหัวใจไทเฮาเป็นปกติมาก ๆ แต่ข้าเองก็มิรู้ว่าเหตุใดพระนางจึงยังมิฟื้นขึ้นมา! หรือเพราะไทเฮามีพระชนมายุมากแล้ว เมื่อถูกยาพิษเข้าไปจึงได้รับบาดเจ็บไปถึงหัวใจและปอดด้วย!”“หา… พระชายาอ๋องอี้จะหมายความว่า… ไทเฮาอาจจะบรรทมไปเช่นนี้… แล้วจากไปเลยหรือเจ้าคะ?”แม่นมเว่ยน้ำตาร่วงลงมา ร่างกายก็สั่นเทาแล้วล้มหงายหลังลงไป...“แม่นมเว่ย!”หลิงอวี๋กับหลิงซวนรีบเข้าไปประคองแม่นมเว่ยพร้อม ๆ กัน แต่แม่นมเว่ยกลับล้มลงไปที่ตัวของไป่ซุ่ยไป่ซุ่ยจึงกอดแม่นมเว่ยเอาไว้โดยมิรู้ตัว“แม่นมเว่ย เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง?”หลิงอวี๋รู้สึกว่าแม่นมเว่ยคว้าแขนเสื้อของตนเองเอาไว้เล็กน้อย พอเงยหน้ามองก็เห็นว่าแม่นมเว่ยหลับตาสนิท นางจึงใจเต้นพลางเอ่ย“หลิงซวน ไป่ซุ่ย พวกเจ้าสองคนประคองแม่นมไปข้างนอกก
แต่นี่คือโอกาสที่ตนจะสามารถจับพฤติกรรมในปัจจุบันของไป่ซุ่ยได้ หลิงอวี๋มิอยากปล่อยมันไปในหัวของนางรีบคิดทันทีว่าจะทำเยี่ยงไรจึงจะสามารถทำให้ไป่ซุ่ยเผยคนที่สั่งการให้นางวางยาพิษไทเฮาออกมาได้ พร้อมทั้งสามารถรับรองความปลอดภัยของไทเฮาได้ด้วย?มินานหลิงอวี๋ก็คิดออก นางยิ้มปลอบโยนไป่ซุ่ยพลางเอ่ย “มิต้องร้อนใจไป ยังมิถึงขั้นนั้นหรอก! เมื่อครู่ข้าก็บอกกับแม่นมเว่ยแล้วมิใช่หรือว่าวันพรุ่งข้าจะมาตรวจไทเฮาอีกที?”“สองวันมานี้ข้ากำลังเตรียมยาแก้พิษให้ไทเฮาอยู่ ยังขาดตัวยาอีกหนึ่งตัว ร้านขายเครื่องยาสมุนไพรบอกว่า วันพรุ่งรับรองว่าจะเอามาส่งให้ข้าแน่นอน ทันทีที่ยามาถึงแล้วข้าเตรียมเสร็จก็จะสามารถทำให้ไทเฮาฟื้นขึ้นมาได้!”ไป่ซุ่ยตาเป็นประกาย แล้วจ้องมองหลิงอวี๋พลางเอ่ย “ขอบคุณฟ้าดิน พระชายาอ๋องอี้ บ่าวก็คิดอยู่แล้วเชียวว่าท่านจะต้องมีวิธีอย่างแน่นอน ท่านเป็นหมอชั้นเซียน! ครั้งที่แล้วไทเฮาทรงสลบไปก็เป็นท่านที่ช่วยพระชนม์ชีพพระนางไว้ได้!”“บ่าวจะกลับไปบอกข่าวดีนี้กับแม่นมเว่ยเจ้าค่ะ!”“ช้าก่อน...”หลิงอวี๋ดึงนางเอาไว้“พระชายาอ๋องอี้มีเรื่องอันใดอีกหรือเจ้าคะ?”ใจของไป่ซุ่ยเต้นแรง หรือว่าหลิงอ
หลังจากที่เซียวหลินเทียนกับราชองครักษ์ผางจัดเตรียมเรื่องไทเฮาในวังเรียบร้อยแล้วก็กลับไปที่ค่ายทหารชั่วคราวที่คฤหาสน์ตระกูลกวนหลิงอวี๋ก็กลับมาแล้วเช่นกัน กำลังประกอบลูกรอกบันไดใหม่อีกครั้งกับพวกช่างฝีมือ การประกอบอยู่ในช่วงท้ายแล้วนี่เป็นการประกอบใหม่เพื่อตรวจสอบดูจุดที่ปัญหาเซียวหลินเทียนเดินเข้ามาดูก็ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม “พบความผิดปกติหรือไม่?”หลิงอวี๋ลูบใบหน้าอย่างแรงแล้วยิ้มขมขื่นพลางตอบ “ไม่เพคะ!”“เซียวหลินเทียน บางทีอาจจะเป็นความผิดพลาดที่การออกแบบของหม่อมฉันจริง ๆ ก็ได้ที่มิได้พิจารณาถึงสภาพการณ์ที่แท้จริง ทำให้วางแผนผิดพลาดไป… นี่เป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมดเลยเพคะ ท่านลงโทษหม่อมฉันเถิด!”“ครั้งที่แล้วที่ท่านกับอันเจ๋อทำผิดพลาดไปก็จดบันทึกเอาไว้ว่าโบยแบบทหารสิบไม้! วันพรุ่งหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง หม่อมฉันก็จะรับการโบยสิบไม้เช่นกันเพคะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดออกมาเช่นนี้ อันเจ๋อกับเผยอวี้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็โวยขึ้นมา “มิได้ เรื่องนี้จะไปโทษท่านได้เยี่ยงไร! ท่านก็มิได้คิดว่าจะเป็นเช่นนั้นนี่!”เผยอวี้ก็เอ่ยอย่างรีบร้อน “ท่านคิดค้นล้อเกวียนออกมาเพื่อพวกเราก็เป็นความสำเร็จ
“ช่างฝีมือที่มีอยู่สิบกว่าคนนี้ ตอนการต่อสู้ทางน้ำพรุ่งนี้ยังต้องการให้พวกเขาเป็นกำลังให้พวกเราอยู่ พวกเราจะจับตัวพวกเขาสิบกว่าคนไปทรมานเพื่อบีบเอาคำสารภาพมิได้!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “ช่างฝีมือสิบกว่าคนนี้ส่วนใหญ่แล้วล้วนดีทั้งนั้น มิจำเป็นต้องจับตัวพวกเขาทั้งหมดเพื่อจะหาหนอนบ่อนไส้คนเดียวหรอก ทำเช่นนี้จะเป็นการทำลายความเชื่อใจของพวกเขาเสียเปล่า ๆ”“ข้าจะบอกชื่อพวกเจ้าไปหนึ่งชื่อแล้วคอยสังเกตเขาไว้ให้มาก ๆ ก็พอแล้ว!”“ผู้ใดหรือ?” อันเจ๋อกับเผยอวี้เอ่ยถามอย่างร้อนใจ“จู้เต๋อ! ตอนที่ข้ากำลังตรวจสอบรอกที่มีปัญหา เขาเอาแต่จ้องข้าเขม็งอยู่ตลอดราวกับว่ากลัวข้าจะพบสิ่งผิดปกติ!” “ตอนนั้นข้าแสร้งเดินออกไปเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเขาก็ถอนหายใจโล่งอก”ความสามารถในการรับรู้ของหลิงอวี๋แข็งแกร่งมาก การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของจู้เต๋อในเวลานั้นก็ถูกนางพบเข้าแล้วหลังจากนั้นนางจึงถือโอกาสในตอนที่จู้เต๋อมิทันได้สังเกตเดินไปตรวจสอบเพลาในส่วนนั้น ผลก็เป็นอย่างที่ตนคิดไว้จริง ๆอันเจ๋อกับเผยอวี้ต่างก็ตกตะลึง แม้แต่เซียวหลินเทียนก็ขมวดคิ้วอย่างงุนงงเช่นกันจะเป็นจู้เต๋อไปได้เยี่
เซียวหลินเทียนเอ่ยทันที “เผยอวี้ ไปตรวจสอบคนที่เข้าร่วมการแข่งขันวันพรุ่งอีกที แม้แต่รายละเอียดของช่างฝีมือและคนในครอบครัวของพวกเราก็ด้วย...”“หากข้าถูกพวกเขาวางแผนร้ายใส่อีก มิต้องให้เสด็จพ่อลงโทษข้า ข้าก็ไม่มีหน้าจะไปเจอใครแล้ว!”“พ่ะย่ะค่ะ...”เผยอวี้กับอันเจ๋อก็รู้สึกละอายเหมือนกับเซียวหลินเทียนเช่นกัน ยังดีที่นี่เป็นการแข่งขัน แพ้แล้วยังสามารถกลับมาแก้ตัวได้หากอยู่ในสนามรบ พวกเขาก็คงจะถูกกวาดล้างไปทั้งกองทัพแล้ว...ทั้งสามคนยุ่งกันอยู่ทั้งคืน จนฟ้าเกือบจะสว่างแล้วเซียวหลินเทียนถึงได้ให้เผยอวี้กับอันเจ๋อไปพักผ่อนเซียวหลินเทียนยังคงรอฟังข่าวอยู่ เขาดูภาพวาดเรือรบพลางครุ่นคิดว่ายังมีสิ่งใดที่ตนละเลยไปอีกหรือไม่กระทั่งฟ้าสว่างแล้ว ผู้ที่มาชมการแข่งขันก็หลั่งไหลกันเข้ามามิหยุดวันนี้เป็นเวลาสุดท้ายในการสู้แล้ว ผู้ที่เข้ามาชมจึงมากกว่าวันก่อน ๆ เป็นเท่าตัวหลิงอวี๋ยังคงอยู่ที่ค่าย แล้วเถาจื่อก็มารายงาน “พระชายาเจ้าคะ ท่านอดีตเสนาบดีกับคุณหนูหลิงหว่านก็มาแล้วเจ้าค่ะ ส่วนพระชายาคังกับพระชายาเว่ยก็มาแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ!”ท่านอดีตเสนาบดีกับหลิงหว่านมาชมนั้นเป็นเจตนาที่ดี พวกเราร
ในฐานะที่เคยเป็นคนรักกัน จ้าวเจินเจินรู้สึกว่าตนเข้าใจเซียวหลินเทียนมากกว่าสตรีใดรู้เขารู้เรา หากมิใช้สิ่งที่รู้เหล่านี้ไปจัดการกับเซียวหลินเทียน แล้วจะสามารถชะล้างความอับอายที่หลิงอวี๋นำมาให้ตนได้เยี่ยงไร!ความเป็นหญิงงามมีความสามารถของนางถูกหลิงอวี๋แย่งความโดดเด่นไปแล้ว เมื่อตอนที่แจกโจ๊กก็ชื่อเสียงเสียหายอีก!คนอื่นสามารถลืมมันไป แต่จ้าวเจินเจินจดจำไว้อย่างฝังลึกแล้ว!‘หลิงอวี๋ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เจ้าได้อยู่บนใต้หล้านี้’‘เจ้าจงเพลิดเพลินกับเวลามิกี่ชั่วยามที่เหลืออยู่นี้เถอะ!’‘รอถึงตอนก่อนที่เจ้าจะตาย ข้าจะทำให้เจ้าได้เข้าใจอย่างแน่นอน!’‘ให้เจ้าได้รู้ว่า ข้าจ้าวเจินเจินคือคนที่เจ้ามิสามารถมีเรื่องด้วยได้!’“น้องสะใภ้สี่ อย่าได้โต้เถียงกับพี่สะใภ้ใหญ่เลย นางเองก็ร้อนใจเช่นกัน ฮองเฮาถูกกักบริเวณอยู่ ไม่มีใครคอยหนุนหลังนาง จึงมาพูดเหน็บแนมดูถูกเจ้าเช่นนี้!”จ้าวเจินเจินแสร้งทำเป็นดึงหลิงอวี๋มาอยู่ข้าง ๆ อย่างใจดีพลางกระซิบ “ได้ยินว่าเจ้ากับท่านอ๋องอี้รับคำมั่นสัญญาทางทหารหรือ ข้าเป็นห่วงพวกเจ้ายิ่งนัก!”“โธ่ เหตุใดไทเฮายังมิฟื้น หากพระนางฟื้นแล้วก็จะสามารถตัดสินให้พ
หลงจิ้งกำลังจะกล่าวต่อ หลงเพ่ยเพ่ยเห็นว่าเก๋อเฟิ่งฉิงก็อยู่ที่นี่ด้วย จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“คุณหนูใหญ่เก๋อ เจ้ากลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนสักครู่เถิด พวกเรามีเรื่องต้องปรึกษาหารือกับท่านเซียวตามลำพัง!”เก๋อเฟิ่งฉิงหน้าแดง รู้ว่าหลงเพ่ยเพ่ยกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนและมหาปราชญ์ จึงกล่าวขึ้นทันที “เช่นนั้นข้าขอกลับไปพักผ่อนก่อน พี่ใหญ่ หากมีเรื่องอันใดต้องการให้ข้าช่วยก็เรียกข้าได้นะเจ้าคะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงเดินออกไป แต่ซูจู๋กลับกล่าวอย่างมิพอใจว่า“ท่านหญิง พวกท่านระแวงคุณหนูของข้ามากเกินไปแล้ว การกระทำของคุณหนูของข้าเมื่อคืนก็เพียงพอที่จะพิสูจน์จุดยืนของนางแล้ว หากนางคิดจะหักหลังพวกท่าน เหตุใดยังต้องรอจนถึงยามนี้เล่า!”“ท่านเซียว พวกเขามิเข้าใจคุณหนูของข้าก็ช่าง แต่ท่านยังมิเข้าใจคุณหนูของข้าอีกหรือเจ้าคะ?”“ทำกับคุณหนูของข้าเช่นนี้ ช่างเกินไปแล้วจริง ๆ!”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างขมขื่น และโค้งคำนับเล็กน้อย “น้องเก๋อ ทำให้เจ้าต้องลำบากใจเสียแล้ว เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะไปขอโทษเจ้า!”เก๋อเฟิ่งฉิงคลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างใจกว้าง “พี่ใหญ่เกรงใจเกินไปแล้ว ข้าหาได้เสียใจไม่ เ
เซียวหลินเทียนเห็นท่าทางแน่วแน่ของเก๋อเฟิ่งฉิง ในใจกลับรู้สึกผิดขึ้นมาเก๋อเฟิ่งฉิงเสี่ยงตายช่วยตนไว้ ยามนี้ร่างกายยังคงอ่อนแออยู่เมื่อครู่ตนคิดเพียงแค่ให้นางออกไปขอความช่วยเหลือ แต่กลับมิได้คิดว่า การทำเช่นนี้อาจทำให้ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังนางต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยเซียวหลินเทียนลังเล มิได้ยื่นแผ่นป้ายไม้ออกไป กล่าวว่า “ซูจู๋พูดถูก เจ้าออกไปเช่นนี้จะทำให้ตระกูลของเจ้าต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ข้าขอลองคิดหาวิธีอื่นดูก่อน!”เก๋อเฟิ่งฉิงร้อนใจ ยื่นมือออกไปคว้าแผ่นป้ายไม้ในมือของเซียวหลินเทียนมาทันที“พี่ใหญ่ ยามนี้พวกเราตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน หากมิร่วมแรงร่วมใจกันฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ ก็คงไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้ทั้งนั้น!”“ท่านอย่าคิดมากเลย ต่อให้ไม่มีพวกท่าน มิช้าก็เร็วเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมหาปราชญ์อยู่ดี ยามนี้แค่ก้าวล้ำหน้าไปหนึ่งก้าวเท่านั้น มินับว่าถูกพวกท่านทำให้เดือดร้อนหรอก!”“ข้าไปก่อน! พวกท่านรอข่าวดีจากข้าเถิด”เก๋อเฟิ่งฉิงถือแผ่นป้ายไม้ ตั้งท่าจะหันหลังเดินออกไปในใจของหลิงอวี๋รู้สึกหลากหลายปนเป การขอความช่วยเหลือจากภายนอกอาจจะเป็นทางรอดทางหนึ่ง แต่การกระทำขอ
ยาฉีดกระตุ้นหัวใจเพิ่งฉีดเข้าไปได้เพียงมิกี่นาที เซียวหลินเทียนก็ลืมตาขึ้นเมื่อเห็นหลิงอวี๋นั่งอยู่ข้างเตียง ในใจของเซียวหลินเทียนก็พลันยินดี อาอวี๋อยู่เฝ้าเขาทั้งคืนเลยหรือ?“เซียวหลินเทียน คนของเจ้าแห่งทะเลล้อมคฤหาสน์อู๋ไว้หมดทุกด้านแล้ว เผยอวี้ได้ให้คนของหลงเพ่ยเพ่ยไปรายงานเจ้าแห่งทิศใต้แล้ว!”หลิงอวี๋กล่าวอย่างเยือกเย็น “แม้ว่าตอนนี้จะยังมิใช่เวลาฝ่าวงล้อม แต่พวกเราก็มิอาจนิ่งเฉยมิเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด!”“เส้นชีพจรหัวใจของท่านขาดสะบั้น ข้าให้ยาท่านแล้ว ท่านหมุนเวียนลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บก่อน เตรียมความพร้อมที่จะหลบหนีไปพร้อมพวกเรา!”เก๋อเฟิ่งฉิงกล่าวอย่างร้อนรน “คุณหนูสิง พี่ใหญ่ของข้ายังเคลื่อนไหวหนัก ๆ มิได้ การออกไปจากที่นี่อาจจะคร่าชีวิตเขา! ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ?”หลิงอวี๋ลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงเย็นชา “ข้าเป็นหมอ จะมิรู้สถานการณ์ของเขาได้อย่างไร?”“ข้าก็มิต้องการให้คนไข้ตายเช่นกัน แต่มหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลจะยอมให้เขานอนพักรักษาตัวอยู่เงียบ ๆ หรือไร?”“คุณหนูใหญ่เก๋อ ข้าไม่มีเส้นสายในเมืองหลวงแดนเทพเช่นเจ้า หากเจ้าแห่งทิศใต้ช่วยมิได้ บางทีเจ้าอาจจะคิ
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้หานอวี้ตกใจจนมิกล้าพูดอะไรอีก รับยามาอย่างว่าง่ายแล้วมองหลิงอวี๋เดินจากไปอย่างมิแยแสแย่แล้ว คุณหนูโกรธ ๆ จริงแล้ว!คราวนี้องค์จักรพรรดิยิ่งอธิบายความสัมพันธ์กับเก๋อเฟิ่งฉิงได้ยากขึ้นไปอีก!หานอวี้เริ่มเป็นห่วงเซียวหลินเทียนอย่างสุดซึ้งแต่หลิงอวี๋ยังมิทันเดินพ้นลานเรือนของเซียวหลินเทียน ก็เห็นเผยอวี้และจ้าวซวนรีบร้อนวิ่งเข้ามา“พี่หญิงหลิงหลิง เกิดเรื่องแล้ว กองทหารกลุ่มหนึ่งล้อมคฤหาสน์อู๋ไว้หมดทุกด้านแล้ว เป็นคนของจวนเจ้าแห่งทะเล!”“ว่ากระไรนะ?”หลิงอวี๋สีหน้าเปลี่ยนไป รีบถามทันที “แจ้งคนของหลงเพ่ยเพ่ยแล้วหรือยัง?”“ข้าบอกพวกเขาแล้ว มู่ตงบอกว่าเขาได้ส่งคนไปรายงานท่านหญิง และบอกให้พวกเราอย่าตื่นตระหนก!”“มู่ตงและองครักษ์ของจวนเจ้าแห่งทิศใต้หลายคนไปเจรจากับแม่ทัพที่นำกองกำลังมาแล้ว!”เผยอวี้รายงานหลิงอวี๋รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที สภาพของเซียวหลินเทียนยามนี้มิสามารถเคลื่อนย้ายได้เลย นับประสาอะไรกับการหนีเอาชีวิตรอด นั่นจะทำให้เขาตายได้ทันที!ส่วนเผยอวี้และหวงฝู่หลินต่างก็บาดเจ็บสาหัส หากต้องบุกฝ่าออกไป ย่อมมิสามารถหนีพ้นจากเมืองหลวงแดนเทพไปได้แน่นอนยามน
หานอวี้ก็จนปัญญาไปชั่วขณะ นางคงมิสามารถใช้กำลังยื้อแย่งตรง ๆ ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ตอนอยู่ภูเขาหิมะ เก๋อเฟิ่งฉิงก็มิเคยมีท่าทีเป็นศัตรูกับพวกเขา ทั้งยังช่วยชีวิตเซียวหลินเทียนไว้ที่ภูเขาหิมะ เมื่อกลับมาก็มิได้ทรยศหักหลังพวกเขาแต่อย่างใดครั้งนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เพื่อช่วยเซียวหลินเทียน นางเกือบจะต้องทิ้งชีวิตตัวเอง!หากตนใช้กำลังยื้อแย่ง นั่นมิเท่ากับเป็นการเนรคุณหรอกหรือ?หากฝ่าบาทฟื้นขึ้นมาก็จะตำหนิตนเอาได้!ขณะที่หานอวี้กำลังทำอะไรมิถูก ก็ได้ยินเสียงเถาจื่อดังมาจากข้างนอก “คุณหนู ทางฝั่งท่านเจ้าวังหวงฝู่กินมื้อเช้าแล้ว หากท่านเป็นห่วงเจ้าวังน้อยก็ไปดูนางก่อนเถิดเจ้าค่ะ!”“มาถึงนี่แล้ว แวะดูอาการเซียวหลินเทียนก่อนแล้วค่อยไปก็ได้!”หลิงอวี๋รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อคืนเถาจื่อและคนอื่น ๆ ยังพยายามทุกวิถีทางให้ตนมาเฝ้าเซียวหลินเทียน แต่เหตุใดเช้าวันนี้กลับบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ดูเหมือนมิอยากให้ตนไปเยี่ยมเซียวหลินเทียนนางพูดพลางก้าวเข้าไปในห้อง เห็นเก๋อเฟิ่งฉิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงของเซียวหลินเทียนกำลังเช็ดมือให้เขาอย่างอ่อนโยนหลิงอวี๋ชะงักไปเล็กน้อย นางเข้าใจทุกอย่างแล้วที่เถาจ
ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้หลิงอวี๋ก็มิสะดวกจะรบกวนคนของคฤหาสน์อู๋ จึงรับปากว่ารอฟ้าสางแล้วจะทำไก่กังเปาให้หวงฝู่หมิงจูเห็นนางหิวมาก หลิงอวี๋จึงออกมาหาหานเหมย ให้นางพาตนไปที่ครัวเพื่อหาอะไรอย่างอื่นให้หวงฝู่หมิงจูกินก่อนหานเหมยรีบพาหลิงอวี๋ไปที่ครัว ในครัวยังคงวุ่นวาย กำลังทำอาหารให้พวกเผยอวี้หลิงอวี๋เห็นว่ามีกับข้าวทำไว้มากมายก็มิเกรงใจ เลือกกับข้าวที่หวงฝู่หมิงจูชอบตักไปให้หลายอย่าง ทั้งยังตักไปให้หวงฝู่หลินด้วยส่วนหนึ่งหานเหมยและเถาจื่อเห็นเข้ายิ่งใจคอมิดี ฮองเฮาคงมิได้ชอบหวงฝู่หลินเข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่?นางดูแลเอาใจใส่หวงฝู่หลินถึงเพียงนี้ แต่กับเซียวหลินเทียนกลับมิไถ่ถามแม้แต่น้อยหานเหมยช่วยหลิงอวี๋ยกสำรับอาหารไประหว่างทาง หานเหมยก็อดมิได้ที่จะกล่าว "คุณหนู ท่านไปดูฝ่าบาทหน่อยเถอะเจ้าค่ะ พระองค์ยังมิฟื้นเลยตั้งแต่กลับมา!"หลิงอวี๋กล่าวอย่างเย็นชา "สิ่งที่ข้าควรทำก็ทำไปแล้ว เส้นชีพจรหัวใจเขาขาดสะบั้น ต่อให้ข้าไปเฝ้าเขา เขาก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาทันทีได้!""กินยาตามเวลาก็พอแล้ว ค่อย ๆ พักฟื้นไป ประเดี๋ยวก็หายดีเอง!"หานเหมยถูกพูดขัดจนพูดมิออก พวกนางกำนัลที่มาทีหลังเหล่านี้ ก่
หวงฝู่หลินทั้งโกรธทั้งแค้นที่เสวี่ยเหมยยุยงให้ตนกับหมิงจูแตกแยกกัน คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยังคงกล่าวอย่างใจเย็น"หมิงจู พ่อเคยบอกเจ้าแล้วว่าชั่วชีวิตนี้จะมิแต่งภรรยาใหม่!""ยามที่เจ้าอยู่ในวังเทพ เจ้าก็เคยสนับสนุนให้พ่อแต่งกับอาอวี๋ พ่อก็เคยพูดกับเจ้าเช่นนี้! หมิงจู ชั่วชีวิตนี้พ่อไม่มีวันโกหกเจ้าเด็ดขาด!""ที่ภูเขาอนันต์ เดิมทีพ่อเจอเจ้าแล้ว แต่เสวี่ยเหมยวางยาพิษจื่อลู่กับเจ้า พิษจะกำเริบทุกวันในยามจื่อและยามอู่สองยาม หากกำเริบสามถึงสี่ครั้ง เจ้าก็จะถึงแก่ความตาย!""เป็นอาอวี๋ที่ใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปรุงโอสถแก้พิษให้เจ้า ทั้งยังช่วยพาเจ้าออกมาจากเงื้อมมือของผู้ที่ลักพาตัวเจ้าไป!""หมิงจู หากเจ้ามิเชื่อคำพูดของพ่อ จะให้ท่านอาปี้อธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียดก็ได้ หรือว่าแม้แต่คำพูดของท่านอาปี้เจ้าก็มิเชื่อแล้ว?""พวกเราคือคนที่สนิทกับเจ้าที่สุด เจ้ากลับยอมเชื่อคนนอกมากกว่าที่จะเชื่อคนที่ใกล้ชิดกับเจ้ามากที่สุดอย่างนั้นหรือ?""อาอวี๋ ไปเรียกปี้ซงมาที!"หลิงอวี๋พยักหน้า เดินออกไปหานอวี้เฝ้าอยู่ข้างนอกตลอด เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จะไปตามปี้ซง นางก็รีบช่วยไปตามให้รอจนปี้ซงมาถึงห
หวงฝู่หมิงจูเห็นหวงฝู่หลินแวบเดียว ดวงตาสีดำขลับงดงามก็พลันมีม่านน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมา นางร้องเรียกออกมาด้วยความเสียใจอย่างที่สุดว่า "ท่านพ่อ!"น้ำตาใส ๆ ไหลรินลงมาจากหางตาของนาง ทำเอาทั้งหวงฝู่หลินและหลิงอวี๋ต่างรู้สึกปวดใจเหมือนกัน"พ่ออยู่นี่!"ดวงตาของหวงฝู่หลินก็ชื้นขึ้นมาเช่นกัน เขากอดหมิงจูเข้ามาในอ้อมอกพลางกล่าวเสียงสะอื้น"เป็นพ่อที่มิดีเอง ถึงทำให้หมิงจูต้องทนทุกข์ทรมานมากมายถึงเพียงนี้ เป็นพ่อที่ผิดต่อเจ้า!"นับตั้งแต่หวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยพาตัวไป หวงฝู่หลินก็หวาดหวั่นใจอยู่ตลอด เกรงว่าตนจะมิได้พบหน้าธิดาสุดที่รักอีกแล้วเมื่อเห็นหวงฝู่หมิงจูถูกพิษจื่อลู่ทรมาน หวงฝู่หลินก็อยากจะรับความเจ็บปวดนั้นแทนเสียจริง ๆ ตอนนั้นเขาถึงกับสาบานว่า หากหมิงจูรอดพ้นภัยครั้งนี้ไปได้ ต่อไปเขาจะต้องอยู่เคียงข้างลูกสาวให้ดี เฝ้ามองนางเติบโตอย่างปลอดภัยและสงบสุขสองพ่อลูกต่างก็ร้องไห้ออกมาหวงฝู่หมิงจูกอดหวงฝู่หลินแน่นพลางร้องไห้และกล่าวว่า "ท่านพ่อ หมิงจูคิดว่าจะมิได้เจอท่านพ่ออีกแล้ว หมิงจูกลัว... กลัวเหลือเกิน!""อย่ากลัวเลย ต่อไปพ่อจะมิจากเจ้าไปไหนอีกแล้ว!"หวงฝู่หลินลูบหลังหมิงจู
คนข้างนอกกำลังจัดแจงเรื่องการเดินทางของแต่ละคน หวงฝู่หลินฟังความเคลื่อนไหวแต่มิสนใจแม้แต่น้อย เขามองหลิงอวี๋ด้วยความคาดหวังและใจที่ร้อนรนระหว่างรอหลิงอวี๋ปรุงโอสถแก้พิษให้หมิงจูขณะที่หวงฝู่หลินกำลังร้อนใจดั่งไฟสุม หลิงอวี๋ก็พลันลืมตาขึ้น"ปรุงโอสถเสร็จแล้ว ป้อนให้หมิงจูเถอะ!"หลิงอวี๋ยื่นโอสถลูกกลอนสองเม็ด และตำรับยาแผ่นหนึ่งให้"พี่ใหญ่หวงฝู่ โอสถลูกกลอนนี้ใช้แก้พิษจื่อลู่ ส่วนตำรับยานี้ใช้รักษาอาการเลือดไหลมิหยุดของพวกท่าน รอให้มีเวลา ข้าจะเขียนตำรับอาหารบำบัดให้ท่าน พวกท่านใส่ใจเรื่องการกินการอยู่ให้ดี คราวหน้าหากเลือดออกก็จะระงับได้ง่ายขึ้น!"หลิงอวี๋เป็นฝ่ายยื่นตำรับยาให้ หวงฝู่หลินรับมาอย่างตื่นเต้น"ขอบคุณ!"หวงฝู่หลินป้อนยาแก้พิษเข้าปากหมิงจูไปพลาง กล่าวไปพลางว่า "หลิงอวี๋ ข้ารับเจ้าเป็นน้องสาวบุญธรรม ข้ามิปฏิเสธว่าก่อนหน้านี้ข้าเพียงทำเช่นนั้นเพื่อผูกมิตรกับเจ้า!""แต่ยามนี้ข้าขอกล่าวอย่างจริงใจว่า ข้าจะดูแลเจ้าเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ไปชั่วชีวิต! ต่อไปเรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า! วังเทพก็คือบ้านของเจ้า!"หลิงอวี๋ยิ้มบาง ๆ พลางพยักหน้าการยอมรับหวงฝู่หลินเป็นพี่ใหญ่ก็